Tesla Model 3 Long Range RWD 2025: มิติใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วยระยะทาง 750 กม. และราคาที่เข้าถึงได้
ในปี 2025 ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังร้อนแรง เทสลา (Tesla) ยังคงเป็นผู้นำที่สร้างมาตรฐานใหม่และเซอร์ไพรส์ตลาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดตัว Tesla Model 3 Long Range Rear-Wheel Drive (LR RWD) ที่ได้เข้ามาเขย่าวงการในประเทศไทย ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1,599,000 บาท พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) นี่ไม่ใช่แค่การขยับรุ่นย่อย แต่เป็นการนำเสนอทางเลือกที่ชาญฉลาด ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทางไกลโดยเฉพาะ โดยไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยกำลังขับเคลื่อนสี่ล้อที่เกินความจำเป็น
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 10 ปี ผมมองว่า Tesla Model 3 LR RWD รุ่นนี้คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาด ทำให้รถยนต์ EV สมรรถนะสูงและวิ่งได้ระยะทางไกลกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากยิ่งขึ้นใน ไลฟ์สไตล์คนเมือง ยุคใหม่และผู้ที่ชื่นชอบ การเดินทางไกล ข้ามจังหวัด นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง เทคโนโลยีรถยนต์ สุดล้ำ สมรรถนะรถยนต์ ที่เพียงพอต่อการใช้งาน และความคุ้มค่าที่ไม่มีใครเทียบได้
สู่ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อน: Tesla Model 3 Long Range Rear-Wheel Drive
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Tesla Model 3 LR RWD โดดเด่นคือการนำแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จากรุ่น Long Range มาผนวกกับมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง โดยใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC ขนาด 82 kWh (ใช้งานได้จริง 75 kWh) แทนที่แบตเตอรี่ LFP ขนาด 57.5 kWh ในรุ่น RWD พื้นฐาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มระยะทางขับขี่จากเดิม 520 กม./ชาร์จ เป็น 750 กม./ชาร์จ เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ สมรรถนะรถยนต์ ในด้านอัตราเร่งด้วย โดยสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.2 วินาที เร็วกว่ารุ่น RWD เดิมถึง 0.9 วินาที ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง
การเลือกใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังช่วยให้รถมีน้ำหนักเบาลงเล็กน้อย ส่งผลให้ ประหยัดพลังงาน ได้ดีเยี่ยมกว่ารุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และยังคงให้ ประสบการณ์ขับขี่ ที่สนุกสนานตามแบบฉบับเทสลา ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ การควบคุมที่แม่นยำ และการตอบสนองของพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับจูนมาอย่างลงตัว รุ่นนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์ EV ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือการผจญภัยในเส้นทางยาวไกล
ยิ่งไปกว่านั้น ระยะทางขับขี่ 750 กิโลเมตรนี้ ยังเหนือกว่า Tesla Model 3 Long Range All-Wheel Drive รุ่นพี่ถึง 12% (รุ่น AWD วิ่งได้สูงสุด 660 กม. WLTP) และมากกว่ารุ่น RWD เดิมถึง 27% นี่คือความสำเร็จทางวิศวกรรมที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเทสลาในการพัฒนา แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อมอบอิสระในการเดินทางให้แก่ผู้ขับขี่โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง สถานีชาร์จ มากนัก
Tesla Model 3 Highland (2025): ยกระดับประสบการณ์สู่ความเป็นเลิศ
นอกเหนือจากรุ่นย่อย LR RWD ที่เป็นไฮไลต์ การปรับโฉมใหม่ของ Tesla Model 3 ที่รู้จักกันในชื่อ “Highland” ซึ่งถือเป็นรุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการ ได้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน ทำให้ รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นนี้ก้าวล้ำไปอีกขั้นหลังจากที่ทำตลาดมานานกว่า 6 ปี เทสลาได้ปรับปรุงรถคันนี้ให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ ทั้งในด้านสุนทรียภาพ ประโยชน์ใช้สอย และ นวัตกรรมยานยนต์
การออกแบบภายนอกที่เรียบหรูและเปี่ยมด้วยฟังก์ชัน
ดีไซน์ภายนอกของ Model 3 Highland ได้รับการปรับปรุงให้มีความโฉบเฉี่ยวและมินิมอลยิ่งขึ้น โดยตัวรถมีความกว้างขึ้น ยาวขึ้น แต่เตี้ยลงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้รถดูสปอร์ตและทันสมัย แต่ยังช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ ทำให้รถขับได้ไกลขึ้นอีก 4.5% ด้วยชุดไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ที่เล็กลงและกันชนหน้าที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ด้านหน้าของรถดูสะอาดตาและลดการใช้ไฟตัดหมอกลง ขณะที่ด้านท้ายก็ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยฝาท้ายและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมโลโก้ “T E S L A” ที่เรียงเป็นตัวอักษรแทนสัญลักษณ์เดิม ไฟท้าย LED ก็ได้รับการปรับให้ดูมินิมอลมากขึ้นเช่นกัน
จุดเด่นอีกประการคือการอัปเกรดระบบกล้องรอบคันเป็น Hardware 4.0 ซึ่งเพิ่มความคมชัดของกล้องเป็น 5 ล้านพิกเซล และเพิ่มเฟรมเรท ทำให้การมองเห็นรอบคันแม่นยำและคมชัดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานร่วมกับระบบ Tesla Vision ที่เข้ามาแทนที่เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก การปรับปรุงนี้เป็น การลงทุน ที่สำคัญในการยกระดับ ความปลอดภัยรถยนต์ และ การขับขี่อัตโนมัติ ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น
สำหรับล้อรถ มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Photon Wheels ขนาด 18 นิ้ว และ Nova Wheels ขนาด 19 นิ้ว (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ซึ่งล้วนได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ นอกจากนี้ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายยังเพิ่มขึ้นเป็น 682 ลิตร ซึ่งถือว่ากว้างขวางมากสำหรับรถซีดานไฟฟ้า ทำให้ Model 3 เป็น รถยนต์ EV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและ การเดินทางไกล ได้เป็นอย่างดี
การปฏิวัติห้องโดยสาร: ความหรูหราที่มาพร้อมเทคโนโลยี
ภายในห้องโดยสารของ Tesla Model 3 Highland ได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งหมด ให้ความรู้สึกหรูหราและโอบล้อมผู้โดยสาร วัสดุภายในได้รับการคัดสรรมาอย่างดี ทั้งเทคโนโลยีสิ่งทอและขอบอะลูมิเนียมแบบด้านที่เรียบง่ายและกลมกลืน โดยยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสารที่ดีต่อสุขภาพ
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ที่ตัดก้านควบคุมไฟเลี้ยวและคันเกียร์ออกไปทั้งหมด โดยฟังก์ชันเหล่านี้ถูกย้ายไปอยู่บนปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยทางฝั่งซ้าย และระบบเกียร์ที่ย้ายไปอยู่ในหน้าจอสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว ตรงกลางคอนโซล ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ Tesla Model S และ Model X การออกแบบนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการขับขี่และทำให้ภายในดูสะอาดตายิ่งขึ้น
ผู้โดยสารด้านหลังยังได้รับความสะดวกสบายด้วยจอมัลติมีเดียขนาด 8 นิ้ว ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามา ทำให้สามารถควบคุมระบบปรับอากาศ อุณหภูมิเบาะนั่ง ระดับเสียง และแม้กระทั่งเล่นวิดีโอหรือเกมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส นี่คือสิ่งที่ยกระดับ ประสบการณ์ขับขี่ ให้กับผู้โดยสารได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มไฟ Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนสีได้เพื่อเสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอารมณ์และ ไลฟ์สไตล์คนเมือง
ระบบเสียงได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยรุ่น Premium มาพร้อมลำโพง 17 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟายเออร์ เพื่อคุณภาพเสียงระดับสตูดิโออัดเสียง ส่วนรุ่น RWD จะมีลำโพง 9 ตัว ซึ่งก็ยังคงให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ กระจกกันเสียงแบบ 360 องศาถึงสองชั้น และการซีลแบบใหม่ ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกห้องโดยสารได้มากถึง 31% ในช่วงความถี่ 50-1000 Hz ทำให้การเดินทางเงียบสงบและผ่อนคลายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็น ความปลอดภัยรถยนต์ ที่เทสลาให้ความสำคัญ
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็มีมาให้ครบครัน เช่น แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย 2 ตำแหน่ง, พอร์ต USB-C 4 จุด, ระบบอุ่นเบาะนั่งและพวงมาลัย, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า, Phone Key, Autopilot, Sentry Mode, Camp Mode และ Dog Mode ซึ่งล้วนเป็นฟังก์ชันที่สร้างความสะดวกสบายและเพิ่มมูลค่าให้กับ รถยนต์ EV คันนี้
มิติใหม่แห่งสมรรถนะและความปลอดภัย
โครงสร้างตัวถังของ Tesla Model 3 Highland 2025 ยังคงเน้นย้ำเรื่อง ความปลอดภัยรถยนต์ เป็นหลัก โดยพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ตัวถังถูกออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม การันตี ความปลอดภัยรถยนต์ ระดับ 5 ดาวจากสถาบันทดสอบการชนชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา และในรุ่นปี 2025 ยังได้เสริมสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์เข้าไปอีกขั้น ทำให้รถขับได้ไกลและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับ การขับขี่อัตโนมัติ เทสลายังคงเป็นผู้นำด้วยระบบ Autopilot ที่เหนือชั้น โดยมีตัวเลือกในการเพิ่มความสามารถด้วย Enhanced Autopilot (EAP) ซึ่งรวมถึงระบบเปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ, ระบบจอดรถอัตโนมัติ, Summon และ Smart Summon และสำหรับผู้ที่ต้องการ เทคโนโลยีรถยนต์ ขั้นสุด ก็สามารถเลือก Full Self-Driving (FSD) ที่สามารถควบคุมรถอัตโนมัติตามสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุด พร้อมระบบควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติบนถนนในเมือง ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเทสลาในการสร้าง นวัตกรรมยานยนต์ เพื่ออนาคต
สเปกสำคัญและราคาจำหน่ายในประเทศไทย
Tesla Model 3 Highland 2025 ในประเทศไทย มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ( ณ ปัจจุบันที่อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดในตลาด) ดังนี้:
Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive (RWD): ราคาเริ่มต้น 1,439,000 บาท
แบตเตอรี่ LFP 57.5 kWh, ระยะทาง 513 กม. (WLTP), 0-100 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที
Tesla Model 3 Long Range Rear-Wheel Drive (LR RWD): ราคาเริ่มต้น 1,599,000 บาท
แบตเตอรี่ NMC 82 kWh (ใช้งาน 75 kWh), ระยะทาง 750 กม. (WLTP), 0-100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาที
Tesla Model 3 Long Range All-Wheel Drive (LR AWD): ราคาเริ่มต้น 1,799,000 บาท
แบตเตอรี่ NMC 82 kWh (ใช้งาน 75 kWh), ระยะทาง 629 กม. (WLTP), 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที
Tesla Model 3 Performance: ราคาเริ่มต้น 2,099,000 บาท
แบตเตอรี่ NMC 82 kWh (ใช้งาน 75 kWh), ระยะทาง 528 กม. (WLTP), 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที

