• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0809032_ปฏ การจ บตามจ บช แต นไปเจอแฟนเก_part2

admin79 by admin79
September 6, 2025
in Uncategorized
0
N0809032_ปฏ การจ บตามจ บช แต นไปเจอแฟนเก_part2

ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ตลอดช่วงปี 2012 ถือเป็นช่วงเวลาหรรษาหน้าชื่นแต่อกตรมของ
ทั้งลูกค้า และผู้ผลิตรถยนต์ เพราะหลายรายพึ่งจะฟื้นตัวจากสภาพมหาอุทกภัยในเขตพื้นที่
ราบลุ่มภาคกลางกันมาหมาดๆ กำลังซื้อมหาศาลที่ชะงักงันมาตั้งแต่ปี 2011 ต่อเนื่องมาถึง
ปี 2012 ก็มียอดค้างส่งมอบมากพออยู่แล้ว ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ

อย่างไรก็ตาม อานิสงค์ จากโครงการให้ส่วนลดภาษี สงสุด 100,000 บาท แก่ผู้ซื้อรถคันแรก
ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของเมืองไทยในปีนี้ เร่งผลิตกันขนานใหญ่
จนทำให้ปีนี้ นอกจากประเทศไทย จะจัดงานฉลองยอดผลิตรถยนต์ครบ 2 ล้านคัน ใน 1 ปี
ได้แล้ว ยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้ ยังประมาณการกันว่าอาจเติบโตก้าวกระโดดถึง
เกินกว่า 1.2 ล้านคัน!!! ทำลายทุกสถิติ ที่เคยมีมากันเลยทีเดียว

ยิ่งโดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์ 2 ราย คือ ทั้ง Honda และ Chevrolet กระหน้ำเปิดตัวรถยนต์
กันทุกเดือนชนิดแทบไม่หายใจหายคอกันทันเลย ยิ่งมีส่วนเร่งให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจ
ซื้อรถมากยิ่งขึ้น และแน่นอน ยอดสั่งจองของ Honda นั้น ค้างยาวนานมากข้ามปีไปไกล
ขณะที่ Suzuki ก็เป็นผู้ผลิตอีกราย ที่ได้รับผลกระทบ จากการผลิตส่งมอบไม่ทัน ดังนั้น
ถ้าจองรถยนต์วันนี้ อาจต้องไปรับรถกันในเดือนธันวาคม 2013 กันเลยทีเดียว! ถือว่า
เป็นปีที่ บริษัทรถยนต์ต่างเก็บเกี่ยวยอดขายและรายได้กันชื่นมื่นไปตามๆกัน

กระนั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วง ไม่เพียงแค่ว่า ลูกค้าที่สั่งจองรถไป และยื่นใช้สิทธิ์รถคันแรก
ทัน 31 ธันวาคม 2012 จะรับรถกันได้เมื่อไหร่ การขอใช้สิทธิ์จะเรียบร้อย ได้เงินคืน
ตามต้องการหรือไม่ แต่ยังมีความเป็นห่วงจากภาคการเงินการคลังว่า ถ้าลูกค้ากลุ่มนี้
ผ่อนส่งไม่ไหว ขอคืนรถ จะทำอย่างไร เพราะถ้าผ่อนส่งไม่ไหว เท่ากับว่า เงินที่เพิ่ง
ได้รับมาจากรัฐบาล 100,000 บาท ก็อาจจะหามาคืนให้กับรัฐบาล ไม่ได้ด้วย เกิดสภาพ
หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งปริมาณการซื้อรถอย่างบ้าระห่ำของคนไทยในปีนี้ มีแนวโน้มจะไปฉุดรั้งให้
ตลาดรถยนต์ปีหน้า เกิดการชะลอตัว ในช่วงครึ่งปีแรก พอสมควร เนื่องจาก กำลังซื้อ
ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า ถูกเร่งให้มาตัดสินใจซื้อในรถในปี 2012 แทน
จนทำให้ตัวเลขยอดขายรถ สูงเกินกว่า การเติบโตของสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง

ขณะเดียวกัน บริษัทรถยนต์เอง ก็เร่งเดินเครื่องผลิตรถยนต์กันเต็มอัตราศึก ดังนั้น
โอกาสที่เราจะเห็นรถหลุด QC หรือมี Defect ก็อาจจะเกิดขึ้นได้มากกว่าช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งก็เป็นปัญหาที่ผู้บริโภค และหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชน ทุกฝ่าย จะต้อง
หาทางออกในการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืนร่วมกันต่อไป

สำหรับแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในปีหน้านั้น ปัจจัยที่น่าเป็นห่วง อยู่ที่สถานการณ์
ทั้งภัยพิบัติ ความวุ่นวายทางการเมือง ที่ยังครุกรุ่นอยู่ และพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ จาก
ทุกขั้วฝ่าย แนวโน้มราคาน้ำมัน และปัญหาผลกระทบจากเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป
กับสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มส่งสัญญาณมายังประเทศไทยในบางกลุ่มธุรกิจกันแล้ว

แต่ที่แน่ๆ ทุกค่าย ยังคงมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ กันอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเพรียง
เหมือนเช่นเคย เพียงแต่ ปริมาณ รถยนต์รุ่นใหม่ อาจจะพอกัน หรือไม่มากเท่าปี 2012

จากการรวบรวมข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา พบว่า แนวโน้มของรถยนต์รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวตลอดช่วงปี
2013 ในเมืองไทย จะเน้นหนักไปในกลุ่มรถยนต์นั่ง Passenger Car เป็นหลัก โดยมีทั้งรุ่นเล็ก
รุ่นใหญ่ ประโคมกันเปิดตัวออกมา ไม่แพ้ปี 2012 รถรุ่นสำคัญที่ควรจับตามองในปี 2013 นี้ได้แก่
Toyota Vios , Toyota Yaris (ชื่อที่สวมทับให้กับ ECO Car คันใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดตัวที่ไหนใน
โลกมาก่อน) Honda Accord , Honda Civic HYBRID , Nissan Pulsar , Nissan All New
Teana ,Mazda CX-5 , Isuzu MU-7 Full Modelchange, Chevrolet Spin ,Chevrolet 
Sonic 1.6 ลิตร, Ford EcoSport , Ford Fiesta Minorchange, Mercedes-Benz E-Class
Minorchange กับ E300 Bluetec Hybrid และ BMW Active Hybrid 3

พอล่วงเข้าสู่ปี 2014 จะถึงเวลาที่ตลาดรถกระบะ กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง จากการเปิดตัวทั้งบรรดารุ่น
เปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน ของทั้ง Toyota Hilux Vigo ใหม่ , Nissan All New Navara ,Mitsubishi
All New Triton และรุ่นปรับโฉม Minorchange ของทั้ง Isuzu D-Max Twin Turbo , Mazda
BT-50 PRO และ Ford Ranger

จนถึงปี 2015 จะเป็นปีสำคัญที่ ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ กลุ่ม SUV / PPV จะร้อนแรงขึ้นยิ่งกว่าที่
เคยมีมา เพราะ เป็นปีที่แทบทุกค่าย ซึ่งมีรถยนต์ประเภทนี้อยู่ในมือ จะต้องเปิดตัว ทั้งรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่
รุ่นปรับโฉมเล็กๆน้อยๆ และรุ่นใหม่หมดจดที่ไม่เคยทำตลาดมาก่อน เช่น Toyota All New Fortuner
Mitsubishi All New Pajero Sport , Isuzu MU-7 , Nissan Navara PPV และ Ford All
New Everest

เป็นประจำทุกต้นปีที่ J!MMY จะเขียนบทความสรุปความเคลื่อนไหวของปีที่แล้ว และสรุป
ความเคลื่อนไหว ของบรรดารถรุ่นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในปีนี้ พร้อมข้อมูลการพัฒนารถยนต์
รุ่นใหม่ๆ ล้ำไปไกลล่วงหน้าก่อนสื่อรายใดถึง 3 ปี เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Headlightmag.com
เป็นประจำ ทุกต้นเดือนมกราคม เพื่อเป็นของกำนัล สำหรับคุณผู้อ่าน ใช้เป็นข้อมูลในการ
เตรียมวางแผนซื้อรถยนต์ล่วงหน้า หรือสำหรับเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ของผู้คนใน
แวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์

และในปี 2013 นี้ ก็เช่นเดียวกัน ความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์เมืองไทยนับจากนี้ จนถึงปี
2016 จะเป็นอย่างไร จะมีรถยนต์รุ่นไหนเข้ามาผลิต และเปิดตัวในบ้านเรา ให้ได้เป็นเจ้าของ
กันบ้าง มีเทคโนโลยีอะไรที่จะเข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกันบ้าง ทุกอย่าง รออยู่ใน
บรรทัดข้างล่างนี้ทั้งหมดแล้ว…

——————————————

***หมายเหตุ***
 
1. ปีนี้ มีความเคลื่อนไหว ของรถยนต์จากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เพียงแค่ 2 ราย นั่นคือ MG SAIC
ที่คิดจะจับมือกับ CP ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองไทย รวมทั้ง บริษัท Great Wall ที่ยังอยู่ในช่วง
เริ่มต้นหาลู่ทางในการทำธุรกิจในเมืองไทย ดังนั้น รายละเอียดจึงยังมีไม่มากนักในตอนนี้ ต้องขอ
ข้ามไปอีกครั้ง ยังบทความสรุปรถใหม่ 2014 – 2017 ในวันที่ 1 มกราคม 2014
 
2. ข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้ ได้รับการตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าถูกต้อง ตรงตามข้อเท็จจริงที่
เกิดขึ้นล่าสุด ณ วันที่นำบทความชิ้นนี้ ขึ้นเผยแพร่ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป อาจมีข้อมูลดิบและ/หรือ
ข้อมูลที่กลั่นกรองแล้วปรากฎขึ้นอีกได้ตลอดเวลา ข้อมูลเหล่านั้นอาจจะคลาดเคลื่อนหรือเพิ่มเติม
ข้อมูลเดิมจากบทความชิ้นนี้ย่อมเป็นไปได้ และเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ทุกเมื่อ เนื่องจากรายงานข่าว
ประเภทเจาะโครงการลับ หรือ Spyshot นั้น ไม่มีสื่อมวลชนเล่มใด รายใดในโลก ที่รายงานได้
ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง 100% ต่อให้เป็นฝรั่งมังค่าก็ตาม

คุณผู้อ่านควรติดตามข่าว “ด้วยวิจารณญาณ เหตุผลในเชิงตรรกะ หรือเกมการตลาดอย่างปราศจาก
อคติ” รวมทั้งศึกษาจากข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในสื่ออื่นๆ ประกอบกันด้วยอยู่เสมอ เพื่อความสดใหม่
ของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากบทความนี้ เผยแพร่สู่สาธารณชนแล้ว

3. บทความนี้ มีอายุ ในการอ้างอิงได้ 1 ปี คือนับจากวันที่ 1 มกราคม 2013 ถึง 31 ธันวาคม 2013
เท่านั้น หลังจากนี้ ให้ติดตามอ่านข้อมูลอัพเดทได้ จากบทความสรุปรถใหม่ 2014 – 2017 ในวันที่
1 มกราคม 2014

4. หากอยากจะนำบทความชิ้นนี้ ไปเผยแพร่ที่ไหน กรุณาติดต่อมาที่ JIMMY@headlightmag.com  
เพื่อ ขออนุญาตกันเสียให้ถูกต้องตามธรรมเนียม ก่อนจะนำไปเผยแพร่ ต่อไป ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์
ในการอนุญาต เพื่อให้นำไปเผยแพร่ เพื่อเป็นประโยน์แก่สาธารณชน และ ไม่ใช่เพื่อนำไปใช้ใน
ทางธุรกิจใดๆทั้งสิ้น

เมื่อได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้ ขอความกรุณา ขึ้นเครดิตของผู้เขียน และทำลิงค์ มายัง เว็บไซต์
Headlightmag.com ให้ถูกต้องเรียบร้อยด้วย การนำบทความไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ขึ้นเครดิตให้
และไม่มีการบอกกล่าวมายังข้าพเจ้า ถือเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ละเมิด จะถูกดำเนินคดี ตามที่
กฎหมายบัญญัติไว้ สูงสุด โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น!

(โดยเฉพาะพวกหน้าด้าน copy ไปโพสต์ในเว็บบล็อกตัวเองกันโครมๆ คิดว่าไม่เห็นกันเลยใช่ไหม
ถ้าเตือนกันดีๆ แล้วถ้ายังไม่ฟัง ก็จะต้องเจอไม้แข็งกันเสียบ้าง นะ ไอ้พวกมักง่ายชอบสวมรอย!
แค่ส่งอีเมล์มาขอนำไปลงเว็บกันดีๆ ผมก็อนุญาตแล้ว ไม่เห็นจะยากเย็นวุ่นวายนักหนา หากไม่ใช่
เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ก็ยินดีอนุญาตให้นำไปเผยแพร่เกือบจะทุกรายอยู่แล้ว แค่ว่าใส่ชื่อ
ผู้เขียน ชื่อเว็บไซต์ และทำลิงค์ให้เว็บไซต์ของเราด้วย แค่นี้เอง หวังว่าคงไม่ยากไปนะครับ!)

——————————————

ALFA ROMEO / FIAT
The future is…still unclear (as in 2012)

เมื่อ 3 วันก่อน เว็บไซต์ Autoblog.gr ได้เผยแพร่ตาราง Roadmap การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของ
Alfa Romeo จนถึงปี 2016 ทำให้เราได้เห็นภาพในมุมกว้างว่า Fiat วางแผนผลักดัน Alfa Romeo
ให้โตในตลาดโลกมากกว่านี้ โดยเตรียมเปิดตัวรถยนต์ระดับ B-Segment (รุ่น Giulia) ส่วนตลาด
C-Segment จะเป็นรถยนต์ Crossover คัน และ Sport Wagon ใหม่ ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งระดับ
กลาง D-Segment  ก็จะเป็นรถยนต์ Premium Sedan ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับ Maserati Ghibli ใหม่
นอกจากนี้ก็ยังเตรียมออกรถยนต์รุ่นพิเศษอย่างเช่น 4C สปอร์ตคอมแพคท์ล้ำหน้า, 4C Spyder,
รถสปอร์ตฝาแฝด Mazda MX-5 ในชื่อ Alfa Romeo Duetto ทั้ 3 รุ่นนี้ จะเผยโฉมในปี 2015

แต่สำหรับเมืองไทย นี่ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว สำหรับบรรยากาศนิ่งสนิท ไร้ความเคลื่อนไหวอย่าง
เป็นชิ้นเป็นอันของ PNA Group พระนครยนตรการ ผู้ถือสิทธิ์การทำตลาดรถยนต์ Alfa Romeo
และ Fiat ในบ้านเรา ภายใต้ชื่อ บริษัท Thai Prestige Automobile

อย่างไรก็ตาม เมื่อลองเสริชเข้าไปดูใน www.alfaromeo.com อันเป็นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
ของรถยนต์ค่ายงูกินเด็กแห่งอิตาลี รวมทั้ง www.fiat.com อันเป็นเว็บไซต์ทางการของต้นสังกัด
กลับไม่ปรากฎชื่อของผู้จำหน่ายในเมืองไทย อยู่ในพื้นที่ของรายชื่อผู้จำหน่ายในต่างประเทศ
แต่อย่างใด!!

คำถามก็คือ ตกลงแล้ว แม้ว่าตอนนี้ เป็นที่เข้าใจกันดีว่า Thai Prestige Automobile ยังคงถือสิทธิ์
ของการทำตลาดรถยนต์ ทั้ง 2 แบรนด์นี้ แต่ในความเป็นจริง การไม่ปรากฎชื่อประเทศไทย อยู่ใน
เว็บไซต์ของบริษัทแม่นั้น มันมีความหมายในเชิงไม่สู้ดีนัก และนั่นทำให้ โอกาสที่เราจะเห็นรถยนต์
รุ่นใหม่ของทั้ง 2 ค่ายเข้ามาขายกันต่อไปนั้น ยิ่งริบหรี่ลงไปอีก

ทั้งที่ในความจริง โชว์รูม ใกล้เมเจอร์รัชโยธิน ก็สร้างเสร็จแล้ว และยังเปิดขายรถยนต์ใหม่ อย่าง
Fiat 500 6 รุ่นย่อย ตั้งแต่ 1.69 – 2.1 ล้านบาท และยังเหลือ Alfa Romeo Brera จอดขายอยู่

แต่อย่างว่าครับ ธุรกิจในเครือของกลุ่ม PNA นั้น มีค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ผู้นำเข้า Proton
จากมาเลเซีย ดีลเลอร์ของ Isuzu ดีลเลอร์ของ Honda ดีลเลอร์ของ GM/Chevrolet ธุรกิจ
รถเช่า Thai Rent a Car ฯลฯ อีกมากมาย (แถมยังเป็นเจ้าของโรงงานประกอบรถยนต์ บางชัน
เยอเนอรัล แอสเซมบลี ที่ทาง Honda เคยจ้างให้ประกอบรถขายในเมืองไทยอยู่พักหนึ่งด้วย)
ดังนั้น ในเมื่อธุรกิจอื่นๆ ยังคงอยู่รอดได้อย่างสบายตัว ถ้า Fiat / Alfa Romeo จะถึงแก่การสู
ญสลายไปจากเมืองไทย ก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตนัก สำหรับกลุ่มที่เคยได้ชื่อในหมู่ผู้คนว่า
“ทิ้งทุกแบรนด์ที่ตนเคยนำเข้ามา” ตั้งแต่ Holden Opel Daihatsu และ Hyundai

กระนั้น  ก็ยังมีคนในกลุ่ม PNA เสียดาย และยังพยายามปรนะคับประคองกันต่อไปให้ได้
ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

คงไม่มีอะไรจะเขียนถึงได้มากกว่า การยกข้อความจากบทความสรุปรถใหม่ 2012 – 2015 ในปี
ที่แล้ว นำมาแปะไว้ตรงนี้อีกครั้งว่า

“ดูเหมือนว่า ตอนนี้ สถานการณ์ก็ยังเงียบอยู่ รู้แค่ว่าบริษัทยังไม่ปิดทิ้งหนีหายไปไหน แต่ถ้า
ความเคลื่อนไหวยังเงียบอยู่ขนาดนี้ อนาคตของแบรนด์อิตาเลียนแท้ ๆทั้ง Alfa Romeo และ Fiat
ก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง ที่จะโดนกลืนหายไปกับเวลาแน่ๆ สักวันหนึ่ง”

——————————————

Aston Martin
2013 : New Distributor?

ในเมืองนอก มีข่าวคราวรถรุ่นใหม่กันเรื่อยๆ แถมยังเอาไปเข้าฉากในภาพยนตร์ James Bond 007
ตอล่าสุด Skyfall ด้วย ผู้จำหน่ายกว่า 139 ราย ใน 44 ประเทศทั่วโลก ยังคงเดินหน้าทำรายได้และ
ยอดขายให้กับ Aston Martin ได้อย่างสบายๆ แถมรถสปอร์ตรุ่น One77 ที่คลอดออกมาจำนวน
จำกัดมากๆ ก็ขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว ขณะที่รุ่น Vanquish ก็ออกสู่ตลาดกันตามติดต่อเนื่อง โดย
จะใช้โครงสร้าง พื้นวิศวกรรมตัวถัง หรือ Platform ที่ชื่อว่า VH ซึ่งใช้มาตั้งแต่รุ่น DB9 แต่ได้รับ
การปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ตามคู่แข่งได้ทัน เครื่องยนต์ V12 ยังมีให้ใช้กันอยู่ และอาจ
อยู่กันไปจนกว่าจะสิ้นทศวรรษ ส่วนขุมพลังไฮบริดนั้น ทาง Aston บอกว่า โครงสร้างแบบ VH
ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับกับแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า อีกทั้งDemand หรือความต้องการ
ซื้อรถยนต์พลังไฟฟ้า ยังไม่มากเท่าที่ควร ไม่มากพอให้คุ้มจนทำออกมาขายแล้วไปรอดตลอด
อายุตลาดอีก 3-4 ปีที่เหลือ

 แต่ สำหรับเมืองไทย 1 ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นใดปรากฎผ่านสื่อสารมวลชน
สักเท่าไหร่ นั่นเพราะว่า ยังหาข้อสรุป เรื่องผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ไม่เจอ

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า Aston Martin กำลังจะได้ผู้จำหน่ายรายใหม่ในเมืองไทยอย่างเป็น
ทางการแล้ว (เสียที) และคาดว่า น่าจะพร้อมเปิดตัวได้ ภายในปีนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดตาม
กันต่อไป

——————————————–

Audi
2013 : Some new model?

ขณะที่ Audi ในยุโรป ยังคงพยายาม เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลากหลายตระกูล แต่ในเมืองไทย
กลุ่ม DAD Yontrakit ยังคงต่อสัญญาการทำตลาด Audi กันไปอีกพักหนึ่ง ฉะนั้น แน่ใจได้เลยว่า
ฝรั่งที่เยอรมัน ก็ยังจะไม่มายุ่งอะไรกับ Audi ในบ้านเราตลอดปี 2013 – 2014 แน่ๆ

แต่ถ้าจะสั่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวในบ้านเราสักที เข้ามาขายกันนั้น ก็ยังมองไม่ออกว่า
จะมีรุ่นไหน เข้ามาให้คนไทยได้เป็นเจ้าของกันบ้าง เพราะหลังจากนำเข้า A6 ใหม่แบบเงียบๆ
รวมทั้ง Q5 และ ล่าสุด ที่เพิ่งแอบอวดโฉมในงาน Motor Expo คือ Q3 ไปแล้วนั้น ก็ยังดูเหมือน
จะหาความแน่นอนในเรื่องของรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับตลาดบ้านเราในปีหน้าได้ยาก

เว้นเสียแต่ว่า จะยังตั้งความหวังเล็กๆ ไว้กับ Q3 ให้สามารถสั่งนำเข้าได้ในปริมาณมากกว่านี้
ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับทางเยอรมันด้วยว่า จะเอาอย่างไรกันแน่?

ขณะที่ฝั่ง MTM Thailand ก็รับสั่ง Audi สเป็กตกแต่งให้แรงเป็นพิเศษ ตามลูกค้าต้องการเช่นเคย
รวมทั้งยังมี Q3 และ Q5 ไว้ต้อนรับลูกค้าอีกกลุ่มที่ต้องการความเร้าใจ และความแปลกใหม่ แต่
ก็ยังเตรียมว่าจะนำเข้า S7 กับ A8 HYBRID มาเอาใจกลุ่มลูกค้าที่อยากได้ความหรูและแรงอย่าง
แตกต่าง
 
——————————————

BENTLEY
2013 : Flying Spur ( Continental 4 Door )
2015 : Re-design SUV based on EXP 9F

ปีที่แล้ว AAS Auto Service สั่งนำเข้า Bentley Continental GTC Convertible พร้อมขุมพลังใหม่
V8 4.0 Twin Turbo 507 แรงม้า (BHP) มาเปิดตัว และให้ทดลองขับกันบนพื้นที่สนามโล่งๆของ
กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เหมือนเช่นเคย และได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากมหาเศรษฐี
ผู้มีรสนิยมเป็นเลิศ

ปี 2013 Bentley มีงานใหญ่ต้องทำคือการเปิดตัว เวอร์ชันเปลี่ยนโฉม Full Model Change ของเจ้า
Continental GT ตัวถัง Sedan 4 ประตู ในชื่อ Flying Spur ซึ่งเป็นชื่อที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว
โดยรายละเอียดงานวิศวกรรม ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่น Continental GT กับ GTC มากนัก วาง
ขุมพลัง V8 4.0 ลิตร Twin Turbo บล็อกเดียวกัน ตอนนี้กำลังแล่นทดสอบกันอยู่ คาดว่าจะพร้อม
เปิดตัวได้ในช่วงปีนี้ และน่าจะมาถึงเมืองไทยได้ ช่วงปลายปี 2013 เป็นอย่างเร็วที่สุด ถ้าไม่ทัน
ก็รอไปถึงปี 2014

แต่เหนือสิ่งอื่นใด โครงการที่สำคัญกว่า และคาดว่าจะเป็นรุ่นสร้างยอดขายให้กับ Bentley ได้ดี
คือ SUV รุ่นใหม่ นั่นเอง ปัญหาที่สำคัญก็คือ หลังการเปิดตัวเวอร์ชันต้นแบบในชื่อ EXP 9F
เป็นครั้งแรกในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม 2012 ปฏิกิริยาของมหาชนที่มีต่อ
รูปลักษณ์ภายนอกของมันนั่นเป็นไปในทางลบ ในเมื่อ Bentley เองก็ต้องการสร้าง SUV
ที่ลูกค้ายินดีจะซื้อดังนั้นจึงต้องหาทางทำให้มันมีรูปทรงที่ลูกค้าดูแล้วอยากซื้อมากกว่านี้
พวกเขาจึงตัดสินใจ เลื่อนทุกโครงการที่ทำกันอยู่ออกไปเกือบทั้งหมด แล้วเอาแรงงานกับ
มันสมอง มาทุ่มเทเปลี่ยนโฉม SUV คันนี้ขึ้นมาใหม่ แต่ไม่นานเกินรอ คาดว่า ในปี 2015
เราจะได้เห็นเวอร์ชันจำหน่ายจริง ที่ดูดีกว่าเวอร์ชันต้นแบบกันแน่ๆ และเมื่อถึงปีนั้น AAS
น่าจะเตรียมการนำเข้ามาให้มหาเศรษฐีชาวไทย เป็นเจ้าของกันได้ อย่างช้าที่สุดคือ ปี 2016

——————————————

BMW / MINI

2013 : Active Hybrid 3 / Z4 Minorchange / 5-Series Minorchange + Active Hybrid 5
           3-Series New Engine / Mini PACEMAN
2014 : BMW i Seires / All New MINI Next Generation
2015 : All New MINI Clubman
2016 : All New MINI Saloon 4 Door

ปี 2012 BMW ปล่อยทีเด็ดที่ทุกคนรอคอยอย่าง 3-Series F30 ออกสู่ตลาดเมืองไทยอย่างฉับไว
นำเข้า รถประกอบเยอรมัน CBU มาเผยโฉมครั้งแรก ในงานแถลงข่าวช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์
พร้อมกับ 5-Series 4 ขุมพลังใหม่ 520i 520d 523i และ 525d 4 สูบ พร้อมทั้ง 5-Series Touring
5 ประตู ทั้ง 520i กับ 520d ก่อนที่ทั้งหมดนี้ จะโผล่ให้เห็นอีกทีในงาน Bangkok International
Motor Show เดือนมีนาคม ชนิดที่ว่าเกาะติดตลาดโลกกันอย่างฉับไวเลยทีเดียว เข้าสู่ครึ่งหลังของปี
3-Series เวอร์ชันประกอบในประเทศ แบบ CKD (SKD) รุ่น 320d เปิดตัวตามออกมา พอเข้าสู่
เดือนกันยายน 6-Series Gran Coupe 4 ประตู คันละ 11 ล้านกว่าบาท ก็ส่งมาเผยโฉมในงาน
BMW xPo ก่อนที่จะมี 320i และ 328i ตามมาเปิดตัวในงาน Motor Expo ช่วงปลายปี พร้อมกับ
320d Touring นำเข้า คันละ 4.9 ล้านบาท (แพงเวอร์) และ 7-Series Minorchange ที่แอบ
มาเปิดตัวอย่างเงียบๆ

เข้าสู่ปี 2013 ในเมืองนอก จะถือเป็นปีที่สำคัญของชาว Munich เพราะพวกเขาจะโหมสร้าง
แบรนด์ย่อยใหม่ อย่าง i เพื่อเน้นทำตลาดรถยนต์กลุ่มพลังงานทางเลือกและไฟฟ้าทั้งหลาย
อย่างเต็มตัว

ในเมืองนอกนั้น 3-Series Gran Turismo 5 ประตู น่าจะเผยโฉมออกมาก่อนเป็นรุ่นแรก
ประเดิมปีใหม่ ในเดือนมีนาคม 2013 หลังจากที่พวกเขายังไม่เข็ดกับยอดขายที่ไม่สู้ดี
ของ 5-Series Gran Turismo จากนั้น 1-Series ตัวถังใหม่ Coupe และ เปิดประทุน จะ
ถูกเปิดตัวออกขายในชื่อใหม่ 2-Series

ตามมาด้วยเวอร์ชันจำหน่ายจริงของ 3-Series Coupe ที่ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น 4-Series
แม้จะมีเวอร์ชันต้นแบบเผยโมมาแล้ว แต่จะเวอร์ชันจำหน่ายจริงจะถูกดัดแปลง ลดโทน
ลงมาจากนั้นอีก เพื่อให้พร้อมทำตลาดได้จริงในปี 2013 นี้ โดยอิงทางเลือกขุมพลังใหม่
จาก 3-Series F30 ทั้งหมด

นั่นหมายความว่า M3 Coupe รุ่นต่อไป จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น M4 !!! ส่วนชื่อ M3 จะถูก
สงวนไว้ให้กับตัวถัง Saloon และ Touring Wagon เท่านั้น!! (งานนี้ ชาว Bimmer ต่าง
ประเทศพากันวิพากษ์วิจารณ์กันเละเทะว่า BMW เกิดบ้าอะไรขึ้นมา ถึงได้มาทำลาย
ขนบเดิมที่ตนเคยสานต่อมา) โดย M3 รหัสโครงการ F80 มีกำหนดเปิดผ้าคลุมเวอร์ชัน
ต้นแบบในงาน GenevaMotor Show มีนาคมนี้ และเวอร์ชันจำหน่ายจริง จะคลอดใน
งาน Frankfurt Motor Show กันยายน 2013 ส่วน M4 รหัสโครงการ F82 อาจต้องรอ
กันจนถึง ปี 2015

นอกจากนี้ ทั้ง 5-Series และ 5-Series Gran urismo กับ X3 ก็มีกำหนดปรับโฉมแบบ
Minorchange ในปี 2013 ทั้งสิ้น

ไม่เพียงเท่านั้น BMW i3 รถยนต์ Hatchback พลังไฟฟ้า รักโลก ที่ BMW หมายจะ
ปั้นขึ้นมาแจ้งเกิดให้ได้ ก็มีกำหนดจะคลอดในช่วงปลายปี 2013 นี้ ขณะที่ รถสปอร์ต
ขุมพลัง HYBRID เครื่องยนต์วางกลางลำตัว อย่าง i8 จะมีกำหนดเผยโฉมในช่วงปลาย
ปี 2013 ต้นปี 2014 ใช้มอเตอร์ 129 แรงม้า (HP) ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และวางเครื่องยนต์
เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร Turboไว้ที่ด้านหลัง พละกำลังของเครื่องยนต์รวมกับมอเตอร์นั้น
อาจสูงถึง 350 แรงม้า มันสามารถวิ่งโดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ 35 กิโลเมตร

พอเข้าสู่ปี 2014 จะถึงเวลาออกโรงของ BMW X4 Coupe SUV ที่เรียกง่ายๆว่าคือการนำ
X6 มาย่อขนาดลงไปนั่นเอง ผลิตจากโรงงานในสหรัฐอเมริกาตามคาด และในปีเดียวกัน
X5 ใหม่ ก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน เป็นรหัสโครงการ F15 และมีเส้นสายที่ โฉบเฉี่ยว
ยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน

ส่วนโครงการรถสปอร์ตขนาดกระทัดรัด Z2 ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่จะเปลี่ยนไปใช้พื้น
ตัวถัง UKL สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า (ใช่ครับ Z2 จะกลายเป็นรถเปิดประทุน
ขับเคลื่อนล้อหน้าไปซะงั้น) กำหนดเปิดตัว น่าจะมีแถวๆ 2014 ขึ้นไป

นอกเหนือจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 ที่ผ่านมา BMW และ Toyota เพิ่งประกาศ
แผนความร่วมมือในโครงการพัฒนารถสปอร์ตรุ่นใหม่ ขุมพลัง แนวรักโลก ตอนนี้
ยังอีกไกลกว่าจะมีข้อสรุปชัดเจนว่าตัวรถจะออกมาเป็นอย่างไร เราอาจต้องรอกัน
จนถึงปี 2017 – 2018 กันด้วยซ้ำ!

ทั้งหมดนั้น คือเรื่องราวในเมืองนอก แต่สำหรับเมืองไทยนั้น ปี 2013 จะเป็นปีที่ BMW
ต้องหันมามุ่งเน้นการทำตลาด รถยนต์ HYBRID มากขึ้น ถึงจะเปิดตัว Active Hybrid 5
ไปแล้ว แต่ผู้คนจำนวนมากยังไม่รู้เลยว่า รถรุ่นนี้ มีขายในบ้านเราเรียยร้อยแล้ว! ดังนั้น
การเร่งประชาสัมพันธ์ น่าจะเกิดขึ้นได้เต็มที่ ในทันทีที่ Active Hybrid 3 เดินทางมาถึง
อย่าคาหวังกับตัวเลขราคามากนัก มันอาจจะแพงอยู่ดี แต่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการปูทาง
สู่การเตรียมศึกษา เพื่อนำ i3 กับ i8 มาขายในอนาคต

นอกเหนือจากนั้น อาจจะมีทางเลือกขุมพลังใหม่ ให้กับ 3-Series กระตุ้นยอดขายกันต่อ
รวมทั้ง มี Z4 sDrive18i วางเครื่องยนต์เดียวกับ 320i คือ 156 แรงม้า (HP) เพื่อให้กดราคา
ลงมาอยู่แถว 3 ล้านบาทกลางๆ ค่อนปลาย ชนกับ Mercedes-Benz SLK 200 ใหม่ ที่เริ่ม
มีค่าตัวถูกลงมาอยู่แถวๆ 3 ล้านบาทปลายๆ นำร่องไปก่อนแล้ว

ข้ามมาดูแบรนด์ในเครือ เชื้อชาติอังกฤษ อย่าง MINI ในปี 2012 ที่ผ่านมา มีทั้ง MINI Roadster
และขุมพลัง ใหม่ Diesel Turbo Common Rail มาวางลงใน MINI แทบทุกตัวถัง เป็น 2 ความ
เคลื่อนไหวที่สำคัญตลอดปีที่แล้ว

แต่ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ไป MINI จะมีการเปลี่ยนแปลงตามมาเป็นระลอกๆ เริ่มจากในปี 2013 นี้
MINI PACEMAN หรือ เวอร์ชัน Coupe ของ Countryman จะมาถึงเมืองไทย โดยน่าจะ
มีเครื่องยนต์ให้เลือก ทั้งแบบพื้นฐาน Cooper Paceman 122 แรงม้า (HP) Cooper S
Paceman 184 แรงม้า (HP) Cooper SD Paceman Diesel Turbo 143 แรงม้า (HP) และ
John Cooper Works Paceman 211 แรงม้า (HP) นี่คือ MINI รุ่นสุดท้าย ที่จะใช้พื้นฐาน
โครงสร้างวิศวกรรมของ MINI รุ่นปัจจุบัน คาดว่าจะเปิดตัวได้ อย่างเร็วที่สุดคือในงาน
Bangkok International Motor Show เดือนมีนาคม 2013 แต่ขายจริง อาจต้องรอหลัง
จบงานไปแล้ว สักพัก

เพราะหลังจากนี้ ในปี 2013 – 2014 จะถึงเวลาของการเปลี่ยนโฉมแบบ Full ModelChange
ของ MINI Hatchback รุ่นดั้งเดิม ซึ่งจะเปลี่ยนไปใช้แพลทฟอร์มใหม่พร้อมกับวางขุมพลัง
เบนซิน 3 สูบ 1.3 ลิตร ให้กำลังได้ตั้งแต่ 150 – 200 แรงม้า HP บล็อคใหม่จาก BMW ใครที่
กลัวว่าไม่แรง ไม่ต้องห่วง เพราะเครื่องยนต์บล็อกนี้ ออกแบบมาให้เซ็ตแรงม้าได้ดังใจ แค่
ขึ้นอยู่กับว่า มันจะถูกนำไปวางในรถรุ่นใด

ย่างเข้าปี 2014 MINI Hatchback จะมีตัวถัง 5 ประตู ออกมาเสียที เพื่องัดข้อกับทั้ง Audi
A1 Sportback และ ท้าทายผู้กล้าอย่าง Mercedes-Benz A-Class ใหม่ กว่าจะมาถึงเมืองไทย
อาจต้องรอปี 2015 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น MINI Clubman (ตัวถัง Wagon) โฉมใหม่ ก็จะคลอด
ออกมา โดยมีบานประตู สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ครบทั้ง 2 ด้านเสียที บ้านเราอาจต้องรอ
ถึงปี 2016

แต่ สิ่งที่ต้องจับตามองคือ ในปี 2016 เราอาจได้เห็น MINI Saloon เวอร์ชัน Sedan 4 ประตู
ที่ทำออกมาเพื่อเอใจตลาดอเมริกาเหนือโดยเแพาะ มาลุ้นกันดีกว่า ว่ามีสิทธิ์จะเข้ามาขาย
ในบ้านเรากันหรือไม่ อาจต้องรอจนถึงปี 2017 หรือเปล่า ยังยากจะคาดเดา

CHEVROLET
2013 : SPIN (Project codename : PM-7) Import from Indonesia
           CRUZE Minorchange
2014 : Colorado Minorchange

ปี 2012 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ GM / Chevrolet ระดมสรรพกำลัง เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในเมืองไทย
เยอะที่สุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่พวกเขาเคยทำมานับจากการก่อตั้งบริษัทในเมืองไทย อีกทั้งยังถือว่า
เป็นบริษัทที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งใหม่หมดจด และปรับโฉมใหม่ รวมกัน มากเป็นอันดับ 2 โดย
เป็นรองแค่เพียง Honda เท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็น SUV / PPV บนพื้นฐานของรถกระบะ Colorado รุ่น Trailblazer ซึ่งเปิดตัวในงาน
Bangkok International Motor Show มีนาคม 2012 พร้อมพรีเซ็นเตอร์ คุณโชค บุลกุล ใน
มาดคาวบอย กับสโลแกนที่ว่า “ใจถึงก็ไปถึง” แต่ดันคาดไม่ถึง ว่าสุดท้าย กว่าจะทำคลอดออกจาก
โรงงาน GM ระยอง กันได้ ก็ปาเขาไปเดือนพฤษภาคม แถมต้องปล่อยรถรุ่น LTZ1 ตัวท็อป ล็อตแรก
ส่งลูกค้าที่จองที่ยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องเสียง พร้อมหน้าจอระบบนำทางมาให้ งานนี้ GM ต้องส่งชุด
เครื่องเสียงพร้อมหน้าจอ ให้ทางโชว์รูมต่างๆ เอาไปติดตั้งให้ลูกค้ากันเอง เป็นเรื่องตลกกันไป

ตามด้วย การอัพเกรดใน Cruze 2.0 LTZ ยกขุมพลัง Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร
จาก Chevrolet Captiva Diesel CRDi รุ่น Minorchange 163 แรงม้า (PS) มาวางให้แรง
และประหยัดขึ้นกว่าเดิมแถมขับสนุกขึ้นมาก แต่ราคาก็กระชากจิตเหลือเกิน 1.2 ล้านกว่าบาท กลางๆ
แพงจนน่าจะหันไปรักโลกกับ Toyota Prius แทน อีกทั้งยังเปลี่ยนสเป็กรุ่นเบนซิน 1.8 ลิตร หันมา
ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าอย่างเงียบๆ ก่อนหน้านั้น ยังสร้างกระแส ส่งนางเอกเจ้าบทบาทของ ช่อง 3
พลอย เฌอมาลย์ บุณยะศักดิ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมทำหนังสั้น ฉายเฉพาะในเว็บไซต์ของตน ทาง
Internet แต่ก็ยังไม่ดังเท่าไหร่

ส่วน น้องเล็กอย่าง Sonic ก็เผยโฉมพร้อมกับ Trailblazer แต่กว่าจะเริ่มเปิดตัววางจำหน่ายอย่างเป็น
ทางการ ก็ปาเข้าไปเดือนกรกฎาคม แม้จะมี ตัวถัง Sedan (ที่ใครก็ไม่รู้ อุตริให้เรียกว่า Notchback)
กับ Hatchback 5 ประตู แถมดันมีเครื่องยนต์ แค่ 1.4 ลิตร 100 แรงม้า (PS) ซึ่งสมรรถนะก็เป็นไป
ตามคาดหมาย คือ อืดและกินน้ำมันที่สุดในกลุ่ม แต่ช่วงล่างและพวงมาลัยกับตัวถัง ดีที่สุดในกลุ่ม
ออกมาเอาใจลูกค้าที่อยากใช้สิทธิ์ โครงการรถคันแรกของรัฐบาล โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม ใครที่บ่นว่า อยาดได้เครื่องยนต์ที่แรงกว่าเดิม และประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ข่าวดีก็คือ
Sonic จะมีเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.6 ลิตร จากใน Cruze  มาให้เลือกกัน ตั้งแต่ช่วงงาน
Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2013 นี้ คงจะช่วยลดกระแสเสียงร่ำลือ
เรื่องความอืดอาดของเครื่องยนต์ ไปได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าคาดหวังมากนักว่าจะแรงมากมาย

นอกจากนี้ ในงานเดียวกัน GM จะเปิดตัว Chevrolet Spin Sub-Compact Minivan สำหรับกลุ่ม
ตลาดประเทศกำลังพัฒนา รหัสโครงการ PM-7 ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกไปแล้ว ณ งาน Indonesia
International Motor Show เป็นผลงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาของ GM ที่ Sao Paolo ในประเทศ
Brazil ข้อมูลเบื้องต้นคาดว่าจะวางเครื่องยนต์ใหญ่ 4 สูบ 1,796 ซีซี 106 แรงม้า (HP) เพื่อให้มีกำลัง
ฉุดลากตัวรถไปได้โดยไม่อืดและไม่กินน้ำมันมากเกินไป ส่วนเวอร์ชันไทย อาจเป็นเคตรื่องยนต์ที่เล็กกว่า
แม้ GM จะสั่งเข้ามาอวดโฉมแล้ว ในงาน Motor Expo 27 พฤศจิกายน 2012 ที่ผ่านมา แต่กว่าจะเริ่ม
ส่งมอบให้ลูกค้าจริงจังได้ คาดว่าต้องเป็นช่วง หลังเดือนมีนาคม ไปแบบฉิวเฉียด

ส่วน C-Segment Compact Sedan รุ่น Cruze ก็จะมีการปรับโฉม Minorchange เปลี่ยนแค่ชุด
กระจังหน้า กับเปลือกกันชนหน้า รวมทั้งออพชันเล็กๆน้อย แต่รายละเอียดทางเทคนิคต่างๆ
ยังคงเหมือนกับรุ่นปัจจุบัน ชนิดโขลกพิมพ์เขียวกันออกมาเลยทีเดียว!

ในปี 2014 คาดว่าจะมีการปรับโฉม Minorchange ให้กับ Chevrolet Colorado เพื่อต่อกรกับบรรดา
รถกระบะรุ่นใหม่ๆ ที่มีกำหนดจะคลอดพร้อมๆกันในปีนั้น รายละเอียดตอนนี้ ยังไม่มีข้อสรุป

ส่วน Chevrolet Voltz รถยนต์พลังไฟฟ้า ที่ใช้เครื่องยนต์ช่วยปั่นไฟอย่างเดียว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับล้อคู่หน้า
ถึงจะถูกสั่งนำเข้ามาอวดโฉม  และเริ่มถูกนำไปใช้ในการศึกษาเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ล้วนๆ เข้ามาแล่น
บนถนนเมืองไทย แต่ก็ยังไม่พร้อมจำหน่ายจริง มี 2 อุปสรรคสำคัญ นั่นคือ ปริมาณสถานีชาร์จไฟฟ้า
ให้กับรถยนต์ในบ้านเรา ยังอยู่ในช่วงเริมตั้งไข่ ยังต้องมีการศึกษาอะไรต่อมิอะไรมากกว่านี้ ส่วน
สาเหตุที่เหลือก็คือ  ราคาขายปลีกที่ยังแพงอยู่”

——————————————

CITROEN
2013 : DS5 & DS3 Cabrio

ความเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวของ Citroen ภายใต้การดูแลของ DAD Yontrakit กลุ่มธุรกิจที่แยกตัว
ออกมาจาก ยนตรกิจเดิม นั่นคตือ มีการเปิดตัว Citroen DS4 Hatchback 5 ประตู ทรนงแปลก ที่อุดม
ไปด้วยความแปลกและแตกต่างไปจากรคู่แข้ง แทบทั้งคัน วางเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พ่วง
Turbocharger 155 แรงม้า (PS) ขายในราคา 2 ล้านบาทต้นๆ และพอจะได้รับยอดขายเข้ามาเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม แผนเดิมที่เคยวางไว้ว่าจะนำ DS5 ไปเปิดตัวในงาน Motor Expo เดือนธันวาคม
ที่ผ่านมา ก็มีอบัติเหตุ กลับถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงต้นปี 2013 นี้แทน ปัญหาหลักไม่มีอะไร
มากไปกว่า การที่ PSA มีเกียร์อัตโนมัติ ให้เลือกเพียงขุมพลังเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความ
เป็นไปได้ ในการนำเวอร์ชัน ขุมพลัง Diedel เชื่อมกับระบบขับเคลื่อน HYBRID เข้ามาขาย
ในเมืองไทย ยังพอหลงเหลืออยู่

อีกรุ่นหนึ่ง ที่น่าจะจับตาดูกันสำหรับค่ายจ่าโทเมืองน้ำหอม ก็คือ Citroen DS3 Cabrio เวอร์ชัน
เปิดหลังคาผ้าใบ ได้จนถึงกระจกบังลมหลัง  ซึ่งจะเข้ามาช่วยต่อยอดความสำเร็จของ DS3 ใน
บ้านเราได้อย่างดี ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพูดคุย และอาจต้องรอกันจนถึงช่วงครึ่งหลัง
ของปี 2013 นี้ จึงจะมีสิทธิ์ ได้เห็นบนถนนเมืองไทย

——————————————

FERRARI (By Cavalino Motors)
2013 :  F150 Limited Edition , But Unlimited Excitement!

พักหลังมานี้ Cavalino Motors ในฐานะผ้จำหน่าย Ferrari อย่างเป็นทางการแต่ผู้เดียว
ในเมืองไทย เริ่มทำการตลาดในสื่อรูปแบบใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ก็ส่งภาพยนตร์
Product Video ของรถสปอร์ตรุ่นล่าสุด F12 Berlinetta ไปตัดต่อเป็นหนังโฆษณา ฉาย
บนจอ LED ขนาดยักษ์ ริมสี่แยกสาทร จนทำให้เผลอเข้าใจผิดว่า Cavalino สั่งเข้ามา
เปิดตัวไปแล้ว

แต่ความจริงก็คือ ตลอดช่วงปี 2012 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวรถสปอร์ต Ferrari ในไทย
2 รุ่น ทั้ง California 30 (ลดน้ำหนักลงอีก 30 กิโลกรัม และเพิ่มแรงม้า อีก 30 ตัว )
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2012 และ รุ่น 458 Spyder เวอร์ชันเปิดประทุนของ 458 Italia
วาง เครื่องยนต์ V8 สูบ 4.5 ลิตร 570 แรงม้า (HP) ที่ 9,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
540 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที เกียร์ Dual Clutch 7 จังหวะ อัตราเร่ง 0 – 100
กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถเปิดและ
ปิดหลังคาได้อย่างรวดเร็วภายใน 14 วินาที ถือเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางคันแรก
ของโลกที่เป็นหลังคาแข็งแบบเปิดและปิดได้ เปิดตัวในงาน Super Car & Import
Car Show ครั้งที่ 3 ที่เมืองทองธานี เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2012 ราคา 28.5 ล้านบาท

ในปีนี้ สำหรับตลาดโลกแล้ว ทุกสายตาทั่วโลกต่างเตรียมจับจ้องไปยังรถสปอร์ต
รุ่นพิเศษแบบจำกัดจำนวนผลิต รุ่นใหม่ ที่จะมาแทน Enzo ซึ่งยืนยันมาแล้วว่า
จะใช้ชื่อ F150…(นี่มันชื่อเดียวกับรถกระบะ Full Size Truck ของ Ford ในตลาด
อเมริกาเหนือ เลยนี่หว่า!) ขุมพลังยกมาจากรุ่น F12 Berlinetta เป็นแบบเบนซิน
บล็อก V12 สูบ 6.3 ลิตร 740 แรงม้า (HP) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในแบบ
HYBRID ที่เรียกว่า HY-KERS ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อ Geneva Motor Show มีนาคม
2010 มีโหมดเพิ่มกำลังพิเศษจนสูงได้ถึง 900 แรงม้า (HP) มีโครงสร้างตัวรถ
ทำจาก Carbon Fiber ที่แกร่งขึ้นและเบาขึ้นกว่า Enzo เพราะ Ferrari ลงทุนดึง
วิศวกรชั้นนำจากทีมแข่ง Scuderia ซึ่งเคยพัฒนารถแข่งให้ นักขับชื่อก้องโลก
Michael Schumacher มารับผิดชอบโครงการนี้โดยเฉพาะ

ล่าสุด ก่อนช่วงปีใหม่ไม่กี่สัปดาห์ Ferrari เผยภาพถ่าย Exclusive ออกมา ทำให้
ผู้คนเริ่มเห็นว่าหน้าตาของรถสปอร์ตคันใหม่นี้ ดุดันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ยืนยันได้ว่า เราจะได้เห็นรถคันนี้ บนแท่นหมุนของงานแสดงรถยนต์ Geneva
Motor Show เดือนมีนาคม 2013 กันอย่างเต็มอิ่ม

ส่วนโอกาสที่รถคันนี้จะมาเมืองไทยนั้น อาจต้องรอกันพักใหญ่ อภิมหาเศรษฐีท่านใด
อยากได้ ก็คอยหมั่นสอบถามกับทาง Cavalino Motors เขาเองก็แล้วกัน

——————————————

FORD
2013 : Fiesta Minorchange & Fiesta 1.0 EcoBoost / All New EcoSport
2014 : Ranger Minorchange
2015 : EVEREST Full Model Change !!

ปี 2012 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นปีแห่งการขยายตัวด้านยอดขายของ Ford ในแทบทุกรุ่น ทั้งจากการ
เปิดตัว Focus ใหม่ 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร GDI รวมทั้ง การเร่งนำ Fiesta 1.5 ลิตร ออกมาให้ทัน
ลูกค้าอุดหนุน เพื่อไปใช้สิทธิ์ขอคืนภาษีตามโครงการรถคันแรก Ford ยังต้องปวดกบาล กับการทะยอย
เคลียร์ยอดจองของ Ranger โดยเฉพาะรุ่น Wildtrak 3.2 ลิตร รวมทั้งยังคงต้องสะสางปัญหาบริการ
หลังการขาย กันขนานใหญ่ หลังจากมีกรณีลูกค้าซื้อรถไปแล้ว มีปัญหามากมายก่ายกอง บ้างก็จบด้วยดี
บ้างก็จบไม่ค่อยดี บ้างก็ยังไม่จบ แตกต่างกันไปตามแต่ละวาระและผลกรรมที่ทำกันมา

มาถึงปี 2013 ปริมาณรถใหม่ของ Ford จะลดลงจากปีก่อนๆ ไปบ้าง แต่ดูแล้วน่าจะยังคงสร้างความ
ฮือฮาได้แน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่คิดจะซื้อ Fiesta ขอเหยียบเบรกด้วยท่า ปางห้ามญาติ กันก่อน
เพราะ Ford เตรียมพร้อมที่จะอวดโฉม Fiesta Minorchange หน้าตาเหมือนถอดแบบจากรถสปอร์ต
Aston Martin ในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2013 แต่กว่า
จะเริ่มทำตลาดจริง อาจต้องรอจนถึง ปลายเดือนมิถุนายน – ต้นเดือน กรกฎาคม

แต่…ยังไม่หมด เพราะหลังจากนั้นอีก 2 เดือน Ford จะปล่อย ขุมพลังใหม่ล่าสุดจากยุโรป ที่คนไทย
หลายคนอยากเป็นเจ้าของกัน นั่นคือ เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร EcoBoost แต่อย่าคิดว่า เป็นรุ่นราคา
ย่อมเยา เพราะเครื่องยนต์ใหม่นี้ราคาแพงมาก จนอาจต้อง ขายเป็นรุ่น Top Version แล้วอัด Option
กันให้จุใจ ไม่น้อยหน้ากันกับรุ่น 1.6 ลิตร ไปเลย ถึงตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า Ford จะเปิดตัว
รุ่น 1.0 EcoBoost พร้อมกันกับรุ่น Minorchange แล้วค่อยส่งมอบรถเมื่อพร้อมผลิต หรือ จะรอให้
พร้อมผลิตกันจริงๆก่อนแล้วค่อยเปิดตัวกันแน่

กระนั้น ทีเด็ดที่แท้จริงของ Ford ในบ้านเราปีนี้ก็คือ การประเดิมเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาดกลุ่มใหม่
ล่าสุด ส่งตรงจากเมืองนอก นั่นคือ กลุ่ม B-Segment SUV หรือ SUV คันเล็ก ราคาไม่ถูกไม่แพง ซึ่ง
เป็นกลุ่มตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทั่วโลก ไทยจะเป็นหนึ่งในฐานผลิตของรถรุ่นนี้ สำหรับตลาดในกลุ่ม 
ASEAN โดยจะวางเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 EcoBoost เช่นเดียวกับ Fiesta Minorchnge และมีการ
ตกแต่งใกล้เคียงกับรถที่คุณเห็นในภาพข้างบนนี้  Ford จะนำ EcoSport รุ่นใหม่ล่าสุด มาขึ้นสายการผลิต
ที่โรงงานแห่งใหม่ของตนในระยอง เคียงคู่กับ Focus ใหม่ เพื่อเปิดตัวในช่วง Motor Expo และจะ
พร้อมส่งมอบได้ อย่างเร็วที่สุด คือ ปลายเดือนธันวาคม 2013 ถึงรอยต่อ เดือนมกราคม 2014

ส่วนปี 2014 ดูเหมือนจะมีแค่การเตรียมปรับโฉม Minorchange ให้กับรถกระบะรุ่น Ranger ซึ่งน่าจะ
ยังคงยืนหยัดกับขุมพลังเดิม เพียงแต่อาจมีการเปลี่ยนหน้าตาให้ดูสดใหม่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม
ก่อนที่จะมองไปไกลถึงรุ่นปรับโฉม เอาแค่ว่าตอนนี้ทะยอยส่งมอบรถให้ลูกค้าตามคิวจองที่ล้นหลาม
ให้หมดภายในปี 2013 กันก่อนจะดีไหม?

อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายสำหรับ ใครที่ยังรอ Everest SUV บนพื้นฐานรถกระบะ Ranger นั้นก็คือ อาจต้อง
รอกันไปนานอีก 1 – 2 ปี เนื่องจาก ตัวรถเพิ่งเริ่มกลับมาพัฒนากันอย่างจริงจัง ก่อนที่ Ranger จะคลอด
ออกมาได้ ไม่นานเท่าใดนัก  แม้ว่าจะมีการกำหนดรายละเอียดคร่าวๆ ไปบ้างแล้ว เช่นการเปลี่ยนระบบ
กันสะเทือนด้านหลัง จากแหนบ เป็นแบบ คอยล์สปริง และใช้ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า จนถึงเสาหลังคา
กลาง B-Pillar กับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง รวมทั้งเฟรมแชสซีส์ ร่วมกับ Ranger ใหม่ แต่กว่าจะ
พร้อมเริ่มทำตลาดได้จริง คงต้องรอไปจนถึงปี 2014 – 2015

ขณะที่ตลาด Sedan ขนาดกลางค่อนข้างใหญ่นั้น ความเคลื่อนไหวยังคงนิ่งสนิทอยู่ตามเดิม เพราะ
แม้ว่า Ford จะเผยโฉม Mondeo รุ่นใหม่แล้ว แต่กำหนดทำตลาดยังถูกเลื่อนออกไป เพราะว่า สภาพ
ตลาดรถยนต์ยุโรป ตกต่ำตามสภาพเศรษฐกิจอย่างหนัก ดังนั้น จึงยังไม่มีความแน่ชัด ในการทำตลาด
รถยนต์รุ่นนี้ในเมืองไทย ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด หรือไม่ อย่างเลวร้ายที่สุดก็คือ อาจไม่เกิดขึ้นเลย

นอกจากนี้ ใครที่รอ Compact SUV รุ่น Escape / Kuga ใหม่ รวมทั้งบรรดารถยนต์ Minivan 5 และ
7 ที่นั่ง อย่าง Ford C-Max Ford Galaxy และ Ford S-Max ทำใจได้เลยครับ ยังไม่มีแผนนำเข้ามา
ทำตลาดบ้านเราอย่างแน่นอน ในช่วง 2 – 3 ปีนี้

และสุดท้าย ใครที่ยังมีความหวัง รอการกลับมาของ Focus TDCi และแอบเห็นรถรุ่นนี้ วิ่งเล่นทดสอบ
กันอยู่ในบ้านเรา ก็คงต้องทำใจ เพราะแม้ว่าเมืองไทยเป็นฐานผลิตของ Focus ใหม่ รวมทั้งรุ่น TDCi
ด้วยก็ตาม แต่ Ford ยืนยันว่าจะไม่ทำตลาด เนื่องจากติดปัญหาทั้งด้านภาษี ราคาตัวรถ และคุณภาพ
ของน้ำมัน Diesel บ้านเรา ที่ยังไม่สะอาดพอ ถ้าหากปล่อยออกขายลูกค้าไปแล้วรถมีปัญหาขึ้นมา
ก็จะปวดกบาลกันไม่จบสิ้น เหมือนเช่นที่เคยเจอกันมา

——————————————

HONDA
2013 :  Accord + Accord HYBRID  / Brio Minorchange / CIVIC HYBRID /
            CITY Full Modelchange (+ CNG)
2014 :  Jazz Full Modelchange  / Civic Minorchange / BRIO MPV / B-Segment SUV

แม้ว่าน้องน้ำจะนำพาความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้มาเกิดขึ้นกับ Honda ช่วงปลายปี 2011 แต่
นั่นกลับไม่ได้ทำให้ Honda ง่อยเปลี่ยเสียขาแต่อย่างใด ความพยายายามลุกขึ้นยืนอีกครั้งในปี 2012
กลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถยนต์เมืองไทย ให้ลูกหลานชาวไทยจดจำ
กันไปอีกนาน เพราะพี่เค้าเล่น “โหมกระหน่ำเปิดตัวรถใหม่แบบบ้าระห่ำ ปีเดียว 10 รุ่นรวด!!!!!!!!”
ซึ่งไม่เคยมีบริษัทรถยนต์รายใดทำได้มาก่อนในบ้านเรา

เริ่มจากช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ ในเมื่อ ยังไม่มีรถผลิตขาย เพราะยังต้องซ่อมโรงงานกันเร่งด่วน
Honda ได้รับอนุญาตให้นำเข้ารถยนต์นั่ง เฉพาะรุ่น Jazz และ Accord จำนวนจำกัดจากญี่ปุ่น ซึ่ง
มีสเป็กบางอย่าง ไม่ตรงกับเวอร์ชันไทยไปเสียทั้งหมด จำนวนไม่กี่พันคัน เพื่อมาบรรเทาปัญหา
ให้ลูกค้าไปก่อน โดย Jazz เป็นสีส้มทึบ ส่วน Accord มาไม่เยอะนัก ซึ่ง Honda ยืนยันว่า ได้ใช้
สิทธิพิเศษส่วนลดด้านภาษี เช่นเดียวกับผู้ผลิตสินค้ารายอื่นๆ อย่าง กูลิโกะ กระนั้น ก็ยังมีบางค่าย
แอบหมั่นไส้ หาทางใช้วิธีตัดแข้งตัดขาเล็กๆน้อยๆ เพื่อไม่ให้ Honda ได้สิทธิ์นั้น แต่สุดท้ายก็
ไม่สำเร็จ

เดือนถัดมา ก่อน Bangkok International Motor Show จะเริ่ม Honda ประกาศนำเข้ารถตู้ 
Minivan รุ่น Odyssey กับ StepWGN และ รถสปอร์ต CR-Z พร้อมกัน 3 รุ่นรวด (บันทึกไว้
เสียหน่อยว่า เหตุที่ CR-Z มาได้ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่มีไอเดียว่า ในเมื่อ Toyota เตรียมจะสั่งนำเข้า
Toyota 86 มาขายเอง Honda ก็ควรมีรถสปอร์ต CR-Z เข้ามาขาย ในราคาที่ถูกกว่า เป็นหน้าตา
ให้แก่บริษัทสักหน่อย แค่นั้นเลย ไม่ต้องคิดมาก!)

พอโรงงานเปิดสายการผลิตได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2012 Honda ก็เตรียมพร้อม เพื่อเปิดตัว
Civic FB ใหม่ เมื่อ 10 พฤษภาคม ทันที จากนั้น ตามติดในเดือนกรกฎาคม ด้วย Jazz HYBRID
รถยนต์นั่งขนาดเล็ก B-Segment ขุมพลัง Hybrid รุ่นแรกในไทย ที่ประกอบและขายในประเทศ
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม เท่านั้นยังไม่พอ เดือนกันยายน Honda อัดเปิดตัวรถใหม่ถึง 3 รุ่นรวด ทั้ง
Honda FREED Minorchange นำเข้าจากอินโดนีเซีย (วันที่ 4 กันยายน) ตามด้วย Brio รุ่นย่อย
ใหม่ S CVT เป็นรุ่นถูกสุดของเกียร์อัตโนมัติ (6 กันยายน) ตามเกาะติดด้วย Honda CR-V ใหม่
ที่หลายคนรอคอยมานาน ก็เปิดตัวตามติดมา (24 กันยายน) ก่อนจะส่งท้ายสิ้นปี ด้วยการดึงดารา
นักร้องชื่อดังจาก XACT บี้ สุกฤษฎ์ มาเป็น Presenter ให้กับ Brio AMAZE Sedan ที่เร่งให้
เปิดตัวได้เร็วก่อนกำหนดเดิมถึง 6 เดือน เปิดผ้าคลุมรับจอง และรับสิทธ์รถคันแรกได้เมื่อวันที่
23 พฤศจิกายน ก่อน Motor Expo ไม่กี่วัน แถมปีนี้ ยังมีโครงการตั้งมูลนิธิ เพื่อสะสมส่วนแบ่ง
จากรายได้ที่ขายรถในแต่ละคัน เพื่อเข้ากองทุน ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในอนาคตอีกด้วย

ปี 2013 นี้ Honda ก็ยังคงจะบุกหนัก และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ ปริมาณ
น่าจะลดลงจากปี 2012 กันบ้าง แต่ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย เพราะอุดมไปด้วย รุ่นสำคัญๆ
สำหรับตลาดเมืองไทยทั้งสิ้น

เริ่มกันที่ Civic HYBRID ซึ่งจะถือเป็น C-Segment Compact Sedan ประกอบไทยรุ่นแรกที่ติดตั้ง
ระบบขับเคลื่อน Hybrid จากโรงงาน ประกอบด้วยขุมพลัง 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร i-VTEC
พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า รวมกำลังขับเคลื่อนทั้งระบบ 110 แรงม้า (PS) ยกชุดมาจาก Honda INSIGHT
รุ่น Minorchange ในญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือ กำหนดเปิดตัว น่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2013

แต่นอกเหนือจากนี้ ถ้าใครสงสัยว่า Honda จะปรับโฉม Civic ในปีนี้ กันเลยหรือเปล่า คำตอบก็คือ
ช้าก่อนพี่น้องทั้งหลาย ช่วงต้นปีนี้ Civic จะไม่มีการปรับปรุงอุปกรณ์ใดๆมากมายนัก หากจะทำ
มากสุด ก็แค่อุปกรณ์และการตกแต่งภายใน ส่วนรูปโฉมใหม่ ที่เห็นในตลาดอเมริกาเหนือนั้น
จะตามมาถึงเมืองไทยในช่วงปี 2014

จากนั้น ตามด้วย Accord ใหม่ Full ModelChange ที่เพิ่งเปิดตัวไปในตลาดอเมริกาเหนือ เมื่อเดือน
สิงหาคม 2012 ที่ผ่านมา เวอร์ชันไทย จะประกอบขึ้นที่โรงงานโรจนะ อยุธยา เหมือนเช่น Honda
รุ่นอื่นๆที่ขายในบ้านเรา เพียงแต่ว่า รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อาจยังไม่ใช้เทคโนโลยี Earth Dream
แต่ รุ่นเครื้่องยนต์ 2.4 ลิตร แม้จะใช้พื้นฐานจากเครื่องยนต์ K24A บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว
2.4 ลิตร เหมือนเดิม แต่จะถูกปรับปรุงให้ใช้เทคโนโลยีตัวแรกในกลุ่ม Earth Dream นั่นคือระบบ
ฉีดจ่ายเชื้อเพลิง ตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ Direct Injection กำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 185 แรงม้า (PS)

ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็คือ ลูกค้าชาวไทย จะได้เป็นเจ้าของ Accord HYBRID กันแน่นอน
โดยยืนหยัดอยู่บนพื้นฐานของเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร EarthDreams i-VTEC 137 แรงม้า
(PS) เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 166 แรงม้า (PS) เมือทำงานร่วมกันจะได้กำลังสูงสุด 196 แรงม้า (PS)
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่า Accord HYBRID เวอร์ชันไทย จะมีระบบเสียบปลั๊กชาร์จกับไฟบ้าน
แบบ PHV Plug-in Hybrod Vehicle) ได้ด้วยหรือไม่

กำหนดเปิดตัว รุ่นมาตรฐาน จะมีขึ้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2013 แต่รุ่น HYBRID นั้น
ยืนยันว่าจะยังไม่เปิดตัวพร้อมกันกับ Accord รุ่นมาตรฐานแน่ๆ เพียงแต่จะเป็นช่วงปลายปี 2013
หรือว่า ต้นปี 2014 นั้น ยังต้องดูกันอีกที เพราะ ตามแผนแล้ว Honda จะต้องส่ง Accord Hybrid
จากเมืองไทย ไปขายในออสเตรเลีย ช่วงปี 2014

หลังจากนั้นจะถึงคิวของ การปรับโฉม Minorchange ครั้งใหญ่ให้กับ เจ้าหนู Brio ECO Car คันจิ๋ว
ให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น และปรับปรุงวัสดุต่างๆ ให้มีคุณภาพดีขึ้น ดูได้จาก Brio Amaze
ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ยืนยันแล้วว่า จะมีใบปัดน้ำฝนหลังมาให้อย่างแน่นอน การปรับโฉมน่าจะ
มีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2013 ก่อนงาน Bangkok International Motor Show เล็กน้อย

แต่ ปี 2013 นั้น ยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่นี้ เพราะ ทีเด็ดส่งท้ายปี ที่ Honda เตรียมไว้เสยอัปเปอร์คัท
ปลายคาง ของ Toyota Vios Full ModelChange นั่นคือ Honda City รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน
Full Model Change รหัสโครงการพัฒนา 2CT คราวนี้ Honda ตั้งใจจะยุบ Insight ให้มารวมกัน
เป็น City คันเดียวไปเลย เท่ากับว่า City ใหม่ จะมีถูกยกระดับให้เป็น Global Small Sedan มาก
ยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต เวอร์ชันญี่ปุ่น จะมีเฉพาะ ขุมพลัง Hybrid เบนซิน เพียงอย่างเดียว
แต่ เวอร์ชันไทย จะมีเครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร ทั้งแบบมาตรฐาน และแบบที่ใช้
ก๊าซ CNG ให้เลือก 2 รูปแบบ แต่เวอร์ชันอินเดีย จะใช้เครื่องยนต์ Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว
1.4 ลิตร CTDi Common Rail Turbo โดยมีรูปโฉมภายนอก ที่ถูกยกระดับจากรุ่นปัจจุบัน ให้ดู
โฉบเฉี่ยวขึ้น เป็นแนวทางเดียวกันกับ การยกระดับจาก Accord 2008 เป็น Accord 2013 และ
มีกำหนดเปิดตัวในเมืองไทย เป็นแห่งแรกในโลก เดือนพฤศจิกายน 2013 ตรงกับงาน Motor
Expo พอดีเป๊ะ!

ไม่เพียงเท่านั้น ปี 2013 จะเป็นปีที่ Honda ต้องเปลี่ยนโฉม Full Model Change ให้กับ Honda
Fit / Jazz Sub-Compact Hatchback สุดอเนกประสงค์ไร้คู่แข่ง ถึงแม้ว่าในญี่ปุ่น จะมีกำหนด
เปิดตัวรุ่นใหม่ เปลี่ยนโฉมทั้งคัน Full Model Change ในช่วงงาน Tokyo Motor Show เดือน
พฤศจิกายน 2013 ก็จริง แต่กว่าจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ต้องรอกันจนถึง เดือนกุมภาพันธ์  
ถึง มีนาคม 2014 รายละเอียดงานวิศวกรรม ก็ยกชุดกันมาจาก City ใหม่เลยนั่นละ และจะมีรุ่น
HYBRID ให้ลูกค้าชาวไทยได้เลือกเหมือนเช่นในปัจจุบันอีกด้วย แต่ไม่มีรุ่น CNG เหมือน
City อย่างแน่นอน

ส่วนปี 2014 นอกเหนือจากจะมี Jazz ใหม่ รวมทั้ง City CNG (เปิดตัวช่วงไตรมาสแรก) รวมทั้ง
Civic Minorchange แล้ว ยังมี โครงการใหม่แปลกประหลาดโผล่มาให้ได้ตกใจกันเล่นๆ นั่นคือ
BRIO MPV ซึ่งจะต้องพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Brio และ Brio AMAZE แต่จะวางเครื่องยนต์
1.2 ลิตร หรืออาจจะเป็น 1.5 ลิตร ที่วางอยู่ใน City และ Jazz รุ่นปัจจุบัน วางตำแหน่งการตลาด
ในฐานะ Low-Cost Sub-Compact MPV เพื่อเน้นให้ผลิตและทำตลาดในอินโดนีเซียเป็นหลัก
แต่ในเมื่อ ต้องลิตในอินโดฯ ดังนั้น โอกาสที่จะถูกส่งมาขายในเมืองไทย ก็เป็นไปได้สูง แต่
คาดว่าน่าจะเป็นช่วงใดช่วงหนึ่งของปี 2014 มากกว่า

กระนั้น อยากให้จับตาดู ความเคลื่อนไหวของ Honda FREED สักเล็กน้อย เพราะตอนนี้
Honda ซุ่มเอา FREED SPIKE HYBRID จากญี่ปุ่น เข้ามาวิ่งเล่นทดสอบกันขำขำ เพื่อดู
ความเป็นไปได้ในการนำเข้ามาทำตลาดที่เมืองไทย ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอยู่ แต่ยัง
ไม่มีความชัดเจนในตอนนี้

และอีกรุ่นหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนในตอนนี้ นั่นคือ Honda Urban
SUV ซึ่งจะเข้ามาทำตลาด “ทั่วโลก” ในฐานะ B-Segment SUV ที่สร้างขึ้บนพื้นฐานของ
Jazz และ City เจเนเรชันต่อไป นั่นหมายความว่า เครื่องยนต์กลไก ก็จะยกมาจากทั้ง 2 รุ่น
ดังกล่าว กันแทบทั้งดุ้น เพียงแต่เปลี่ยนเปลือกตัวถังครึ่งคันด้านบน หรือ Top Hat ให้เป็น
รูปแบบ SUV ขนาดเล็กทรงโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เวอร์ชันต้นแบบ จะเผยโฉมในงาน Detriot
Auto Show 2013 ต้นเดือนมกราคมนี้ และเวอร์ชันทำตลาดจริง น่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วง
ปลายปี 2013 หรือต้นปี 2014 ทั่วโลก จากการคาดการณ์เบื้องต้น Headlightmag.com เชื่อว่า
หากจะมีการประกอบขายในย่านอาเซียน ก็คงจะต้องเป็นหน้าที่ของโรงงาน Honda ใน
อินโดนีเซีย ที่จะเป็นฐานการผลิตของรถยนต์รุ่นนี้ และมันก็มีความเป็นไปได้ในการ
นำ SUV คันเล็กกว่า CR-V รุ่นนี้ เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเหมือนกัน แต่เราคงต้อง
รอดูความเป็นไปได้ กันถึง ปี 2014

Previous Post

N0809031_สม ยน นหน าด าน เราต องส งสอนม นแบบม นเช ตอนจบสะใจมาก_part2

Next Post

N0909029_าเราให งด บคนอ เราก จะได บส งท กล บมาเช นก_part2

Next Post
N0909029_าเราให งด บคนอ เราก จะได บส งท กล บมาเช นก_part2

N0909029_าเราให งด บคนอ เราก จะได บส งท กล บมาเช นก_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2812036 เล ยงล กมาแบบน เอง แล วจะโทษใคร part2
  • N2812050_อย าบ งค ให ผมต องเล อก (ต องด ให จบ…ถ าเป นค ณจะเล อกใคร)_part2
  • N2812039 เม ยก คน จะให ทนไปถ งไหน part2
  • N2812053 อย าเหย ยบห วคนอ เพ อให วเองได part2
  • N2812055 าเจอคนแบบน องหน ให ไกล part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.