• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0311057 วาห เจ าบ าวโสมม part2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N0311057 วาห เจ าบ าวโสมม part2

ในโลกยานยนต์ปี 2025 ที่เต็มไปด้วยกระแสรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ การย้อนกลับไปมองสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมยานยนต์ที่บริสุทธิ์ของ Nissan GT-R R35 หรือที่รู้จักกันในนาม “Godzilla” นั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างและยังคงน่าหลงใหลอย่างไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าโมเดลปี 2018 ที่เคยสร้างความตื่นเต้นในอดีต จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่แก่นแท้ของปรัชญาการสร้างรถยนต์สมรรถนะสูงที่จับต้องได้ของ Nissan ยังคงเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจให้กับวงการยานยนต์อยู่เสมอ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงนี้มากว่าทศวรรษ ผมจะพาคุณเจาะลึกถึงเหตุผลที่ทำให้ GT-R R35 ยังคงเป็นหนึ่งใน รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่ถูกจดจำและเป็นที่ต้องการของนักขับทั่วโลก

จาก Skyline สู่ GT-R R35: วิวัฒนาการที่ปฏิวัติวงการ

ก่อนที่ GT-R R35 จะถือกำเนิดขึ้น ชื่อของ GT-R นั้นผูกพันอย่างแยกไม่ออกกับตระกูล Skyline ตำนานแห่งสนามแข่งและถนนที่ครองใจแฟนคลับมาหลายทศวรรษ แต่เมื่อ Nissan ตัดสินใจแยก GT-R ออกจากตระกูล Skyline อย่างเป็นทางการในปี 2007 พร้อมเปิดตัว R35 ในปี 2008 นั่นคือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง GT-R R35 ไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการรื้อโครงสร้างและแนวคิดใหม่ทั้งหมด ด้วยเป้าหมายที่จะสร้าง ซูเปอร์คาร์ ที่สามารถท้าทายยักษ์ใหญ่จากยุโรปได้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องแลกมาด้วยป้ายราคาที่เอื้อมไม่ถึง

GT-R R35 เป็นผลผลิตจากการคิดค้นและพัฒนาอย่างพิถีพิถันของวิศวกรชาวญี่ปุ่น ที่ต้องการผลักดันขีดจำกัดของ เทคโนโลยีรถยนต์ สู่ระดับสูงสุด โมเดลปี 2018 ที่เรากำลังวิเคราะห์อยู่นี้ เป็นช่วงเวลาที่ GT-R R35 ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและลงตัวหลายประการ ทั้งในด้านสมรรถนะ รูปลักษณ์ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุดในบรรดา รถสปอร์ต ระดับโลก

หัวใจของ Godzilla: เครื่องยนต์ VR38DETT ที่ไม่เป็นสองรองใคร

แกนหลักที่ทำให้ Nissan GT-R R35 โดดเด่นเหนือคู่แข่งคือเครื่องยนต์รหัส VR38DETT ซึ่งเป็นขุมพลัง V6 ขนาด 3.8 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ เทอร์โบคู่ ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เครื่องยนต์นี้ไม่ได้แค่ให้กำลังมหาศาล แต่ยังเป็นผลงานชิ้นเอกของ วิศวกรรมยานยนต์ ที่ผสานประสิทธิภาพและความทนทานเข้าไว้ด้วยกัน ในโมเดลปี 2018 กำลังสูงสุดของ GT-R ปกติอยู่ที่ 570 แรงม้า (419 kW) และสำหรับรุ่น Nismo จะเพิ่มเป็น 600 แรงม้า (441 kW) ตัวเลขเหล่านี้ยังคงน่าประทับใจเมื่อเทียบกับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ๆ ในปี 2025

สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ VR38DETT แตกต่างคือรายละเอียดเชิงวิศวกรรมที่ซับซ้อน:

ระบบ IHI Turbocharger: Nissan เลือกใช้ เทอร์โบชาร์จเจอร์ จาก IHI ที่ออกแบบมาเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศอัดเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด พร้อมด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพการหล่อเย็นเป็นเลิศ นอกจากนี้ ระบบการปรับ Turbocharger ด้วยไฟฟ้ายังช่วยลดอาการ “Turbo Lag” ทำให้การตอบสนองต่อคันเร่งเป็นไปอย่างฉับไวและแม่นยำ ผู้ขับขี่จึงสัมผัสได้ถึงแรงบิดที่มาเต็มตั้งแต่รอบต่ำ

การเคลือบกระบอกสูบด้วย Plasma-Spray: เทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้เข้ามาแทนที่ปลอกสูบแบบดั้งเดิม โดยการเคลือบผิวผนังกระบอกสูบด้วยพลาสมาสเปรย์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อเย็นและลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังลดน้ำหนักโดยรวมของเครื่องยนต์ได้อย่างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มทั้งแรงม้าและประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง อันเป็นคุณสมบัติที่มักจะสวนทางกันในเครื่องยนต์ สมรรถนะสูง

การออกแบบน้ำหนักเบาและสมดุล: เครื่องยนต์ VR38 ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและจัดวางตำแหน่งอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุลของการกระจายน้ำหนักที่ดีเยี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ สมรรถนะการขับขี่ ในระดับซูเปอร์คาร์ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 2.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่วัดได้จริงกว่า 313.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพอันน่าทึ่งนี้

ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6-Speed Dual Clutch พร้อม Paddle-shift ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ภายในเวลาเพียง 0.15 วินาทีในโหมด R ซึ่งเป็นความเร็วที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่า ระบบเกียร์คลัตช์คู่ ในซูเปอร์คาร์ราคาแพงกว่าหลายเท่า แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Nissan ในการนำเสนอ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังที่ดีที่สุด

พลวัตการขับขี่: การยึดเกาะถนนที่เหนือจินตนาการ

นอกจากขุมพลังเครื่องยนต์แล้ว สิ่งที่ทำให้ GT-R R35 ได้รับการยกย่องคือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel-Drive (ATTESA E-TS) อันชาญฉลาด และ ช่วงล่างรถยนต์ ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียด ATTESA E-TS ไม่ได้เป็นเพียงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทั่วไป แต่เป็นระบบที่สามารถแปรผันการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้อย่างอิสระและรวดเร็ว ตามสภาพการขับขี่และแรงยึดเกาะที่ตรวจจับได้แบบเรียลไทม์ ทำให้รถสามารถเข้าโค้งและเร่งความเร็วออกจากโค้งได้อย่างมั่นใจและแม่นยำสูงสุด แม้ในปี 2025 ระบบนี้ยังคงเป็นมาตรฐานที่ยากจะเลียนแบบสำหรับรถยนต์ สมรรถนะยานยนต์ ทั่วไป

องค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ในระบบช่วงล่างประกอบด้วย:

โช้คอัพ Bilstein® DampTronic®: โช้คอัพคุณภาพสูงจาก Bilstein ที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ GT-R R35 สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองได้ตามสภาวะการขับขี่และเลือกโหมดที่ผู้ขับขี่ต้องการ ช่วยควบคุมแรงสั่นสะเทือนให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบสบายๆ หรือการซิ่งในสนามแข่ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการควบคุม สมรรถนะการขับขี่

ระบบเบรก Monoblock จาก Brembo®: เพื่อรองรับ สมรรถนะการขับขี่ ระดับซูเปอร์คาร์ GT-R R35 ติดตั้งจานเบรกแบบ Monoblock ที่แข็งแกร่งทั้ง 4 ล้อ โดยด้านหน้ามีปั๊มเบรก 6 สูบ และด้านหลัง 4 สูบ ระบบเบรกนี้ไม่เพียงแต่มีน้ำหนักเบา แต่ยังมาพร้อมโรเตอร์ภายในที่ออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้มั่นใจในพลังการหยุดรถที่แม่นยำและสม่ำเสมอภายใต้สภาวะการขับขี่ที่รุนแรง ระบบเบรก Brembo เป็นที่รู้จักกันดีในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย

ล้อ RAYS® และยางสปอร์ต Dunlop®: ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 20 นิ้ว ที่ผลิตโดย RAYS ผู้ผลิตล้อคุณภาพระดับโลก สร้างขึ้นเพื่อ GT-R โดยเฉพาะ ผสานเข้ากับยางสปอร์ต Dunlop® SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT แบบ Run-flat ซึ่งเป็นยาง สมรรถนะสูง ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างการยึดเกาะถนนและความมั่นใจในการขับขี่ให้ถึงขีดสุด

การออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วยอากาศพลศาสตร์และประสบการณ์ผู้ขับขี่

รูปลักษณ์ภายนอกของ Nissan GT-R R35 ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ทุกเส้นสาย ทุกลวดลายบนตัวถัง ล้วนถูกคำนึงถึงหลัก อากาศพลศาสตร์ เป็นสำคัญ ไฟท้ายทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาจากตระกูล Skyline ยังคงเป็นภาพจำที่สะท้อนถึงความดุดันและ ความสปอร์ต ที่ไม่เหมือนใคร แม้จะผ่านมาหลายปี แต่ดีไซน์ของ R35 ก็ยังคงความทันสมัยและเป็นที่จดจำ

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ที่ความเร็วสูงและเน้น ประสบการณ์ผู้ขับขี่ เป็นหลัก ด้วยการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ อย่างหรูหราทัดเทียม รถยนต์ซูเปอร์คาร์ แต่ยังคงความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน สิ่งที่โดดเด่นคือหน้าจอแสดงผล Multiple Customizable Displays ที่พัฒนาโดยวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านเกมอย่าง Polyphony Digital (ผู้สร้างเกม Gran Turismo) หน้าจอเหล่านี้ให้ข้อมูล สมรรถนะยานยนต์ แบบเรียลไทม์ได้อย่างละเอียด ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบและทำความเข้าใจพฤติกรรมของรถได้อย่างลึกซึ้ง:

หน้าจอแสดงผลเครื่องยนต์: แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น แรงดัน Turbo Boost, อุณหภูมิน้ำมัน และแรงดันน้ำมัน

หน้าจอแสดงผลสมรรถนะ: แสดงกำลังเครื่องยนต์ที่ส่งออกมา, ความเร็ว, Turbo Boost และองศาลิ้นปีกผีเสื้อ

หน้าจอแสดงผลความประหยัดน้ำมัน: ตรวจสอบค่าความประหยัดน้ำมันในการขับขี่

หน้าจอแสดงผลการทำงานของเครื่องยนต์: อุณหภูมิน้ำ, อุณหภูมิน้ำมัน และอุณหภูมิน้ำมันเกียร์

หน้าจอแสดงผลความสมดุลของตัวรถ: แสดงองศาของตัวรถสำหรับการเข้าโค้งและการใช้เบรก

หน้าจอจับเวลา: สำหรับการทำสถิติส่วนตัวในสนามแข่ง

โหมดการขับขี่ที่หลากหลาย: ปรับเปลี่ยนได้ดั่งใจ

GT-R R35 มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายดาย เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพื่อให้รถตอบสนองต่อทุกสถานการณ์การขับขี่และความต้องการของผู้ขับ:

R-MODE: “Race Mode” คือโหมดที่ปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของ GT-R ระบบเกียร์จะเข้าสู่ Quick Shift พร้อมไต่รอบและเปลี่ยนเกียร์ด้วยความเร็วสูงสุด ช่วงล่างรถยนต์ และระบบ Vehicle Dynamic Control (VDC) จะถูกปรับให้แข็งแกร่งและตอบสนองได้เร็วที่สุด เพื่อ สมรรถนะการขับขี่ แบบสนามแข่ง

NORMAL MODE: โหมดนี้เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ระบบทั้งสาม (เกียร์, ช่วงล่าง, VDC) จะถูกปรับให้มีความลื่นไหลและนุ่มนวลที่สุด มอบความสะดวกสบายในการเดินทาง

SAVE MODE (Special Mode): โหมดสำหรับการเดินทางไกลหรือถนนที่ลื่น ด้วยการเพิ่มแรงบิดและรักษาเสถียรภาพของรถได้ดีขึ้น โหมดนี้ยังคงคุณสมบัติความนุ่มนวลของโช้คอัพและความสบายในการขับขี่ไว้

มรดกที่ยังคงอยู่และคุณค่าในปี 2025

แม้ในปี 2025 Nissan GT-R R35 อาจไม่ได้เป็น “รถใหม่” ที่เพิ่งเปิดตัว แต่คุณค่าของมันในฐานะ รถยนต์สปอร์ต ที่ปฏิวัติวงการยังคงเป็นที่ยอมรับ ด้วยราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับสมรรถนะที่มอบให้ ทำให้มันสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาด ซูเปอร์คาร์ รถยนต์คันนี้ไม่เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถทาง วิศวกรรมยานยนต์ ของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการสร้างรถที่ “ทุกคนสามารถเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้”

ในตลาดรถยนต์มือสองปัจจุบัน GT-R R35 ยังคงเป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบ รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ด้วยความทนทาน ศักยภาพในการปรับแต่งที่สูง และ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่ยังคงทรงพลัง แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น มันยังคงเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับ สมรรถนะการขับขี่ อันดิบดุดันและประสบการณ์ที่เข้มข้นอย่างแท้จริง ซึ่งหาได้ยากขึ้นในยุคของรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความเงียบและความสะดวกสบาย

สรุปได้ว่า Nissan GT-R R35 โดยเฉพาะโมเดลที่ได้รับการปรับปรุงในปี 2018 ถือเป็นหนึ่งใน รถยนต์นำเข้า ระดับตำนานที่สร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า “ซูเปอร์คาร์” ด้วยการผสมผสาน เทคโนโลยีรถยนต์ ล้ำสมัย, วิศวกรรมยานยนต์ ที่ละเอียดอ่อน, และปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้น สมรรถนะการขับขี่ อย่างแท้จริง ทำให้มันยังคงเป็นไอคอนที่น่าจดจำและเป็นที่ต้องการในโลกยานยนต์ปี 2025 และอีกหลายปีข้างหน้า

Previous Post

N0311080 เพ อนสม ยเร ยนด part2

Next Post

N0311070 หญ งบร การ part2

Next Post
N0311070 หญ งบร การ part2

N0311070 หญ งบร การ part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.