• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1710009 เม อความร กทำร ายเขา เขาจ งเก บม นให เป นแรงผล กด นพล กช ตต วเอง part2

admin79 by admin79
November 12, 2025
in Uncategorized
0
N1710009 เม อความร กทำร ายเขา เขาจ งเก บม นให เป นแรงผล กด นพล กช ตต วเอง part2

ในโลกที่ความหรูหราไม่ได้หยุดอยู่แค่รูปลักษณ์ แต่หมายถึงปรัชญา วิศวกรรม และประสบการณ์ที่ไร้ที่ติ ยานยนต์พรีเมียมได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ สู่การนำเสนอสิ่งที่เหนือกว่าความคาดหมาย บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยตำนานของแบรนด์ที่กล้าท้าทายขนบ และสำรวจภูมิทัศน์ของรถยนต์หรูในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถตู้ VIP ที่กำลังมาแรงในปี 2025

เมื่อพูดถึงความหรูหราในโลกยานยนต์ ชื่อของ Lexus มักจะผุดขึ้นมาในใจผู้คนอย่างรวดเร็ว แบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นนี้ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมความเชื่อมั่นจากทุกฝ่าย แต่กลับต้องพิสูจน์ตัวเองจากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีใครคาดคิดว่าเอเชียจะสามารถสร้าง รถยนต์หรู ที่ท้าชนกับยักษ์ใหญ่ยุโรปได้สำเร็จ เรื่องราวอันน่าทึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 1989 ณ สหรัฐอเมริกา เมื่อ Lexus เปิดตัวสู่ตลาดโลกและทำยอดขายถล่มทลายหลายหมื่นคันในปีแรก ส่งผลสะเทือนถึงแบรนด์ยุโรปที่เป็นเจ้าตลาดเดิม และเพียงสองปีให้หลัง (ปี 1991) Lexus ก็ทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งของกลุ่มรถหรูในอเมริกา คำถามคือ อะไรคือปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จอันรวดเร็วนี้?

คำตอบอยู่ที่วิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ เออิจิ โตโยดะ ผู้ให้กำเนิด Lexus เขาไม่ได้เพียงต้องการสร้างรถยนต์ที่ดี แต่ต้องการสร้าง “รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก”

โปรเจกต์ F1: รากฐานแห่งความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ในปี 1983 เออิจิ โตโยดะ ได้จุดประกายแนวคิดที่ท้าทายทั้งตัวเขาและทีมงาน นั่นคือการสร้าง รถยนต์หรู ที่ดีที่สุดในโลก โปรเจกต์นี้ได้รับรหัสว่า F1 ซึ่งย่อมาจาก “Flagship One” มีเป้าหมายสูงสุดคือการพัฒนารถยนต์ Lexus LS 400 เพื่อพิชิตตลาดรถหรูขนาดมหึมาในสหรัฐอเมริกา

เออิจิรู้ดีว่าการบุกตลาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในยุคทศวรรษ 1950s เขาเคยส่ง Toyota Crown ซึ่งเป็นรถหรูขนาดกลางของโตโยต้าเข้าไปจำหน่ายในอเมริกา แต่กลับประสบความล้มเหลว ตลาดรถหรูในดินแดนลุงแซมนั้นเต็มไปด้วยการแข่งขันสูง และหากไม่ใช่ รถยนต์พรีเมียม ที่ไร้ที่ติ ก็ยากที่จะดึงดูดความสนใจและเม็ดเงินจากเศรษฐีชาวอเมริกันได้

ด้วยบทเรียนในอดีต เออิจิจึงทุ่มเททรัพยากรอย่างมหาศาลให้กับโปรเจกต์ F1 ทั้งงบประมาณที่ไม่จำกัดและบุคลากรระดับหัวกะทิหลายพันคน ประกอบด้วย:

นักออกแบบ 60 คน

ทีมวิศวกร 24 ทีม รวม 1,400 คน

นักเทคนิค 2,300 คน

หน่วยสนับสนุนอีก 220 คน

ทั้งหมดนี้ถูกระดมมาเพื่อวิจัยและพัฒนา ยานยนต์หรู ที่ดีที่สุด โดยมีเป้าหมายทะลวงตลาดรถหรูในอเมริกา ซึ่งไม่เคยมีแบรนด์รถยนต์จากเอเชียรายใดทำได้สำเร็จมาก่อน

ความใส่ใจในทุกรายละเอียด: DNA ของ Lexus ถือกำเนิดขึ้น

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Lexus ก้าวขึ้นมาอย่างโดดเด่นคือปรัชญา “The Relentless Pursuit of Perfection” หรือการแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ปรัชญานี้หยั่งรากลึกมาจากตัวตนของ เออิจิ โตโยดะ ตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นวิศวกรหนุ่มที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยโตเกียว และเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัว แม้จะมีประสบการณ์น้อย แต่เขามุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจในทุกส่วนประกอบของรถยนต์อย่างลึกซึ้ง

“มันยากมากที่ผมจะรับรู้ความต่างหนึ่งในร้อยส่วนของมิลลิเมตร” เออิจิเคยกล่าวถึงความพยายามของเขาในการรับรู้ถึงความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเหล่านี้ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างรถยนต์

ความใส่ใจในรายละเอียดขั้นสุดนี้เห็นได้ชัดจากขั้นตอนการพัฒนาโปรเจกต์ F1 ในปี 1985 เออิจิได้นำทีมงานเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษาและสำรวจตลาด เขาเชื่อว่าการจะเข้าใจลูกค้าได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขา ทีมวิศวกรได้เชิญผู้ใช้ รถหรู จากหลากหลายแบรนด์หลายร้อยคนมาสัมภาษณ์ เพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริงที่ยังไม่มีแบรนด์ใดตอบสนองได้ ไม่เพียงแค่การฟัง เออิจิยังส่งทีมนักออกแบบไปเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่ Laguna Beach รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเฝ้าสังเกตวิถีชีวิต รสนิยม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเหล่าเศรษฐีอเมริกัน ซึ่งเป็นลูกค้าในอนาคตของ Lexus

ทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ล้วนถูกเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลในการพัฒนารถยนต์ โปรเจกต์ F1 ใช้เวลาในการพัฒนาอย่างเข้มข้นถึง 6 ปี สร้างรถต้นแบบกว่า 450 คัน และทำการทดลองวิ่งบนสนามทดสอบทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่งหรือถนนปกติ ในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา เยอรมนี เบลเยียม สวีเดน ไปจนถึงแคนาดา รวมระยะทางกว่า 4.3 ล้านไมล์ เพื่อค้นหาจุดบกพร่องและแก้ไขให้ไร้ที่ติ ก่อนที่ Lexus LS 400 จะถูกเปิดตัวสู่ตลาดในที่สุด

ผลลัพธ์คือ รถยนต์หรู ที่มาพร้อมสมรรถนะ คุณภาพการขับขี่ และบริการหลังการขายชั้นยอด ที่สั่นสะเทือนตลาดรถหรูในอเมริกาตั้งแต่ปีแรกที่ออกจำหน่าย การถือกำเนิดของ Lexus LS 400 ไม่ใช่แค่การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ แต่เป็นการประกาศถึงปรัชญาที่ยึดมั่นในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งกลายเป็น DNA ของ Lexus ที่ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน

Akio Toyoda: พลิกโฉมความหรูหรา สู่ “ไลฟ์สไตล์” ที่จับต้องได้

หน้าที่ในการสานต่อตำนานอันยิ่งใหญ่ของ Lexus ตกเป็นของ อากิโอะ โตโยดะ ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้เป็นหลานของ เออิจิ โตโยดะ อากิโอะต้องแบกรับความกดดันมหาศาล เพราะแม้ Lexus จะยังคงรักษาระดับการเป็น รถหรู ที่ดีเยี่ยม แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดีไซน์และความแปลกใหม่ คำวิจารณ์ที่ว่า “Lexus เป็นรถที่ดีแต่ดูน่าเบื่อ” คือสิ่งที่เขาต้องเผชิญในยุคหลัง

ในฐานะประธานบริษัท อากิโอะตระหนักดีว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี เขาจึงตัดสินใจเข้ามากุมบังเหียนดูแลแบรนด์ Lexus ด้วยตัวเอง ด้วยแนวคิดพื้นฐานที่รับช่วงต่อมาจาก เออิจิ คือการรับฟังทุกความต้องการ เพื่อแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่สิ้นสุดให้กับลูกค้าเสมอมา

ในปี 2011 อากิโอะได้นำ Lexus เข้าสู่ยุคใหม่ของการออกแบบที่พลิกโฉม ด้วยดีไซน์ที่หวือหวาและสะดุดตามากขึ้น อาทิ กระจังหน้า Spindle Grille อันเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังคงความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งขยายนิยามของ Lexus ให้เป็นมากกว่าแค่รถยนต์

“เราต้องการสร้างแบรนด์ Lexus ให้เป็นมากกว่าแค่ รถหรู แต่คือไลฟ์สไตล์” อากิโอะกล่าว ภายใต้การนำของเขา Lexus ก้าวไปอีกขั้นด้วยการสร้างสรรค์ยานพาหนะอื่น ๆ อย่างจักรยาน และเรือยอร์ช รวมถึง INTERSECT BY LEXUS ซึ่งเป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์ที่รวมคาเฟ่ ร้านอาหาร และบาร์ ที่จัดแสดงอีเวนต์และจำหน่ายสินค้าที่สะท้อนตัวตนและปรัชญาของ Lexus ในทุกรายละเอียด

หากความละเอียดอ่อน พิถีพิถัน และความใส่ใจใน คุณภาพ คือมาตรฐานความสมบูรณ์แบบที่เออิจิสร้างไว้ อากิโอะคือผู้ที่ต่อยอดและนำปรัชญาเหล่านั้นออกมาจากตัวรถ สู่ประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนทั่วไปสามารถสัมผัสได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดอย่างชัดเจนในกิจกรรม Lexus Cultural Experience ที่พาสื่อมวลชนจากทั่วโลกไปสัมผัสเบื้องหลังวิธีคิดและการสร้างรถยนต์ของ Lexus ถึงศูนย์การออกแบบและโรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่น ช่างฝีมือระดับ ‘ทาคุมิ’ ของ Lexus ที่ผ่านการฝึกฝนกว่า 60,000 ชั่วโมง ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการตรวจสอบความเรียบร้อยของรถยนต์ทุกคัน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกรายละเอียดเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุด

เมื่อถูกถามถึงสิ่งที่เขาภาคภูมิใจที่สุดเกี่ยวกับการออกแบบของ Lexus อากิโอะตอบว่า “ความสง่างาม” (The gracefulness) เขาอธิบายว่า “แบรนด์หรูส่วนใหญ่มักจะพูดถึงความเหนือระดับ คุณภาพ ชั้นยอด หรือกระทั่งรถยนต์สมรรถนะสูง แต่ผมต้องการแน่ใจว่าท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ Lexus จะต้องมีความสง่างามสำหรับคนที่ได้ขับขี่หรือเห็นยานยนต์ของเรา นั่นคือสิ่งที่ผมยืนยันได้เมื่อพูดถึง Lexus” และเขาย้ำว่า “ผมไม่ได้บอกว่า ณ จุดนี้ เราบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้วอย่างสมบูรณ์” เพราะการพัฒนาและการเปิดรับความคิดเห็นจากผู้คน เพื่อสร้างสรรค์ ยานยนต์ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม คือการแสวงหาความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ความหรูหราที่ขยับขยาย: จากซีดานสู่รถตู้ VIP แห่งปี 2025

ปรัชญาแห่งการแสวงหาความสมบูรณ์แบบที่ Lexus ยึดมั่น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังแผ่ขยายไปสู่กลุ่ม ยานยนต์ ประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถตู้ผู้บริหาร หรือ รถตู้ VIP ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ยานพาหนะ ที่มอบทั้งความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และภาพลักษณ์อันโดดเด่น ทำให้ตลาด รถตู้หรู ในปี 2025 คึกคักเป็นพิเศษ ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายและอัดแน่นด้วย นวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานเชิงธุรกิจและการเดินทางของครอบครัว บทบาทของ รถตู้ VIP ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่เป็นเสมือนสำนักงานเคลื่อนที่ ห้องรับรองส่วนตัว หรือแม้แต่บ้านหลังที่สองบนท้องถนน

เรามาดูกันว่า รถตู้ผู้บริหาร และ รถตู้ VIP รุ่นไหนบ้างที่โดดเด่นและเป็นที่จับตามองในตลาดปี 2025

Hyundai Staria: ดีไซน์ล้ำสมัย ผสานเทคโนโลยีเพื่อความสบายสูงสุด

Hyundai Staria คือ รถตู้หรู ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในกลุ่ม รถตู้ VIP ด้วยดีไซน์ที่ล้ำยุค futuristic ราวกับยานอวกาศ แต่ยังคงความเรียบหรูภายใน ห้องโดยสารขนาดใหญ่ 11 ที่นั่ง พร้อม เทคโนโลยียานยนต์ ที่ทันสมัย ทำให้ Staria เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้ง รถตู้ครอบครัว และ รถตู้ผู้บริหาร

จุดเด่นของ Staria คือการออกแบบภายในที่ให้ความสำคัญกับทัศนวิสัยของคนขับและความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ด้วย Beltline ที่ต่ำและกระจกแบบพาโนรามิก ทำให้ห้องโดยสารรู้สึกโปร่งโล่งและเปิดกว้าง สิ่งนี้ช่วยเพิ่ม ประสบการณ์การขับขี่ และการเดินทางได้อย่างแท้จริง ระบบระบายความร้อนด้วยอินเตอร์คูลเลอร์และกังหันเทอร์โบชาร์จได้รับการปรับปรุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแรงบิดในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ส่วนช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงก์ด้านหลัง พร้อมการปรับองศาและระดับของ Shock Absorber ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการเดินทาง

ชนิดเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

พละกำลัง: 177 แรงม้า แรงบิด 431 นิวตันเมตร

จำนวนที่นั่ง: 11 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 1,729,000 – 1,999,000 บาท (ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามรุ่นย่อยและโปรโมชั่น)

ระบบความปลอดภัย: อัดแน่นด้วยระบบ Hyundai SmartSense อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่าง (SCC), ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติ (FCA), ระบบช่วยเตือนและควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา (BCA), ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ (RCCA), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ทุกที่นั่งติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด มั่นใจได้ถึง ความปลอดภัย สูงสุดในทุกเส้นทาง

Toyota Majesty: ความหรูหราที่มาพร้อมความวางใจ

Toyota Majesty คือ รถตู้ระดับพรีเมียม ที่ครองใจผู้บริหารและกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ รถตู้ VIP มาอย่างยาวนาน ด้วย ดีไซน์รถยนต์ ที่โดดเด่น หรูหรา และเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับ ความสะดวกสบาย ในการโดยสารที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ที่นั่งแบบ Captain Seats และ Big Seats ให้ความผ่อนคลายสูงสุด นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบเครื่องยนต์วางหน้า (Semi-Bonnet) ที่ช่วยลดเสียงรบกวนภายใน ห้องโดยสารหรู ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงระบบช่วงล่างใหม่ที่ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน มอบ ประสบการณ์การขับขี่ ที่นุ่มนวลราบรื่น

ที่น่าประทับใจคือ Toyota Majesty เป็น รถตู้หรู รุ่นแรกและรุ่นเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ความปลอดภัย ระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP (ในช่วงปี 2560 – 2563) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึง คุณภาพ และมาตรฐานที่เชื่อถือได้

ชนิดเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซล GD 2.8 ลิตร รองรับน้ำมันดีเซล B20

พละกำลัง: 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร

จำนวนที่นั่ง: 11 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 1,709,000 – 2,199,000 บาท

ระบบความปลอดภัย: Majesty มาพร้อมระบบ ความปลอดภัย Toyota Safety Sense อาทิ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC), ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor), ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert), กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor), ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert) และถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง

Toyota Alphard / Vellfire: ไอคอนแห่งรถตู้ VIP ที่ไม่มีใครปฏิเสธ

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย Toyota Alphard และ Vellfire ยังคงเป็น รถตู้ VIP ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับ รถตู้ครอบครัว รถตู้ผู้บริหาร และ รถตู้ที่ดาราชอบใช้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม โดดเด่น และดูแพง ทำให้ Alphard / Vellfire เป็น การลงทุน ที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการภาพลักษณ์และความสะดวกสบายขั้นสุด

ภายใน ห้องโดยสารหรู ของ Alphard มี 7 ที่นั่ง เพียบพร้อมด้วย เทคโนโลยียานยนต์ ที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ที่ชาร์จไฟแบบ Wireless Charger, ไฟอ่านหนังสือบริเวณเบาะนั่งแถวหลัง, เบาะนั่งแบบ Seat Ventilator & Heater พร้อมระบบนวดหลังไฟฟ้า Air Lumba Pro และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ล้วนยกระดับ ความสะดวกสบาย ให้กับการเดินทางไปอีกขั้น

ชนิดเครื่องยนต์: มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร และ ไฮบริด 2.5 ลิตร

พละกำลัง:

Alphard / Vellfire 2.5: 180 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตัน-เมตร

Alphard 2.5 HV (Hybrid): 150 แรงม้า แรงบิด 206 นิวตัน-เมตร (ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า)

Alphard 3.5 VIP: 296 แรงม้า แรงบิด 361 นิวตัน-เมตร

จำนวนที่นั่ง: 7 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 3,838,000 – 5,458,000 บาท

ระบบความปลอดภัย: Alphard มาพร้อมระบบ ความปลอดภัย ที่สมบูรณ์แบบ Toyota Safety Sense เช่น ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert), ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control), ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่กลางเลน (Lane Tracing Assist) และกล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) รวมถึงระบบ T-Connect Telematics เพื่อ ความสะดวกสบาย และ ความปลอดภัย ที่ครบวงจร

Lexus LM300h: สัมผัสแห่งความหรูหราเหนือระดับในรูปแบบ Luxury MPV

Lexus LM300h คือนิยามของ Luxury MPV ที่แท้จริง และถูกยกให้เป็นสุดยอด รถตู้ผู้บริหาร ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ ประกาศถึง ความสง่างาม และอำนาจของผู้ครอบครอง ภายในเน้น ความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัวอย่างเหนือระดับ โดยเฉพาะรุ่น Exclusive 4 ที่นั่ง ที่มาพร้อมระบบเบาะนวดบริเวณต้นขา หลัง และไหล่ ใช้วัสดุเสริมความนุ่มของเบาะ รองรับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมระบบระบายอากาศและทำความร้อน

ห้องโดยสารหรู ของ LM300h ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเครื่องบินส่วนตัว หรือห้องรับรองสุดพิเศษ ด้วยหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 26 นิ้ว บริเวณผนังกั้น ระบบเครื่องเสียงพรีเมียมรอบทิศทางจาก Mark Levinson และตู้แช่เครื่องดื่มขนาด 14 ลิตรที่บริเวณด้านล่างของผนังกั้น มอบ ไลฟ์สไตล์ ที่หรูหราอย่างแท้จริงในทุกการเดินทาง นี่คือการนำปรัชญา “The Relentless Pursuit of Perfection” ของ Lexus มาสู่รูปแบบของ รถตู้ VIP อย่างสมบูรณ์แบบ

ชนิดเครื่องยนต์: ไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า

พละกำลัง: เครื่องยนต์ 152 แรงม้า (รวมมอเตอร์ไฟฟ้าประมาณ 197 แรงม้า) แรงบิด 206 นิวตันเมตร

จำนวนที่นั่ง: มีทั้งรุ่น 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 5,500,000 – 6,500,000 บาท

ระบบความปลอดภัย: Lexus LM300h มาพร้อมระบบ ความปลอดภัย Lexus Safety System+ อาทิ ระบบป้องกันก่อนการชนและลดความรุนแรงจากการปะทะ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบติดตามช่องทางวิ่ง, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน พร้อมสัญญาณเตือนมุมอับสายตา และถุงลมนิรภัย SRS หลายตำแหน่ง เพื่อ ความปลอดภัย และ ความอุ่นใจ สูงสุด

Mercedes-Benz V-Class: ความสมบูรณ์แบบสไตล์เยอรมันสำหรับทุกวัตถุประสงค์

Mercedes-Benz V-Class คือ รถตู้หรู อเนกประสงค์ที่ผสมผสานระหว่าง รถตู้ครอบครัว รถตู้สำหรับติดต่อธุรกิจ และ รถตู้เพื่อการผจญภัย ได้อย่างลงตัว ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ Mercedes-Benz Intelligent Drive ทำให้ผู้โดยสารมั่นใจได้ว่าจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและสบายที่สุดในทุกเส้นทาง ดีไซน์รถยนต์ ภายนอกดูภูมิฐาน หรูหรา สมกับเป็นรถยนต์จากแบรนด์ดาวสามแฉก

ภายใน ห้องโดยสารหรู ที่นั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมตั้งค่าหน่วยความจำได้ถึง 3 ตำแหน่ง ส่วนที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังแถวที่ 1 เป็น Luxury Captain Seat แยกซ้าย-ขวา ปรับด้วยไฟฟ้าและหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบนวดหลัง ระบบระบายอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบแยกโซน มอบ ความสะดวกสบาย ระดับเฟิร์สคลาส นอกจากนี้ V-Class ยังเต็มไปด้วยระบบ ความปลอดภัย มาตรฐานและระบบความปลอดภัยขั้นสูง ตามชื่อเสียงของ Mercedes-Benz ที่เน้นเรื่อง คุณภาพ และ นวัตกรรม เป็นที่หนึ่ง

ชนิดเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซล 1,950 ซีซี

พละกำลัง: 190 แรงม้า ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร

จำนวนที่นั่ง: 7 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 5,400,000 บาท

ระบบความปลอดภัย: V-Class มาพร้อมถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist), ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist), โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ADAPTIVE ESP®, ระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะตัวรถด้านข้าง (Crosswind Assist), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-Start Assist), ระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) และกล้องแสดงภาพแบบรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)

Volkswagen Caravelle T6 Touring: ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมอากาศบริสุทธิ์ระดับ Hospital Grade

Volkswagen Caravelle T6 Touring คืออีกหนึ่ง Luxury Van ที่น่าสนใจ และเป็น รถตู้หรู VIP ที่โดดเด่นด้วย ดีไซน์ห้องโดยสาร ที่พิถีพิถันและมีพื้นที่กว้างขวางที่สุดในกลุ่ม ทำให้ผู้โดยสารสัมผัสได้ถึง ความสะดวกสบาย และอิสระในการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมาพร้อม เทคโนโลยียานยนต์ ที่ครบครัน และที่สำคัญคือการติดตั้ง นวัตกรรม เครื่องฟอกอากาศระดับ Hospital Grade เพื่อมอบอากาศสะอาดบริสุทธิ์ และ ความปลอดภัย ด้านสุขอนามัยตลอดการเดินทาง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน

เบาะนั่งใช้หนังแท้ Dakota หรือ Nappa คุณภาพสูง มาตรฐานเดียวกับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก รูปทรงของเบาะ VIP Seat ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้รองรับสรีระของคนเอเชียได้อย่างลงตัว พร้อมควบคุมการทำงานต่าง ๆ ด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งทันสมัยและใช้งานง่าย ช่วยยกระดับ ประสบการณ์การขับขี่ และการโดยสารให้เหนือกว่าใคร

ชนิดเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Commonrail ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่

พละกำลัง: 180 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร

จำนวนที่นั่ง: 8 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 4,010,000 – 4,110,000 บาท

KIA Carnival: MPV อเนกประสงค์ที่พลิกโฉมวงการ

KIA Carnival ได้รับการยกย่องให้เป็น รถตู้อเนกประสงค์ MPV ที่หน้าตาไม่เหมือนใคร และกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในฐานะ รถตู้ครอบครัว และ รถตู้ผู้บริหาร ที่มอบ ประสบการณ์การขับขี่ และการโดยสารที่เหนือกว่า ด้วย ดีไซน์รถยนต์ ภายนอกที่คล้ายรถ PPV หรือ SUV แต่มาพร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าอัตโนมัติ ซึ่งสามารถเปิดออกได้เพียงแค่ยืนใกล้กับประตูรถพร้อมกุญแจ Smart Key มอบ ความสะดวกสบาย อย่างแท้จริง

KIA Carnival มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ทั้งแบบ Normal, Sport, Eco และ Smart ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดที่เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ได้ อุปกรณ์อำนวย ความสะดวกสบาย ภายในครบครัน และที่สำคัญคือระบบ ความปลอดภัย แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ Carnival เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา ยานยนต์ ที่ผสาน ไลฟ์สไตล์ เข้ากับการใช้งานที่หลากหลาย

ชนิดเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ Smartstream Diesel 2.2

พละกำลัง: 202 แรงม้า แรงบิด 45 กิโลกรัม-เมตร

จำนวนที่นั่ง: 11 ที่นั่ง

ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ ปี 2025): 2,144,000 – 2,495,000 บาท

ระบบความปลอดภัย: KIA Carnival มาพร้อมระบบ ความปลอดภัย ขั้นสูง (นอกเหนือจากรุ่น EX) เช่น ระบบป้องกันการชนและช่วยหยุดรถอัตโนมัติ (FCA-JT), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมดึงพวงมาลัยกลับมาที่เลนปัจจุบันโดยอัตโนมัติ (Lane Keeping Assist), ระบบตรวจจับรถกำลังวิ่งออกจากเลน (Lane Following Assist – LFA), ระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่ม ความปลอดภัย จากรถยนต์ที่วิ่งมาอยู่ในมุมอับสายตา (Blind Spot Collision-Avoidance Assist – BCA), ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ พร้อมสัญญาณเตือนหากมีรถกำลังวิ่งเข้ามาทางด้านหลังขณะถอยหลัง (Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist – RCCA) และกล้องรอบคัน (Surround View Monitor – SVM) มอบ ความปลอดภัย และ ความมั่นใจ ในทุกการเดินทาง

บทสรุป: อนาคตของยานยนต์หรูในยุคที่ความสมบูรณ์แบบไม่เคยหยุดนิ่ง

จากเรื่องราวการบุกเบิกอันยาวนานของ Lexus ที่เริ่มต้นจากความมุ่งมั่นของ เออิจิ โตโยดะ ในการสร้าง รถยนต์ที่ดีที่สุด สู่การต่อยอดวิสัยทัศน์โดย อากิโอะ โตโยดะ ที่ขยายนิยามของ ความหรูหรา ให้เป็นมากกว่าแค่ ยานยนต์ แต่คือ ไลฟ์สไตล์ ที่จับต้องได้ แสดงให้เห็นว่าปรัชญา “The Relentless Pursuit of Perfection” ไม่ใช่เพียงแค่สโลแกน แต่คือหัวใจที่ขับเคลื่อนแบรนด์เหล่านี้ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ในตลาด รถยนต์หรู แห่งปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม รถตู้ VIP และ รถตู้ผู้บริหาร แบรนด์ต่าง ๆ ยังคงแข่งขันกันนำเสนอ นวัตกรรม เทคโนโลยียานยนต์ และ ดีไซน์รถยนต์ ที่ตอบโจทย์ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และ ความสง่างาม อย่างไม่ลดละ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฮบริด ที่เน้นประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ รถตู้หรู ที่มอบประสบการณ์การเดินทางระดับเฟิร์สคลาส ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันสามารถเลือก ยานยนต์ ที่สะท้อนตัวตนและเติมเต็มทุกความต้องการได้อย่างแท้จริง การแสวงหาความสมบูรณ์แบบนี้ไม่เคยสิ้นสุด และยังคงเป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวไปข้างหน้า เพื่อสร้างสรรค์ ประสบการณ์การขับขี่ และการเดินทางที่เหนือความคาดหมายอยู่เสมอ

Previous Post

N1710024 าว นน เป นว นส ดท ายของคนร กของค ณอยากทำอะไรก บเขา part2

Next Post

N1710014 สาม โดนเล นของ หร สาม อยากเล นของเอง part2

Next Post
N1710014 สาม โดนเล นของ หร สาม อยากเล นของเอง part2

N1710014 สาม โดนเล นของ หร สาม อยากเล นของเอง part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.