BMW Xpo 2025: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์พรีเมียมมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของแบรนด์รถยนต์ระดับโลกอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BMW แบรนด์ที่ผมชื่นชมในด้านนวัตกรรมและสมรรถนะที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ล่าสุด งาน BMW Xpo ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2565 (2022) พร้อมยกระดับประสบการณ์การสัมผัสรถยนต์ BMW ให้เหนือกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่เพียงแค่การจัดแสดงยนตรกรรมสุดหรู แต่เป็นการผสมผสานการนำเสนอที่เข้าถึงง่าย ยืดหยุ่น และมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้าชาวไทย
BMW Xpo: นิยามใหม่ของการเข้าถึงยนตรกรรมระดับโลก
ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา งาน BMW Xpo ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ BMW Group Thailand ใช้ในการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุด รุ่นรถยนต์ที่หลากหลาย และแน่นอนที่สุดคือข้อเสนอที่น่าสนใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มองหาสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความหรูหราตามแบบฉบับ BMW โดยในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการปรับตัวที่น่าสนใจของแบรนด์ โดยเฉพาะการจัดงานที่กระจายตัวออกไปยังศูนย์การค้าชั้นนำทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ครอบคลุม 4 แห่ง ตลอด 4 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ และมุ่งตรงไปหาลูกค้าอย่างแท้จริง
ภาพรวมตลาดรถยนต์พรีเมียม: ความท้าทายและโอกาสภายใต้บริบทใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ได้เผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ในช่วงปี 2563 (2020) ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการผลิต อย่างไรก็ตาม BMW Group Thailand ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นในการปรับตัว สามารถทำผลงานได้ดีกว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศ และยังคงรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
คุณอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน BMW Group Thailand ได้กล่าวไว้ว่า แม้โลกจะเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทฯ ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ ตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ BMW และ MINI ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 แม้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ก็ถือว่าทำได้ดีกว่าภาพรวมตลาด และยังสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมได้อีกด้วย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าในแบรนด์
นอกจากนี้ เรายังเห็นการเติบโตที่น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์มือสองของ BMW ซึ่งสวนกระแสตลาด แสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่ยังคงอยู่ของรถยนต์ BMW และความต้องการที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ก้าวสู่อนาคต: รถยนต์ไฟฟ้าและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
BMW ไม่ได้หยุดอยู่แค่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ Plug-in Hybrid (PHEV) อย่างจริงจัง การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 4 รุ่น จากทั้งแบรนด์ BMW และ MINI ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คือก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์
ความร่วมมือกับ ChargeNow ในการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั่วประเทศ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น การมีสถานีชาร์จครอบคลุม 141 หัวจ่าย ใน 63 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนขยายต่อไปอีก บ่งชี้ถึงความพร้อมของ BMW ในการรองรับการใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือก
ยอดติดตั้ง BMW i Wallbox ที่บ้านและสำนักงานของลูกค้ากว่า 1,230 ตู้ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น การคาดการณ์ว่าจะสามารถติดตั้ง i Wallbox เพิ่มขึ้นอีกถึง 1,840 จุด สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ BMW ในการสร้าง Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
BMW Xpo 2025: คัดสรรสมรรถนะ หลากหลายทางเลือก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
มหกรรม BMW Xpo 2025 ไม่เพียงแต่เป็นการกลับมาของงานแสดงรถยนต์ครั้งสำคัญ แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ BMW ในการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น:
ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต: รถยนต์ Plug-in Hybrid ที่มอบความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV) ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบและทรงพลัง
สมรรถนะอันเร้าใจ: เครื่องยนต์เบนซินที่ตอบสนองทุกการขับขี่ และเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ประสิทธิภาพและความทนทาน
การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B10 สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ทุกรุ่น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการรับประกันเครื่องยนต์
คุณกัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด BMW Group Thailand เน้นย้ำว่า ภายในงาน BMW Xpo 2025 ลูกค้าจะพบกับยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ข้อเสนอสุดพิเศษที่งาน BMW Xpo 2025
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการกลับมาของ BMW Xpo และเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้า BMW Group Thailand ได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษไว้มากมาย ดังนี้:
สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ BMW และมีกำหนดส่งมอบรถภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 (2022):
BMW X1, BMW Series-2, BMW Series-3: รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
BMW Series-4, BMW Series-5, BMW X3, BMW X4, BMW X5, BMW 6 Series GT, BMW Z4: รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท
BMW Series-7, BMW X6, BMW X7, BMW Series-8, ทุกรุ่นในตระกูล BMW M และ BMW i: รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท
ทุกรุ่นที่จองในงาน: รับโมเดลรถยนต์ BMW Miniature Cars ฟรี!
ข้อเสนอทางการเงินพิเศษสำหรับผู้ที่เลือกซื้อรถยนต์ BMW ภายใต้ข้อตกลงกับ BMW Financial Services Thailand และมีกำหนดส่งมอบรถภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 (2022):
BMW X1 (sDrive18i Iconic / sDrive18d xLine / sDrive20d M Sport): อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นเพียง 15,999 บาท
BMW 320d M Sport / 330e M Sport: ประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 2 ปี พร้อมรับประกันมูลค่ารถยนต์ในอนาคตสูงสุด 60% ผ่อนรายเดือนเริ่มต้น 19,999 บาท
BMW Series-5 (รุ่น Plug-in Hybrid และ Diesel): ประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 2 ปี ขยายแพ็กเกจ BSI เป็น 6 ปี / 120,000 กิโลเมตร ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 5 ปีเต็ม สำหรับ BMW 520d M Sport และ BMW 530e M Sport
Rolls-Royce Motor Cars Bangkok: การยกระดับนิยามแห่งความหรูหรา
นอกเหนือจาก BMW แล้ว งานแสดงยานยนต์ในปี 2020 ยังได้เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับยนตรกรรมระดับ Ultra-Luxury จาก Rolls-Royce Motor Cars Bangkok ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งนำเสนอ “King of cars” หรือ Rolls-Royce Phantom ที่มีราคาแพงที่สุดในงานถึง 53.5 ล้านบาท สะท้อนถึงจุดสูงสุดของงานฝีมือ เทคโนโลยี และความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
Rolls-Royce Phantom โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตร ตัวถังสีทูโทน ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ห้องโดยสารแบบ Bespoke Interior พร้อม Starlight Headliner สร้างบรรยากาศราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน และ The Gallery ดีไซน์ Rivenslate บนแผงแดชบอร์ด Piano Black
ตามติดมาด้วย Rolls-Royce Wraith รถสปอร์ต 2 ประตู ที่ผสานความสง่างามกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ไฟหน้า LED, ชุดแต่งโครเมียมรมดำ และห้องโดยสาร Bespoke Interior ประตูแบบ Coach Door อันเป็นเอกลักษณ์
ปิดท้ายด้วย Rolls-Royce Cullinan SUV รุ่นแรกของแบรนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มองหาอิสระในการผจญภัย ด้วยเครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร 563 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร โครงสร้างอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา และห้องโดยสารที่สามารถปรับเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร
BMW กลับคืนสู่บัลลังก์: ปัจจัยสู่ความสำเร็จในตลาดรถหรู
ในปี 2020 เป็นปีที่ BMW สามารถทวงคืนตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยกลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังจากที่ Mercedes-Benz ครองความเป็นเจ้าตลาดมานานถึง 19 ปี การวิเคราะห์ปัจจัยสู่ความสำเร็จของ BMW นั้น สามารถสรุปได้เป็น 3 ข้อหลักๆ:
ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและพร้อมตอบสนอง: การเปิดตัว BMW 3 Series รุ่นประกอบในประเทศ ทำให้ราคาเข้าถึงง่ายขึ้นกว่ารุ่นนำเข้าถึง 400,000 บาท รวมถึงรุ่น X1 ที่มีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 2 ล้านบาท และการทยอยเปิดตัวรุ่นอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ BMW มีรถพร้อมส่งมอบ สร้างความได้เปรียบในสภาวะตลาดที่ผันผวน
การปรับตัวรับมือวิกฤต COVID-19: แม้ทุกแบรนด์จะได้รับผลกระทบ แต่ Mercedes-Benz กลับได้รับผลกระทบหนักกว่า เนื่องจากยอดขายรถฟลีตที่หายไปจากการท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก ขณะที่ BMW มีการจัดงานที่โชว์รูมแทนการเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง
โปรแกรม “BMW Ultimate Joy”: โปรแกรมที่มอบสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์สุดพิเศษให้กับลูกค้า BMW ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมกอล์ฟระดับโลก, การแข่งขันมาราธอน หรือการอบรมขับรถแข่ง โปรแกรมนี้สร้างความผูกพันและความจงรักภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตของการแข่งขันในตลาดรถหรู
ปี 2564 (2021) และปีต่อๆ ไป คาดว่าการแข่งขันในตลาดรถหรูจะยิ่งทวีความดุเดือดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ Mercedes-Benz พร้อมด้วยอาวุธหนักที่เตรียมไว้ในปี 2021 และยังมี Audi ที่พร้อมสอดแทรกสร้างเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ Plug-in Hybrid (PHEV) ในประเทศไทย
งาน Motor Show 2020 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน รถยนต์พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะ EV และ PHEV เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาด ตั้งแต่รุ่นราคาหลักแสนต้นๆ ไปจนถึงหลักล้าน การที่ผู้เล่นอย่าง MG นำเสนอ MG EP ในราคาต่ำล้าน ถือเป็นการเปิดประตูสู่รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคในวงกว้าง
Mitsubishi Outlander PHEV คืออีกหนึ่งตัวอย่างของรถ SUV ปลั๊กอินไฮบริด ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ญี่ปุ่นในการปรับตัวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า
สำหรับกลุ่มรถยนต์หรู แบรนด์ต่างๆ เช่น Mercedes-Benz, BMW, Audi, Porsche, Lexus, Jaguar และ Land Rover ต่างก็เร่งเครื่องทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและ Plug-in Hybrid อย่างจริงจัง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี
บทสรุป
BMW Xpo 2025 ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอรถยนต์ แต่คือการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงแบรนด์ BMW เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานยนตรกรรมที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีล้ำสมัย ข้อเสนอที่คุ้มค่า และการเข้าถึงที่ง่ายดายกว่าเดิม หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สะท้อนถึงสมรรถนะ ความหรูหรา และอนาคตของการขับเคลื่อน BMW Xpo คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด
โอกาสในการสัมผัสประสบการณ์ BMW เหนือระดับรอคุณอยู่ อย่ารอช้า! เข้าร่วมงาน BMW Xpo 2025 เพื่อค้นพบยนตรกรรมที่ใช่สำหรับคุณ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษที่จะทำให้การเป็นเจ้าของ BMW เป็นเรื่องที่ง่ายและคุ้มค่ายิ่งกว่าที่เคย.

