การเข้ามาบริหารงานด้วยตัวเองของบริษัทแม่ ทำเอาบูธ Hyundai ภายในงาน Motor Expo 2023 ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ… นอกเหนือจาก N Vision 74, i20 WRC, IONIQ 7 Concept และ IONIQ 6 ที่เป็นรถโชว์ พี่ Hyundai แกเล่นเอารถใหม่มาเปิดตัวพร้อมประกาศราคาที่งานฯ รวดเดียวถึง 3 รุ่น เริ่มตั้งแต่ IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าตัวถัง Hatchback กึ่ง Crossover ที่ถูกนำมาล่อใจลูกค้าชาวไทยอยู่หลายหน รอบนี้ได้เวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มากันทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Premium มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง 170 แรงม้า (PS) 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 58.0 kWh วิ่งไกลสุด 384 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการอัดประจุไฟฟ้าด้วย DC Fastcharge สูงถึง 350kW สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,699,000 บาท
ถ้าคุณคิดว่าระยะทางวิ่งทำได้น้อยเกินไป ยังมีรุ่น Exclusive ราคา 1,899,000 บาท และ First Edition ราคา 2,399,000 บาท เป็นทางเลือก 2 รุ่นน้ีมีสิ่งที่เหมือนกันคือขุมพลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง 217 แรงม้า (PS) 350 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ความจุ 72.6 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 481 กิโลเมตร เมื่อทดสอบในมาตรฐาน WLTP ด้านอุปกรณ์ / options มีความแตกต่างกันไม่มาก รุ่น First Edion จะมีสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นจากรุ่น Exclusive อาทิ หลังคากระจก Panoramic Roof, ระบบอุ่นและระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า, เบาะคนขับแบบปรับเอน Zero Gravity, เบาะคนขับพร้อม Memory Seatแ และล้อขนาด 20 นิ้ว ส่วนต่าง 500,000 บาท คุ้มที่จะจ่ายเพิ่มหรือไม่… ให้เจ้าของเงินพิจารณากันเอาเองครับ
ได้ข่าวมาว่ารุ่น First Edion ถูกสั่งจองครบโควต้าล็อตแรกเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ประกาศราคา (ปรบมือ)
คันต่อมาคือ Elantra N คู่ชกตรงพิกัดของ Civic Type R และ GR Corolla มาพร้อมหน้าตาดุโหดกว่า Elantra ปกติหลายขุม ภายใต้ฝากระโปรงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Turbo 280 แรงม้า 392 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ N 8-speed Wet Dual Clutch Transmission (DCT) ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า FWD พร้อมระบบเฟืองท้าย e-LSD (Electronic-limited Slip Differential) ค่าตัวอยู่ที่ 2,999,000 บาท
ส่วนอีกคันนำเข้ามาขายอย่างน่าฉงนสนเท่ห์คือ Santa Fe Exclusive ไซส์พิกัด D-SUV เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ขุมพลังเบนซิน 1.6 ลิตร Turbo พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid 230 แรงม้า 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Active On-demand ล็อตแรกๆ มีเฉพาะภายในสีดำ ส่วนภายในสีนำ้ตาลจะตามสมทบในภายหลัง ที่บอกว่าน่าฉงนก็เพราะ ตอนนี้ในต่างประเทศ เพิ่งจะมีการเปิดผ้าคลุมรุ่นเปลี่ยนโฉม Full Modelchange ไปหมาดๆ คงกะว่าเอามาขายคั่นเวลากระมัง…
นอกเหนือจากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวไปข้างต้น รถยนต์รุ่นอื่นๆ ก็ถูกนำมาจอดเคียงบ่าเคียงไหล่กันอย่างอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็น Statgazer, Creta, Staria/Staria Premium รวมทั้งพี่ใหญ่อย่าง H-1 Elite FE (Final Edition) รุ่นส่งท้าย ก็มาร่วมงานกับบรรดาน้องๆ ด้วยเช่นกัน
อ่านข้อมูลทั้งหมดของ Hyundai IONIQ 5 ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลทั้งหมดของ Hyundai Elantra N ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลทั้งหมดของ Hyundai Santa Fe Exclusive ได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น Hyundai ที่งาน Motor Expo 2023
- ดอกเบี้ย 0%
- ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่ง
- ข้อเสนออื่น ๆ
Isuzu
ว่าที่แชมป์ยอดขายในกลุ่ม Pick-up 1-ton 3 ปีซ้อน อย่าง D-Max ถูกนำมาจอดเรียงรายภายในบูธ Isuzu ทุกรูปแบบตัวถังยกเว้นรุ่น Spark หัวเดี่ยว ในรุ่น Minorchange ปี 2023 มีการปรับหน้าตาของรุ่นปกติใหม่ยกแผง ชุดไฟหน้าถูกปรับรายละเอียดภายในโคม เส้นไฟ LED Day-time Running Light ดูเผินๆ แอบคล้าย Honda Civic FE แต่ของ D-Max เส้นหนากว่า มีรายละเอียดมากกว่า ไฟเลี้ยวถูกย้ายเข้าไปอยู่ในโคมไฟหลัก ประกบกับชุดกระจังหน้าใหม่ที่ดูมีเหลี่ยมสันมากขึ้น ด้านอ็อพชั่นจัดมาให้อย่างเหมาะสมตามรุ่นย่อยและราคา ในรุ่นท็อปมีระบบ Advance Safety ติดตั้งมาให้ครบตั้งแต่ MY2022 แล้ว แต่สิ่งที่หลายคนถามหา เช่น กล้องรอบคัน ในรุ่น Minorchange 2023 ก็ยังไม่มีมาให้
ด้าน MU-X ปีนี้ ยังไม่มีอะไรใหม่ นอกจากรุ่นตกแต่งพิเศษ Phantom Collection เอาใจคนรักสีดำ สำหรับคนที่คอยว่าเมื่อไหร่รุ่น Minorchange ของ MU-X จะมา คุณอาจต้องรอไปอีกราวๆ 2 ปี เพราะปีหน้าจะเป็นคิวเปิดตัวของ D-Max Minorchange รุ่นพิเศษ X-Sereies และ X-Series Speed
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ D-Max Minorchange ได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น Isuzu ที่งาน Motor Expo 2023
Jeep
เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ในเครือ MGC Asia เปิดรับจองสิทธิ์ Jeep Grand Cherokee Summit Reserve 4xe ภายในงานฯ รถคันนี้ถือเป็นตัวแทนของค่ายที่จะเข้ามาเปลี่ยนความเชื่อเดิมๆ ว่ารถ Jeep ต้องกินน้ำมัน ขุมพลัง 4xe เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พ่วงด้วยแบตเตอรี่ ความจุ 17.3 kWh สามารถสร้างพละกำลังรวมได้ถึง 318 แรงม้า 637 นิวตันเมตร เรี่ยวแรงพอๆ กับเครื่อง Hemi V8 5.7 ลิตร ที่เคยประการในโฉมที่แล้ว
ราคาประมาณการของ Grand Cherokee Summit Reserve 4xe จะอยู่ในช่วง 5,400,000 – 5,500,000 บาท หรือถ้าใครชอบหน้าตาดุขึ้นกว่านี้อีกหน่อย ก็ยังมี Wrangler Rubicon ให้เลือก ในราคาเริ่มต้น 5,190,000 บาท สำหรับรุ่น 2 ประตู ฐานล้อสั้น และราคาเริ่มต้น 5,290,000 บาท ในรุ่น 4 ประตู ฐานล้อยาว
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ Jeep Grand Cherokee Summit Reserve 4xe ได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น Jeep ที่งาน Motor Expo 2023
KIA
ที่บูธของ KIA ประจำปีนี้ Carnival จะไม่เหงากายอีกต่อไป เพราะมี Sorento มาจอดโชว์ถึง 2 คัน พร้อมเปิดสเป็คสำหรับเวอร์ชั่นไทยที่คาดว่าจะเตรียมประกาศเร็วๆ นี้ มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย 2 รุ่นแรก ได้แก่ Smart Plus HEV และ Premium HEV ใช้ขุมพลังขุมพลัง Smartstream เบนซิน 1.6 ลิตร Turbo พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid 230 แรงม้า 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบเดียวกับ Hyundai Santa Fe Exclusive มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
ส่วนอีกรุ่นที่เปิดสเป็คไปแล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาจอดโชว์ มีชื่อว่า Premium Plus PHEV พื้นฐานเครื่องยนต์เหมือน HEV แต่อัพเกรดระบบแบตเตอรี่ให้มีความจุเพิ่มขึ้นจาก 1.49 เป็น 13.8 kWh มอบระยะทางวิ่งสูงสุดด้วยไฟฟ้าเพียวๆ 49 กิโลเมตร อีกทั้งยังทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังมากขึ้น ทำให้แรงม้ารวมกระโดดขึ้นไปอยู่ที่ 265 ตัว แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เท่านั้น
โปรโมชั่น KIA ที่งาน Motor Expo 2023
- สอบถามเพิ่มเติมได้ที่บูธ KIA
Lotus
พระเอกของบูธ Lotus เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ELETRE รถ SUV รูปทรงคล้าย Lamborghini Urus แต่แรงแบบเงียบๆ ด้วยขุมพลังไฟฟ้าที่มีให้เลือก 2 ระดับความแรง เริ่มจากรุ่น S มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 603 แรงม้า 710 นิวตันเมตร กระโจน 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 4.5 วินาที และวิ่งได้ไกลสูงสุด 600 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ด้วยอำนาจของแบตเตอรี่ Lithium Ion Polymer ความจุ 112 kWh ตามด้วยรุ่นแรงอย่าง Eletra R ที่สามารถพุ่งทะยานจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาแค่ 2.95 วินาที สาเหตุที่ SUV คันโตสามารถเหาะเหินเดินอากาศไวปาน Supercar เครื่องหลายสูบ ก็เพราะพลังจากมอเตอร์คู่ 905 แรงม้า 985 นิวตันเมตร นั่นเอง
Lotus Eletre ถูกนำเข้ามาจากโรงงานผลิตในประเทศจีน ราคาจำหน่ายเริ่มต้นในบ้านเรา อยู่ที่ 5,890,000 บาท สามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ ระบบแสดงภาพด้านข้างจากกล้อง ทำหน้าที่แทนกระจกมองข้างแบบปกติ ในราคา 135,000 บาท หรือจะเป็นแพ็คเกจเบาะนั่ง Executive Seat Pack 4 ที่นั่ง จ่ายเงินเพิ่ม 335,000 บาท สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น Lotus ที่งาน Motor Expo 2023
Mazda
Mazda เป็นค่ายที่ทำเอาคุณ J!MMY ของเราถึงกับว้าวุ่น หลังจากที่ภายในงานมีการเปิดตัว Sedan แถวบน (คล้ายๆ กับปลาหมึกแถวบนที่มักตัวใหญ่) อย่าง Mazda 6 รุ่นพิเศษ 20th Anniversary Edition ซึ่งถูกสั่งนำเข้ามาทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น ในราคาค่าตัว 2,400,000 บาท (ราคาประมาณการโดย Mazda) ที่สามารถซื้อ Mazda 3 Sedan และ Fastback ได้พร้อมกัน 2 คัน สิ่งที่คุณจะได้กลับไปคือความ Limited 1 ในจำนวน 100 คัน ในประเทศไทย
Mazda 6 20th Anniversary Edition ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นครบ 20 ปี ภายใต้ชื่อ Atenza มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นปกติ ได้แก่ สีพิเศษเฉพาะรุ่น สีแดง Artisan Red Premium Metallic กระจังหน้าสีเงิน Gunmetal ล้ออัลลอยสีทูโทนปัดเงา ขนาด 19 นิ้ว ภายในห้องโดยสารโทนสีแทน – นำ้ตาล เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง NAPPA โลโก้ 20th Anniversary Edition บริเวณแก้มคู่หน้า และโลโก้ 20th Anniversary Edition บริเวณพนักพิงศีรษะเบาะนั่งคู่หน้า อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่ Click Here
นอกเหนือจาก Mazda ก็ยังมีรถรุ่นอื่นๆ มาจอดโชว์จอดขาย ทั้ง Mazda 2 Minorchange 2023, Mazda 3 Sedan/Fastback, Mazda CX-3, Cx-30 และ Mazda CX-5/CX-8 สำหรับใครที่รอ Mazda CX-60 อาจต้องรอไปอีกซักระยะ เพราะก่อนที่ CX-60 จะมา เราอาจได้เห็น Mazda CX-5 รุ่นปรับโฉม Minorchange (หน้าตาเหมือนเวอร์ชั่นญี่ปุ่น) กันอีกรอบ
โปรโมชั่น Mazda ที่งาน Motor Expo 2023
Mazda2
- ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี 2 หรือ ดอกเบี้ย 0.59% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี หรือ ดอกเบี้ย 1.39% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
- ฟรี แพ็กเกจบำรุงรักษารถตามระยะ Mazda Care 5 ปี (รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ และของเหลว)
Mazda3 และ Mazda3 Carbon Edition
- ดอกเบี้ย 2.39% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) หรือ ดอกเบี้ย 1.39% ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda CX-3
- ดอกเบี้ย 2.39% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษารถตามระยะ Mazda Care 5 ปี (รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ และของเหลว) หรือ ดอกเบี้ย 1.19% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda CX-30 และ Mazda CX-30 Carbon Edition
- ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี หรือ ดอกเบี้ย 0.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
- ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS)
Mazda CX-5
- ดอกเบี้ย 2.39% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) หรือ ดอกเบี้ย 1.39% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
Mazda CX-8
- ดอกเบี้ย 2.39% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) 6 หรือ ดอกเบี้ย 1.49% ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี 2
Mercedes-benz
Mercedes-Benz (ประเทศไทย) เชิญชวนลูกค้าชาวไทยสัมผัสมิติใหม่ของการออกแบบบูธจัดแสดงรถยนต์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “FUTURE FOR ALL” สะท้อนถึงความเท่าเทียมของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ด้วยการออกแบบบูธที่ไร้ทางต่างระดับแบบ Universal Design ให้ทุกคนเข้าถึงบูธ Mercedes-Bemz ได้อย่างไร้รอยต่อ
รถใหม่ที่นำมาโชว์ภายในบูธครั้งนี้มี 4 รุ่น ได้แก่ GLC 220 d 4MATIC Avantgarde รุ่นย่อยใหม่ แม้หน้าตาจะดูจืดกว่า GLC 350 e 4MATIC AMG Dynmaic แต่ได้เครื่องยนต์รหัส OM654 2.0 ลิตร Turbo MHEV 197 แรงม้า 440 นิวตันเมตร เอาใจคนชอบดีเซล ต่อมาเป็น C 220 d AMG Line รุ่นย่อยใหม่ที่เข้ามาแทนที่รุ่น Avantgarde และ AMG Dynamic หน้าตาคล้าย C 350 e AMG Dynamic แต่ยังไม่ได้ไฟหน้า Digital Light และเครื่องเสียง Burmester นอกจากนี้ ยังมี SUV พี่ใหญ่อย่าง GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นปรับโฉม Facelift มาพร้อมไฟหน้า – ไฟท้ายใหม่ ช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Turbo เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ISG ตลอดจนอ็อพชั่นอื่นๆ อีกหลายรายการ
ขณะที่อีกรุ่นเป็น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art รุ่นย่อยเริ่มต้นของ EQE 350 SUV ราคาถูกว่ารุ่น AMG Dynamic 800,000 บาท แลกกับข้าวของบางอย่างที่หายไป อาทิ ระบบไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT หน้าจอ MBUX Hyperscreen ช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC เครื่องเสียง Burmester 3D Surround Sound System ฯลฯ แต่ยังได้ขุมพลังชุดเดียวกันแบบมอเตอร์คู่ 292 แรงม้า765 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ ความจุ 90.6 kWh แล่นได้ไกลสุด 558 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ GLC 220 d 4MATIC Avantgarde ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ C 220 d AMG Line ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ GLE 300d AMF Dynamic Facelift ได้ที่นี่ Click Here
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ EQE 350 4MATIC SUV ได้ที่นี่ Click Here
โปรโมชั่น Mercedes-Benz ที่งาน Motor Expo 2023
- ข้อเสนอพิเศษ สอบถามได้ที่บูธ Mercedes-Benz
MG
สำหรับ MG ในรอบนี้ แม้จะไม่มีงานแถลงข่าวประกาศราคารถรุ่นใหม่ภายในงาน ทว่ามีการนำผลผลิตใหม่ 2 รุ่นมาโชว์พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ ได้แก่ MG Cyberster สปอร์ตเปิดประทุนประตุปีกนกขุมพลังไฟฟ้า มอเตอร์คู่ 544 แรงม้า 725 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 77 kWh สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.2 วินาที ดีไซน์ภายนอกถอดแบบจอดรถต้นแบบ Cyberster Concept ที่เคยนำมาจอดเรียกเสียงกรี๊ดที่งาน Motor Expo 2 ปีที่แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถวางเงินจอง 10,000 บาท เพื่อแลกเป็นส่วนลดเงินคืน 50,000 บาท ในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งทาง MG ยังไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่…
อีกรุ่นได้แก่ IM LS6 รถ SUV ท้ายลาดสไตล์ Coupe ขุมพลังไฟฟ้า โดยความร่วมมือของ SAIC Motor กับ Alibaba และ Shanghai Zhangjiang Hi-Tech ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 776 แรงม้า 800 นิวตันเมตร เคลมตัวเลขอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากโรงงาน ที่ 3.48 วินาที รุ่นนี้… ยังไม่ขาย
นอกจาก Cyberster และ IM LS6 แล้ว ยังมีรถรุ่นอื่นวางจำหน่าย คันที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับสาย EV คือ MG 4 ที่ปรับราคาลงมาเหลือ 769,000 – 869,000 บาท และ ZS EV ลดราคาเหลือ 859,000 – 929,000 บาท (ลดราคารุ่นละ 100,000 บาท) โปรโมชัน EV ล็อตสุดท้ายก่อนหมดมาตราการสนับสนุนของภาครัฐ (EV3.0)
โปรโมชั่น MG ที่งาน Motor Expo 2023
รถยนต์ไฟฟ้า
- รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร สำหรับทุกรุ่น
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร สำหรับ MG Maxus 9
- ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง สำหรับทุกรุ่น
- MG4 ELECTRIC ราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 769,000 บาท และ MG ZS EV เริ่มต้นที่ 859,000 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี สำหรับ MG EP Plus และ MG ES
- สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถไฟฟ้า ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม สามารถชาร์จไฟที่ MG SUPER CHARGE ทั้ง 146 แห่งทั่วประเทศไทย โดยเอ็มจีจ่ายคืนให้เท่ากับที่ยอดเติม 100%
รถยนต์สันดาป
- ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
- ราคาพิเศษสำหรับ MG ZS เริ่มต้นที่ 629,000 บาท MG VS HEV เริ่มต้นที่ 739,000 บาท และ MG HS รุ่น D สี SCARLET RED ราคาพิเศษ 899,000 บาท
- Trade in Campaign เปลี่ยนรถยนต์ยี่ห้อใดก็ได้เป็น NEW MG5 คันใหม่ รับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท ในทุกรุ่นย่อย ยกเว้น MG5 10th Anniversary Special Edition
