“ปลดล็อกประสบการณ์ “Own Your Star” ฉลองสุดยอดยนตรกรรม Mercedes-Benz ณ Motor Expo 2024″
ในโลกแห่งยานยนต์ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมใหม่ๆ ในแต่ละปีถือเป็นสิ่งที่เราเหล่าผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะและความหรูหราตั้งตารอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Mercedes-Benz ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ Motor Expo 2024 นี้ เมร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้นำเสนอคอนเซ็ปต์สุดพิเศษ “Own Your Star” ซึ่งไม่เพียงแต่เชิญชวนให้ทุกท่านมาสัมผัสกับ ยนตรกรรม Mercedes-Benz รุ่นใหม่ล่าสุด แต่ยังมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์หรู ด้วยการมอบ “ดวงดาว” เป็นของขวัญแก่ลูกค้า 100 ท่านแรกที่จองรถยนต์เมร์เซเดส-เบนซ์ภายในงาน
จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการยานยนต์ ผมมองว่ากลยุทธ์นี้สะท้อนความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของเมร์เซเดส-เบนซ์ ที่ไม่เพียงต้องการขายรถยนต์ แต่ต้องการสร้างความผูกพันทางอารมณ์และความหมายอันลึกซึ้งให้กับลูกค้า การเป็นเจ้าของ “ดวงดาว” ที่แท้จริงบนท้องฟ้านั้น เป็นสัญลักษณ์ของการประสบความสำเร็จ ความพิเศษ และความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มุ่งมั่นนำเสนอ รถยนต์ Mercedes-Benz ที่สะท้อนถึงความสำเร็จของผู้ครอบครอง
การปรากฏตัวอันน่าตื่นตาที่ Motor Expo 2024
เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้ขนทัพยนตรกรรมระดับท็อปกว่า 20 รุ่น มาจัดแสดงที่บูธ A02 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี โดยไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้คือการเปิดตัว ยนตรกรรม Mercedes-Benz รุ่นใหม่ถึง 7 รุ่น ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ในตลาดประเทศไทย ดังนี้:
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: ตำนาน Off-Road สู่ยุคไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ทุกคนจะได้ยลโฉม G-Class ในเวอร์ชันพลังงานไฟฟ้า 100% “King of Off-Road” ในตำนานได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสมรรถนะและความยั่งยืนไปอีกขั้น ด้วยการผสานรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ทรงกล่องเข้ากับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่ติดตั้งแยกแต่ละล้อ ให้กำลังสูงสุดถึง 587 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 1,164 นิวตันเมตร ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 4.7 วินาที พิสูจน์ให้เห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz สามารถมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ G 580 with EQ Technology ยังวิ่งได้ไกลถึง 473 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (WLTP) และรองรับการชาร์จ DC สูงสุด 200 kW ชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลาเพียง 32 นาที ราคาสตาร์ทที่ 9.5 ล้านบาท และรุ่นพิเศษ EDITION ONE ที่จำกัดเพียง 6 คัน ราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท
Mercedes-Benz G 450 d: พลังดีเซลอันทรงพลัง สำหรับผู้หลงใหล
สำหรับท่านที่ยังคงหลงใหลในคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล Mercedes-Benz G 450 d คือคำตอบ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM 656M ขนาด 2.9 ลิตร ผสานระบบ ISG2 (Integrated Starter Generator) ส่งกำลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะ แต่ยังคำนึงถึงประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: นิยามใหม่แห่งความหรูหราบนรถยนต์ไฟฟ้า
ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV คือการยกระดับประสบการณ์ SUV ไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า PSM สองตัวบริเวณเพลาหน้าและหลัง มอบกำลังรวม 658 แรงม้า แรงบิด 950 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.4 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 118.0 kWh ขับขี่ได้ไกลถึง 615 กิโลเมตร (WLTP) นี่คือการผสมผสานสุดยอดเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับความประณีตหรูหราตามแบบฉบับ Maybach อย่างสมบูรณ์แบบ ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: สง่างามเหนือกาลเวลา พร้อมสัมผัสใหม่
S 580 e Premium ตอกย้ำภาพลักษณ์ความสง่างามของ Mercedes-Maybach ด้วยการเป็นรุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย และเป็นประเทศแรกที่นำเสนอตัวถังสีทูโทน “High-tech Silver/Selenite Grey” อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่มอบทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีล้ำสมัย ยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือกว่าทุกจินตนาการ ราคาเริ่มต้น 11.3 ล้านบาท
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive: ไอคอนแห่งความหรูหรา ฟื้นคืนชีพสัญลักษณ์ดาวลอย
The new E-Class ในรุ่น E 350 e Exclusive กลับมาพร้อมกับการออกแบบอันเป็นตำนานของ Mercedes-Benz พร้อมโลโก้ “ดาวลอย” (MB logo on bonnet) อันเป็นที่คุ้นเคย ผสานขุมพลัง Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 4 ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น แบตเตอรี่ Li-Ion ความจุ 25.4 kWh ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนมากกว่า 100 กิโลเมตร (WLTP) มอบกำลังรวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.4 วินาที พร้อมรองรับ DC Charge สูงสุด 55 kW ทำให้การเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ราคา 3.65 ล้านบาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: สุดยอดแวนหรู สำหรับทุกการเดินทาง
V 300 d Exclusive สะท้อนถึงความพิถีพิถันในการออกแบบเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้รถแวนระดับพรีเมียม ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหรา พื้นที่กว้างขวาง และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.95 ลิตร ให้กำลัง 237 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที พร้อมระบบเกียร์ 9G-TRONIC ที่มอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ราคา 5.82 ล้านบาท
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Pro: อเนกประสงค์เหนือระดับ
Vito 119 CDI Tourer Pro คือคำตอบสำหรับผู้ที่มองหารถแวนอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ที่ผสานฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัวกับความหรูหราสไตล์เมร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.95 ลิตร กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC มอบการขับขี่ที่ราบรื่นและคล่องตัว เหมาะทั้งการใช้งานในครอบครัวและธุรกิจ ราคา 3.1 ล้านบาท
ประสบการณ์ Digital Extras ที่เหนือกว่า
ภายในบูธจัดแสดง ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชัน Mercedes-Benz ในการสั่งการรถยนต์ที่จัดแสดง อาทิ การควบคุมรถจากระยะไกล การค้นหาตำแหน่งรถ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการเสริม Digital Extras ที่พร้อมใช้งานสูงสุด 36 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100%
สำหรับผู้ที่สนใจ รถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 จะได้รับข้อเสนอ “Worry-Free Package” ประกอบด้วย:
เงินชำระส่วนแรก 0% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เมื่อทำสัญญา MyStar
ฟรี ค่าบริการชาร์จไฟฟ้า DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 1 ปี ผ่านสถานี SHARGE
ฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง
รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 250,000 กม.
ช้อปปิ้งสินค้า Mercedes-Benz Collection
นอกจากยนตรกรรมแล้ว เมร์เซเดส-เบนซ์ ยังนำเสนอสินค้า Mercedes-Benz Collection และสินค้าประดับยนต์หลากหลายรูปแบบ พร้อมข้อเสนอพิเศษ อาทิ ซื้อ 2 ชิ้น รับฟรี 1 ชิ้น และของขวัญพิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดซื้อสูงสุดในแต่ละวัน
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes
สมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes ที่ชำระค่าจองรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ 50,000 บาท/สลิป ภายในงาน จะได้รับสิทธิ์แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% พร้อมบัตรกำนัลเซ็นทรัล และคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด
ภาพรวมตลาดรถหรูและการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ ผมมองว่าการจัดแสดงที่ Motor Expo 2024 ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่รอบด้านของเมร์เซเดส-เบนซ์ ในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถหรู ควบคู่ไปกับการผลักดันนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่คู่แข่งอย่าง BMW ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรูได้อย่างแข็งแกร่ง แต่การที่เมร์เซเดส-เบนซ์ ทุ่มเทนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึง G 580 with EQ Technology ที่เป็น G-Class ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่มีการแข่งขันสูง
สำหรับ ราคา Mercedes-Benz ที่จัดแสดงในงานนี้ ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไปจนถึงรุ่น Top-End Luxury ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และข้อเสนอพิเศษต่างๆ ที่มอบให้ในช่วง Motor Expo 2024 ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้สนใจจะได้ครอบครอง ยนตรกรรม Mercedes-Benz ที่ใช่ในราคาที่คุ้มค่า
ก้าวสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อน
งาน Motor Expo 2024 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดเวทีให้เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำเสนอสุดยอด รถยนต์ Mercedes-Benz และ รถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz แต่ยังเป็นการเชื้อเชิญให้ทุกท่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนิยามใหม่แห่งการขับเคลื่อนภายใต้คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ที่จะมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์หรูที่ผสานกับความพิเศษเหนือระดับ
อย่าพลาดโอกาสสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ พร้อมรับข้อเสนอสุดเร้าใจ ที่บูธเมร์เซเดส-เบนซ์ ณ งาน Motor Expo 2024 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี การเป็นเจ้าของ “ดวงดาว” บนท้องฟ้า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่เจิดจรัสยิ่งกว่าที่คุณเคยจินตนาการ
