• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0311080 เพ อนสม ยเร ยนด part2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N0311080 เพ อนสม ยเร ยนด part2

ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ถาโถมเข้ามาแทบทุกวัน การจะหารถยนต์สมรรถนะสูงสักคันที่ยังคงยืนหยัดและเป็นที่กล่าวขวัญถึง แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับ “Nissan GT-R R35” หรือที่หลายคนรู้จักกันในฉายา “Godzilla” นั้น กาลเวลาดูเหมือนจะเป็นเพียงตัวเลข เพราะแม้ในปี 2025 ที่เรายืนอยู่ ณ ตอนนี้ GT-R เจเนอเรชัน R35 โดยเฉพาะรุ่นที่ปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2018 ก็ยังคงเป็นหนึ่งใน รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่น่าจับตามองและยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่หลงใหลในความเร็วได้อย่างไม่เสื่อมคลาย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมมองว่าการวิเคราะห์และทำความเข้าใจถึงแก่นแท้ของ GT-R R35 ในปี 2025 ไม่ใช่แค่การรำลึกถึงอดีต แต่เป็นการฉายภาพให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบ วิศวกรรม และความมุ่งมั่นของ Nissan ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ทลายกำแพงของคำว่า “สมรรถนะ” และ “ราคาที่จับต้องได้” ได้อย่างน่าทึ่ง เราจะมาเจาะลึกกันว่าทำไมเจ้า “Godzilla” คันนี้จึงยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และยังคงมีอิทธิพลในตลาด ซูเปอร์คาร์มือสอง และในใจของนักเลงรถทั่วโลกได้อย่างไร

บทบาทของ “Godzilla” ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป: ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าหรือไม่?

คำถามที่มักผุดขึ้นมาในใจหลายคนเมื่อพูดถึงรถยนต์สมรรถนะสูงที่ออกมาหลายปีแล้วคือ “มันยังไหวอยู่เหรอ?” หรือ “มีรถใหม่ที่ดีกว่าแล้วไม่ใช่หรือ?” สำหรับ Nissan GT-R R35 ปี 2018 คำตอบคือ “ยังไหวเกินพอ” และ “ดีในแบบที่ไม่มีใครเหมือน” เหตุผลหลักอยู่ที่ปรัชญาการสร้างของ Nissan ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้าง รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อมอบอัตราเร่งและการควบคุมที่เหนือกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งทำให้มันกลายเป็น “Supercar Killer” มาตั้งแต่แรกเริ่ม และหลักการนี้ก็ยังคงใช้ได้ดีในปี 2025

ปัญหาหลักประการหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการครอบครอง GT-R ในประเทศไทยคือเรื่องของภาษีนำเข้า ซึ่งทำให้รถใหม่มีราคาที่พุ่งสูงจนยากจะเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 นี้ ตลาด ซูเปอร์คาร์มือสอง สำหรับ GT-R R35 กลับมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ระดับซูเปอร์คาร์ในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น สามารถเข้าถึงตำนานคันนี้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจถึงจุดเด่น ข้อจำกัด และแนวทางการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งเราจะมาขยายความกัน

การออกแบบที่ท้าทายกาลเวลา: ผสานความดุดันและประสิทธิภาพเชิงอากาศพลศาสตร์

แม้จะผ่านไปหลายปี การออกแบบภายนอกของ Nissan GT-R R35 ยังคงดูทันสมัยและน่าเกรงขาม ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่ง บึกบึน และเปี่ยมด้วยจุดประสงค์ทางอากาศพลศาสตร์ ทุกส่วนของตัวถังถูกออกแบบมาเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ด้านหลัง ช่องดักลมด้านหน้า หรือแม้แต่รูปทรงของหลังคาที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ การที่ GT-R R35 ปี 2018 มีระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นและฐานล้อที่ยาวตามแบบฉบับของรถ SAV (Sport Activity Vehicle) ในบทความเดิมนั้น ผมเชื่อว่าเป็นการอธิบายที่คลาดเคลื่อน ตัว GT-R R35 เองเป็นรถสปอร์ตคูเป้แท้ๆ ที่มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบเพื่อการยึดเกาะถนนและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเป็น รถสปอร์ตสมรรถนะสูง

ภายในห้องโดยสารของ GT-R R35 อาจไม่ได้หรูหราอลังการเท่า ซูเปอร์คาร์ สัญชาติยุโรปบางรุ่น แต่กลับเน้นฟังก์ชันการใช้งานและความเป็นสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่โดยเฉพาะ ด้วยเบาะนั่งที่กระชับโอบอุ้มร่างกาย รองรับการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูงได้อย่างดีเยี่ยม วัสดุที่ใช้มีความประณีตและทนทาน แผงหน้าปัดที่แสดงข้อมูลการขับขี่แบบเรียลไทม์เป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถมากยิ่งขึ้น

หัวใจแห่ง “Godzilla”: เครื่องยนต์ VR38DETT ที่ไม่เคยหยุดพัฒนา

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Nissan GT-R R35 ยังคงเป็นที่ยอมรับในปี 2025 คือ เครื่องยนต์ VR38DETT ขนาด 3.8 ลิตร V6 ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพื่อรองรับการทำงานที่หนักหน่วงและการรีดกำลังแรงม้าสูงสุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรุ่นปี 2018 กำลังสูงสุดอยู่ที่ 570 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นมาตรฐาน และพุ่งทะยานไปถึง 600 แรงม้า (PS) ในรุ่น NISMO ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังคงเป็นที่น่าเกรงขามสำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้มีราคาหลักสิบล้าน

เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ใน เครื่องยนต์ VR38DETT นั้นน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น:

ระบบอัดอากาศ IHI Turbocharger: เทอร์โบคู่ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีการตอบสนองต่อแรงบิดได้ดีเยี่ยม ลดอาการ Turbo Lag ให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นและทรงพลังในทุกช่วงรอบเครื่อง

การเคลือบกระบอกสูบด้วย Plasma-Spray: เทคโนโลยีขั้นสูงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อเย็น ลดแรงเสียดทาน และลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มกำลังแรงม้าและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับกระบอกสูบทั่วไป

การจัดวางเครื่องยนต์ที่เหมาะสม: ด้วยการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและจัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ GT-R มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและมีการกระจายน้ำหนักที่ดีเยี่ยม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการควบคุมและ ประสบการณ์ขับขี่ ที่เหนือชั้น

ผนวกกับระบบเกียร์ Dual Clutch 6 สปีดที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ภายใน 0.15 วินาทีใน R-MODE ทำให้ GT-R R35 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 2.7 วินาที ซึ่งยังคงเป็นตัวเลขที่เหนือกว่า รถสปอร์ตสมรรถนะสูง หลายรุ่นที่ใหม่กว่าและมีราคาสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ระบบขับเคลื่อนและช่วงล่าง: กุญแจสู่การยึดเกาะถนนระดับเทพ

นอกเหนือจากพละกำลังเครื่องยนต์แล้ว สิ่งที่ทำให้ GT-R R35 เป็นตำนานคือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (All-wheel drive system) อัจฉริยะที่ Nissan พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ระบบนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนในสภาพที่หลากหลาย แต่ยังสามารถถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้รถสามารถเข้าโค้งและออกจากโค้งได้อย่างมีเสถียรภาพสูงสุด ไม่ว่าจะบนสนามแข่งหรือบนถนนจริง นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจและสามารถควบคุมพละกำลังมหาศาลของ “Godzilla” ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

สำหรับช่วงล่างนั้น GT-R R35 ได้รับการติดตั้งระบบช่วงล่างที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีเยี่ยมเพื่อรองรับความเร็วและสร้าง ประสบการณ์ขับขี่ ที่เร้าใจ:

โช้คอัพ Bilstein® DampTronic®: โช้คอัพพิเศษที่ได้รับการเซ็ตอัพมาเพื่อ GT-R โดยเฉพาะ สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองได้ตามสภาพถนนและโหมดการขับขี่ ช่วยควบคุมแรงสั่นสะเทือนได้อย่างเหมาะสม มอบทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่ปกติและความแข็งแกร่งในการขับขี่แบบสปอร์ต

จานเบรก Brembo® แบบ MONOBLOCK: ระบบเบรกประสิทธิภาพสูงจาก Brembo® พร้อมคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบที่ด้านหน้าและ 4 ลูกสูบที่ด้านหลัง ให้แรงเบรกมหาศาลที่เชื่อถือได้ พร้อมการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม แม้จะใช้งานหนักหน่วงบนสนามแข่ง

ล้อ RAYS® อะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 20 นิ้ว: ออกแบบและผลิตมาเพื่อ GT-R โดยเฉพาะ โดยผู้ผลิตล้อซิ่งระดับโลก ทำให้มั่นใจได้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา

ยางสปอร์ต Dunlop® SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT (Run-flat): ยางสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุดของ GT-R ออกมา ให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและสร้างความมั่นใจในทุกเส้นทาง

ชุดอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ทำให้ GT-R R35 มี ช่วงล่าง Bilstein ที่มั่นคง การเบรกที่เฉียบคม และการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้น ซึ่งยังคงเป็นมาตรฐานที่สูงมากในวงการ รถสปอร์ตสมรรถนะสูง แม้ในปี 2025

ปรับแต่ง “Godzilla” ในแบบของคุณ: โหมดการขับขี่ที่หลากหลาย

หนึ่งในจุดเด่นของ GT-R R35 คือความสามารถในการปรับเปลี่ยนบุคลิกของรถให้เข้ากับสถานการณ์และอารมณ์ของผู้ขับขี่ ด้วยโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบหลัก ที่สามารถปรับระบบเกียร์ ช่วงล่าง และระบบ Vehicle Dynamic Control (VDC) ได้อย่างอิสระ:

R-MODE: โหมดสำหรับรีดสมรรถนะสูงสุด เป็นการตั้งค่าระบบต่างๆ ให้พร้อมสำหรับการขับขี่แบบสุดขีด ด้วยการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว (Quick shift) ช่วงล่างที่แข็งแกร่ง และ VDC ที่อนุญาตให้มีการสไลด์ได้ในระดับหนึ่ง เพื่อ ประสบการณ์ขับขี่ ที่เร้าใจในสนามแข่งหรือถนนที่เหมาะสม

NORMAL MODE: โหมดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและลื่นไหลมากขึ้น เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองหรือการขับขี่ทั่วไป

SAVE MODE: โหมดประหยัดพลังงานและเหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือในสภาพถนนที่ลื่น ช่วยเพิ่มแรงบิดในการออกตัว ลดการใช้เชื้อเพลิง และเพิ่มความนุ่มนวลสบายของช่วงล่าง

ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ GT-R R35 ไม่ใช่แค่รถแข่ง แต่เป็น รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญและยังคงเป็นที่ต้องการของนักขับในปี 2025

เชื่อมโยงกับ “Godzilla”: หน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์

เทคโนโลยีภายในห้องโดยสารของ GT-R R35 แม้จะไม่ได้มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่เท่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่กลับโดดเด่นด้วยหน้าจอ Multiple Customizable Displays ที่พัฒนาโดย Kazutoshi Mizuno ผู้สร้าง GT-R และ Polyphony Digital (ผู้พัฒนาเกม Gran Turismo) หน้าจอเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่แสดงข้อมูล แต่เป็นการส่งข้อมูลสมรรถนะของรถแบบเรียลไทม์ที่ละเอียดและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเค้นประสิทธิภาพสูงสุดจากรถ ไม่ว่าจะเป็น:

หน้าจอมอนิเตอร์เครื่องยนต์: แสดงค่า Turbo Boost, อุณหภูมิน้ำมัน, แรงดันน้ำมัน

หน้าจอมอนิเตอร์แรงม้า: แสดงแรงม้าที่เครื่องยนต์ส่งออก, ความเร็ว, Turbo Boost, และองศาลิ้นปีกผีเสื้อ

หน้าจอความประหยัดน้ำมัน: แสดงข้อมูลการใช้เชื้อเพลิงแบบเรียลไทม์

หน้าจออุณหภูมิของเหลว: มอนิเตอร์อุณหภูมิน้ำ, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, และอุณหภูมิน้ำมันเกียร์

หน้าจอสมดุลของตัวรถ: แสดงองศาของตัวรถสำหรับการเข้าโค้งและการใช้เบรก

หน้าจอจับเวลา: สามารถกดเริ่มและหยุดได้จากพวงมาลัย สำหรับการจับเวลา Lap Time หรือทำสถิติส่วนตัว

ข้อมูลที่ละเอียดและเข้าถึงได้ง่ายเหล่านี้ช่วยเพิ่ม ประสบการณ์ขับขี่ และทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับ เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ซับซ้อนของ GT-R ได้อย่างแท้จริง

Nissan GT-R R35 ในปี 2025: “Godzilla” ยังคงเป็นที่ต้องการและเป็นตำนาน

ในยุคที่ เทคโนโลยีรถยนต์ ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว Nissan GT-R R35 โดยเฉพาะรุ่นที่ปรับปรุงมาอย่างดีในปี 2018 ยังคงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวิศวกรรมยานยนต์ที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็วและพละกำลังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสมดุลของการออกแบบ ระบบขับเคลื่อน และการควบคุมที่ทำให้มันเป็นรถที่ขับสนุกและน่าหลงใหลอย่างแท้จริง

สำหรับตลาดในปี 2025 แม้ว่าราคาของ GT-R R35 อาจจะไม่ใช่ราคาที่น่า “ลุ้น” เหมือนสมัยเปิดตัวใหม่ๆ ด้วยปัจจัยด้านภาษีนำเข้าสำหรับรถใหม่ที่ยังคงสูงอยู่ แต่สำหรับตลาด ซูเปอร์คาร์มือสอง แล้ว GT-R R35 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วย มูลค่าสะสม ที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาและสถานะการเป็น “Future Classic” หรือ รถยนต์ในตำนาน ที่ผู้คนยังคงแสวงหา ผู้ที่มองหา รถยนต์นำเข้า สมรรถนะสูงที่ยังคงมอบความเร้าใจในแบบที่ซูเปอร์คาร์หลายคันเทียบได้ยาก จะพบว่า GT-R R35 มอบประสิทธิภาพที่เกินราคาค่าตัวไปมาก

แน่นอนว่าการครอบครอง รถสปอร์ตสมรรถนะสูง อย่าง GT-R ย่อมมาพร้อมกับความท้าทายในการ การบำรุงรักษารถหรู ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอะไหล่ การดูแลเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจและหลงใหลในตัวตนของ “Godzilla” แล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่เป็นส่วนหนึ่งของความผูกพันกับตำนานแห่งความเร็วนี้

โดยสรุปแล้ว Nissan GT-R R35 ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ไร้ขีดจำกัด แม้ในปี 2025 ที่โลกยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่าน “Godzilla” ก็ยังคงยืนหยัดอย่างสง่างาม เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสมรรถนะที่แท้จริง วิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม และ ประสบการณ์ขับขี่ ที่เหนือชั้นนั้น สามารถท้าทายกาลเวลาและยังคงเป็นที่ต้องการของนักเลงรถทั่วโลกได้อย่างแท้จริง

Previous Post

N0311073 แม านจำใจ part2

Next Post

N0311057 วาห เจ าบ าวโสมม part2

Next Post
N0311057 วาห เจ าบ าวโสมม part2

N0311057 วาห เจ าบ าวโสมม part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.