คุ้มสุดในยุค! 3 รถกระบะ 4 ประตูตัวท็อปในงบ 8 แสนบาท ที่ Motor Expo 2025 พนักงานประจำก็เป็นเจ้าของได้
ในโลกของรถยนต์ปี 2025 ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง การเฟ้นหารถกระบะ 4 ประตูสักคันที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน, ความสะดวกสบายด้วยเกียร์อัตโนมัติ, ความคุ้มค่าด้านราคา และความอเนกประสงค์ครบครัน ถือเป็นภารกิจสำคัญสำหรับหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพนักงานประจำที่มองหารถคู่ใจที่ “เอื้อมถึงได้” ในงบประมาณที่เป็นมิตร
Motor Expo 2025 หรือ มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 กำลังจะกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ณ อิมแพค เมืองทองธานี และแน่นอนว่านี่คือโอกาสทองที่คุณจะได้เป็นเจ้าของ รถกระบะ 4 ประตู ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ด้วยส่วนลดจัดหนักแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ นอกงาน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมขอพาทุกท่านไปเจาะลึก 3 รุ่นเด่น ที่ลดกระหน่ำจนราคาจับต้องได้ในงบไม่เกิน 800,000 บาท ซึ่งแต่ละคันล้วนมีจุดเด่นและคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าคุณจะมองหา รถกระบะครอบครัว ที่กว้างขวาง, รถกระบะทำงาน ที่แข็งแกร่ง, หรือแม้กระทั่ง รถยนต์ไฟฟ้ากระบะ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นี่คือโอกาสที่คุณจะคว้า ราคารถกระบะ 2025 ที่ดีที่สุดกลับบ้านไปอย่างภาคภูมิ
New GWM Poer Sahar Diesel 2.4T Pro Double Cab Auto: ความหรูหราทรงพลังในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้
เปิดฉากด้วยรถกระบะจากค่าย Great Wall Motor (GWM) ที่กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด ด้วยภาพลักษณ์พรีเมียมและความล้ำสมัยในแบบฉบับที่ไม่เคยมีมาก่อนในเซกเมนต์นี้ New GWM Poer Sahar Diesel รุ่น 2.4T Pro Double Cab Auto ที่งาน Motor Expo 2025 มาพร้อมราคาพิเศษเพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 849,000 บาท นี่คือ ส่วนลดรถกระบะ ที่น่าสนใจถึง 50,000 บาท สำหรับ รถกระบะ 4 ประตู ที่เต็มไปด้วยศักยภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น
GWM Poer Sahar Diesel ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในงาน “Tank Fest 2025” ซึ่งสะท้อนถึง DNA ของรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล Tank ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วทั้งใน New GWM Tank 300 Diesel และ New GWM Tank 500 Diesel หัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบเจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ที่มอบพละกำลังและแรงบิดมหาศาล เพื่อการขับขี่ที่ฉับไวและมั่นใจในทุกสภาพเส้นทาง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9AT) ที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวลและตอบสนองได้ทันใจ ทำให้ทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือลุยทางออฟโรดเป็นเรื่องง่ายดาย
มิติตัวรถที่ใหญ่โตแข็งแกร่งสะท้อนถึงความพร้อมสำหรับการลุยงานหนักและรองรับการใช้งานแบบพรีเมียม ด้วยความยาว 5,445 มม. กว้าง 1,991 มม. สูง 1,924 มม. และระยะฐานล้อ 3,350 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 224 มม. และความสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มม. เป็นเครื่องยืนยันถึงขีดความสามารถในการบุกตะลุยไปในเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างไร้กังวล
การออกแบบภายนอกเน้นความสปอร์ตและดุดัน ด้วยกระจังหน้าสีดำ, ราวหลังคา, บันไดข้างสีดำ, กรอบหน้าต่างสีดำ, ไฟหน้าและไฟท้ายแบบรมดำ เสริมความเท่ด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง 265/60 R18 ที่เข้ากันกับดีไซน์โดยรวมอย่างลงตัว มีให้เลือก 3 สีภายนอก ได้แก่ สีขาว, สีดำ และสีเทา ซึ่งแต่ละสีล้วนเสริมบุคลิกแข็งแกร่งและพรีเมียมได้อย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้เป็นโทนสีดำสุดหรู เน้นบรรยากาศที่เรียบหรูทันสมัย ให้ความรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลายตลอดการเดินทาง การจัดวางพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่รองรับสรีระได้ดี วัสดุคุณภาพสูง และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ GWM Poer Sahar Diesel คันนี้ไม่เพียงเป็น รถกระบะอเนกประสงค์ ที่พร้อมลุย แต่ยังเป็นพื้นที่ส่วนตัวระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากคุณกำลังมองหา รถกระบะดีเซล ที่ผสานความแข็งแกร่งกับความหรูหราได้อย่างลงตัว นี่คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม
Ford Ranger XLS 2.0 T 170 แรงม้า: กระบะสายพันธุ์แกร่ง คุ้มค่าทุกการใช้งาน
ในบรรดากระบะในตลาด Ford Ranger XLS ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นด้านความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ไว้วางใจได้ ในงาน Motor Expo 2025 นี้ Ford Ranger XLS 2.0 T 170 แรงม้า มาพร้อมราคาพิเศษสุดเพียง 799,000 บาท ซึ่งลดลงถึง 125,000 บาท จากราคาปกติ 924,000 บาท ทำให้เป็นอีกหนึ่ง รถกระบะราคาดี ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
Ford Ranger XLS คือ กระบะ 4 ประตูยกสูง ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์อย่างแท้จริง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความแข็งแกร่งของตัวถังและช่วงล่างอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ford ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน เสริมมาดสปอร์ตและยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น XLS ที่มีการเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากโรงงาน เช่น “โรลล์บาร์ใหม่” ที่เพิ่มความดุดันและช่วยให้การบรรทุกสัมภาระสะดวกยิ่งขึ้น
จุดเด่นสำคัญของ Ford Ranger XLS คือความสามารถในการเป็น “ผู้ช่วย” สำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานหนัก หรืองาน DIY สำหรับคนทั่วไป ฝาท้ายกระบะที่สามารถปรับเป็นโต๊ะทำงานช่างอเนกประสงค์ได้ พร้อมจุดยึดอุปกรณ์ช่าง 2 จุด และไม้บรรทัดวัดขนาดแบบ Built-in ที่แบ่งระยะวัดทุก 10 มิลลิเมตร สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการ รถกระบะทำงาน ที่พร้อมลุย
ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ถ่ายทอดผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและการขับขี่ที่คล่องตัว ดิสก์เบรกหน้าพร้อมครีบระบายความร้อน ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/70 R17 ช่วยเสริมสมรรถนะการยึดเกาะถนนและความปลอดภัย
มิติตัวรถมีความยาว 5,370 มิลลิเมตร กว้าง 1,918 มิลลิเมตร สูง 1,884 มิลลิเมตร ซึ่งให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ไฟตัดหมอกหน้า, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว, บันไดข้าง และบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ล้วนเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารปรับ 4 ทิศทาง กล้องมองหลังขณะถอยจอดช่วยเพิ่มความปลอดภัย หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi Touch ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A ที่ทำงานร่วมกับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto ได้อย่างราบรื่น หน้าจอแสดงผลหน้าปัดสีขนาด 8 นิ้ว และลำโพง 6 ตำแหน่ง พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ทำให้การเชื่อมต่อและความบันเทิงเป็นเรื่องง่ายดาย
นอกจาก โปรโมชั่น Motor Expo 2025 ที่น่าสนใจแล้ว Ford Ranger XLS ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ฟรี 5 ปี ทำให้คุณมั่นใจได้ตลอดการเดินทาง ด้วยสีขาว อาร์คทิค ไวท์ ที่เป็นตัวเลือก หากคุณกำลังมองหา รถกระบะเกียร์ออโต้ ที่แข็งแกร่ง เชื่อถือได้ และพร้อมตอบโจทย์ทั้งงานและการใช้ชีวิตประจำวัน Ford Ranger XLS คือคำตอบที่ไม่ทำให้ผิดหวัง
Geely Riddara RD6 Econ 63 kWh 2WD: พลังงานไฟฟ้าเพื่ออนาคต ในราคาที่คุ้มค่าเกินคาด
นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้ากระบะ ในตลาด Geely Riddara RD6 (จีลี ริดดารา อาร์ดี 6) สร้างปรากฏการณ์ด้วยการนำเสนอรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่นย่อยใหม่ Econ 63 kWh 2WD ที่งาน Motor Expo 2025 นี้ ด้วยราคาพิเศษ 719,000 บาท (จากราคาปกติ 739,000 บาท) พร้อมรับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท และแถมเบาะไฟฟ้าด้านคนขับให้ฟรี เมื่อจองภายในงานด้วยเงินเพียง 2,000 บาท นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในงบประมาณที่คุ้มค่าที่สุด
Geely Riddara RD6 เป็นการตัดออปชันที่ไม่จำเป็นบางส่วนออก เพื่อให้ได้ ราคารถกระบะไฟฟ้า ที่เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น การเปลี่ยนเป็นล้อกระทะ, เบาะผ้า และการปรับมือ ซึ่งทำให้รถคันนี้เป็น รถกระบะราคาดี ที่แท้จริง แต่ยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นครบครันและหัวใจสำคัญของการเป็นรถกระบะ EV ที่ทรงประสิทธิภาพ
มิติตัวถังที่ใหญ่โตตอบโจทย์การใช้งานจริง ด้วยความยาว 5,260 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,880 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,120 มิลลิเมตร มีระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) 225 มิลลิเมตร ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจในเส้นทางที่หลากหลาย รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,030 กิโลกรัม และน้ำหนักลากจูงสูงสุด 2,500 กิโลกรัม (สำหรับรุ่น 2WD) รวมถึงความสามารถในการลุยน้ำลึกได้ถึง 500 มิลลิเมตร
พื้นที่กระบะด้านท้ายมีขนาดใหญ่ ด้วยความยาว 1,525 มม., กว้าง 1,450 มม., ลึก 540 มม. และความจุ 1,200 ลิตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 70 ลิตร และที่เก็บของใต้เบาะนั่งด้านหลังอีก 48 ลิตร ทำให้ Riddara RD6 เป็น รถกระบะอเนกประสงค์ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือสำหรับการทำงานและการเดินทาง
หัวใจหลักของ Geely Riddara RD6 Econ คือมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) ที่ให้พละกำลังสูงสุด 244 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 309 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) ขนาดความจุ 63 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ระยะทางที่วิ่งได้ 369 กม. ตามมาตรฐาน NEDC เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะกลางได้อย่างสบาย
ระบบชาร์จรองรับ Type 2/CCS Combo สามารถรับกระแสสลับ AC สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ และกระแสตรง DC Fast Charging สูงสุด 90 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถชาร์จ DC จาก 30-80% ภายในเวลาเพียง 32 นาที ซึ่งเป็นความเร็วที่น่าประทับใจสำหรับ รถกระบะไฟฟ้า ในราคานี้
Geely Riddara RD6 มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 6 ปี หรือ 150,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ High-Voltage นาน 8 ปี หรือ 200,000 กม. ซึ่งเป็นความมั่นใจที่สำคัญสำหรับการเป็นเจ้าของ รถยนต์ไฟฟ้า หากคุณคือผู้ที่มองเห็นอนาคตของพลังงานสะอาด และต้องการ รถกระบะ 4 ประตู ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงในระยะยาว พร้อมความล้ำสมัยในแบบ EV, Geely Riddara RD6 Econ คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว
บทสรุป: เลือกกระบะที่ใช่ ในงาน Motor Expo 2025
Motor Expo 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงรถยนต์ แต่เป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถกระบะ 4 ประตู ที่ตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณอย่างลงตัว ทั้ง 3 รุ่นที่เราได้นำเสนอไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น New GWM Poer Sahar Diesel กับความหรูหราทรงพลัง, Ford Ranger XLS ที่เป็นกระบะสายพันธุ์แกร่งคุ้มค่า, หรือ Geely Riddara RD6 Econ รถกระบะไฟฟ้าแห่งอนาคต ล้วนมาพร้อมข้อเสนอและ ส่วนลดรถกระบะ ที่จัดเต็ม ให้คุณได้เป็นเจ้าของในงบประมาณไม่เกิน 800,000 บาท
การตัดสินใจเลือกซื้อ รถกระบะครอบครัว หรือ รถกระบะทำงาน หรือแม้แต่การก้าวเข้าสู่ยุคของ รถยนต์ไฟฟ้ากระบะ ล้วนขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการส่วนบุคคลของคุณ หากคุณให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์พรีเมียมและสมรรถนะดีเซลที่เหนือชั้น GWM Poer Sahar คือคำตอบ แต่หากคุณต้องการความแข็งแกร่ง ทนทาน และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายสำหรับการทำงาน Ford Ranger XLS คือคู่หูที่ไว้ใจได้ และสำหรับผู้ที่พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และใส่ใจสิ่งแวดล้อม Geely Riddara RD6 Econ คือตัวเลือกที่กล้าหาญและคุ้มค่าที่สุด
อย่ารอช้าที่จะไปสัมผัสและเปรียบเทียบข้อเสนอสุดพิเศษเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองที่งาน Motor Expo 2025 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยครั้ง การลงทุนใน รถกระบะ 4 ประตู ที่ใช่ จะช่วยยกระดับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปค้นพบ รถกระบะราคาดี ในฝันของคุณกัน!
