Mercedes-Benz GLS: นิยามใหม่แห่งความหรูหราและสมรรถนะในประเทศไทย
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียม การเปิดตัว Mercedes-Benz GLS ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ดาวสามแฉกในการตอบสนองความต้องการของตลาดไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการนำเสนอ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ในเวอร์ชันประกอบในประเทศ (CKD) ที่ไม่เพียงแต่จะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภคชาวไทย แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดในภูมิภาคนี้
การประกอบในประเทศ: กุญแจสำคัญสู่การเข้าถึงที่เหนือกว่า
การที่ Mercedes-Benz เลือกประกอบ GLS ในประเทศไทย ถือเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด การผลิตรถยนต์ในประเทศไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนบางส่วน ส่งผลให้ราคาจำหน่ายเข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเวอร์ชันนำเข้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของฐานการผลิตในไทย รวมถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ นี่คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ Mercedes-Benz GLS ราคา ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นนี้ กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (Large Full-Size SUV) ที่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีขั้นสูง
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium: ความสมบูรณ์แบบที่สัมผัสได้
เมื่อพูดถึง Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นในความคิดคือความสง่างามไร้ที่ติ ผสานกับความแข็งแกร่งที่พร้อมรับทุกสภาพการขับขี่ การออกแบบภายนอกสะท้อนถึง DNA ของ Mercedes-Benz อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมและดูสง่างาม เริ่มต้นที่เทคโนโลยีไฟหน้า MULTIBEAM LED อันล้ำสมัย พร้อมระบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่ใช้หลอด LED กว่า 112 หลอดต่อโคมไฟหน้า ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่เวลากลางคืนได้อย่างดีเยี่ยม และการปรับความเข้มและความยาวของลำแสงได้อย่างอิสระ ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ เสริมด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาจาก AMG ขนาด 21 นิ้ว ที่มาพร้อมยางหน้า 275/45 R21 และยางหลัง 315/40 R21 ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นและสมรรถนะในการยึดเกาะถนน นอกจากนี้ บันไดข้างอะลูมิเนียมพร้อมปุ่มยางกันลื่น และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟไฟฟ้า ก็เป็นอีกองค์ประกอบที่เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับประสบการณ์การเข้า-ออกห้องโดยสาร
มิติตัวถังของ GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังคงเอกลักษณ์ไว้เท่าเทียมกับเวอร์ชันนำเข้า ด้วยความยาว 5,207 มม. กว้าง 2,030 มม. และสูง 1,823 มม. พร้อมฐานล้อที่ยาวถึง 3,135 มม. สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางอย่างเหลือเชื่อ
ภายในที่กว้างขวาง หรูหรา และปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz GLS คุณจะพบกับนิยามใหม่ของความสะดวกสบายและความหรูหราที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ท่าน การออกแบบเน้นความโปร่ง โล่ง สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มระยะฐานล้ออีก 60 มม. ทำให้พื้นที่สำหรับผู้โดยสารแถวสองมีความยืดหยุ่นสูง เบาะแถวสองสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ และยังสามารถเลื่อนถอยหลังได้อีก 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา หรือจะปรับเอนพนักพิงให้ได้มุมที่สบายที่สุดก็ทำได้สะดวก
ระบบ EASY-ENTRY คืออีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าประทับใจ ด้วยการพับเบาะแถวสองด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้การเข้า-ออกแถวที่สามทำได้ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ เบาะแถวที่สามเป็นแบบ Full-size สามารถรองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 194 ซม. นอกจากนี้ ความอเนกประสงค์ยังแสดงออกผ่านการพับเบาะแถวสองและสามได้อย่างอิสระ เมื่อพับราบทั้งหมด จะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร ซึ่งตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ตั้งแต่การขนสัมภาระจำนวนมากไปจนถึงการเดินทางพักผ่อนของครอบครัว
เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทาง ระบบไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่ปรับได้ถึง 64 สี และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 5 โซน ช่วยสร้างสุนทรียภาพที่เหนือระดับให้กับทุกการเดินทาง
เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ: ประสบการณ์การเชื่อมต่อและบันเทิงขั้นสูงสุด
แม้จะเป็นรุ่นประกอบในประเทศ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ก็ยังคงอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน แม้จะมีการตัดออปชันบางส่วนออก เช่น ระบบ Head-up display แต่ก็แลกมาด้วยการเพิ่มออปชันที่น่าสนใจ อาทิ จอสัมผัสสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 จอ ขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมหูฟังไร้สาย 2 ชุด ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) อันเป็นหัวใจหลักของระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อ
MBUX มาพร้อมหน้าจอ Digital Widescreen Cockpit แบบต่อเนื่อง 2 จอ ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส หรือจะป้อนข้อมูลผ่าน Hard Disc Navigation ที่มีความแม่นยำสูงก็ได้เช่นกัน รองรับการสั่งการด้วยเสียง LINGUATRONIC ผ่านหน้าจอสัมผัส หรือ Touchpad ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและแม่นยำ ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® มอบประสบการณ์เสียงที่สมจริง และการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay™ & Android Auto™ ก็เป็นมาตรฐานที่ขาดไม่ได้
บริการ ‘Mercedes me connect’ ยังคงเป็นจุดเด่นสำคัญ ที่เพิ่มความสะดวกสบายและการควบคุมรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน ช่วยให้การใช้ชีวิตร่วมกับรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่นและไร้ข้อกังวล
ขุมพลังดีเซล V6: ประสิทธิภาพที่มาพร้อมความประหยัด
ภายใต้ฝากระโปรงหน้าของ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium คือเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร รหัส OM656 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้าที่ 3,400 – 4,600 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตร ที่ 1,200-3,200 รอบ/นาที ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงศักยภาพในการออกตัวที่ยอดเยี่ยมและการเร่งแซงที่มั่นใจได้
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7 วินาที และความเร็วสูงสุด 227 กม./ชม. แสดงให้เห็นว่า GLS ไม่ได้เป็นเพียงรถที่เน้นความหรูหรา แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะที่สปอร์ต
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อมอบอัตราเร่งที่ดีที่สุด ความนุ่มนวลสูงสุด และที่สำคัญคือการช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 6.5% ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Full time” แบบ 4MATIC ช่วยเสริมการควบคุมรถและการทรงตัวบนพื้นผิวที่เปียกลื่น หรือแม้แต่การขับขี่แบบออฟโรด ให้ความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
ระบบช่วงล่าง AIRMATIC ให้ความนุ่มนวลตลอดการเดินทาง และเป็นครั้งแรกที่จะได้พบกับฟังก์ชันเตรียมรถเข้าสู่เครื่องล้างอัตโนมัติ ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ AIRMATIC ผ่านการสั่งงานบนหน้าจอ MBUX
ความปลอดภัยเหนือระดับ: ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง
Mercedes-Benz ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกเสมอ และ GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ก็มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่หลากหลายและล้ำสมัย อาทิ:
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist): ลดความเสี่ยงในการชนขณะเปลี่ยนเลน และยังคงทำงานต่อเนื่อง 3 นาทีหลังดับเครื่องยนต์
ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist): เตือนและช่วยดึงรถกลับสู่ช่องทางเดิมหากตรวจพบความเสี่ยง
ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC): ปรับความเร็วและรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist): ช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของการชน
ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist): เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่เมื่อเจอสภาพลมแรง
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program): ป้องกันการเสียการทรงตัว
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control)
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง
Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ราคาที่น่าสนใจ: ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า
สิ่งที่ทำให้ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ในเวอร์ชันประกอบในประเทศมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง คือ ราคาจำหน่ายที่ถูกลงอย่างเห็นได้ชัดจากเวอร์ชันนำเข้า โดยมีราคาอยู่ที่ 6,499,000 บาท (จากเดิม 8,859,000 บาท) นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ SUV ระดับ Luxury ขนาด Full-Size ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยี ความหรูหรา และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม
บทสรุป
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium คือนิยามใหม่ของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย การประกอบในประเทศไม่เพียงแต่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ เทคโนโลยี และความหรูหราตามมาตรฐานของ Mercedes-Benz ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลัง ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย นี่คือรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จ ความใส่ใจในรายละเอียด และความต้องการที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับครอบครัว Mercedes-Benz GLS คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม
สัมผัสประสบการณ์แห่งความหรูหราและสมรรถนะเหนือระดับของ Mercedes-Benz GLS ได้แล้ววันนี้ที่ผู้จำหน่าย Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อค้นหารถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณ.

