• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1612034 เม ยช างขอ [ตอน part2

admin79 by admin79
December 11, 2025
in Uncategorized
0
N1612034 เม ยช างขอ [ตอน part2

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะน่าตื่นเต้นและท้าทายเท่ากับการปรับเปลี่ยนที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ไทยขณะนี้ แรงผลักดันจากนโยบายภาครัฐ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ได้หล่อหลอมให้ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้คือการที่ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับรถยนต์อีโคคาร์และรถยนต์ไฮบริด เพื่อตอบรับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และล่าสุดคือการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาด ซึ่งในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงกลยุทธ์ของค่ายรถยนต์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีศึกษาของ Toyota Yaris Ativ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงการปรับตัวอย่างชาญฉลาด และวิเคราะห์คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังถาโถมเข้ามาในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อให้ภาพรวมของการเลือกซื้อรถยนต์ในปี 2025 ชัดเจนยิ่งขึ้น

พลิกเกมกลยุทธ์: ค่ายรถญี่ปุ่นกับแผนปรับพอร์ตยานยนต์รับยุคใหม่

การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการตอบสนองต่อแรงจูงใจและข้อกำหนดจากบีโอไออย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ที่มอบอัตราภาษีสรรพสามิตเพียง 12% และสำหรับรถยนต์ไฮบริดที่ปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัม/กม. จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เสียภาษีสรรพสามิตเพียง 4% เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยอดการผลิตรถยนต์ไฮบริดยังสามารถนำมารวมกับยอดผลิตอีโคคาร์ เฟส 2 ที่บีโอไอกำหนด 100,000 คันต่อปี เพื่อรับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นี่คือแรงจูงใจสำคัญที่ผลักดันให้แบรนด์ต่างๆ ต้องคิดใหม่ทำใหม่

โตโยต้า ยาริส เอทีฟ: การเปลี่ยนผ่านจาก Vios สู่จุดยืนใหม่

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตาที่สุดคือการปรับพอร์ตครั้งใหญ่ของโตโยต้า ซึ่งเป็นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน โตโยต้าได้ตัดสินใจยุติการผลิต Toyota Vios เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร (ซึ่งเสียภาษีสรรพสามิต 20%) และหันมาทุ่มเทให้กับ All New Toyota Yaris Ativ อย่างเต็มตัว ซึ่งเข้ามาทำตลาดในฐานะรถยนต์อีโคคาร์ เฟส 2 ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร และมีแผนที่จะเปิดตัวรุ่นไฮบริดตามมาในปีถัดไป ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์ทั้งในแง่ของแผนส่งเสริมการลงทุนและเทรนด์ของตลาดรถยนต์ประหยัดน้ำมัน

การปรับเปลี่ยนนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อรุ่น แต่เป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์และตำแหน่งทางการตลาดอย่างสิ้นเชิง Toyota Yaris Ativ ใหม่ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ซีดานขนาดกะทัดรัดทั่วไป แต่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Beloved Car” หรือ “รถยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน” ด้วยการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้ Toyota Yaris Ativ ออกมาพร้อมกับดีไซน์สไตล์ Fastback ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และมีสมรรถนะที่ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองได้อย่างลงตัว

ในส่วนของฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ก็ได้ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายกัน ด้วยการใช้ Honda City เป็นรถยนต์อีโคคาร์ เฟส 2 ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ และรุ่นไฮบริด e:HEV ที่มีให้เลือกทั้งแบบแฮตช์แบ็กและซีดาน ขณะที่ Honda Jazz เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ก็ได้ยุติการผลิตในประเทศไทยไปแล้วเช่นกัน และนิสสันเองก็เดินตามรอย โดยเลิกผลิต Nissan March เพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่ Nissan Almera 1.0 เทอร์โบ ซึ่งเป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง การปรับแผนเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปและสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่ภาครัฐมอบให้

All New Toyota Yaris Ativ: สุนทรียภาพแห่งการขับขี่ที่เหนือกว่า

การเปิดตัว All New Toyota Yaris Ativ ในปี 2022 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่พลิกโฉมหน้าของรถยนต์ในเซกเมนต์นี้ไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการลงทุนกว่า 5.2 พันล้านบาทในโครงการนี้ โตโยต้าตั้งเป้ายอดขาย Toyota Yaris Ativ ไว้ที่ 3,500 คันต่อเดือน และจากการตอบรับอันถล่มทลายด้วยยอดจองกว่า 40,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัว ก็แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการเข้าถึงใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง

Toyota Yaris Ativ รุ่นใหม่มาพร้อมกับตัวถังสไตล์ Fastback ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมในรถยุโรปหลายรุ่น ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.284 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและเสถียรภาพในการขับขี่ ไฟหน้าแบบ Full LED ล้ออัลลอย Two tone ขนาด 16 นิ้ว และไฟท้ายแบบ Full LED Light-guiding พร้อมไฟเลี้ยว Sequential ที่เป็นครั้งแรกในรถยนต์อีโคคาร์ แสดงให้เห็นถึงความพรีเมียมที่โตโยต้ามอบให้

ภายในห้องโดยสารของ Toyota Yaris Ativ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อมอบความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง การติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า EPB และที่โดดเด่นคือไฟ Ambient light สร้างบรรยากาศที่ปรับได้ถึง 64 เฉดสี พร้อมเบาะหนังสีแดงในรุ่น Premium Luxury ที่เน้นความหรูหรา หน้าปัด Full digital ขนาด 7 นิ้ว และเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งทั้งหมดนี้ตอกย้ำถึงแนวคิด “ผลิตภัณฑ์ที่ดี” ที่โตโยต้ามุ่งมั่นมอบให้

ในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Yaris Ativ มาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานครบครันในทุกรุ่นย่อย เช่น Airbag 6 ตำแหน่ง ระบบ ABS / EBD / BA / VSC / TRC และที่สำคัญคือเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่ประกอบด้วยระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (LDA), ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert) และระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control) ซึ่งมอบความมั่นใจสูงสุดในการขับขี่

นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้นำเสนอ “ประสบการณ์ที่ดี” ผ่านแพ็คเกจสินเชื่อรถยนต์รูปแบบใหม่ เช่น Package ประกันภัย PHYD: Pay How Your Drive ที่ลดอัตราดอกเบี้ยประกันภัยสำหรับลูกค้าที่ขับขี่อย่างปลอดภัย และ TFSR: Toyota Connected Frequent Service Reward เพื่อตอบแทนลูกค้าที่นำรถเข้าศูนย์เพื่อรับบริการตรงเวลา รวมถึง “การขับเคลื่อนที่ดี” ด้วยบริการ T-Connect ที่มาพร้อมระบบติดตามรถหาย, การแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่านระบบดิจิทัล และบริการผู้ช่วยส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ Toyota Yaris Ativ เป็นเรื่องที่ง่ายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

คลื่นยักษ์แห่งการเปลี่ยนแปลง: การมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

ในขณะที่ Toyota Yaris Ativ กำลังสร้างปรากฏการณ์ในตลาดรถยนต์อีโคคาร์ อีกหนึ่งเทรนด์ที่ไม่อาจมองข้ามได้คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่ง ณ ปี 2025 นี้ กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนรถยนต์พลังงานทางเลือก เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต รวมถึงเงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นยอดขาย ส่งผลให้ราคาโปรโมชั่นรถยนต์ไฟฟ้าดึงดูดใจผู้บริโภคอย่างมาก

ผู้เล่นหน้าใหม่จากจีนได้เข้ามาสร้างความตื่นเต้นและจุดประกายการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย:

NETA: NETA V ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่าย ด้วยราคาเปิดตัวที่ 549,000 บาทหลังหักส่วนลดภาครัฐฯ และล่าสุดกับ NETA V-II ที่เป็นรุ่นประกอบไทย ทำให้ราคาถูกลงไปอีก พร้อมข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น ฟรีประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร และชุดโฮมชาร์จเจอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
BYD: แบรนด์ BYD ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดอย่างรวดเร็ว ด้วยยอดขายที่ถล่มทลายของ BYD ATTO 3 และรุ่นอื่นๆ อย่าง BYD Dolphin และ BYD SEAL ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยี Cell-to-Pack, Blade Battery และแพ็คเกจการรับประกันที่ครอบคลุมถึง 8 ปี ทำให้ BYD กลายเป็นผู้นำตลาด EV ในหลายเซกเมนต์อย่างรวดเร็ว การปรับลดราคาในงาน Motor Show 2024 และแคมเปญ Final Runout Campaign ทำให้ราคา BYD Dolphin Standard ลดเหลือ 659,900 บาท และ BYD ATTO 3 Standard ลดเหลือ 899,900 บาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
GAC AION: GAC AION Y Plus เข้ามาทำตลาดด้วยจุดเด่นด้านพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ด้วยแคมเปญ Motor Show 2024 ที่มอบส่วนลดและชุดแคมป์ปิ้งสุดล้ำ ทำให้ AION Y Plus 490 Premium ลดเหลือ 949,900 บาท พร้อมประกันชิ้นส่วนไฟฟ้าหลัก 8 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 8 ปี
ORA Good Cat: ORA Good Cat จาก Great Wall Motor (GWM) ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์น่ารักและเป็นที่จดจำ การเปิดตัวรุ่นประกอบไทยในปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น New ORA Good Cat Pro ราคา 799,000 บาท พร้อมแคมเปญ “GWM ช่วยผ่อน” สูงสุด 30,000 บาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น
MG: MG ยังคงเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งในตลาด EV ด้วย MG EP, MG4 EV และ MG ZS EV โดยเฉพาะ MG4 EV รุ่นประกอบไทยที่เปิดตัวในงาน Motor Show 2024 ด้วยราคาที่น่าสนใจเริ่มต้น 709,900 บาท และ MG ZS EV ที่ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 94,000 บาท แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ MG ในการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
CHANGAN: CHANGAN Deepal L07 และ Deepal S07 เป็นน้องใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์ล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ด้วยข้อเสนอดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน หรือประกันชั้น 1 นาน 4 ปี ในงาน Motor Show 2024 แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดของรถยนต์ไฟฟ้า

การแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์ระยะสั้น แต่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังปรับตัวเพื่อสร้างฐานลูกค้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ EV ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น

ภูมิทัศน์การแข่งขันและอนาคตของตลาดรถยนต์ไทย

การมาของ Toyota Yaris Ativ ที่แข็งแกร่ง และการรุกตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ค่ายรถยนต์อื่นๆ ต้องเร่งปรับตัวและนำเสนอข้อเสนอที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะคู่แข่งในกลุ่มรถยนต์ซีดานขนาดเล็ก

Honda City: Honda City ยังคงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ และ Honda City e:HEV ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม พร้อมแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษและส่วนลดที่ฮอนด้ายังคงนำเสนออย่างต่อเนื่อง
Mazda 2: Mazda 2 ยังคงมีจุดยืนในตลาดด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน พร้อมโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ
MG 5: MG 5 สร้างความแตกต่างด้วยดีไซน์สปอร์ตและฟังก์ชันที่คุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมแคมเปญดาวน์น้อยหรือขับฟรี 90 วัน

ผลจากงาน Motor Expo 2022 ได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Toyota Yaris Ativ สามารถกวาดยอดจองได้อย่างถล่มทลาย แซงหน้าคู่แข่งและแม้กระทั่งรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์โตโยต้าและคุณค่าของผลิตภัณฑ์ ในขณะเดียวกัน BYD Atto 3 ก็ติดอันดับยอดจองสูงสุดเช่นกัน ตอกย้ำถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ไทยในปี 2025 จะยังคงมีการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ตัวเลือกที่หลากหลาย และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ทั้งในด้านความปลอดภัย การเชื่อมต่อ และสมรรถนะ การตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์จะไม่ได้พิจารณาแค่เพียงราคาหรือแบรนด์ แต่จะรวมถึงค่าบำรุงรักษา ประกันภัยรถยนต์ การเข้าถึงสถานีชาร์จ และนโยบายหลังการขายด้วย

บทสรุป: ก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ จากยุคของรถยนต์สันดาปภายในที่เน้นขนาดเครื่องยนต์ สู่ยุคที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุดของอีโคคาร์และรถยนต์ไฮบริด ดังที่เห็นได้จากความสำเร็จของ Toyota Yaris Ativ และในขณะเดียวกัน คลื่นของรถยนต์ไฟฟ้าก็กำลังถาโถมเข้ามา พร้อมกับนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ที่ยั่งยืนกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงห่วงโซ่อุปทาน ผู้จำหน่ายรถยนต์โตโยต้า และศูนย์บริการรถยนต์ทั่วประเทศ ที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ

ในฐานะผู้บริโภค นี่คือโอกาสทองในการเลือกซื้อรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และงบประมาณของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Toyota Yaris Ativ ที่มอบความคุ้มค่าและเทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิถีการเดินทางของเรา ทั้งหมดนี้คือสัญญาณว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังก้าวเข้าสู่บทใหม่ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยนวัตกรรม

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์คันใหม่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ผมขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เปรียบเทียบรถยนต์แต่ละรุ่น ทั้งในแง่ของสมรรถนะ ราคาโปรโมชั่นรถยนต์ สิทธิประโยชน์ด้านภาษี และบริการหลังการขาย ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง และอย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่โชว์รูมโตโยต้าใกล้บ้านคุณ หรือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณสนใจ เพื่อรับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยยานยนต์แห่งยุคสมัยใหม่ไปด้วยกันครับ!

Previous Post

N1612044 มาคลายเคร ยดก นหน อยนะค part2

Next Post

N1612053_วร กสน_part2

Next Post
N1612053_วร กสน_part2

N1612053_วร กสน_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2512034 กน องนะไม ใช ละครส นต องมนต part2
  • N2512033 เอาค ละครส นต องมนต part2
  • N2512049 ทำต วแบบน อย าเร ยกต วเองว าผ ชาย ละครส part2
  • N2512055 าวกล องสะท อนใจคน (ละครส น) part2
  • N2512039 คนม ปม ไม จำเป นต องอ อนแอ หน งส part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.