• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1209069_าของคน ดก นท อะไร_part2

admin79 by admin79
September 9, 2025
in Uncategorized
0
N1209069_าของคน ดก นท อะไร_part2

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน headlightmag.com ทุกท่าน เรากลับมาพบกันอีกครั้งในเทศกาลดูรถประจำหน้าร้อนแห่งปี 2018

ท่านผู้อ่านหลายท่านที่ยังไม่ได้มาเยี่ยมชมงานในรอบVIPหรือรอบสื่อมวลชนคงอยากทราบว่าแต่ละค่ายขนอะไรมาบ้างในปีนี้ แน่นอนครับว่ามีรถหลายรุ่นที่เปิดตัวไปก่อนหน้างาน แต่ก็มีบางรุ่นที่อาศัยงานนี้เพื่อเปิดตัวรถใหม่สำหรับตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยงานนี้จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี ด้วย Concept งาน ” Revolution in Motion ” ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว 

ภาพรวมของปีนี้ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ค่ายรถยนต์แนวคิดใหม่ที่ทำตลาดด้วยรถยนต์พลังไฟฟ้า ดูจะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและคนทั่วไปมาเยี่ยมบูธกันอย่างคับคั่ง นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการให้ประชาชนเริ่มทำความคุ้นเคยกับรถยนต์พลังทางเลือกแบบใหม่ที่พวกเราบางคนอาจจะไม่มีวันได้เป็นเจ้าของ แต่คนรุ่นลูกหลานของเราจะหลีกหนีมันไม่พ้นอย่างแน่นอน

ส่วนในด้านของรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน (ก็รถทั่วไปนั่นล่ะ) พบว่าปีนี้ รถจากฝั่งเมืองฝรั่งมีการเปิดตัวรถใหม่ เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ หรือปรับรายการอุปกรณ์มาตรฐานกันอย่างคึกคัก ในขณะที่ฝั่งเกาหลีก็ไม่น้อยหน้า แต่ฝั่งญี่ปุ่นอาจจะไม่มีอะไรแปลกใหม่มากเท่าที่ควร ดูเหมือนต่างคนต่างจะสงวนหมัดไว้ซัดกันในไตรมาสหลังของปีมากกว่า

เรามาดูไฮไลท์กันดีกว่าครับว่างานนี้มีอะไรให้คุณชมบ้าง และขอให้มีความสุขกับการเดินชมรถ ไม่ว่าคุณจะมาเดินในงานกันเป็นคู่..เป็นกลุ่ม..เป็นสายลุยเดี่ยว..หรือมาคนเดียวแล้วค่อยมาหาคู่ในงาน (หากทำได้) และอย่าลืมติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากทางเพจ Headlightmag ใน Facebook เพราะนอกจากจะมีบทความนี้แล้ว ทางคุณหมู ธีรพัฒน์ ยังได้ทำกระทู้เจาะลึกสำหรับรถรุ่นต่างๆ และมีรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรถบางรุ่นที่คุณอาจสนใจเป็นพิเศษ

เอ้า..พร้อมกันหรือยังล่ะออเจ้าทั้งหลาย?

Aston Martin

All-new Vantage ทรวดทรงแห่งนักล่า

ประเดิมกันด้วยรถสปอร์ตเมืองผู้ดีอย่าง V8 Vantage โฉมใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเผยโฉมครั้งแรกในเมืองนอกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และประเทศไทยเป็นเจ้าแรกใน ASEAN ที่ได้สัมผัสรถคันจริง Vantage ตัวถัง AM6 นี้ใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบเดียวกันกับ DB11 รุ่นพี่ และมีดีไซน์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถต้นแบบ DB10 ที่ใช้ในภาพยนตร์ James Bond โดยเฉพาะในส่วนท้ายของรถในขณะที่ด้านหน้านั้นมีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Aston Martin Vulcan รถถนนสายเลือดรถแข่งราคาแพงระยับของทางค่าย

V8 Vantage ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ 4.0 ลิตรทวินเทอร์โบซึ่งผลิตโดยโรงงาน Mercedes-AMG (รหัส M177 และเป็นเครื่องแบบเดียวกับใน AMG ตระกูล 63) สร้างพลังม้าได้ถึง 510PS แรงบิดสูงสุด 685 นิวตันเมตร สิ่งที่ต่างออกไปจาก AMG ก็คือแทนที่จะใช้ระบบส่งกำลังคลัตช์คู่ Aston เลือกเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF มาแทน และในอนาคตจะมีรุ่นเกียร์ธรรมดาตามออกมา ในปัจจุบันรถรุ่นนี้กำลังเดินสายโชว์ตัวตามประเทศต่างๆโดยกำหนดผลิตจริงนั้นจะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2018

สำหรับรถรุ่นอื่นของ Aston ที่มาโชว์ นอกจากจะมี Vantage รุ่นเดิมมาจอดหลบอยู่ข้างหลัง ให้เห็นความแตกต่างด้านการออกแบบระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่แล้ว อีกด้านนึงของบูธ ก็ยังมี Rapide ซูเปอร์ซีดานที่เรียวเปรียวเล็กเหมือนรถสปอร์ต ตามมาด้วย DB11 สปอร์ตรุ่นใหญ่ของค่ายที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ V12 5.2 ลิตร 600 แรงม้า ราคา 24,900,000 บาท และ Vanquish รถเรือธงของค่ายซึ่งน่าจะเป็นสายพันธุ์สุดท้ายของเครื่องยนต์ Aston Martin V12 แบบไร้เทอร์โบ ให้พลัง 568 แรงม้า เป็นของคุณได้ในราคา 27,900,000 บาท


Audi

รถหรูติดเทอร์โบ quattro เกาะแน่นนิ่ง ซิ่งสไบปลิว

รุกหนักอย่างต่อเนื่องเหมือนไปเคืองใครมา Meister Technik ผู้แทนจำหน่ายรายปัจจุบันเพิ่งทำตลาดมาได้ราว 1 ปี ทยอยเปิดตัวรถใหม่อย่างต่อเนื่อง และนำมาโชว์ในงานครั้งนี้อย่างหลากหลาย สำหรับซูเปอร์คาร์ R8 ราคา 18,999,000 บาท  มากับสีเหลืองใหม่ ส่วน A4 Avant แวก้อนพ่อบ้านโหดเงียบ ก็มีสีเทาพิเศษที่เพิ่งสั่งมาสดๆร้อนๆ

สำหรับของใหม่ล่าสุดที่เผยโฉมในงานนี้ ก็คือ A7 Sportback 55 TFSI quattro S-Line ซึ่งมาพร้อมกับราคา 5,399,000 บาท อาจจะดูแพงเมื่อเทียบกับ CLS รุ่นใหม่ของ Mercedes-Benz ที่เป็นคู่แข่งสายตรง แต่ Audi จัดเต็มพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ Direct Injection ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ S-tronic 7 จังหวะ แล้วยังมีมอเตอร์เสริมแรงในการขับเคลื่อน (Mild Hybrid) ให้พลังถึง 340 แรงม้า

นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ A7 ยังเป็นแบบ quattro-Ultra ซึ่งต่างจากระบบขับสี่ในรุ่นเครื่องวางตามยาวอย่าง A4 และ A5 ตรงที่ในยามปกติ ไม่ได้กดคันเร่งหนักๆหรือขับแบบเน้นเอามันส์ ระบบจะตัดการทำงานเหลือแค่ขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ ส่วนเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีมาให้เต็มขั้นไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ 39 รายการ หลังคา Panoramic และล้ออัลลอยวงโตขนาด 20 นิ้ว

ขุมพลัง 340 แรงม้าใน A7 ก็เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในการขับเคลื่อน A8 Saloon ยานยนต์ระดับเรือธงยาวกว่า 5 เมตรของ Audi ซึ่งได้มีการจัดงานเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ที่พัทยา โดยสำหรับประเทศไทยนั้น จะมีแค่รุ่นฐานล้อยาว (A8L)  แต่มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ A8L 55TFSI quattro Premium ราคา 6,799,000 บาท และรุ่น Prestige ราคา 7,999,000 บาท เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นหากคุณไม่ต้องการเลือกรถหรูตามกระแส แต่ถ้าว่ากันตามพื้นฐานของราคาแล้ว อาจจะทะลวงป้อมคู่แข่งยากสักหน่อยเพราะ BMW และ Mercedes-Benz ต่างก็มีรถหรูขนาดยักษ์ประกอบในประเทศที่ราคาถูกกว่าให้เลือก รถที่แพงกว่า A8L จริงๆก็คงมีแค่ Lexus LS ซึ่งเจ้านั้นเขาไม่เคยเน้นเรื่องราคาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ความที่บ้านเมืองเรามีน้ำอุดมสมบูรณ์มาก ท่วมได้ทุกฤดู ทำให้ SUV อย่าง Q7 เป็นหนึ่งในรถขายดีอันดับต้นๆของ Audi ดังนั้นก็เลยต้องมีรุ่นท้อปเหนือท้อปออกมา จากเดิมรุ่น 3.0V6 45TFSI 333 แรงม้าก็มีราคา 4,999,000 บาทแล้ว มาคราวนี้ Audi ทำรุ่นออพชั่นจัดเต็ม เครื่องเดียวกัน เป็น Black Edition ราคา 5,999,000 บาท ส่วนต่างที่เพิ่มมาล้านนึง ให้คุณได้ชุดแต่งภายนอกโทนดำเงา, ล้อขนาด 22 นิ้ว, หลังคา Panoramic, เบาะ S-Line ลายข้าวหลามตัด, หน้าปัด Virtual Cockpit/Audi MMI Navigation System, ช่วงล่างถุงลมแบบสปอร์ต, พวงมาลัยท้ายตัด, แผงประตูหุ้ม Alcantara และอื่นๆ

เชิญเลือกโปรยเบี้ยกันตามใจชอบ

โปรโมชั่นงาน Bangkok Motor Show

  • Audi Q2 ราคาสุดพิเศษ 1,990,000 บาท จำนวนจำกัด
  • Audi Q5 ผ่อน 0% นาน 5 ปี หรือประกันภัยชั้น 1 ฟรี 5 ปี
  • Audi Q7 แคมเปญแถมประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี
  • หรือเลือกรับแคมเปญพิเศษ “แสนพอยท์ มีค่าแสนบาท” โดยลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซิตี้แบงค์ และกรุงศรีอยุธยา สามารถนำพอยท์ มาแลกเป็นเงินโบนัส ที่ Audi จะมอบให้เป็นพิเศษในวันออกรถ  ทั้งนี้จะใช้ได้ไม่เกิน 1 แสนพอยท์
  • แคมเปญดอกเบี้ย 0% นาน 48 – 60 เดือน สำหรับรุ่นที่บริษัทฯ กำหนด หรือผ่อนเพียงแค่ 1% ของราคารถกับ Audi Choice

ขณะที่ลูกค้าที่ออกรถ Audi ทุกรุ่นยังจะได้รับสิทธิ์ร่วมแคมเปญชิงโชคสุดเซอร์ไพรส์ ลุ้นเป็นเจ้าของรถสปอร์ต พรีเมี่ยม Audi TTS 1 คัน มูลค่า 4.599 ล้านบาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม Audi A7 Sportback

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม Audi A8

Full Review: ทดลองขับ Audi A4 Avant quattro S-Line Black Edition


BMW/MINI

M-car แรงแบบไม่ต้องถาม ซีรีส์ 3 หลากรุ่นย่อย  Freedom Choice ช่วยได้

มาบูธ BMW คราวนี้ดีใจ เพราะนอกจากจะจัดพื้นที่ได้สวยงามโล่งตาขึ้นแล้ว ยังน่าจะเป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องมาลุ้นว่า i8 จะมีสีอะไรแปลกๆออกมาอีกหรือเปล่า ถ้าใครคิดถึง ก็เชิญเดินไปดูด้านหลังบูธได้ เป็นรถสีดำ Protonic Black ที่เคยอวดโฉมไปใน BMW Xpo ช่วงกันยายนปีที่แล้ว นอกเหนือจากนั้นไป ก็จะเป็นรถในสายการผลิตปกติ ทั้ง 520d, 530e, 730Ld, 740Le และรถตระกูล X ต่างๆ มากันครบ รวมถึง M2 ที่เด็ดจนอาจจะคว้า Headlightmag BestDrive 2017 ด้วยเช่นกัน (ปีนี้ประกาศช้า คนทำคะแนนไม่ว่าง อย่าเพิ่งทวง)

ในบรรดารถเก๋งสำหรับคนทั่วไป ซีรีส์ 3 น่าจะเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุด ยิ่งใกล้ตกรุ่น ยิ่งแตกรุ่นย่อยออกมาจนนับแล้วน่าจะมากกว่า Toyota Altis เสียอีก แต่ก็เป็นผลดีสำหรับการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า อย่างในงานนี้ BMW เปิดตัวซีรีส์ 3 ซาลูนอีก 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • 320d M Sport 2,459,000 บาท- ใส่อุปกรณ์ชุดแต่งภายนอกและล้ออัลลอยให้ดูคล้ายกับ 330e M Sport ตัวท้อปมากขึ้น พวงมาลัย M Sport ภายในแบบ M Sport แต่ชุดจอกลางกลับใช้ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่า 330e M Sport/Luxury  และไม่มีซันรูฟ
  • 330e Sport 2,359,000 บาท- เวอร์ชั่นคั่นกลางระหว่าง 330e Iconic รุ่นถูกราคา 2,259,000 บาทกับรุ่น Luxury 2,559,000 บาท โดยลักษณะของตัวรถ ภายนอก และกันชนจะเหมือนกับรุ่น Iconic แต่ได้ล้ออัลลอย 18 นิ้วลาย 5 ก้านคู่มาแทนล้อของ Iconic ที่ดูตุ่นๆพิกล พวงมาลัย 3 ก้านแบบมาตรฐาน แต่มี Paddleshift มาให้ (ตัว Luxury ไม่มี)

ซีรีส์ 5 นั้นก็เพิ่งจะเปิดตัว 530i Touring M Sport ไปก่อนหน้านี้ในราคา 4,539,000 บาท ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเบนซิน TwinPower Turbo 252 แรงม้า มีระบบเปิด/ปิดบานประตูท้ายด้วยไฟฟ้า หรือจะใช้ยื่นเท้าไปแกว่งหาเสี้ยนใต้กันชนก็ได้เช่นกัน มีอุปกรณ์ครบ เซ็นเซอร์รอบคัน จอกลางขนาดใหญ่ 10.25 นิ้วพร้อมระบบสั่งการโดยขยับมือไปมา นับเป็นอีกรุ่นสำหรับคนรักรถสไตล์ สเตชั่นแวก้อนที่ยังคงชอบการขับขี่ที่สนุกสนาน รวมถึงใครก็ตามที่พลาดหวังจาก 530i M Sport ตัว 4 ประตู เพราะตอนนี้รุ่นซาลูนไม่มีเครื่องเบนซินเพียวแล้ว มีแต่ Plug-in Hybrid อย่าง 530e เท่านั้น

สำหรับคนที่เพิ่งออก X1 sDrive18d M Sport 150 แรงม้าไปก่อนหน้านี้ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะงานนี้ BMW แอบนำเครื่องใหม่ใส่ X1 อย่างเงียบๆ กลายมาเป็น X1 sDrive20d M Sport 2,559,00 บาท (BSI Standard) ซึ่งอัพพลังเพิ่มอีก 40 แรงม้าเป็น 190 แรงม้า แรงบิดเพิ่มจาก 330 เป็น 400 นิวตันเมตร สนองความแซ่บ แสบแบบวัยรุ่นรักครอบครัว ตั้งราคาเท่ารุ่น sDrive18d M Sport เดิม อุปกรณ์ต่างๆเท่าที่สแกนด้วยตาของข้าพเจ้าดู ก็เหมือนเดิม ทั้งนี้หากเป็นรุ่นที่ตกแต่งแบบ xLine จะยังใช้เครื่องดีเซล 150 แรงม้าตัวเดิมไปก่อน ส่วนรุ่นเบนซิน sDrive18i 136 แรงม้า จะเปลี่ยนเกียร์จากแบบอัตโนมัติปกติ 6 จังหวะไปเป็นคลัตช์คู่ลูกใหม่แบบเดียวกับของ X2 เร็วๆนี้

สำหรับ X3 นี่ก็ไม่เบา แอบมีรุ่นย่อยเพิ่มมาใหม่เช่นกัน จากเดิมที่มีแค่รุ่น xLine เน้นหรูเรียบ ราคา 3,699,000 บาท ในงานมอเตอร์โชว์นี้ BMW เอา X3 xDrive20d รุ่น M Sport มาขายแล้วโดยบวกราคาไปอีกเป็น 3,799,000 บาท จุดแตกต่างอยู่ที่ชุดแต่ง M Sport รอบคัน ล้ออัลลอยเปลี่ยนเป็นลาย M Double Spoke (แต่ขนาด 19 นิ้วเหมือน xLine) ขอบหน้าต่างสีดำเงา ภายในมีการตกแต่งเป็นสีดำ/เงิน พวงมาลัย M Sport ทรงแบบของซีรีส์ 5 ช่วงล่างเปลี่ยนใหม่เป็นสเป็ค M Sport

ที่สำคัญ มีกล้องหลังมาให้แล้วจ้า

หากคุณเป็นคนที่ชอบของแรงๆ ก็ให้เดินมาเยี่ยมชมรถตระกูล M Cars ด้านหลัง M4 CS ใหม่ เป็นรถที่สร้างขึ้นมาคั่นกลางระหว่าง M4 รุ่นปกติ กับรุ่นพิเศษหายากอย่าง GTS/DTM Edition ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเทอร์โบที่ปรับเพิ่มกำลังจาก 431 เป็น 460 แรงม้า ปลดล็อคกล่องเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เกียร์คลัตช์คู่แบบ 7 จังหวะ ส่งกำลังไปเฟืองท้าย Active M ที่สามารถปรับสไตล์การขับตามความซนและใจของผู้ขับได้ จุดเด่นภายนอกอยู่ที่หลังคา ฝากระโปรงหน้าทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ภายในมีเบาะสปอร์ต Alcantara แถมเท่ห์สุดด้วยการไม่มีคันดึงเปิดประตู (ใช้วิธีกระตุกสายเอา..ไปเล็งดูเอง) สนนราคาก็แค่ 11,439,000 บาท (BSI Standard)

แต่ถ้าหากว่าม้า 460 ตัวไม่พอ และคุณอยากได้รถที่มีมาดผู้ใหญ่ขึ้นหน่อย M5 น่าจะเป็นคำตอบที่ดี ไม่ต้องถามหาตัว First Edition นะครับเพราะรายนั้น “มาแล้ว ไปแล้ว อย่างไว” เหลือแต่รุ่นปกติที่ตั้งราคาไว้ 13,339,000 บาท มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ M xDrive ซึ่งเลือกวิธีการส่งกำลังตามความชอบของผู้ขับได้ว่าจะเอาตะกายสี่แบบเกาะๆ, แบบพยศนิดหน่อย หรือถ้ามั่นหน้ามั่นใจสุดๆ จะปลดให้เหลือขับหลังก็ยังได้ แต่จะปล้ำกับม้า 600 ตัว หาที่หาทางให้ดีแล้วกันนะครับ

รถใหม่ ซิงสุดในงานที่เพิ่งเปิดตัว ณ มอเตอร์โชว์ ก็คือ BMW X2 sDrive20i M Sport X ใหม่ เป็นรถครึ่งๆกลางๆ ใต้ท้องสูงกว่ารถเก๋งแต่ไม่เท่า SUV บอดี้กระเดียดไปทาง Hot Hatch ทำนองเดียวกันกับ Mercedes-Benz GLA นั่นเอง แน่นอนว่า BMW ก็หมายมั่นให้ X2 มาเป็นคู่แข่งสายตรงกับ GLA อย่างไม่ต้องสงสัยหลังจากที่ให้ X1 รับงานไม่ตรงหน้าที่มานานปี

X2 sDrive20i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TwinPower Turbo วางขวาง 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ใช้เกียร์คลัตช์คู่ลูกใหม่ Steptronic DCT ที่จะถูกทยอยนำมาติดตั้งในรถเครื่องยนต์วางขวางของ BMW และ MINI นับแต่นี้เป็นต้นไป ลักษณะของรถเน้นความเป็นสปอร์ตชัดเจนกว่า X1 ด้วยชุดแต่งสปอร์ตสีเทาตัดกับตัวรถ ล้ออัลลอย Y Spoke ขนาด 19 นิ้ว หลังคา Panoramic ตัวรถมีให้เลือกสองสีคือเหลืองทอง Galvanic Gold และสีน้ำเงิน Misano ฺBlue

แนะนำว่าถ้าใครพาแฟนสาวหรือภรรยามาเดินในงาน พยายามอยู่ให้ห่างจากรถคันนี้ เพราะเท่าที่แอบเดินเงี่ยงหูฟังชาวบ้าน สาวๆหลายท่านปลื้มมากจนแฟนเหงื่อตกกีบ แน่นอน ก็ 2,999,000 บาทนี่แพงกว่า 330e M Sport อีกนะ

สำหรับบูธ MINI มีเหล่ารถรุ่น John Cooper Works ตัวแรง 231 แรงม้ามาโชว์ ตกแต่งบรรยากาศบูธได้สุดยอดเช่นเคย และมีการนำเสนอรถรุ่นพิเศษ MINI Clubman Yours Edition ที่เตรียมเปิดตัวให้เห็นอย่างเต็มรูปแบบผ่านช่องทาง Digital และบอกมาว่าช่องทางการสั่งจองก็จะเป็นแบบไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่บอกว่ากระไร

ไม่รู้ว่าเขาจะให้พี่ผินพี่แย้มแจวเรือเอาไปส่งให้อย่างนั้นหรือเปล่า

โปรโมชั่นงาน Bangkok Motor Show

ลูกค้า BMW ที่จองรถในงาน และรับรถภายใน 30 เมษายน 2018 ได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้

  • ลูกค้าซื้อซีรีส์ 730Ld, i8 และรถ M2, M4 กับ M5 ได้บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 70,000 บาท
  • รุ่นอื่นๆ ยกเว้นรถ Plug-in Hybrid ได้บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 50,000 บาท
  • รถยนต์ Plug-in Hybrid ได้การยกระดับอัปเกรดจาก BSI Standard เป็น BSI Ultimate 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

ลูกค้า MINI ที่จองรถในงาน และรับรถภายใน 30 เมษายน 2018 ได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้

  • ทุกรุ่นยกเว้น Countryman ได้สิทธิ์อัปเกรดจาก MSI 3 ปี 60,000 กิโลเมตร เป็น 5 ปี 100,000 กิโลเมตร
  • บริการ MINI Freedom Choice สำหรับลูกค้าที่จอง MINI Clubman Cooper S ให้สิทธิประโยชน์ในการรับประกันมูลค่ารถยนต์ MINI ในอนาคต เมื่อครบกำหนดสัญญาก็เลือกได้ว่าจะขายคืน/เทิร์นรุ่นใหม่ หรือเก็บไว้ใช้ต่อแล้วจ่ายเพิ่ม

รายละเอียดเพิ่มเติม

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม 530i Touring M Sport

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม X2 sDrive20i

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม M4 CS

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม M5

Full Review ทดลองขับ BMW X1 sDrive18d xLine


BYD (EV)

เปิดประวัติศาสตร์ ยานยนต์ไฟฟ้าแดนมังกร

BYD เข้ามาทำตลาดโดยบริษัท Rizen Energy ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ชื่อ BYD นี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นบริษัทที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยมีฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมืองเสินเจิ้น เมื่อโลกเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า BYD ก็ลงทุน วิจัย และผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อนสำหรับการขับเคลื่อนรถยนต์ไปจนถึงรถไฟรางเดี่ยว ในปัจจุบันค่ายนี้นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก (นับรวมทั้งรถส่วนบุคคลและเพื่อการพาณิชย์)

กลยุทธ์ของ BYD ในไทยนั้นมาแปลก เพราะไม่ขายรถให้กับคนที่ต้องการซื้อไปใช้ส่วนบุคคล แต่มาจำหน่ายเป็นรถขนส่งสาธารณะและเชิงพาณิชย์ อย่าง BYD E6 คันข้างบนนี้ จะถูกนำมาทำเป็นแท็กซี่ VIP เมื่อถามว่าทำไมต้องทำแท็กซี่ ก็ได้ทราบคำตอบว่า เพราะผู้คนมีความกังขาในเรื่องความทนทานของรถยนต์ไฟฟ้า การเริ่มตลาดโดยให้ทำเป็นรถแท็กซี่จะเป็นตัวพิสูจน์ความทนทานให้ผู้คนเริ่มรู้สึกไว้ใจ อนึ่ง ประเทศไทยไม่ใช่ที่แรกที่ E6 ถูกนำมาทำแท็กซี่ เพราะในปัจจุบันมีรถรุ่นนี้วิ่งเป็นแท็กซี่อยู่ 87,000 คันทั่วโลก

E6 ใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 134 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 80kWh (มากกว่า Nissan LEAF ใหม่ 2 เท่าตัว) วิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 350-400 กิโลเมตร ชาร์จไฟผ่านแท่นชาร์จ 40kW ของ BYD จนเต็มหม้อได้ภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง สนนราคาของรถอยู่ที่ 1,890,000 บาท

ส่วนรถตู้เล็กคันนี้ คือ BYD T3 ซึ่งเข้ามาจับตลาดรถขนส่งระยะใกล้ขนาดเล็ก เข้าซอกซอนได้ในพื้นที่ซึ่งรถใหญ่เข้าถึงได้ยาก เน้นความประหยัดจากการที่ไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง ใช้แบตเตอรี่ขนาด 48kWh ใช้เวลาในการชาร์จผ่านแท่นชาร์จ 40kW ของ BYD ได้เต็มหม้อภายใน 1 ชั่วโมง 15 นาที สามารถวิ่งได้ไกล 150-200 กิโลเมตรขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน (ในรถยนต์ไฟฟ้าจะต่างจากรถเครื่องสันดาปภายในตรงที่ รถสันดาปภายในเจอรถติดมากๆจะกินน้ำมันมาก แต่รถยนต์ไฟฟ้าจะกินพลังไฟตามความเร็วที่วิ่ง..วิ่งเร็วมากก็ไฟหมดเร็ว) ราคาของ T3 ในเบื้องต้นตั้งไว้ที่ 1,590,000 บาท


Chevrolet

ชุดแต่งใหม่ สีสันใหม่ เทาเงานางแมว ส้มแสบเสน่ห์ จนไบเล่ยังเรียกพ่อ

Chevrolet ในขณะนี้จะเน้นการทำตลาดรถปิคอัพขนาด 1 ตัน และ PPV เป็นหลัก โดยมี SUV พื้นฐานรถเก๋งอย่าง Captiva เป็นตัวประกอบตลาดเล็กๆ ในขณะที่ Colorado เป็นเพียงรุ่นเดียวที่สร้างรายได้และฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิผลที่สุด เมื่อเร็วๆนี้ เพิ่งจะมีการอัปเดต Colorado เป็น Model Year 2018 ซึ่งมีการปรับราคาและอุปกรณ์ในบางรุ่นให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Colorado LT Z71 ซึ่งปรับราคาเพิ่มแค่ 8,000 บาท แต่เพิ่มอุปกรณ์ระบบช่วยเหลือด้านการทรงตัวและ Traction Control เป็นต้น

และเนื่องจากรถโมเดลตัวถังใหม่ๆ จะยังไม่มีมาภายในเร็วๆนี้ ดังนั้น Chevrolet ก็ต้องพยายามสรรหารถตกแต่งพิเศษมากระตุ้นตลาดอยู่เรื่อยๆ เช่น Trailblazer Phoenix Edition ซึ่งมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปเพิ่ม ตามผลการวิจัยของบริษัทที่พบว่า ลูกค้าของ Chevrolet 50% เมื่อซื้อรถไปแล้วจะชอบนำรถไปตกแต่งต่อเอง โดย Phoenix Edition จะประกอบไปด้วยชุดแต่งดังต่อไปนี้

อุปกรณ์ตกแต่งชุดใหม่ของเทรลเบลเซอร์ ประกอบด้วย

  • สติกเกอร์ฝากระโปรง ด้านข้างตัวรถ และด้านข้างหลังคา
  • ตราสัญลักษ์เชฟโรเลต โบว์ไท สีดำ ด้านหน้า และหลัง
  • สปอยเลอร์หลังคาสีดำด้าน
  • ชุดตกแต่งประตูท้ายสีดำด้าน
  • ชุดกันรอยด้านท้ายประตู
  • ซุ้มล้อสีดำด้าน
  • ภายใน มีชุดตกแต่งช่องแอร์, ชุดตกแต่งคันเกียร์ และชุดแต่งข้างประตูสีแดง

ชุดแต่งทั้งหมด สามารถเลือกยกชุดเฉพาะภายนอก (24,934 บาท) หรือภายใน (4,953 บาท) หรือจะยกสองเซ็ตเลยก็ได้ 29,887 บาท แต่ราคานี้มีจนถึงวันที่ 8 เมษายน หรือวันสุดท้ายของมอเตอร์โชว์เท่านั้น

สำหรับ Colorado นั้น ก็มีการเพิ่มเฉดสีใหม่ โดยในรุ่นปกติ จะมีสีเทา Dark Shadow Metallic เพิ่มมาอีกสีหนึ่ง ส่วน Colorado Storm ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ ก็มีสีส้มแป๋นใหม่ล่าสุด Orange Crush มาให้เลือก โดยรุ่น Storm ปกติ จะมีให้เลือกแค่บอดี้ยกสูง 4 ประตู แต่มี 2 รุ่นให้เลือกคือแบบขับเคลื่อนล้อหลังราคา 1,028,000 บาท และขับเคลื่อนสี่ล้อราคา 1,098,000 บาท (เพิ่มจากรุ่นธรรมดา 30,000 บาท) โดยได้ชุดแต่งซุ้มล้อดำ ล้ออัลลอยรมดำ สปอร์ตบาร์ สติกเกอร์คาดข้างรถและอื่นๆ

นอกจากนี้ Chevrolet ยังได้เปิดตัวชุดแต่ง Accessories เพิ่มเติม เช่นชุดแต่งโป่งล้อดำ สติกเกอร์คาดข้าง แผงประตูและแดชบอร์ดสีส้ม คันเกียร์สีเงิน และอื่นๆอีกมาก ซึ่งมีให้เลือกสำหรับทั้งรุ่น X-Cab 2 ประตูและ C-Cab 4 ประตู ลูกค้าสามารถเลือกแต่งเฉพาะจุดหรือเฉพาะชิ้นได้ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 7,912 บาทกับชุดแต่งสติกเกอร์ และ 39,826 บาทสำหรับชุดแต่งเต็มขั้นของรุ่น X-Cab และ 47,938 บาทสำหรับชุดแต่งเต็มของรุ่น C-Cab

เช่นเดียวกันกับ  Trailblazer ก็คือ..ราคาพิเศษสำหรับชุดแต่งเหล่านี้จะมีผลไปจนถึงวันที่ 8 เมษายนเท่านั้นนะครับ

โปรโมชั่นงาน Bangkok Motor Show

  • แคมเปญ “Hot Deal ” ให้แก่ลูกค้าที่งานมอเตอร์โชว์และที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศระหว่างวันที่ 28 มีนาคมถึง 8 เมษายน 2561 โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ ว่าจะรับอัตราดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ หรือเลือกผ่อนค่างวดน้อย

รายละเอียดเพิ่มเติม

ปรับราคาและอุปกรณ์ใหม่ Colorado LT Z71

รูปและรายละเอียดเพิ่มเติม Colorado High-Country Storm ใหม่

Full Review: ทดลองขับ Chevrolet Colorado 2.5VGT 2 และ 4 ประตู

First Impression: ลองขับ Trailblazer รุ่นพิเศษ Z71


FOMM (EV)

ยานยนต์ไฟฟ้า สมองญี่ปุ่น พลังคนไทย สู่โลกใหม่ไม่ง้อน้ำมัน

FOMM One (สีฟ้า) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับคนเมือง ที่มีขนาดกระทัดรัดดวยลำตัวที่ยาวเพียง 2,585 มิลลิเมตร (สั้นกว่าระยะฐานล้อรถ C-Segment ทั่วไป) แต่ออกแบบให้จุคนได้ 4 ที่นั่ง (แต่เท่าที่ลองนั่งมา ควรเป็นคนตัวผอมหน่อย) มีความโดดเด่นด้วยพวงมาลัยทรงคล้ายเครื่องบิน และติดตั้งคันเร่งเอาไว้ที่พวงมาลัยนั่นเอง ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กจุ 2.96 kWh จำนวน 4 ก้อน ทำให้สามารถถอดแยกเปลี่ยนได้ในอนาคต และที่สำคัญ FOMM ยังริเริ่มเครือข่าย Battery Cloud ที่ลูกค้าสามารถขับเข้าไปเปลี่ยนได้เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องต้องไปหาแย่งจุดชาร์จกับชาวบ้าน

เมื่อชาร์จไฟจนเต็ม FOMM One สามารถแล่นได้ไกล 160 กิโลเมตรตามมาตรฐานการวัด WLTC (ใกล้เคียงกับ LEAF รุ่นแรกๆ) และสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เริ่มเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา สำหรับลูกค้า 2,000 คันแรก จะได้ส่วนลดราคาจาก 664,000 บาทเหลือ 599,900 บาท

ถึงแม้ FOMM One จะมีราคาเท่ากับรถอีโคคาร์รุ่นกลางค่อนข้างสูง แต่ทางบริษัทก็ชูจุดเด่นว่าค่าบำรักษาของ FOMM จะต่ำกว่ารถเบนซินทั่วไปถึง 9 เท่าเพราะมีชิ้นส่วนที่ต้องดูแลน้อย ไม่ต้องเติมน้ำมัน น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ เป็นต้น

ส่วนรถต้นแบบอีกคันที่นำมาโชว์ คือ FOMM AWD Sports ซึ่งเป็นต้นแบบของรถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตขนาดกระทัดรัด ใช้แบตเตอรี่ 4 ก้อนแบบเดียวกับรุ่น One แต่ออกแบบตัวรถให้ได้สัดส่วน ดูสปอร์ต เพิ่มความยาวเป็น 3,300 มิลลิเมตร ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำมาผลิตจริง


Ford

Everest เข้าถึงเธอ แต่ Raptor น่ะถึงใจ

กระบะสายไม่แคร์สื่อ! ตัวจริงที่ประชาชนรอคอย  ข่าวขึ้นเว็บปุ๊บคนคลิกเยอะจน Server เดี้ยงไป 3 รอบ นี่ล่ะคือ Ford Ranger Raptor ตั้งราคาไว้ 1,699,000 บาท ซึ่งส่วนที่แพง ไม่ใช่แค่เพราะอุปกรณ์และการปรับปรุงในส่วนของแชสซีส์ และช่วงล่างเท่านั้น อย่าลืมด้วยว่าการใช้ช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริง ทำให้มันต้องเสียภาษีสรรพสามิตในเรทเดียวกับ Ford Everest ซึ่งแพงกว่าอัตราที่ใช้กับรถกระบะช่วงล่างหลังแหนบทั่วไปมาก

แต่ถึงจะมีคนไม่สบอารมณ์กับราคา และไม่ยอมทำความเข้าใจในกลไกภาษีที่แตกต่าง Ford ก็ไม่ได้สนอะไรมาก เพราะตามสโลแกนของเขา It’s not a truck. It’s a supertruck. ก็บอกอยู่แล้วว่ามันทำออกมาเพื่อคนที่ต้องการ Ranger เหนือ Ranger มีความรักใน Ranger และยินดีที่จะจ่ายเพื่อรถเอกสิทธิ์ที่แตกต่างจากคนอื่น ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรดีเซล Compound Turbo 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร เกียร์ 10 สปีดพร้อม Paddle shift แล้วยังติดตั้งโช้คอัพ Fox Racing Shox 4 ล้อ ระบบขับสี่ Terrain Management System พร้อมโหมด Baja (อ่านว่าบาฮา..ไม่ใช่รองเท้า) มี Diff-lock หลังแบบไฟฟ้า นี่คือความแตกต่างที่คุณจะได้รับ

แม้ว่าอุปกรณ์ในด้านความหรูหราอำนวยความสะดวกกับ Safety kit จะไม่ต่างจาก 3.2 Wildtrak มากนักทั้งที่ราคารถสูงกว่าหลายแสน แต่แนวโน้มก็คือ Ford อาจจะต้องเร่งผลิตรถให้ทันกับยอดจองที่เข้ามาจนน่าจะเกินโควต้าไปแล้วด้วยซ้ำ

สำหรับรถรุ่นอื่นๆ ก็มีการนำมาโชว์ เน้นหนักไปที่รถตระกูล Ranger รุ่นปกติ กับ Everest โดยมีรถเก๋ง B SUV อย่าง EcoSport กับ Focus มาเป็นตัวแถมในงาน

โปรโมชั่นงาน Bangkok Motor Show

  • Ranger Open Cab XL ดาวน์ 29,000 บาทหรือราคาพิเศษ 599,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Ford Ensure
  • Ranger Double Cab XLT รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 Ford Ensure
  • Ranger Double Cab XLS/XLT ดาวน์ 49,999 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 หรือดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 60 เดือน
  • Ranger Wildtrak ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 36 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 Ford Ensure
  • Everest 2.2 Titanium 4×2 ดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Ford Ensure
  • EcoSport ทุกรุ่น ดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 60 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 Ford Ensure
  • Focus รุ่น Sport ราคาพิเศษ 999,000 ฟรีประกันภัยชั้น 1

รายละเอียดเพิ่มเติม

ภาพถ่ายรถคันจริงเพิ่มเติม Ranger Raptor


Honda

ศรีราชาคือซอสพริก แต่สีของวัยชิค ต้อง Rallye Red (ภาค 2)

สานต่อกับวิสัยทัศน์ 2030 ที่มุ่งสู่โลกอนาคต ด้วยการนำ Honda Clarity Fuel Cell รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รับพลังจาก Hydrogen Fuel Cell ที่ให้พลังอัตราเร่งเทียบเท่ารถเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร แถมยังวิ่งได้ไกล 750 กิโลเมตรต่อการเติมไฮโดรเจนเต็มหนึ่งถัง นอกจากรถ Fuel Cell ที่นำมาโชว์แล้ว Clarity ในเมืองนอกยังมีรุ่น EV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ เสียบชาร์จไฟกับแท่นชาร์จ และรุ่น Plug-in Hybrid

ทั้งหมดนี้เป็นแผนการใช้โครงสร้างตัวถังของ Clarity อย่างคุ้มค่า สร้างให้รองรับพลังขับเคลื่อน 3 แบบเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำตลาดตามประเทศต่างๆอย่างเหมาะสม เช่นรถเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ก็ไปขายในประเทศที่มีสถานีเติมไฮโดรเจน อย่างอเมริกาบางรัฐ และในญี่ปุ่น รุ่น EV ก็สามารถเจาะตลาดยุโรปที่นิยมรถยนต์ไฟฟ้า อย่างแถบนอร์เวย์ได้ ในขณะที่รุ่น Plug-in Hybrid มีเครื่องยนต์ที่ช่วยชาร์จไฟได้ ทำให้เหมาะกับประเทศที่สาธารณูปโภคด้านการชาร์จไฟยังไม่ดีพอ..เช่นประเทศไทย แต่อย่าเพิ่งถามนะว่าจะเอามาขายหรือเปล่า

สำหรับรถที่อยู่ในสายการผลิตของประเทศไทย ยังไม่มีการเปิดโมเดลใหม่ HR-V ไมเนอร์เชนจ์ที่คิดว่าจะมาต้นปีก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา อย่างไรก็ตาม Honda คิดมุกเด็ดสำหรับงานเลี้ยงได้เสมอ อย่างในครั้งนี้ ก็มีการนำเอา Honda BR-V มาใส่ชุดแต่ง Modulo ประกอบด้วยสปอยเลอร์หลัง ไฟ Daytime Running Light แผงใต้กันชนหน้า/หลังและบันไดข้าง เสริมมาดให้ดูลุยและสปอร์ตขึ้น ชุดแต่งทั้งหมดนี้จะจัดเป็น Sport Package โดยจ่ายเงินเพิ่มแค่ 29,900 บาท

นอกจากนี้ ยังเพิ่ม BR-V รุ่นย่อยใหม่ V+ ที่เพิ่มกระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 6.1 นิ้ว กล้องมองภาพด้านหลัง ตั้งราคาไว้ 755,000 บาท เอามาทำตลาดแทนรุ่น V เดิมโดยแพงขึ้นแค่ 5,000 บาทเท่านั้น

ส่วน Brio Amaze นี่ก็เหมือนมวยที่โดนต่อยลงไปนับ 8 หลายรอบ แต่ยังฮึดสู้ขาดใจ ล่าสุดมี Brio Amaze รุ่น Black Sport ซึ่งใส่กระจังหน้าแบบดำเงา ล้ออัลลอยสีดำเงา Berlina Black และชุดแต่ง Modulo Aero Package ทำให้ในปัจจุบันมี Brio Amaze ขายสองรุ่นคือรุ่น V 517,000 บาท และรุ่น Black Sport ราคา 579,000 บาท

ส่วนใครที่รอ Civic Hatchback สีแดง โอกาสของท่านมาถึงแล้ว..ตามภาพ..ขายในราคา 1,169,000 บาทเท่ารุ่นปกติ จะพริกทั้งทีก็พริกให้มันสุดไปเลย

โปรโมชั่นงาน Bangkok Motor Show

  • จองรถรุ่นใดก็ได้ภายใน 10 เมษายน รับรถภายใน 30 เมษายนลุ้นรางวัลใหญ่ Honda Accord Hybrid, CR-V EL4WD และ Civic RS พร้อมรางวัลอื่นๆรวม 353 รางวัล
  • จองรถรุ่นใดก็ได้ภายในระยะเวลาแคมเปญ รับบัตรของขวัญมูลค่า 3,000 บาท
  • ข้อเสนอพิเศษ สำหรับ Honda ทุกรุ่น เช่นลูกค้าที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป และผ่อน 12-48 เดือน อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือดาวน์ต่ำ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1
  • แคมเปญ Honda ช่วยผ่อน – Brio/Amaze ช่วยเดือนละ 2,500 บาท 12 เดือน, City/Jazz/Mobilio/BR-V/HR-V ช่วยผ่อนเดือนละ 1,000 บาท 12 เดือน, CR-V ช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท 12 เดือน, Accord ช่วยผ่อนเดือนละ 5,000 บาท 12 เดือน และ Accord Hybrid ช่วยผ่อนเดือนละ 10,000 บาท 12 เดือน
  • แคมเปญรถเก่าแลกรถ Honda ใหม่ – นำรถเก่ามาแลก รับบัตรของขวัญเพิ่ม แลก Accord Hybrid รับบัตรของขวัญ 10,000 บาท, แลก CR-V และ Accord รับบัตรของขวัญ 5,000 บาท ส่วนรุ่นอื่นๆรับบัตรของขวัญ 3,000 บาท
  • แคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน เฉพาะลูกค้าที่มี CR-V/Accord/Accord Hybrid อยู่ก่อน แล้วแนะนำเพื่อนมาซื้อ CR-V/ Accord/Accord Hybrid แนะนำได้คันแรก รับกระเป๋าเดินทาง Samsonite 29 นิ้ว 16,900 บาท (กรณี Accord Hybrid ได้บัตรของขวัญเพิ่มอีก 10,000 บาท)  หากแนะนำคันต่อๆไปที่ 2-5 คัน จะได้รับบัตรของขวัญ 8,000 บาทต่อคัน (ไม่ได้กระเป๋าเพิ่ม – Accord Hybrid เพิ่มจาก 8,000 เป็น 12,000 บาท ต่อคัน)
  • ผู้ที่โดนเพื่อนลากมาซื้อจากในข้อข้างบน รับบัตรของขวัญด้วยเช่นกัน (8,000 บาทสำหรับ CR-V/Accord และ 12,000 บาทสำหรับ Accord Hybrid)
Previous Post

N1209071_แต ชายเลวเท าน ไม กเม ยต วเอง_part2

Next Post

N1209066_ชายไม กพอ (ม เม ยคนเด ยวม นจะตายเหรอ!)_part2

Next Post
N1209066_ชายไม กพอ (ม เม ยคนเด ยวม นจะตายเหรอ!)_part2

N1209066_ชายไม กพอ (ม เม ยคนเด ยวม นจะตายเหรอ!)_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N3112064 เพ อนท เขาไม ทำก บเพ อนแบบน part2
  • N3112072 เธอถอดบsาต อหน แต มไปว าเค ามอง(ไม )เห part2
  • N3112076_กผอ. ไม พอใจท กภารโรงใส ดว ายน ำเหม อนเขา_part2
  • N3112074 ทำนาอย ๆม คนมาขอความช วยเหล part2
  • N3112069 อให แฟนไม แต แม แฟนร กส ดห วใจ part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.