ถ้าเจอ Engler F.F. Superquad เข้าไปบอกได้เลยว่าการมองรถ ATV จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะ ATV คันนี้นอกจากจะดีไซน์ล้ำ ทรงซุปเปอร์คาร์แล้ว ยังเป็นรถ ATV ที่เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย เป็นการผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไซค์กับซูเปอร์คาร์ได้อย่างลงตัว
Engler F.F. Superquad ออกแบบมาได้อย่างดุดัน สมกับเป็นซูเปอร์คาร์ มีชุดแต่งหน้ารถที่โฉบเฉี่ยว ไฟหน้าแบบซูเปอร์คาร์แท้ๆ ทั้งด้านหน้าและด้านท้าย ได้รับการออกแบบให้ดูเหมือนรถยนต์สปอร์ตหรู ซึ่งยิ่งทำให้ดูแปลกตาเมื่อรวมกับด้านข้างที่เปิดโล่ง แน่นอนว่า F.F Superquad ไม่ได้แค่ดูเหมือนซูเปอร์คาร์ แต่ยังแรงเหมือนอีกด้วย
Engler F.F. Superquad
เครื่องยนต์ของเจ้า Engler F.F. Superquad คือ เครื่องยนต์ V10 5.2 ลิตร เทอร์บูคู่ ที่มาจาก Audi R8 สร้างพลังมหาศาลถึง 1,100 แรงม้า ระบบเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด ส่งกำลังทั้งหมดไปยังล้อทั้งสี่ของรถมอเตอร์ไซค์ ATV คันนี้ และเมื่อมีถนนโล่ง ๆ F.F Superquad พุ่งทะยานจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียงแค่ 2.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 349 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ได้รับการออกแบบ พัฒนา ทดสอบ และผลิตขึ้นเองทั้งหมดโดย Engler และมีน้ำหนักเพียงเล็กน้อย เหนือ 100 กิโลกรัม (221 ปอนด์)
ระบบเบรกที่ทำหน้าที่หยุดยั้งซูเปอร์ควอดนี้ผลิตโดย Brembo โดยใช้คาลิเปอร์โมโนบล็อกอลูมิเนียม 6 ลูกสูบที่ด้านหน้าและคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบเพื่อหยุดล้อหลังจานดิสก์เบรก แบบระบายความร้อนเซรามิกคาร์บอนด้านหน้ามีขนาด 400×38 มม. (15.72 นิ้ว) ขณะที่ด้านหลังมีขนาดเล็กกว่าที่ 380×38 มม. (14.93 นิ้ว)
เข้าโค้งแบบสุดขีดไม่ต้องกลัวหลุดออกจากรถ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของรถคันนี้คือ ระบบบังคับเลี้ยวและระบบกันสะเทือนลมแบบปรับได้ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดและผ่านการทดสอบโดย Engler อย่างเข้มข้น และได้ติดตั้งระบบ Extreme Cornering System ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับการเข้าโค้งแบบสุดขีดโดยไม่ต้องกลัวจะหลุดออกจากรถ การพัฒนาระบบบังคับเลี้ยวที่ซับซ้อนของซูเปอร์ควอดรุ่นแรกของโลกเป็นงานที่น่ากลัว แต่ทีมวิศวกรสามารถทำสำเร็จ และนำเสนอรถที่ผสมผสานพละกำลังของซูเปอร์คาร์เข้ากับความคล่องตัวของมอเตอร์ไซค์ ATV ได้เป็นอย่างดี
Engler F.F. Superquad
Audi e-tron GT
Audi e-tron GT คือรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตซีดานจากแบรนด์ Audi โดยตัวถังของรถคันนี้ใช้พื้นฐาน J1 Platform เช่นเดียวกับ Porsche Taycan รถสปอร์ตไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในประเทศไทย แต่ถ้าหากคุณต้องการความแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าระดับหัวแถวที่คนไทยนิยมใช้กัน Audi e-tron GT คือทางเลือกที่น่าสนใจไม่เบา
ราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นของ Audi e-tron GT ในประเทศไทย เริ่มต้นที่รุ่น quattro ขับเคลื่อน 4 ล้อ เปิดราคา 6,849,000 บาท อัพเกรดขึ้นมาจะเป็นรุ่น Audi e-tron GT quattro Performance ที่เติมออปชั่นและของแต่งเข้ามาอีกหลายชิ้น กับราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,249,000 บาท
และรุ่นท็อปที่สุด Audi RS e-tron GT ที่อัพเกรดพละกำลังขึ้นไปเป็น 598 แรงม้า เปิดราคาที่ 10,190,000 บาท
ด้านหน้าของตัวรถ กระจังหน้าปิดทึบตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า ชุดใช้ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟ Audi laser และเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า (Light staging) เต็มระบบ มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟสูงอัตโนมัติ
บริเวณด้านข้างของกันชนหน้า มีการเซาะร่อง เพื่อประโยชน์ทางด้านอากาศพลศาสตร์
ฝากระโปรงหน้าสามารถเปิดออกได้ โดยจะพบกับที่เก็บสัมภาระ (Frunk) ความจุมากถึง 85 ลิตร
ด้านข้างของตัวรถ มีลักษณะเตี้ย แบนราบไปกับพื้น ทำให้ตัวรถดูมีความสปอร์ตไปอีกขั้น ด้วยลายเส้นโค้งที่ลากจากด้านหน้าจรดไปที่ด้านหลัง กับความยาวตัวรถเกือบ 5 เมตร และมีฐานล้อยาวถึง 2.9 เมตรด้วยกัน
กระจกแบบ Frameless
ล้อ ใช้เป็นล้ออัลลอย ในรุ่น Standard ใช้ล้อขนาด 20 นิ้ว ด้านหน้ารัดยางขนาด 245/45 R20 ส่วนด้านหลัง รัดยางขนาด 285/40 R20
ด้านรุ่น Performance และ RS ใช้ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ด้านหน้ารัดยางขนาด 265/35 R21 ส่วนด้านหลัง 305/30 R21
บริเวณซุ้มล้อ จะมีการเซาะร่อง เพื่อประโยชน์ทางด้านอากาศพลศาสตร์
ด้านท้ายของตัวรถมีลักษณะลาดลง ทำให้ตัวรถได้ประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงสุด โดยชิ้นหลังคาของรถจะเป็นกระจกทั้งคันแบบพาโนรามิกกลาสรูฟ
ไฟท้าย เป็นแบบ LED Light Guiding เต็มระบบ ตามสมัยใหม่
พื้นที่เก็บสัมภาระในฝากระโปรงหลัง มีความจุสูงสุด 405 ลิตร โดย Audi e-tron GT เวอร์ชั่นไทย มาพร้อมกับล้ออะไหล่ด้วย
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความเรียบแบบพรีเมี่ยมสไตล์สปอร์ตตามแบบฉบับของ Audi มาพร้อมไฟเสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหุ้มหนัง ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบอุ่นเบาะ และสามารถจดจำตำแหน่งเบาะนั่งได้
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ ควบคุมแทบทุกอย่างของตัวรถไว้ที่นี่ ส่วนปุ่ม Paddle Shift ทำหน้าที่หลักคือการปรับระดับการคืนพลังงาน โดยตำแหน่งของพวงมาลัยสามารถปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน
หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay/ Andriod Auto โดยหน้าจอกลางจะเป็นตำแหน่งสำหรับใช้ปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถด้วยเป็นหลัก และยังมีแผงควบคุมภายในห้องโดยสาร ทั้งระบบแอร์ และระบบขับขี่ของรถ
ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
ช่องชาร์จแบตเตอรี่ของ Audi e-tron GT มี 2 ฝั่ง โดยฝั่งซ้ายจะเป็น CCS2 Combo ส่วนฝั่งขวาจะเป็น AC Type 2 รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 22 kW ทั้ง 2 ฝั่ง
สเปค Audi e-tron GT Quattro
| Standard | Performance | RS | |
| มอเตอร์ | 2 มอเตอร์ | ||
| พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) | 476 Boost mode 530 | 598 Boost mode 646 | |
| แรงบิดสูงสุด | 630 นิวตันเมตร | 830 | |
| ระบบเกียร์ | อัตโนมัติ 2 สปีด | ||
| ระยะทางขับขี่สูงสุด / 1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC (กิโลเมตร) | 540 | 523 | 504 |
| ระบบขับเคลื่อน | AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro | ||
| อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม | 4.5 วินาที Boost mode 4.1 วินาที | 3.5 วินาที Boost mode 3.1 วินาที | |
| ความเร็วสูงสุด กม./ชม. | 245 | 250 | |
| แบตเตอรี่ | ลิเธียมไอออน NMC | ||
| พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) | 93.4 ใช้งานได้ 84.6 | ||
| แรงดันไฟฟ้า (V) | 800 | ||
| รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW) | 11 | 22 | |
| รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW) | 270 | ||
| ตัวถัง | J1 Platform | ||
| พวงมาลัย | พวงมาลัยไฟฟ้าแบบสปอร์ต | ||
| ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง | ถุงลมไฟฟ้า | ||
| ระบบเบรคหน้า/หลัง | ดิสก์เบรก ปั้มเบรกดำ | ดิสก์เบรกเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ ปั้มเบรกส้ม | ดิสก์เบรกเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ ปั้มเบรกแดง |
| ขนาดยางล้อ | หน้า 245/45 R20 หลัง 285/40 R20 | หน้า 265/35 R21 หลัง 305/30 R21 | |
มิติตัวรถ Audi e-tron GT Quattro
| Standard | Performance | RS | |
| ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,989 x 1,964 x 1,413 | 4,989 x 1,964 x 1,413 | |
| ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,898 | 2,900 | |
| ระยะห่างจากพื้น (มม.) | 125 | 125 | |
| น้ำหนักรถเปล่า (กก.) | 2,351 | 2,351 | |