HYUNDAI




H-1 และ Grand Starex เป็นรถทะลวงยอดขายครองพื้นที่บูธ Hyundai อยู่เช่นเคย และ Kona รถยนต์ EV ชื่อน่ารักแต่อัตราเร่งร้าย ก็ยังมีขายอยู่ แต่งานนี้ Hyundai เซอร์ไพรส์ด้วยการนำเอารถ SUV ระดับ Flagship ของค่ายอย่าง Palisade มาโชว์ที่เวทีด้านหลังด้วย นี่คือรถขนาดใหญ่เกินกว่า Santa Fe ขึ้นอีก
เครื่องยนต์ของ Palisade เป็นแบบ V6 ความจุโต “Lambda II GDi” เบนซิน 3.8 ลิตร หัวฉีดตรง 295 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 355 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ภายในมีเบาะสำหรับ 7 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนัง Nappa โดยแถวสองติดตั้งแบบกัปตัน ซีท นอกจากนี้ บริเวณคอนโซลกลางออกแบบลักษณะ Bridge type คอนโซลหน้ามาพร้อมหน้าจอแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นแสดงผลหน้าจอบนกระจก Head-Up Display รวมถึงหลังคาแบบ Panoramic
โปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษภายในงานสำหรับ Hyundai คลิกที่นี่
ISUZU





D-Max กระบะพลานุภาพยอดนิยม เป็นพระเอกของบูธ Isuzu มาตลอด ในงานครั้งนี้ นอกจากจะโชว์รถตัวถังปกติ ก็แน่นอนว่าต้องมีเวอร์ชั่นตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นออฟโรดสายแคมปิ้ง หรือโหลดเตี้ยแต่งซิ่งแบบวัยรุ่นสร้างตัว นี่คือความเปลี่ยนแปลงของ Isuzu จากสมัย 20 ปีก่อนที่มายังไงก็ขายอย่างนั้น จนในช่วงหลังมานี้ สนับสนุนการเจริญเติบโตอย่างเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มวัยลึกขึ้น สายซิ่งก็สนับสนุนการจัดงานแข่งในสนามต่างๆ ส่วนสายหรู Higher income ก็มาจบกับรถอย่าง MU-X
Isuzu MU-X รถตรวจการณ์พลังดีเซล 1.9 และ 3.0 ลิตร ซึ่งพลิกโฉมรอบคัน ต่างจากรถรุ่นเดิมชนิดไม่รู้เลยว่ามีพ่อมีแม่เดียวกัน เลิกใช้ดีไซน์เอาใจวัยกลางคน หันมาหาสัดส่วนที่ดูเป็นวัยรุ่นขึ้น กระจกบานเล็ก ทำให้ส่วนหลังคาของรถดูเตี้ยเหมือนรถเล็กเวลาจอดอยู่เดี่ยวๆ แต่จริงๆแล้วขนาดของตัวใหม่นั้นขยายขึ้นในทุกมิติ ภายในรถแม้จะเห็นเส้นสายแดชบอร์ดแบบ D-Max อยู่ แต่ก็พยายามปรับให้หรูขึ้น หน้าปัดเปลี่ยนใหม่ เล่นแสงสีดิจิตอลให้ทันคู่แข่ง มีการใช้ Ambient Light ตกแต่งบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่สำคัญที่สุด Isuzu รุกคืบเอาเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ๆมาใส่มากขึ้น อาทิ ADAS ระบบเตือนสารพัด เตือนตอนถอย เตือนรถในจุดบอด เตือนก่อนชนด้านหน้า อีกทั้งยังมีระบบเบรกอัตโนมัติและ Radar Cruise Control แปรผันความเร็วตามรถคันหน้า พร้อมระบบ Stop & Go ราคาเริ่มต้น 1,109,000 บาท และรุ่นท้อปจบที่ 1,591,000 บาท
โปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษภายในงาน ของ Isuzu คลิกที่นี่
KIA



มาคราวนี้ Kia Grand Carnival รุ่นเดิม ไม่โผล่มาให้เห็นแล้ว เหลือแต่รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Motor Expo 2020 โดยมีราคา 2,144,000-2,459,000 บาท มีจุดเด่นที่รูปทรงภายนอก เปลี่ยนจากมาดเรียบๆไปหาดีไซน์ดุแบบหุ่นยนต์ยักษ์ แต่ภายในนั้นหรูหรา มีเอกลักษณ์บางอย่างที่ดูแล้วนึกถึงรถยุโรป เช่นแผงหน้าปัดเชื่อมต่อฝั่งคนขับกับจอกลาง คันเกียร์แบบโยกถูกเปลี่ยนเป็นสวิตช์สำหรับเปลี่ยนเกียร์แบบหมุนคล้ายกับของ Jaguar แต่ในเรื่องความอเนกประสงค์ก็ยังคงอยู่ จุดชาร์จ USB มีมาให้ในเบาะแถว 1, 2 และ 3 ไม่ต้องแย่งกันชาร์จ ระบบความปลอดภัยเพียบพร้อมทั้งระดับเบสิกอย่างกันลื่น ระบบการทรงตัว ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบ Radar Cruise Control พร้อม Stop & Go และระบบแจ้งเตือนรถเบี่ยงออกนอกเลน
Kia Grand Carnival ใหม่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร ที่ให้กำลัง 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
โปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษในงาน สำหรับ Kia คลิกที่นี่
MASERATI






จากที่ปกติโชว์แต่รถรุ่นเดิมๆอย่าง Quattroporte, Ghibli และ Levante มาหลายงาน คราวนี้มีดาวเด่นกับเขาเสียที ด้วยซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางลำพลังสูงและทรวดทรงที่กินใจชนิดที่เจ้าของ Ferrari ยังแอบเดินมามองอยู่หลายคน นี่คือ Maserati MC20 ซึ่งถ้าหากไม่นับรถเครื่องวางกลางรุ่นโคตรพิเศษผลิตจำนวนน้อยอย่าง MC12 แล้ว เราจะนับได้ว่า MC20 คือรถเครื่องวางกลางลำรุ่นแรกของ Maserati ในรอบเกือบ 40 ปีก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่ยุติการผลิตรุ่น Merak ไปในช่วงกลางยุค 80s ทางค่ายก็หันไปผลิตรถในซีรีส์ Bi-turbo อย่าง 430, 222SR และ Spider ซึ่งทั้งหมดเป็นรถเครื่องวางหน้า
ชื่อของ MC20 มีที่มาเข้าใจง่ายกว่าที่คุณคิด MC ย่อมาจาก Maserati Corse (Corse คือภาษาอิตาเลียน แปลว่าการแข่งรถ) และ 20 ย่อมาจากเลขสองตัวท้ายของปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่มันเปิดตัวได้ในที่สุด หลังจากที่ผุดโครงการมา ว่าจะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2016 แล้วก็เลื่อนมาเรื่อยๆด้วยพิษเศรษฐกิจโลก MC20 เกิดมาเป็นซูเปอร์คาร์แท้จริง จึงมีบอดี้เตี้ย ใช้ประตูแบบ Butterfly doors ภายในดู Minimalist มากตามสไตล์รถนักขับตัวจริงมีสิ่งให้กดไม่เยอะ ยกเว้นตรงจอทัชสกรีนตรงกลางที่เป็นศูนย์รวมความบันเทิงต่างๆ
เครื่องยนต์ “Nettuno” ของ MC20 นั้น แม้เมืองนอกจะเคลมว่า “100% Maserati” และผลิตที่โรงงานของ Maserati แต่มองหน้าก็รู้กันว่าเทคโนโลยีบางส่วน หรือการที่ตัวเครื่อง V6 แต่กาง 90 องศาเหมือน V8 F154 ของ Ferrari นั้น แปลว่าต้องมีเพื่อนมาช่วยซุ่มวิจัยแน่นอน แต่ใครจะสนในเมื่อเครื่องความจุแค่ 3.0 ลิตรนี้สามารถกระแทกม้าออกมาได้ถึง 630 แรงม้า หรือ 210 แรงม้าต่อ 1,000 ซีซี. แรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตร น้ำหนักตัวถังไม่ถึง 1.5 ตันด้วยโครงสร้่างคาร์บอนไฟเบอร์ ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดมากกว่า 325 กม./ชม.
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 21,500,000 บาท
MAZDA







งาน Bangkok International Motor Show ครั้งนี้ นับเป็นเวทีแรกในงานโชว์รถสำหรับ Mazda BT-50 กระบะใหม่ของทางค่าย ที่เน้นจุดขายความเป็นรถกระบะ หน้าเหมือนรถเก๋ง เน้นหรูแบบ SUV ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มาจากโรงงานเดียวกับ Isuzu ไลน์ประกอบ D-Max นั่นเอง แม้ว่าเครื่องยนต์กลไก เกียร์ ช่วงล่าง จะเหมือนกับ Isuzu รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล VGS Turbo 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า แต่หน้าตาของรถที่มีความคล้ายรถเก๋งมากกว่า และในรุ่นย่อยกลางถึงบน จะได้แดชบอร์ดที่แตกต่างจาก Isuzu ชัดเจน ประกอบกับวิธีการจัดวางราคาและอุปกรณ์ที่มีความแตกต่างกันอยู่ ทำให้ BT-50 มีจุดขายของตัวเองได้เหมือนกัน
Mazda BT-50 มีให้เลือกทั้งหมด 3 ตัวถัง ได้แก่ Standard Cab, Freestyle Cab และ Double Cab แบ่งออกเป็นรุ่นย่อยทั้งหมด 14 รุ่น ราคาตั้งแต่ 553,000 ไปจนถึง 1,153,000 บาท
โปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษของ Mazda ภายในงาน คลิกที่นี่
MERCEDES-BENZ















ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ทางเบนซ์เลือกวิธีการจัดบูธใหม่ จากเดิมที่บูธใหญ่โต อลังการงานประติมากรรมเหมือนวิหารเซอุส เห็นได้แม้จะมองจากอีกฟากของ Hall คราวนี้ มาในรูปแบบเรียบง่าย ใช้จอ LED ไฟตกแต่ง และสื่อดิจิตอลต่างๆซึ่งมองจากระยะไกลเหมือนไม่มีอะไร แต่เข้ามาเล่นใกล้ๆแล้วก็มีอะไรให้เพลินได้เหมือนกัน แล้วถ้าจะดูพริตตี้ ไม่ต้องมาบูธนี้ครับ เพราะที่นี่จะมีแต่สุภาพสตรี Digital Guide ซึ่งรอคุณอยู่พร้อม iPad ให้คุณสอบถามข้อมูลได้
ต้องเท้าความกันนิดว่าปี 2020 เสียแชมป์ยอดขายให้กับ BMW เพราะรถตัวเล็กขายดีอย่าง GLA ถูกเลื่อนการเปิดตัวจากที่ตั้งใจไว้ไปหลายเดือน เนื่องจากขั้นตอนวิธีปฏิบัติขององค์กรที่ต้องมีทีมเยอรมันมาตรวจสอบการประกอบและอนุมัติการทำตลาด แต่พอเจอ COVID-19 ก็ส่งคนมาไม่ได้ เมื่อมาได้ และช่วยกันจนเข็น GLA 200 และ A200 ประกอบในออกมาได้ ก็ปลายปีมากแล้ว ไม่ทันต่อการกอบกู้สถานการณ์ ตัวเลขมันไปแล้ว ก็ต้องมาแก้มือใหม่กันในปีนี้ ซึ่งถ้าเราลำดับรถของดาวสามแฉกที่เปิดตัวหลังจากเริ่มปีใหม่เป็นต้นมา ก็มีอยู่หลายรุ่น และทั้งหมดสามารถมาดูได้ที่งานนี้ และยังมีการเปิดตัว E-Class Coupe และ Cabriolet เป็นครั้งแรกในงานนี้อีกด้วย

