• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0211076 ใกล วต วด (1) part2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N0211076 ใกล วต วด (1) part2

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าสิบปี ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของรถยนต์มากมาย แต่มีรถเพียงไม่กี่คันเท่านั้นที่สามารถยืนหยัดข้ามผ่านกาลเวลา และยังคงถูกกล่าวขานถึงพลัง สมรรถนะ และจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันได้อย่างไม่เสื่อมคลาย “NISSAN GT-R R35” โดยเฉพาะรุ่นปี 2018 ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งในยานยนต์เหล่านั้นที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของผู้หลงใหลความเร็ว แม้ในวันนี้ ปี 2025 ที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกล แต่ GT-R 2018 ก็ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจและเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่

เมื่อพูดถึง NISSAN GT-R คำว่า “ก็อดซิลล่า” มักจะผุดขึ้นมาในความคิดทันที มันไม่ใช่แค่รถยนต์สปอร์ตธรรมดา แต่คือวิศวกรรมที่หลอมรวมความดุดัน ประสิทธิภาพ และความแม่นยำเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ในปี 2018 NISSAN ได้นำเสนอ GT-R R35 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตอกย้ำความเหนือชั้นในฐานะ “ซูเปอร์คาร์ราคาเข้าถึงได้” ที่สามารถท้าชนกับรถสปอร์ตยุโรปราคาแพงลิบลิ่วได้อย่างสบายๆ และในวันนี้ เมื่อเรามองย้อนกลับไป GT-R 2018 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหารถสมรรถนะสูงที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีวันลืมเลือน

รูปลักษณ์ที่คงความดุดันเหนือกาลเวลา: ความสมดุลแห่งสุนทรียภาพและอากาศพลศาสตร์

ในโลกยานยนต์ที่การออกแบบเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดีไซน์ของ NISSAN GT-R 2018 ยังคงเป็นที่จดจำและทรงพลัง ด้วยเส้นสายที่สื่อถึงความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านท้าย ทุกองค์ประกอบถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือ “ความเร็ว” และ “การยึดเกาะ”

ตัวถังแบบ 2 ประตู 2+2 Coupe Premium Midship มาพร้อมกับความยาว 4,671 มิลลิเมตร และฐานล้อยาว 2,780 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยสร้างสมดุลการกระจายน้ำหนักที่เป็นเลิศ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel-drive ทำงานร่วมกับรูปทรงที่ถูกหลักอากาศพลศาสตร์ได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้ GT-R สามารถแหวกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดแรงต้าน และสร้างแรงกด (downforce) ที่จำเป็นสำหรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

เอกลักษณ์ที่สำคัญและเป็นเหมือนลายเซ็นของ GT-R คือไฟท้ายทรงกลมคู่ ซึ่งเป็นการคารวะให้กับตำนาน Skyline ในอดีต เมื่อใดก็ตามที่เห็นไฟท้ายคู่นี้พุ่งทะยานผ่านไป ก็ยากที่จะละสายตา มันคือสัญลักษณ์ของความเร็วที่พร้อมจะฉีกทุกข้อจำกัด ทุกเส้นสายบนตัวถังไม่ได้มีเพียงความสวยงาม แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ ตั้งแต่กระจังหน้า V-motion ที่ดุดันไปจนถึงสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ที่ไม่เพียงแค่เติมเต็มความสปอร์ต แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมรถให้มั่นคงในทุกย่านความเร็ว การออกแบบภายนอกของ GT-R 2018 จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า “ความสวยงามที่แท้จริงคือความสวยงามที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ”

หัวใจแห่ง “ก็อดซิลล่า”: พลังจากขุมพลัง VR38DETT

หากจะกล่าวถึงจิตวิญญาณของ NISSAN GT-R ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องยนต์รหัส VR38DETT นี่คือหนึ่งในเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยความจุ 3.8 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและประกอบด้วยมือของสุดยอดช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า “ทาคูมิ” ซึ่งแต่ละคนจะประทับตราลายเซ็นไว้บนเครื่องยนต์ที่ตนประกอบ ทำให้มั่นใจได้ถึงความประณีตและสมบูรณ์แบบสูงสุด

ในรุ่นปี 2018 เครื่องยนต์ VR38DETT ให้พละกำลังสูงสุด 419 กิโลวัตต์ (570 แรงม้า) สำหรับรุ่นมาตรฐาน และ 441 กิโลวัตต์ (600 แรงม้า) สำหรับรุ่น NISMO ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังคงน่าประทับใจแม้ในปัจจุบัน กำลังแรงม้าที่มหาศาลนี้ไม่ได้มาจากการปรับจูนแบบธรรมดา แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อรองรับการทำงานที่หนักหน่วงและมอบสมรรถนะสูงสุด:

ระบบอัดอากาศ IHI Turbocharger: GT-R ใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่จาก IHI ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การลำเลียงอากาศเข้าสู่แต่ละสูบเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด พร้อมด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพการหล่อเย็นเป็นเลิศ นอกจากนี้ ระบบการปรับบูสต์เทอร์โบด้วยไฟฟ้ายังช่วยลดอาการ Turbo Lag ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองต่อคันเร่งได้อย่างรวดเร็วและฉับไวในทุกรอบความเร็ว คุณจะแทบลืมคำว่า “รอรอบ” ไปได้เลย

การเคลือบกระบอกสูบด้วย Plasma-spray: นี่คือเทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อเย็น ลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ และลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับกระบอกสูบทั่วไป ผลลัพธ์คือการเพิ่มพละกำลัง ลดการสึกหรอ และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง

เครื่องยนต์ VR38DETT ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Dual Clutch ที่มาพร้อม Paddle Shift ที่พวงมาลัย ซึ่งสามารถทำการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.15 วินาทีในโหมด R โหมดสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งโดยเฉพาะ การทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนี้ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลาเพียง 2.7 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่ท้าทายขีดจำกัดของฟิสิกส์ และความเร็วสูงสุดที่วัดได้จริงถึง 313.8 กม./ชม. ทำให้ GT-R 2018 ยังคงเป็น “เครื่องจักรสังหารซูเปอร์คาร์” ที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม

ช่วงล่างและระบบเบรก: ความมั่นใจที่เหนือกว่าบนทุกสภาพถนน

สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของ NISSAN GT-R 2018 ไม่ได้มาจากแค่เครื่องยนต์อันทรงพลังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบช่วงล่างและระบบเบรกที่ได้รับการคัดสรรและออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อรองรับความเร็วและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและปลอดภัยสูงสุด

โช้คอัพ Bilstein® DampTronic®: โช้คอัพอัจฉริยะจาก Bilstein® นี้ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ GT-R สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ เพื่อควบคุมแรงสั่นสะเทือนให้เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนเรียบทั่วไปหรือการซัดโค้งในสนามแข่ง ระบบนี้ก็สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ มอบความรู้สึกที่มั่นคงและยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม

จานเบรกแบบ Monoblock จาก Brembo®: เมื่อมีแรงม้ามหาศาล ก็ย่อมต้องการระบบเบรกที่ทรงประสิทธิภาพเพื่อหยุดยั้งพลังงานนั้น GT-R 2018 มาพร้อมกับจานเบรกแบบ Monoblock ที่แข็งแกร่งทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าติดตั้งปั๊มเบรก 6 สูบ และด้านหลัง 4 สูบ ระบบเบรกนี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งและทนทาน แต่ยังมีน้ำหนักเบาและมาพร้อมกับโรเตอร์ด้านในที่ออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพการเบรกยังคงยอดเยี่ยมแม้ในการใช้งานอย่างหนักหน่วงต่อเนื่องในสนามแข่ง ระบบเบรก Brembo® ใน GT-R ได้รับการยอมรับในเรื่องของความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุด

ล้อ RAYS และยางสปอร์ต Dunlop®: ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 20 นิ้ว ที่ผลิตโดย RAYS ผู้ผลิตล้อคุณภาพระดับโลก ได้รับการออกแบบมาเพื่อ GT-R โดยเฉพาะ เพื่อความแข็งแรง ทนทาน และมีน้ำหนักเบา ช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง (unsprung weight) ซึ่งส่งผลดีต่อการควบคุมและการยึดเกาะถนน ทำงานร่วมกับยางสปอร์ตสมรรถนะสูง Dunlop® SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT แบบ run-flat ที่มอบการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นถนนแห้งหรือเปียก ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปลดปล่อยสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่พร้อมความมั่นใจสูงสุด

ภายในห้องโดยสาร: สปอร์ต หรูหรา และข้อมูลรอบด้านสำหรับนักขับ

แม้ว่า NISSAN GT-R จะเป็นรถยนต์ที่เน้นสมรรถนะสูงสุด แต่ภายในห้องโดยสารก็ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและความรู้สึกหรูหราเทียบเท่ารถยนต์ซูเปอร์คาร์ วัสดุคุณภาพสูง เบาะหนังสีดำที่รองรับสรีระได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมการตกแต่งด้วยลายไม้และงานฝีมือที่ละเอียดอ่อน สร้างบรรยากาศที่ผสมผสานความสปอร์ตและความพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกัน

หัวใจสำคัญสำหรับนักขับคือแผงหน้าปัดและหน้าจอแสดงผลที่ทันสมัย ด้วยจอ Multiple Customizable Displays ที่เป็นนวัตกรรมล้ำหน้าในยุคนั้น และยังคงให้ข้อมูลที่สำคัญแบบ Real-time ได้อย่างละเอียดในปี 2025 ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลสมรรถนะของรถได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ:

หน้าจอที่ 1: มอนิเตอร์เครื่องยนต์ แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น Turbo Boost, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง และแรงดันน้ำมันเครื่อง

หน้าจอที่ 2: มอนิเตอร์แรงบิดและสมรรถนะ แสดงกำลังที่เครื่องยนต์ส่งออกมา, ความเร็ว, Turbo Boost และองศาลิ้นปีกผีเสื้อ

หน้าจอที่ 3: มอนิเตอร์ความประหยัดน้ำมัน แสดงค่าความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่

หน้าจอที่ 4: มอนิเตอร์การทำงานของเครื่องยนต์ แสดงอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง และอุณหภูมิน้ำมันเกียร์

หน้าจอที่ 5: มอนิเตอร์ความสมดุลของตัวรถ แสดงองศาของตัวรถสำหรับการเข้าโค้งและการใช้เบรก เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจพฤติกรรมของรถได้ดียิ่งขึ้น

หน้าจอที่ 6: นาฬิกาจับเวลา สำหรับการบันทึกสถิติเวลาในสนามแข่ง โดยสามารถกดเริ่มและหยุดได้จากปุ่มบนพวงมาลัย

ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักขับสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงเทคนิคการขับขี่ของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง

3 โหมดขับขี่: ปรับแต่งประสบการณ์ได้ตามใจสั่ง

NISSAN GT-R 2018 มอบอิสระในการปรับเปลี่ยนบุคลิกของรถให้เข้ากับทุกสถานการณ์และทุกอารมณ์การขับขี่ ด้วย 3 โหมดการขับขี่หลักที่สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบเกียร์, ช่วงล่าง และระบบ Vehicle Dynamic Control (VDC) ได้อย่างสิ้นเชิง:

R-Mode (Race Mode): โหมดสำหรับรีดเค้นสมรรถนะสูงสุด ด้วยการปรับระบบเกียร์ให้เป็นแบบ Quick Shift เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ไต่รอบได้อย่างฉับไว พร้อมเพิ่มความแข็งแกร่งของช่วงล่างและการตอบสนองของระบบ VDC ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสนามแข่ง มอบประสบการณ์ที่ดุดันและเร้าใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำเวลาที่ดีที่สุด

Normal Mode: โหมดสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ที่ปรับระบบทั้งสามให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและลื่นไหลที่สุด เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่บนท้องถนนทั่วไป เป็นการผสมผสานระหว่างสมรรถนะและความนุ่มนวลได้อย่างลงตัว

Special Mode (Save Mode): โหมดนี้เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือการขับขี่บนสภาพถนนที่มีการยึดเกาะต่ำ เช่น ถนนลื่น โดยจะเพิ่มแรงบิดในการออกตัว ช่วยรักษาสมดุลของรถ และรวมเอาข้อดีด้านความนุ่มนวลของโช้คอัพและความสบายในการเดินทางเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ GT-R กลายเป็นรถที่ขับสบายอย่างน่าประหลาดใจเมื่อต้องการ

NISSAN GT-R 2018 ในปี 2025: ตำนานที่ยังคงน่าค้นหา

แม้ในวันนี้ ปี 2025 NISSAN GT-R R35 รุ่นปี 2018 ก็ยังคงเป็นรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการในหมู่นักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูง ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในสนามแข่งทั่วโลก

ในตลาด “รถมือสอง” GT-R 2018 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ “รถสปอร์ตสมรรถนะสูง” ที่มีความน่าเชื่อถือและมี “ราคา NISSAN GT-R มือสอง” ที่สมเหตุสมผลสำหรับสมรรถนะที่ได้รับมา การดูแลรักษาแม้จะสูงกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไปเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับซูเปอร์คาร์ยุโรปแล้วก็ยังถือว่าสมเหตุสมผล และมี “อู่นิสสัน GTR” เฉพาะทางที่สามารถดูแลรักษาและจัดหา “อะไหล่ NISSAN GTR” ได้ไม่ยาก อีกทั้งยังเป็นรถที่มีศักยภาพในการ “NISSAN GTR แต่ง” หรืออัปเกรดสมรรถนะได้อีกมากมาย ทำให้มันกลายเป็นรถที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์และความต้องการของเจ้าของได้อย่างไร้ขีดจำกัด

NISSAN GT-R 2018 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นทางวิศวกรรมและความหลงใหลในความเร็ว มันเป็นรถที่ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบ เถื่อน และเร้าใจในแบบที่รถยนต์สมัยใหม่บางคันไม่สามารถให้ได้ ด้วย “ประวัติ NISSAN GT-R” อันยาวนานและสมรรถนะที่ยังคงโดดเด่น ทำให้มันเป็นตำนานที่ยังคงคำรามกึกก้องและเป็นที่ต้องการของผู้ที่เข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของ “เทคโนโลยียานยนต์” และ “ประสบการณ์การขับขี่” ที่หาได้ยากยิ่ง

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหา “รถยนต์สะสม” หรือรถยนต์สมรรถนะสูงที่สามารถมอบความตื่นเต้นได้ในทุกครั้งที่นั่งหลังพวงมาลัย NISSAN GT-R R35 รุ่นปี 2018 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม มันคือรถที่จะยังคงสร้างแรงบันดาลใจและมอบความสุขให้คุณไปอีกหลายปีข้างหน้า

Previous Post

N0211078 เป าหมายช ตส การแย งช งส บปะรด part2

Next Post

N0211073 ดว าต วเองเจ (1) part2

Next Post
N0211073 ดว าต วเองเจ (1) part2

N0211073 ดว าต วเองเจ (1) part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.