• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0311060 นเดอเรลล part2

admin79 by admin79
October 29, 2025
in Uncategorized
0
N0311060 นเดอเรลล part2

ในโลกของยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัตโนมัติก้าวหน้าไปไกลจนหลายคนอาจคิดว่ารถยนต์สันดาปภายในนั้นเริ่มจะกลายเป็นอดีตไปแล้ว ทว่ายังมีรถยนต์บางคันที่ยืนหยัดเป็นประจักษ์พยานถึงความยิ่งใหญ่ของวิศวกรรมยานยนต์ และยังคงสร้างความตั่นเต้นเร้าใจได้ไม่แพ้รถรุ่นใหม่ นั่นคือ Nissan GT-R R35 โดยเฉพาะรุ่นปี 2018 ที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งใน “จุดสูงสุด” ของตระกูล R35 ก่อนที่โลกจะเริ่มเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV อย่างเต็มตัว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่คร่ำหวอดในวงการมานานกว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่า Nissan GT-R 2018 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์สปอร์ตธรรมดา แต่คือวิศวกรรมชิ้นเอกที่ผสมผสานประสิทธิภาพระดับ ซูเปอร์คาร์ เข้ากับความใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน จนได้รับฉายาว่า “Godzilla” ผู้เขย่าบัลลังก์รถสปอร์ตยุโรปได้อย่างน่าทึ่ง แม้ในปี 2025 นี้ มันจะกลายเป็นรถยนต์มือสองที่มีอายุเกือบ 7 ปีแล้ว แต่คุณค่าและสมรรถนะของมันกลับไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังอาจเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำในสายตาของนักสะสมและผู้ที่หลงใหลใน รถยนต์สมรรถนะสูง ที่ยังคงต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบดิบๆ อย่างแท้จริง

วิวัฒนาการของตำนาน: R35 กับจุดยืนที่ไม่เหมือนใคร

ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 ตระกูล GT-R R35 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถยนต์สมรรถนะสูง ด้วยปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดในทุกมิติ Nissan ไม่ได้พยายามทำให้ GT-R เป็นรถที่ “สวยงาม” ตามแบบฉบับซูเปอร์คาร์อิตาลี แต่เน้นไปที่ อากาศพลศาสตร์ ที่ยอดเยี่ยม การยึดเกาะถนนที่เป็นเลิศ และพละกำลังที่มหาศาล ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในแพ็กเกจที่หลายคนเรียกว่า “ซูเปอร์คาร์ราคาเข้าถึงได้” (ณ วันที่เปิดตัว)

GT-R 2018 ถือเป็นหนึ่งในการปรับปรุงครั้งสำคัญของ R35 โดยมีการยกระดับทั้งในด้านพละกำลัง ความประณีตภายในห้องโดยสาร และประสบการณ์การขับขี่โดยรวม ทำให้มันมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรถยนต์ที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความดุดันและมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นบนถนนปกติหรือในสนามแข่ง

รูปลักษณ์ที่บ่งบอกถึงพละกำลัง: การออกแบบที่เหนือกาลเวลา

ในด้านการออกแบบภายนอก Nissan GT-R 2018 ยังคงสืบทอดเส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์ของ R35 ที่ดูแข็งแกร่ง บึกบึน และเปี่ยมด้วยจุดประสงค์ ในปี 2025 นี้ ดีไซน์ของมันอาจไม่ได้หวือหวาเท่ารถยนต์แนวคิดรุ่นใหม่ๆ แต่กลับมีความคลาสสิกและ สมรรถนะ ที่ชัดเจน

มิติที่ลงตัว: ด้วยความยาว 4,671 มิลลิเมตร ความสูง 1,372 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,780 มิลลิเมตร GT-R 2018 มีสัดส่วนที่แสดงถึงความพร้อมสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างแท้จริง น้ำหนักตัวรถ 1,740 กิโลกรัม อาจดูมากเมื่อเทียบกับซูเปอร์คาร์บางรุ่น แต่ด้วย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ซับซ้อนและวิศวกรรมการกระจายน้ำหนักที่ยอดเยี่ยม ทำให้มันควบคุมได้อย่างมั่นใจ

อากาศพลศาสตร์ที่โดดเด่น: ทุกเส้นสายบนตัวถังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงหลัก อากาศพลศาสตร์ อย่างพิถีพิถัน เพื่อลดแรงต้านอากาศ เพิ่มแรงกด (downforce) และช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จุดนี้เองที่ทำให้ GT-R ยังคงเป็นที่ยอมรับในแง่ของ ประสิทธิภาพการขับขี่ แม้เวลาจะผ่านไป

เอกลักษณ์ที่จดจำได้: ไฟท้ายทรงกลมสี่ดวงอันเป็นตำนานยังคงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ GT-R แตกต่างจากรถคันอื่นอย่างชัดเจน เมื่อใครเห็นมันวิ่งผ่านไป จะไม่มีทางสับสนกับรถรุ่นอื่นได้เลย นี่คือสัญลักษณ์ที่สืบทอดมาจาก Skyline ในอดีต และยังคงความเท่ดุดันในปี 2025

ห้องโดยสารที่ผสานความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งาน

ภายในห้องโดยสารของ Nissan GT-R 2018 ได้รับการปรับปรุงให้มีความประณีตและหรูหรามากยิ่งขึ้นเทียบเท่ารถยนต์ระดับ ซูเปอร์คาร์ โดยยังคงรักษาปรัชญา “Premium Midship” ที่เน้นความสมดุลและฟังก์ชันการใช้งานสูงสุดสำหรับการขับขี่สมรรถนะสูง ในขณะเดียวกันก็มอบความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน

การออกแบบที่เน้นผู้ขับขี่: เบาะนั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระและโอบกระชับผู้ขับขี่ในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง วัสดุที่ใช้เป็นหนังคุณภาพสูง พร้อมการตัดเย็บอย่างประณีต ซึ่งยังคงความสวยงามและคงทนแม้จะผ่านการใช้งานมาหลายปีก็ตาม

แผงคอนโซลที่ทันสมัย (ในยุคนั้น): หน้าจอแสดงข้อมูล Multiple Customizable Displays ที่พัฒนาโดย Polyphony Digital (ผู้สร้างเกม Gran Turismo) ถือเป็นจุดเด่นสำคัญ มันสามารถแสดงข้อมูลสำคัญของรถแบบ Real-time ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง แรงดันเทอร์โบ หรือแม้กระทั่งการจับเวลา lap time ซึ่งในปี 2025 นี้ แม้จอสัมผัสในรถยนต์ใหม่ๆ จะใหญ่ขึ้นและมีความละเอียดสูงขึ้น แต่การแสดงผลแบบ Real-time ของ GT-R ยังคงเป็นฟังก์ชันที่สร้างความตื่นเต้นและเชื่อมโยงผู้ขับขี่เข้ากับรถได้อย่างแท้จริง

ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน: แม้จะเป็นรถที่เน้นสมรรถนะ แต่ GT-R 2018 ก็ยังออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั่วไป ด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวางพอสำหรับ 2+2 ที่นั่ง ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้มันเป็น รถสปอร์ต ที่สามารถขับไปทำงาน หรือเดินทางไกลได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด

หัวใจแห่ง Godzilla: เครื่องยนต์ VR38DETT

นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ Nissan GT-R 2018 ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาด รถยนต์มือสองสมรรถนะสูง ในปี 2025 เครื่องยนต์รหัส VR38DETT คือผลงานชิ้นโบแดงของวิศวกร Nissan ที่ถูกประกอบขึ้นด้วยมืออย่างพิถีพิถัน

พละกำลังมหาศาล: เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.8 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ (Twin-Turbocharger) ให้กำลังสูงสุดถึง 419 kW (570 PS) สำหรับรุ่น GT-R และ 441 kW (600 PS) สำหรับรุ่น NISMO ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังคงจัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของ รถยนต์สมรรถนะสูง แม้จะเทียบกับรถยนต์ที่ออกมาใหม่กว่าก็ตาม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.7 วินาที คือตัวเลขที่น่าทึ่งและยังคงสร้างความเร้าใจในทุกครั้งที่กดคันเร่ง

เทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูง:

IHI Turbocharger: ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์จาก IHI ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ส่งอากาศอัดเข้าสู่แต่ละสูบของเครื่องยนต์ VR38 ได้อย่างราบรื่นที่สุด พร้อมด้วย Intercooler ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพในการหล่อเย็นสูง และระบบปรับแรงดันเทอร์โบด้วยไฟฟ้า ช่วยขจัดปัญหา Turbo Lag ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองต่อคันเร่งได้อย่างรวดเร็วและฉับไว

Plasma-Spray Cylinder Liner: การเคลือบกระบอกสูบด้วยเทคโนโลยี Plasma-Spray ไม่เพียงช่วยลดแรงเสียดทานและน้ำหนักลงเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อเย็น ทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานภายใต้ภาระหนักได้อย่างต่อเนื่องและทนทาน นี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ VR38DETT เป็นเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการโมดิฟายด์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบ: ด้วยการจัดวางเครื่องยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความสมดุลของน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและยึดเกาะถนน

ระบบส่งกำลังและช่วงล่าง: หัวใจสำคัญของการควบคุม

พละกำลังที่มหาศาลจะไร้ความหมายหากปราศจากระบบส่งกำลังและช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม Nissan GT-R 2018 ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปลดปล่อย สมรรถนะการขับขี่ ได้อย่างเต็มที่ด้วยชุดเกียร์และระบบช่วงล่างที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี

ระบบเกียร์ 6-Speed Dual Clutch (GR6): เกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลคลัตช์ 6 สปีด ที่มาพร้อม Paddle Shift สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาเพียง 0.15 วินาทีในโหมด R-MODE ซึ่งเป็นความเร็วที่เทียบเท่ากับซูเปอร์คาร์ชั้นนำ การตอบสนองที่รวดเร็วนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ GT-R สามารถถ่ายทอดพละกำลังลงสู่พื้นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ATTESA E-TS: นี่คือหนึ่งในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก มันสามารถกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังได้อย่างอิสระและแม่นยำตั้งแต่ 0:100 (ขับเคลื่อนล้อหลังเต็มรูปแบบ) ไปจนถึง 50:50 (ขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ) ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่และโหมดที่เลือก ทำให้ GT-R มีการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้นในทุกสภาพอากาศและทุกเส้นทาง

โช้คอัพ Bilstein® DampTronic®: ระบบโช้คอัพอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ GT-R สามารถปรับเปลี่ยนค่าความหนืดได้อย่างรวดเร็วตามข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ทำให้รถมีการควบคุมแรงสั่นสะเทือนที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนทั่วไปหรือการเข้าโค้งในสนามแข่ง

ระบบเบรก Brembo® Monoblock: จานเบรกประสิทธิภาพสูงจาก Brembo® แบบ Monoblock แข็งแกร่ง ทนทาน และมีน้ำหนักเบา ด้วยคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบที่ด้านหน้าและ 4 ลูกสูบที่ด้านหลัง ช่วยให้มั่นใจได้ใน ประสิทธิภาพการเบรก ที่ยอดเยี่ยมแม้ในสถานการณ์ที่ต้องหยุดรถจากความเร็วสูงอย่างฉุกเฉิน

ล้อ RAYS และยาง Dunlop® SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT: ล้ออะลูมิเนียมฟอร์จขนาด 20 นิ้วจาก RAYS ผู้ผลิตล้อคุณภาพระดับโลก ออกแบบมาเพื่อ GT-R โดยเฉพาะ ให้ความแข็งแกร่งพร้อมน้ำหนักที่เบา ทำงานร่วมกับยาง Dunlop® SP Sport Maxx® GT 600 DSST CTT แบบ Run-Flat สมรรถนะสูง ที่มอบการยึดเกาะและความมั่นใจในการขับขี่ที่เหนือกว่า

โหมดการขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนตามใจสั่ง

Nissan GT-R 2018 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายด้วย 3 โหมดหลักที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยแต่ละโหมดจะปรับการทำงานของระบบเกียร์ ช่วงล่าง และระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Dynamic Control – VDC) เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ

R-MODE: โหมดสุดยอดสำหรับการรีดเค้นสมรรถนะสูงสุด ระบบเกียร์จะทำงานแบบ Quick Shift เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ช่วงล่างจะแข็งขึ้นเพื่อการควบคุมที่แม่นยำ และ VDC จะทำงานในลักษณะที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างอิสระมากขึ้น แต่ยังคงให้ความปลอดภัยในระดับหนึ่ง นี่คือโหมดที่คุณจะสัมผัสถึง ความแรงที่แท้จริง ของ Godzilla

NORMAL MODE: โหมดสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ระบบต่างๆ จะถูกปรับให้มีความลื่นไหลและนุ่มนวลที่สุด เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่บนถนนทั่วไป เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง หรือการขับขี่ที่ต้องการความผ่อนคลาย

SAVE MODE (SPECIAL MODE): โหมดที่ออกแบบมาสำหรับการเดินทางไกล หรือการขับขี่บนถนนที่ลื่น โดยจะเพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์เล็กน้อยเพื่อรักษาเสถียรภาพ และปรับช่วงล่างให้นุ่มนวลเพื่อความสบายในการเดินทาง รวมถึงช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นอีกด้วย

ข้อมูลเชิงลึกสำหรับผู้ขับขี่: หน้าจอ Multiple Customizable Displays

หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจของ GT-R 2018 คือหน้าจอแสดงผลข้อมูล Multiple Customizable Displays ที่ให้ข้อมูลแบบ Real-time ได้อย่างละเอียด ซึ่งยังคงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจและควบคุมรถยนต์ของตนอย่างเต็มที่

มอนิเตอร์เครื่องยนต์: แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น Turbo Boost, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, และแรงดันน้ำมัน

แรงที่เครื่องยนต์ส่งออก: แสดงความเร็ว, Turbo Boost, และองศาลิ้นปีกผีเสื้อ ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์

การประหยัดน้ำมัน: ตรวจสอบและแสดงระดับการประหยัดน้ำมันในการขับขี่

อุณหภูมิการทำงาน: มอนิเตอร์อุณหภูมิน้ำ, อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, และอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม

ความสมดุลของตัวรถ: แสดงองศาของตัวรถสำหรับการเข้าโค้งและการใช้เบรก ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถวิเคราะห์การควบคุมรถได้

หน้าจอจับเวลา: ฟังก์ชันจับเวลา lap time ที่สามารถกดเริ่มและหยุดได้จากพวงมาลัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำสถิติใหม่ในสนามแข่ง

Nissan GT-R 2018 ในปี 2025: คุณค่าที่ยังคงอยู่

แม้จะก้าวเข้าสู่ปี 2025 แล้ว Nissan GT-R 2018 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์มือสอง ที่มอบ ประสบการณ์การขับขี่เร้าใจ และ สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ โดยมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่ารถยนต์ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน

ในยุคที่โลกกำลังมุ่งหน้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว GT-R 2018 ยิ่งทวีคุณค่าในฐานะตัวแทนของ วิศวกรรมยานยนต์ ยุคทองของเครื่องยนต์สันดาปภายใน มันคือบทพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีและปรัชญาการออกแบบที่ถูกต้อง สามารถสร้างสรรค์รถยนต์ที่ยืนหยัดเหนือกาลเวลาได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการออกแบบที่ยังคงดูดุดันและมีเอกลักษณ์ หรือ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่ยังคงทรงพลังและทนทาน

การเป็นเจ้าของ Nissan GT-R 2018 ในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการครอบครองรถยนต์ แต่เป็นการได้ครอบครองตำนาน ประสบการณ์ และประวัติศาสตร์แห่ง รถสปอร์ต ที่ยังคงสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้สัมผัส และในอนาคตอันใกล้นี้ GT-R R35 รุ่นสุดท้ายอาจกลายเป็น รถในตำนาน ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลสำหรับนักสะสมอย่างแน่นอน หากคุณกำลังมองหา รถยนต์สมรรถนะสูง ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ GT-R 2018 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ไม่มีวันตกยุค

Previous Post

N0311068 สาม องปกป องภรรยาได part2

Next Post

N0311059 อย าหย ดด แลต วเอง part2

Next Post
N0311059 อย าหย ดด แลต วเอง part2

N0311059 อย าหย ดด แลต วเอง part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.