บทสรุปตลาดรถยนต์ประจำสัปดาห์: เทรนด์ใหม่, การเปิดตัวที่น่าจับตา และการปรับตัวของแบรนด์ระดับโลก (2025)
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด, การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้า, และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ตลาดรถยนต์มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอยู่เสมอ สัปดาห์นี้มีข่าวสารที่น่าจับตาหลายประการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2025 ได้เป็นอย่างดี
เมอร์เซเดส-เบนซ์: ก้าวข้ามขีดจำกัดสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวใน Motor Expo 2025
มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ถือเป็นเวทีสำคัญที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ประกาศศักยภาพและความมุ่งมั่นในการนำพาลูกค้าเข้าสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง การจัดแสดง “The new CLA” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย สะท้อนวิสัยทัศน์ “DEFINING CLASS” ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยึดมั่นมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ The new CLA มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “CLASS OF ITS OWN” ซึ่งเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ยุคใหม่
ภายใต้การบริหารของ มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเปิดตัว The new CLA ในช่วงต้นปี 2569 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่ยังเป็นการเชิญชวนให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ “CLA Community” ที่จะมอบกิจกรรมที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ การที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) และแบตเตอรี่ 800V ขนาด 85 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 792 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ยิ่งเป็นการยืนยันถึงศักยภาพและความพร้อมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหารถยนต์ที่ทั้งประหยัดพลังงานและมีสมรรถนะสูง
นอกจาก The new CLA แล้ว การจัดแสดง G 450 d Edition STRONGER THAN THE 1980s ซึ่งเป็นโมเดลพิเศษที่ผลิตเพียง 460 คันทั่วโลก และ GLA 200 Night Edition ที่เสริมด้วยชุดแต่ง AMG Line และ Night Package ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ การนำเสนอรถยนต์เหล่านี้ควบคู่ไปกับข้อเสนอแห่งปี “THE 333 OFFER” ที่ครอบคลุมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 3 รุ่นหลัก ด้วยความคุ้มค่าแบบ 3-3-3 คือ ค่างวดเริ่มต้นเพียง 33,000 บาทต่อเดือน, โปรแกรมบำรุงรักษา MBSP Easy Care ฟรี 3 ปี, และส่วนลดพิเศษ 3% On-top สำหรับลูกค้าเก่าหรือลูกค้าปัจจุบัน ถือเป็นการตอกย้ำความตั้งใจของแบรนด์ในการมอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
Lexus LS Concept: นิยามใหม่ของ “Luxury Space” ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน
Lexus ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว LS Concept รถ Minivan ต้นแบบ 6 ล้อ ขนาดใหญ่ ที่งาน Tokyo Mobility Show 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนภาพจำของคำว่า “LS” จากเดิมที่หมายถึง “Luxury Sedan” มาเป็นการตีความใหม่ที่เน้น “Luxury Space” มากยิ่งขึ้น นี่ไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนรูปแบบตัวถัง แต่เป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์ภายใต้การนำของ Simon Humphries หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของ Toyota ที่ต้องการให้ Lexus “กล้าบุกเดินหน้าในฐานะผู้บุกเบิก” และ “ขยับไปในทิศทางที่อิสระยิ่งขึ้น”
LS Concept ถือเป็นการก้าวข้ามเหนือกว่า Lexus LM ที่เคยมีมาก่อน ด้วยขนาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Lexus เคยสร้างมา โครงสร้าง 6 ล้อถูกออกแบบมาเพื่อ “ปฏิวัติการจัดสรรพื้นที่ภายในรถ” ให้มีความกว้างขวางและหรูหราเกินกว่าที่เคยมีมา การออกแบบภายในห้องโดยสารให้เหมือน “เลานจ์เคลื่อนที่” พร้อมเบาะแถวหลังที่ปรับเอนได้เต็มรูปแบบ ประตูท้ายแบบ Split Tailgate และม่านไผ่ (Bamboo Shades) ที่ให้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นสไตล์ “Omotenashi” ล้วนสะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับ
แม้ Lexus จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเชิงเทคนิคของระบบขับเคลื่อนอย่างเป็นทางการ แต่คาดการณ์ได้ว่า LS Concept จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในให้กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมกับความเงียบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ การใช้เพลาขับเพิ่มอีกชุด แม้จะเพิ่มความซับซ้อน แต่ Lexus เชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมเสียงรบกวนและมอบความนุ่มนวลระดับเรือธงได้
การเปลี่ยนจากซีดานสุดหรูสู่ Minivan 6 ล้อ อาจดูเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของ Lexus ในการสร้างสรรค์รูปแบบยานยนต์ที่ “นอกกรอบ” และให้ความสำคัญกับ “พื้นที่และประสบการณ์ของผู้โดยสาร” มากกว่ารูปแบบการขับขี่แบบเดิม หาก Lexus สามารถเดินหน้าผลิต LS Concept เวอร์ชันจริง รถคันนี้อาจกลายเป็น Minivan หรูที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ “Luxury Space” ที่นิยามความหรูในยุคไฟฟ้าอย่างแท้จริง
Porsche: ความท้าทายที่ต้องเผชิญในภาวะเศรษฐกิจผันผวน
แม้ว่าแบรนด์หรูมักจะผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจได้เสมอ แต่ในปี 2025 Porsche กลับเผชิญกับความท้าทายที่ต้องปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2025 แสดงให้เห็นว่ารายได้รวมของกลุ่มลดลง 1.7% และกำไรจากการดำเนินงานลดลงถึง 40.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อตัวเลขดังกล่าว ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนสูง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและกำลังซื้อ รวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อควบคุมต้นทุนและสร้างการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ ต้นทุนชิ้นส่วนและการวิจัยและพัฒนาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันผลประกอบการ
ในส่วนของจำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบ Porsche สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ 71,500 คัน ลดลง 7.9% โดยรุ่น Macan เป็นรุ่นที่ส่งมอบได้มากที่สุด ตามมาด้วย Cayenne และ 911 แม้ว่าสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ในการส่งมอบจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 5% เป็น 25% แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยภาพรวมที่ลดลงได้
จากสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย Porsche จำเป็นต้องปรับเป้าคาดการณ์ยอดขายในปี 2025 ลงเหลือ 37,000-38,000 ล้านยูโร จากเดิม 39,000-40,000 ล้านยูโร พร้อมลดอัตรากำไรจากการดำเนินงานเหลือ 6.5-8.5% ของยอดขายรวม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Porsche ต้องปรับเป้าลง ได้แก่ ภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และต้นทุนชิ้นส่วนที่ปรับตัวสูงขึ้น
การที่ Porsche มีโรงงานผลิตทั้งหมดอยู่ในประเทศเยอรมนี และตลาดอเมริกาเหนือเป็นตลาดที่สำคัญที่สุด (29% ของยอดส่งมอบ) ทำให้ความผันผวนในตลาดดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมาก แม้ Porsche จะมีรถยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ Macan, Cayenne, 911, Panamera, 718 และ Taycan ซึ่งเกือบทุกรุ่นมีทางเลือกเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่การปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่ซับซ้อนนี้ ยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับแบรนด์
ไพรม์มัส กรุ๊ป: เดินหน้าเต็มสูบใน Fast Auto Show Thailand 2025
ไพรม์มัส กรุ๊ป แสดงความพร้อมในการบุกตลาดรถยนต์ไตรมาส 3 ด้วยการยกทัพใหญ่ 5 แบรนด์ดัง ได้แก่ Mercedes-Benz, Zeekr, Aion, MG, และ Deepal เข้าร่วมงาน Fast Auto Show Thailand 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ภายใต้การนำของ ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธานบริษัทในเครือ และ จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ไพรม์มัส กรุ๊ป ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ชั้นแนวหน้าในประเทศไทย ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ใหม่และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า การเข้าร่วมงาน Fast Auto Show Thailand 2025 ถือเป็นครั้งแรกที่ไพรม์มัส กรุ๊ป จะนำเสนอรถยนต์ในเครือภายใต้ชื่อเดียว เพื่อมอบประสบการณ์และทางเลือกที่คุ้มค่าสูงสุด
การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และรถทดลองขับกว่า 20 คัน สะท้อนถึงความตั้งใจในการกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การนำเสนอรถยนต์จากหลากหลายแบรนด์ เช่น Mercedes-Benz C220d AMG Line, E350 e AMG Premium, GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic, Zeekr 7X, Zeekr 009, Zeekr X, MG IM6, MG S5 EV, New MG 4 Electric, DEEPAL S05, LUMIN, AION UT, AION Y Plus, และ AION HYPTEC HT พร้อมข้อเสนอพิเศษเฉพาะงานนี้ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่
MGC-ASIA MOBILITY EXPO 2025: มหกรรมยานยนต์แห่งปีที่สยามพารากอน
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เตรียมจัดงานใหญ่ประจำปี ‘MGC-ASIA MOBILITY EXPO 2025’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Ultimate Deals of the Year’ ระหว่างวันที่ 9-13 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน งานนี้ถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ชื่นชอบยนตรกรรมระดับพรีเมียมและไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้
ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว ‘New BMW The i7 eDrive50 M Sport’ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมราคาพิเศษสำหรับ 20 คันแรกเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง Rolls-Royce ‘Black Badge Spectre’ อัครยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่ทรงพลังที่สุด, Maserati ‘MCPURA’ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นล่าสุด, Aston Martin, MINI, BMW Motorrad, XPENG และ ZEEKR
MGC-ASIA ได้เตรียมสิทธิพิเศษและข้อเสนอสุดคุ้มค่ามากมาย ทั้งสิทธิประโยชน์ทางการเงินจากบัตรเครดิตชั้นนำ, ของสมนาคุณมูลค่าสูง, และสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก MGC-MOBILIFE รวมถึงข้อเสนอจากพันธมิตรไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ เช่น SIXT รถเช่า, Chris-Craft เรือแม่น้ำ, MGC Aviation, และ Howden Maxi Insurance Broker
นอกเหนือจากยนตรกรรมและข้อเสนอสุดพิเศษ MGC-ASIA ยังได้จัดเตรียมกิจกรรมและความบันเทิงสำหรับครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง, โชว์สุดอลังการ, และกิจกรรมเฉพาะแบรนด์ต่างๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอด 5 วันของการจัดงาน
BKK Group: ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน BIG MOTOR SALE 2025
กลุ่มบริษัท BKK Group ผู้นำด้านดีลเลอร์ยานยนต์ระดับพรีเมียม เตรียมโชว์ศักยภาพอีกครั้งในงาน BIG MOTOR SALE 2025 ระหว่างวันที่ 22 – 31 สิงหาคม ณ ไบเทค บางนา โดยจะนำทัพยานยนต์หรูและรถยนต์ไฟฟ้าเต็มไลน์อัปมาจัดแสดงใน 3 พื้นที่หลัก
สำหรับบูธ Mercedes-Benz (A01) ภายใต้แคมเปญ Defining Electric. Reimagine Intelligence. จะพบกับข้อเสนอพิเศษครบทุกเซกเมนต์ พร้อมปรับราคารถยนต์ไฟฟ้าให้เริ่มต้นเพียง 2.89 ล้านบาท และจัดแสดงรถยนต์กว่า 16 รุ่น ทั้ง Mercedes-Benz, Mercedes-Benz V-Class, Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach
ส่วนบูธ Mercedes-Benz Certified by Benz BKK (A08) จะเน้นรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองสภาพดี ไมล์น้อย มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อจองรถในงานและรับรถภายใน 31 ส.ค. 68 รับฟรี! ทริปฮ่องกง 2 ที่นั่ง
สำหรับบูธ BYD (A02) จะนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมไฮไลท์พิเศษ BYD SEAL 5 DM-i รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม ดอกเบี้ยต่ำ และของแถมจัดเต็ม
นางสาวตวงรัตน์ ลิขิตพฤษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป จำกัด และ นายอนุพล ลิขิตพฤษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ บีเคเค วิภาวดี และ เบนซ์ บีเคเค ออโตเฮาส์ กาญจนาภิเษก ต่างยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ BKK Group ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด พร้อมข้อเสนอสุดคุ้ม และการขยายเครือข่ายโชว์รูมเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการอย่างต่อเนื่อง
บทสรุป
สัปดาห์นี้เต็มไปด้วยข่าวสารที่น่าตื่นเต้นและชี้ให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2025 เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ยานยนต์ไฟฟ้า, เทคโนโลยีอัจฉริยะ, และประสบการณ์ผู้บริโภค คือหัวใจสำคัญ แบรนด์ต่างๆ กำลังปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ล้ำสมัย, การนำเสนอข้อเสนอที่น่าสนใจ, หรือแม้แต่การเปลี่ยนนิยามของคำว่า “หรูหรา”
สำหรับผู้ที่สนใจในข่าวสารยานยนต์ การติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสสำคัญในการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใช่ หรือแม้แต่การมองเห็นเทรนด์ที่จะกำหนดอนาคตของการเดินทาง.
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ยานยนต์ล่าสุด อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเรา หรือเยี่ยมชมงานแสดงรถยนต์ชั้นนำเพื่อสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวคุณเอง.

