Prodrive P25: ตำนาน 22B ฟื้นคืนชีพ สู่ขุมพลังเหนือระดับ สู่สายตาชาวไทย
ในวงการยนตรกรรมระดับโลก การกลับมาของตำนานย่อมสร้างความตื่นเต้นเสมอ โดยเฉพาะเมื่อตำนานนั้นผูกพันกับจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอันเข้มข้น Prodrive P25 คือการตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของ Subaru Impreza 22B รถยนต์ในตำนานที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะอันน่าภาคภูมิใจของ Subaru ในการแข่งขัน World Rally Championship (WRC) และครั้งนี้ Prodrive P25 ได้เดินทางมาปรากฏตัวต่อสายตาชาวไทยในฐานะ “อัลตร้า แรร์ ไอเท็ม” ซึ่งเป็นเพียงคันเดียวที่ได้รับโควต้านำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของรถยนต์สมรรถนะสูงที่ผสานประวัติศาสตร์อันยาวนานเข้ากับเทคโนโลยีแห่งอนาคต
จากตำนานสู่การตีความใหม่: Prodrive P25 ที่เหนือกว่ารุ่นพี่
Subaru Impreza 22B ในตำนานที่ถูกผลิตขึ้นเพียง 424 คัน ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดรถยนต์มือสอง แต่ Prodrive กลับมองเห็นศักยภาพในการ “สร้างสรรค์” สิ่งที่เหนือกว่า ด้วยการจำกัดการผลิตเพียง 25 คันทั่วโลกสำหรับ Prodrive P25 ทำให้รถคันนี้มีคุณค่าและหายากยิ่งขึ้นไปอีก หนึ่งในจำนวนอันน้อยนิดนั้น ได้ถูกส่งตรงมายังประเทศไทยแล้ว
การตีความใหม่ของ Prodrive P25 เริ่มต้นจากพื้นฐานของ Subaru WRX รุ่น 2 ประตูแบบดั้งเดิม (ไม่ใช่ 22B โดยตรง) แต่สิ่งที่ทำให้ P25 แตกต่างอย่างสิ้นเชิงคือการใช้วัสดุศาสตร์ขั้นสูง การออกแบบตัวถังทั้งหมดสร้างขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์โดย Peter Stevens ผู้ออกแบบรูปลักษณ์ของรถแข่งแรลลี่ 22B ต้นฉบับ และเป็นที่รู้จักในผลงานการออกแบบ McLaren F1 อันโด่งดัง วัสดุคอมโพสิตน้ำหนักเบายังถูกนำไปใช้กับฝากระโปรงหน้า หลังคา ซุ้มล้อ กระจกมองข้าง สปอยเลอร์หลัง และกันชนรอบคัน ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถรวมเหลือเพียง 1,200 กิโลกรัม เทียบกับ 1,245 กิโลกรัมของ 22B แบบดั้งเดิม การลดน้ำหนักยังรวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์รถที่สมบูรณ์แบบด้านสมรรถนะ
หัวใจที่เต้นแรงด้วยพลัง 400 แรงม้า และเทคโนโลยีช่วงล่างล้ำสมัย
เบื้องหลังความงดงามของ Prodrive P25 ซ่อนเร้นขุมพลังที่ปลุกเร้าอะดรีนาลีนได้อย่างแท้จริง เครื่องยนต์ Subaru 2.5 ลิตร รุ่นล่าสุดได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยการปรับปรุงลูกสูบ ก้านสูบ และชุดวาล์วใหม่ทั้งหมด เสริมด้วยการอัดอากาศจากเทอร์โบชาร์จ Garrett อินเตอร์คูลเลอร์ประสิทธิภาพสูง และระบบไอเสียไทเทเนียมจาก Akrapovič ผลลัพธ์คือพละกำลังมหาศาล 400 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับ 22B รุ่นต้นตำรับ
กำลังทั้งหมดถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Sequential 6 จังหวะ ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วถึง 80 มิลลิวินาที ส่งผลให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้น้อยกว่า 3.5 วินาที เร็วกว่า 22B เดิมถึงประมาณ 1 วินาที
นอกจากขุมพลังที่น่าเกรงขาม ระบบช่วงล่างและระบบเบรกก็ได้รับการอัพเกรดให้สมกับความเป็นรถระดับ Ultra Rare ไอเท็ม โดยมาพร้อมเฟืองท้ายแบบแอ็คทีฟ ชุดช่วงล่างจาก Bilstein ที่สามารถปรับได้ และระบบเบรกจาก AP Racing พร้อมจานเบรกหน้าขนาด 380 มม. จับคู่กับคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบ ส่วนจานเบรกหลังมีขนาด 350 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ การผสมผสานทั้งหมดนี้รับประกันการควบคุมที่แม่นยำ และการหยุดรถที่ทรงพลังในทุกสถานการณ์
ปรากฏการณ์ที่ไม่ควรพลาด: Prodrive P25 ที่งาน Bangkok International Motor Show 2023
สำหรับแฟนพันธุ์แท้ Subaru และผู้ที่หลงใหลในรถยนต์สปอร์ตระดับ Ultra Rare ไอเท็ม Prodrive P25 คือปรากฏการณ์ที่ไม่ควรพลาด ด้วยราคาค่าตัว 55 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความพิเศษ หายาก และคุณค่าที่เหนือระดับ รถคันนี้ถูกนำเข้าโดย Target Car Center (Thailand) ซึ่งเป็นผู้จำหน่าย Brabus แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย การได้ยลโฉมคันจริงของ Prodrive P25 ที่บูธ Target Car Center (Thailand) ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 44 ปี 2566 ถือเป็นโอกาสอันดีที่นักเลงรถจะได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของตำนานที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ ผสานเข้ากับเทคโนโลยีและสมรรถนะที่ก้าวล้ำ
การเดินทางสู่ยุคใหม่ของยานยนต์: รถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดที่น่าจับตามอง
นอกจาก Prodrive P25 ที่เป็นดั่งอัญมณีแห่งวงการรถยนต์สมรรถนะสูงแล้ว งาน Motor Show 2023 ยังเป็นเวทีสำคัญในการจัดแสดงยนตรกรรมแห่งอนาคตที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดรถยนต์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Mercedes-Benz EQB: SUV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวยุคใหม่
Mercedes-Benz EQB คอมแพคเอสยูวีไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจ EQB มาพร้อมกับการออกแบบที่ผสมผสานสไตล์ออฟโรดเข้ากับเส้นสายแห่งอนาคตตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-EQ แผงด้านหน้าสีดำเงา, ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light สีฟ้า, ไฟท้าย LED แบบแถบยาวสะท้อนความพรีเมียม และล้ออัลลอยดีไซน์ล้ำยุคขนาดสูงสุด 20 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารเน้นความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยหน้าจอ Widescreen Cockpit ขนาดใหญ่ ควบคุมผ่านระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียง “Hey Mercedes” ได้ เบาะนั่งแถวสองพับได้แบบ 40:20:40 และแถวสามพับเรียบได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสูงสุด รองรับการติดตั้งเบาะนั่งเด็กได้ถึง 4 จุด
ในด้านสมรรถนะ EQB รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สูงสุด 100 กิโลวัตต์ ใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการชาร์จจาก 10-80% แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีความจุ 66.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดตามมาตรฐาน WLTP ถึง 419 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Driving Assistance Package และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC เพื่อความมั่นใจในทุกสภาวะถนน
Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC: SUV Plug-in Hybrid สมรรถนะรอบด้าน
Mercedes-Benz GLC ถือเป็นไอคอนของ SUV สุดหรูที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครอบครัว และผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง รุ่น GLC 350 e 4MATIC ที่ได้รับการอัพเกรดขุมพลัง Plug-in Hybrid เป็นการผสมผสานความลงตัวระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มอบทั้งความเงียบสงบ ไร้มลพิษ ในการขับขี่ในเมือง และความยืดหยุ่นในการเดินทางไกล
ดีไซน์ภายนอกได้รับการปรับให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้า DIGITAL LIGHT ที่ล้ำสมัย ผสานกับภายในห้องโดยสารที่เน้นความหรูหราด้วยจอแสดงผล Widescreen Cockpit ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสตรงคอนโซลกลางขนาด 11.9 นิ้ว พร้อมระบบ MBUX เจเนอเรชั่นล่าสุด
หัวใจของ GLC 350 e 4MATIC คือเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร M254 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 31.2 kWh ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุดถึง 130 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จ DC 60kW และ AC 11 kW ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที
Brabus Thailand: ยกระดับประสบการณ์ Ultra Luxury และ Super Luxury
Brabus (Thailand) by Target Car Center (Thailand) Co.,Ltd. นำทัพยนตรกรรมสุดพิเศษระดับ Ultra Luxury และ Super Luxury มาจัดแสดงอย่างอลังการ พร้อมด้วย Big Surprise กับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษแบบ World Premiere ครั้งแรกในโลก และ Brabus Thailand ยังจัดทัพเปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษเป็นครั้งแรกในเอเชียถึง 3 รุ่นอีกด้วย
ภายใต้การนำของนายชัชวัฏ สุวรรณโณชิน กรรมการผู้จัดการ Brabus (Thailand) by Target Car Center (Thailand) ได้นำสุดยอดยนตรกรรมจาก Brabus ซึ่งได้ร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายแบรนด์ มาจัดแสดง อาทิ Mercedes-Benz G400d X Brabus Adventure Package, Brabus Smart EQ for TWO, Brabus Motorcycle 1300 R, Brabus Marine Shadow 500, Mini David Brown Osille Edition, Brabus Mercedes-Benz Classic 280 SL Pagoda รวมถึงรถยนต์รุ่นพิเศษ 3 รุ่นจาก Brabus ที่เปิดตัวครั้งแรกในเอเชีย และที่สำคัญที่สุดคือการเปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษ World Premiere ครั้งแรกในโลก
Brabus Thailand คาดการณ์ยอดขายในปีนี้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตลาดรถยนต์ประสิทธิภาพสูง หรูหรา และแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความสำเร็จในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่มียอดขายที่ดีเยี่ยม อันเป็นผลพวงมาจากความเชื่อมั่นที่กลับคืนสู่สภาวะปกติ
อนาคตแห่งยนตรกรรม: เทคโนโลยีแบตเตอรี่และทิศทางตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Audi บริษัทรถยนต์หรูระดับโลก ได้จับมือกับสองบริษัทแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง BYD และ CATL เพื่อนำแบตเตอรี่ LFP ของ BYD และ NMC ของ CATL มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ที่ผลิตในประเทศจีน โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้รหัส “L” ซึ่งหมายถึงรุ่นที่ผลิตในจีนเท่านั้น เช่น Audi Q6L e-tron, Q6L Sportback e-tron และ A6L e-tron
การร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดจีน และความมุ่งมั่นของ Audi ในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม FAW-Audi JV กำลังสร้างโรงงานผลิตรถ EV ขนาดใหญ่ในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน ด้วยกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี คาดว่า Audi จะใช้แบตเตอรี่ BYD ในรุ่นเริ่มต้น และแบตเตอรี่ CATL ในรุ่นท็อป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
การแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้ากำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดย Audi ยังได้ดีลกับ SAIC เพื่อนำแพลตฟอร์ม iO Origin จาก IM Motors แบรนด์ EV ของ SAIC มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่น ควบคู่ไปกับการใช้แพลตฟอร์ม PPE และ IM’s iO Origin ในตลาดจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นในการทดลองตลาด
Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic 2023: Compact Car ที่ครบเครื่องยิ่งขึ้น
Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic โฉมใหม่ปี 2023 มาพร้อมกับการปรับปรุงที่รอบด้าน ทั้งดีไซน์ภายนอกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ CLS, ภายในที่หรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ MBUX 7 และระบบ ADAS ที่ครบครัน รวมถึงขุมพลัง 1.3 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 163 แรงม้า ซึ่งถือว่าจัดจ้านที่สุดในพิกัดเดียวกัน
การปรับโฉมภายนอกยังคงความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดไฟหน้า LED High-Performance, กระจังหน้า Star pattern, กันชน AMG Bodystyle และฝากระโปรงหน้าแบบ Power Domes ล้ออัลลอย AMG 5-twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว และที่โดดเด่นคือการติดตั้งหลังคา Panoramic Roof เป็นครั้งแรก
ภายในห้องโดยสารยังคงความหรูหรา แต่เพิ่มความทันสมัยด้วยระบบ MBUX 7 ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว, ระบบ AI ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน, รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทย และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay/Android Auto แบบไร้สาย เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre พร้อมหน่วยความจำ และช่องแอร์ด้านหลังที่เพิ่มเข้ามา
ขุมพลัง 1.3 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 163 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ 7G-DCT อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.3 วินาที และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17-18 กม./ลิตร ในโหมด ECO ระบบ Cylinder Shut-off ช่วยประหยัดน้ำมัน ระบบช่วงล่าง Lowered comport suspension ให้ความหนึบแน่น และมั่นใจในการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ADAS ครบครัน
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า: การเติบโตอย่างก้าวกระโดด และแบรนด์จีนที่มาแรง
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเดือนมีนาคม 2023 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายกว่า 8 แสนคันทั่วโลก โดย Tesla Model Y ทำสถิติยอดขายอันดับ 1
นอกจากนี้ ตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วโลกก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมียอดขายรวมกันประมาณ 1 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2022
เมื่อพิจารณาจาก 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดขายสูงสุด พบว่าส่วนใหญ่เป็นแบรนด์จีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด และความมั่นใจที่ผู้บริโภคทั่วโลกมีต่อแบรนด์จีนมากขึ้น
Hongqi (หงฉี): สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของผู้นำจีน สู่การรุกตลาดโลก
Hongqi แบรนด์รถยนต์หรูและเก่าแก่ที่สุดของจีน ซึ่งผลิตโดย FAW Group ได้รับการยอมรับในฐานะ Iconic ของความยิ่งใหญ่ของผู้นำจีน รถยนต์ Hongqi ถูกใช้มาตั้งแต่ยุค ‘เหมา เจ๋อตง’ จนถึง ‘สี จิ้นผิง’ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
ประวัติศาสตร์ของ Hongqi เริ่มต้นขึ้นในปี 1958 และเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ถูกใช้โดยผู้นำจีนมาหลายยุคสมัย เช่น จ้าว จื่อหยาง, เจียง เจ๋อหมิน และ หู จิ่นเทา
การร่วมมือกับ Ford Motor ในช่วงปี 1990s ทำให้ Hongqi ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ใหม่ที่ผสมผสานศิลปะตะวันออกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการผลิตจำนวนมากขึ้นในปี 1998
ปัจจุบัน Hongqi ได้รับการยกระดับด้วยการร่วมงานกับ Giles Taylor อดีตทีมดีไซน์ Rolls-Royce ทำให้รุ่น HONGQI H9 มีความหรูหราสง่างามยิ่งขึ้น ส่วนรถที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ใช้ในการประชุม APEC ที่ผ่านมา คือรุ่น N701 ซึ่งเป็นรถที่สั่งทำพิเศษเพื่อผู้นำ และไม่มีวางจำหน่าย
ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความสนใจจากผู้นำในอาเซียน ทำให้ Hongqi กลายเป็นแบรนด์ที่น่าจับตามองในตลาดโลก
Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic: ความสปอร์ตและสมรรถนะ Plug-in Hybrid
Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic คืออีกหนึ่งยนตรกรรม Plug-in Hybrid ในตระกูล The new C-Class ที่พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ด้วยราคา 3,350,000 บาท มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Lithium-ion เจเนอเรชั่นที่ 4 ความจุ 25.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร
สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง การชาร์จ DC ใช้เวลาเพียง 30 นาที (0-100%) ส่วน AC ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ผสมผสานความสปอร์ตและความหรูหรา ภายในถอดแบบมาจาก S-Class ด้วยหน้าจอ LCD ความละเอียดสูง, จอสัมผัสแนวตั้งขนาด 11.9 นิ้ว และระบบ MBUX ล่าสุด
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select: ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม
Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ราคา 3,100,000 บาท คือที่สุดแห่งความหรูหราในรูปแบบรถตู้เอนกประสงค์ สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุด 11 ที่นั่ง มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 1950 ซีซี เจเนอเรชั่นล่าสุดที่ให้กำลังมากขึ้น ประหยัดน้ำมันลดลง ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.6 วินาที
ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียม, ไฟหน้า LED Intelligent Light และล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมประตูบานเลื่อนไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ Thermotronic ตอบสนองทุกการเดินทาง
BMW vs Mercedes-Benz: การแข่งขันอันดุเดือดในตลาดรถหรู
การแข่งขันในตลาดรถหรูระหว่าง BMW และ Mercedes-Benz ในประเทศไทยยังคงดุเดือด โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 BMW มียอดจดทะเบียน 10,544 คัน และ Mercedes-Benz 10,255 คัน
BMW ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรูในระดับโลกมาอย่างยาวนาน แต่ Mercedes-Benz ก็ได้แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
Rich Cars Rental: บริการเช่ารถหรู เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าระดับบน
Rich Cars Rental ผู้ให้บริการเช่ารถระดับไฮเอนด์ในประเทศไทย ขยายฐานลูกค้าทั่วไปด้วยการให้บริการเช่ารถที่ใช้เพียงใบขับขี่และบัตรประชาชน ราคาเริ่มต้นหลักพันบาท
ปัจจุบันมีรถไฮเอนด์ให้เลือกกว่า 120 คัน แบ่งเป็นรถซีดาน/SUV, รถสปอร์ต และซูเปอร์คาร์ ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 7,900 บาท จนถึง 129,000 บาทต่อวัน Rich Cars Rental ยังมีการลงทุนเพิ่มรถซูเปอร์คาร์ และรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนด้านการตลาดออนไลน์และออฟไลน์
Porsche 911 Targa 4 GTS Edition 50 Years Porsche Design: เฉลิมฉลองตำนานแห่งการออกแบบ
Porsche ประเทศไทย โดย AAS Group ฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ Porsche Design ด้วยการนำเสนอ Porsche 911 Targa 4 GTS Edition 50 Years Porsche Design ที่มีจำนวนการผลิตจำกัดเพียง 750 คันทั่วโลก และเป็นคันแรกคันเดียวในไทย
รถรุ่นพิเศษนี้โดดเด่นด้วยสีตัวถังภายนอกและภายในที่ตกแต่งด้วยวัสดุ Sport-Tex สีดำสุดคลาสสิค พร้อมตราสัญลักษณ์ ‘Porsche Design 50th Anniversary Edition’ เพื่อสะท้อนนิยามความเป็นตัวตนด้านการออกแบบของแบรนด์ Porsche Design
Mercedes-Benz C-Class Plug-in Hybrid: สปอร์ตซีดานที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย
Mercedes-Benz C350 e AMG Dynamic รุ่นประกอบไทย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 313 แรงม้า วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 100 กม. ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตหรูหรา ภายในถอดแบบ S-Class ด้วยจอ Widescreen Cockpit และ MBUX ล่าสุด
BMW Group: ทัพยนตรกรรมหรูครบทุกแบรนด์ ในงาน Motor Expo 2022
BMW Group เตรียมยกทัพรถหรู ทั้ง BMW, MINI และ BMW Motorrad เข้าร่วมงาน Motor Expo 2022 ไฮไลท์เด่น ได้แก่ M4 Competition M xDrive Coupé (50 Jahre M Edition) จำนวนจำกัดเพียง 5 คัน, BMW Series 3 ใหม่, BMW i7 รถยนต์ไฟฟ้า, MINI Cooper S Hatch Multitone Edition และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า BMW CE 04
BMW X7 xDrive40d M Sport: SAV ขนาดใหญ่ ประกอบในไทย
BMW X7 xDrive40d M Sport รุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ Mild Hybrid 48 โวลต์ ส่งกำลัง 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที
ดีไซน์ภายนอกหรูหราสง่างาม เสริมด้วยชุดแต่ง M Sport ล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง หรูหราด้วยเบาะหนัง Merino, การตกแต่งด้วยลายไม้และผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’, เพดาน Panorama glass roof Sky Lounge และระบบความบันเทิง Professional สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
Lucid Air: รถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จเร็วที่สุดในโลก
Lucid Air รถซีดานหรูพลังงานไฟฟ้า 100% โดดเด่นด้วยดีไซน์ สมรรถนะ และการออกแบบ ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท สามารถรับกระแสไฟฟ้า DC Fastcharge ได้สูงสุด 300 kW จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่รับไฟได้มากที่สุดในโลก
Lucid Air มอบระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 836 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว ด้วยแนวคิด Lucid Space Concept ที่ลดขนาดระบบส่งกำลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร
Mercedes-Benz S-Class Plug-in Hybrid และ EQS: เทคโนโลยีแห่งอนาคตสู่ตลาดไทย
Mercedes-Benz เตรียมเปิดตัว Mercedes-Benz S-Class Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS ที่ผลิตในประเทศไทย สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Mercedes-Benz ทั่วโลกที่จะมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2030
Mercedes-Benz S-Class Plug-in Hybrid รุ่น S 580 e สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 100 กม. จากแบตเตอรี่ 28.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่วน EQS เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยดีไซน์ MBUX Hyperscreen และระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ
Maserati MC20: ซูเปอร์คาร์ยุคใหม่แห่งตำนานตรีศูล
Maserati MC20 คือจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ Maserati ที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งสนามแข่ง ด้วยเครื่องยนต์ Nettuno V6 Twin-turbo 630 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชม.
ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ประตูเปิดแบบปีกผีเสื้อ และการออกแบบภายในที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเหนือระดับ
BMW vs Mercedes-Benz: การช่วงชิงตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรู
BMW Group ประกาศความพร้อมในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรูในปี 2021 โดยได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น อาทิ X7 xDrive30d M Sport, 330Li M Sport, MINI Cooper S Countryman และ BMW R 18 Classic First Edition
ในขณะเดียวกัน Mercedes-Benz ก็เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ต่อเนื่อง เพื่อทวงคืนตำแหน่งผู้นำตลาดที่เสียไป
Lamborghini Aventador LP 720-4 50 Anniversario: ตำนานแห่งซูเปอร์คาร์
Aventador LP 720-4 50 Anniversario คือหนึ่งในรุ่นพิเศษของ Lamborghini ที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ รุ่นนี้เป็นที่ต้องการสูงในตลาดรถยนต์มือสอง
Mercedes-Benz GLC: SUV พรีเมียมที่ได้รับการปรับปรุง
Mercedes-Benz GLC รุ่นปรับปรุงใหม่ MY2021 มาพร้อมการเพิ่มออพชั่นและความปลอดภัยในรุ่น GLC 220 d ทั้งแบบปกติและ Coupe แต่มีการตัดบางออปชั่นออกเพื่อรักษาตำแหน่งราคา
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium: Full-Size SUV 7 ที่นั่ง ประกอบในไทย
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium เป็น Large Full-Size SUV 7 ที่นั่ง ที่ผลิตและจำหน่ายในไทย นำเสนอความหรูหรา ความปลอดภัย และความสะดวกสบายเทียบเท่า S-Class
Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC: Compact SUV ขุมพลัง AMG
Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC รุ่นประกอบไทย มาพร้อมเครื่องยนต์ AMG 2.0 ลิตร เทอร์โบ 306 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.1 วินาที พร้อมชุดแต่ง AMG รอบคัน
บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งยานยนต์ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและทางเลือกที่หลากหลาย
งานมอเตอร์โชว์ 2023 และการอัพเดทล่าสุดของวงการยานยนต์ สะท้อนให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ตั้งแต่การกลับมาของตำนานรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง Prodrive P25 ไปจนถึงการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดอย่างเต็มรูปแบบ
การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ก้าวกระโดด การลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างแบรนด์รถหรูจากเยอรมนีและแบรนด์จีนที่มาแรง ล้วนบ่งชี้ว่าผู้บริโภคกำลังจะมีทางเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะ ความหรูหรา เทคโนโลยี และความยั่งยืน นี่คือยุคทองของวงการยานยนต์อย่างแท้จริง
อย่าพลาดโอกาสสัมผัสประสบการณ์ยนตรกรรมแห่งอนาคต!
เตรียมพบกับยนตรกรรมที่เหนือระดับจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งสำคัญ ที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสและเป็นเจ้าของยนตรกรรมที่คุณใฝ่ฝันได้ง่ายกว่าที่เคย.
