เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย: ยกระดับประสบการณ์ลักชัวรี ขับเคลื่อนอนาคตยานยนต์ด้วยนวัตกรรมและแบรนด์ที่ครองใจ
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์รถยนต์ลักชัวรี ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำมาอย่างต่อเนื่อง การแถลงวิสัยทัศน์และทิศทางธุรกิจประจำปี 2568 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เพียงแต่จะรักษาตำแหน่งทางการตลาด แต่ยังพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้น
ภาพรวมปี 2567: ความสำเร็จภายใต้ความท้าทาย
ปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีแห่งการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก โดยสามารถกวดยอดขายรวมกว่า 2.389 ล้านคัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 1.983 ล้านคัน และรถแวน 405,600 คัน ในส่วนของประเทศไทย การเปิดตัวยนตรกรรมใหม่กว่า 25 รุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ Entry Luxury จนถึง Top-End Luxury แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาด
ความสำเร็จโดดเด่นที่สุด คือ The New E-Class ที่สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายสูงถึง 65% ตอกย้ำความเชื่อมั่นในสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ การเฉลิมฉลองการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยครบ 200,000 คัน ยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะผู้ผลิตชั้นนำในภูมิภาค และการเดินหน้าขยายไลน์อัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (EV) อย่างต่อเนื่อง ทั้งรุ่นประกอบในประเทศอย่าง EQS 450 4MATIC SUV และ EQE 300 Sedan รวมถึงการเปิดตัว Mercedes-Maybach EQS 680 SUV และ G 580 with EQ Technology สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์
วิสัยทัศน์ปี 2568: “Brand at Heart, Performance in Mind” สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ภายใต้วิสัยทัศน์ “Brand at Heart, Performance in Mind” เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 3 เสาหลักสำคัญ:
การเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Enhancement): การเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งความสำเร็จของรถยนต์นั่งในประเทศไทย เป็นการตอกย้ำถึงความผูกพันอันยาวนานกับผู้บริโภคชาวไทย และตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ระดับโลกที่เข้าใจและตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง
การขับเคลื่อนผลประกอบการทางธุรกิจ (Business Performance): กลยุทธ์ด้านราคา (Pricing Strategy) ที่มุ่งเน้นการรักษา มูลค่ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในระยะยาว ควบคู่ไปกับการต่อยอดโมเดลธุรกิจ “Retail of the Future” และการนำแนวคิด MAR20X (Mercedes-Benz Retail Experience) มาปรับใช้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การซื้อขายที่โปร่งใส ยุติธรรม และเหนือระดับ
การขยายไลน์อัพรถยนต์ (Product Portfolio Expansion): การให้ความสำคัญกับการขยายไลน์อัพ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ควบคู่ไปกับรถยนต์สมรรถนะสูงจาก Mercedes-AMG ที่จะเปิดตัวถึง 3 รุ่นใหม่ในงาน Motor Show 2025 ถือเป็นการตอบรับทิศทางตลาดโลก และสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยตั้งแต่ช่วงต้นปี
การขับเคลื่อนตลาด EV ด้วย “EV Worry-Free Package”
หนึ่งในความท้าทายสำคัญของการผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% คือความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วย “EV Worry-Free Package” ที่นำเสนอทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ด้วยค่างวดเริ่มต้นเพียง 45,000 บาทต่อเดือน โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ก้อนแรกและก้อนสุดท้าย ทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าลักชัวรีเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นการลดอุปสรรคสำคัญที่เคยเป็นข้อจำกัดของตลาด EV
Retail of the Future และ MAR20X: ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
แนวคิด “Retail of the Future” ไม่ใช่เพียงแค่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการขาย แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า การกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาที่สะท้อนถึงการคงมูลค่าในระยะยาว เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่ลงทุนใน รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์
การนำแนวคิด MAR20X มาปรับใช้ในประเทศไทย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ โดยครอบคลุมทั้งการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Touchpoints), การพัฒนาบุคลากรและกระบวนการ (People & Process), การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digitalization) และการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture) ปัจจุบันกว่า 50% ของเครือข่ายได้เริ่มดำเนินการตามแนวคิดนี้ และมีแผนขยายสู่ 60% ในปีนี้ และมากกว่า 90% ภายในปี 2570 ซึ่งจะสร้างมาตรฐานใหม่ของ ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย
กิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อลูกค้า: สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ได้หยุดเพียงแค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น:
Road Trip สุดเอ็กซ์คลูซีฟ: การรวมตัวของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสสิก ร่วมกับ Mercedes-Benz Club (Thailand) สะท้อนถึงคุณค่าและความผูกพันกับแบรนด์
Mercedes-Benz Driving Events และ SUV Driving Events: ประสบการณ์การขับขี่ทั้งบนถนนและสนามแข่ง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะของรถยนต์อย่างเต็มที่
“MercedesTrophy”: รายการแข่งขันกอล์ฟที่กลับมาอีกครั้งหลังจาก 5 ปี แสดงถึงความใส่ใจในไลฟ์สไตล์และความสนใจของลูกค้า
บริการหลังการขาย: ความมั่นใจที่เหนือระดับ
นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการฝ่ายบริการลูกค้า ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จในด้านบริการลูกค้าในปี 2567 เครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 41 แห่ง และศูนย์ซ่อมสีและตัวถังอีก 26 แห่ง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์บริการหลังการขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง:
แพ็กเกจ MBSP: ยอดขายเพิ่มขึ้น 12% พร้อมการเปิดตัว MBSP Extra Guarantee Lite เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า
MBTires: ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 84%
Digital Extras บน Mercedes-Benz Store: ยอดขายเพิ่มขึ้น 86% สะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ การจัดแคมเปญพิเศษ เช่น Welcome Back Stars เพื่อคืนสิทธิการรับประกันคุณภาพ High Voltage Battery จนถึงปีที่ 10 และความร่วมมือกับ Michelin เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
สำหรับแผนงานด้านบริการลูกค้าในปี 2568 จะมีการเปิดตัว Service Select Loyalty Program เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลรถยนต์ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการยกระดับประสบการณ์ด้านดิจิทัลด้วย Digital Extras และแพ็กเกจเสริมอย่าง Entertainment Package Plus เพื่อมอบความสะดวกสบายและความบันเทิงอย่างสูงสุด อีกทั้งกิจกรรม Nationwide Service Clinics ที่จัดร่วมกับทีม Flying Doctor จากเยอรมนีต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 เป็นการตอกย้ำมาตรฐานการบริการระดับโลก
ตอกย้ำศักยภาพตลาดรถยนต์ Top-End Luxury และ Mercedes-Benz E-Class
แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงมั่นใจในศักยภาพของตลาด รถยนต์ Top-End Luxury และ Mercedes-Benz E-Class ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าพอใจในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ E-Class ที่เติบโต 7% ยืนยันว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับคุณค่า คุณภาพ และสมรรถนะของแบรนด์ มากกว่าการแข่งขันด้านราคา
Mercedes-AMG 3 รุ่นใหม่: ระเบิดสมรรถนะใน Motor Show 2025
การเปิดตัว Mercedes-AMG ถึง 3 รุ่นใหม่ ในงาน Motor Show 2025 ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่จะสร้างสีสันและความตื่นเต้นให้กับวงการยานยนต์ในช่วงต้นปี ผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะที่เหนือชั้น ความเร้าใจในการขับขี่ และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-AMG ไม่ควรพลาด
ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ปี 2568: มุมมองผู้เชี่ยวชาญ
จากการพูดคุยกับผู้บริหารในวงการยานยนต์หลายท่าน ทำให้เห็นภาพรวมของตลาดในปี 2568 ที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ:
ตลาดรถยนต์นั่ง: ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่สูง แต่เซกเมนต์ SUV ขนาดกลางยังคงเติบโตได้ดี จากการเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของรถยนต์ไฟฟ้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV): ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม MPV 7-11 ที่นั่ง และพรีเมียม SUV ขนาดกลาง ต้นทุนแบตเตอรี่ที่ลดลงและเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้า ส่งผลให้ราคาขาย EV ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ตลาดรถยนต์หรู: เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อสูง แบรนด์อย่าง BMW และ Mercedes-Benz ยังคงแข็งแกร่งด้วยภาพลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์
ตลาดรถจักรยานยนต์: ยอดขายทรงตัว โดยมีความท้าทายจากมาตรการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของสถาบันการเงิน ซึ่งส่งผลต่ออัตราปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น
บทสรุป: อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความเป็นเลิศ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2568 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ลักชัวรีให้แก่ลูกค้าทุกมิติ การเปิดตัว Mercedes-AMG รุ่นใหม่ การผลักดันตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 100% และการพัฒนาเครือข่ายการบริการอย่างต่อเนื่อง ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการเป็นผู้นำแห่งอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ตอบสนองทุกความต้องการด้านสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี หรือต้องการสัมผัสประสบการณ์การบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เมอร์เซเดส-เบนซ์ คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม
ขอเชิญทุกท่านสัมผัสกับประสบการณ์เหนือระดับและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางแห่งอนาคตกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้แล้ววันนี้
