เมอร์เซเดส-เบนซ์ “Own Your Star” สู่ยุคใหม่แห่งยนตรกรรมหรู พร้อมเปิดประสบการณ์เหนือระดับที่ Motor Expo 2024
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่เทคโนโลยีได้เข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมนี้อย่างสิ้นเชิง การมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คืออนาคตที่กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และในปี 2567 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ แบรนด์ยานยนต์หรูระดับตำนาน ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยการนำเสนอ “Own Your Star” แนวคิดที่ผสมผสานความเป็นเลิศทางวิศวกรรม สุนทรียศาสตร์การออกแบบ และประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่เหนือระดับ สู่เวทีงาน Motor Expo 2024 ณ บูธ A02 อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2567
“Own Your Star” : มากกว่าแค่การเป็นเจ้าของรถยนต์ แต่คือการเป็นเจ้าของดวงดาว
คอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ที่เมร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย นำเสนอในปีนี้ ไม่ใช่เพียงแค่สโลแกน แต่คือปรัชญาที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการมอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับลูกค้าทุกท่าน การได้เป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ใช่เพียงการได้ครอบครองยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยี และความหรูหราเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการก้าวเข้าสู่ความเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวดาวสามแฉกอันทรงเกียรติ
สำหรับ 100 ท่านแรกที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายในงาน Motor Expo 2024 นี้ จะได้รับสิทธิพิเศษสุดพิเศษ นั่นคือ การมอบ “ดวงดาว” บนท้องฟ้าจริง พร้อมใบประกาศนียบัตร Star Certificate และพิกัดดาวอย่างเป็นทางการ เป็นการมอบสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความเป็นนิรันดร์ที่สามารถตั้งชื่อได้ตามความปรารถนา ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ให้มีความหมายและน่าจดจำยิ่งขึ้น
7 รุ่นไฮไลท์: นวัตกรรมและดีไซน์ ที่จะนิยามคำว่า “หรูหรา” ในยุคใหม่
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ขนทัพยนตรกรรมสุดพิเศษมาร่วมจัดแสดงกว่า 20 รุ่น โดยมี 7 รุ่นไฮไลท์ที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน:
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: การมาถึงของ “King of Off-Road” ในเวอร์ชันไฟฟ้า 100% เป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง รุ่นนี้สานต่อตำนาน G-Class กว่า 45 ปี ด้วยการผสมผสานขุมพลังไฟฟ้าเต็มพิกัด มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่ให้กำลังสูงสุด 587 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 1,164 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที แต่ยังคงเอกลักษณ์ของ G-Class ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมอันเป็นตำนาน ทำให้ G 580 with EQ Technology เป็นนิยามใหม่ของรถยนต์ออฟโรดหรูที่ผสานสมรรถนะไร้ขีดจำกัดเข้ากับความยั่งยืนอย่างลงตัว ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท
Mercedes-Benz G 450 d: สำหรับผู้ที่ยังคงหลงใหลในเสน่ห์ของเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง G 450 d มาพร้อมขุมพลังดีเซล OM 656M ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร ผสานกับระบบ ISG2 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และประหยัดน้ำมัน ทำให้ G 450 d เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะและความอเนกประสงค์ในแบบฉบับ G-Class ราคาเริ่มต้น 12.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: นี่คือการปฏิวัติวงการ SUV หรูระดับ Top-End Luxury ด้วยการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 658 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที แบตเตอรี่ขนาด 118.0 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 615 กิโลเมตร (WLTP) เป็นการผสานสุดยอดเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ากับความหรูหราตามแบบฉบับ Maybach ได้อย่างไร้ที่ติ ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: สุดยอดแห่งยนตรกรรมซีดานระดับไฮเอนด์ S 580 e Premium คือการสะท้อนเอกลักษณ์ความสง่างามของ Mercedes-Maybach อย่างแท้จริง มาพร้อมการผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production เป็นประเทศแรกในโลก และเป็นครั้งแรกที่ประกอบในประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดมอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ผสานกับดีไซน์ภายนอกและภายในที่ประณีต พร้อมเทคโนโลยีที่ยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือกว่าทุกจินตนาการ ราคา 11.3 ล้านบาท
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive: ไอคอนแห่งความหรูหรา E 350 e Exclusive กลับมาพร้อมดีไซน์คลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยโลโก้ “ดาวลอย” บนฝากระโปรงหน้า ยกระดับด้วยเทคโนโลยี Plug-in HYBRID เจเนอเรชันที่ 4 ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 313 แรงม้า แบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 25.4 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้มากกว่า 100 กิโลเมตร (WLTP) มอบความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ความประหยัด และความหรูหรา ราคา 3.65 ล้านบาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: V-Class รุ่นนี้ คือนิยามใหม่ของรถตู้หรู 6 ที่นั่ง นำเข้าตามมาตรฐานยุโรป ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งการเดินทางของครอบครัว หรือการใช้งานในเชิงธุรกิจ มอบความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส ด้วยการตกแต่งภายในที่พิถีพิถัน พื้นที่กว้างขวาง และฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัย ขุมพลังดีเซล 1,950 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 237 แรงม้า พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC มอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและทรงพลัง ราคา 5.82 ล้านบาท
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Pro: Vito 119 CDI Tourer Pro คือรถแวนอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ที่ผสานความสมบูรณ์แบบระหว่างฟังก์ชันการใช้งานและความหรูหราตามแบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง เทคโนโลยีระดับเฟิร์สคลาส เครื่องยนต์ดีเซล 1,950 ซีซี กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมเกียร์ 9G-TRONIC มอบการขับขี่ที่ราบรื่น เหมาะสำหรับทุกการเดินทาง ทั้งในครอบครัวและทางธุรกิจ ราคา 3.1 ล้านบาท
ประสบการณ์ดิจิทัลเหนือระดับและการเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัด
ภายในบูธ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ล้ำสมัย ด้วยการให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้งานแอปพลิเคชัน Mercedes-Benz เพื่อสั่งการรถยนต์ที่จัดแสดงได้จากระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบปรับอากาศ, การค้นหาตำแหน่งรถ หรือแม้กระทั่งการตรวจสอบสถานะของรถ บริการเสริม Digital Extras ที่มีให้พร้อมกับรถยนต์ตั้งแต่แรกซื้อ และใช้งานได้นานสูงสุด 36 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ที่เชื่อมต่อถึงกัน (Connected Cars) อย่างเต็มรูปแบบ
ข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า: “Worry-Free Package”
สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2567 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ “Worry-Free Package” ที่มอบความอุ่นใจและความสะดวกสบายในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ประกอบด้วย:
เงินชำระส่วนแรก 0% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เมื่อทำสัญญา MyStar
ฟรีค่าบริการชาร์จไฟ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เป็นเวลา 1 ปี ผ่านสถานีที่กำหนดของผู้ให้บริการ SHARGE
ฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง
รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 250,000 กิโลเมตร
เงื่อนไขการทำสัญญา MyStar เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด เงื่อนไขการรับประกันและบริการเป็นไปตามที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด
สินค้าคอลเลคชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษ: เติมเต็มประสบการณ์ความหรูหรา
นอกเหนือจากยนตรกรรมอันน่าทึ่งแล้ว บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังจัดแสดงสินค้า Mercedes-Benz Collection และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าสำหรับเด็ก หรืออุปกรณ์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ:
ซื้อสินค้าประดับยนต์หรือคอลเลคชั่น 2 ชิ้น ยอดตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับฟรีทันทีอีก 1 ชิ้น (มูลค่าต่ำสุด)
มอบของขวัญสุดพิเศษ กระเป๋าเมอร์เซเดส-เบนซ์ (มูลค่า 12,250 บาท) สำหรับผู้มียอดซื้อสูงสุดในแต่ละวันตามที่กำหนด
ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes
สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต UOB Mercedes ที่ชำระค่าจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่านช่องทางออนไลน์ 50,000 บาทขึ้นไปภายในงาน รับสิทธิ์แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% เมื่อใช้คะแนนสะสมเท่ากับยอดจอง (จำกัด 1 สิทธิ์/ผู้ถือบัตร/ตลอดรายการ) พร้อมรับบัตรกำนัลเซ็นทรัลสูงสุด 2,500 บาท และคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด 25 เท่า
สรุป
งาน Motor Expo 2024 เป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยคอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ที่มอบประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ การนำเสนอ G 580 with EQ Technology ซึ่งเป็นการเปิดศักราชใหม่ของ G-Class ในยุคพลังงานไฟฟ้า ควบคู่ไปกับยนตรกรรมหรูหราอย่าง Mercedes-Maybach EQS SUV และ Mercedes-Maybach S 580 e Premium สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์หรูที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต
หากคุณกำลังมองหายานยนต์ที่จะสะท้อนตัวตน ความสำเร็จ และวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่อนาคต บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ณ Motor Expo 2024 คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด สัมผัสประสบการณ์ “Own Your Star” และค้นหารถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณได้แล้ววันนี้
ขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจในยนตรกรรมสุดหรูและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันน่าจดจำนี้ ณ บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงาน Motor Expo 2024 แล้วคุณจะค้นพบว่า “การเป็นเจ้าของดาว” นั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าที่เคย
