• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2308069_แย_งผลงานของล_กน_องต_วเอง ส_ดท_ายต_องเจอของจร_ง_715160034007128_part2

admin79 by admin79
August 21, 2025
in Uncategorized
0
N2308069_แย_งผลงานของล_กน_องต_วเอง ส_ดท_ายต_องเจอของจร_ง_715160034007128_part2

ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ช่วงปี 2016 ยังคงทรุดตัวลง จากช่วงปี 2015
แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆ
มากมาย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงของการเมืองโลก ดังนั้น
ตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่คาดกรณ์กันว่า จะทำตัวเลขได้ถึง 740,000 คันนั้น
ยังพอมีความเป็นไปได้ให้ลุ้นกันอยู่

สำหรับ ปี 2017 นั้น จากการคาดการณ์ มีแนวโน้มว่า ยอดขายรถยนต์ในไทย
อาจจะร่วงลงมามากกว่านี้อีก ทั้งด้วยปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่มีทีท่า
ว่าจะฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคการเกษตร และภาคแรงงานกับการขนส่งต่างๆ
อีกทั้งการเิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในปี 2017 จะลดน้อยลง และ ไม่อาจช่วยกระตุ้น
ยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้มากนัก แต่เชื่อว่า ตัวเลขยอดขายที่ผมประเมินไว้ ในปี
2017 น่าจะทำได้อยู่ในระดับ 720,000 คัน เป็นอย่างมาก

facebook_banner_newcars

เป็นประจำทุกต้นปีที่ J!MMY จะเขียนบทความสรุปความเคลื่อนไหวของปีก่อน
และสรุปความเคลื่อนไหว ของบรรดารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในปีนี้ รวมทั้ง
Update ข้อมูลการพัฒนา รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ล้ำไปไกลล่วงหน้าก่อนสื่อรายใดถึง
4 ปี เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ ของเรา Headlightmag.com เป็นประจำในช่วงเดือน
มกราคม เพื่อเป็นของขวัญ สำหรับคุณผู้อ่าน ใช้เป็นข้อมูลในการเตรียมวางแผน
ซื้อรถยนต์ล่วงหน้า หรือสำหรับเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ของผู้คนที่ทำงานใน
แวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ของบ้านเรา

ปีนี้ บทความสรุปรถใหม่ที่จะเปิดตัวในประเทศไทย 4 ปีข้างหน้า กลับมาอีกครั้ง
หลังจากหายไป 1 ปีเต็ม เหตุผลก็คือ ช่วงปีที่แล้ว แทบทุกค่าย มีการปรับเปลี่ยน
แผนงานกันเยอะมาก มีทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ที่ไม่เคยคาดว่าจะถูกส่งเข้ามาจำหน่าย
ในประเทศไทยมาก่อน ทะยอยถูกจับเข้ารวมอยู่ในแผนของแต่ละค่าย หลายรุ่น
ทำให้บทความที่เตรียมไว้ กลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปทันที

ผมตัดสินใจรอให้ แผนพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ สำหรับตลาดบ้านเรา เริ่มนิ่งเสียก่อน
จึงค่อยสรุปออกมาเป็นบทความในปีนี้ ให้ทุกท่านได้อ่านกัน ซึ่งกว่าจะนิ่งได้นั้น
ต้องรอกันจนถึงเดือนธันวาคม เลยทีเดียว!

ในปี 2017 นี้ ความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์เมืองไทยนับจากนี้ จนถึงปี 2019
จะเป็นอย่างไร จะมีรถยนต์รุ่นไหนเข้ามาเปิดตัวในบ้านเรา รอให้ได้เป็นเจ้าของกัน
และมีเทคโนโลยีอะไรที่จะเข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกันบ้าง ทุกอย่าง
ทุกข้อสงสัย มีคำตอบให้คุณได้อ่านกันแล้ว…ข้างล่างนี้…!


***หมายเหตุ***

1. ปีนี้ หลายค่าย จะไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่ทำตลาด แต่เราก็ยังคงบรรจุแบรนด์เหล่านั้น
ไว้ในบทความประจำปีนี้ เพราะในปี 2018 แต่ละค่ายจะกลับมามีความเคลื่อนไหวกัน
อีกครั้ง

2. ปีนี้ เราขอถอด Alfa Romeo, Citroen , Fiat, Lotus, Peugeot, Proton ,Skoda และ
ค่ายอินเดีย Tata Motors ออกจากบทความ เพราะไม่สามารถสืบหาข้อมูลแผนการนำ
รถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในบ้านเราได้เลยจริงๆ ส่วนค่ายรถยนต์ที่เพิ่งเริ่มทำตลาด
อย่างจริงจังในปีแรกๆ อย่าง Foton หรือบรรดาค่ายรถจากจีน ขอยังไม่นำมารวมในครั้งนี้

3. ข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้ ได้รับการตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าถูกต้อง ตรงกับข้อมูล
ที่เราได้รับจากหลายแหล่งข่าว ณ วันที่นำบทความชิ้นนี้ ขึ้นเผยแพร่ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป
อาจมีข้อมูลดิบและ/หรือข้อมูลที่กลั่นกรองแล้วปรากฎขึ้นอีกได้ตลอดเวลา ข้อมูลเหล่านั้น
อาจคลาดเคลื่อนหรือเพิ่มเติมข้อมูลเดิมจากบทความชิ้นนี้ย่อมเป็นไปได้ เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น
เนื่องจากรายงานข่าวประเภทเจาะโครงการลับ หรือ Spyshot นั้น ไม่มีสื่อมวลชนเล่มใด
รายใดในโลก ที่รายงานได้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริง 100% ต่อให้เป็นฝรั่งมังค่าก็ตาม

คุณผู้อ่านควรติดตามข่าว “ด้วยวิจารณญาณ เหตุผลในเชิงตรรกะ หรือเกมการตลาดอย่าง
ปราศจากอคติ” รวมทั้งศึกษาจากข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในสื่ออื่นๆ ประกอบกันด้วยอยู่เสมอ
เพื่อความสดใหม่ของข้อมูล โดยเฉพาะ ช่วงหลังจากบทความนี้ เผยแพร่สู่สาธารณชนแล้ว

4. บทความนี้ ใช้อ้างอิงได้ 1 ปี คือนับจากวันที่ 1 มกราคม 2017 ถึง 31 ธันวาคม 2017
เท่านั้น หลังจากนี้ ให้ติดตามอ่านข้อมูลอัพเดทได้ จากบทความสรุปรถใหม่ 2018 – 2021
ในวันที่ 1 มกราคม 2018

5. ถ้าต้องการนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ที่ไหน ติดต่อมาที่ JIMMY@headlightmag.com
เพื่อ ขออนุญาตกันเสียให้ถูกต้องตามธรรมเนียม ก่อนจะนำไปเผยแพร่ ต่อไป ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์
ในการอนุญาต เพื่อให้นำไปเผยแพร่ เพื่อเป็นประโยน์แก่สาธารณชน และ ไม่ใช่เพื่อนำไปใช้ใน
ทางธุรกิจใดๆทั้งสิ้น

เมื่อได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้ ขอความกรุณา ขึ้นเครดิตของผู้เขียน และทำลิงค์ มายัง เว็บไซต์
Headlightmag.com ให้ถูกต้องเรียบร้อยด้วย การนำบทความไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ขึ้นเครดิต
และไม่มีการบอกกล่าวมายังข้าพเจ้า ถือเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ละเมิด จะถูกดำเนินคดี ตามที่
กฎหมายบัญญัติไว้ สูงสุด โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น!

(โดยเฉพาะพวกหน้าด้าน copy ไปโพสต์ในเว็บบล็อกตัวเองกันโครมๆ อย่านึกว่าไม่รู้นะ!
ปีก่อนๆ ก็โดนกันมาบ้างแล้ว ถ้ายังไม่ฟัง ก็จะต้องเจอไม้แข็งกันเสียบ้าง อย่าชุ่ย! มักง่าย!
แค่ส่งอีเมล์มาขอนำไปลงเว็บกันดีๆ ผมก็อนุญาตแล้ว ไม่เห็นจะยากเย็นวุ่นวายนักหนา หาก
ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ก็ยินดีอนุญาตให้นำไปเผยแพร่เกือบจะทุกรายอยู่แล้ว ใส่
ชื่อผู้เขียน ชื่อเว็บไซต์ และทำลิงค์ให้เว็บไซต์ของเราด้วย แค่นี้ หวังว่าคงไม่ยากไปนะครับ!)



(ภาพจาก www.gtspirit.com)

ASTON MARTIN
2017 : All New V8 Vantage / DB11 Volante
2018 : All New V8 Vantage Volante / Next Vanquish (Call “DBS”)
           : Rapide E “Pure EV” / AM RB-001 (with Red Bull Racing Team )
2019 : DBX Crossover
2020 : Next Rapide / DBS Volante

ปี 2016 Aston Martin เพิ่งเปิดตัว รถสปอร์ต GT DB11 ในงาน Geneva
Auto Salon ต้นเดือนมีนาคม 2016 จากนั้น MGC (กลุ่ม Millennium)
ก็รีบฉวยโอกาส คว้ารถคันต้นแบบ บินมาเปิดตัวที่เมืองไทย อย่างฉับไว
ในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนเดียวกัน!
พร้อมกับนำ DB10 รถสปอร์ตต้นแบบ ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับการถ่ายทำ
ภาพยนตร์ James Bond 007 ตอน SPECTACLE มาอวดโฉมให้ชาว
ไทยได้ยลกันด้วย นั่นเท่ากับว่า DB11 ขุมพลัง V12 สูบ 5.2 ลิตร 608
แรงม้า (PS) ถูกเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปแล้ว และ
DB11 เป็นเพียงแค่ 1 ในบรรดา 5 รุ่น ที่ Aston Martin ต้องเตรียมส่ง
ขึ้นโชว์รูม นับจากปี 2016 – 2021 อย่างที่ Andy Palmer CEO ซึ่งเคย
ย้ายกลับมาจาก Nissan Motor เคยกล่าวไว้ (คนนี้แหละ เคยกำหนด
ให้งานเปิดตัวรถกระบะ NP300 Navara จัดขึ้นที่เมืองไทย!)

2017 จะเป็นปีที่ Aston Martin ต้องเปิดตัว รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน
ของ Vantage รถสปอร์ต GT รุ่นหลักที่ทำรายได้หลักให้กับแบรนด์มา
ตลอดหลายปีมานี้ รถรุ่นใหม่ จะเบาขึ้น สปอร์ตขึ้น และเปลี่ยนขุมพลัง
บล็อกใหม่ มาเป็น เบนซิน V8 DOHC 32 วาล์ว 4.0 ลิตร ภายใต้ความ
ร่วมมือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี กับ Mercedes-Benz แต่จะยังคงมีรุ่น
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้เลือกด้วย กำหนดเปิดตัวอย่างเร็วสุดน่าจะ
ได้เห็นกัน ใน Geneva Auto Salon เดือนมีนาคม หรือช้าสุด ไม่เกิน
Frankfurt Motor Show ปลายเดือนกันยายน 2017

2018 จะเป็นปีที่ Aston Martin น่าจะยุ่งมากๆ เพราะมีรถยนต์หลายรุ่น
ซึ่งต้องจ่อคิวกันเปิดผ้าคลุมสู่สายตาชาวโลก

เริ่มกันด้วย V8 Vantage Volante (เวอร์ชันเปิดประทุน) ที่แชร์ชิ้นส่วน
และงานวิศวกรรมร่วมกับ V8 Vantage Coupe ซึ่งจะคลอดออกมาหลัง
รุ่น Coupe เปิดตัวล่วงหน้าไปก่อนแล้ว 1 ปี ตามธรรมเนียมเดิมของค่าย

จากนั้นตามด้วย การเปลี่ยนเปิดตัวรถสปอร์ตแนวดุ รุ่นใหม่ที่จะมาแทน
รุ่น Vanquish ด้วยชื่อรุ่นใหม่ว่า DBS (ที่เคยใช้มาแล้วในช่วงทศวรรษ
ที่ 1960 – 1973) คาดว่าจะมาพร้อมกับขุมพลังแรงกระชากใจถึง 700
แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดมากถึง 850 นิวตัน-เมตร (86.61 กก.-ม.)
พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive รวมทั้งยังมีเวอร์ชัน
ขุมพลังไฟฟ้าเพียวๆ ของ Rapide ออกมาให้อุดหนุนกันอีกด้วย

Aston_Martin_AB_RM001_2018

ในปี 2018 นั้น ยังมีอีกโครงการที่น่าสนใจในระดับเรียกน้ำลายจากเหล่า
เด็กเนิร์ดบ้ารถทั้งหลาย ให้แตกฟองจนฟูมปากไปเลย นั่นคือ HyperCar
คันแรก Aston Martin AM-RB 001 ที่ออกแบบโดย Adrian Newey
นักออกแบบรถแข่ง Formular 1 หัวหน้าวิศวกรฝ่ายเทคนิค ของทีมแข่ง
Red Bull Racing Team รายละเอียดที่มีการเปิดเผยออกมา น้อยมาก
มีเพียงแค่ว่า AM-RB 001 จะวางเครื่องยนต์ V12 สูบ ที่ให้กำลังสูงถึง
900 แรงม้า (BHP) Andy Palmer ยืนยันว่า “มันจะต้องเป็นรถสปอร์ต
ที่หรูหราสุด และต้องแรงสุด เร็วที่สุด” คาดว่าจะผลิตออกมา 2 เวอร์ชัน
ทั้งแบบปกติสำหรับลูกค้าระดับอภิมหาอมตะโคตรเศรษฐี ใช้ขับขี่เล่น
บนถนนตามกฎหมายปกติ และเวอร์ชันพิเศษ 25 คัน สำหรับลงแข่ง
ในสนาม จากจำนวนยอดผลิตทั้งหมดแค่ 99 คัน เท่านั้น

Aston Martin มีกำหนด ส่งมอบรถรุ่นนี้ ได้ในช่วงปี 2018 ไม่ต้องถาม
ถึงค่าตัว เพราะเมื่อถึงตอนนั้น คิวสั่งจองจากลูกค้า Ultra VIP ทั่วโลก
คงเต็มไปหมดแล้ว

Aston_Martin_DBX_2020

ล่วงเข้าสู่ปี 2019 จะถึงเวลาของ Aston Martin DBX Coupe Crossover
พลังไฟฟ้า คันแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ตัวรถคันจริงจะถูกพัฒนา
ต่อเนื่องมาจากรถต้นแบบ Aston Martin DBX Concept ที่เผยโฉมในงาน
Geneva Motor Show เมื่อ 3 มีนาคม 2015

Andy Palmer CEO ของ Aston Martin กล่าวตอนเปิดตัวว่า “รถคันนี้ยัง
ไม่ใช่เวอร์ชันที่พร้อมจะขึ้นสายการผลิตจริง แต่มันแสดงให้เห็นถึงรถ GT
ที่ลูกค้ากำลังจะเรียกร้องจากเราในอนาคต”

ข้อมูลเบื้องต้นก็คือ DBX จะติดตั้ง ขุมพลังเบนซิน V8 เพื่อขับเคลื่อน
มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 4 ล้อ แต่ถ้าปฏิกิริยาจากลูกค้า เรียกร้องเพิ่มเติมละก็
Andy Palmer ก็พร้อมที่จะสั่งให้ลูกน้อง วางเครื่องยนต์ V12 แบบแรงๆ
เพื่อเอาใจลูกค้าที่ไม่แคร์เรื่องค่า CO2 ทันที

พอย่างเข้าปี 2020 Rapide ก็ได้เวลาเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน พร้อมกันนั้น
DBS ก็จะมีตัวถังเปิดประทุนในชื่อ DBS Volante คลานตามออกมา

ทั้งหมดนี้ เชื่อแน่ว่า MGC ในกลุ่ม Millennium เขาคงเตรียมพร้อมจะ
สั่งเข้ามาเอาใจเศรษฐีเมืองไทยกันเรียงลำดับตามปีที่เปิดตัว เพียงแต่
อาจต้องรอคิวจากลูกค้าฝั่งยุโรปกันสักหน่อย

——————————————————-

Audi_Q2_2017

Audi
2017 : New Distributor / New Q2

เมื่อ 10 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา เกิดเรื่องเรื่องเซอร์ไพรส์ในวงการธุรกิจ
ยานยนต์ เมื่อ Audi AG. จากเยอรมนี ตัดสินใจเซ็นสัญญา แต่งตั้ง บริษัท
ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ของ “กฤษฎา ล่ำซำ” (โดยมี “นวลพรรณ ล่ำซำ”
เป็นหุ้นส่วน) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ ค่ายสี่ห่วง จากเยอรมนี
รายใหม่ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หลังจากคู่สัญญาเดิมอย่างบริษัท
เยอรมันมอเตอร์เวอร์คส์ ในเครือ ยนตรกิจ ของตระกูล ลีนุตพงษ์ กำลังจะ
หมดสัญญา และ หลุดมือไปในที่สุด

ถือเป็นเรื่องที่ไม่เกินไปจากความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าว
ว่าทาง Audi เอง ก็เล็งที่จะมองหาผู้จำหน่ายรายใหม่ในบ้านเรามานานแล้ว
เพราะชาวเยอรมัน ตัดสินใจไม่เข้ามาทำตลาดเอง โดยจะให้สิทธิ์กับกลุ่ม
นักธุรกิจในไทย รายใหม่ เข้ามาดูแลแบรนด์ Audi ในเมืองไทยแทน

อย่างไรก็ตาม เยอรมันมอเตอร์เวอร์คส์ ก็ออกมาป้องกันตัว โดยระบุว่า ยัง
เป็นผู้จำหน่าย Audi ในเมืองไทยอยู่ และทางบริษัทแม่ในเยอรมนี มีสิทธิ์
แต่งตั้งผู้จำหน่ายรายอื่นเพิ่มเติมได้ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ก็ยังสามารถเข้า
ไปใช้บริการได้ที่โชว์รูมถนนเทียนร่วมมิตร ย่านพระราม 9 ได้ตามปกติ ซึ่ง
ก็ยังคงเป็นไปตามนั้น เนื่องจากสิทธิ์ในการจำหน่าย Audi ของผู้จำหน่าย
รายเดิม จะยังเหลืออยู่อีกราวๆ 1 ปีนับจากนี้

ตอนนี้ ไมซ์สเตอร์ เทคนิค ได้ดึงตัว มือดีจาก Mercedes-Benz ซึ่งเป็น
หนึ่งในเครือญาติของตระกูล ล่ำซำ ไปเริ่มต้นบริหารงานแล้ว

สำหรับรถยนต์รุ่นแรกที่น่าจะเอาเข้ามาเปิดศักราชใหม่ให้กับแบรนด์
สี่ห่วง ในบ้านเรา น่าจะเป็น Audi Q2 B-Segment Crossover SUV
ที่เปิดัวในตลาดโลก มาตั้งแต่ 1 มีนาคม 2016 ณ งาน Geneva Auto
Salon

ในภาพรวมแล้ว Q2 ก็คล้ายกับการนำ A3 Sportback มายกสูงขึ้นนิดๆ
นั่นเองโดย Q2 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และลูกค้าที่
มักใช้รถยนต์ในเมืองเป็นหลัก อีกทั้งยังคาดหวังให้โดนใจจะได้กลุ่ม
ลูกค้าหน้าใหม่ที่ไม่เคยซื้อรถยนต์แบรนด์ Audi มาก่อน

ถึงแม้สัดส่วนตัวถังภายนอกแทบจะดูคล้ายกับ Audi A3 แต่ทีมวิศวกร
กลับพัฒนา Q2 ให้มีเนื้อที่ศีรษะห้องโดยสารตอนหลังโปร่งกว่า A3 อีก
นิดนึง แถมมีเนื้อที่ห้องสัมภาระท้าย 405 ลิตร เมื่อพับเบาะก็จะจุได้
1,050 ลิตร

ขุมพลังในตลาดโลก มีให้เลือกทั้งแบบ เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร TFSI
114 แรงม้า (BHP), 1.4 ลิตร TFSI พร้อมเทคโนโลยีพักกระบอกสูบ
เมื่อไม่จำเป็น, 2.0 ลิตร TFSI 187 แรงม้า (BHP) , กับ Diesel ขนาด
1.6 ลิตร Turbo TDi 114 แรงม้า (BHP) และ Diesel  2.0 ลิตร TDI
ที่มีให้เลือกทั้งรุ่น 148 แรงม้า (BHP) และ 187 แรงม้า (BHP)

อย่างไรก็ตาม การทำตลาด ของ Audi ในบ้านเรา คงต้องทำใจว่าอาจ
เห็นขุมพลัง TDi Diesel Turbo ยากหน่อย เพราะ Audi AG ยังกังวล
กับมาตรฐานของน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยอยู่ไม่น้อย

กำหนดการเปิดตัว คาดว่า น่าจะมาพร้อมการ Re-Launch แบรนด์ Audi
ในเมืองไทยอีกครั้ง ช่วงเดือนมีนาคม 2017 ก่อนหน้างานแสดงรถยนต์
ประจำปี Bangkok International Motor Show เล็กน้อย ส่วนรุ่นอื่นๆ
ทั้ง Q3 , Q7 , TT , A5 และ A6 จะทะยอยตามมาในภายหลัง

——————————————————-

Bentley_Bentayga_2017

BENTLEY
2017 : Bentayga (Diesel?)
2018 : All New Continental GT
2019 : All New Continental GTC

Highlights เด่นๆ ของ Bentley ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ความเคลื่อนไหว
ในการพัฒนา Bentley Bentayga SUV คันแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์
จนต้องชะลอการเปิดตัวไปอีก 1-2 ปี หลังจากเจอเสียงวิจารณ์ในเชิงลบจาก
อย่างหนักจากสื่อมวลชน และลูกค้าทั่วโลก อย่างหนัก เพื่อกลับไปออกแบบ
ตัวถังภายนอกมาใหม่ เปิดตัวมาตั้งแต่ 9 กันยายน 2015 แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว
ว่าจะพร้อมเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเสียที

Bentayga มีขนาดตัวถังใหญ่โตมหึมา ยาว 5,140 มิลลิเมตร กว้าง 1,944
มิลลิเมตร สูง 1,722 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,995 มิลลิเมตร วางขุมพลัง
W12 สูบ DOHC 5.950 ซีซี. Twin-Turbo 608 แรงม้า (PS) ที่ 5,250 –
6,000 รอบ/นาที แรงบิด มหาศาลถึง 900 นิวตัน-เมตร (91.71กก.-ม.)
ที่ 1,250 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่งกำลังสู่
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4 วินาที
และมีความเร็วสูงสุด 301 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Top Speed สูงสุดในโลก
สำหรับกลุ่ม SUV)

ล่าสุด 1 ปี ให้หลังจากการเปิดตัว Bentley ก็เพิ่มทางเลือกใหม่ให้เฉพาะ
ลูกค้าใน Australia, NewZewland, Russia,South Africa,Taiwan และ
United Kingdom เท่านั้น ด้วยขุมพลังใหม่ ยกมาจาก Audi SQ7 TDI
เป็นเครื่องยนต์ Diesel V8 DOHC 4.0 ลิตร Twin-Turbo พร้อม Electric
Supercharger 441 แรงม้า (PS) ที่ 3,750-5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
91.77 กก-ม. (900 นิวตันเมตร) ที่ 1,000-3,250 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ จาก ZF ส่งกำลังลงพื้นทั้ง 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100
กิโลเมตร/ชั่วโมง แค่ 4.8 วินาที เทียบเท่ากับ SQ7 ทุกประการ

ปีนี้ AAS ผู้นำเข้าและจำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการ น่าจะพร้อมแล้ว
สำหรับการสั่ง Bentayga เข้ามาให้ลูกค้าอภิมหาเศรษฐีชาวไทยได้จับจอง
คาดว่าน่าจะเปิดตัวได้ในงาน Bangkok International Motor Show ช่วง
ปลายเดือนมีนาคม 2017 นี้

Bentley_EXP10_6

อย่างไรก็ตาม ปี 2018 ถือเป็นปีที่สำคัญ เพราะ Bentley มีกำหนดเผยโฉม
All New “Continental GT” รถยนต์ Coupe 2 ประตู ที่ทำรายได้หลักให้
พวกเขาอย่างงดงามมาตลอด คราวนี้ GT ใหม่ จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง
ใหม่ล่าสุด MSB ซึ่งมี Porsche เป็นหัวหอกหลักในการพัฒนาพื้นตัวถังนี้
โดยจะใช้อลูมีเนียม เป็นส่วนประกอบมากขึ้น เพื่อให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลง
กว่าเดิม ส่วนรูปลักษณ์ภายนอก ก็ยกเส้นสายส่วนใหญ่มาจากรถต้นแบบ
Bentley EXP 10 Speed 6 จากงาน Geneva Auto Salon เดือนมีนาคม
2015 ส่วนขุมพลัง จะยังคงเป็นบล็อกเดิม W12 สูบ DOHC 6.0 ลิตร แต่
ถูกอัพเกรดพละกำลังจาก 582 เป็น 600 แรงม้า (PS) อีกทั้งในรุ่น GT
Speed Convertible เปิดประทุน จะถูกปรับปรุงให้แรงกว่า 633 แรงม้า
(PS) ในรุ่นปัจจุบัน ขึ้นไปอีก!

กำหนดเปิดตัวในตลาดโลก ในปี 2017 แต่คาดว่าจะมาถึงบ้านเราราวๆปี
2018 ซึ่งเป็นปีที่ รุ่นเปิดประทุน Continental GTC จะตามออกมาสมทบ
ในตลาดโลกพอดี เท่ากัว่า รุ่นเปิดประทุนน่าจะเข้าเมืองไทย ราวปี 2019

BMW_5_Series_2017

BMW / MINI
2017 : The New 5-Series / All New Countryman

Highlights สำคัญของ BMW ในปี 2017 นี้ คือการเคลียร์สต็อกของซีรีส์ 5
รุ่น F10 ให้หมด เพื่อรอรับการเปิดตัว ซีรีส์ 5 ใหม่ รหัสรุ่น G30 ที่จะมีขึ้น
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2017 นี้ โดยรุ่นที่คาดว่าจะนำเข้ามาขาย
ในช่วงแรก จะเป็นรุ่น 520d ขุมพลัง Diesel Turbo และ 530e Plug-in
Hybrid สเป็กต่างๆ อาจแตกต่างจากเวอร์ชันต่างประเทศ เล็กน้อย ตาม
สไตล์ของ BMW Thailand

ปี 2017 นั้น ในตลาดโลก เราจะได้พบกับ M5 ใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลัง
V8 Twin Turbo พ่วงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อาจแรงถึง 600 แรงม้า (PS)
ตามมาด้วย X2 Croossover SUV ตัวถัง Coupe ของ X1 ที่สร้างขึ้นบน
พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้า UKL แบบเดียวกับ X1 แต่ถูกออกแบบให้สวย
และดูโฉบเฉี่ยวขึ้น พูดง่ายๆคือ เป็นเวอร์ชัน Coupe ของ X1 เหมือนกับที่
X6 เป็นเวอร์ชัน Coupe ของ X5 นั่นเอง

ปี 2018 Z4 ใหม่ จะพร้อมเผยโฉมสู่สายตาชาวโลก อันที่จริง ตลาดกลุ่มนี้
เริ่มมียอดขายลดลงเรื่อยๆ แต่ในเมื่อ Mazda กับ Mercedes-Benz ยังคง
ไม่เลิกทำรถเปิดประทุนขนาดเล็ก Roadster ออกมาขาย BMW เองก็เลย
ไม่อยากเสียลูกค้าไป แต่คราวนี้ พวกเขาจะเลิกทำหลังคาแข็งพับด้วยไฟฟ้า
แล้วหันกลับไปคบหลังคาแบบผ้าใบแทน เพราะวิศวกรต้องการให้น้ำหนัก
เบา จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง และเพิ่มเนื้อที่ในห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมากขึ้น
ขุมพลังของรุ่นหลัก จะเป็นแบบ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร TwinPower Turbo
มีกำลังตั้งแต่ 300 – 444 แรงม้า (PS) ในรุ่นแรงสุดอย่าง Z4M นอกจากนี้
ยังมีโอกาสที่จะได้ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Turbo
มาใช้ในรุ่นล่างๆ แต่ที่แน่ๆคือไม่มีรุ่น Plug-in Hybrid เนื่องจากขัดกับ
ปรัชญาการออกแบบรถสปอร์ตขนาดเล็ก

ส่วน ซีรีส์ 6 จะถูกยุติบทบาทไป เพื่อแทนที่ด้วย ซีรีส์ 8 ซึ่งกลับมาอีกครั้ง
หลังจากหายหน้าไปตั้งแต่ ปลายทศวรรษ 1990 ด้วยหตุผลว่า ต้องการจะ
ยกระดับตัวรถขึ้นไปให้เป็น ซีรีส์ 7 ตัวถัง Coupe และเปิดประทุน อย่าง
เต็มตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ อีกทั้งยังต้องมีเบาะหลังสบายขึ้น น้ำหนักเบา
ดังนั้น ซีรีส์ 8 จึงอาจเป็น BMW รุ่นสุดท้ายที่ใช้พื้นตัวถัง CLAR ซึ่งใช้
อยู่ใน ซีรีส์ 5 รุ่น G30 และซีรีส์ 7 รุ่นปัจจุบัน

MINI_Countryman_2017

ข้ามมาดูฝั่ง MINI แบรนด์รถนต์คันเล็ก ที่ BMW ซื้อมาตั้งแต่ปี 1994
ยุคที่ยังเป็นเจ้าของ Rover Group กันบ้าง ปี 2016 ถือเป็นปีแห่งการ
เดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง จาก 2 ปีที่ผ่านมา คราวนี้จะถึงเวลาที่ MINI
ต้องเปิดตัว All New Countryman ในประเทศไทย

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เน้นไปที่ขนาดที่ใหญ่โตขึ้นในทุกมิติ ส่งผลให้
ห้องโดยสาร และ พื้นที่บรรทุกสัมภาระมีมากขึ้น

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของ F60 จะใช้ UKL Platform พื้นตัวถังสำหรับ
รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าขนาดเล็ก แบบเดียวกับ MINI ตัวถัง Hardtop,
Clubman และ Convertible รุ่นล่าสุด รวมไปถึง BMW X1 F48 ด้วย

ในตลาดโลก Countryman ใหม่ มีขุมพลังให้เลือก ถึง 5 แบบ ที่สำคัญ
เป็นครั้งแรกสำหรับ MINI ที่จะมีรุ่น Plug-in Hybrid สำหรับรายละเอียด
ต่างๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมในเบื้องต้นได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/news-2017-mini-countryman-f60/

การเปิดตัวจะมีขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่งาน Bangkok International Motor Show
เดือนมีนาคม 2017 นี้ โดยจะเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคันก่อนในช่วงแรก ส่วนรุ่น CKD
ประกอบในไทย น่าจะเจอกันได้ ช่วงปลายปี 2017 เป็นอย่างเร็วที่สุด

——————————————————-

Chevrolet_Equinox_2018

CHEVROLET
2017 : No New Cars!!
2018 : Equinox???
2019 – 2020 : Colorado / Trailblazer “Next Generation”

ช่วงปี 2014 – 2015 GM Thailand โดนกระหน่ำด้วยวิกฤติการณ์ความเชื่อมั่น
ของลูกค้าที่มีต่อคุณภาพของตัวรถยนต์ โดยเฉพาะกรณีระบบเกียร์อัตโนมัติ
ใน Chevrolet Cruze ส่งผลให้ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง โชว์รูมและศูนย์
บริการ หลายแห่งต้องปิดตัวลงไป สภาพการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่
GM ต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์การบุกตลาด ASEAN ใหม่ทั้งหมด

พวกเขาเริ่มต้นด้วยการปิดโรงงานผลิต Minivan Chevrolet Spin ที่ Bekasi
ใน Indonesia แต่ยังคงทำตลาดอยู่ที่นั่น โดยเหลือรถยนต์เพียง 3 รุ่นเท่านั้น
ได้แก่ Mini SUV รุ่น Trax , Captiva โฉมเดียวกับเมืองไทย และ Orlando
Minivan 7 ที่นั่ง เนื่องจาก Spin มียอดขายที่ล้มเหลว เพราะตัวรถออกแบบ
มาจาก ทาง Brazil ซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับตลาด Indonesia อันเป็นเจ้า
ตลาด Minivan 7 ที่นั่ง เท่าที่ควร

ในบ้านเรา GM ตัดสินใจ ลดขนาดองค์กร ตลอดช่วงปี 2015 – 2016 ทำให้
ต้องย้ายออฟฟิศ บนอาคาร รสา ถนนพหลโยธิน จากตึกหน้า ไปยังตึกหลัง
ซึ่งมีค่าเช่าถูกกว่า ลดค่าใช้จ่าย ลดจำนวนพนักงาน ให้เหมาะสมกับรายได้
และรายจ่าย รวมทั้งตัดสินใจ ลดจำนวนรุ่นรถยนต์ลง ยุติการผลิตรถยนต์
B-Segment รุ่น Sonic ไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ยิ่งประกอบขายต่อ ต้นทุนจะยิ่ง
แพงขึ้นมาก จนไม่เหลือกำไรต่อคันตามที่ตั้งเป้าให้ตัวรถอยู่รอดตลอดอายุ
ในตลาดต่อไปได้

ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังตัดสินใจ ไม่นำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ๆ เข้ามาขาย
อีกต่อไป โดย C-Segment Sedan รุ่น Cruze ที่เพิ่งปรับโฉม Minorchange
ครั้งสุดท้าย เมื่องาน Motor Expo 2015 จะยังคงลากขายต่อไปอีกสักพัก
ก่อนจะยุติการผลิตไปในช่วงปี 2017

ส่วน Captiva ก็จะมีชะตากรรมไม่ต่างกัน คือถูกลากผลิตขายไปเรื่อยกัน
จนโดนล้อว่า “Captiva รุ่นแซยิด” เช่นนี้ ไปจนกว่าจะยุติบทบาทในอีก
ราวๆ 2 ปีข้างหน้า โดยจะไม่มีรุ่นใหม่ เข้ามาประกอบขายในบ้านเราอีก!

เท่ากับว่า นับแต่นี้ GM จะมุ่งทำตลาดเฉพาะ รถกระบะ Colorado และ SUV
บนเฟรมแชสซีส์จากรถกระบะอย่าง Trailblazer เท่านั้น เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้
มีฐานการผลิตทั่วโลกที่ประเทศไทย และ GM เองก็ทุ่มทุนสร้างกับโรงงาน
ของตนที่จังหวัดระยองไปมากโข ล่าสุด พวกเขาเพิ่งเปิดตัวรุ่นปรับโฉม
Minorchange ครั้งใหญ่ ให้กับ 2 พี่น้องคู่หู ตลอดปี 2016 ไปแล้ว เริ่มจาก
การนำรถต้นแบบ มาอวดโฉมในงาน Bangkok International Motor Show
เมื่อเดือนมีนาคม 2016 จากนั้น ค่อยเปิดตัว เวอร์ชันขายจริงของ Colorado
ออกมาก่อน เมื่อ 28 เมษายน 2016 แล้วจึงเริ่มปล่อยออกสู่ตลาดจริงอีกเมื่อ
22-24 กรกฎาคม 2016 ส่วน Trailblazer รุ่นปรับโฉมตามออกมาเมื่อวันที่
20 สิงหาคม 2016

นับจากนี้ไป อนาคตของ GM Thailand จะต้องฝากไว้กับ 2 ศรีพี่น้อง คู่หู
กระบะ / SUV/PPV กันแล้ว ว่าการปรับทัพครั้งล่าสุด รวมทั้งความพยายาม
ในการปลดโชว์รูมและศูนย์บริการเจ้าปัญหา ออกจากสารระบบ เพื่อรักษา
ตัวแทนจำหน่ายที่ดีๆ เอาไว้ จะช่วยให้สถานการณ์ในระยะยาวของ GM
Thailand ดีขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะนับจากนี้ พวกเขาจะแทบไม่มี
รถยนต์รุ่นใหม่ แบบ Full ModelChange มาให้เราเห็นกันอีกอย่างน้อยๆ
ก็ 2 ปี

สำหรับ Colorado / Trailblazer รุ่นต่อไปนั้น ตอนนี้เพิ่งจะอยู่ในระหว่าง
เริ่มต้นโครงการพัฒนารอบใหม่ หลังจากตัดสินใจแยกทางกับพาร์ทเนอร์
ดั้งเดิมอย่าง Isuzu (ซึ่งดันหันไปจับมือกับ Mazda แทน!) เท่ากับว่า กว่าที่
เราจะได้เห็น Colorado / Trailblazer รุ่นต่อไป ที่มีบุคลิกเป็นตัวเองมาก
ยิ่งขึ้น น่าจะต้องรอไปจนถึงปี 2019 – 2020

เหตุผล ที่ผู้บริหารของ GM แถลงไว้ในการ แยกทางกับ Isuzu ก็คือ
“เนื่องด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน ทำให้ GM ต้องการสร้างรถ
กระบะให้มีเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง มากขึ้น พวกเราต้องการจะ
ฉีกหนี แนวทางการทำธุรกิจให้ต่างจากค่ายญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ไม่ว่า
จะเป็น Isuzu, Toyota, Mitsubishi ดังนั้นแนวทางการพัฒนาตัวรถ
จึงต้องต่างออกไปด้วยเช่นกัน ทำให้ต้องยุติความสัมพันธ์ในครั้งนี้ลง”

ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นอกเหนือจากนี้ พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างศึกษา
ความเป็นไปได้ ในการนำเข้า Chevrolet Equinox รุ่นใหม่ล่าสุดมาจาก
โรงงานใน Mexico ซึ่งเป็นฐานผลิตเดียวของ SUV รุ่นนี้ เข้ามาจำหน่าย
ในเมืองไทย แต่ดูเหมือนว่า หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะว่า
ไทยกับ Mexico ยังไม่ได้ทำข้อตกลงการค้ากัน ดังนั้น ภาษีนำเข้ารถยนต์
จาก Mexico จึงยังแพงอยู่ ไม่ต่างกับการนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐอเมริกา
ซึ่งถ้านำเข้ามาจริงๆ น่าจะทำให้ค่าตัวของ Equinox ในบ้านเรา ทะลุหลัก
2 ล้านบาท ไปไกลโข จนอาจไม่เหลือลูกค้าอีกเลยก็เป็นได้

——————————————————-

Ferrari_GT4_Lusso

FERRARI
2017 : F12 Minorchange /All New California

ปี 2016 ที่ผ่านมา ค่ายม้าลำพอง ภายใต้การดูแลโดย Cavalino Motor
เพิ่งจะเปิดตัว Ferrari GTc4Lusso T ในประเทศไทย เมื่อ 21 พฤศจิกายน
2016 ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ V8 Turbo Downsizing
610 แรงม้า (PS) และรุ่น V12 สูบ 6,292 ซีซี 690 แรงม้า (PS) ตั้งราคา
25,060,000 บาท

อย่างไรก็ตาม อีก 2 รุ่นที่มีกำหนดเปลี่ยนโฉมในตลาดโลก สำหรับปี 2017
นี้ คือ F12 Berlinetta รุ่นปรับโฉมใหม่ Minorchange รวมทั้ง รถสปอร์ต
เปิดประทุน California ที่เน้นทำตลาดในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ

คาดว่า California ใหม่ จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังของ Maserati Alfieri
และใช้ขุมพลัง V8 Turbo วางหน้ารถ ขับเคลื่อนล้อหลัง แบบ FR กำหนด
เปิดตัวในปี 2017-2018 ถ้านับอายุตลาดของรุ่นปัจจุบันแล้ว ถือว่า เปลี่ยน
รูปโฉมเร็วพอๆกับรถญี่ปุ่นเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ในวระฉลองครบรอบ 70 ปี ของ Ferrari พวกเขาจะทำรถรุ่นพิเศษ
ในแต่ละรุ่น รุ่นละ 70 คัน มีทั้ง 488 coupe & spider, California T,  GTC4
Lusso,และ F12Berlinetta รวมทั้งสิ้น 350 คัน ส่งกระจายไปยังู้จำหน่ายใน
ทวีปต่างๆทั่วโลก ตามโควต้า จำนวนจำกัด อีกด้วย

——————————————————-

Ford_Mustang_2016

FORD
2017 : Mustang ?
2018 : Ranger Minorchange / Everest Minorchange
2019 : Fiesta for ECO Car Phase 2 ?

สถานการณ์ของ Ford เอง ถือว่าดีกว่า เพื่อนร่วมชาติชาวอเมริกัน
อย่าง GM / Chevrolet อยู่สักหน่อย เพราะต่อให้จะมีเสียงก่นด่า
จากลูกค้าในเรื่องบริการหลังการขาย และปัญหา Defect ที่เกิดจาก
เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Dual Clutch Power Shift (หาย) ในลูกค้า
ที่ซื้อ Fiesta , Focus และ EcoSport มากแค่ไหน แต่ลูกค้ากลุ่ม
ที่ใช้รถกระบะ ยังคงอุดหนุน Ranger Minorchange ที่เพิ่งคลอด
เมื่อปลายปี 2015  รวมทั้งรุ่น FX4 กลางปี 2016 อย่างเหนียวแน่น
ส่งผลให้ ยอดขายรถกระบะ Ford พุ่งขึ้นมายืนอยู่ในอันดับ 3 ได้
อย่างไม่ยากเย็นนัก

เมื่อ 2 ปีก่อน เราพูดถึงเรื่อง Surprise ไว้ว่า Ford Sales Thailand
มีแนวคิดอยากจะสั่ง Ford Mustang สุดยอด Pony Car จากโรงงาน
ใน เมือง Flatrock มลรัฐ Michigan สหรัฐอเมริกา ข้ามน้ำข้ามทะเล
มาเปิดตัวในเมืองไทย ยั่วกิเลสเศรษฐีบ้านเรากันเล่นๆ

จนถึงวันนี้ เวลาผ่านไป ความคืบหน้ากลับไม่โผล่ให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
ปล่อยให้บรรดาพ่อค้ารายย่อย Grey Market หลายราย ชิงตัดหน้า สั่ง
นำเข้ารถมาจากประเทศในแถบเอเซีย ขายบรรดาไฮโซใจร้อน ไปจน
เกือบจะหมดแล้ว

กระนั้น เสียงพูดคุยในออฟฟิศของ Ford เรื่อง Mustang ยังไม่จางหาย
พวกเขามองว่า ถ้าจะมาทั้งที รอตัวปรับโฉม Minorchange แล้วค่อย
สั่งรถเข้ามาขายทีเดียวเลยดีกว่า

Mustang รุ่นล่าสุด ถือเป็นรุ่นที่ 6 เปิดตัวมาตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2013
พร้อมกันทั้ง 6 เมืองใหญ่ทั่วโลก เป็นการประกาศว่า Mustang รุ่นนี้ จะ
ถูกส่งออกไปจำหน่ายถึง 140 ประเทศ ใน 6 ทวีป ทั่วโลก และกลายเป็น
1 ใน Global Model ของ Ford อย่างแท้จริง ร่วมกับพี่น้องอย่าง Fiesta,
Focus, Mondeo, Ranger และ Everest

Mustang ใหม่ มีตัวถังยาว 4,782 มิลลิเมตร กว้าง 1,915 มิลลิเมตร สูง
1,379 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อคู่หน้า/
หลัง อยูที่ 1,584 และ 1,653 มิลลิเมตร มีขุมพลังให้เลือก 4 ความแรง
เป็นแบบเบนซิน ทั้งหมด เริ่มด้วย บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,253
ซีซี. EcoBoost Turbocharger Direct Injection (GTDi) 310 แรงม้า
(HP) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 433 นิวตัน-เมตร (44.1 กก.-ม.)
ที่ 3,000 รอบ/นาที ตามด้วยบล็อก V6 DOHC 24 วาล์ว 3,719 ซีซี.มี
ระบบแปรผันวาล์ว Ti-VCT 300 แรงม้า (HP SAE) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 379 นิวตัน-เมตร (38.6 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที และ
แรงสุดด้วยบล็อก V8 DOHC 32 วาล์ว 4,948 ซีซี พร้อมระบบแปรผัน
วาล์ว Ti-VCT 435 แรงม้า (HP) ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 542
นิวตัน-เมตร (55.2 กก.-ม.) ที่ 4,250 รอบ/นาที

และรุ่นแรงสุด Shelby GT350 มาพร้อมขุมพลัง V8 DOHC 32 วาล์ว
4,948 ซีซี Flat Plane Crank แรงขึ้นเป็น 526 แรงม้า (HP) ที่ 7,500
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 581 นิวตัน-เมตร (59.2 กก.-ม.) ที่ 4,750
รอบ/นาที ทุกรุ่นเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ
Select Shift 6 จังหวะ พร้อมแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย
(Option) ยกเว้น GT350 และ GT350R ที่จะมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา
6 จังหวะ แบบมาตรฐาน และแบบ TREMEC

หากมีการนำเข้ามาจริงๆ คาดว่า เวอร์ชันไทย คงจะได้เครื่องยนต์ แบบ
4 สูบ 2.3 ลิตร EcoBoost Turbo และ ขุมพลัง V8 5.0 ลิตร ค่อนข้างจะ
แน่นอน เพราะเครื่องยนต์ V6 ถูกจำกัดไว้ทำตลาดเฉพาะอเมริกาเหนือ
เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่แน่นอน ว่า Mustang จะมาบ้านเรา ทัน
ปี 2017 นี้หรือไม่ เพราะมิเช่นนั้น เท่ากับว่า ปี 2017 นี้ Ford จะแทบ
ไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวในบ้านเราเลย!

สำหรับ รถกระบะ Ranger และ Everest นั้น Ford ตั้งเป้ายอดขายไว้สูง
มหากาฬมากๆ จนคนข้างในเอง ยังหวั่นใจว่าจะทำได้ถึงหรือเปล่า? ปีนี้
อาจมีอย่างมากสุดแค่รุ่นย่อยพิเศษกระตุ้นตลาดเล็กๆน้อยๆ นอกนั้น จะ
ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นอีก จนกว่าจะถึงปี 2018 ซึ่งน่าจะถึง
เวลาปรับโฉม Minorchange ครั้งใหม่กันอีกรอบ

Ford_Fiesta_2017

ขณะเดียวกัน โครงการ ECO Car ที่ Ford สนใจจะลงทุนนั้น เป็นไปได้สูง
ว่า Ford คงไม่เอารถยนต์จากอเมริกากลาง อย่าง Fico มาผลิตขายเป็น
ECO Car ราคาประหยัดแล้ว พวกเขามองว่า ทางเลือกที่ดีกว่าก็คือ การ
นำ Fiesta ใหม่ มาวางเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร EcoBoost แล้ว
จับเข้าร่วมขอรับสิทธิพิเศษตามโครงการดังกล่าวไปเลย จะง่ายกว่า!

Fiesta ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 เพิ่งเผยโฉม ครั้งแรกในโลก เมื่อวันที่ 30
พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่ปรับปรุงจากเดิม
ให้ดูภูมิฐาน และ Premium มากขึ้นกว่าเดิม แบ่งการตกแต่งออกเป็น
4 สไตล์ ทั้งรุ่น Titanium มาตรฐาน , Vignale เวอร์ชันหรูหราขึ้นมาก
, ST-Line เน้นบุคลิกแนวสปอร์ต และ Active Crossover เวอร์ชัน
ยกสูงตามเทรนด์

จุดเด่นที่มีการเปิดเผยในเบื้องต้นนั้น มีทั้ง ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งจะ
ประกอบด้วยกล้อง 2 ตัว, เรดาร์ 3 จุดและเซนเซอร์ Ultrasonic 12 จุด
รอบคันรถ มีระยะสำรวจในระยะ 130 เมตร ช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่ระบบ
ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะที่สามารถหยุดรถ
ทันทีถ้าหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อคำแนะนำของระบบ ฟังก์ชันอ่าน
ป้ายจราจรในหลายย่านความเร็ว แม้แต่ป้ายบนไฮเวย์, ระบบเชื่อมต่อ
Infotainment SYNC3 กับ Smart Phone และเครื่องเสียง Premium
ของ Bang & Olufsen Play System ลำโพง 10 ตัว กำลังขับ 675 วัตต์

เครื่องยนต์มีให้เลือก 5 ระดับความแรง เริ่มจากรุ่นประหยัด เบนซิน 3 สูบ
DOHC 12 วาล์ว 1.1 ลิตร ที่ใช้โครงสร้างร่วมกับขุมพลัง 1.0 EcoBoost
มีให้เลือกทั้ง 70 และ 85 แรงม้า (PS) เชื่อมเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

ขุมพลังหลัก เป็นแบบ เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 1.0 ลิตร Ecoboost
Turbo มีทั้งแบบ 100, 125 และ 140 แรงม้า (PS) จับคู่ด้วยเกียร์ธรรมดา
6 จังหวะ ปล่อยค่าไอเสีย CO2 ต่ำเพียงแค่ 97 กรัมต่อกิโลเมตร สวนรุ่น
100 แรงม้า (PS) จะเพิ่มเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Dual Clutch Power
Shift ซึ่งดูเหมือนว่า Ford จะยังไม่เข็ดกับเกียร์ลูกนี้ ที่ก่อปัญหากับกลุ่ม
ลูกค้าทั่วโลก ซ้ำซาก!

นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร TDCi
ทั้ง 85 และ 125 แรงม้า (PS) จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ปล่อยค่าไอเสีย
CO2 ต่ำมากเพียง 89 กรัม/กิโลเมตร

เรายังไม่รู้ว่า เทคโนโลยีมากมายก่ายกองท่วมคันรถยิ่งกว่าเก่าขนาดนี้
เมื่อมาถึงเมืองไทย จะถูกตัดออกไปมากน้อยเพียงใด แต่นั่นยังไม่น่า
สงสัย เท่ากับคำถามที่ว่า Fiesta ใหม่จะมาเมืองไทยได้เมื่อไหร่ เพราะ
จนถึงตอนนี้ Ford กำลังทบทวนแนวทางการทำตลาดในเมืองไทยอยู่
เพราะเข็นรถเก๋งมาหลายปีดีดักแต่ยังไม่เห็นยอดขายดีขึ้นเท่าที่ควร
แถมเจอปัญหาบริการหลังการขาย จากดีลเลอร์แย่ๆของตน มาบั่นทอน
จิตใจลูกค้าอีกต่างหาก หากจะคาดการณ์ ก็คงเดาได้แค่ว่า เราควรจะ
ได้เห็น Fiesta ใหม่ บนโชว์รูม Ford ในเมืองไทย ได้อย่างเร็วที่สุด คือ
ปลายปี 2018 ถึง ต้นปี 2019

Previous Post

N2308065_ปลอมต วเป นรปภเพ อลองใจคน_part2

Next Post

N2308067_ช_ว_ตสดใสก_เพราะเธอ__1202423827407449_part2

Next Post
N2308067_ช_ว_ตสดใสก_เพราะเธอ__1202423827407449_part2

N2308067_ช_ว_ตสดใสก_เพราะเธอ__1202423827407449_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.