Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift: นิยามใหม่แห่งสปอร์ตเอสยูวี ความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีล้ำสมัย
ในยุคที่ตลาดรถยนต์หรูมีการแข่งขันสูง การค้นหาสมดุลระหว่างความสปอร์ต สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย คือหัวใจสำคัญของยนตรกรรมระดับพรีเมียม Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift คือคำตอบที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการยานยนต์ ผมได้เห็นพัฒนาการของรถยนต์หลายรุ่น แต่ GLC Coupe Facelift นี้ คือหนึ่งในรุ่นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยการปรับปรุงที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุกมิติ
เส้นสายแห่งสปอร์ตและการออกแบบที่ไร้ที่ติ
เมื่อแรกเห็น Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift สัมผัสแรกที่ได้รับคือความโฉบเฉี่ยวที่ผสมผสานกับความสง่างามได้อย่างลงตัว มิติของตัวถังที่ยาว 4,727 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,586 มิลลิเมตร ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและปราดเปรียว เส้นสายที่ลาดเอียงจากแนวหลังคาจรดท้ายรถ สะท้อนถึงความเป็น “คูเป้” ได้อย่างชัดเจน
สิ่งที่โดดเด่นในการปรับโฉมครั้งนี้ คือการออกแบบชุดไฟหน้าแบบ Adaptive LED ที่มาพร้อมกับความสามารถในการปรับการทำงานตามสภาพการขับขี่ ทำให้ทัศนวิสัยดีเยี่ยมในทุกสภาวะ แสงไฟที่ส่องสว่างนุ่มนวลแต่ทรงพลัง ควบคู่ไปกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่เน้นความเรียบหรูแต่แฝงไว้ด้วยความดุดัน เสริมด้วยเส้นสายโครเมียมที่กรอบกระจก เพิ่มมิติและความหรูหราให้กับตัวรถ
สำหรับส่วนท้าย รถยนต์รุ่นนี้ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ GLC Coupe ด้วยไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ที่เฉียบคม พร้อมสปอยเลอร์หลังและดิฟฟิวเซอร์ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องขนสัมภาระ โดยรุ่น AMG Dynamic จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ยาง Michelin Latitude Sport 3 ขนาด 255/45ZR20 ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมภาพลักษณ์ให้สปอร์ตขึ้น แต่ยังมอบการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร: เทคโนโลยีชั้นสูงที่โอบล้อมด้วยความหรูหรา
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift ความประทับใจแรกคือการผสานระหว่างความหรูหราแบบดั้งเดิมของ Mercedes-Benz และเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสามก้านที่ออกแบบใหม่ ให้สัมผัสการจับที่กระชับมือ พร้อมปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่าย
จุดเด่นที่สะดุดตาคือหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย ตอบสนองต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน คล้ายคลึงกับที่พบใน Mercedes-Benz C-Class Facelift รุ่นปี 2019 ทำให้ข้อมูลต่างๆ แสดงผลได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
ส่วนคอนโซลกลาง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน จอแสดงผลนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมระบบสาระบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมความสามารถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง ระบบสื่อสาร Bluetooth การตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถ และการแสดงผลโหมดการขับขี่
สำหรับรุ่น AMG Dynamic คอนโซลกลางจะตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีความละเอียดและประณีต ช่องแอร์ และแผงประตู ก็ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับดีไซน์โดยรวม ทำให้ห้องโดยสารมีความเป็นหนึ่งเดียวและสื่อถึงความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัว
ขุมพลังและความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม: ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift อัพเกรดขุมพลังให้แรงขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC เป็นหัวใจหลัก ซึ่งทุกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ได้รับการปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐาน Euro 6d ซึ่งเป็นมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวด
นอกจากนี้ ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ยังมาพร้อมระบบ EQ Boost หรือระบบไฮบริดแบบ Mild Hybrid ใช้ระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ ซึ่งเข้ามาช่วยเสริมสมรรถนะและลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
GLC 200: เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร EQ Boost ให้กำลัง 145 กิโลวัตต์ (197 แรงม้า) แรงบิด 320 นิวตันเมตร พร้อมกำลังเสริมจาก EQ Boost อีก 10 กิโลวัตต์ และแรงบิด 150 นิวตันเมตร
GLC 300: เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร EQ Boost ให้กำลัง 190 กิโลวัตต์ (258 แรงม้า) แรงบิด 370 นิวตันเมตร พร้อมกำลังเสริมจาก EQ Boost อีก 10 กิโลวัตต์ และแรงบิด 150 นิวตันเมตร
GLC 200d: เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 120 กิโลวัตต์ (163 แรงม้า) แรงบิด 360 นิวตันเมตร
GLC 220d: เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 143 กิโลวัตต์ (194 แรงม้า) แรงบิด 400 นิวตันเมตร
GLC 300d: เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 180 กิโลวัตต์ (245 แรงม้า) แรงบิด 500 นิวตันเมตร
ทุกรุ่นจะจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ซึ่งให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและแม่นยำ เสริมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ที่ช่วยกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างได้อย่างเหมาะสม ทำให้รถยนต์มีความมั่นคงและปลอดภัยในการขับขี่ทุกสภาพถนน
เทคโนโลยีช่วยขับขี่: ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
Mercedes-Benz ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นอันดับต้นๆ เสมอ ใน GLC Coupe Facelift จึงมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงมากมาย อาทิ:
ระบบ Active Brake Assist: ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ที่สามารถตรวจจับรถยนต์คันหน้าและคนเดินถนน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบ Active Lane Keeping Assist: ระบบช่วยรักษาช่องทางจราจร ที่จะส่งสัญญาณเตือนและช่วยบังคับพวงมาลัยหากรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบ Blind Spot Assist: ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่จะแสดงสัญญาณเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดที่ผู้ขับขี่มองไม่เห็น
Parking Package with 360° Camera: ระบบช่วยในการนำรถเข้าจอด พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา ช่วยให้การจอดรถในที่แคบเป็นเรื่องง่าย
Mercedes-Benz G 350 d Sport: จิตวิญญาณแห่งการผจญภัยบนถนนทุกสาย
นอกเหนือจาก GLC Coupe Facelift แล้ว Mercedes-Benz ยังคงยืนยันความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ลักชัวรี ด้วยการนำเสนอ Mercedes-Benz G 350 d Sport สู่ตลาดประเทศไทย ด้วยราคา 9.39 ล้านบาท นี่คือยนตรกรรมออฟโรดระดับตำนาน ที่ผสมผสานความแข็งแกร่ง ความทนทาน และความหรูหราได้อย่างลงตัว
ดีไซน์ภายนอก: G 350 d Sport ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันแข็งแกร่งของ G-Class ไฟหน้า LED High Performance มอบทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม เสริมด้วย Stainless Steel Package ที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ หลังคาซันรูฟแบบกระจกเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร: การออกแบบภายในถือเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปีของ G-Class โดยยึดตามแนวคิด “วิถีแห่งธรรมชาติ” ให้ความรู้สึกหรูหรา กว้างขวาง และทันสมัย ช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่สีเงินขัดเงา สอดรับกับแผงหน้าปัดอลูมิเนียม เพิ่มกลิ่นอายความแข็งแกร่ง จอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ Touchpad with Controller ที่ใช้งานง่ายราวกับสมาร์ทโฟน
ขุมพลัง: ขุมพลังของ G 350 d Sport คือเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2,925 ซีซี จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที
เทคโนโลยีและความปลอดภัย: เพียบพร้อมด้วยระบบช่วยในการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อมกล้อง 360 องศา, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) พร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุดอื่นๆ อีกมากมาย
Mercedes-Benz A-Class: ประตูสู่โลกแห่งความหรูหราสำหรับคนรุ่นใหม่
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์สปอร์ตซีดานที่เข้าถึงได้ง่าย Mercedes-Benz A-Class โดยเฉพาะรุ่น A200 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ดีไซน์ภายนอก: รุ่น AMG Dynamic โดดเด่นด้วยชุดแต่ง AMG รอบคัน กระจังหน้า Diamond grille สีเงินโครเมียมสะท้อนแสงสวยงาม พร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ไฟหน้า LED High Performance ที่มีดีไซน์เฉียบคม ล้อแม็กซ์ AMG ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น AMG Dynamic เสริมภาพลักษณ์สปอร์ตให้สมบูรณ์แบบ
ภายในห้องโดยสาร: ดีไซน์ภายในยังคงเน้นความสปอร์ตและทันสมัย เบาะหุ้มหนัง Artico สลับ Dinamica Microfiber สีดำ เดินด้ายเย็บสีแดง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ Sport steering wheel หุ้มหนัง Nappa มาพร้อม Touchpad สำหรับควบคุมจอเรือนไมล์และจออินโฟเทนเมนท์ จอเรือนไมล์แบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว เชื่อมต่อกับจอกลางขนาดเดียวกันที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ MBUX รองรับ Smartphone integration (Apple CarPlay และ Android Auto)
เทคโนโลยี: ระบบ MBUX ที่มาพร้อมฟังก์ชัน “Hey Mercedes” สำหรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาธรรมชาติ ระบบ Ambient Light ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 64 เฉดสี สร้างบรรยากาศที่หลากหลาย ระบบความปลอดภัย เช่น Active Brake Assist และ Mercedes me connect ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์และผู้ขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์: Mercedes-Benz A200 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-DCT อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลา 8.1 วินาที
การเลือกซื้อ: ระหว่างรุ่นประกอบนอกและประกอบในประเทศ รวมถึงรุ่น Progressive และ AMG Dynamic การเลือกรุ่นขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ แต่รุ่น AMG Dynamic โดยเฉพาะรุ่นประกอบในประเทศ ให้ความคุ้มค่าสูง ด้วยออปชั่นที่ครบครันในราคาที่เข้าถึงได้
Mercedes-Benz GLC (2020): ตัวเลือกที่หลากหลายในตลาดออสเตรเลีย
ในตลาดออสเตรเลีย Mercedes-Benz GLC รุ่นปี 2020 ได้รับการปรับปรุงให้มีตัวเลือกที่หลากหลายถึง 8 รุ่นย่อย ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน
GLC 200: รุ่นเริ่มต้น สไตล์ SUV เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 197 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 2WD พร้อมไฟหน้า LED, ล้อ 19 นิ้ว, ระบบ MBUX และระบบช่วยเหลือการขับขี่พื้นฐาน
GLC 300 4Matic: มีทั้งแบบ SUV และ Coupe เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 259 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน AWD มาพร้อมล้อ 20 นิ้ว, ไฟหน้า MultiBeam LED, ระบบ Driver Assist Package และการตกแต่งสไตล์ AMG Line
GLC 300e 4Matic: รุ่น PHEV (Plug-in Hybrid) เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 319 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานคล้าย GLC 300 4Matic
GLC 43 4Matic: เครื่องยนต์ V6 Twin-turbo 3.0 ลิตร 390 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน AWD พร้อมช่วงล่าง AMG Ride Control+, เบรก AMG และการตกแต่งสไตล์ AMG
GLC 63 4Matic+: รุ่นท็อปสุด เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 4.0 ลิตร 510 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน AWD
Lexus UX300e: ยุคใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าจาก Lexus
Lexus ได้ก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัว Lexus UX300e รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ขุมพลัง: มอเตอร์ไฟฟ้า 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิด 300 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า
แบตเตอรี่: Lithium-ion ขนาด 54.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 50 กิโลวัตต์ (0-80% ใน 50 นาที) และชาร์จ AC 6.6 กิโลวัตต์ (7 ชั่วโมง)
แผนการตลาด: เปิดตัวในยุโรปและจีนปี 2020 และในญี่ปุ่นปี 2021
Bentley Bentayga V8: สุดยอดเอสยูวีหรูหราสมรรถนะเหนือชั้น
Bentley Bentayga V8 คือนิยามของสุดยอดเอสยูวี ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และงานฝีมือชั้นเลิศได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดีไซน์ภายนอก: โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Matrix grille ขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED ทรงกลม ล้ออัลลอย 22 นิ้ว การออกแบบที่ทรงพลังแต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามสไตล์ Bentley
ภายในห้องโดยสาร: ตกแต่งอย่างหรูหรา พิถีพิถัน ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม พวงมาลัยลายไม้สลับหนัง คอนโซลตกแต่งด้วย High-gloss Carbon-fibre เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Cricket ball สีพิเศษ 15 เฉดสี ระบบนวดไฟฟ้า 4 ที่นั่ง จอสัมผัส 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่ครบครัน
ขุมพลัง: เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.5 วินาที
ช่วงล่างและระบบเบรก: ระบบ Bentley Dynamic Ride ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 48 โวลต์ เพื่อเสถียรภาพการทรงตัวและความนุ่มนวล ระบบเบรกหน้า Carbon-ceramic ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Mercedes-Benz GLE 300 d 2020: เอสยูวี 7 ที่นั่งประกอบในประเทศ
Mercedes-Benz GLE 300 d 2020 รุ่นประกอบในประเทศ (CKD) ที่เปิดตัวในงาน Motor Expo 2019 ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาเอสยูวี 7 ที่นั่ง ขนาดกลาง
ดีไซน์: ยังคงดีไซน์ Sensual purity ตามปรัชญาการออกแบบใหม่ของ Mercedes-Benz เสริมด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling และล้ออัลลอย AMG Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว
ภายใน: ตกแต่งด้วยโครเมียม พวงมาลัย Nappa พร้อม Touch Control เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa ปรับไฟฟ้า พื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 855 ลิตร (เพิ่มได้ถึง 2,055 ลิตร) พร้อมหลังคา Panoramic Sunroof
ขุมพลัง: เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 245 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.2 วินาที
ความปลอดภัย: เพียบพร้อมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น Active Distance Assist DISTRONIC, Blind Spot Assist, Active Lane Keeping Assist, Active Brake Assist
Mercedes-Benz GLC 300 e Coupe 2020: ปลั๊ก-อิน ไฮบริด สไตล์คูเป้
Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic 2020 คือการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถพลังงานทางเลือก ด้วยขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด EQ Power
ขุมพลัง: เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 211 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ 9G-TRONIC
เทคโนโลยี: จอแสดงผล Fully Digital ขนาด 31.2 ซม. ระบบ MBUX ที่เรียนรู้พฤติกรรมผู้ขับขี่ ระบบเสียง Burmester
Jaguar I-Pace 2019: รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมจากอังกฤษ
Jaguar I-Pace 2019 รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่กวาดรางวัล “รถยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปี 2019” ในยุโรป
ดีไซน์: ทันสมัย สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า ขนาดกะทัดรัด คอนโซลกลางแบบลอยตัว หลังคากระจก Panoramic
ขุมพลัง: ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-wheel Drive ใช้มอเตอร์ 2 ตัว แบตเตอรี่ 90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้กำลังรวม 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที ระยะทางวิ่ง 470 กม./ชาร์จ
รถยุโรปมือสองราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท: ทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถหรูในงบจำกัด
สำหรับผู้ที่หลงใหลในรถยนต์ยุโรป แต่มีงบประมาณจำกัด ตลาดรถยนต์มือสองคือคำตอบที่ดีเยี่ยม รถยุโรปมือสองคุณภาพดี ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้แก่:
Mercedes-Benz CLS220 (2021): รูปลักษณ์สปอร์ตหรู สไตล์ Luxury Sport
Mercedes-Benz GLA200 Urban (2017): SUV ขนาดเล็กที่หาได้ยากและมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นในอนาคต
Mercedes-Benz C350 e Avantgarde (2019): รถซีดานหรู สภาพใหม่ ออปชั่นทันสมัย
Mercedes-Benz CLA250 AMG Dynamic (2018): ดีไซน์ดุดัน คุ้มค่าเกินราคา
BMW: สัญลักษณ์แห่งสมรรถนะและความสำเร็จ
BMW ยังคงเป็นแบรนด์รถยนต์ในฝันของใครหลายคน ด้วยสมรรถนะและความสวยงามที่ลงตัว “BMW สมบูรณ์ทุกการขับขี่ ที่เหลือขึ้นอยู่กับผู้ขับ”
MGC Asia Auto Fest 2019: งานแสดงรถยนต์ BMW พร้อมข้อเสนอพิเศษมากมาย อาทิ ดอกเบี้ย 0%, การรับประกัน 4 ปี, BSI 5 ปี หรือ 100,000 กม., Cash Back สูงสุด 100,000 บาท
รถที่ใช้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน: BMW 740Le และ BMW 530e ราคาพิเศษ พร้อมเลขไมล์น้อย
รถผู้บริหารป้ายแดง: BMW X1 SERIES, BMW 3 SERIES GRAN TURISMO, BMW X3 SERIES ราคาพิเศษ
รุ่นรถยนต์ที่มีราคาสูงที่สุดในตลาดไทย (อัปเดตล่าสุด)
Toyota Alphard 3.5 VIP: 5.429 ล้านบาท
Honda Accord HYBRID TECH: ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท
Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack: 4.799 ล้านบาท
Mazda MX-5: 2.89 ล้านบาท
Nissan GT-R: 13.5 ล้านบาท
Isuzu MU-X 3.0 Ddi DA Navi A/T: 1.474 ล้านบาท
Suzuki Jimny AT (Two-Tone): 1.68 ล้านบาท
MG GS 2.0T X AWD: 1.31 ล้านบาท
Mitsubishi Pajero Sport GT-PREMIUM 4WD ELITE EDITION: 1.574 ล้านบาท
Chevrolet Trailblazer 4×4 A/T Z71 Diesel: 1.499 ล้านบาท
Hyundai Grand Starex VIP: 2.399 ล้านบาท
BMW M760Li xDrive (Model M Sport): 13.499 ล้านบาท (รวม BSI 13.539 ล้านบาท)
Mercedes-Maybach S 560 Premium: 17.44 ล้านบาท
Volvo XC90 T8 Twin Engine AWD Excellence (CBU): 5.99 ล้านบาท
Audi R8 Coupe V10 5.2 FSI Quattro: 18.999 ล้านบาท
Porsche 911 Carrera 4S (992): 12.85 ล้านบาท
Jaguar XJ 3.0 Litre Diesel Premium Luxury: 8.499 ล้านบาท
Land Rover Range Rover 4.0 Litre Diesel Autobiography LWB: 16.999 ล้านบาท
Subaru WRX STI 2.5 6MT: 2.7908 ล้านบาท
Lexus LS 500h: 14.5 ล้านบาท
บทสรุป: การเดินทางสู่ความสมบูรณ์แบบบนถนนแห่งอนาคต
โลกยานยนต์ในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์รุ่นหนึ่ง แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการผสมผสานศิลปะแห่งการออกแบบ ความล้ำสมัยของเทคโนโลยี และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้กับผู้บริโภค
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์สปอร์ตที่โฉบเฉี่ยว, เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัย, หรือสมรรถนะที่ตอบสนองทุกเส้นทาง Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift คือคำตอบที่ลงตัว
หากคุณกำลังมองหายานยนต์ที่สะท้อนตัวตนและความสำเร็จของคุณ ให้ Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคุณ การสัมผัสประสบการณ์จริงผ่านการทดลองขับ จะทำให้คุณเข้าใจถึงจิตวิญญาณของยนตรกรรมแห่งอนาคตคันนี้ได้อย่างแท้จริง
สัมผัสประสบการณ์ Mercedes-Benz GLC Coupe Facelift ได้แล้ววันนี้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือหากคุณสนใจรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นอื่นๆ หรือต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ โปรดติดต่อเรา เพื่อร่วมเดินทางสู่โลกแห่งยนตรกรรมพรีเมียมไปพร้อมกัน

