ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ ตั้งแต่ยุคของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ครองตลาด มาจนถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะที่ปฏิวัติทุกมิติ ในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์พรีเมียมและรถสมรรถนะสูงของไทยยังคงคึกคักและเต็มไปด้วยความท้าทาย บริษัทผู้ผลิตต่างงัดไม้เด็ดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหามากกว่าแค่การเดินทาง แต่คือการแสวงหาประสบการณ์ ความเป็นเอกลักษณ์ และการสะท้อนถึงตัวตนอย่างแท้จริง
วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงสองตำนานที่ยังคงสร้างความประทับใจไม่เสื่อมคลาย นั่นคือ Nissan GT-R สัญลักษณ์แห่งความเร็วที่ถูกขนานนามว่า “ซูเปอร์คาร์นักฆ่า” และ Mercedes-Benz S-Class พร้อมด้วย Mercedes-Maybach S-Class สุดยอดยนตรกรรมแห่งความหรูหราที่ redefine คำว่า “พรีเมียม” อีกครั้ง เราจะมาดูกันว่าในปี 2025 นี้ ยนตรกรรมเหล่านี้ได้วิวัฒนาการไปอย่างไร เพื่อครองบัลลังก์ในใจผู้หลงใหลรถยนต์สมรรถนะสูงและรถยนต์ระดับผู้บริหารที่ฉลาดเลือก
ภาคที่ 1: Nissan GT-R – สปิริตแห่ง Godzilla ที่ไม่เคยหลับใหล
แม้ Nissan GT-R R35 จะโลดแล่นอยู่บนท้องถนนมานานนับทศวรรษ แต่ในปี 2025 นี้ “Godzilla” คันนี้ยังคงยืนหยัดอย่างสง่างาม ไม่ใช่แค่การรักษาสถานะ แต่เป็นการตอกย้ำถึงจิตวิญญาณแห่งวิศวกรรมที่ไร้กาลเวลาและการปรับปรุงที่ไม่หยุดนิ่งเพื่อคงความล้ำหน้า สำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่พร้อมจะฉีกทุกกฎเกณฑ์บนสนามแข่งและบนท้องถนน GT-R ยังคงเป็นตัวเลือกที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลัง
ดีไซน์ภายนอก: ความดุดันที่ถูกขัดเกลาด้วยหลักอากาศพลศาสตร์
ในภาพรวมของ GT-R เวอร์ชั่นปี 2025 ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความดุดันและกล้ามเนื้อที่บึกบึน แต่มีการปรับรายละเอียดที่สำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์และยกระดับความประณีตยิ่งขึ้น กระจังหน้า V-Motion อันเป็นเอกลักษณ์ของ Nissan ได้รับการออกแบบให้กว้างขึ้นและมีมิติที่คมชัด เน้นการไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ที่ทรงพลัง ชายล่างกันชนหน้าและสเกิร์ตข้างได้รับการปรับปรุงให้สร้างแรงกด (downforce) ได้อย่างเหมาะสม ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ด้วย ความเร็วสูงสุด โดยไม่ลดทอนความเพรียวลม กระจกมองข้างที่เพรียวบางลงและช่องระบายอากาศด้านข้างที่ถูกออกแบบใหม่ยังช่วยลดแรงต้านอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ
ไฟหน้าแบบ LED Matrix ที่ปรับการส่องสว่างอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืนได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่ไฟท้ายทรงกลมสี่ดวงอันเป็นเอกลักษณ์ยังคงส่องสว่างเป็นเครื่องหมายการค้าของ GT-R ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง สิ่งที่น่าสนใจคือ การเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาในหลายชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง ท้ายรถ หรือแม้แต่สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ในรุ่น Nismo สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นทั้งความสวยงามและ สมรรถนะที่เหนือชั้น
ภายในห้องโดยสาร: ประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความสปอร์ตและความล้ำสมัย
ภายในห้องโดยสารของ Nissan GT-R 2025 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้ขับขี่ที่ต้องการสัมผัสถึงความดิบของเครื่องจักรแต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายและ เทคโนโลยีภายในรถ ที่ทันสมัย แผงคอนโซลและแผงประตูถูกหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูงที่ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยฝีมือ “TAKUMI” ซึ่งเป็นกลุ่มช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญของ Nissan ที่ประกอบเครื่องยนต์ด้วยมือ การจัดวางปุ่มควบคุมและสวิตช์ต่างๆ ได้รับการปรับปรุงให้เรียบง่ายและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ลดจำนวนปุ่มที่ไม่จำเป็นลงเพื่อเน้นความสะอาดตาและฟังก์ชันการใช้งานที่เป็นธรรมชาติ
หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วความละเอียดสูงรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบนำทางที่แม่นยำและระบบข้อมูลการขับขี่ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและฟังก์ชันความบันเทิงได้อย่างง่ายดาย แป้น Paddle Shift ที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัยทรงสปอร์ตช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำในทุกจังหวะการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เบาะนั่งแบบ Bucket Seat หุ้มด้วยหนัง Alcantara หรือ Nappa ที่รองรับสรีระได้ดีเยี่ยม ให้ความมั่นใจและกระชับในทุกการเข้าโค้ง
ขุมพลังและสมรรถนะ: หัวใจที่เต้นรัวด้วยแรงม้าไร้ขีดจำกัด
หัวใจหลักของ Nissan GT-R 2025 ยังคงเป็นเครื่องยนต์ V6 รหัส VR38DETT ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการปรับปรุงและขัดเกลาอย่างต่อเนื่อง ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ แรงม้าได้ถูกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในรุ่น Nismo ที่อาจทะลุไปถึง 600 แรงม้า ด้วยแรงบิดมหาศาลที่ส่งผ่านมายังระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ ATTESA E-TS ทำให้ GT-R สามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาอันน่าทึ่งเพียง 2.5-2.7 วินาที
ระบบส่งกำลังเกียร์คลัตช์คู่ 6 จังหวะได้รับการปรับปรุงให้เปลี่ยนเกียร์ได้ราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่เสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่เปล่งออกมาจากปลายท่อไอเสียไทเทเนียมพร้อมระบบ Active Sound Enhancement (ASE) จะปลุกเร้าทุกโสตประสาทของผู้ขับขี่ให้สัมผัสถึง ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ และพลังอันดิบเถื่อนของ Godzilla อย่างเต็มเปี่ยม
ระบบช่วงล่างอิสระ Bilstein DampTronic ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน ทำงานร่วมกับโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ช่วยให้ GT-R มี การควบคุมรถ ที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงบนสนามแข่งหรือการขับขี่บนถนนทั่วไป ล้ออัลลอย Forged ขนาด 20 นิ้วลาย Y-Spoke ที่น้ำหนักเบาและทนทาน ช่วยลดน้ำหนักใต้สปริงและเพิ่มการยึดเกาะถนนได้อย่างไร้ที่ติ
มิติแห่งความสะดวกสบายและสีสันใหม่สำหรับปี 2025
แม้จะเป็น ซูเปอร์คาร์ ที่เน้นสมรรถนะ แต่ GT-R 2025 ก็ไม่ได้ละทิ้งเรื่องความสะดวกสบาย ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้เงียบสงบขึ้นด้วยวัสดุดูดซับเสียงที่ทันสมัย ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลายยิ่งขึ้น สีภายนอกใหม่ๆ อย่าง “Blaze Metallic” ที่ใช้เทคนิคการพ่นหลายชั้น หรือ “Stealth Grey” ที่สะท้อนถึงความลึกลับและทรงพลัง พร้อมตัวเลือกสีภายในที่หลากหลาย เช่น Samurai Black หรือการผสมผสานระหว่าง Black/Amber Red ช่วยให้เจ้าของสามารถปรับแต่ง GT-R ให้สะท้อนถึงรสนิยมและความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้อย่างเต็มที่
สำหรับผู้ที่หลงใหลในความเร็วและ นวัตกรรมยานยนต์ ที่ผสานรวมระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับจิตวิญญาณแห่งสนามแข่ง Nissan GT-R 2025 ยังคงเป็นสัญลักษณ์ที่ไร้เทียมทาน
ภาคที่ 2: Mercedes-Maybach S-Class และ Mercedes-Benz S-Class – ยนตรกรรมแห่งความหรูหราและนวัตกรรมสู่ปี 2025
จากโลกของความเร็ว เราก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งความหรูหราที่ไร้ขีดจำกัดกับ Mercedes-Benz S-Class และสุดยอดยนตรกรรมเหนือระดับอย่าง Mercedes-Maybach S-Class ในปี 2025 นี้ ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นยังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำแห่งตลาด รถยนต์หรู ด้วยการผสมผสานระหว่างดีไซน์อันสง่างาม ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส และ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่ล้ำสมัยที่สุด
Mercedes-Maybach S-Class 2025: ห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสบนท้องถนน
สำหรับ Mercedes-Maybach S-Class 2025 นี่คือที่สุดแห่งคำนิยามของ ยนตรกรรมพรีเมียม ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อผู้ที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด ผู้ที่ต้องการมากกว่าแค่การเดินทาง แต่คือการปรนเปรอทุกสัมผัสในแบบส่วนตัว
ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่โดดเด่น
Maybach S-Class โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามและเส้นสายที่ประณีต กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่พร้อมสัญลักษณ์ Maybach บนฝากระโปรงบ่งบอกถึงฐานะอันสูงส่ง ไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่ทำงานร่วมกับระบบ Adaptive Highbeam Assist Plus ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในเวลากลางคืนเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ล้ออัลลอย Forged ขนาด 20 นิ้วที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ Maybach สะท้อนถึงความหรูหราในทุกรายละเอียด ความยาวตัวรถที่มากกว่า S-Class มาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ภายในห้องโดยสาร: สวรรค์ส่วนตัวที่เคลื่อนที่ได้
ภายในคือจุดเด่นที่แท้จริงของ Maybach S-Class 2025 การตกแต่งภายในใช้หนัง designo Exclusive semi-aniline ที่คัดสรรมาอย่างดีที่สุด ตัดเย็บด้วยลวดลาย Diamond Design แผงคอนโซลและแผงประตูหุ้มด้วยหนัง Nappa และ DINAMICA microfibre นาฬิกาอนาล็อก IWC ดีไซน์พิเศษเป็นเครื่องประดับที่หรูหรา
เบาะนั่งแบบ First Class สำหรับผู้โดยสารด้านหลังคือหัวใจสำคัญ มันไม่เพียงแค่ปรับเอนได้สูงสุดเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันนวด ENERGIZING ที่มีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย เช่น นวดหินร้อน นวดกระตุ้น และนวดผ่อนคลาย ด้วยรองขาที่ปรับระดับได้และโต๊ะทำงานแบบพับได้ ทำให้ผู้โดยสารสามารถทำงานหรือพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4 โซน พร้อมฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศ (AIR BALANCE package) ที่มาพร้อมระบบ Active Perfuming System ที่สามารถเลือกกลิ่นหอมเฉพาะของ Maybach อย่าง AGARWOOD ช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลาย
ระบบความบันเทิง MBUX ที่ล้ำสมัยพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบเสียง Burmester® high-end 3D surround sound system และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ Maybach S-Class ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือห้องรับรองเคลื่อนที่ที่สมบูรณ์แบบ
ขุมพลังและเทคโนโลยี: สมรรถนะที่สงบเงียบแต่ทรงพลัง
Mercedes-Maybach S-Class 2025 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ (เช่น S 580 หรือ S 680) ไปจนถึงรุ่น Plug-in Hybrid (PHEV) ที่เน้นความยั่งยืน เครื่องยนต์เหล่านี้ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลัง 9G-TRONIC มอบ ประสิทธิภาพการขับขี่ ที่ราบรื่นแต่ทรงพลัง พร้อมแรงบิดมหาศาลที่พร้อมตอบสนองทุกการเร่งแซง สิ่งที่น่าประทับใจคือระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดในโลก ด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation ที่ซับซ้อน ทำให้การสนทนาหรือการพักผ่อนเป็นไปอย่างไร้ที่ติ
ระบบช่วงล่าง MAGIC BODY CONTROL ที่ใช้กล้องสแกนพื้นผิวถนนล่วงหน้าเพื่อปรับระดับความนุ่มนวลของช่วงล่างอัตโนมัติ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลราวกับลอยอยู่บนอากาศ เทคโนโลยีรถยนต์ เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ Maybach S-Class แตกต่างจาก รถผู้บริหาร ทั่วไป
Mercedes-Benz S-Class 2025: ผู้นำแห่งนวัตกรรมซีดานหรู
สำหรับ Mercedes-Benz S-Class 2025 ยังคงเป็นมาตรฐานของ รถซีดานหรู ที่ผู้ผลิตรายอื่นต้องตามให้ทัน ด้วยการผสมผสานระหว่างดีไซน์ที่หรูหรา นวัตกรรมที่ก้าวล้ำ และความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้
ดีไซน์ภายนอก: ความหรูหราอันเป็นสัญลักษณ์
S-Class 2025 มาพร้อมการปรับโฉมเล็กน้อย (facelift) ที่เน้นความทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบ 3 ซี่ที่สง่างาม ไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่คมชัดยิ่งขึ้น และกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ที่ผสานความสปอร์ตจาก AMG ในรุ่นย่อย AMG Premium อย่างลงตัว ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 20 นิ้วเพิ่มความโดดเด่นบนท้องถนน
ภายในห้องโดยสาร: นิยามใหม่ของความสะดวกสบาย
ภายในห้องโดยสารของ S-Class 2025 ยังคงเป็นจุดศูนย์รวมของความประณีตและเทคโนโลยี เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa หรือ Exclusive Nappa ที่ปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ ฟังก์ชันนวด ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้บุกเบิก ช่วยผ่อนคลายผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ด้วยการควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบเสียง และโปรแกรมนวดให้ทำงานร่วมกัน
ระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชันล่าสุด มาพร้อมหน้าจอสัมผัส OLED ขนาดใหญ่ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ระบบสั่งการด้วยเสียง LINGUATRONIC ที่ฉลาดขึ้น และระบบ Augmented Reality สำหรับการนำทาง ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ระบบเสียง Burmester® surround sound system มอบประสบการณ์เสียงระดับคอนเสิร์ตฮอลล์
ขุมพลังและประสิทธิภาพ: ความแรงที่มาพร้อมความประหยัด
S-Class 2025 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเทอร์โบคู่รุ่นใหม่ที่ให้ ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ที่ยอดเยี่ยมแต่ยังคงไว้ซึ่งพละกำลังที่เหลือเฟือ รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบและ V8 พร้อมเทคโนโลยี EQ Boost (Mild-Hybrid) ที่ช่วยเพิ่มกำลังและลดการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ รุ่น Plug-in Hybrid (PHEV) ยังได้รับการพัฒนาให้มีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่ไกลขึ้น ตอบรับเทรนด์ รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอิน ที่กำลังเติบโต
ระบบช่วงล่างถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบควบคุมระดับอัตโนมัติ มอบความนุ่มนวลและความมั่นคงในการขับขี่ในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นในโหมด Comfort หรือ Sport
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ก้าวล้ำ (สำหรับทั้ง S-Class และ Maybach S-Class)
ในด้านความปลอดภัย ทั้ง S-Class และ Maybach S-Class 2025 ยังคงเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ด้วยชุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และความปลอดภัยที่ครอบคลุม:
ระบบ PRE-SAFE® System และ PRE-SAFE® Impulse Side: เตรียมความพร้อมก่อนเกิดอุบัติเหตุและปกป้องผู้โดยสารในกรณีการชนด้านข้าง
Active Distance Assist DISTRONIC: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับระยะห่างตามรถคันหน้า
Active Steering Assist: ระบบช่วยบังคับเลี้ยวให้รถอยู่ในเลน
Active Lane Keeping Assist และ Active Blind Spot Assist: ช่วยรักษารถให้อยู่ในเลนและเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา
ระบบจอดรถอัตโนมัติ Active Parking Assist: พร้อมกล้องรอบทิศทาง 360 องศา
ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน (Night View Assist): เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ในเวลากลางคืน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า Mercedes-Benz S-Class และ Maybach S-Class 2025 ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่เป็นป้อมปราการแห่งความปลอดภัยและนวัตกรรมที่พร้อมปกป้องคุณและคนที่คุณรัก
สรุป: การเดินทางสู่ปี 2025 ที่เต็มไปด้วยทางเลือกแห่งความเหนือระดับ
ในปี 2025 ตลาด รถยนต์หรูระดับโลก และรถสมรรถนะสูงยังคงนำเสนอทางเลือกที่น่าตื่นเต้น Nissan GT-R ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเร็วที่เข้าถึงได้ด้วยสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ แต่มาพร้อมความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ Mercedes-Benz S-Class และ Mercedes-Maybach S-Class ยังคงเป็นมาตรฐานทองคำของ รถผู้บริหาร และ ยนตรกรรมพรีเมียม ที่ผสานความหรูหรา นวัตกรรม และความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ไม่ว่าคุณจะแสวงหาความเร้าใจจากการขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ของ GT-R หรือต้องการสัมผัสประสบการณ์แห่งความหรูหราขั้นสุดยอดและการเดินทางที่ผ่อนคลายในทุกมิติของ S-Class และ Maybach S-Class ปี 2025 นี้ ยนตรกรรมเหล่านี้ได้ถูกรังสรรค์มาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเป็นส่วนตัวของลูกค้าผู้ทรงเกียรติ
สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับด้วยตัวคุณเอง
อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการยานยนต์แห่งปี 2025! หากคุณสนใจที่จะสัมผัสถึงความทรงพลังของ Nissan GT-R หรือความสง่างามเหนือระดับของ Mercedes-Benz S-Class และ Mercedes-Maybach S-Class ด้วยตัวคุณเอง เชิญเยี่ยมชมโชว์รูมตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม ตารางการทดลองขับ และพบกับข้อเสนอสุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ค้นพบว่าทำไมยานยนต์เหล่านี้จึงยังคงเป็นผู้กำหนดมาตรฐานและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่วงการยานยนต์มาจนถึงปัจจุบันและในอนาคต!

