• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2608002_คนน งม โลกสองใบ กคนร กหมดห วใจ (2)_part2

admin79 by admin79
August 23, 2025
in Uncategorized
0
N2608002_คนน งม โลกสองใบ กคนร กหมดห วใจ (2)_part2

——————————————

MITSUBISHI MOTORS
2014 :  All New Triton Full Model Change (GR-Project) , Outlander PHEV ,
             Pajero Sport LAST Minorchange , Mirage Minorchange (Suspension refinement)
2015 :  Pajero Sport Full Model Change , Attrage Minorchange
             NO PLAN FOR NEXT “LANCER” FOR THAILAND??

การเปิดตัว รุ่น Sedan 4 ประตู ของ Mirage ในชื่อ Attrage ช่วงเดือนพฤษภาคม 2013
ดึงเอา ดาราดังแห่งยุค อย่าง คิมเบอร์ลี และอดีต Presenter ของ Honda Jazz อย่าง
มาริโอ เมาเร่อ มาถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา รวมทั้งรุ่นพิเศษ Attrage RalliArt ในงาน
Motor Expo ช่วยให้ Mitsubishi Motors ยังสามารถเพิ่มยอดขายในตลาด ECO Car
และมียอดขายภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ได้ตามความประสงค์ นอกเหนือจากการอัด
แคมเปญส่งเสริมการขาย กันต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่ ผู้เขียน
พูดได้เต็มปากว่า “เสพย์ติดการใช้แคมเปญ” จนยากจะถอนตัวไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า จะมีแต่ข่าวดี เพราะปี 2013 ที่ผ่านมา ผู้จำหน่ายในภาคเหนือของ
พวกเขา พยายามขยายตัวเร็วเกินไป จนเกิดปัญหาสภาพคล่อง และต้องปิดกิจการ จึง
ทำให้ลูกค้าในเชียงใหม่ และเชียงราย จดทะเบียนรถยนต์ที่ตนซื้อไม่ได้ โดนด่าเละ
กลายเป็นภาพลบให้กับแบรนด์ในสายตาลูกค้ากลุ่มนั้นไปอย่างน่าเสียดาย นี่ยัง
ไม่นับปัญหาเรื่องบริการหลังการขาย ซึ่งแม้จะพยายามกันเท่าไหร่ ก็ยังไม่ชนะใจ
ของลูกค้ากันเสียที

ปี 2014 จะเป็นปีสำคัญ สำหรับชาวทุ่งรังสิต และแหลมฉบัง เพราะถึงเวลาแล้วที่
ทุกฝ่าย ต้องเตรียมทัพรับศึก รถกระบะ และ SUV / PPV อย่างเต็มกำลัง ตามแผน
ที่บริษัทแม่ ประกาศออกมาในช่วงเดือนตุลาคม ว่านับจากนี้เป็นต้นไป พวกเขา
จะเน้นทำตลาดรถกระบะ รถยนต์กลุ่ม Crossover SUV และกลุ่ม SUV พันธุ์แท้
เป็นหลัก จนหลายคนเริ่มแซวว่า…

“พวกเขาคิดจะเจริญรอยตาม Isuzu อยู่ใช่ไหม?”

เริ่มจากช่วงต้นปี SUV / PPV รุ่นขายดีอย่าง Pajero Sport จะมีการปรับโฉม Minorchange
ครั้งสุดท้าย เปลี่ยนมาใช้กระจังหน้าใหม่ แบบเดียวกับ Triton รุ่นปัจจุบัน อาจเพิ่ม Option
บางอย่าง และชุดเครื่องเสียงที่ใช้งานง่ายกว่าเดิม โดยไม่มีการแตะต้องกับเครื่องยนต์อีก
เป็นอันขาด กำหนดเปิดตัว คาดว่าอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2014

จากนั้น ในช่วง ไตรมาส 3 ของปีนี้ Mitsubishi TRITON Full Modelchange จะออกสู่
ตลาดเมืองไทย เป็นแห่งแรกในโลก โดยยังคงใช้เส้นสายตัวถังจากรถกระบะต้นแบบ
Mitsubishi GR-HEV Concept ที่เผยโฉมครั้งแรกในงาน Geneva Motor Show เดือน
มีนาคม 2013 และตามมาเปิดตัวในบ้านเรา ณ งาน Bangkok Motor Show ในช่วง
ปลายเดือนเดียวกัน

แนวทางการพัฒนา Triton รุ่นใหม่ จะเน้นการผสมผสานรูปแบบความทรหดบึกบึน
เข้าไปในเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว เอาใจลูกค้าชาวไทยมากขึ้น หลังจากที่มีบทเรียนจาก
Triton รุ่นปัจจุบันมาแล้ว ว่า เส้นสายที่ล้ำอนาคตเกินไป และการเรียก คุณ ตูน จากวง
Bodyslam มาช่วยเป็น Presenter ให้ ช่วยเรียกความสนใจจากลูกค้าได้เพียงส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่า ทางเลือกขุมพลัง จะเป็นเช่นไร เพราะบางกระแสข่าว
รายงานว่า คราวนี้ Mitsubishi Motors อาจลดความจุกระบอกสูบ ลงมาเล่นในพิกัด
2,200 ซีซี เหมือนคู่แข่งหลายค่ายตอนนี้ ส่วนขุมพลังรุ่น Top อาจไม่ใช่ 3,200 ซีซี
อย่างที่เป็นอยุ่ในรุ่นปัจจุบันอีกต่อไป เพราะลูกค้าเมืองไทย ให้น้ำหนักเรื่องของ
ความประหยัดน้ำมัน เหนือกว่าเรื่อง อัตราเร่ง อยู่ ในสายตาของคนญี่ปุ่น

กำหนดเปิดตัวอยู่ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2014 และมีแนวโน้มว่า อาจจะต้องเปิดตัว
ในช่วงใกล้เคียงกับ Nissan Navara Full Model Change ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้
ยังไม่มีข้อสรุปว่า Mitsubishi Motors จะยังคงใช้ชื่อ Triton กับรถกระบะรุ่นใหม่ใน
บ้านเราต่อไปหรือไม่

(ความเห็นส่วนตัว Triton เป็นชื่อที่ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยน และควรใช้ต่อไป!)

นอกจากนี้ Mitsubishi Motors กำลังศึกษาอยู่ว่า จะสั่งนำเข้า Outlander PHEV
รถยนต์ Crossover SUV พร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid เสียบชาร์จกับไฟบ้าน
ได้ด้วย มาขายในบ้านเราดีหรือไม่

ปัญหาก็คือ ถ้าสั่งเข้ามาจริงๆ ค่าตัวของมัน อาจพุ่งไปเฉียดๆ 3 ล้านบาท
ยิ่งถ้าเข้าไปนั่งดูภายในรถด้วยแล้ว หลายคนน่าจะเกิดคำถามว่า

“ฉันจ่ายเงิน เกือบ 3 ล้านบาท เพื่อรถยนต์ ที่มีพวงมาลัยกับสวิชต์เครื่องปรับอากาศ
เหมือน Mirage กับ Attrage เนี่ยนะ??” เพราะลูกค้าชาวไทยส่วนใหญ่ มักไม่ค่อย
ให้ความสนใจเรืองระบบขับเคลื่อนกันหรอก พวกเขาสนแค่ว่า Option ที่ได้ แลกกับ
ค่าตัวที่จ่ายหนะ มันคุ้มกันไหม? แค่นั้น!

ดังนั้น ผู้เขียนได้แต่ขอเตือนว่า ยังไม่สายเกินไป หากจะคิดดูให้ดีๆ อีกครั้ง

พอถึงปี 2015 เวอร์ชัน SUV/PPV ก็จะเวลาของ Pajero Sport เปลี่ยนโฉมใหม่
ทั้งคัน แบบ Full Model Change โดยจะมีการพัฒนาบนโครงสร้างเฟรมแชสซี
และงานวิศวกรรมของ Triton รุ่นต่อไป ตามคาด กำหนดขึ้นสายการผลิต น่าจะ
อยู่ในช่วงปลายปี 2014 ถึงต้นปี 2015

ทั้ง Triton ใหม่ และ Pajero Sport ใหม่ จะยังคงผลิตขึ้นที่โรงงานของตนใน
แหลมฉบัง ตามเคย ต่อไป

ข้ามมาดูรถเก๋ง ที่จะเหลือในตลาดเมืองไทย เพียง 2 รุ่นกันดูบ้าง Mirage
ใหม่ จะมีการปรับโฉม Minorchange ในช่วงปี 2015  ส่วน Attrage ที่เพิ่ง
เปิดตัวไป จะยังไม่มีการปรับโฉมอื่นใด นอกเหนือจากการกระตุ้นตลาด
ด้วยรุ่นพิเศษ ตามสไตล์ของค่ายทุ่งรังสิต จนถึงปี 2015 ไม่แน่ว่า ทั้ง 2 รุ่น
จะปรับปรุงระบบกันสะเทือนให้มั่นใจขึ้นกันได้ เมื่อไหร่?

สำหรับ อนาคตของ Lancer ในเมืองไทยนั้น แนวโน้มค่อนข้างมืดทน
เพราะว่า ข้อตกลงล่าสุด ที่เพิ่งลงนามกับทาง Renault เมื่อปลายเดือน
ตุลาคม 2013 ระบุว่า  Renault จะต้องส่งรถยนต์ D-Segment ให้ทาง
Mitsubishi เอาไปขายในชื่อ Galant เฉพาะตลาดอเมริกาเหนือ และ
ต้องส่งรถยนต์ C-Segment ให้ ฝ่ายญี่ปุ่นเอาไปขายในตลาดโลก แต่
ต้องส่งออกมาจากโรงงาน Renault เท่านั้น

นั่นหมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่ Renault Megane รุ่นต่อไปจะแปะ
ตรา Mitsubishi Lancer ขายในตลาดโลก และอาจเป็นไปได้อีกเหมือนกัน
ที่ Lancer รุ่นต่อไป จะไม่มาเมืองไทย

อีกทั้ง Mitsubishi Motors เอง ก็ประกาศกลายๆแล้วว่า นับจากนี้ รถเก๋ง
ที่พวกเขาจะพัฒนาต่อไป ก็คือ รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคันของทั้ง Mirage
และ Attrage เท่านั้น เต็มที่สุด ก็อาจจะมี รถเก๋งสมรรถนะสูง สืบทอด
ตำนานของ Lancer Evolution ออกมาอีกสักรุ่นหนึ่ง นอกจากนี้ พอที
ไม่มีอีกแล้ว

เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะ Lancer รุ่นปัจจุบัน ไม่ประสบความสำเร็จ
ด้านยอดขาย ในแทบทุกประเทศที่เข้าไปจำหน่าย เท่าที่ควร เนื่องจาก
ตัวรถดูเป็นผู้ชายมาก จนกลุ่มลูกค้าสตรี พากันเกลียดขี้หน้า สมรรถนะ
ก็ยังไปในแนวทาง รถยนต์ GT หนักๆ มากกว่า

เท่ากับว่า หลังจากนี้ Mitsubishi Motors จะต้องเน้น รถยนต์ ECO Car
ขนาดเล็ก และบรรดา รถกระบะ กับ Crossover และ SUV ทั้งหลาย อย่าง
จริงจัง มากกว่าที่เคยเป็นมา โดยต้องยอมทิ้งตลาดรถยนต์นั่ง Sedan 4 ประตู
ไปเกือบท้ังหมด!?

 ———————————–

NISSAN
2014 : Navara Full Modelchange / All New X-Trail Made in Thailand /
            Pulsar Turbo E20 /Almera Minorchange
2015 : Navara SUV / PPV
2016 : Teana Hybrid + Minoerchange / March Full Modelchange /
2017 : Sylphy Full Modelchange / Almera Full Model Change

ปี 2013 ถือเป็นปีที่ Nissan ต้องออกแรงในการประคองยอดขายกันเหนื่อยกว่าปกติ 
เพราะเป็นผู้ประสบเหตุ จากโครงการรถคันแรก ไปเต็มๆ จนถึงตอนนี้ แม้ว่า Almera จะ
ครองแชมป์ ECO Car Sedan ที่ขายดีที่สุดในกลุ่ม (เพราะมีอยู่แค่ 3 รุ่น) แต่ March
ปรับโฉม Minorchange ในช่วงงาน Bangkok Motor Show มีนาคม 2013 กลับ
มียอดขายไม่สู้ดีนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งคันอื่นๆ

ขณะที่กลุ่ม C-Segment การเปิดตัว Nissan Pulsar ใหม่ ซึ่งเป็นเวอร์ชัน Hatchback
ของ Sylphy กลับไม่ได้ช่วยให้ยอดขายดีขึ้นกว่าเดิมเลย โชคไม่ดีนักที่การเปิดตัวเกิดขึ้นใน
จังหวะที่ ความต้องการรถยนต์กลุ่ม C-Segment หดตัวอย่างรุนแรง แม้จะเริ่มกรเตื้องขึ้น
ในช่วงปลายปี แต่ก็ต้องอัดแคมเปญช่วยกระตุ้นกำลังซื้อกันอย่างหนัก มีเพียง Sylphy ที่
ยังสามารถทำยอดขายในภาพรวมได้อย่างดี เกาะกลุ่ม เจ้าตลาด ทั้ง Toyota Corolla Altis
และ Honda Civic ไปได้เรื่อยๆ แถมการออกรุ่นติดก๊าซ จากโรงงาน Sylphy CNG และ
รุ่นตกแต่งพิเศษ ทั้ง Sylphy 1.6 SV (แต่งคล้ายกับ Pulsar 1.6 SV )ก็ ช่วยเพิ่มความสนใจ
ของลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่าจากโรงงาน มากยิ่งขึ้น

ยิ่งในกลุ่มรถตู้เพื่อการพาณิชย์แล้ว แม้จะเปิดตัว Nissan Urvan ใหม่ ออกมา แต่ก็เจอ
หมัดสวนจาก Toyota Commuter ใหม่ ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยมาให้คู่หน้า เป็นครั้งแรก
ของกลุ่มรถตู้เข้าไป แถมวางเครื่องยนต์ใหม่ Diesel 3.0 ลิตร Turbo ก็ถึงกับทำให้
Urvan จุกไปเลย

ไฮไลต์ สำคัญของ Nissan เกิดขึ้นในช่วงปลายปี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Teana ใหม่
Full Model change ที่จัดทัพปรับอุปกรณ์มาอย่างดี ตีกบาลคู่แข่งทั้ง Toyota Camry 
และ Honda Accord จนเกือบหงายหลัง แต่สุดท้าย กว่าจะเริ่มส่งมอบรถยนต์กันได้เต็มที่
ต้องรอจนถึงเดือนมกราคม 2014

ขณะเดียวกัน น้องเล็กที่หลายๆคนหมดหวังไปแล้ว อย่าง Nissan Juke จู่ๆ ก็กลับมา
เปิดตัวกันได้ในที่สุด ก่อนงาน Motor Expo 2 วัน เป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่กระแสของ
Juke จะโรยราไปพอดี งานนี้ Nissan ถึงขั้นต้องใช้วิธี ส่งเครื่องยนต์ HR16DE จาก
Sylphy จากเมืองไทย ไปให้โรงงานของตนใน Indonesia ประกอบมาเป็นรถใหม่
เพื่อให้ใช้ชิ้นส่วนในไทย Local Content เกิน 40% ขึ้นไป จนได้รับสิทธิพิเศด้าน
ภาษี แถมงานนี้ ดึง พีช พชร นักแสดงนำจาก ซีรีส์สุดฮิต “Hormones” มาช่วยเป็น
Presenter สร้างสีสันจนดึงยอดขาย แซงหน้าคู่แข่งอย่าง Ford EcoSport รวม
ยอดสั่งจองมากถึง 3,200 คัน ขึ้นแท่นรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดในงาน Motor Expo
แถมยังไปเบียดยอดขายของ Pulsar เองด้วยซ้ำ ใครที่รอรับรถอยู่ ใจเย็นๆ เดือน
มกราคม Juke ล็อตแรก จะเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบังอย่างแน่นอน

ส่วนปี 2014 นั้น Nissan จะยังคงจัดเต็ม จัดหนักต่อเนื่อง จากปี 2013 เริ่มกันด้วย
ช่วงไตรมาสแรก Nissan จะเปิดตัว Almera Minorchange กันเสียที งานนี้ อาจมี
การปรับรูปโฉมภายนอกนิดหน่อย ส่วนภายในอาจมีการปรับอุปกรณ์ประจำรถ
ปรับทัพรุ่นย่อย และแน่นอนคือ การปรับราคาขึ้น

ตามมาด้วย Surprise ที่ผู้เขียนรอคอย (อยู่คนเดียว..หรือเปล่า?) นั่นคือการนำ
ขุมพลัง 1.6 ลิตร DDT Turbo Intercooler มาวางลงใน Pulsar (และอาจ
รวมถึง Sylphy ด้วย) งานนี้ ได้ยินมาว่าจะมีการปรับเซ็ตพวงมาลัย และช่วงล่าง
เอาใจคนชอบขับรถสนุกๆมากยิ่งขึ้น คาดว่าน่าจะเปิดตัวได้ ในช่วงงาน Bangkok
Motor Show หรือหลังจากนั้นไม่นานนัก ที่ล่าช้าไปนั้น อาจเพราะ จะต้อง
ปรับแต่งเครื่องยนต์ ให้สามารถรองรับการใช้งานน้ำมัน แก็สโซฮออล์ ได้
อย่างน้อยๆ ก็ต้องมี E20 กันขึ้นไปนั่นละ

ล่วงเข้าสู่ ช่วงกลางปี หลังจากที่โรงงานแห่งใหม่ของ Nissan บนพื้นที่ใกล้กับ
โรงงานเดิม ถนนบางนา-ตราด กม.22 เสร็จสิ้นปุ๊บ เราจะได้เห็นการเปิดตัว
รถกระบะ Navara ใหม่รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Modelchange ทั้งคัน รายละเอียด
ต่างๆ ยังไม่มีหลุดเล็ดรอดออกมา เพราะการง้างปากคนของ Nissan เดี๋ยวนี้
มันช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน

อย่างไรก็ตาม ถ้าอ้างอิงข้อมูลเก่าที่เคยเขียนเอาไว้ในบทความสรุปรถใหม่ใน
เมืองไทย 2013 – 2016 เมื่อปีที่แล้ว ก็จะพบว่า Nissan คิดจะเล่นเกม Engine
Downsizing ในตลาดกลุ่มนี้ ด้วยการยกขุมพลังใหม่จาก Renault แบบ Diesel
4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.3 ลิตร Common Rail พ่วงด้วย Turbo และ
Intercooler มาวางลงใน Navara รุ่นต่อไป พละกำลังจะแรงไปถึง 200 แรงม้า
(PS) ซึ่งนั่นเท่ากับ Mazda BT-50 PRO และ Ford Ranger 3.2 Wildtrak
รุ่นปัจจุบันเลยทีเดียว! ทั้งที่มีความจุกระบอกสูบ น้อยกว่ากันถึง 1 ลิตร!! ส่วน
เวอร์ชันส่งออก จะเป็นรุ่น Twin Turbo แรงเพิ่มขึ้นได้อีก 10 แรงม้า รวมเป็น
210 แรงม้า (PS)!! แต่ คงจะไม่ทำตลาดในไทย (มามุขเดียวกับ เครื่องยนต์
Diesel Twin Turbo ของ Isuzu D-MAX ที่มีไว้เพื่อตลาดส่งออกเท่านั้น) 
เฟรมแชสซีส์ จะยังเน้นความแข็งแก่ง ทนทรหด เพื่องานบรรทุกตามเดิม แต่
จะเสริมให้แข็งแกร่งขึ้น โดยที่มีปัจจัยเรื่องต้นทุน มาเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ
เนื่องจาก Navara รุ่นปัจจุบันนั้น ขายได้เรื่อยๆ แต่กำไรต่อคัน น้อยมาก หรือ
แทบไม่เหลือเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น การลดต้นทุน แต่ยังคงรักษามาตรฐานของ
ตัวรถไว้ให้ได้อย่างดี จึงเป็นโจทย์หินสำหรับทีมวิศวกรของ Nissan ในครั้งนี้

หลังจากนั้น จะถึงคิวของ Nissan X-Trail ใหม่ล่าสุด เจเนอเรชัน 3 ที่จะถูก
นำมาขึ้สายการผลิตในบ้านเรา อย่างจริงจังเสียที คาดว่า น่าจะวางขุมพลัง
เดียวกันกับ Nissan Teana นั่นคือ เบนซิน 4 สูบ 2.0 และ 2.5 ลิตร ขับเคลื่อน
ล้อหน้า และ 4 ล้ออัตโนมัติ ด้วยเกียร์ CVT จุดเด่นที่ผู้เขียนได้สัมผัสกับตัวจริง
ณ ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว นั่นคือ เบาะนั่งแถวกลาง จะนั่งสบายที่สุด ในบรรดา
คู่แข่งพิกัดเดียวกัน ทั้ง Honda CR-V , Mazda CX-5 ไปจนถึง Chevrolet
Captiva แต่เบาะแถว 3 นั้น อาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่า Captiva กำหนดเปิดตัว
คาดว่าจะเกิดขึ้น ถัดจาก Nissan Navara ใหม่ ไปสักเล็กน้อย

ส่วนคำถามที่ว่า แล้ว SUV / PPV บนโครงสร้างของ Navara ใหม่ละจะมีมา
ผลิตขายในบ้านเราหรือเปล่า คำตอบก็คือ มีโครงการนี้อยู่จริง แต่จนถึงตอนนี้
ก็ยังไม่มีความชัดเจนแน่นอนอะไรทั้งสิ้น เราจึงได้แต่รอดูความเคลื่อนไหว
กันต่อไป แต่จากการคาดการณ์ บอกได้ว่าหาก Nissan ตัดสินใจ เปิดไฟเขียว
สั่งเดินหน้า ลุยผลิต SUV รุ่นนี้จริง โดยใช้เครื่องยนต์กลไก เฟรมแชสซี
และงานวิศวกรรมต่างๆ ยกชุดมาจาก Navara 2014อย่างน้อยๆ เราอาจต้อง
รอจนถึงปี 2015 – 2016 จึงจะได้เห็นรถคันจริง ออกมาขึ้นโชว์รูมในบ้านเรา

ย่างเข้าปี 2016 ใครที่รออุดหนุน รถยนต์ Hybrid จาก Nissan เตรียมเก็บตังค์
รอกันไว้ได้เลย เพราะ Teana HYBRID ใหม่ คาดว่าจะมาถึงในช่วงเวลานั้น
นอกจากนี้ โครงการสำคัญยิ่งกว่าเดิม นั่นคือ Nissan March โฉมใหม่ทั้งคัน
Full Model Change จะต้องเปิดตัวในปี 2016 นี้ด้วย อาจจะเข้าร่วมโครงการ
ECO Car Phase 2 เพื่อให้สอดคล้องต่อเนื่องจาก March รุ่นปัจจุบัน คาดว่า
ตัวรถ จะต้องถูกยกระดับด้านคุณภาพ มากขึ้นกว่านี้ รวมทั้งการขับขี่จะต้อง
กลับมาถูกใจชาวยุโรปมากกว่านี้ แต่ยังต้องประหยัดน้ำมัน และใช้งานง่าย
เหมือนเช่น March ทุกรุ่น ตลอด 33 ปีที่ผ่านมา

และในปี 2017 เราอาจจะได้เห็น รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน ของ Sylphy
รวมทั้ง Almera ใหม่ ซึ่งจะถือเป็น 2 ทัพสำคัญในการบุกตลาด Sedan
ของ Nissan ในช่วงนั้น แต่ในเวลานี้ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึง ทั้งคู่

———————————–

PEUGEOT
2014 : After 3008?…No Brand New Model!

ค่ายเสือสำอางค์เมืองน้ำหอม ภายใต้การดูแลของ บริษัท ยูโรเปียน ออโตโมบิลล์ จำกัด อดีต
บริษัทในเครือยนตรกิจ ที่ตอนนี้ แยกตัวจากกลุ่ม เดิมเรียบร้อยแล้ว ยังคงเดินหน้าทำตลาด
ไปแบบ Low Profile ไม่หวือหวานัก อย่างน้อยๆ การตัดสินใจนำเข้า 408 Sedan ขุมพลัง
2.0 ลิตร Turbo มาขาย ก็ถือว่า ถูกต้อง เพราะช่วยผลักดันยอดขายให้ยังพออยู่ได้ในตลาด
รถยนต์บ้านเรา ที่มีการแข่งขันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนบรรดารถยนต์แบรนด์แปลกๆ เริ่ม
อยู่ยากขึ้นทุกวัน

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วง Motor Expo เดือนพฤศจิกายน 2013 Peugeot จะมีรถยนต์รุ่น
ใหม่ 2 รุ่นรวด นั่นคือ 3008 Crossover เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Turbo 156 แรงม้า ค่าตัว
2,390,000 บาท แต่ยังเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาตั้งแต่ ปี 2010 (เพราะรุ่นปรับโฉมใหม่ ของ
ปี 2014 เพิ่งจะเผยโฉมไปไม่นานมานี้) และ 408 รุ่นพิเศษ “Sportium” ไฟหน้ารมดำ
ล้ออัลลอยรมดำ สปอยเลอร์หลัง ราคา 1,390,000 บาท มาอวดโฉมและเปิดรับจองอยู่

แต่สำหรับปี 2014 นั้น Peugeot แอบทำเสียงอ่อย ค่อยๆบอกว่า “ปีนี้ ยังไม่มีแผนนำเข้า
รถยนต์รุ่นใหม่มาขาย ขอระบายสต็อกที่มีอยู่ กันก่อน” มามุขเดียวกันกับ GM , Ford
และ Kia กันเลยทีเดียว

——————————————

PORSCHE
2014 : Macan Compact SUV in Thailand / Cayenne Faceliftd + Plug in  Hybrid /
           918 Spyder
2015 : Project “960”

ปีที่แล้ว AAS เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นรวด ในปีเดียว ทั้ง 911 Carrera 4S ขุมพลัง
Boxer 3.8 ลิตร 400 แรงม้า (PS) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2013 ตามด้วย การเปิดตัว
Panamera Minorchange ใหม่ ซึ่งมีทั้งรุ่น Diesel เมื่อ 6 สิงหาคม 2013 วางขุมพลัง
Diesel V6 สูบ 3.0 ลิตร Turbo 258 แรงม้า (PS) ที่ 3,800 – 4,400 รอบ/นาที แรงบิด
สูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที

และรุ่น Panamera S E-Hybrid ในฐานะ รถยนต์แบบ Plug-in Hybrid เสียบปลั๊กชาร์จไฟเข้า
แบตเตอรี่ได้ แบบแรกในเมืองไทย ที่พร้อมทำตลาดจริงอย่างเป็นทางการ เมื่อ 25 กันยายน 2013
วางเครื่องยนต์ V6 DOHC 3.0 ลิตร Supercharge ผนวกกับ มอเตอร์ไฟฟ้า สร้างพลังรวมได้ถึง
416 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 590 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะ
(ไม่ใช่คลัตช์คู่นะจ๊ะ) ดังนั้น E-Hybrid จึงสามารถคลานเงียบๆ ในเมืองได้อย่างประหยัดน้ำมัน
และให้อัตราเร่งเร่งได้เร็วอย่างรถสปอร์ต แปะป้ายราคาไว้ 9,600,000 บาท โดยรับประกันตัวรถ
9 ปี และรับประกันอายุแบตเตอรี่ 6 ปี

ในปี 2014 นี้ บรรดา อาตี๋เล็ก อาหมวยใหญ่ เตรียมรอพบการมาถึงของ Crossover SUV
ขนาดเล็กกว่า Cayenne บนพื้นฐานวิศวกรรมร่วมกับ Audi Q5 ในชื่อ Porsche Macan
ได้เลย เพราะเวอร์ชันจำหน่ายจริง เผยโฉมแล้ว ทั้งใน Frankfurt Motor Show เดือน
กันยายน และ Tokyo Motor Show เดือนพฤศจิกายน 2013 พูดให้เข้าใจง่ายๆ มันคือ
การนำเอา Cayenne รุ่นล่าสุด ไปย่อส่วน ให้นั่งได้ 5 คน และทำตลาดในราคาถูกลง
ยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย กลายเป็น Porsche ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Macan ทำตลาดด้วย 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Macan S ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 สูบ 3.0 ลิตร
Twin Turbo 340 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 460 นิวตันเมตร
ที่ 1,450 ถึง 5,000 รอบ/นาที อีกรุ่นคือ Macan Diesel วางขุมพลัง Diesel V6 สูบ
3.0 ลิตร Turbo ลูกเดียว 258 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 – 4,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
580 นิวตัน-เมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที ทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม
เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ PDK 7 จังหวะ เหมือนกัน

คาดว่า Macan เวอร์ชันไทย ที่ทาง AAS น่าจะนำเข้ามา อาจจะเป็นรุ่น
Macan S ก่อน และคาดว่า กว่าจะมาง อาจต้องรอ ช่วงกลางปี 2014 แล้ว

ส่วน 918 Spyder รถสปอร์ต Plug-in Hybrid ที่ใช้งานได้ทั้งน้ำมันเบนซินและ เสียบชาร์จกับ
ปลั๊กไฟบ้าน วางขุมพลัง V8 DOHC 32 วาล์ว 3,400 ซีซี 500 แรงม้า (PS) ติดตั้งอยู่กลางลำตัว
(Mid-Engine) เกียร์อัตโมัติ  Dual Clutch PDK 7 จังหวะ ถ่ายทอดกำลังสู่มอเตอร์ 2 ตัว ที่ล้อ
คู่หน้า และ อีก 1 ตัว ที่ล้อคู่หลัง อีก 218 แรงม้า (PS) รวมกันแล้วแรงเกือบๆ 800 แรงม้า (PS)
เผยโฉมแล้วในงาน Frankfurt Motor Show เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2013 พร้อมกับทำสถิติ
แล่นในสนาม Nurburgring ที่เยอรมันี ได้เร็วที่สุด ด้วยเวลา 6 นาที 57 วินาที (!!) คาดว่า
ถ้ามหาเศรษฐีเมืองไทยคนใดสนใจ คงต้องสั่งจองกับทาง AAS กันเอาเอง ในปี 2014 นี้

ในปี 2015 Porsche ยังเตรียมจะพัฒนารถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางขนาดกลางค่อนข้างใหญ่
รุ่นใหม่ ในรหัสโครงการ 960 ซึ่งแม้ว่า ภาพรวมแล้ว มันคือการนำ Porsche Cayman มาขยายร่าง
แต่เป้าหมายของมัน คือ ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับ Ferrari 458 Italia หรือรถ Super Car ในระดับ
เท่าๆกัน เช่น Lamborghini Gallado Full Model Change รถคันนี้ต้องคอยดูว่า จะเข้ามาบ้านเรา
ในปี 2016 หรือ 2017 ?
 
——————————————–

PROTON
2014 : New SAVVY

จากที่เคยทำนายไปในบทความเดียวกันนี้เมื่อปีก่อนว่า การเปิดตัวของ Preve น่าจะ
ช่วยทำให้อนาคตของ Proton ในเมืองไทย สดใสขึ้นมาบ้าง การณ์กลับกลายเป็นว่า
2013 เป็นปีที่ Proton เริ่มอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีนัก อาการหนักน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าเก่า

จริงอยู่ว่า Preve Turbo จะทำให้ผู้เขียนประทับใจในอัตราเร่งได้มาก แถมภาพรวม
ของตัวรถยังถือว่าดีขึ้นจากมาตรฐานดั้งเดิมของ Proton สมกับสโลแกนโปรโมทของ
รถยนต์รุ่นนี้ว่า Drive it to believe it. แต่ด้วยการบริการหลังการขาย ของผู้จำหน่าย
รายปัจจุบัน มีเสียงร่ำลืออื้ออึงคะนึงหนาหู เหลือเกิน ทำให้อนาคตของแบรนด์ Proton
ในบ้านเรา สุ่มเสี่ยงต่อหายนะมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ Exora Turbo Minivan ที่ทาง
Proton อยากจะใช้เป็นตัวหลักในการกู้ยอดขายในบ้านเรา กลับกลายเป็นว่า ขายได้
ไม่ถึงฝันเท่าที่ควร อีกทั้งโชว์รูม กับศูนย์บริการ ที่เคยมี เริ่มทะยอยล้มหายตายจาก
กันไปเรื่อยๆ ดังนั้น ต่อให้พวกเขาเปิดตัว Preve Hatchback 5 ประตู 1.6 ลิตร
Turbo ในงาน Motor Expo ที่ผ่านมา ก็ไม่อาจเรียกให้ผู้บริโภค เดินเข้าบูธของ
Proton ได้มากมายเหมือนแต่ก่อน

สิ่งที่ทุกคนรอคอยกันในตอนนี้คือ การเข้ามาบริหารเองของบริษัทแม่ จากมาเลเซีย
ซึ่งก็ตกอยู่ในภาวะลำบาก เหมือนกัน จนต้องจับมือแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี กับค่าย
Honda และเริ่มทะยอย ส่งผลผลิตที่ Honda เลิกขายไปแล้วมา Re-badge
หรือเอารถยนต์ Honda รุ่นเก่า มาแปะตราขายใหม่ในชื่อ Proton เช่น Sedan
ใหญ่ อย่าง Accord G8 กลายเป็น Proton Perdana ใหม่ไปเสียอย่างนั้น ดู
ซ้ำรอยเหมือนรุ่นก่อน ที่การนำ Mitsubishi Eterna ยกมาเปลี่ยนตราขายกันดื้อๆ

แต่ รถยนต์รุ่นใหม่ ที่เชื่อแน่ว่า ชาวมาเลเซียคงจะรอคอยกันเยอะ นั่นคือ Savvy
รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน Full Model Change ที่จะมีเส้นสายแบบ Mini-MPV
มากขึ้น ทั้งที่ยังอยู่ในร่างของ Hatchback 5 ประตู ตามเดิม วางเครื่องยนต์
เบนซิน 4 สูบ 1,200 ซีซี 75 แรงม้า (PS) จากรุ่นปัจจุบัน ขับเคลื่อนล้อหน้า
ด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ในตอนนี้ รถยนต์ต้นแบบ Protoype กำลังวิ่งเล่น
ทดสอบอย่างขะมัเขม้น ทั้งที่มาเลเซีย และในยุโรป เพื่อให้ทันการเปิดตัวใน
มาเลเซีย เป็นแห่งแรกในโลก ภายในกลางปี 2014 และถ้าไม่ผิดแผนอื่นใด
คนไทย ก็จะได้พบกับ Savvy ใหม่ ในช่วงปลายปี 2014

แต่ถ้าจะให้ดี ขอให้ Proton Thailand บริษัทแม่จากมาเลเซีย มาลุยเอง
เลยจะยิ่งดี!

——————————————–

Rolls-Royce
2014 : รุ่นพิเศษ Limited Edition
2015 : Wraith เปิดประทุน

การเปิดตัว รถยนต์นั่งระดับหรู 2 ประตู ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานจาก Saloon รุ่น Ghost ในชื่อ Wraith
รวมทั้งรุ่นพิเศษสำหรับ Ghost จำนวนจำกัด คือ Hi light สำคัญของ Rolls-Royce ทั่วโลก และใน
เมืองไทย ตลอด ปี 2013 ทำเอา โชว์รูม Rolls-Royce Motor Car Bangkok ของ Millenium
Auto ทั้งที่ พระราม 3 และ Siam Paragon หัวบันไดไม่แห้ง เลยทีเดียว

แต่ในปี 2014 มหาเศรษฐีทั้งหลาย อาจยังไมได้เห็นรถยนต์รุ่นใหม่จาก Rolls Royce กัน มีเพียง
แค่รุ่น Limited Edition ออกมาเอาใจนักสะสมของแปลก และกว่าที่เราจะได้เจอรถยนต์รุ่นใหม่
จริงๆ นั่นคือ เวอร์ชัน เปิดประทุนของ Wraith ซึ่งวางขุมพลังเดียวกัน ระบบส่งกำลังเหมือนกัน
อาจต้องรอกันไปจนถึงปี 2015 หรือ 2016 ด้วยซ้ำ เพราะทางโรงงานในสหราชอาณาจักร บอกว่า  

“เราไม่รีบ!”

———————————————–

SKODA
2014 : Supurb  Minorchange / Yeti Minorchange

ต้องยอมรับว่า ปี 2013 ไม่ใช่ปีที่ดีนักสำหรับแบรนด์ Skoda ในเมืองไทย เพราะต่อให้
ผู้จำหน่ายบ้านเรา พยายามอย่างไร ปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่การจดทะเบียนรถ
ให้ลูกค้าล่าช้า ก็เพิ่งมาทะยอยแก้ไขกันได้ในช่วงปลายปีนี่เอง จนถึงเรื่องบริการหลัง
การขาย ที่ยังไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้นัก แต่อย่างน้อย ความพยายามนำเข้ารถยนต์
รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Octavia Combi 2.0 TDi พร้อมเกียร์อัตโนมัติ DSG 6 จังหวะ ก็
สำเร็จลงด้วยดี แม้จะเข้างาน Motor Expo ในวันที่ 2 ธันวาคม ล่าช้ากว่ากำหนดการ
ถึง 4 วัน ก็ตาม แต่ด้วยราคาแนะนำ 1,690,000 บาท ก็ทำให้หลายคนตัดสินใจสั่งจอง
กันได้ไม่ยาก ได้ยินว่า บางคน ถึงขั้น ถอนจอง Mazda CX-5 เพื่อมาจบกับ Octavia
หลังจากแค่ลองขับไปรอบเดียวเท่านั้น!

ปี 2013 DAD Yontrakit จะเริ่มกลับมาลุยตลาด Skoda อย่างจริงจังมากขึ้นได้lสักที
ทั้งการสั่งนำเข้า Superb Minorchange รุ่นล่าสุด พร้อมออพชันระดับจัดเต็ม แต่ยัง
ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร TSI ตามเดิม มาทันในช่วงงาน Bangkok Motor
Show ส่วนช่วงปลายปี อาจจะได้เจอกับรุ่นปรับโฉม Minorchange ของ Yeti
เจ้าหมีหิมะ ที่มีหน้าตาเรียบร้อยและดูแก่ลงกว่าเดิม ในงาน Motor Expo

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจากแผนกันอีกนะ!

ส่วน Rapid ดูรูปการณ์แล้ว อาจต้องพักโครงการกันไปเลย เพราะ รถยนต์นั่ง
Sedan ขนาดเล็ก หน้าตาเรียบๆ วางเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แล้วต้องขายในราคา
คันละเกินกว่า 1 ล้านบาท อยู่พอสมควร เห็นทีว่าจะขายได้แน่ๆ…(สัก 3-4 คัน
ที่เหลือ จอดนอนดมฝุ่นอยู่ในโกดังนั่นแหละ!)

——————————————–

SSANGYONG
2014 : B-Segment Crossover SUV (Smaller than Korando)

นับตั้งแต่ ปี 2013 นี้เป็นต้นไป กิจการของ Ssangyong Motor ถูกครอบครอง โดยกลุ่ม
บริษัทอุตสาหกรรม Mahindra & Mahindra จากอินเดีย ซึ่งชนะการประมูลสำเร็จ และ
จากแผน Promise 2013 ว่าจะออกรถยนต์รุ่นใหม่ แบบปรับโฉม Minorchange รวม
5 รุ่น และทำยอดขายให้ได้ 150,000 คัน/ปี ภายในปี 2013 และจะเปิดตัวรถยนต์รุ่น
ใหม่หมดทั้งคัน และรุ่น Full ModelChange รวม 4 รุ่นรวด เพื่อสร้างยอดขายระดับ
300,000 คัน ให้ได้ ภายในปี 2016 รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า EV และรถยนต์ SUV ที่
ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ มลพิษต่ำ อีกด้วยนั้น

แต่ในเมืองไทย หลังจากที่เผยโฉม Korando เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ก็ยังไม่มีรถยนต์
SUV รุ่นใหม่ๆ คันอื่น เปิดตัวกันเท่าใดเลย ขณะที่ศูนย์บริการ ก็ยังคงทำหน้าที่ดูแล
ซ่อมบำรุงรถยนต์ของลูกค้าไปเรื่อยๆ จนความเคลื่อนไหว จะเริ่มเงียบหายแล้ว

แต่ในปี 2014 นี้ เวอร์ชันจำหน่ายจริงของ B-Segment Crossover SUV ขนาดเล็กกว่า
รุ่น Korando ที่สร้างขึ้นจาก รถยนต์ต้นแบบ Ssangyong XIV-1 และ XIV-2 จะพร้อม
ออกสู่ตลาดในเกาหลีใต้ และคาดว่า มีกำหนดจะส่งมาเปิดตัวในบ้านเรา อย่างเร็วที่สุด
คืองาน The International Bangkok Motor Show เดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้

——————————————–

SUBARU
2014 : WRX STi

นับตั้งแต่ Subaru XV ประกอบในมาเลเซีย ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน Motor Expo
เดือนพฤศจิกายน 2012 จนถึงวันนี้ กลุ่ม Tan Chong Group / MotorImage ผู้จำหน่าย
Subaru ในเมืองไทย ภายใต้ชื่อใหม่ T.C. Subaru ต้องพบเจอกับเรื่องตื่นตะลึงตึงตึง ชนิดที่
พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน…อาทิ…

– จากแผนเดิมที่ กลุ่ม Tan Chong วางสัดส่วนยอดขาย XV ใน ASEAN ให้ อินโดนีเซียถึง
50% มาเลเซีย  กับฟิลิปปินส์ แห่งละ 20% และไทยแค่ 10% แต่การณ์กลับพลิกล็อกถล่ม
ทะลาย กลายเป็นว่า ตลาดความหวังทั้ง 3 ยอดขายไม่เดิน แต่ยอดสั่งจองในเมืองไทย พุ่ง
พรวดพราดทะยานฟ้า โหม่งเตะดาวลูกไก่พุ่งใส่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น จนต้องปรับสัดส่วนให้ XV
แทบทุกคันที่ส่งออกในตอนนี้ ขนมาลงเมืองไทยให้หมด!!

– ชาวญี่ปุ่น ที่ Fuji Heavy Industries (สำนักงานใหญ่ Subaru ที่ญี่ปุ่น) ถึงกับบินมา
ดูสถานการณ์กันต่อเนื่องชนิดที่ว่า เว้นไปได้สัก 2-3 สัปดาห์ ก็ยกโขยงมากันอีกแล้ว! และ
พวกเขาเริ่มมองเห็นศักยภาพของตลาดเมืองไทย มากขึ้นกว่าที่เคยมีมา

– โชว์รูม ถนนสุขาภิบาล 2 หาที่จอดรถแทบไม่ได้อีกต่อไป เพราะทุกวัน จะมีรถเทรลเลอร์
ขน XV มาลงจอดที่โชว์รูม อย่างต่อเนื่อง เช้า สาย บ่าย ค่ำ แทบไม่มีวันหยุด และทุกคัน
เป็นรถยนต์ที่ถูกจับจองมีเจ้าของไปหมดแล้ว แต่ยังทะยอยส่งมอบให้ลูกค้ากันไปเรื่อยๆ

– มีโชว์รูม และศูนย์บริการ Subaru เปิดขึ้นมาใหม่ ตามจุดต่างๆ มากถึง 11 แห่ง ไล่เลี่ยกัน
แถมมีครบตามหัวเมืองสำคัญๆ ไม่เว้นแม้แต่ที่พัทยา ก็ยังมีผุดขึ้นมาให้เห็น!

– สถาบันการเงินอย่าง ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา เริ่มติดต่อมาขอดีลทำแคมเปญส่งเสริมการขาย
ร่วมกับการใช้สินเชื่อ หรือบัตรเครดิตร่วมกัน!

– ทั้งหมดที่พูดมาข้างต้น ทำให้ Tan Chong Group ตัดสินใจ เพิ่มงบโฆษณามหากาฬ
เริ่มลงโฆษณาบนป้าย Bill Board สำคัญๆ ในกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง แถมด้วย การ
ซื้อเวลา ลง Spot โฆษณา ทางวิทยุ…และตามด้วย โฆษณา โทรทัศน์

– ในที่สุด ลูกค้ายิ่งเริ่มมั่นใจในแบรนด์มากขึ้น ว่าคราวนี้ จะมาอยู่กันนานๆ ก็ยิ่งเริ่ม
เดินเข้ามาดู XV กันต่อเนื่อง ยิ่งเริ่มมีแคมเปญ ปลายปี ลดเหลือ 1,290,000 บาท
และทางเลือกต่างๆนาๆ

– ไม่เพียงเท่านั้น ยังสั่งนำเข้า Subaru Forester มาช่วยเสริมทัพ ทั้งรุ่น 2.0 iL และ
ตัวแรง 2.0 XT Turbo มาขายกันแบบเอใจลูกค้าเรื่อยๆ

คำถามก็คือ ต่อจากนี้ Subaru จะเป็นอย่างไรต่อไป? จะสั่งนำเข้ารถยนต์รุ่นไหน
มาบุกตลาดกันอีก?

ปี 2014 นั้น อาจยังไม่มีแนวโน้มชัดเจนนัก เพราะแม้ว่า Subaru Levorg Sports
Wagon คันใหม่ ที่แทรกกลางระหว่าง Impreza , XV และ Legacy เพิ่งเปิดตัวใน
งาน Tokyo Motor Show เดือนพฤศจิกายน ไปหมาดๆ แต่ในเบื้องต้น Levorg
ยังถูกจำกัดการทำตลาดแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น ทั้งที่จริงๆแล้ว หากนำมาประกอบขายใน
มาเลเซีย หรือเมืองไทย แล้วสามารถทำราคาให้ต่ำลงมา ในระดับพอกันกับ XV หรือ
อาจจะแพงกว่ากันไม่เกิน 200,000 บาท ก็ย่อมเรียกลูกค้าให้เดินเข้ามาอุดหนุน
Subaru กันได้ อย่างเต่อเนื่อง เพราะตัวรถคันจริง ตอบโจทย์ลูกค้าบ้านเราได้อยู่
และ ยังไม่มีใคร เปิดตลาดกลุ่ม Wagon ราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท อย่าง
จริงจังมานานหลายปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มลูกค้าดั้งเดิมที่รักความแรง Subaru ยังจำเป็นต้องรั้ง
พวกเขาไว้ ด้วยการนำเข้าตัวแสบอย่าง WRX Sti ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ
ในงาน L.A.Auto Show เดือนพฤศจิกายน 2013 (ชนกับ Tokyo Motor
Show นั่นละ) มาเอาใจนักซิ่งเท้าไฟ แต่ยังไม่มีอะไรแน่ชัดว่า WRX
Sti ใหม่ จะมาถึงบ้านเราได้เมื่อไห่

ส่วนตลาดโลก นั่น ปี 2014 – 2015 Subaru Legacy ใหม่จะต้องเปิดตัว
และแน่นอนว่า คงจะต้องมีเข้ามาขายในบ้านเรา พร้อมกันทั้งรุ่น Wagon และ
รุ่น Outback ยกสูง อย่างแน่นอน เพียงแต่ อย่าคาดหวังเรื่องงานออกแบบ
ภายนอกมากนัก เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการเอา Impreza หรือ XV รุ่นใหม่
มาเป่าลมให้โป่งพองโตเป็นลูกโป่ง…แค่นั้น!

——————————————–

SUZUKI  
2014 : New ECO Car 1.0 Litre Below Swift ! (Alto / Celerio Replacement) /
           Swift Minorchange Dual Jet
2015 : Swift’s Based Sedan (Not Indian Swift DZire Sedan!)
2016 : Swift Full Model Change
2017 : B-SUV ?

ปีที่แล้ว ถึงแม้ Suzuki เก็บเกี่ยวยอดขายจาก Swift เพียงรุ่นเดียว แต่ก็ได้กลับมาเป็นกอบเป้นกำ
ถึงขั้นข้นแท่นเป็น ECO Car ตัวถัง Hatchback รุ่นขายดีทีสุดในเมืองไทยไปบางเดือนด้วยซ้ำ
แต่การมาถึงของ Toyota Yaris ในเดือนพฤศจิกายน ก็ทำให้ Swift เสียตำแหน่ง แชมป์ยอดขาย
กลุ่ม ECO Car Hatchback ไปตามความคาดหมาย กระนั้น ยังคงรักษาอันดับ 2 ไว้ได้อยู่อย่างดี

ขณะเดียวกัน Suzuki Ertiga รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ก็ควรจะได้รับความนิยมจนยอดขาย
ดีกว่านี้ หากไม่ติดปัญหาที่ว่า ยอดขายในอินโดนีเซีย ได้รับความนิยมสูงมาก จนกำลังการผลิต
ที่โรงงานในแดนอิเหนาเอง ยังไม่เพียงพอ ทำให้การส่งมอบรถยนต์ ถึงมือลูกค้าในไทย ล่าช้า
จนยอดขายไม่เปรี้ยงปร้างเท่าใดนัก และทำให้ลูกค้าบางส่วนกลับไปอุดหนุน Toyota Avanza
อย่างช่วยไม่ได้

ท้ายสุด ในช่วงงาน Motor Expo เดือนพฤศจิกายน Suzuki นำรถยนต์ต้นแบบขนาดเล็กในชื่อ
A-Wind มาเปิดผ้าคลุม ถึง 2 คันรวด ถือเป็นการเปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกในโลก เพื่อยีนยัน
กระแสข่าวช่วงก่อนหน้านี้ว่า Suzuki กำลังซุ่มทำ ECO Car Hatchback คันเล็กกว่า Swift อยู่จริง

แม้รถคันนี้จะถือเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมของ Alto / Celerio เวอร์ชันตลาดโลก (คนละรุ่นกับ Alto
660 ซีซี ในกลุ่ม K-Car ของ ญี่ปุ่น และคนละคันกับ Maruti Suzuki Alto 800 ในอินเดีย แต่ช่วง
ก่อนปีใหม่ Suzuki แย้มออกมาแล้วว่า ตั้งใจจะเลิกใช้ชื่อ Alto ในตลาดโลก ดังนั้นจึงเหลือเพียง
2 ทางเลือก คือ ใช้ชื่อรุ่นว่า Celerio หรือ ตั้งชื่อใหม่กันไปเลย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในตอนนี้
คาดว่า การใช้ชื่อ Celerio (อ่านว่า เซเลริโอ) ในบ้านเรา ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด

เวอร์ชันจำหน่ายจริง ของ Celerio จะเริ่มผลิตขึ้นในโรงงานของ Suzuki ที่จังหวัดระยอง ใน
เดือนมีนาคม นี้ และจะเริ่มเปิดตัวออกสู่ตลาดเมืองไทย เป็นแห่งแรกในโลก อย่างเป็นทางการ
ภายในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มีนาคม ก่อนงาน Bangkok Motor Show จะเริ่มขึ้นไม่กี่วัน

ราคาขาย? รุ่นแพงสุด Full Option ต่ำกว่า 450,000 บาท แน่ๆ แต่ราคาเริ่มต้นในรุ่นถูกสุดนั้น
อาจถูกลงไปได้จนถึง ระดับ 300,000 บาท บวกลบนิดหน่อย!!

ย่างเข้าสู่ปี 2015 รถยนต์นั่ง Sedan 4 ประตู พิกัด B-Segment ที่ใช้โครงสร้างวิศวกรรม
พื้นฐานของ Swift ก็จะเป็นคิวต่อไปที่รอเวลาเข้าสู่ช่วงทำคลอด แม้จะมีภาพถ่ายคันจริง
หลุดออกมาจากทางฝั่งอินเดียแล้ว แต่ เส้นสายภายนอก จะยกมาจากรถยนต์ต้นแบบ
Suzuki Authentic S ที่เผยโฉมในช่วงกลางปี 2013 ที่ผ่านมา

เวอร์ชันไทย จะยังคงใช้เครื่องยนต์ 1,200 ซีซี อย่างแน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็น
ขุมพลัง ใหม่ 1,200 ซีซี Turbocharger ด้วยหรือไม่ กำหนดเปิดตัว จะอยู่ในช่วง
ไตรมาสแรก ต้นปี 2015 เหมือนเช่นที่ Suzuki มักยึดถือในการเปิดตัวรถยนต์รุ่น
ใหม่ๆ ในบ้านเรา ตั้งแต่ปี 2012 เป้นต้นมา Sedan คันใหม่นี้ ถูกคาดหวังให้เป็น
Global Small Sedan คันใหม่ของ Suzuki อย่างแท้จริงเสียที

และพอเข้าสู่ปี 2016 ก็จะถึงเวลาที่ Swift ต้องเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน Full Model Change
ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอื่นใดเล็ดรอดออกมามากนัก เพราะยังห่างไกลจากช่วงเวลา
เปิดตัว แต่คาดกันว่า Swift รุ่นใหม่ ต้องยาวขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และเพิ่มระยะฐานล้อ เพื่อให้
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่า อาจติดตั้ง เครื่องยนต์ใหม่
1,200 ซีซี พ่วง Turbocharger ที่มีกระแสข่าวลือจากต่างประเทศ ในช่วงปลายปีที่่ผ่านมา เพื่อ
เพิ่มสมรรถนะทั้งอัตราเร่ง ความประหยัดน้ำมัน รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์
เพื่อให้สอดรับกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต อัตราใหม่ในปี 2016 แต่จนถึงตอนนี้ ทุกอย่าง
ยังไม่นิ่ง และยังเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดตลอดเวลา

ส่วนโครงการต่อไปที่เราควรเริ่มจับตามองกันได้บ้างแล้ว คือ การเตรียมนำรถยนต์ B-Segment
Crossover SUV รุ่นใหม่หมดจด มาผลิตขายในเมืองไทย ช่วงปี 2016 – 2017 โดยรถยนต์
ใกล้เคียงกับความเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ น่าจะถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถยนต์ต้นแบบ
Suzuki iV-4 ที่เพิ่งเผยโฉมใน Frankfurt Motor Show และ Tokyo Motor Show ช่วงเดือน
กันยายน – พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่รายละเอียดในตอนนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยมากนัก

——————————————–

TOYOTA / LEXUS
2014 : ALL NEW Corolla ALTIS / Vios TRD Sportivo
           LEXUS RC , CT Minor & NX
2015 : Camry & Camry HYBRID Minorchange
           ALL NEW HILUX (Project Code : IMV2) /  
2016 : Fortuner Full Model Change + Hybrid !? /  Innova Full Model Change
2017 : Vios Minorchange / Yaris Minorchange / Camry Full Model Change

ปี 2013 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ ยักษ์อันดับ 1 ของญี่ปุ่น เกิดอาการถดถอย ในบ้านเรา อย่างชัดเจน
เพราะแม้จะมีการเปิดตัว Toyota Vios รุ่นเปลี่ยนโฉมแทบทั้งคัน Full Model Change ของ
ขุนศึกรุ่นสำคัญ กลางงาน Bangkok International Motor Show เมื่อเดือนมีนาคม รวมทั้ง
Toyota Yaris ใหม่ ที่ใช้ตัวถังพิเศษ พัฒนาร่วมกับ Vios ใหม่ แต่ใส่ขุมพลัง 1.2 ลิตร เพื่อให้
ชนกับบรรดา ECO Car รุ่นต่างๆ ทว่า ยอดขายก็ไม่กระเตื้อง เป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะ
กำลังซื้อในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กตั้งแต่ 1,500 ซีซี ลงมา หดตัวอย่างรุนแรง หลังจากโครงการ
สนับสนุนคืนเงิน 100,000 บาท จากรัฐบาล ยุติลง

จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไม Toyota ถึงตัดสินใจเลื่อน สารพัดโครงการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่
ให้ไกลออกไป จากเดิมกันทั้งหมด แทบทุกโครงการ!

เริ่มจากปี 2014 ถือเป็นปีที่ Toyota อาจยังต้องประคองตัวกันไปอีก 1 ปี เพราะสถานการณ์
ภาพรวมของตลาด จะยังไม่ดีขึ้นมากนัก อีกทั้งผู้บริโภค ยุคใหม่ๆ ที่เข้าถึงข้อมูลจากโลก
On-Line ทั้งหลาย จะเริ่มเปลี่ยนใจไปจาก Toyota มากขึ้น เพราะต้องการลองเสี่ยงหันไป
อุดหนุนแบรนด์ระดับมวยรองในตลาด เพิ่มขึ้น

ดังนั้น รถยนต์รุ่นใหม่ทั้งคันจาก Toyota ในปีนี้ จะมีเพียงแค่ Corolla ALTIS รุ่นใหม่
เปลี่ยนโฉมทั้งคัน Full Model Change ซึ่งนอกจากจะยืนยันว่า บ้านเราจะได้ใช้เวอร์ชัน
เดียวกับ ตลาดยุโรป แล้ว ยังจะไม่มีรุ่น 2,000 ซีซี ให้เลือกในช่วงแรกที่เปิดตัว อีกต่อไป
เหลือไว้เพียงแค่เครื่องยนต์ 1,600 และ 1,800 ซีซี โดยไร้เงารุ่น 2,000 ซีซี ขณะนี้ เริ่ม
มีการผลิต และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ของเรา บ้างแล้ว แต่สำหรับเมืองไทย
มีกำหนดเปิดตัว ในวันที่ 14 มกราคม 2014 นี้ คาดว่าราคาน่าจะแพงขึ้นกว่าเดิมราวๆ
10,000 – 40,000 บาท ในแต่ละรุ่นย่อย ตามสูตรเดิมๆ

จากนั้น เดือนมีนาคม นี้ Vios TRD Sportivo รุ่นตกแต่งพิเศษ เอาใจคนอยากได้
Option จัดเต็ม จากโรงงาน ก็พร้อมจะปล่อยออกสู่ตลาดช่วงก่อนงาน Bangkok
Motor Show ไม่กี่อึดใจ ถือเป็นหนึ่งในรุ่นกระตุ้นตลาด TRD Sportivo ที่น่าจะ
ทะยอยเปิดตัวออกมา ในจำนวนจำกัด ไม่กี่พันคัน ตามเคย

ส่วน Camry และ Camry HYBRID รุ่น ปรับโฉม Minorchange เลื่อนการเปิดตัวไป
เป็นช่วงไตรมาสแรกของปี 2015 คาดว่าคราวนี้ อาจมีการปรับโฉม ครั้งใหญ่ ให้สดใหม่
และขึ้นนำในฐานะจ่าฝูงเจ้าตลาด D-Segment ในบ้านเราต่อไปได้อีก 2 ปี คาดว่าอาจมี
การนำเทคโนโลยี ขุมพลัง Direct Injection D4-S มาติดตั้งให้ในรุ่น 2.0 ลิตร ส่วนรุ่น
Hybrid นั้น ยังไม่แน่ใจว่า จะตกแต่งเพิ่มเติมให้หรูขึ้น หรือถอดชุดเครื่องเสียง JBL
ที่ให้เสียงอันห่วยแตก จนต้องยอมซื้อวิทยุ ธานินทร์ เครื่องละ 300 บาท มาฟังแทน
ทิ้งไปด้วยหรือไม่ แต่คำแนะนำจากใจที่ขอมอบให้ตรงนี้ ก็คือ ไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
ไม่เช่นนั้น ก็หาพันธมิตรใหม่ มาช่วย ยังดีเสียกว่าจะปลดประจำการออกไปง่ายๆ

อีกโครงการสำคัญ ที่เจอโรคเลื่อนเข้าไป คือ โครงการพัฒนารถกระบะ Hilux VIGO
รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน Full Model Change ซึ่งถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงไตรมาส 3
กลางปี 2015 แทน แม้ว่างานออกแบบใกล้เสร็จหมดแล้ว แต่ Toyota บอกว่า “ยังไม่รีบ”

อย่างไรก็ตาม แนวคิดในการพัฒนา จะมุ่งเน้นให้เป็นรถกระบะที่ทนทรหดต่อสภาพ
การใช้งานหนักหน่วง เพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพื่อรองรับความต้องการจากบางประเทศ
ที่ใช้งานรถกระบะโหดร้ายกว่าเมืองไทย เช่นในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งต้องเปลี่ยนไส้กรอง
อากาศกันทุกเดือน!!

แต่ที่แน่ๆ ขุมพลังของเวอร์ชันไทยจะยังเป็น ตระกูล KD Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว
มีให้เลือกทั้ง 2,500 และ 3,000 ซีซี Common-Rail Turbo VGT Intercooler ที่
ปรับปรุงให้แรงขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้น รวมทั้งติดตั้ง บานแค็บเปิดได้ แต่ยังไม่แน่ว่าจะมีการ
แก้ไขยกระดับสมรรถนะและการทรงตัวให้ดีขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน และจะใช้ชื่อรุ่นว่าอะไร?
เพราะยังมีความเป็นไปได้อยู่บ้างว่า Toyota อาจไม่ใช้ชื่อ Vigo ต่อไป ซึ่งหากย้อนไปดู
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แทบจะกลายเป็นธรรมเนียมของค่ายไปแล้วว่า ทุกครั้งที่ Toyota
เปลี่ยนโฉมใหม่ให้รถกระบะทั้งคัน จะต้องเปลี่ยนชื่อ Sub name ตามไปด้วย แต่ตอนนี้
ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป

ส่วน ต้นปี 2016 จะเป็นช่วงเวลา ที่ Fortuner ใหม่ Full Model Change จะเผยโฉม
ออกสู่ตลาด และจำเป็นจะต้องมี Innova ใหม่ ตามเข้ามาเปิดตัวในเมืองไทยด้วยอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้  แต่งานวิศวกรรมต่างๆ จะใช้ร่วมกันกับ Hilux Next Vigo แน่นอน

แต่ที่ต้องจับตาดูไว้ก็คือ เราอาจจะได้เห็น Fotuner HYBRID ออกสู่ตลาดด้วย ก็เป็นได้
เพราะ Toyota คิดเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว ว่าอยากจะทำ เพื่อขยายฐานการใช้ขุมพลัง
Hybrid ในรถยนต์ของตนให้เยอะที่สุด เพื่อช่วยลดค่าพัฒนาแบ็ตเตอรี และระบบ
ขับเคลื่อน ให้มีต้นทุนถูกลง เพียงแต่ในความเป็นจริง Fortuner จำเป็นแค่ไหนที่จะ
ต้องมีรุ่นขุมพลัง Hybrid ? มันขึ้นอยู่กับว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ จะ
ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ในการใช้อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในปี 2016
หรือไม่?

ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ฝั่ง Lexus ในปี 2013 ที่ผ่านมา เน้นการบุกตลาดของรุ่น IS ใหม่
Full ModelChange กันไปแล้วทั้ง IS 300h และ IS250 รวมทั้ง การเผยโฉมรุ่น GS300h
ในช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา แม้จะมีลูกค้าให้ความสนใจพอสมควร แต่ลูกค้าที่เซ็น
ใบสั่งจอง ก็ยังไม่เยอะเท่าที่ควร เนื่องจากราคาขายปลีกที่แพงเกินใจลูกค้านั่นเอง

ในปี 2014 รถยนต์รุ่นใหม่จากแบรนด์ Lexus ที่จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ยังคงเป็น
รถนำเข้ากันตามเคย เนื่องจากแผนการนำ ES300 มาประกอบขายในเมืองไทย ดูท่าจะ
ไปไม่สวย จนมีข่าวว่าต้องพับเก็บเข้าลิ้นชักกันชั่วคราว ดังนั้น ปี 2014 นี้ เราจะได้เห็น
Lexus IS Coupe ในชื่อ RC (มาจาก Rear Wheel Drive Coupe) โดยเวอร์ชันขายจริง
จะเผยโฉมในสหรัฐอเมริกา ต้นปี 2014 จากนั้น จะตามมาเปิดตัวในเมืองไทย ช่วง
งาน The International Bangkok Motor Show  เดือนมีนาคม แต่กว่าจะพร้อมส่ง
มาขายในบ้านเรา อาจต้องรอถึงกลางปี

อีกคันหนึ่ง นั่นคือ Lexus NX Premium Compact Crossover SUV คันเล็กกว่า RX
เป็นครั้งแรกที่ Toyota จะวางขุมพลัง Turbocharger ให้กับตระกูล Lexus รถยนต์
รุ่นนี้ มีกำหนดเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และน่าจะส่งมาถึงเมืองไทย หลัง
การเปิดตัวของ RC ราวๆ ไม่กี่เดือน

นอกจากนั้น ยังมีรุ่นปรับโฉม Minorchange ของ CT200h Premium Hatchback
ขับเคลื่อนล้อหน้า ขุมพลัง Hybrid น้องเล็กสุดในตระกูล ที่เข้าสู่ช่วงกลางอายุตลาด จน
ต้องปรับหน้าตาใหม่ เผยโฉมครั้งแรกในงาน Frankfurt Motor Show และ Tokyo
Motor Show ก่อนจะบินมาเปิดตัวในเมืองไทย ในช่วงปี 2014 นี้ ถ้า Toyota และ
Lexus กรุงทพ สามารถเคลียร์สต็อกเก่าของ CT200h รุ่นปัจจุบันไปได้หมด

——————————————–

VOLKSWAGEN
2014 : What’s going on? New Beetles?

จนถึงตอนนี้ สิทธิ์การทำตลาดรถยนต์ Volkswagen ในบ้านเรา ก็ยังอยู่กับ “ไทยยานยนตร์”
เหมือนเช่นเคย และปี 2013 ที่ผ่านมา ต้องถือว่า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ แทบไม่มีเลย ถ้าไม่นับ
Volkswagen Amarok ซึ่งมีผู้สั่งจองไปทั้งหมด ราวๆ 20 – 30 คันเท่านั้น การส่งมอบจะ
เริ่มต้นขึ้นในช่วงหลังปีใหม่ รวมทั้ง รถตู้ยอดนิยม Caravelle ที่มีการตกแต่ง ภายในกัน
ในระดับ Minorchange มากถึง 2 รอบ

มาปีนี้ เรายังคงต้องดูกันต่อไปว่า ตกลงแล้ว ไทยยานยนตร์ จะพร้อมสั่งนำเข้า Volkswagen
New Beetle ใหม่ ขุมพลัง 1.4 TSI รวมทั้ง Volkswagen Golf และ Golf GTi ใหม่ Mk VII
เข้ามาหรือไม่ เพราะตั้งแต่ต้นปี 2013 จนถึงวันปิดต้นฉบับบทความนี้ ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
ชวนให้สงสัยว่า ที่ยังแจ้งมาว่า อยู่ในระหว่างเจรจากับบริษัทแม่ในเยอรมันี เพื่อจะขอสั่ง
รถเข้า รถยนต์รุ่นนี้มาขายนั้น ไม่รู้ว่า เจรจาบ้าอะไรตั้งเป็นปี ปล่อยให้พ่อค้ารายย่อยสั่ง
นำเข้ามาขายเก็บตังค์ไปสบายใจเฉิบกันแล้ว

หรือจะต้องรอให้ บริษัทแม่ เข้ามาทำตลาดเองกันจริงๆ?

——————————————–

VOLVO
2014 : XC90 Full ModelChange Launch Global
2015 : XC90 Full ModelChange SKD Malaysia launch in Thailand

ตลอดปี 2013 ที่ผ่านมา Volvo V40 ใหม่ คือรถยนต์ กลุ่ม Premium Compact Hatchback ที่
ทำให้ ชื่อของ Volvo กลับมาอยู่ในความสนใจของลูกค้าชาวไทยอีกครั้ง แม้จะเปิดตัวกัน
ในงาน Bangkok International Motor Show เดือนมีนาคม แต่กว่าจะเริ่มส่งมอบรถให้
ลูกค้าที่สั่งจองไว้ ต้องรอจนถึงเดือนพฤศจิกายน กันก็ตาม แต่ด้วยค่าตัวรดับ 1.8 ล้านบาท
ทำให้หลายๆคน ที่คิดจะซื้อรถยนต์ในระดับราคาเท่าๆกัน ถึงกับขอตัดสินใจ ดึง V40
มาเป็นหนึ่งในตัวเลือกมากขึ้น

ล่าสุด ก่อนสิ้นปี เมื่อ xx พฤศจิกายน 2013 ที่ผ่านมา Volvo จัดงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่
รวดเดียว 5 รุ่นรวด! นำทัพโดย V40XC และบรรดารุ่นปรับโฉม Minorchange ของทั้ง S60
V60 XC60 และ S80 มาพร้อมระบบ Redar ตรวจจับและสั่งเบรกอัตโนมัติ เมื่อมีจักรยาน
ขี่ตัดหน้า เป็นรายแรกในโลกและในไทย!

ส่วนในปี 2014 หลังการเผผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ รุ่นใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นแนวทางการ
ออกแบบของ Volvo ในยุคต่อไป ณ งาน Detroit Auto Show ต้นเดือนมกราคม 2014 แล้ว
คาดว่าเราจะได้เห็นการเปิดตัวของ Volvo XC90 ใหม่ ในตลาดโลกกันเสียที หลังจากที่
Volvo เริ่มปล่อยภาพวาด Sketch ออกมาบ้างแล้ว นิดๆหน่อยๆ พวกเขาระบุว่า จะติดตั้ง
สารพัดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเต็มเหนี่ยวชนิดหมดยกห้องแล็บมาให้ลูกค้ากัน
เลยทีเดียว

แต่กว่าจะเข้ามาขายในบ้านเรา อาจต้องรอจนถึงปี 2015 ในรูปแบบ รถยนต์นำเข้าจาก
มาเลเซีย

สรุปว่า หลังจากนี้ ความเคลื่อนไหวของ Volvo ให้ดูว่า โรงงานในมาเลเซีย เตรียมผลิต
รถยนต์รุ่นไหน? ก็จับจ้องได้เลยว่าอีกไม่นานนัก สักพัก รรุ่นนั้นจะเข้ามาขายใน
บ้านเราแน่ๆ

Previous Post

N2608010_ล_กสาวแม_ ตกถ_งข_าวสาร_2126100707874846_part2

Next Post

N2608007_ขอความช วยเหล อจากเพ อนสาม_part2

Next Post
N2608007_ขอความช วยเหล อจากเพ อนสาม_part2

N2608007_ขอความช วยเหล อจากเพ อนสาม_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.