Mercedes-Benz: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งยนตรกรรมหรู กับคอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ที่ Motor Expo 2024
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์หรู ที่ไม่เพียงแต่แข่งขันกันที่สมรรถนะและดีไซน์ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์และความเป็นส่วนตัวที่มอบให้กับลูกค้า ล่าสุดกับการปรากฏตัวของ Mercedes-Benz ในงาน Motor Expo 2024 ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการตอกย้ำความเป็นผู้นำ และแสดงวิสัยทัศน์ที่ก้าวล้ำไปสู่อนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” อันน่าหลงใหล
“Own Your Star”: นิยามใหม่ของความเป็นเจ้าของยนตรกรรม
แนวคิด “Own Your Star” ของ Mercedes-Benz ในปีนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่เป็นการเชิญชวนให้ผู้บริโภคสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับที่เชื่อมโยงความเป็นเจ้าของรถยนต์เข้ากับการเป็นเจ้าของ “ดวงดาว” บนท้องฟ้าอย่างแท้จริง สำหรับ 100 ท่านแรกที่ตัดสินใจจองรถยนต์ Mercedes-Benz ภายในงาน Motor Expo 2024 จะได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อดาว และได้รับใบประกาศนียบัตร Star Certificate พร้อมระบุพิกัดอย่างเป็นทางการ นี่คือการมอบประสบการณ์ที่พิเศษ ล้ำค่า และเป็นส่วนหนึ่งของความฝันที่หลายคนใฝ่หา การเป็นเจ้าของดวงดาวนั้น เปรียบเสมือนการตอกย้ำถึงความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ และความเป็นอมตะที่ Mercedes-Benz สื่อสารมาโดยตลอด
7 รุ่นไฮไลท์: เทคโนโลยีสุดล้ำ ผสมผสานความหรูหราเหนือกาลเวลา
Mercedes-Benz ได้ขนทัพยนตรกรรมกว่า 20 รุ่น มาจัดแสดงที่บูธ A02 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี โดยมี 7 รุ่นไฮไลท์ที่ดึงดูดสายตาและเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงทิศทางของแบรนด์ที่มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์ความหรูหราในทุกมิติ
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: “King of Off-Road” สู่ยุคไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
การเปิดตัว G 580 with EQ Technology ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ Mercedes-Benz ในการปฏิวัติวงการ SUV หรู ด้วยการนำตำนาน “King of Off-Road” กว่า 45 ปี มาผสานกับขุมพลังไฟฟ้า 100% นี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่คือการตีความใหม่ของ G-Class อย่างแท้จริง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่ติดตั้งอิสระบริเวณทั้ง 4 ล้อ ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 587 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 1,164 นิวตันเมตร ที่พร้อมตอบสนองทันทีที่สัมผัสคันเร่ง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถยนต์ออฟโรดทั่วไป การขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel drive ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ มอบสมรรถนะการเกาะถนนที่เหนือชั้น ควบคู่ไปกับพิสัยการวิ่งสูงสุด 473 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ทำให้ G 580 with EQ Technology ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นตัวแทนของความยั่งยืนและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท สะท้อนถึงความพิเศษของยนตรกรรมที่เป็นมากกว่ารถยนต์ แต่คือการลงทุนในอนาคต
Mercedes-Benz G 450 d: พลังดีเซลสุดแกร่ง เติมเต็มความต้องการของนักเลงรถ
สำหรับผู้ที่ยังคงหลงใหลในเสน่ห์ของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ทั้งกำลัง ความทนทาน และเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ Mercedes-Benz G 450 d คือคำตอบ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM 656M ความจุ 2,989 ซีซี ที่ทำงานร่วมกับระบบ ISG2 (Integrated Starter Generator) ส่งกำลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบ Mild Hybrid ทำให้ G 450 d มอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมพร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที โดยไม่ทิ้งความประหยัดในการขับขี่ ดีไซน์ที่ยังคงความดุดันตามแบบฉบับ G-Class ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: สุขอนันต์แห่งยุคไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ผู้สูงศักดิ์
การปรากฏตัวของ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV เป็นการประกาศศักดาของแบรนด์ Mercedes-Maybach ในการก้าวสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ นี่คือที่สุดแห่ง SUV ไฟฟ้าที่ผสานความหรูหราขั้นสูงสุดเข้ากับสมรรถนะอันน่าทึ่ง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า PSM สองตัวที่ให้กำลังรวม 658 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.4 วินาที แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 118.0 kWh มอบพิสัยการวิ่งสูงสุด 615 กิโลเมตร (WLTP) ระบบขับเคลื่อน 4MATIC+ แบบ Fully-variable ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาวะการขับขี่ การตกแต่งภายในที่สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด และการมอบประสบการณ์อันเหนือระดับในทุกสัมผัส ทำให้ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV เป็นมากกว่ารถยนต์ แต่คือผลงานศิลปะแห่งวิศวกรรมที่พร้อมมอบความพิเศษให้กับเจ้าของ ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: ความสง่างามที่ประกอบในไทย ประเดิมตัวถังทูโทน
Mercedes-Maybach S 580 e Premium ไม่เพียงแต่สะท้อนความหรูหราเหนือกาลเวลาของ S-Class แต่ยังเป็นครั้งแรกที่ Mercedes-Maybach นำเสนอตัวถังสีทูโทน “High-tech Silver/Selenite Grey” ที่ประกอบในประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองตลาดไทยเป็นพิเศษ ระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid ผสานสมรรถนะที่ทรงพลังเข้ากับดีไซน์ภายนอกและภายในที่ประณีตในทุกอณู การตกแต่งภายในที่สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด และเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกสบายสูงสุด ทำให้ S 580 e Premium เป็นมาตรฐานใหม่ของยนตรกรรมระดับสูงสุด ราคาเริ่มต้น 11.3 ล้านบาท
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive: ไอคอนแห่งความหรูหรา กับการกลับมาของ “ดาวลอย”
The new E-Class ในรุ่น E 350 e Exclusive คือการกลับมาของยนตรกรรมระดับไอคอนที่ผสานความเป็นเลิศในทุกด้าน การออกแบบที่โดดเด่นด้วยโลโก้ “ดาวลอย” (MB logo on bonnet) บนฝากระโปรงหน้า คือสัญลักษณ์แห่งความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนรอคอย ระบบ Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 4 พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 25.4 kWh ให้พิสัยการวิ่งด้วยไฟฟ้ามากกว่า 100 กิโลเมตร (WLTP) ผสานกับเครื่องยนต์ มอบกำลังรวมสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลัง 9G-TRONIC ช่วยให้การเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.4 วินาที นี่คือการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ เทคโนโลยี และความสง่างามที่ลงตัว ราคา 3.65 ล้านบาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: สุนทรียภาพแห่งการเดินทาง บนแพลตฟอร์ม MPV สุดหรู
สำหรับผู้ที่มองหายานยนต์อเนกประสงค์ที่มอบความสะดวกสบายและความหรูหราในระดับเฟิร์สคลาส V 300 d Exclusive คือคำตอบ ด้วยห้องโดยสาร 6 ที่นั่งที่ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน มอบพื้นที่กว้างขวางและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี ให้กำลัง 237 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นและประหยัดน้ำมัน V 300 d Exclusive จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางของครอบครัว หรือเป็นรถสำหรับผู้บริหารที่ต้องการความสะดวกสบายและภาพลักษณ์ที่เหนือระดับ ราคา 5.82 ล้านบาท
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Pro: พรีเมียม MPV อเนกประสงค์ สำหรับทุกการใช้งาน
Vito 119 CDI Tourer Pro ยังคงยึดมั่นในมาตรฐานของ Mercedes-Benz ด้วยการนำเสนอรถตู้พรีเมียมอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ที่ผสานฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันเข้ากับความหรูหราตามแบบฉบับแบรนด์ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC มอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ Vito 119 CDI Tourer Pro เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในภาคธุรกิจ หรือการเดินทางของครอบครัวขนาดใหญ่ ที่ต้องการความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง ราคา 3.1 ล้านบาท
นวัตกรรมดิจิทัล: ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของ
ภายในบูธ Mercedes-Benz ไม่ได้มีเพียงแค่การจัดแสดงยนตรกรรมเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับนวัตกรรมดิจิทัลล่าสุด ผ่านแอปพลิเคชัน Mercedes-Benz ที่สามารถใช้สั่งการรถยนต์ที่จัดแสดงได้ อาทิ การควบคุมระยะไกล การค้นหาตำแหน่งรถ และบริการเสริม Digital Extras ที่มอบความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์
ข้อเสนอสุดพิเศษ: “Worry-Free Package” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz ได้นำเสนอแพ็กเกจ “Worry-Free Package” สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 แพ็กเกจนี้ประกอบด้วย:
เงินดาวน์ 0% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เมื่อทำสัญญา MyStar
บริการชาร์จไฟฟ้า DC แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีที่กำหนด
Wallbox พร้อมการติดตั้งฟรี
รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 250,000 กิโลเมตร
สินค้าคอลเลคชั่นสุดพิเศษ: สะท้อนเอกลักษณ์ของดาวสามแฉก
นอกเหนือจากยนตรกรรมแล้ว Mercedes-Benz ยังจัดแสดงสินค้า Mercedes-Benz Collection และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่เสื้อผ้า หมวก ไปจนถึงอุปกรณ์สำหรับเด็กและของใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์
ข้อเสนอพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes
สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes ที่มีการชำระค่าจองรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ภายในงาน Motor Expo 2024 ยังได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม อาทิ การแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% บัตรกำนัลเซ็นทรัล และคะแนนสะสม Citi Reward อีกด้วย
ภาพรวมตลาดรถหรู: การแข่งขันที่เข้มข้นและทิศทางสู่อนาคต
จากข้อมูลที่ปรากฏในบทความต้นฉบับ สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์หรูของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง Mercedes-Benz และ BMW การที่ BMW สามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์หรูมาอย่างต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ที่เน้นการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่ BMW มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มพรีเมียมสูงถึง 40.8% ในปี 2565
สำหรับ Mercedes-Benz การกลับมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Own Your Star” และการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่หลากหลาย รวมถึง G 580 with EQ Technology ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะทวงคืนตำแหน่งผู้นำ และผลักดันกลยุทธ์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น การแข่งขันในกลุ่มรถยนต์ระดับบนนี้ กำลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยมีเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้า และประสบการณ์ลูกค้าเป็นหัวใจหลัก
บทสรุป: ก้าวต่อไปของ Mercedes-Benz
งาน Motor Expo 2024 เป็นเวทีสำคัญที่ Mercedes-Benz ได้ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และประสบการณ์ลูกค้า การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง G 580 with EQ Technology และ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการตอบรับเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า และการยกระดับความหรูหราไปอีกขั้น คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ไม่ใช่เพียงแค่แคมเปญการตลาด แต่คือการสร้างความผูกพันและความทรงจำอันล้ำค่าให้กับลูกค้า
หากคุณคือผู้ที่หลงใหลในยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ นวัตกรรม และความหรูหราไม่เป็นสองรองใคร การมาสัมผัสประสบการณ์จริงที่บูธ Mercedes-Benz ในงาน Motor Expo 2024 คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด.

