นาย สตีเฟน ฮุง นักธุรกิจชั้นแนวหน้า ได้ซื้อรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่นแฟนธอม จำนวนมากที่สุดในโลก โดยสั่งซื้อรถยนต์แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาวในบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) จำนวน 30 คัน สำหรับโรงแรมหลุยส์ที่ 13(Louis XIII)ของตนในประเทศมาเก๊า การซื้อขายครั้งนี้เป็นการสั่งซื้อยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาและรถยนต์สองคันจากจำนวนทั้งหมดที่สั่งซื้อในครั้งนี้จะเป็นยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ รุ่น แฟนธอม ที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาอีกด้วย
“มาเก๊ากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งความหรูหราของประเทศจีน และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสเป็นผู้เพิ่มพูนอีกหนึ่งความพิเศษให้กับประเทศมาเก๊า ด้วยรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่น แฟนธอม จำนวนมากที่สุด ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วยยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ ที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่เคยผลิตขึ้นมา”
นาย ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จํากัด กล่าวที่งานเซ็นสัญญาในระหว่างที่นาย ฮุง เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานกู้ดวูดว่า “ที่โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เรามีความยินดีที่ได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนาย ฮุง และโรงแรมหลุยส์ที่ 13 เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมบีสโป๊กที่มีความโดดเด่นอย่างแท้จริง และยังช่วยผลักดันเราทั้งในด้านเทคนิคและด้านความคิดสร้างสรรค์ เราต้องค้นคว้าหาข้อมูลและดำเนินการพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อผลิตผลงานที่ตรงตามวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใครของเขาเกี่ยวกับความหรูหราเหนือระดับของโรงแรมหลุยส์ที่ 13 เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับผลงานที่ออกมารถยนต์ที่สั่งซื้อในครั้งนี้จะเป็นผลงานยนตรกรรมที่น่าทึ่งที่สุดครั้งหนึ่งในมาเก๊าเมื่อเราส่งมอบยนตรกรรมเหล่านี้ให้กับโรงแรมหลุยส์ที่ 13 ในปี 2559 ”
รถยนต์แต่ละคันของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ในจำนวนทั้งหมด 30 คันนี้ ได้รับการปรับแต่งที่หลากหลาย โดยมีทีมงานออกแบบในบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) ของโรลส์-รอยซ์ ที่โรงงานกู้ดวูด ทำงานร่วมกับนาย ฮุง และโรงแรมหลุยส์ที่ 13 อย่างใกล้ชิด การปรับแต่งนี้ได้นำไปใช้ทั้งภายในและภายนอกของรถ ซึ่งรวมถึงนาฬิกาที่ออกแบบมาเฉพาะจาก กราฟฟ์ไดอามอนส์ , โทนสีของโรงแรมหลุยส์ที่ 13 ล้อ ไม้แพเนลเคลือบแล็คเกอร์มันวาวภายในรถ แผงควบคุม หนังที่ตกแต่งภายใน ช่องใส่ของแผงแต่งขอบประตู และ treadplate เป็นต้นส่วนยนตรกรรม รุ่น แฟนธอม ที่มีราคาแพงที่สุดสองคันจะตกแต่งเพิ่มเติมด้วยทองคำแท้ [18-K] ทั้งภายในและภายนอกรถ นับเป็นครั้งแรกของการผลิตที่โรงงานโรลส์-รอยซ์ที่มีการตกแต่งในลักษณะนี้
นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ ยังช่วยออกแบบที่จอดรถและทางเดินรถที่โรงแรมหลุยส์ที่ 13 เพื่อรองรับขนาดของยนตรกรรมรุ่น แฟนธอม จำนวนนี้และจะฝึกอบรมพนักงานขับรถของโรงแรมหลุยส์ที่ 13 จากมาเก๊า ให้สามารถใช้รถยนต์ที่ไม่เหมือนใครนี้ได้อย่างเหมาะสม
เมื่อโรงแรมหลุยส์ที่ 13 เปิดให้บริการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 รถยนต์รุ่น แฟนธอม ที่สั่งซื้อในครั้งนี้จะให้บริการแก่แขกของโรงแรม ซึ่งจะตั้งอยู่ที่โครงการโคไท สตริป ประเทศมาเก๊า
หลังจากที่ทาง โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ของยนตรกรรมซูเปอร์ลักชัวรี่ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความนุ่มสบายดุจพรมวิเศษ ‘Magic Carpet Ride’ ในหลากหลายพื้นที่และสภาพเส้นทางทั่วทุกมุมโลก ผ่านอัครยนตรกรรมสายพันธุ์ Cullinan (คัลลิแนน)
ล่าสุดทางแบรนด์รถหรูได้สานต่อ ความสำเร็จด้วยการเปิดตัว Cullinan Series II (คัลลิแนน ซีรีส์ ทู) ซูเปอร์ลักชัวรี่เอสยูวีใหม่ เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 38 ล้านบาท
สำหรับ Rolls Royce Cullinan Series II อัครยนตรกรรมสุดหรู มาพร้อมกับ รูปลักษณ์มราทันสมัย โดนใจด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยว งานออกแบบจะเน้นใช้งานในเมืองใหญ่ และการที่ลูกค้านิยมขับเองมากขึ้น โดยรูปลักษณ์ภายนอกของโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ ทู จะสะท้อนความระยิบระยับของแสงไฟจากตึกระฟ้าในเมืองใหญ่ เห็นได้ชัดจากเดย์ไทม์รันนิงไลท์ที่เพิ่มความยาวในแนวดิ่ง เพิ่มความโดดเด่นให้กับ คัลลิแนน ซีรีส์ ทู ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
ด้านหน้าของ คัลลิแนน ซีรีส์ ทู เน้นเส้นสายเหลี่ยมสันและขอบมุมที่คมกริบ ส่งผลให้รูปลักษณ์โดยรวมมีความโดดเด่นและชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่เส้นสายกันชนหน้าดูคล้ายอักษร V แบบตื้น ลากจากจุดต่ำสุดของเดย์ไทม์รันนิงไลท์ ไปถึงจุดกึ่งกลางของด้านหน้า สะท้อนเส้นสายของเรือยอทช์ทรงสปอร์ต ส่วนด้านล่างเป็นช่องระบายอากาศที่ออกแบบให้มีครีบเอนออกไปด้านข้าง ส่งผลให้รถดูเตี้ยเมื่อมองจากด้านหน้า
นอกจากนั้นก็มีกระจังหน้าแพนธิออนแบบเรืองแสงติดตั้งบริเวณจุดกึ่งกลางซึ่งเป็นครั้งแรกที่ คัลลิแนนได้รับการติดตั้งกระจังหน้าเรืองแสงโดยปรับแต่งให้ดูเตี้ยลงประกบบน-ล่างด้วยคิ้วโครเมียมแบบใหม่ ได้รับแรงบัลดาลใจจากรุ่นสูงสุดอย่างแฟนธอม ซีรีส์ ทู (Phantom Series II)
ขณะที่เส้นสายด้านหน้ามีความเป็นเหลี่ยมสัน ผู้ผลิตก็ได้เพิ่มลูกเล่นในด้านท้าย เป็นเส้นสายเล็กๆ แต่ชัดเจน ลากจากใต้ไฟท้ายลงไปหาจุดกึ่งกลางของฝาปิดดุมล้อที่มีสัญลักษณ์ RR บริเวณล้อคู่หลัง ช่วยเพิ่มความปราดเปรียวให้กับรถ และสะท้อนการขับเคลื่อนไม่หยุดนิ่ง เพิ่มเติมรายละเอียดด้วยกันชนท้ายสีดำเงา ตัดกันกับพื้นถนน สร้างความโดดเด่นให้มุมมองด้านท้าย
ยิ่งไปกว่านั้น นับเป็นครั้งแรกสำหรับ คัลลิแนน ที่ล้อและยางได้รับการเพิ่มขนาดเป็น 23 นิ้ว ซึ่งล้อแต่ละวงได้รับการขึ้นรูปจากก้อนอะลูมิเนียม มาพร้อมลาย 7 ก้าน ที่สามารถเลือกแบบปัดเงาบางส่วนหรือทั้งหมดได้ตามต้องการ
ภายในห้องโดยสารของ Rolls Royce Cullinan Series II เสมือนการเปิดประตูสู่โลกดิจิทัล เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ ทู ก็พบกับที่สุดแห่งความหรูหรา ที่ผ่านการเพิ่มเติมรายละเอียดให้เลอค่าเหนือระดับ เริ่มจากความเงางามของแดชบอร์ดที่ผลิตจากกระจกทั้งชิ้น สะท้อนงานฝีมือสุดประณีต เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว
โดยจะได้รับการติดตั้งมาตรวัดดิจิทัลหน้าผู้ขับ รวมถึงจอแสดงผลกลางแดชบอร์ด ‘Central Information Display’ ได้รับการออกแบบใหม่ให้ส่องสว่างตลอดเวลา แสดงถึงความล้ำสมัยของระบบควบคุม ‘สปิริต’ อันทันสมัย
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งมาตรวัดดิจิทัลใน โรลส์-รอยซ์ เครื่องยนต์เบนซิน V12 สูบ อย่าง คัลลิแนน หลังเริ่มใช้กับยนตรกรรมไฟฟ้าล้วน ‘สเปกเตอร์’ (Spectre) เป็นรุ่นแรก และเป็นเสมือนการเชื่อมโยงเพื่อก้าวไปสู่โลกดิจิทัลเต็มตัว โดยลูกค้าสามารถกำหนดสีของมาตรวัดดิจิทัล ให้แมตช์กับสีของห้องโดยสารหรือตัวถังได้ตามต้องการ
อีกทั้งยังครบครันเรื่องความบันเทิง และการเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ต จาก Wi-Fi Hotspot ภายในรถผู้โดยสารด้านหลังสามารถเชื่อมต่อกับจออินโฟเทนเมนต์ทั้ง 2 ตัว ได้อย่างอิสระ พร้อมเพลิดเพลินไปกับระบบเครื่องเสียง Bespoke Audio 18 ลำโพง พร้อมแอมพลิฟายเออร์ 18 แชนแนล 1,400 วัตต์ ที่ใช้ประโยชน์จากช่องว่างในโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม ให้เกิดความถี่เสียงที่ละเอียด และไพเราะ ทำให้รถทั้งคันเป็นเสมือนซับวูเฟอร์ขนาดยักษ์ ทว่า หากลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เป็นครั้งแรกสำหรับ คัลลิแนน ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อบลูทูธทุกประเภทได้อย่างอิสระ
นอกจากนั้น ผู้ครอบครอง โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ก็ได้รับสิทธิ์เข้าถึงแอพลิเคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘วิซเพอร์ส’ (Whispers) บนสมาร์ทโฟน ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า อาทิ การส่งโลเคชั่นเข้าสู่ระบบนำทางของรถ, ติดตามตำแหน่งรถจากระยะไกล และ การสั่งเปิด-ปิดประตูรถ เป็นต้น
นอกจากนี้แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) เริ่มใช้ครั้งแรกกับรุ่น โกสต์ (Ghost) ตามด้วยรุ่น Spectre (สเปกเตอร์) และปัจจุบันได้นำมาติดตั้งเป็นครั้งแรกใน โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน โดยใช้เทคนิคการฉลุด้วยเลเซอร์ที่ในต่ำแหน่งและองศาที่ต่างกัน รวมกว่า 7,000 ตำแหน่ง เพื่อให้แสงสว่างด้านหลังเล็ดลอดออกมา เกิดเป็นลวดลายคำว่า ‘Cullinan’ พร้อมภาพจำลองของตึกระฟ้ายามค่ำคืน หรือหากลูกค้าต้องการสร้างคำหรือภาพอื่นๆ ก็สามารถสั่งได้ ถัดมาด้านขวากันเป็นอีกไฮไลท์สำคัญ คือ ‘Spirit of Ecstasy Clock Cabinet’ หรือนาฬิกาแบบใหม่ ที่มาพร้อมนางฟ้าเรืองแสง ผลิตจากสเตนเลสทั้งชิ้นดูสวยงามและหรูหราขั้นสูงสุด เมื่อผู้โดยสารเปิดประตูรถ มาตรวัดหน้าผู้ขับจะสว่างขึ้น ตามด้วยจอแสดงผลตรงกลาง, แดชบอร์ดเรืองแสง ก่อนนำสายตาสู่นางฟ้าบริเวณฐานนาฬิกา เกิดเป็นการแสดงแสงสีแบบไฮ-คลาส เป็นผลจากการพัฒนากว่า 4 ปี
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Rolls Royce Cullinan Series II จะมากับเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ DOHC V 12 สูบ 6,749 ซีซี ที่ให้กำลัง 420 kW (571 แรงม้า) ส่งกำลังด้สนชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
