ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง การตัดสินใจเลือกยานพาหนะคู่ใจสักคันนั้นซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นการมองหา รถยนต์มือสอง ที่ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันด้วยความคุ้มค่า หรือการใฝ่ฝันถึง แบรนด์รถหรู ระดับตำนานที่สะท้อนรสนิยมและสถานะ บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกถึงคุณค่าของ Honda Jazz 2014-2015 ในฐานะ รถแฮทช์แบ็กมือสองน่าใช้ แห่งปี 2025 และสำรวจ 10 สุดยอดแบรนด์รถหรูที่ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาด รถยนต์พรีเมียม ซึ่งอาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
ฮอนด้า แจ๊ส 2014-2015: แฮทช์แบ็กที่ยังคงตอบโจทย์ยุคมือสองในปี 2025
แม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงปี 2025 แล้ว แต่ Honda Jazz โฉมปี 2014-2015 หรือที่รู้จักกันในรหัส GK ยังคงเป็นหนึ่งใน รถแฮทช์แบ็กมือสอง ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาด ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน ความอเนกประสงค์ และดีไซน์ที่ยังคงความสดใหม่ไม่ตกยุค ทำให้มันเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์มือสองประหยัดน้ำมัน ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย
ดีไซน์สปอร์ตที่ยังคงโดดเด่นไม่แพ้ใคร
Honda Jazz GK มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่เน้นความสปอร์ตและปราดเปรียว กระจังหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยวเชื่อมต่อกับชุดไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ที่ให้ความสว่างชัดเจน (ในรุ่นท็อปอาจพบไฟท้าย LED) เส้นสายด้านข้างตัวรถพุ่งทะยานจากด้านหน้าจรดท้าย เสริมลุคสปอร์ตด้วยสเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลังในบางรุ่นย่อย แม้จะผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว แต่รูปทรงโดยรวมของ Jazz GK ยังคงความทันสมัยและดูดีบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางท่องเที่ยวแบบสบายๆ ก็ยังคงสะท้อนถึงสไตล์ความเป็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน
ภายในกว้างขวางเกินคาด พร้อมฟังก์ชัน Ultra Seat ที่เป็นจุดเด่น
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Honda Jazz ได้รับการยอมรับมาโดยตลอดคือห้องโดยสารที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ด้วยแนวคิด Man Maximum, Machine Minimum ทำให้ภายใน Jazz GK มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางเกินกว่าขนาดของรถในคลาสเดียวกัน เบาะนั่งด้านหลังแบบ “อัลตรา ซีท” (Ultra Seat) คือพระเอกของงานนี้ ที่สามารถปรับพับได้ถึง 4 รูปแบบ (Utility Mode, Long Mode, Tall Mode, Refresh Mode) เพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดและรูปทรงแตกต่างกันได้อย่างอิสระ ตั้งแต่สัมภาระทั่วไปไปจนถึงจักรยาน หรือแม้กระทั่งปรับเป็นพื้นที่นอนราบเพื่อการพักผ่อน ทำให้ Jazz GK ไม่ใช่แค่ รถแฮทช์แบ็ก ทั่วไป แต่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริง
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นที่วางแก้วน้ำหลายตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ USB (จำนวนขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ระบบปรับอากาศที่ใช้งานง่าย และในรุ่นท็อปยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วแบบ Advanced Touch ที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB, HDMI รวมถึงกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ซึ่งถือว่าทันสมัยมากสำหรับรถในยุคนั้น และยังคงใช้งานได้ดีเยี่ยมในปัจจุบัน
สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85
Honda Jazz 2014-2015 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง มีโหมด S (Sport) และ 7-Speed Paddle Shift ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้เองเพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในการขับขี่
จุดเด่นอีกประการคือเครื่องยนต์นี้รองรับ พลังงานทางเลือก E85 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Honda Jazz มือสอง เป็นตัวเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยมในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control (ในรุ่น SV ขึ้นไป) และระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist พร้อมไฟแสดงผล ECO Indicator ที่ช่วยแนะนำการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นและประหยัด
มาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน
ด้านความปลอดภัย Honda Jazz GK จัดมาให้ตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมคู่หน้า Dual SRS ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ในรุ่นท็อปอย่าง SV+ ยังเพิ่มถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะและม่านถุงลมด้านข้างเข้ามา เพื่อความปลอดภัยที่เหนือระดับยิ่งขึ้น
รุ่นย่อยและราคาในตลาดมือสอง
Honda Jazz 2014-2015 มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีออปชันและราคาที่แตกต่างกันไปในตลาด รถมือสอง ณ ปี 2025 โดยราคาในปัจจุบันย่อมลดลงจากราคาเปิดตัวอย่างมาก ทำให้เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่มองหา Honda Jazz มือสองราคาดี
รุ่น S MT: ราคาเปิดตัว 550,000 บาท (เกียร์ธรรมดา)
รุ่น S AT: ราคาเปิดตัว 594,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ, ปุ่ม ECON)
รุ่น V AT: ราคาเปิดตัว 654,000 บาท (ล้ออัลลอย, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ, มาตรวัดเรืองแสงสีฟ้า)
รุ่น V+ AT: ราคาเปิดตัว 694,000 บาท (ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7″, กล้องมองหลัง)
รุ่น SV AT: ราคาเปิดตัว 739,000 บาท (ไฟตัดหมอก, สเกิร์ต, สปอยเลอร์, ล้ออัลลอย 16 นิ้ว, Paddle Shift, Cruise Control)
รุ่น SV+ AT: ราคาเปิดตัว 754,000 บาท (ถุงลมด้านข้าง, ม่านถุงลม)
สีสันที่ยังคงเป็นที่นิยม
Honda Jazz GK มีสีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งสีเหลืองและสีน้ำเงินเป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่น SV+/SV ในขณะที่สีขาว, สีเงิน, สีเทา และสีดำ เป็นสียอดนิยมที่หาได้ทั่วไป ทำให้ผู้ซื้อ Honda Jazz มือสอง ยังคงมีตัวเลือกที่ตรงกับความชอบส่วนตัว
โดยสรุปแล้ว ในปี 2025 Honda Jazz 2014-2015 ยังคงเป็น รถยนต์มือสอง ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่ง ด้วยความคุ้มค่าด้านราคา ความอเนกประสงค์ของห้องโดยสาร ความประหยัดเชื้อเพลิง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว ถือเป็น รถมือสองสภาพดี ที่พร้อมลุยไปกับทุกไลฟ์สไตล์
10 สุดยอดแบรนด์รถหรูและซูเปอร์คาร์ที่ยังคงน่าจับตาในปี 2025: การลงทุนที่เหนือกว่าแค่ยานพาหนะ
สำหรับอีกฟากฝั่งของตลาดที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง คือโลกของ รถหรู และ ซูเปอร์คาร์ ซึ่งในปี 2025 นี้ แบรนด์เหล่านี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ รสนิยม และนวัตกรรมที่ล้ำหน้า การเป็นเจ้าของ รถยนต์พรีเมียม ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทาง แต่คือการดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่เหนือระดับ และในบางครั้งยังเป็นการ ลงทุนรถหรู ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา วันนี้เราจะพาไปสำรวจ 10 ยี่ห้อรถหรูพร้อมรุ่นเด่นที่ยังคงน่าจับตาในตลาด รถหรูมือสอง และใหม่ล่าสุด
Mercedes-Benz: ตำนานรถหรูที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
เมื่อพูดถึง แบรนด์รถหรู ชื่อแรกๆ ที่คนทั่วโลกนึกถึงคงหนีไม่พ้น Mercedes-Benz สัญลักษณ์ “ดาวสามแฉก” ที่เป็นที่รู้จักกันดี แบรนด์สัญชาติเยอรมันนี้คือผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมยานยนต์มาอย่างยาวนาน พัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกยุคสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีล้ำสมัย
รุ่นเด่นน่าจับตา: S-Class โดยเฉพาะ Mercedes-Maybach ยังคงเป็นเรือธงสำหรับผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ยังมี C-Class, E-Class, และตระกูล EQ รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง เช่น Mercedes-Benz CLA EV ที่มีข่าวว่าจะเปิดตัวในปี 2026
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Mercedes-Benz A200 w177: 880,000 – 1,790,000 บาท
Mercedes-Benz C300 w205: 528,000 – 2,490,000 บาท
Mercedes-Benz E300 w238: 1,290,000 – 2,499,000 บาท
Mercedes-Benz GLC250 w253: 855,000 – 2,990,000 บาท
Mercedes-Benz EQ (รุ่นต่างๆ): 2,600,000 – 5,140,000 บาท
Mercedes-Benz G-Class: 7,700,000 – 16,500,000 บาท
Mercedes-Benz S-Class S350 w223: 2,590,000 – 5,990,000 บาท
Mercedes-Benz S-Class S580 w223: 3,990,000 – 8,490,000 บาท
BMW: รถยนต์สมรรถนะสูง ขวัญใจคนรุ่นใหม่
จากเยอรมนีเช่นกัน BMW (Bayerische Motoren Werke) สร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนในเรื่องของ “สมรรถนะ” และ “ความสปอร์ต” ด้วยสโลแกน “Sheer Driving Pleasure” หรือความสุขในการขับขี่อย่างแท้จริง แบรนด์นี้มักเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบดีไซน์ทันสมัยและความรู้สึกเร้าใจในการขับขี่
รุ่นเด่นน่าจับตา: BMW 3 Series, 4 Series, X3/X4, และ M Series อย่าง BMW M2, M3, M4 ที่เป็นตำนานเรื่องเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง นอกจากนี้ ตระกูล i-Series อย่าง BMW i4 / iX ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
BMW 2 Series 220i f44: 850,000 – 1,800,000 บาท
BMW 3 Series 320d g20: 959,000 – 2,450,000 บาท
BMW 3 Series 330e g20: 999,000 – 2,250,000 บาท
BMW 4 Series 430i g22: 1,490,000 – 3,390,000 บาท
BMW X3 g01: 895,000 – 3,490,000 บาท
BMW X4 g02: 859,000 – 3,390,000 บาท
BMW M2 f87: 2,690,000 – 6,290,000 บาท
BMW M3 g80: 4,490,000 – 5,850,000 บาท
BMW M4 g82: 6,390,000 – 7,990,000 บาท
BMW i I5 g60: 2,790,000 – 4,590,000 บาท
BMW ix i20: 2,190,000 – 4,350,000 บาท
Porsche: แบรนด์รถสปอร์ตหรู ขับขี่เร้าใจและแม่นยำ
Porsche คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจจากเยอรมนี ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสมดุลระหว่างเทคโนโลยี วิศวกรรม และอารมณ์ในการขับขี่ขั้นสูง ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่การออกแบบรถให้แบรนด์อื่น ก่อนจะสร้างรถของตัวเองในชื่อ Porsche 356 และตามมาด้วยตำนานอย่าง Porsche 911
รุ่นเด่นน่าจับตา: Porsche 911 รถสปอร์ตในตำนาน, Porsche 718 Cayman/Boxster, Porsche Cayenne รถ SUV ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในไทย และ Porsche Panamera ซีดานหรูที่ดูสปอร์ต
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Porsche 911 991: 5,490,000 – 7,390,000 บาท
Porsche 911 992: 8,290,000 – 27,500,000 บาท
Porsche 718: 2,175,000 – 4,750,000 บาท
Porsche Cayenne: 818,000 – 11,590,000 บาท
Porsche Macan: 1,480,000 – 5,980,000 บาท
Porsche Panamera: 1,550,000 – 9,590,000 บาท
Porsche Taycan: 3,590,000 – 15,900,000 บาท
Lamborghini: สุดยอดซูเปอร์คาร์ เสียงคำรามที่ไพเราะ
หากกล่าวถึง ซูเปอร์คาร์มือสอง ที่สุดของความแรงและความหรูหรา Lamborghini คือชื่อแรกๆ ที่ปรากฏขึ้น แบรนด์สปอร์ตในตำนานจากอิตาลีนี้ก่อตั้งโดย Ferruccio Lamborghini ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างรถสปอร์ตที่ดีกว่าใคร โลโก้กระทิงดุสะท้อนถึงพลังและความหลงใหลในการแข่งขัน
รุ่นเด่นน่าจับตา: ขุมพลัง V12 Heritage คือหัวใจสำคัญของรุ่นเรือธงอย่าง Miura, Countach, Diablo, Murciélago, ไปจนถึง Aventador และ Revuelto (V12 ไฮบริด) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลังและจิตวิญญาณแห่ง ซูเปอร์คาร์ อย่างแท้จริง สำหรับ SUV สุดหรูอย่าง Urus ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Lamborghini Huracan: 11,900,000 – 32,900,000 บาท
Lamborghini Urus: 19,500,000 – 20,900,000 บาท
Lamborghini Gallardo: 6,990,000 – 8,900,000 บาท
Lamborghini Aventador: ราคาตามการสอบถามผู้ขาย
Lamborghini Murcielago: ราคาเริ่มต้น 16,500,000 บาท
Rolls-Royce: อัครยานยนต์ ระดับมหาเศรษฐี
Rolls-Royce ไม่ใช่แค่ ยี่ห้อรถหรู แต่เป็นยนตรกรรมแห่งความหรูหราเหนือระดับที่ผู้คนทั่วโลกอยากครอบครอง ปรัชญา “Take the best that exists and make it better” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
รุ่นเด่นน่าจับตา: Phantom คืออัครซีดานเรือธงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก” นอกจากนี้ยังมี Ghost, Wraith และ Cullinan SUV สุดหรู สำหรับผู้ที่ต้องการขับเอง Spectre ซูเปอร์คูเป้ไฟฟ้า (EV) คันแรกของ Rolls-Royce ก็มอบประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบที่สุด
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Rolls-Royce Phantom: ราคาตามการสอบถามผู้ขาย
Rolls-Royce Ghost: 11,200,000 – 29,900,000 บาท
Rolls-Royce Wraith: 9,900,000 – 14,900,000 บาท
Rolls-Royce Cullinan: ราคาเริ่มต้น 27,900,000 บาท
Rolls-Royce SPECTRE (ใหม่): ราคาเริ่มต้น 31,800,000 บาท
Bentley: อัครยานยนต์ สไตล์ผู้ดีแบบอังกฤษ
คู่แข่งตลอดกาลของ Rolls-Royce คือ Bentley อัครยานยนต์สัญชาติอังกฤษที่ผสมผสานความหรูหราแบบผู้ดีเข้ากับจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตได้อย่างลงตัว ด้วยประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นจากการคว้าชัยชนะในรายการ 24 Hours of Le Mans ทำให้ Bentley มี DNA ของสมรรถนะอันทรงพลังและบุคลิกสปอร์ตระดับผู้ดี
รุ่นเด่นน่าจับตา: Flying Spur, Continental GT และ Bentayga SUV สุดหรูที่ผสมผสานความสง่างามและความแข็งแกร่งเข้าไว้ด้วยกัน
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Bentley Continental Gt: 2,390,000 – 14,800,000 บาท
Bentley Bentayga: 7,490,000 – 16,590,000 บาท
Bentley Flying Spur: 4,190,000 – 29,990,000 บาท
Bentley Mulsanne: ราคาเริ่มต้น 29,900,000 บาท
Maserati: ซูเปอร์คาร์หรูหราสไตล์อิตาเลียน
หนึ่งในความภาคภูมิใจของอุตสาหกรรมยานยนต์อิตาลี Maserati ถือกำเนิดขึ้นในปี 1914 ด้วยโลโก้ตรีศูลอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สะท้อนถึงพละกำลังและความแข็งแกร่ง ปรัชญา “Masters of Italian Audacity” หรือความกล้าที่จะแตกต่างในแบบฉบับอิตาเลียน ทำให้ Maserati มีดีไซน์ที่เต็มไปด้วยเส้นโค้งที่มีชีวิตและเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ไพเราะเป็นเอกลักษณ์
รุ่นเด่นน่าจับตา: ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ MC20 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ Nettuno V6 พัฒนาเอง, Quattroporte ซีดานหรู และ GranTurismo คูเป้ที่ปัจจุบันมีรุ่นไฟฟ้า 100% ให้เลือก รวมถึง Grecale Luxury SUV ที่สวยงาม
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Maserati Mc20: ราคาเริ่มต้น 19,900,000 บาท
Maserati Ghibli: 3,290,000 – 3,990,000 บาท
Maserati Levante: 3,190,000 – 5,890,000 บาท
Maserati Quattroporte: 3,990,000 – 6,990,000 บาท
McLaren: ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ สเปกสูงจากสนามแข่ง F1
McLaren คืออีกหนึ่ง ซูเปอร์คาร์ สัญชาติอังกฤษที่มีรากฐานมาจากสนามแข่ง Formula 1 (F1) อย่างแท้จริง ก่อตั้งโดย Bruce McLaren นักแข่งและวิศวกรผู้มุ่งมั่นสร้างรถแข่งที่ดีที่สุด ทำให้รถยนต์ของ McLaren เต็มไปด้วยวิศวกรรมขั้นสูงและเทคโนโลยีจาก F1 ทุกเส้นสายของรถถูกออกแบบมาเพื่อ “ฟังก์ชัน” ไม่ใช่แค่ความสวยงาม
รุ่นเด่นน่าจับตา: ตำนาน Hypercar McLaren F1, Artura ซูเปอร์คาร์ Plug-in Hybrid รุ่นใหม่ และ 750S ซูเปอร์คาร์ที่เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ ซึ่งเป็นที่สุดของสมรรถนะที่คนต้องการ
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
McLaren 720s: 18,900,000 – 27,000,000 บาท
McLaren Artura: 14,900,000 – 21,900,000 บาท
McLaren 765lt: 39,900,000 – 48,900,000 บาท
McLaren 650s: 12,000,000 – 14,500,000 บาท
McLaren 570s: 10,900,000 – 13,990,000 บาท
McLaren GT: 18,000,000 – 23,900,000 บาท
McLaren GTS (ใหม่): ราคาประมาณ 15,500,000 บาทสหรัฐฯ (หากเข้าไทย)
Aston Martin: งานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ สไตล์สายลับ 007
หลายคนรู้จัก Aston Martin จากรถคู่กายสายลับ 007 (James Bond) อย่างรุ่น DB5 แบรนด์สัญชาติอังกฤษนี้ก่อตั้งในปี 1913 และนิยามตัวเองว่าเป็น “งานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้” ผสานความหรูหราแบบผู้ดีอังกฤษและความสปอร์ตเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้ปรัชญา “Power, Beauty, Soul”
รุ่นเด่นน่าจับตา: DB12 นิยามใหม่ของ Super Tourer ที่มาแทนที่ DB11, Vanquish ที่มีเครื่องยนต์ V12 และ DBX SUV รุ่นแรกของ Aston Martin ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Aston Martin Vantage: 4,190,000 – 14,900,000 บาท
Aston Martin DB11: ราคาเริ่มต้น 12,500,000 บาท
Aston Martin Vanquish: ราคาเริ่มต้น 14,490,000 บาท
Aston Martin DBX: ราคาเริ่มต้น 29,900,000 บาท
Aston Martin DB9: ราคาเริ่มต้น 7,290,000 บาท
Aston Martin Rapide S: ราคาเริ่มต้น 8,999,000 บาท
Aston Martin DB12 Volante (ใหม่): ราคา 24.9 ล้านบาท
Audi: ยานยนต์พรีเมียม ดีไซน์ทันสมัย เทคโนโลยีล้ำหน้า
หนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ของ รถยนต์พรีเมียม จากเยอรมนี Audi เน้นความก้าวหน้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้สโลแกน “Vorsprung durch Technik” หรือ “ความก้าวหน้าผ่านเทคโนโลยี” สัญลักษณ์สี่ห่วงเป็นตัวแทนของการรวมตัวของสี่บริษัทผู้บุกเบิก
รุ่นเด่นน่าจับตา: Audi A4, A6, A8 ซีดานหรู, Q5, Q7, Q8 กลุ่มรถอเนกประสงค์ที่ขายดี โดยเฉพาะ Q8 SUV สไตล์คูเป้ และ Audi E-tron Gt ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงรถสปอร์ตอย่าง TT และ R8
ราคาในตลาดรถมือสอง (ประมาณการปี 2025):
Audi A5: 1,059,000 – 2,099,000 บาท
Audi A6: 1,190,000 – 2,190,000 บาท
Audi A7: 1,890,000 – 2,459,000 บาท
Audi E-tron Gt: 3,990,000 – 4,090,000 บาท
Audi TT: 1,230,000 – 3,690,000 บาท
Audi RS6: 6,990,000 – 8,900,000 บาท
Audi R8: 3,950,000 – 14,500,000 บาท
Audi Q3: 1,180,000 – 2,199,000 บาท
Audi TT RS Coupe Quattro (ใหม่): ราคาเริ่มต้น 5.299 ล้านบาท
ไม่ว่าจะเป็นการเลือก Honda Jazz 2014-2015 มือสอง เพื่อความคุ้มค่าและความอเนกประสงค์ในการใช้งานประจำวัน หรือการตัดสินใจลงทุนใน รถหรูมือสอง หรือซูเปอร์คาร์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สิ่งสำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และงบประมาณของคุณมากที่สุด และมั่นใจได้ว่าในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์ยังคงมีตัวเลือกที่น่าสนใจมากมายรอให้คุณได้ค้นพบ.

