จำนวนรถยนต์ที่ถูกส่งมอบจากผู้ผลิตถึงมือลูกค้าชาวไทย 645,833 คัน ลดลง 7.51% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกตลาดรถยนต์ในบ้านเรากำลังอยู่ในช่วง “ขาลง” สภาพการณ์ที่น่ากังวลเช่นนี้ แม้จะเป็นสิ่งท้าทายความสามารถการเอาตัวรอดของบริษัทรถยนต์ แต่ยังโชคดีที่เราได้เห็นค่ายรถต่างๆ ตบเท้าเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายปี Motor Expo งัดทั้งรถขายและรถโชว์มาประชันโฉมกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะเป็นค่ายที่เราท่านคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว รวมถึงผู้เล่นหน้าใหม่จากทางฝั่งจีนและอเมริกาก็มาอวดของขายของกับเขาด้วย
มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Thailand International Motor Expo 2023 จัดขึ้นโดย บริษัท สื่อสากล จำกัด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยานยนต์: ความหมายที่มากกว่า” รอบบุคคลทั่วไป มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2023 ณ อาคาร Impact Challenger 1 – 3 เมืองทองธานี สามารถเยี่ยมชมในวันธรรมดา เวลลา 12.00 – 22.00 น. และวันเสาร – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 22.00 น.
นอกเหนือจากการเดินทางขับรถมาด้วยตนเองแล้ว ยังมีบริการรถรับ – ส่ง ฟรี ! 4 เส้นทาง สำหรับท่านที่ไม่ต้องการเสียเวลาวนรถหาที่จอดเอง ดังนี้
- หมอชิต – IMPACT – หมอชิต
- หลักสี่ – IMPACT – หลักสี่
- หัวลำโพง – IMPACT – หัวลำโพง
- รังสิต – IMPACT – รังสิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ Click Here
สำหรับใครที่ไม่อยากจะมาเดินดูด้วยตาตนเอง ผมและทีมเว็บ นำรูปภาพบรรยากาศในงาน มาฝากกันไว้ตรงนี้ เลื่อนลงไปดูกันได้เลยครับ
เริ่มต้นจาก…
Aion
แบรนด์ในเครือ GAC ซึ่งเริ่มเข้ามาลุยตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2023 ก่อนจะประกาศเปิดตัวผลิตรุ่นแรกอย่าง Aion Y Plus ในวันที่ 9 กันยายน 2023 ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนราคาจำหน่ายของ Aion Y Plus มีการปรับเปลี่ยนตามกลยุทธ์ของค่ายอยู่หลายระลอด และล่าสุดเพิ่งจะมีการอัดโปรสู้คู่แข่ง ปรับราคารุ่น Aion Y Plus 490 Elite จาก 989,900 เหลือ 899,900 บาท และรุ่น Aion Y Plus 490 Premium จาก 1,099,900 เหลือ 999,900 บาท สำหรับจองในงาน Motor Expo และจดทะเบียนภายในวันที่ 31 มกราคม 2024
นอกจากนี้ ภายในบูธยังมีการนำรถอีก 3 รุ่น มาอวดโฉม ได้แก่ Hyper GT ซีดานประตูปีนกขุมพลังไฟฟ้า พละกำลัง 245 – 340 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง Hyper HT Fastback SUV ทรงมน ประตูปีนก ใช้ขุมพลังชุดเดียวกับ Hyper GT และ Hyper SSR สปอร์ตประตูปีนกขุมพลังไฟฟ้า พกแรงม้าจากโรงงาน 1,225 ตัว เกทับ Supercar เครื่องหลายสูบด้วยตัวเลขอัตราเร่งเคลมจากโรงงาน 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 1.9 วินาที (พี่จะรีบไปไหน…)
โปรโมชั่น Aion ที่งาน Motor Expo 2023
- ส่วนลด 100,000 บาท สำหรับ Aion Y Plus 490 Elite และ 490 Premium
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1
- ฟรี ค่าจดทะเบียน
- ฟรี Home Charger พร้อมติดตั้ง
- โปรแกรมดาวน์ 5% หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% หรือ ผ่อนนาน 84 เดือน
ทุกข้อเสนอ มีเงื่อนไขคือต้องช่วงงาน Motor Expo 2023 และจดทะเบียน ภายในวันที่ 31 มกราคม 2024
Audi
หนึ่งใน The Big Three German Automakers ยังคงคราคร่ำไปด้วยรถยนต์หลากหลายรุ่น แต่ไฮไลท์ของบูธในรอบนี้ ฝั่งรักษ์โลก มีทั้ง A7 Sportback 55 TFSI e ราคา 5,099,000 บาท พกขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร Turbo Plug-in Hybrid 367 แรงม้า 500 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ 17.9 kWh ที่แล่นด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 69 กิโลเมตร มาตรฐาน WLTP (อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่ Click Here) รวมถึง A8 L 60 TFSI e quattro Prestige S line (ชื่อยาวพอๆ กับรถ) ราคา 7,199,000 บาท ประจำการด้วยขุมพลังเบนซิน V6 3.0 ลิตร Turbo Plug-in Hybrid 462 แรงม้า 700 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ขนาดเท่า A7 แต่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 52 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP (อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่ Click Here)
ทางฝั่ง Performance มีไฮไลท์ 2 ลำจากตระกูล RS เริ่มจาก RS 4 Avant Compettion อัพเกรดล้อลายใหม่ ไฟหน้า Laser Light ปลายท่อไอเสีย RS Sports Plus สี Mattblack พร้อมปลดล็อกความเร็วสูงสุด Top Speed เพิ่มเป็น 290 km/h มาในราคา 6,499,000 บาท แพงกว่า RS 4 Avant ตัวปกติ 400,000 บาท (อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่ Click Here) ตามด้วย RS 5 Compettion ที่ถูกอัพเกรดจากรุ่นปกติแบบเดียวกับ RS 4 Avant Compettion พร้อมค่าตัว 6,599,000 บาท
โปรโมชั่น Audi ที่งาน Motor Expo 2023
- ดาวน์ 0 บาท + ดอกเบี้ย 0%
- ดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี เริ่มต้นผ่อน 25,000 บาท/เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 5 ปี
Bentley
ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับ Bentley ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากมียอดขายเพิ่มขึ้นในทุกๆปี สำหรับพระเอกของบูธ Bentley ในรอบนี้ ได้แก่ Flying Spur Hybrid Odyssean Edition รุ่นพิเศษคันแรกและคันเดียวในไทย ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจาก EXP 100 GT Concept มาพร้อมตัวถังภายนอกสีขาว Old English White (Solid) by Mulliner ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว และวัสดุตกแต่งสีเงิน Pale Brodgar ค่าตัวรวมอ็อพชั่นเบ็ดเสร็จ 17,842,600 บาท
อีกคันที่จอดอยู่ข้างกันคือ Bentayga Azure Hybrid สีเขียวเข้ม Viridian by Mulline หนึ่งในรุ่นย่อยของ Bentayga MY2024 ที่เพิ่งประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 19 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ Bentayga A MY2024 ได้ที่นี่ Click Here)
โปรโมชั่น Bentley ที่งาน Motor Expo 2023
- ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ
- เพิ่มการรับประกันตัวรถ และระบบ Hybrid นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- ของสมนาคุณจาก The Macallen
- บัตรส่วนลดเก้าอี้นวด OSIM
- แพ็กเกจพักผ่อน จาก RXV Wellness
BMW
BMW i5 รับหน้าที่ตัวชูโรงของบูธ BMW ในปีนี้ ครั้งแรกกับ Mid-size Sedan ขุมพลังไฟฟ้าจากแคว้นบาวาเรีย เปิดราคาจำหน่ายในไทย 4,999,000 บาท สำหรับรุ่น eDrive40 M Sport ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 340 แรงม้า 400 นิวตันเมตร (My Mode SPORT) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 81.2 kWh วิ่งได้ไกลสุด 582 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และราคา 5,599,000 บาท สำหรับรุ่น M60 xDrive รหัสนี้เป็นคู่ชกตรงรุ่นของ AMG EQE53 มีอาวุธไม่ลับเป็นมอเตอร์คู่ 601 แรงม้า 795 นิวตันเมตร (My Mode SPORT) ความจุแบตเตอรี่เท่ากับรุ่น eDrive40 แต่วิ่งได้ระยะสั้นลงนิดหน่อยเหลือ 516 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP
อีกรุ่นที่นำมาให้ชมกันภายในงานคือ 420i M Sport ราคา 3,699,000 บาท ขุมพลังเผ็ดน้อยที่ถูกเพิ่มเข้าใน 4-Series ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 184 แรงม้า 300 นิวตันเมตร แรงม้าน้อยกว่า 430i M Sport 74 ตัว อ็อพชั่นโดนทอนออกไปบางอย่าง เช่น หลังคากระจก ชุดมาตรวัด BMW Live Cockpit Professional และชุดเครื่องเสียง Harman Kardon แต่ช่วยประหยัดงบไปได้ 520,000 บาท
คันต่อมาที่คุณสามารถไปชมคันจริงที่งานคือ 740d M Sport ซีดาน Flagship คันใหญ่ เอาใจคนรักดีเซล มาพร้อมขุมพลังดีเซล 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร TwinPower Turbo 286 แรงม้า 650 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 18 แรงม้า 200 นิวตันเมตร (Mild-hybrid 48V) ได้พละกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร ค่าตัว 6,719,000 บาท จ่ายถูกว่า 750e xDrive 320,000 บาท แลกกับการหายตัวไปของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive และอ็อพชั่นแพรวพราวอีก 5 – 6 รายการ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ BMW i5 ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ BMW 420i M Sport ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ BMW 740d M Sport ได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น BMW ที่งาน Motor Expo 2023
BYD
ไฮไลท์ที่ดูเหมือนไม่ใช่ไฮไลท์เพราะถูกเอาไปซุกไว้เกือบหลังสุดของบูธ BYD ปีนี้ก็คือ Yangwag U8 รถ SUV สายลุย ภายใต้แบรนด์หรูของ BYD ที่พกมอเตอร์ 4 ตัว สามารถกระจายกำลังในแต่ละล้อได้อย่างอิสระ แรงม้ารวมสูงสุด 1,000 ตัว และแรงบิดสูงสุด 1,680 นิวตันเมตร ผู้ที่สนใจสามารถยลโฉมคันจริง พร้อมดูโชว์อภินิหารหมุนรอบตัวเอง ตามกำหนดการดังนี้
- วันธรรมดา เวลา 15:15 น. / 17:00 น. / 18:45 น. / 20:30 น.
- เสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 13:30 น. / 15:15 น. / 17:00 น. /18:45
ส่วนรถรุ่นอื่นที่นำมาจอดโชว์ด้านหน้าบูธยังคงเป็น 3 รุ่นหลักที่ทยอยเปิดตัวบุกตลาด EV เมืองไทยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 ไม่ว่าจะเป็น Atto 3, Dolphin และ Seal เชื่อว่าปลายปีนี้จนถึงปีหน้า ยอดขายของ 3 ทหารเสือจะยังคงไม่แผ่วลงเท่าไหร่นัก แม้จะมีผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนโผล่มาทักทายกันอย่างไม่ขาดสายตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ทาง RÊVER ก็ใจดีออกโปรฯ รับน้องกันอย่างอบอุ่นชนิดที่ต้องถามว่า เหลือกำไรเท่าไหร่ !? เรียกได้ว่าสู้กันดุเดือดเลือดพล่านทีเดียวสำหรับสมรภูมิ EV ในไทยช่วงนี้
ข้อมูลทั้งหมดของ BYD Atto 3 อ่านได้ที่นี่ Click Here
ข้อมูลทั้งหมดของ BYD Dolphin อ่านได้ที่นี่ Click Here
ข้อมูลทั้งหมดของ BYD Seal อ่านได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น BYD ที่งาน Motor Expo 2023 และช่วงปลายปี 2023 (29 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2023)
Atto 3
- ฟรี Cash Back 100,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ
- ฟรี สมาร์ทโฮมชาร์จเจอร์ ยี่ห้อ ABB
- สิทธิพิเศษ RÊVER Care
Dolphin
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อมพ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ
- ฟรี โฮมชาร์จเจอร์
- ฟรี ค่าแรงติดตั้งโฮมชาร์จเจอร์พร้อมอุปกรณ์
- ฟรี ค่าจดทะเบียนรถ
- ฟรี บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.
- สิทธิพิเศษ ! RÊVER Care
Seal รุ่น Dynamic
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 2 ปี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ
- ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ ยี่ห้อ ABB
- ฟรี ค่าแรงติดตั้งโฮมชาร์จเจอร์พร้อมอุปกรณ์
- สิทธิพิเศษ ! RÊVER Care
Changan
ตำแหน่งบูธสุดฮอตภายในงาน Motor Expo 2023 เป็นของค่ายไหนไปไม่ได้นอกจาก Changan โดยในวันที่ 29 พฤศจิกายน (รอบสื่อมวลชน) ที่ผ่านมา เพิ่งจะมีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของผลผลิต 2 รุ่นแรก ภายใต้แบรนด์ Deepal (อ่านว่า ดีพ – พอล) ที่ถูกส่งเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่ม EV เมืองไทย นั่นก็คือ Deepal L07 และ Deepal S07
Deepal L07 เป็นรถยนต์ Fastback พิกัด D-Segment ขนาดลำตัวยาว 4.82 เมตร ใกล้เคียงกันกับ BYD Seal มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง 258 แรงม้า (PS) 320 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 66.8 kWh พร้อมระบบการจัดการแบตเตอรี่ดิจิทัลแบบ iBC (iBC Digital Battery Management) ผสานการทำงานระหว่างการวิเคราะห์จากตัวรถและบนระบบ Clound รองรับ DC Fast สูงสุด 78 kW เคลมตัวเลขระยะทางวิ่งไกลสุด 580 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ค่าตัว 1,329,000 บาท แพงกว่า BYD Seal รุ่นเริ่มต้น Dynamic หลักพัน งานนี้ฟัดกันสนุก !
ขยับขึ้นมาอีกนิดเป็น Deepal S07 เหมาะกับสายรูดฝาท่อระบายนำ้ กทม. เพราะเป็นสายพันธุ์ Crossover SUV ใต้ท้องสูง ขนาดโตกว่า Honda CR-V นิดๆ รายละเอียดด้านขุมพลังขับเคลื่อนยกมาจาก L07 แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่เยอะกว่า ตัวถังต้านลมมากกว่า ทำให้ระยะทางวิ่งสูงสุดบนโบร์ชัวร์ลดลงจาก 540 เหลือ 485 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ใช้งานจริงน่าจะเหลือซัก 400 ต้นๆ มาพร้อมกับราคาจำหน่าย 1,399,000 บาท หลายคนบอกแพง เพราะเอาไปเทียบกับ Atto 3 ซึ่งเป็นรถคนละขนาดกัน อันนี้ก็ดูใจร้ายเกินไปหน่อย
โดยภาพรวม การเดินทางบนนถนนสาย EV ในเมืองไทยของ L07 อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมียังมีหนามตำใจอย่าง BYD Seal และ ORA 07 ที่จ่าหน้าซองเป็นรถไฟฟ้า D-Segment จากแดนจีนเหมือนกัน แตกต่างจาก S07 ที่ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีคู่แข่งตรงรุ่นเป๊ะๆ มีเวลาพอที่จะกวาดยอดขายในกลุ่มนี้ไปได้จนกว่า BYD Sea Lion 07 (07 อีกแล้ว) จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
โปรโมชั่น Deepal ที่งาน Motor Expo 2023
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี
- ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อม บริการติดตั้ง
- ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่ และ สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า V2L
- ฟรี ค่าจดทะเบียนรถ
- รับประกันตัวรถ 8 ปีหรือ 160,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ยกเว้น ชิ้นส่วนพิเศษ วัสดุสิ้นเปลือง และชิ้นส่วนที่สึกหรอ*
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
- ฟรี การบำรุงรักษา 8 ปี หรือ 10 ครั้ง
- ข้อเสนอดอกเบี้ย 1.88% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน สำหรับแพ็คเกจมาตรฐาน
Ford
บูธ Ford ปีนี้ ไม่ได้มีรถรุ่นใหม่มาจัดแสดง ยังคงเป็นไลน์อัพของ Everest, Ranger รุ่นปกติ และ Ranger RAPTOR ไร้เงารุ่น PHEV (Plug-in Hybrid) เพราะไม่มีแผนทำตลาดในไทย ยอดขายของเดือนกันยายน – ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นเครื่องการันตีว่า Ranger จะยังคงยืนตำแหน่งรองอันดับ 2 ด้านยอดขายในกลุ่มกระบะพิกัด 1 ตันในบ้านเราต่อไปแม้ว่าจะผู้ท้าชิงสำหรับอย่าง Mitsubishi Triton ใหม่ จะปล่อยหมัดฮุกดอกแรกใส่แล้วก็ตาม กระนั้นแล้ว Ford ยังคงมีแคมเปญส่งเสริมการตลาดออกมาอยู่เรื่อยๆ
พร้อมกันน้ี Ford ยังคงกระหน่ำอัดโปรหวังระบายสต็อก Mustang รุ่นปัจจุบัน เจเนอเรชั่นที่ 6 ก่อนถึงกำหนดการเปิดตัว All NEW Ford Mustang เจเนอเรชั่นที่ 7 ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใดช่วงหนึ่งของปี 2024 ใครที่เล็งรุ่นปัจจุบันเอาไว้ นี่คือช่วงเวลาทองของพวกคุณแล้ว
โปรโมชั่น Ford ที่งาน Motor Expo 2023
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน ดาวน์ 25% สำหรับ Ranger รุ่น XLS รุ่นสปอร์ต 4×2 เกียร์อัตโนมัติ และรุ่น Wiltrak 4×4
- ดอกเบี้ยพิเศษ 1.39% นาน 48 เดือน ดาวน์ 25% สำหรับ Everest Sport
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน ดาวน์ 25% สำหรับ Mustang
- แคมเปญ ดาวน์ 0% ขับฟรี 3 เดือน เมื่อจัดไฟแนนซ์ผ่านฟอร์ด ลีสซิ่ง โดยธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เฉพาะข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
GWM
จากข้อมูลยอดขายสะสมสูงสุดในไทย ระหว่างเดือน มกราคม – กันยายน 2023 GWM รั้งอันดับ 12 เป็นรองแม้กระทั้ง Neta ที่ขายรถรุ่นเดียว ดูว่าเหมือนว่าค่ายกำแพงเมืองจีนจะยังต้องเหนื่อยกันอีกเยอะ จากการตั้งราคาจำหน่ายที่ดูแพงในสายตาลูกค้าชาวไทยส่วนใหญ่ ทำให้ GWM ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ นั่นอาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราได้เห็นราคาจำหน่ายของ ORA 07 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รุ่นเริ่มต้น Long Range 1,299,000 บาท และรุ่น Performance 1,499,000 บาท เทียบรุ่นย่อยต่อรุ่นย่อย ถูกกว่าคู่แข่งหลักแสน
ขุมพลังขับเคลื่อนของ ORA 07 Long Range เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ความจุ 83.499 kWh พร้อมระบบ V2L (Vehicle to Load) ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็มเคลมเอาไว้ที่ 640 กิโลเมตร บนมาตรฐานทดสอบ NEDC ขณะที่รุ่น Performance จะมีมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งเพื่อรับหน้าที่หมุนล้อคู่หน้า ได้แรงม้าสูงสุดเพิ่มเป็น 408 ตัว แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร พอตามดูไฟท้าย BYD Seal Performance ได้
นอกเหนือจาก ORA แล้ว แบรนด์อื่นๆ ภายใต้ชายตา GWM ก็ยังคงถูกนำมาจอดเรียงรายให้ได้ยลโฉมกันเหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น Haval H6, Haval Jolion, TANK 500 ตลอดจน TANK 300 เวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษสีเขียวมรกต ก็มีมาโชว์เป็นแนวทางด้วยเช่นกัน
โปรโมชั่น GWM ที่งาน Motor Expo 2023
ORA 07
- ดอกเบี้ย 1.68%* เมื่อดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน
- ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง
- ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง GPSI ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี
- ฟรี บริการแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตและระบบสั่งการภายในรถ เป็นระยะเวลา 3 ปี
ORA Good Cat / Good Cat GT
- โปรแกรมช่วยผ่อนระยะเวลานานถึง 12 เดือน รวมมูลค่าสูงสุด 120,000 บาท เฉพาะสีและรุ่นที่กำหนด
- ฟรี ค่าจดทะเบียนรถยนต์และค่าดำเนินการ
Honda
มาต่อกันที่บูธ Honda ค่ายเดียวที่มียอดขายสวนกระแสตลาด ยอดสะสมของปี 2024 โตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คาดเป็นอานิสงค์จาก CR-V ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี และเริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าที่สั่งจองได้ตามปกติ
แม้ครั้งนี้จะยังไม่มีการนำรถต้นแบบ Prelude Concept มายั่วกระเป๋าแฟนๆ รุ่นเดอะ แต่สำหรับคนที่ต้องการไปลองจับลองนั่งรถยนต์ Honda ที่ออกจำหน่ายในไทยทุกรุ่น คุณจะได้ลองแบบเต็มอิ่ม สำหรับพระเอกของบูธในครั้งนี้ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก All NEW Honda Accord รุ่นที่ 11 ที่เพิ่งประกาศราคาไปเมื่อ 17 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา มีครบทั้งไลน์อัพ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นย่อยหลักอย่าง E, EL และ RS รวมไปถึงรุ่นตกแต่งพิเศษจาก Modulo ได้ชุดเสกิร์ตรอบคันสีเดียวกับตัวรถช่วยทำให้มาดภายนอกดูคลีนขึ้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ Honda Accord e:HEV ได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น Honda ที่งาน Motor Expo 2023
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือช่วยผ่อน 1 ปี 42,000 – 54,000 บาท สำหรับ City และ WR-V
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือช่วยผ่อน 1 ปี 42,000 – 54,000 บาท สำหรับ Civic และ HR-V
- แพ็คเกจ Honda Exclusive Care ประกอบด้วย
– ฟรี ประกันภัย 1 ปี
– ฟรี แพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
– ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร
