เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย: ก้าวสู่ปี 2568 ยกระดับประสบการณ์ลักชัวรี พร้อมเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นสุดร้อนแรง
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มาเกือบทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ลักชัวรี ซึ่งเป็นตลาดที่มีพลวัตสูงและมีการแข่งขันที่ดุเดือด และในปี 2568 นี้ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์ระดับโลกอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ที่น่าสนใจเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ปี 2567: รากฐานอันแข็งแกร่งและการเติบโตที่น่าประทับใจ
ก่อนจะก้าวไปสู่อนาคต เราต้องมองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จในปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การเปิดตัวรถยนต์ใหม่กว่า 25 รุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ Entry Luxury ไปจนถึง Top-End Luxury ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และจากการรายงาน ยอดขายทั่วโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ในปี 2567 ทำได้ถึง 2,389,000 คัน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่มียอดขายสูงถึง 1,983,400 คัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง
ความสำเร็จอันโดดเด่นของ The New E-Class ที่มียอดขายเติบโตถึง 65% ตอกย้ำถึงการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคต่อการออกแบบ สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ การเป็นผู้นำในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในตลาดลักชัวรีอย่างต่อเนื่อง ทั้ง EQS 450 4MATIC SUV, EQE 300 Sedan, Mercedes-Maybach EQS 680 SUV และ G 580 with EQ Technology รวมถึง Mercedes-AMG CLE 53 ที่ครองสัดส่วนยอดขายถึง 30% ของกลุ่ม Mercedes-AMG สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคแห่งความยั่งยืน
การฉลองการประกอบรถยนต์ครบ 200,000 คันในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นและการลงทุนระยะยาวของแบรนด์ในตลาดประเทศไทย รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการผลิตในกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี
วิสัยทัศน์ปี 2568: “Brand at Heart, Performance in Mind” และการบุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ “Brand at Heart, Performance in Mind” เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีแห่งความสำเร็จของรถยนต์นั่งในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในใจผู้บริโภค (Brand at Heart) ควบคู่ไปกับการนำเสนอสมรรถนะอันยอดเยี่ยม (Performance in Mind)
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ในปี 2568 คือการขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวแพ็กเกจ “EV Worry-Free Package” ที่จะช่วยลดข้อกังวลให้ลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ เช่น ค่างวดเริ่มต้นเพียง 45,000 บาทต่อเดือน สำหรับรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ก้อนแรกและก้อนสุดท้าย ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
การเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นสุดพิเศษในงาน Motor Show 2025
ไฮไลท์สำคัญที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการยานยนต์ในช่วงต้นปี 2568 คือการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จาก Mercedes-AMG พร้อมกันถึง 3 รุ่น ในงาน Motor Show 2025 นี่คือการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอสุดยอดสมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับตลาดไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคึกคักและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์สมรรถนะสูง
โมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” และการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าต่อยอดโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเน้นการสร้างความโปร่งใส ความเท่าเทียมกันของราคาจำหน่ายทั่วประเทศ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกมิติ การนำแนวคิด MAR20X (Mercedes-Benz Retail Experience) มาปรับใช้ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Touchpoints) การพัฒนาบุคลากรและกระบวนการ (People & Process) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ (Digitalization) และการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture) จะช่วยยกระดับมาตรฐานของตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการให้ดียิ่งขึ้น
จากข้อมูลที่ได้รับ ตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 50% ได้เริ่มดำเนินงานภายใต้แนวคิด MAR20X แล้วในปีที่ผ่านมา และมีแผนจะขยายให้ครอบคลุม 60% ในปี 2568 และมากกว่า 90% ภายในปี 2570 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกันและเป็นเลิศในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า
กลยุทธ์ด้านราคา (Pricing Strategy) เพื่อการคงมูลค่าในระยะยาว
การกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาที่สะท้อนถึงการคงมูลค่าในระยะยาวของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ลักชัวรี ซึ่งมูลค่าหลังการขายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เครือข่ายที่แข็งแกร่ง: ตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
ด้วยจำนวนตัวแทนจำหน่ายกว่า 33 แห่ง และศูนย์บริการรวม 41 แห่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ลักชัวรีที่มีเครือข่ายครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการมอบบริการที่สะดวก รวดเร็ว และได้มาตรฐานให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้า
นอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่หลากหลายตลอดทั้งปี ตั้งแต่การรวมตัวของรถคลาสสิกใน Road Trip สุดเอ็กซ์คลูซีฟ, กิจกรรมทดสอบรถยนต์ประจำปี Mercedes-Benz Driving Events และ SUV Driving Events รวมถึงการกลับมาของรายการแข่งขันกอล์ฟ “MercedesTrophy” ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจในไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
การบริการหลังการขาย: หัวใจสำคัญของความพึงพอใจในระยะยาว
นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการฝ่ายบริการลูกค้า ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จในด้านการบริการลูกค้าในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีเครือข่ายศูนย์บริการ 41 แห่ง และศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง 26 แห่งทั่วภูมิภาค การเติบโตของแพ็กเกจ MBSP ถึง 12% และการเปิดตัว MBSP Extra Guarantee Lite, ยอดขาย MBTires ที่เพิ่มขึ้น 84% และ Digital Extras บน Mercedes-Benz Store ที่เติบโตถึง 86% เป็นเครื่องยืนยันถึงความพึงพอใจของลูกค้า
แผนการเปิดตัว Service Select Loyalty Program สำหรับลูกค้าเก่า, การยกระดับบริการ Digital Extras ด้วย Entertainment Package Plus, และกิจกรรม Nationwide Service Clinics ที่จัดร่วมกับทีม Flying Doctor จากเยอรมนีอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอบริการหลังการขายที่ดีที่สุดในระดับเวิลด์คลาส
ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2568: การเติบโตที่ท้าทายและโอกาสใหม่
จากข้อมูลจากงาน Motor Show 2025 และบทสัมภาษณ์ผู้บริหารในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้เห็นภาพรวมของตลาดในปี 2568 ที่ยังคงมีความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่สูง และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์นั่ง SUV ขนาดกลางยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นจากการเข้ามาของผู้เล่นใหม่ รวมถึงการปรับลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ จะส่งผลให้ราคาขายรถยนต์ไฟฟ้ามีความน่าสนใจมากขึ้น
ในส่วนของตลาดรถพรีเมียม แม้จะมีความท้าทาย แต่แบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่าง BMW และ Mercedes-Benz ยังคงมีศักยภาพในการดึงดูดผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่ม Top-End Luxury และกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าและสมรรถนะที่เหนือกว่า จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการปรับตัวให้เข้ากับทิศทางของตลาด โดยการมุ่งเน้นไปที่การมอบมูลค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า การนำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกมิติ
มองไปข้างหน้า: ยุคใหม่ของยานยนต์ลักชัวรีในประเทศไทย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ปี 2568 ด้วยความมั่นใจ ผมเชื่อมั่นว่าการเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นใหม่ในงาน Motor Show 2025 จะเป็นการจุดประกายความตื่นเต้นให้กับตลาด และตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในทุกมิติ
ในฐานะผู้บริโภคที่ชื่นชอบและติดตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมรู้สึกตื่นเต้นกับทิศทางของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และเชื่อว่าพวกเขาจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ลักชัวรีในประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับผู้ที่สนใจสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าล่าสุด สมรรถนะอันเร้าใจจาก Mercedes-AMG หรือการบริการที่เหนือระดับ อย่าพลาดโอกาสในการเยี่ยมชมบูธของพวกเขาในงาน Motor Show 2025 ที่จะถึงนี้ เพื่อค้นพบรถยนต์ที่ใช่และเตรียมพร้อมสำหรับประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่คุณคู่ควร.เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย: ก้าวสู่ปี 2568 ยกระดับประสบการณ์ลักชัวรี พร้อมเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นสุดร้อนแรง
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มาเกือบทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ลักชัวรี ซึ่งเป็นตลาดที่มีพลวัตสูงและมีการแข่งขันที่ดุเดือด และในปี 2568 นี้ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์ระดับโลกอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ที่น่าสนใจเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ปี 2567: รากฐานอันแข็งแกร่งและการเติบโตที่น่าประทับใจ
ก่อนจะก้าวไปสู่อนาคต เราต้องมองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จในปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การเปิดตัวรถยนต์ใหม่กว่า 25 รุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ Entry Luxury ไปจนถึง Top-End Luxury ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และจากการรายงาน ยอดขายทั่วโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ในปี 2567 ทำได้ถึง 2,389,000 คัน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่มียอดขายสูงถึง 1,983,400 คัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง
ความสำเร็จอันโดดเด่นของ The New E-Class ที่มียอดขายเติบโตถึง 65% ตอกย้ำถึงการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคต่อการออกแบบ สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ การเป็นผู้นำในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในตลาดลักชัวรีอย่างต่อเนื่อง ทั้ง EQS 450 4MATIC SUV, EQE 300 Sedan, Mercedes-Maybach EQS 680 SUV และ G 580 with EQ Technology รวมถึง Mercedes-AMG CLE 53 ที่ครองสัดส่วนยอดขายถึง 30% ของกลุ่ม Mercedes-AMG สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคแห่งความยั่งยืน
การฉลองการประกอบรถยนต์ครบ 200,000 คันในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นและการลงทุนระยะยาวของแบรนด์ในตลาดประเทศไทย รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการผลิตในกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี
วิสัยทัศน์ปี 2568: “Brand at Heart, Performance in Mind” และการบุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับปี 2568 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ “Brand at Heart, Performance in Mind” เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีแห่งความสำเร็จของรถยนต์นั่งในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในใจผู้บริโภค (Brand at Heart) ควบคู่ไปกับการนำเสนอสมรรถนะอันยอดเยี่ยม (Performance in Mind)
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ในปี 2568 คือการขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวแพ็กเกจ “EV Worry-Free Package” ที่จะช่วยลดข้อกังวลให้ลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ เช่น ค่างวดเริ่มต้นเพียง 45,000 บาทต่อเดือน สำหรับรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ก้อนแรกและก้อนสุดท้าย ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
การเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นสุดพิเศษในงาน Motor Show 2025
ไฮไลท์สำคัญที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการยานยนต์ในช่วงต้นปี 2568 คือการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จาก Mercedes-AMG พร้อมกันถึง 3 รุ่น ในงาน Motor Show 2025 นี่คือการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอสุดยอดสมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับตลาดไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคึกคักและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์สมรรถนะสูง
โมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” และการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าต่อยอดโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเน้นการสร้างความโปร่งใส ความเท่าเทียมกันของราคาจำหน่ายทั่วประเทศ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกมิติ การนำแนวคิด MAR20X (Mercedes-Benz Retail Experience) มาปรับใช้ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Touchpoints) การพัฒนาบุคลากรและกระบวนการ (People & Process) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ (Digitalization) และการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture) จะช่วยยกระดับมาตรฐานของตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการให้ดียิ่งขึ้น
จากข้อมูลที่ได้รับ ตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 50% ได้เริ่มดำเนินงานภายใต้แนวคิด MAR20X แล้วในปีที่ผ่านมา และมีแผนจะขยายให้ครอบคลุม 60% ในปี 2568 และมากกว่า 90% ภายในปี 2570 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกันและเป็นเลิศในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า
กลยุทธ์ด้านราคา (Pricing Strategy) เพื่อการคงมูลค่าในระยะยาว
การกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาที่สะท้อนถึงการคงมูลค่าในระยะยาวของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ลักชัวรี ซึ่งมูลค่าหลังการขายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เครือข่ายที่แข็งแกร่ง: ตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
ด้วยจำนวนตัวแทนจำหน่ายกว่า 33 แห่ง และศูนย์บริการรวม 41 แห่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ลักชัวรีที่มีเครือข่ายครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการมอบบริการที่สะดวก รวดเร็ว และได้มาตรฐานให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้า
นอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่หลากหลายตลอดทั้งปี ตั้งแต่การรวมตัวของรถคลาสสิกใน Road Trip สุดเอ็กซ์คลูซีฟ, กิจกรรมทดสอบรถยนต์ประจำปี Mercedes-Benz Driving Events และ SUV Driving Events รวมถึงการกลับมาของรายการแข่งขันกอล์ฟ “MercedesTrophy” ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจในไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
การบริการหลังการขาย: หัวใจสำคัญของความพึงพอใจในระยะยาว
นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการฝ่ายบริการลูกค้า ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จในด้านการบริการลูกค้าในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีเครือข่ายศูนย์บริการ 41 แห่ง และศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง 26 แห่งทั่วภูมิภาค การเติบโตของแพ็กเกจ MBSP ถึง 12% และการเปิดตัว MBSP Extra Guarantee Lite, ยอดขาย MBTires ที่เพิ่มขึ้น 84% และ Digital Extras บน Mercedes-Benz Store ที่เติบโตถึง 86% เป็นเครื่องยืนยันถึงความพึงพอใจของลูกค้า
แผนการเปิดตัว Service Select Loyalty Program สำหรับลูกค้าเก่า, การยกระดับบริการ Digital Extras ด้วย Entertainment Package Plus, และกิจกรรม Nationwide Service Clinics ที่จัดร่วมกับทีม Flying Doctor จากเยอรมนีอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอบริการหลังการขายที่ดีที่สุดในระดับเวิลด์คลาส
ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2568: การเติบโตที่ท้าทายและโอกาสใหม่
จากข้อมูลจากงาน Motor Show 2025 และบทสัมภาษณ์ผู้บริหารในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้เห็นภาพรวมของตลาดในปี 2568 ที่ยังคงมีความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่สูง และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์นั่ง SUV ขนาดกลางยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นจากการเข้ามาของผู้เล่นใหม่ รวมถึงการปรับลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ จะส่งผลให้ราคาขายรถยนต์ไฟฟ้ามีความน่าสนใจมากขึ้น
ในส่วนของตลาดรถพรีเมียม แม้จะมีความท้าทาย แต่แบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่าง BMW และ Mercedes-Benz ยังคงมีศักยภาพในการดึงดูดผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่ม Top-End Luxury และกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าและสมรรถนะที่เหนือกว่า จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการปรับตัวให้เข้ากับทิศทางของตลาด โดยการมุ่งเน้นไปที่การมอบมูลค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า การนำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกมิติ
มองไปข้างหน้า: ยุคใหม่ของยานยนต์ลักชัวรีในประเทศไทย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ปี 2568 ด้วยความมั่นใจ ผมเชื่อมั่นว่าการเปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่นใหม่ในงาน Motor Show 2025 จะเป็นการจุดประกายความตื่นเต้นให้กับตลาด และตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในทุกมิติ
ในฐานะผู้บริโภคที่ชื่นชอบและติดตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมรู้สึกตื่นเต้นกับทิศทางของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และเชื่อว่าพวกเขาจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ลักชัวรีในประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับผู้ที่สนใจสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าล่าสุด สมรรถนะอันเร้าใจจาก Mercedes-AMG หรือการบริการที่เหนือระดับ อย่าพลาดโอกาสในการเยี่ยมชมบูธของพวกเขาในงาน Motor Show 2025 ที่จะถึงนี้ เพื่อค้นพบรถยนต์ที่ใช่และเตรียมพร้อมสำหรับประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่คุณคู่ควร.

