• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1912080 เหต ผลท แม ทำด บล part2

admin79 by admin79
December 13, 2025
in Uncategorized
0
N1912080 เหต ผลท แม ทำด บล part2

อนาคตแห่งการเดินทาง: รถยนต์ EREV และ REEV กำลังจะมาถึงไทย พร้อมปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีรถยนต์มาอย่างต่อเนื่อง ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) อย่างก้าวกระโดด แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางการวิ่งและความกังวลเรื่องสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากยังคงลังเลที่จะก้าวสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทว่า ปี 2025 นี้ กำลังจะนำเสนอโซลูชันที่น่าตื่นเต้นและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างลงตัว นั่นคือ รถยนต์ EREV (Extended-Range Electric Vehicle) และ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) ที่มีข่าวคราวว่าเตรียมจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในเร็วๆ นี้

ทำความเข้าใจรถยนต์ EREV และ REEV: พลังไฟฟ้าที่ไร้ขีดจำกัด

ก่อนที่เราจะตื่นเต้นไปกับรถรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว ผมขออธิบายพื้นฐานของรถยนต์ประเภท EREV และ REEV ให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้ทุกท่านเห็นภาพและเข้าใจถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยีนี้

โดยพื้นฐานแล้ว ทั้ง EREV และ REEV ต่างก็เป็นรถยนต์ที่ใช้ มอเตอร์ไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน ซึ่งให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบ นุ่มนวล และทรงพลังทันทีเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) แต่สิ่งที่ทำให้ EREV/REEV แตกต่างและเหนือกว่า BEV อย่างชัดเจน คือ ความสามารถในการมีเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ามาเสริม

เครื่องยนต์สันดาปภายในในรถยนต์ EREV/REEV จะไม่ได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อโดยตรงเหมือนรถยนต์น้ำมันหรือรถยนต์ไฮบริดทั่วไป แต่จะทำหน้าที่เป็น “เครื่องกำเนิดไฟฟ้า” เพียงอย่างเดียว ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อไปชาร์จแบตเตอรี่ หรือส่งกำลังไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถโดยตรง จุดสำคัญคือ เครื่องยนต์จะไม่ส่งกำลังไปยังเพลาล้อ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญจากรถยนต์ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ที่เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนล้อโดยตรงได้ หรือทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในโหมด Parallel ได้

ด้วยสถาปัตยกรรมที่ชาญฉลาดนี้ ทำให้รถยนต์ EREV/REEV มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงมาก ผู้ขับขี่สามารถ เติมน้ำมันเชื้อเพลิง เหมือนรถยนต์ทั่วไป และ ชาร์จไฟฟ้า จากแหล่งภายนอกได้เช่นกัน นี่คือสิ่งที่ทำให้ EREV/REEV ตอบโจทย์การเดินทางไกลได้อย่างแท้จริง ขจัดความกังวลเรื่องระยะทาง (Range Anxiety) ที่เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100%

ตัวอย่างเช่น รถยนต์ EREV บางรุ่นสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางกว่า 286 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ที่ผลิตไฟฟ้า ชาร์จไฟฟ้า และเติมน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถทำระยะทางรวมได้ไกลถึง 1,400 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันหนึ่งถังและชาร์จแบตเตอรี่เต็ม! นี่คือการผสมผสานข้อดีของทั้งโลกยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์สันดาปเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ตัวอย่างรถยนต์ EREV/REEV ที่น่าจับตามอง:

ตลาดโลกกำลังให้ความสนใจกับเทคโนโลยี EREV/REEV เป็นอย่างมาก และมีหลายรุ่นที่คาดว่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในปี 2025 นี้ ซึ่งจะเพิ่มทางเลือกที่น่าสนใจให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน:

Deepal S05 EREV/REEV: รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย คู่แข่งสำคัญของ BYD ATTO 3 และ NETA X คาดว่าจะมาพร้อมทั้งเวอร์ชันไฟฟ้าล้วน (BEV) และเวอร์ชันขยายระยะทาง (EREV/REEV)
Avatr 07 BEV / EREV: รถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง ดีไซน์โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Avatr มีขนาดเล็กกว่า Avatr 11 คาดว่าจะเข้ามาทำตลาดทั้งเวอร์ชัน BEV และ EREV
Changan Hunter EREV: รถกระบะไฟฟ้าขยายระยะทาง (EREV) รุ่นแรกของโลก ดีไซน์ดุดัน แข็งแกร่ง ตัวถัง 4 ประตู ที่มีศักยภาพทำระยะทางวิ่งรวมได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร
Avatr 12 EREV: แม้จะเป็นรถ SUV ไฟฟ้าซีดานระดับพรีเมียมที่เคยเผยโฉมในไทยแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีรุ่น EREV ตามมา
Mazda EZ-6 EREV: เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจจากแบรนด์ที่เน้นการขับขี่
Li Auto (L6, L7, L8, L9): แบรนด์จากจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยรถยนต์ SUV แบบ Extended Range (EREV) ที่เน้นความหรูหราและความสะดวกสบายสำหรับครอบครัว
NETA L EREV: รถยนต์จาก NETA ที่อาจขยายไลน์ผลิตภัณฑ์มาสู่กลุ่ม EREV
Leapmotor C10 EREV: รถยนต์จาก Leapmotor ที่กำลังได้รับความสนใจในตลาดโลก

ทำไม EREV/REEV จึงเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจในปี 2025?

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมมองว่า EREV/REEV ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นวิวัฒนาการที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด ด้วยเหตุผลดังนี้:

“ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100%” ให้ฟิลลิ่ง EV แท้: ผู้ขับขี่จะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ และมีแรงบิดมหาศาลทันทีจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) อย่างแท้จริง
“ไม่ต้องพึ่งสถานีชาร์จเสมอไป”: นี่คือจุดขายสำคัญที่สุดของ EREV/REEV เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลกับระยะทางที่จำกัด หรือการหาที่ชาร์จตามสถานีต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางที่ห่างไกลจากเมือง
“ประหยัดพลังงานและลดมลพิษ”: EREV/REEV ถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานไฟฟ้าให้มากที่สุดก่อน โดยเครื่องยนต์จะทำงานเมื่อจำเป็นเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ หรือเมื่อต้องการระยะทางเพิ่ม ทำให้โดยรวมแล้วมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป และลดการปล่อยมลพิษได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับรถน้ำมัน

ข้อดีที่ชัดเจนของ EREV / REEV:

ลดความเครียดเรื่องระยะทาง (Range Anxiety): นี่คือปัญหาหลักที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าประสบพบเจอ EREV/REEV แก้ปัญหานี้ได้อย่างเด็ดขาด ด้วยเครื่องยนต์ที่คอยผลิตไฟฟ้า ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทางเสมอ
ฟิลลิ่งการขับขี่แบบรถ EV: ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เร่งตอบสนองทันใจ นุ่มนวล และเงียบสงัด
ลดการปล่อยมลพิษ: แม้จะมีเครื่องยนต์ แต่การเน้นใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การปล่อยมลพิษโดยรวมต่ำกว่ารถยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม

ใครคือกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม?

HEV (Hybrid Electric Vehicle): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดน้ำมันกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป แต่ไม่สะดวกหรือไม่ต้องการชาร์จไฟ
PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในเมืองด้วยไฟฟ้าล้วนในชีวิตประจำวัน และเดินทางไกลในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยยังได้ฟิลลิ่งของเครื่องยนต์และชุดเกียร์แบบเดิม
EREV/REEV (Extended-Range Electric Vehicle): กลุ่มเป้าหมายหลักของบทความนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ต้องการความอุ่นใจเรื่องระยะทาง สามารถเติมน้ำมันและชาร์จไฟฟ้าได้ แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ รองรับการชาร์จเร็ว และให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงสุด
BEV (Battery Electric Vehicle): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตและเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างแท้จริง และมีข้อจำกัดเรื่องการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน

ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2025: ความเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ปี 2025 จะเป็นอีกปีที่น่าจับตามองสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โลกและประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์แทบทุกแบรนด์ต่างมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่แผนการเหล่านี้อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอน การชะลอตัวทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้บางโมเดลต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไป

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะจากผู้ผลิตจากประเทศจีนที่เข้ามาเขย่าตลาดด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ รถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดที่ยังไม่พร้อมรับ EV เต็มรูปแบบ

แม้แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง BYD เอง ก็ยังคงนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดควบคู่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามจังหวัดไกลๆ ซึ่งการพัฒนาสถานีชาร์จและระยะทางวิ่งของ BEV อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานกลุ่มนี้ได้อย่างสมบูรณ์

เจาะลึกตลาดไทย: คาดการณ์รถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในปี 2025

นอกจากรถยนต์ EREV/REEV ที่กำลังจะเข้ามาแล้ว ตลาดประเทศไทยในปี 2025 ยังจะได้เห็นการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่หลากหลายประเภท ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภค:

รถยนต์ PHEV และ HEV ที่พัฒนาขึ้น: เราจะได้เห็นรถยนต์ Plug-in Hybrid และ Hybrid ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ตอบสนองการขับขี่ที่สนุกสนานขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น เช่น Ford Ranger PHEV, Toyota New Yaris Ative HEV, Toyota New Hilux Travo, BYD Shark 6
รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) รุ่นใหม่ๆ: ผู้ผลิตหลายรายเตรียมส่งรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดในส่วนถัดไป
รถยนต์สมรรถนะสูง: ตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงก็ยังคงร้อนแรง ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ เช่น Tesla Model Y รุ่นปรับปรุงใหม่, BMW M5 Touring ใหม่, Porsche 911 ไฮบริด, Toyota GR Supra Track Edition รุ่นสุดท้าย
รถยนต์หรู: กลุ่มลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูงจะได้สัมผัสกับรถยนต์หรูรุ่นใหม่ๆ เช่น Audi Q5 ใหม่, RS5 Avant, BMW X3 2025, BMW iX3 2025, MINI Cooper JCW (EV) 2025, Mercedes-Benz CLA EV 2025

อนาคตของรถยนต์หรู: ความล้ำสมัยและการเปลี่ยนแปลง

Audi RS5 Avant Quattro: การมาถึงของ Audi RS5 Avant Quattro ในรูปแบบ Plug-in Hybrid ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงถึง 530 แรงม้า ถือเป็นการยกระดับกลุ่มรถยนต์แวกอนสมรรถนะสูง ให้ท้าชนคู่แข่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ
BMW Neue Klasse: BMW กำลังพลิกโฉมครั้งใหญ่เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การออกแบบที่ดูดีขึ้น ควบคู่ไปกับสมรรถนะที่ต้องแข่งขันกับ Tesla และ BYD การตั้งเป้าหมายระยะทางวิ่ง 650 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็ว จะเป็นปัจจัยสำคัญในการชิงความได้เปรียบ
Ferrari EV: แม้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่การมาถึงของ Ferrari EV รุ่นแรกเป็นที่น่าจับตาว่าจะมาในรูปทรงใด โดยคาดการณ์ว่าน่าจะเป็น SUV คูเป้ ที่คงไว้ซึ่ง DNA แห่งความหรูหราและสมรรถนะตามแบบฉบับม้าลำพอง
Honda 0 Series Saloon: Honda กำลังเร่งเครื่องเข้าสู่ตลาด EV ด้วย 0 Series Saloon ที่เน้นความเตี้ย เบา และฉลาด การร่วมมือกับ Nissan จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง แต่การแข่งขันกับแบรนด์จีนที่มาแรงนั้น ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องระยะทางวิ่งที่ต้องทำได้มากกว่า 600 กิโลเมตร เพื่อให้เทียบเคียงตลาดปัจจุบันได้
Jaguar EV GT: Jaguar กำลังเผชิญความท้าทายในการปรับตัวสู่ยุค EV ท่ามกลางตลาดรถหรูที่เริ่มลังเลกับการใช้พลังงานไฟฟ้า การออกแบบที่เน้นความสปอร์ตและหรูหราแบบดั้งเดิม อาจเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอด
Lexus LFR: ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่จาก Lexus ที่ต่อยอดตำนาน LFA เครื่องยนต์ V8 ไบเทอร์โบ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า สะท้อนถึงศักยภาพของ Lexus ในการพัฒนายานยนต์สมรรถนะสูง
Mercedes AMG 4dr EV: Mercedes-Benz กำลังรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไฮเปอร์ซาลูน กำลังสูงถึง 1,000 แรงม้า วิ่งไกลเกือบ 800 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม
Porsche 718 Boxster EV: การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV ของรถสปอร์ตไอคอนอย่าง Boxster และ Cayman เป็นสิ่งที่น่าจับตา ว่า Porsche จะสามารถสร้างความต้องการในกลุ่มลูกค้าที่โหยหารถยนต์ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของเครื่องยนต์สันดาปได้หรือไม่
BMW M2 CS: รถสปอร์ตสมรรถนะสูงจาก BMW ที่จะมาพร้อมขุมพลัง 518 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เน้นความสนุกสนานในการขับขี่
Toyota FJ Cruiser (Compact Cruiser EV): การกลับมาของ DNA ความเป็น Off-road ในรูปแบบที่ทันสมัย คาดว่าจะเป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ผสมผสานดีไซน์เหลี่ยมคม และความทนทาน
Mini John Cooper Works (JCW) 2025: ทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นไฟฟ้าล้วน JCW ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่แบบ “โกคาร์ท” ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมสมรรถนะที่เร้าใจ
Toyota Century Coupé Concept: การยกระดับแบรนด์ Century สู่ระดับ Ultra-Luxury เตรียมท้าชน Rolls-Royce และ Bentley ด้วยดีไซน์สุดล้ำและงานฝีมือระดับสูงสุด

BMW Group ประเทศไทย: ตอกย้ำความเป็นผู้นำและก้าวสู่ปีแห่งนวัตกรรม

BMW Group ประเทศไทย ประกาศศักดาแห่งความเป็นผู้นำตลาดพรีเมียมต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน พร้อมแผนกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับปี 2025 การเปิดตัวรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ใหม่รวม 9 รุ่น จากทั้ง BMW, MINI และ BMW Motorrad จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นตลาด นวัตกรรมด้านบริการทางการเงินที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จะช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

ยอดขายที่แข็งแกร่ง: BMW และ MINI ทำยอดส่งมอบรวม 13,659 คันในปี 2024 ครองส่วนแบ่งตลาดพรีเมียมถึง 45% โดย BMW รักษาตำแหน่งผู้นำยอดจดทะเบียนรถยนต์ระดับพรีเมียมได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตโดดเด่น: ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมของ BMW พุ่งขึ้นจาก 13.5% เป็น 22.6% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี EV ของแบรนด์
การผลิต MINI กลับสู่ประเทศไทย: โรงงาน BMW Group Manufacturing (Thailand) จะกลับมาประกอบ MINI Countryman อีกครั้งในรอบ 7 ปี นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของฐานการผลิตในภูมิภาค
เครือข่ายผู้จำหน่าย ‘Retail Next’: การขยายโชว์รูมและศูนย์บริการตามแนวคิด ‘Retail Next’ ทั่วประเทศ จะมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น ด้วยการผสานนวัตกรรมดิจิทัลและการออกแบบที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ตลาดรถยนต์มือสอง: คูเป้ 2 ประตูสุดคลาสสิกที่ยังน่าลงทุนในปี 2025

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะที่เร้าใจ รถยนต์คูเป้ 2 ประตูมือสอง ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2025 ด้วยดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาและราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารถใหม่

Mercedes-Benz C-Class Coupé: ดีไซน์โค้งมน สง่างาม ภายในหรูหรา ออปชันครบครัน สมรรถนะดีเยี่ยม
BMW 4 Series Coupé: ความหล่อ ดุดัน สปอร์ต สมรรถนะที่ไว้ใจได้
Audi TT: ดีไซน์สวยงาม ขับสนุก ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาเข้าถึงง่าย
Ford Mustang: รถสปอร์ตในตำนาน สมรรถนะจัดจ้าน และเป็นที่ต้องการของนักขับทั่วโลก
Mini Cooper: รถคูเป้ขนาดกะทัดรัด ขับสนุก คล่องแคล่ว น่ารัก

จับตา! รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่คาดว่าจะเปิดตัวในไทยปี 2025

การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเข้มข้นยิ่งขึ้นในปี 2025 ด้วยการเข้ามาของผู้เล่นใหม่และรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์ต่างๆ:

MG: MG IM 6, MG ES5 EV
BYD: BYD Seal DM-i (PHEV), BYD Shark 6 (PHEV), BYD Atto 2, BYD Atto 3 2025 (รุ่นปรับโฉม)
Denza: Denza N7 (คาดว่าจะเป็นรุ่นที่สองของแบรนด์ต่อจาก Denza D9)
Aion: Aion UT (รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าขนาดเล็ก คู่แข่ง BYD Dolphin)
Zeekr: Zeekr 7X (SUV ไฟฟ้า คู่แข่ง Tesla Model Y), Zeekr Mix (มินิแวนไฟฟ้า)
Tesla: New Tesla Model Y Performance (อาจมาพร้อมพวงมาลัยสี่เหลี่ยมแบบ Cybertruck)
Deepal: Deepal S05 BEV / EREV
Avatr: Avatr 12 (SUV ไฟฟ้าซีดานพรีเมียม), Avatr 07 BEV / EREV
Geely: Geely Galaxy E8 (รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน)
Changan: Changan Hunter EREV (กระบะไฟฟ้าขยายระยะทาง)
Hyptec: Hyptec HL (SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่)
GWM: WEY 80 PHEV (MPV ปลั๊กอินไฮบริด), GWM Tank 700 Hi4-T (SUV ออฟโรด Plug-in Hybrid), GWM Tank 300 Diesel
GAC: GAC M8 PHEV (MPV ปลั๊กอินไฮบริด)

รถตู้ไฟฟ้า 2025: ทางเลือกใหม่สำหรับครอบครัวยุคใหม่

กระแสรถยนต์ไฟฟ้าขยายวงกว้างสู่กลุ่มรถตู้ MPV ด้วยเช่นกัน ในปี 2025 นี้ เราจะได้เห็นรถตู้ไฟฟ้าที่มีความหรูหรา สะดวกสบาย และเทคโนโลยีล้ำสมัย:

MG MAXUS 9: รถ MPV หรูหรา 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม
Denza D9: MPV ไฟฟ้าสุดหรูจาก BYD เน้นความสะดวกสบาย และระยะทางวิ่งที่น่าพอใจ
ZEEKR 009: MPV ไฟฟ้า 100% ระดับพรีเมียมที่เน้นความหรูหรา เทคโนโลยีขั้นสูง และความสะดวกสบายสูงสุด
XPENG X9: รถตู้ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง และความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัว
MG MAXUS 7 Model X: รถตู้ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชันครบครัน

ปี 2025 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รถยนต์ EREV และ REEV ที่กำลังจะเข้ามา จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างสำคัญในตลาด มอบทางเลือกที่สมดุลระหว่างประสิทธิภาพ พลังงานไฟฟ้า และความสะดวกสบายในการเดินทางไกล หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ผสมผสานข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับความอุ่นใจเรื่องระยะทาง การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ EREV/REEV ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของการเดินทางที่ไร้ขีดจำกัด!

Previous Post

N1912075 ดอ อย มาส บป แม งมาบอกว าท านเป นเศรษฐ ระด บประเทศ part2

Next Post

N1912068 เจอแหวนในเค กทำช ตเปล ยน part2

Next Post
N1912068 เจอแหวนในเค กทำช ตเปล ยน part2

N1912068 เจอแหวนในเค กทำช ตเปล ยน part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2412071 มตรแท แอร พรสวรรค part2
  • N2412073 ฝนท พย หลอกหล part2
  • N2412059 ไม เช อส งท คนอ นพ ดส ดท ายเห นก บตาเส ยใจมาก part2
  • N2412065 โจ ปากแจ วถามก ญแจรถอย ไหน part2
  • N2412067 เม ยเบอร หน งไม เป นรองใคร part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.