ในโลกของยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในตลาดรถกระบะเมืองไทยที่เคยเป็นเพียงพาหนะสำหรับการบรรทุก แต่ปัจจุบันได้ผันเปลี่ยนบทบาทสู่การเป็นไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ รถกระบะปี 2025 ไม่ได้เป็นแค่รถที่ลุยงานหนักได้เท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบาย ความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ Mitsubishi Triton ได้ยืนหยัดอยู่ในตลาดนี้มาอย่างยาวนาน และเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 การมาของ Mitsubishi Triton Athlete โฉมใหม่ล่าสุด ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉมย่อย แต่คือการปฏิวัติเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถกระบะให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ
จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในวงการยานยนต์ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรถกระบะมาหลายยุคหลายสมัย Triton มักจะเป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ได้เดินตามกระแสหลักที่เน้นเพียงความใหญ่โต แต่เน้นที่ความคล่องตัว สมรรถนะ และความทนทาน ซึ่งเป็นดีเอ็นเอสำคัญของแบรนด์ และสำหรับ Triton Athlete เจเนอเรชันล่าสุดนี้ มิตซูบิชิได้นำจุดแข็งเหล่านั้นมาผสานเข้ากับความทันสมัยที่ตอบโจทย์ยุค 2025 ได้อย่างลงตัว พร้อมเติมเต็มความต้องการของตลาดกระบะสายสปอร์ตที่มองหาสมรรถนะอันเป็นเลิศ เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และการออกแบบที่โดดเด่น
นิยามใหม่ของกระบะไลฟ์สไตล์: การออกแบบที่สื่อถึงความแข็งแกร่งและความสปอร์ต
เมื่อพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกของรถกระบะในตลาดปี 2025 ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ความบึกบึนอีกต่อไป แต่ยังต้องการความพรีเมียมและความสปอร์ตที่สะท้อนรสนิยม Mitsubishi Triton Athlete โฉมใหม่ ตอบรับเทรนด์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยภาษาการออกแบบ “Dynamic Shield” ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความเฉียบคมและทรงพลังยิ่งขึ้น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ที่ผสานการตกแต่งสีดำเงาและเส้นสายสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ของ Athlete สร้างความรู้สึกดุดันและทันสมัยในคราวเดียว ชุดไฟหน้า LED แบบโปรเจคเตอร์ดีไซน์เรียวคมพร้อมไฟ DRL (Daytime Running Light) แบบ LED มัลติรีเฟลคเตอร์ เสริมมิติให้ส่วนหน้าของรถดูมีชีวิตชีวาและโดดเด่นไม่เหมือนใคร
สิ่งที่ทำให้ Triton Athlete แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานและโดดเด่นจากคู่แข่งคือชุดแต่งสไตล์สปอร์ตที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า-หลังดีไซน์เฉพาะรุ่น ขอบซุ้มล้อที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตสีดำขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อมยาง All-terrain ซึ่งไม่ได้เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังสื่อถึงความพร้อมสำหรับการผจญภัยในทุกเส้นทาง สปอร์ตบาร์ดีไซน์ใหม่ที่ผสานเข้ากับตัวรถได้อย่างลงตัว และสติ๊กเกอร์กราฟิกโทนสีดำ-ส้มที่เสริมบุคลิกความสปอร์ตและสะท้อนจิตวิญญาณแห่งนักกีฬาอย่างแท้จริง มิติของตัวรถในเจเนอเรชันใหม่นี้ แม้จะยังคงรักษาความคล่องตัวตามแบบฉบับของ Triton แต่ก็ได้รับการขยายให้มีขนาดที่เหมาะสมกับตลาดมากขึ้น โดยมีความยาวตัวถัง 5,320 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,795 มม. และระยะฐานล้อที่ 3,130 มม. ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่และพื้นที่ใช้สอยภายใน โดยยังคงเป็นหนึ่งในรถกระบะที่ให้ความรู้สึกปราดเปรียวที่สุดในกลุ่มเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Ford Ranger Wildtrak, Toyota Hilux Revo Rocco หรือ Isuzu D-Max V-Cross
ภายในห้องโดยสาร: ยกระดับความพรีเมียมและความล้ำสมัย
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Triton Athlete 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่มิตซูบิชิตั้งใจยกระดับความพรีเมียมให้ทัดเทียมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับบน ด้วยการใช้โทนสีดำตัดสลับกับเส้นสายและตะเข็บสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ของ Athlete สร้างบรรยากาศสปอร์ตที่หรูหราและไม่ซ้ำใคร แผงคอนโซลดีไซน์ใหม่ที่เน้นความทันสมัยและใช้งานง่าย วัสดุที่ใช้ได้รับการปรับปรุงให้มีผิวสัมผัสที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้วัสดุบุนุ่มในบางจุด และตกแต่งด้วย Piano Black หรือ Gun Metallic ทำให้ภายในดูมีราคาและน่าสัมผัสมากขึ้น
หัวใจสำคัญของการตกแต่งภายในคือเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังแท้สีดำตัดส้ม เดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้มที่ให้ความรู้สึกโอบกระชับและสบายตลอดการเดินทาง เบาะคนขับสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันดันหลังไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ทุกสรีระสามารถหามุมที่เหมาะสมที่สุดได้ง่ายดาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์ใหม่แบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง เดินตะเข็บสีส้ม ที่ยกมาจาก Pajero Sport รุ่นล่าสุด ไม่เพียงแค่จับกระชับมือ แต่ยังมาพร้อมปุ่มควบคุมระบบต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งระบบ Cruise Control แบบ Adaptive (Adaptive Cruise Control – ACC) ที่สามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าได้อัตโนมัติ ปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และ Voice Command
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Instrument Cluster) แสดงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างคมชัดและหลากหลาย ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ตามโหมดการขับขี่ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (Wireless) กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของรถกระบะยุค 2025 ระบบนี้ใช้งานง่าย ตอบสนองรวดเร็ว มาพร้อมระบบนำทางในตัว และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (Multi Around Monitor) ที่ช่วยให้การจอดรถหรือขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่ายดดาย คุณภาพเสียงจากลำโพง 6 ตำแหน่ง ได้รับการปรับจูนมาเป็นอย่างดี ให้มิติเสียงที่คมชัดและทรงพลังเพียงพอสำหรับนักฟังเพลงทั่วไป
พื้นที่โดยสารด้านหลังยังคงเป็นจุดแข็งที่โดดเด่นของ Triton Athlete เบาะรองนั่งที่ให้ความรู้สึกแน่นกำลังดี ไม่เตี้ยเกินไป พนักพิงหลังมีองศาที่เอนพอเหมาะ พร้อมพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวาง ทำให้การเดินทางไกลของผู้โดยสารตอนหลังเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ซึ่งหาได้ยากในรถกระบะคู่แข่งหลายรุ่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มอบความเย็นสบายทั่วทั้งห้องโดยสาร
สมรรถนะเหนือชั้น: ขุมพลัง MIVEC และระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD-II ที่ไม่เป็นรองใคร
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Triton Athlete 2025 ยังคงเป็นกระบะสมรรถนะสูงคือขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4N16 DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร MIVEC Clean Diesel ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดมลพิษให้สอดคล้องกับมาตรฐาน Euro 5/6 ในปี 2025 ด้วยเทอร์โบแปรผัน (Variable Geometry Turbocharger) และอินเตอร์คูลเลอร์ เครื่องยนต์บล็อกนี้ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 430 นิวตันเมตร ที่ 2,300 รอบ/นาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังคงความแข็งแกร่งและตอบสนองได้ดีเยี่ยมในตลาดกระบะปัจจุบัน
จับคู่กับระบบส่งกำลังใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่ได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษเพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในโหมดการขับขี่ปกติและการใช้งานแบบสปอร์ตผ่าน Paddle Shift ที่พวงมาลัย อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาประมาณ 10-11 วินาที ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในรถกระบะที่เร็วที่สุดในเซกเมนต์ ด้วยน้ำหนักตัวที่สมดุลและเครื่องยนต์ที่รีดกำลังได้ดี การเร่งแซงในช่วงความเร็วกลาง-สูงทำได้อย่างมั่นใจ ไม่มีอาการหน่วงหรือขาดช่วง ส่งผลให้การขับขี่ทางไกลเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน
จุดเด่นที่แท้จริงของ Triton Athlete คือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II (SS4-II) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ ระบบนี้ไม่เพียงแค่ให้คุณเลือกโหมดขับเคลื่อน 2H, 4H, 4HLc, และ 4LLc ได้เท่านั้น แต่ 4H ยังสามารถใช้งานบนถนนยางมะตอยหรือพื้นผิวแห้งได้ตลอดเวลาโดยไม่มีอาการขืนเพลา ด้วย Center Differential ที่กระจายกำลังไปยังล้อหน้าและหลังอย่างเหมาะสม ทำให้รถมีความเกาะถนนและเสถียรภาพในการเข้าโค้งที่ยอดเยี่ยมเสมือนรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time นอกจากนี้ยังมาพร้อมปุ่ม Rear Diff-Lock สำหรับการขับขี่ออฟโรดอย่างจริงจัง และโหมดการขับขี่ (Drive Mode) ที่ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวต่างๆ (เช่น Gravel, Mud, Sand, Rock) ทำให้ Triton Athlete เป็นกระบะที่พร้อมลุยได้ในทุกสถานการณ์อย่างแท้จริง
ช่วงล่างและการบังคับควบคุม: สมดุลแห่งความสบายและสมรรถนะ
ในเจเนอเรชันใหม่นี้ Mitsubishi Triton Athlete ได้รับการปรับปรุงช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวให้ดียิ่งขึ้น ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง และด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้คอัพไขว้ ได้รับการปรับจูนใหม่ให้มีสมดุลที่ดีระหว่างความนุ่มนวลในการโดยสารและความมั่นคงในการขับขี่ แม้จะยังคงให้ความรู้สึกสบายตามแบบฉบับของ Triton แต่ก็ลดอาการโคลงเคลงลงไปได้มากเมื่อใช้ความเร็วสูงหรือเมื่อต้องหักหลบกะทันหัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่รุ่นเก่ามักจะรู้สึกถึงข้อจำกัด
ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฮดรอลิกที่ให้ฟีดแบ็กจากพื้นถนนได้ดี มีน้ำหนักที่เหมาะสม ไม่เบาหรือไวเกินไปเหมือนในอิตาลีรุ่นก่อนๆ ทำให้การขับขี่บนทางตรงมั่นคงและแม่นยำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่การขับขี่ในเมืองหรือการเข้าโค้งก็ยังคงความคล่องตัวและเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ทุกเพศทุกวัย เมื่อเทียบกับคู่แข่ง พวงมาลัยของ Triton Athlete ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติกว่าพวงมาลัยไฟฟ้าของบางค่าย แต่ก็ยังคงความเบาและคล่องตัวที่คนใช้รถเก๋งจะชื่นชอบ
ระบบเบรกมาพร้อมดิสก์เบรกคู่หน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกคู่หลัง พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานอย่าง ABS (Anti-Lock Braking System), EBD (Electronic Brake Force Distribution) และ BA (Brake Assist) ที่เป็นมาตรฐาน ในรุ่น Athlete ยังมาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability and Traction Control), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist), และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ครบครัน ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพเส้นทาง
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
Mitsubishi Triton Athlete 2025 ไม่ได้เป็นเพียงกระบะที่แข็งแกร่งและสปอร์ต แต่ยังเป็นกระบะที่ชาญฉลาดและปลอดภัย ด้วยชุดระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับที่ทันสมัย มิตซูบิชิได้จัดเต็มเทคโนโลยี ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ที่เป็นมาตรฐานในรถกระบะระดับพรีเมียมของปี 2025 ประกอบด้วย:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC): รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system – FCM): ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงการชน
ระบบเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist – BSW with LCA): ช่วยตรวจจับรถที่อยู่ในจุดอับสายตาและเตือนเมื่อจะเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนการจราจรด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert – RCTA): ช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหลังขณะถอย
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB): ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนรถคันอื่น
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง: ครอบคลุมผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น เช่น ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ KOS (Keyless Operation System) พร้อมปุ่ม Push Start, ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold, ช่องจ่ายไฟ USB-C ที่ทันสมัย และ Wireless Charger สำหรับชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของมิตซูบิชิในการสร้างสรรค์รถกระบะที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครันและสะดวกสบาย
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: ประสิทธิภาพที่น่าพอใจ
ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MIVEC ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และระบบส่งกำลัง 6 จังหวะที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ Mitsubishi Triton Athlete 2025 ยังคงรักษาประสิทธิภาพด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างน่าพอใจ ในการขับขี่จริงบนเส้นทางผสมผสานระหว่างในเมืองและทางไกล ผู้ขับขี่สามารถคาดหวังตัวเลขเฉลี่ยประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่แข่งขันได้ในตลาดกระบะ 2.4 ลิตร และยังเป็นรองเพียงกระบะไฮบริดบางรุ่นที่กำลังจะเข้ามาในตลาด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะที่ได้และความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ถือเป็นความสมดุลที่ลงตัว
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Triton Athlete 2025 ในฐานะกระบะสายพันธุ์แกร่งที่พร้อมสำหรับอนาคต
จากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สั่งสมมานาน ผมมองว่า Mitsubishi Triton Athlete 2025 เป็นการก้าวที่สำคัญของมิตซูบิชิในการปรับตัวเข้ากับภูมิทัศน์ของตลาดรถกระบะที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 รถคันนี้ได้แก้ไขจุดอ่อนหลายประการของรุ่นก่อนหน้า ทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่ดูบึกบึนและทันสมัยขึ้น ภายในที่ได้รับการยกระดับความหรูหราและเทคโนโลยี รวมถึงช่วงล่างและพวงมาลัยที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น
จุดเด่นที่ยังคงเป็นหัวใจของ Triton คือ ความคล่องตัวและสมรรถนะอันเป็นเลิศ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ความเร็วหรือเข้าโค้ง ระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD-II ยังคงเป็นไม้เด็ดที่ไม่มีใครเหมือนในตลาด ทำให้เป็นรถกระบะที่สามารถลุยได้จริงและขับสนุกบนทุกสภาพถนน ความสะดวกสบายของห้องโดยสาร โดยเฉพาะเบาะนั่งตอนหลัง ก็ยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง และ เทคโนโลยีความปลอดภัย ADAS ที่จัดเต็มมาในรุ่น Athlete ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดกระบะปี 2025 นั้นดุเดือดกว่าที่เคย คู่แข่งอย่าง Ford Ranger Wildtrak ยังคงโดดเด่นในด้านขับขี่และเทคโนโลยีบางอย่างที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น ส่วน Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-Max ก็ยังคงแข็งแกร่งในด้านความน่าเชื่อถือ อะไหล่ และเครือข่ายบริการ Triton Athlete อาจยังต้องพิสูจน์ตัวเองในระยะยาวเรื่องความเชื่อมั่นด้านบริการหลังการขายและมูลค่าการขายต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่มิตซูบิชิต้องให้ความสำคัญและสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นที่ผมได้เห็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับรถรุ่นก่อนๆ และการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนจากบางศูนย์บริการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญไม่แพ้ตัวผลิตภัณฑ์
โดยสรุปแล้ว ถ้าคุณกำลังมองหารถกระบะที่ไม่ได้เป็นแค่รถบรรทุก แต่เป็นพาหนะที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์การผจญภัย ความสปอร์ตที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย Mitsubishi Triton Athlete 2025 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม มันคือรถกระบะที่ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง
เชิญสัมผัสประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจของ Mitsubishi Triton Athlete 2025 ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ! ลองขับและเปรียบเทียบด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะพบว่ากระบะสายพันธุ์แกร่งคันนี้ พร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกเส้นทางของคุณได้อย่างไร

