ปอร์เช่ แนะนำสุดยอดยนตรกรรม ณ มหกรรม Fast Auto Show Thailand 2018 พร้อมแคมเปญสุดพิเศษฉลอง 70 ปี
กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – ในปี 2561 นี้ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย AAS Auto Service (AAS) ผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้นำทัพยนตรกรรมชั้นเลิศมาร่วมจัดแสดง ณ มหกรรม Fast Auto Show Thailand 2018 ณ Hall EH106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม 2561 โดยมีไฮไลท์สำคัญคือ ปอร์เช่ 911 GT3 และ ปอร์เช่ 911 Carrera สองไอคอนแห่งสมรรถนะ พร้อมด้วย ปอร์เช่ 718 Cayman และ 718 Boxster สปอร์ตโรดสเตอร์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจ และ พานาเมร่า 4 E-Hybrid Sport Turismo ซาลูนสี่ประตูที่ผสานความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพแห่งรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมี Cayman GT4 Club Sport MR รถแข่งสายพันธุ์แรงจากทีม AAS Motorsport ร่วมตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งสมรรถนะของปอร์เช่
แคมเปญเฉลิมฉลอง 70 ปีปอร์เช่: สิทธิ์ลุ้นประสบการณ์สุดพิเศษ ณ เยอรมนี
ต้อนรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานของปอร์เช่ AAS ได้จัดแคมเปญสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน Fast Auto Show Thailand 2018 ผู้ที่โชคดีจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม Porsche Memorable German Heritage Trip อันทรงคุณค่า ซึ่งจะพาผู้เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้ทดลองขับรถยนต์ปอร์เช่ท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามของ Black Forest ในประเทศเยอรมนี พร้อมเข้าเยี่ยมชมโรงงานและพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่แบบเจาะลึก เป็นโอกาสอันหาได้ยากยิ่งสำหรับแฟนพันธุ์แท้ปอร์เช่
ประกันคุณภาพจากโรงงาน: ความมั่นใจสูงสุดสำหรับเจ้าของปอร์เช่ AAS
AAS Auto Service ยืนยันในคุณภาพและความมั่นใจที่มอบให้กับลูกค้า ด้วยการรับประกันจากโรงงาน นานสูงสุด 2+7 ปี สำหรับรถยนต์ปอร์เช่ที่ซื้อผ่าน AAS เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดูแลรถยนต์ทุกคันให้ได้มาตรฐานระดับโลก
โปรโมชั่นสุดพิเศษ: ลุ้นทองและรถยนต์ ณ งาน Fast Auto Show Thailand 2018
นอกเหนือจากแคมเปญสุดพิเศษจากปอร์เช่แล้ว งาน Fast Auto Show Thailand 2018 ยังได้จัดแคมเปญ “ซื้อรถ ชิงรถ จองรถ ชิงทอง” เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ภายในงาน ผู้ที่ทำการจองรถจะได้รับคูปองเพื่อลุ้นรับสร้อยคอทองคำจำนวน 7 รางวัลต่อวัน และเมื่อทำการส่งมอบรถยนต์แล้ว ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรถยนต์มูลค่า 476,000 บาทอีกด้วย
บทวิเคราะห์เจาะลึก: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และกลยุทธ์ของ Mercedes-Benz
ในปัจจุบัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเป็นที่จับตามองของผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถหรูอย่าง Mercedes-Benz จึงทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์ EQ ให้เป็นที่ต้องการของคนยุคใหม่
Mercedes-Benz EQ: ความหวังใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้า
Mercedes-Benz เริ่มต้นการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2555 ด้วยการเปิดตัวรุ่น E 300 BlueTEC Hybrid ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 (The 29th Thailand International Motor Expo) ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการรถยนต์หรู ทำให้ผู้บริโภคเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีไฮบริด หลังจากนั้น Mercedes-Benz ได้ทยอยติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดในรถยนต์หลากหลายรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองเห็นถึงประโยชน์ในการประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การทำตลาดชัดเจนยิ่งขึ้น ค่ายดาวสามแฉกได้จัดตั้งแบรนด์ EQ ขึ้นมาโดยเฉพาะ
แบรนด์ EQ ได้รับการตอกย้ำอย่างชัดเจนในปี 2559 เมื่อ Mercedes-Benz เริ่มทำตลาดกลุ่มรถยนต์ Plug-in Hybrid อย่างจริงจัง โดยการติดตั้งเครื่องยนต์รูปแบบนี้ในรถยนต์ Sedan เกือบทุกรุ่น และ SUV บางรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย เพื่อรองรับทิศทางความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ประเทศไทย: ตลาดพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ด้วยการขยายตัวของสถานีชาร์จ การสนับสนุนจากภาครัฐ และความเข้าใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Mercedes-Benz เชื่อมั่นว่าตลาดประเทศไทยมีความพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่า “ประเทศไทยมีความพร้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นที่ใกล้เคียงกัน ก็เรียกว่าพร้อมอยู่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว แต่การทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes-Benz จะไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่คือการชูจุดเด่นเรื่องการเปลี่ยนผ่านอีกยุคหนึ่งของยานยนต์ ผ่านการทำรถยนต์ให้ฉลาด และกลายเป็น Connected Car เต็มรูปแบบ”
การลงทุนเพื่ออนาคต: Mercedes-Benz สร้างสถานีชาร์จและโรงงานแบตเตอรี่ในไทย
เพื่อขับเคลื่อนการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ Mercedes-Benz ได้เดินหน้าติดตั้งสถานีชาร์จกว่า 200 จุดทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและโรงแรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังเตรียมเดินสายการผลิตโรงงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2562 เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
สรุป: ความท้าทายและโอกาสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
Mercedes-Benz แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นสินค้าที่มีราคาสูง ซึ่งถือเป็น “ของเล่นคนรวย” ในปัจจุบัน การขยายวงกว้างของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จะเกิดขึ้นไม่ได้เพียงแค่จากการสนับสนุนของแบรนด์รถหรู แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ผลิตแบรนด์อื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตไปด้วยกัน
The New C-Class: การยกระดับยนตรกรรมหรูสัญชาติเยอรมันในไทย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์หรูด้วยการเปิดตัว The New C-Class รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่โดดเด่น สะท้อนความสปอร์ตหรู เทียบชั้นได้กับยนตรกรรมในตระกูล The S-Class ในราคาเริ่มต้น 2,349,000 บาท สำหรับรุ่น The C 220 d Avantgarde, 2,690,000 บาท สำหรับ The C 220 d Exclusive และ 2,890,000 บาท สำหรับ The C 220 d AMG Dynamic
ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราคาดหวังว่า The New C-Class รุ่นประกอบในประเทศทั้ง 3 รุ่น จะช่วยผลักดันการเติบโตของ C-Class ในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสามารถเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น เพราะรถยนต์รุ่นใหม่นี้มาพร้อมออปชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งออปชั่นเหล่านี้หาไม่ได้ในรถยนต์เซกเมนต์เดียวกัน อาทิ ระบบเตือนกันรถชน ซึ่งปกติจะมีเฉพาะใน S-Class เท่านั้น”
ยอดขายตลาดรถหรูเติบโตต่อเนื่อง: เมอร์เซเดส-เบนซ์ รักษาส่วนแบ่งตลาด
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ตลาดรถยนต์หรูโดยรวมเติบโตประมาณ 12-13% และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็สามารถเติบโตได้ในระดับเดียวกันกับตลาดโดยรวม คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์หรูทั้งปีจะเติบโตประมาณ 10%
กลยุทธ์ราคาและการแข่งขัน: คุณค่าที่เหนือกว่า
“ในส่วนของการแข่งขันด้านราคา เป็นเรื่องของผู้แทนจำหน่าย แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่มีแนวคิดที่จะแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว เพราะเรามีบริการหลังการขายที่เหนือกว่า และมีเครือข่ายที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง” คุณฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ กล่าวเสริม
The New C-Class: การผสมผสานดีไซน์และเทคโนโลยีระดับสูงสุด
ดีไซน์ภายนอก: The New C-Class รุ่นประกอบในประเทศ สะท้อนความสง่างามและสปอร์ตได้อย่างลงตัว
The C 220 d Avantgarde: โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล้ออัลลอย 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่
The C 220 d Exclusive: มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์คลาสสิก พร้อมตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉกบนฝากระโปรงหน้า และล้ออัลลอย 18 นิ้ว แบบ multi-spoke
The C 220 d AMG Dynamic: เสริมความสปอร์ตด้วยกระจังหน้า diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 19 นิ้ว ตกแต่งสีดำ และชุดแต่ง AMG Bodystyling รอบคัน
เทคโนโลยีไฟหน้า:
LED High Performance: ในรุ่น The C 220 d Avantgarde
MULTIBEAM LED พร้อมระบบ ULTRA RANGE Highbeam: ในรุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic เป็นครั้งแรกใน C-Class ด้วยหลอด LED 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปรับความเข้มแสงอัตโนมัติตามสภาพการจราจร พร้อมระบบไฟส่องสว่างในหลากหลายสภาวะการขับขี่
ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร: ความหรูหราสไตล์สปอร์ต ผสานนวัตกรรม
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความหรูหราแบบสปอร์ต โครงสร้างต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียว
พวงมาลัย: มัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ในรุ่น Avantgarde และ Exclusive ส่วนรุ่น AMG Dynamic มาพร้อมพวงมาลัยสปอร์ตท้ายตัด พร้อมระบบปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าและปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ
เบาะนั่ง: หุ้มด้วยหนัง ARTICO ในรุ่น Avantgarde และ Exclusive ส่วนรุ่น AMG Dynamic หุ้มด้วยหนังแบบสปอร์ต เบาะหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3
ระบบอำนวยความสะดวก: ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start) ในทุกรุ่น รุ่น Exclusive และ AMG Dynamic เพิ่มเติมระบบกุญแจ KEYLESS-GO
เทคโนโลยีจาก S-Class:
All-Digital Instrument Display: หน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ปรับรูปแบบได้ 3 แบบ (Classic, Progressive, Sport)
หน้าจอมัลติมีเดีย MB Audio 20: ขนาด 10.25 นิ้ว ควบคุมระบบต่างๆ ผ่าน Touchpad รองรับ Apple CarPlay™
ระบบถอยจอดอัตโนมัติ
ระบบแผนที่นำทาง 3 มิติ: ในรุ่น Exclusive และ AMG Dynamic
ระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร: ปรับสีได้ 64 สี
AIR BALANCE package: ในรุ่น Exclusive ฟอกอากาศและมอบกลิ่นหอมในห้องโดยสาร
ระบบเทคโนโลยีและความปลอดภัย: มาตรฐานสูงสุดเทียบชั้น S-Class
The New C-Class มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่รุ่นล่าสุด คล้ายคลึงกับระบบใน S-Class เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่และความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist
ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system)
ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator)
ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist)
ระบบ DYNAMIC SELECT (Sport, Sport+, Comfort)
ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Auto
ระบบ Bluetooth
ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า (Distance Pilot DISTRONIC)
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera): เพิ่มในรุ่น AMG Dynamic
ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system: เพิ่มในรุ่น AMG Dynamic
ระบบแผนที่นำทาง: ติดตั้งเฉพาะในรุ่น Exclusive และ AMG Dynamic
กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing camera): มีเฉพาะในรุ่น Avantgarde และ Exclusive
Audi Centre Thailand: ก้าวสำคัญสู่การเป็นผู้นำตลาดรถหรูในประเทศไทย
อาวดี้ ประเทศไทย ได้ลงทุนกว่าพันล้านบาท เพื่อเปิด Audi Centre Thailand สำนักงานใหญ่ โชว์รูม และศูนย์บริการที่ครบวงจร ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ด้วยอาคารดีไซน์ล่าสุดแบบ Terminal Concept ย้ำชัดถึงความมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์สู่ความเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์หรู
กฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจเชิงรุกเพื่อสร้างแบรนด์อาวดี้ในประเทศไทย ส่งผลให้อาวดี้มีการยกระดับการทำงานทุกส่วน ทั้งการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง การขยายโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการยกระดับคุณภาพการบริการหลังการขาย”
Audi Centre Thailand: โชว์รูมและศูนย์บริการขนาด 6 ชั้น 2 อาคาร บนพื้นที่ 3 ไร่ ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานล่าสุดของแบรนด์อาวดี้ โดดเด่นด้วยความครบวงจร ทั้งโชว์รูม ศูนย์บริการ และศูนย์ซ่อมสี-ตัวถังที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นการพิสูจน์ความจริงจังของอาวดี้ในการปักหมุดสร้างแบรนด์ในประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก Audi AG ซึ่งมองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
เป้าหมายยอดขายที่ท้าทาย: ก้าวสู่ 1,200 คันในปีนี้
อาวดี้ ประเทศไทย มียอดขายแล้วกว่า 600 คันในปีนี้ และการเปิดศูนย์แห่งใหม่ รวมถึงการขยายสาขาในต่างจังหวัด จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย 1,200 คันได้ตามที่ตั้งไว้
โอกาสการลงทุนในอนาคต: โรงงานผลิตในไทย?
ไมเคิล ฟริช ผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานขายต่างประเทศของ Audi กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ หาก Audi มียอดขายถึงระดับ 5,000 คันต่อปี ก็มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาแผนการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศ” ขณะนี้จะยังคงใช้การนำเข้าเป็นหลัก
อนาคตยานยนต์ไฟฟ้า: Audi พร้อมบุกตลาด EV และ Plug-in Hybrid ในไทย
Audi มองว่าประเทศไทยมีโอกาสอย่างมากในการทำตลาด รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ Plug-in Hybrid ผู้บริโภคให้การตอบรับที่ดี และภาครัฐให้การสนับสนุน คาดว่าในปีหน้า Audi จะนำรถยนต์กลุ่ม EV และ Plug-in Hybrid เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
Audi Q8: SUV แห่งตระกูล Q Family เปิดตัวครั้งแรกในอาเซียน
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รอคอย SUV ระดับพรีเมียม Audi Q8 ได้รับการเปิดตัวเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรุ่นที่นำเข้ามาคือ Audi Q8 55 TFSI quattro S line ในราคาจำหน่าย 6,799,000 บาท
Audi Q8: สมรรถนะไฮบริดผสานเทคโนโลยีไมล์ดไฮบริด
Audi Q8 ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดสมรรถนะสูง ผสานเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ไมล์ดไฮบริด (Mild Hybrid) ระบบ 48 โวลต์ ซึ่งช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนในลักษณะลอยตัว (Coasting phase) ได้ยาวนานขึ้น และเสริมการทำงานของระบบ Start-Stop ให้มีความราบรื่นจนแทบไม่รู้สึกถึงการติด-ดับของเครื่องยนต์
ระบบขับเคลื่อน quattro: การควบคุมที่เหนือกว่าในทุกสถานการณ์
มั่นใจในทุกสภาวะการขับขี่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมานานกว่า 38 ปี ระบบขับเคลื่อนของ Audi Q8 สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและหลังในอัตราส่วน 40:60 และสามารถปรับการกระจายแรงบิดได้อย่างอิสระตามสภาพการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการควบคุมรถยนต์ได้ในทุกสถานการณ์ สอดคล้องกับปรัชญาของ Audi ที่ว่า “พละกำลังจะไร้ค่าโดยสิ้นเชิงหากขาดการควบคุม”
Mercedes-Benz ประเทศไทย: สถิติยอดขายสูงสุดต่อเนื่อง ครองความเป็นหนึ่งในตลาดรถหรู
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย สร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2560 ด้วยยอดขายรวม 14,484 คัน ครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์หรูติดต่อกันเป็นปีที่ 17 นอกจากนี้ ในงาน Motor Expo 2017 ก็สามารถกวาดยอดจองรถในงานไปได้ถึง 2,701 คัน ติด Top 5 แบรนด์ที่มียอดจองสูงสุดในงาน
การแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์: ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แบ่งกลุ่มรถยนต์ที่จำหน่ายออกเป็น 6 กลุ่มหลัก เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุมความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม:
Compact Car: 3,386 คัน (สัดส่วน 23.4%)
CLA 200 Urban: 2,140,000 บาท
CLA 250 AMG Dynamic: 2,440,000 บาท
GLA 200 Urban: 2,090,000 บาท
GLA 250 AMG Dynamic: 2,390,000 บาท
Luxury Car: 6,672 คัน (สัดส่วน 46.1%)
C 350e Avantgarde/Exclusive/AMG Dynamic
E 350e Avantgarde/Exclusive/AMG Dynamic
E 220d Estate AMG Dynamic
S 350d AMG Premium / S 500e Executive / S 500e Exclusive / S 500e AMG Premium
Mercedes-Maybach S560 Premium
SUV: 2,556 คัน (สัดส่วน 17.7%)
GLC 250d 4MATIC Off-Road / AMG Dynamic / Coupe’ (AMG Dynamic / AMG Plus)
GLE 500e 4MATIC Exclusive / AMG Dynamic
GLE 350d Coupe’ 4MATIC AMG Dynamic
GLS 350d 4MATIC
G 350d Sport
Dream Cars: 1,685 คัน (สัดส่วน 11.6%)
C 250 Coupe’ Sport / AMG Dynamic
C 300 Cabriolet AMG Dynamic
SLC 300 AMG Dynamic
E 300 Coupe’ AMG Dynamic / Cabriolet AMG Dynamic
SL 400 AMG Premium
S 500 Coupe’ AMG Premium / S 500 Cabriolet AMG Premium
Mercedes-AMG: 105 คัน (สัดส่วน 0.7%)
ครอบคลุมรุ่น A45, CLA45, GLA45, SLC43, C43 Coupe’, GLC43 Coupe’, GLE43 Coupe’, C63 S Coupe’, E 63 S 4MATIC (Special Order), GT S, GT C Roadster, GT R
Van: 70 คัน (สัดส่วน 0.5%)
Vito 116 Tourer SELECT
V 250d Avantgarde Long
แผนรุกตลาดปี 2561: เน้น Mercedes-AMG และรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับปี 2561 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มีแผนเปิดตัวรถใหม่ 10 รุ่น โดยเริ่มต้นด้วยการรุกตลาด Mercedes-AMG อย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว Mercedes-AMG C43 Coupe’ รุ่นประกอบในประเทศเป็นครั้งแรก
Roland Folger: ผู้นำทัพ สู่ยุคใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์
ภายใต้การนำของ Mr. Roland Folger ประธานบริหารคนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2560 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้แสดงความแข็งแกร่งในการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนตุลาคมเพียงเดือนเดียว ได้เปิดตัว Mercedes-AMG C43 Coupe’ รุ่นปรับปรุงใหม่ เพิ่มสมรรถนะเป็น 390 แรงม้า และ E63 S 4MATIC พลัง 612 แรงม้า พร้อมทางเลือกใหม่ C200 Coupe’ ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น
Mercedes-AMG Driving Experience 2018: สัมผัสสมรรถนะระดับสนามแข่ง
เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสมรรถนะ เมอร์เซเดส-เบนซ์/เอเอ็มจี ได้จัดงาน “Mercedes-AMG Driving Experience 2018” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเน้นการมอบประสบการณ์การขับขี่สุดพิเศษให้กับสื่อมวลชน ลูกค้า และ VIP กว่า 700 ท่าน
ประสบการณ์บนสนามแข่ง: ความรู้และทักษะจากผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ขั้นสูงจากอาจารย์ผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์จาก Mercedes-AMG สายออสเตรเลีย และทีมอาจารย์จากประเทศไทย โดยแบ่งการฝึกออกเป็น 4 สถานีหลัก:
Cornering Theory: ทฤษฎีและปฏิบัติการเข้าโค้งอย่างแม่นยำ
Motorkhana: การขับขี่ในสภาวะจำกัดด้วยความเร็วต่ำ เน้นความแม่นยำและการควบคุม
ESP Exercise: การทดสอบระบบควบคุมการทรงตัว ESP ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
Brake & Swerve: การฝึกเบรกและหักหลบสิ่งกีดขวาง
บทสรุป: ความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมแห่งอนาคต
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการนำเสนอยนตรกรรมที่ดีที่สุด ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรู ด้วยการผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่แห่งยานยนต์อย่างมั่นคง
Maserati ประเทศไทย: อวดโฉม 4 ยนตรกรรมสุดหรู ณ Motor Expo 2018
มาเซราติ ประเทศไทย โดย AAS Auto Service (AAS) นำยนตรกรรมหรูสัญชาติอิตาลี 4 รุ่น มาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THE 35th THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018) โดยมีไฮไลท์สำคัญคือ Maserati Ghibli S GranSport ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 Twin-Turbo 430 แรงม้า
ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “มาเซราติได้นำรถยนต์มาจัดแสดง 4 คัน ได้แก่ Ghibli S GranSport, Ghibli Diesel, Levante Diesel GranLusso และ Quattroporte S”
Maserati Ghibli S GranSport: ดีไซน์โดดเด่น สมรรถนะเร้าใจ
Ghibli S GranSport โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแนวตั้ง สอดรับกับสัญลักษณ์ตรีศูลอันเป็นเอกลักษณ์ เครื่องยนต์เบนซิน V6 Twin-Turbo 430 แรงม้า ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ให้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.9 วินาที ห้องโดยสารตกแต่งด้วยแนวคิด Seamless Cabin Concept ใช้วัสดุหนังแท้คุณภาพสูง พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัส 8.4 นิ้ว
เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน:
ไฟหน้า Adaptive Matrix LED
Adaptive Cruise Control
Forward Collision Warning
Blind Spot Alert
Surround View Camera
Maserati Ghibli: ตัวเลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
มาเซราติ Ghibli มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย:
Ghibli Diesel (275 แรงม้า): 7.39 ล้านบาท
Ghibli Diesel GranLusso: 7.79 ล้านบาท
Ghibli GranLusso (350 แรงม้า): 8.99 ล้านบาท
Ghibli S GranSport (430 แรงม้า): 9.99 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี Levante Diesel เริ่มต้นที่ 7.59 ล้านบาท และ Quattroporte S เริ่มต้นที่ 10.9 ล้านบาท
Lamborghini Urus: Super SUV คันแรกของโลก เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
เรนาสโซ มอเตอร์ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้เปิดตัว Lamborghini Urus Super SUV คันแรกของโลกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
Lamborghini Urus: DNA แห่ง Lamborghini ผสานการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Urus ถ่ายทอด DNA แห่ง Lamborghini ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และประสบการณ์การขับขี่สปอร์ตเหนือระดับ พร้อมตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและทุกสภาพการขับขี่ เป็นการเปิดเซกเมนต์ใหม่ในตลาด Luxury ในฐานะ Super SUV ที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัว
ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์:
รูปทรงปราดเปรียว ลาดลง ช่องรับอากาศรูปตัว Y
ไฟหน้า LED โฉบเฉี่ยว
ประตูไร้ขอบ
ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 21 นิ้ว
ห้องโดยสารสปอร์ตหรู:
ดีไซน์ทรงหกเหลี่ยม
พวงมาลัย 3 ก้าน พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
Lamborghini Infotainment System-LIS (LIS) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะไร้กุญแจ
โหมดการขับขี่ EGO Mode
ขุมพลัง V8 Twin-Turbo: สมรรถนะสูงสุดในกลุ่ม SUV
Urus ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร Twin-Turbo ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร มีอัตราส่วนแรงม้าต่อลิตรสูงสุดในกลุ่ม SUV (162.7 แรงม้า/ลิตร) และอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดีที่สุด (3.38 กก./แรงม้า) ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม.
ระบบ Tamburo: 6 โหมดการขับขี่เพื่อทุกสภาวะ
STRADA (ขับขี่ทั่วไป)
SPORT (ขับขี่มั่นคง ความเร็วสูง)
CORSA (สมรรถนะสูงสุด)
NEVE (บนหิมะ)
TERRA (ออฟโรด)
SABBIA (ทราย)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS): ความปลอดภัยและความมั่นใจสูงสุด
Urus มาพร้อมระบบ ADAS ที่ทันสมัย เช่น ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, เซ็นเซอร์หน้า-หลัง, ระบบ Cruise Control, ระบบ Pre-Cognition, กล้องจับภาพด้านบน และฟังก์ชั่นตะขอพ่วงรถด้านท้าย
ราคาและการรับประกัน:
ราคาเริ่มต้น 23,420,000 บาท
บริการหลังการขายครบวงจร 5 ปี
พบตัวจริงได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35
Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG: เปิดตัวรุ่นใหม่สุดเร้าใจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดส่งท้ายปี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างความคึกคักให้กับตลาดรถหรูส่งท้ายปี ด้วยการเปิดตัว 2 รุ่นใหม่จากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ ในราคา 7.09 ล้านบาท และ GT S ในราคา 14.9 ล้านบาท พร้อมอวดโฉมรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA เพื่อชิมลางตลาดไทยในงาน Motor Expo 2018
Roland Folger ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในปีนี้ เราได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มภายใต้แบรนด์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้ง Mercedes-Benz, Mercedes-Maybach, Mercedes-AMG และ EQ Power เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม”
Mercedes-AMG: การเติบโตที่น่าจับตามอง
แบรนด์ Mercedes-AMG ยังคงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 400% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา การเปิดตัวรุ่นใหม่ในงานนี้เป็นการสานต่อความร้อนแรงของกลุ่มผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูง
ไฮไลท์สำคัญ:
Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+: ผสมผสานเครื่องยนต์ 435 แรงม้า กับรูปลักษณ์สปอร์ตหรู ดีไซน์ภายในและภายนอกได้รับการรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ ราคาจำหน่าย 7,090,000 บาท
Mercedes-AMG GT S: รถยนต์คูเป้ตัวแรง ด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ V8 Biturbo และเกียร์ 7 สปีดคลัทช์คู่ ราคาจำหน่าย 14,900,000 บาท
Mercedes-Benz EQA Concept: รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่แสดงถึงกลยุทธ์ EQ ในกลุ่ม Compact Car ผสานความคล่องตัวกับระยะทางวิ่งไกลกว่า 400 กิโลเมตร ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านการเดินทางแห่งอนาคตและการรักษาสิ่งแวดล้อม
ขบวนทัพ Mercedes-AMG: ครอบคลุมทุกเซกเมนต์
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำ Mercedes-AMG กว่า 8 รุ่น มาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่รุ่น 45 (เครื่องยนต์ 4 สูบ) รถซาลูนรุ่นประกอบในประเทศ รุ่น 43 (คูเป้) รุ่น 53 (นำเข้า) รุ่น 63 และตระกูล AMG GT ครบทั้ง GT S, GT C และ GT R มากที่สุดเท่าที่เคยจัดแสดงในประเทศไทย
Audi: เตรียมบุกตลาดไทยด้วย A7 Sportback และ A8 L ที่ Motor Show 2018
หลังจากการกลับมารุกตลาดในประเทศไทย อาวดี้ เตรียมสร้างความตื่นเต้นด้วยการเปิดตัว Audi A7 Sportback รถยนต์พรีเมียม 5 ประตู และ Audi A8 L รถยนต์ Luxury Sedan รุ่นใหม่ล่าสุด ที่งาน Motor Show 2018
BMW: เปิดตัว 5 Series Touring, M5 และ M4 CS พร้อมโมเดลใหม่ที่ Motor Show 2019
บีเอ็มดับเบิลยู เตรียมนำเสนอยนตรกรรมสุดสปอร์ตหลากหลายรุ่น ได้แก่ BMW 5 Series Touring รถหรู 5 ประตู, BMW M5 ซาลูนพันธุ์ดุ, และ BMW M4 CS รุ่นพิเศษ พร้อมด้วยโมเดลใหม่ล่าสุดที่งาน Motor Show 2019
Chevrolet Colorado High Country Storm MY19: รุ่นพิเศษเพิ่มสีใหม่
เชฟโรเลต นำเสนอ Chevrolet Colorado High Country Storm MY19 รุ่นพิเศษ พร้อมสีใหม่ ในราคาเริ่มต้น 1.028 ล้านบาท
Ford Ranger Raptor: กระบะสายพันธุ์โหด พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ
ฟอร์ด เตรียมเผยราคา Ford Ranger Raptor กระบะสายพันธุ์โหด พร้อมให้ลูกค้าได้จับจองในงาน
Honda: เตรียมพบ Civic Hatchback, Clarity Fuel Cell และ H-1 Black Series
ฮอนด้า จะนำเสนอ Honda Civic Hatchback ในสีแดง Rallye Red, Honda Clarity Fuel Cell ยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน และ Hyundai H-1 Black Series รุ่นพิเศษ
Hyundai IONIQ EV และ H-1 Black Series: ทางเลือกใหม่ในตลาด
ฮุนได นำเสนอ Hyundai IONIQ EV รถยนต์ไฟฟ้าพร้อมขายในราคาเริ่มต้น 1.749 ล้านบาท และ Hyundai H-1 Black Series รุ่นพิเศษ ราคา 1.579 ล้านบาท
Isuzu MU-X THE ICONIC: อเนกประสงค์หรูตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
อีซูซุ เปิดตัว New Isuzu MU-X THE ICONIC รถอเนกประสงค์หรูพิเศษ สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ในราคาเริ่มต้น 1.354 ล้านบาท
Jaguar E-PACE: SUV อเนกประสงค์ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว
จากัวร์ เปิดตัว NEW JAGUAR E-PACE SUV อเนกประสงค์ดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
Kia Grand Carnival Facelift: MPV หรู 11 ที่นั่ง
เกีย นำเสนอ KIA Grand Carnival Facelift MPV หรู 11 ที่นั่ง พร้อมการปรับโฉมใหม่
Mazda 3 MY 2018: ออปชั่นที่เพิ่มขึ้น
มาสด้า อัปเดต Mazda 3 MY 2018 เพิ่มออปชั่น ในราคาเริ่มต้น 857,000 บาท
Mercedes-Benz: S-Class ประกอบไทย, CLS ใหม่ และ GLC Coupe’ AMG Plus
เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอ Mercedes-Benz S-Class รุ่นประกอบไทยที่คาดว่าจะมีราคาถูกลง, All New Mercedes-Benz CLS ซาลูนสปอร์ตโฉมใหม่, Mercedes-Benz GLC 250 4MATIC Coupe’ AMG Plus และ Mercedes-Benz E 200 Coupé AMG Dynamic
Mitsubishi Pajero Sport Limited Edition และ Triton Athlete Mega Cab Plus: ตัวเลือกใหม่
มิตซูบิชิ ส่ง Mitsubishi Pajero Sport Limited Edition รุ่นพิเศษ และ Mitsubishi Triton Athlete Mega Cab Plus เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
Nissan GT-R: ก็อตซิลล่าร่างยักษ์ เปิดตัวในงาน Motor Show 2018
นิสสัน เปิดตัว Nissan GT-R “ก็อตซิลล่า” พลัง 555 แรงม้า ในราคา 13.5 ล้านบาท
Suzuki Swift Sport Hatchback: รุ่นใหม่หมด เพิ่มความสปอร์ต
ซูซูกิ เปิดตัว All New Suzuki Swift Sport Hatchback รุ่นใหม่ ในราคาเริ่มต้น 499,000 บาท
Toyota Alphard – Vellfire Facelift: อัครยานยนต์หรู ปรับโฉมใหม่
โตโยต้า นำเสนอ Toyota Alphard – Vellfire Facelift อัครยานยนต์หรู ปรับโฉมใหม่ ในราคาเริ่มต้น 3.809 ล้านบาท
Toyota C-HR: Crossover น้องใหม่ พร้อมโชว์ตัว
โตโยต้า โชว์ตัว Toyota C-HR Crossover น้องใหม่ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า
Volvo XC60: SUV ขุมพลัง Plug-in Hybrid และดีเซล
วอลโว่ นำเสนอ Volvo XC60 เจเนอเรชั่นใหม่ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล D4 190 แรงม้า และ Plug-in Hybrid 407 แรงม้า ในราคาเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท
BMW 7 Series Pure Excellence: ประกอบในประเทศ สร้างมาตรฐานใหม่แห่งความหรู
บีเอ็มดับเบิลยู นำเสนอ BMW 7 Series Pure Excellence เวอร์ชั่นประกอบในประเทศ 2 รุ่น คือ 730Ld Pure Excellence ราคา 5,839,000 บาท และ 740Le xDrive Pure Excellence ราคา 6,339,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard) ยกระดับความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะ ด้วยโครงสร้าง Carbon Core, ไฟหน้า Adaptive LED, หลังคา Panoramic Glass Roof, ระบบ BMW Gesture Control และเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ที่มอบพละกำลังสูงสุด 326 แรงม้า
Aston Martin DB11 V8: เปิดตัวครั้งแรกในอาเซียน
แอสตัน มาร์ติน เผยโฉม Aston Martin DB11 V8 ขุมพลัง 503 แรงม้า พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.0 วินาที ในราคา 21.9 ล้านบาท
Audi A5 Sportback และ A4 Avant Black Edition: สปอร์ตหรู ดีไซน์ลงตัว
อาวดี้ นำเสนอ Audi A5 Sportback รถ 5 ประตู ที่ผสานความอเนกประสงค์กับความสปอร์ต และ Audi A4 Avant Black Edition ในราคาเริ่มต้น 3.249 ล้านบาท
BMW X3: เจเนอเรชั่นที่ 3 ผสานความแกร่งกับความสปอร์ต
บีเอ็มดับเบิลยู เผยโฉม BMW X3 เจเนอเรชั่นที่ 3 เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2 ลิตร 190 แรงม้า ในราคา 3.699 ล้านบาท
MINI John Cooper Works Countryman: รถอเนกประสงค์ พรีเมียม สมรรถนะเร้าใจ
มินิ ส่ง MINI John Cooper Works Countryman รถอเนกประสงค์พรีเมียม ที่คงเอกลักษณ์ ‘go-kart-feeling’ พร้อมสมรรถนะเร้าใจ
Chevrolet Colorado Centennial Edition: ฉลอง 100 ปี กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง
เชฟโรเลต ฉลอง 100 ปี กระบะอเมริกัน ด้วย Chevrolet Colorado Centennial Edition รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด 100 คัน
Honda Civic Rallye Red: ซีดานยอดนิยม กับสีสันใหม่
ฮอนด้า นำเสนอ Honda Civic ในเทรนด์สีแดง Rallye Red ตอบรับความนิยมของลูกค้า
Hyundai H-1 และ Grand Starex: MPV ยอดขายอันดับ 1 พร้อมชุดอัพเกรดช่วงล่าง
ฮุนได ยังคงโดดเด่นด้วย Hyundai MPV Series ทั้ง H-1 และ Grand Starex พร้อมแนะนำชุดอัพเกรดช่วงล่างเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล
Isuzu D-MAX และ MU-X Blue Power: ฉลอง 60 ปี พร้อมการปรับโฉม
อีซูซุ ฉลอง 60 ปี ด้วย Isuzu D-MAX และ The New Isuzu MU-X ที่ปรับโฉมใหม่ พร้อมระบบความบันเทิง ISUZU i-Connect
Jaguar F-TYPE: สปอร์ตโรดสเตอร์ระดับโลก
จากัวร์ เปิดตัว NEW JAGUAR F-TYPE สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตระดับโลก พร้อมด้วย Range Rover Velar, New Land Rover Discovery และ Jaguar F-Pace
Kia Stinger และ Soul EV: รถใหม่ 2 รุ่น ขับเคลื่อนอนาคต
เกีย เปิดตัว Kia Stinger พรีเมียมซีดานหรู และ Kia Soul EV ยานยนต์ไฟฟ้า 100%
Lexus LS: เรือธงใหม่ บนแพลตฟอร์ม GA-L
เลกซัส เปิดตัว Lexus LS เจเนอเรชั่นที่ 5 บนแพลตฟอร์ม GA-L ดีไซน์หรูสง่างาม พร้อมเทคโนโลยีและเครื่องยนต์ V6 Hybrid
Mazda CX-5: SUV รุ่นใหม่หมด สานต่อเทคโนโลยี Skyactiv
มาสด้า เปิดตัว Mazda CX-5 SUV รุ่นใหม่หมด พร้อมดีไซน์ Kodo Design ใหม่ และเครื่องยนต์ Skyactiv
Mercedes-AMG GT R และ GT C: รถสปอร์ตสายพันธุ์แรง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอ Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C รถสปอร์ตสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo
MG ZS: SUV เล็กขวัญใจคนเมือง พร้อมระบบ i-SMART
เอ็มจี เปิดตัว MG ZS SUV อเนกประสงค์ขนาดเล็ก พร้อมระบบ i-SMART สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย
Mitsubishi Triton Athlete และ Xpander: ตัวเลือกใหม่ในตลาด
มิตซูบิชิ นำเสนอ Mitsubishi Triton Athlete รุ่นตกแต่งพิเศษ และ Mitsubishi Xpander อเนกประสงค์ที่อาจเปิดตัวจริงในปีหน้า
Nissan Leaf, Note e-Power และ Navara MY 2018: เทคโนโลยีแห่งอนาคต
นิสสัน โชว์ Nissan Leaf ยานยนต์ไฟฟ้า 100%, Nissan Note e-Power ระบบ Hybrid ใหม่ และ Nissan Navara MY 2018 ที่เพิ่มออปชั่น
Subaru XV: เจเนอเรชั่นใหม่ บน Subaru Global Platform
ซูบารุ เปิดตัว Subaru XV เจเนอเรชั่นที่ 2 บน Subaru Global Platform พร้อมเครื่องยนต์ Boxer 2.0 ลิตร และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical AWD
Suzuki Ciaz: Eco Car เพิ่มออปชั่น ช่องแอร์หลัง
ซูซูกิ นำเสนอ Suzuki Ciaz Eco Car ที่เพิ่มออปชั่นช่องแอร์หลัง โดยไม่ปรับราคา
Toyota C-HR และ Hilux Revo Facelift: สองรุ่นไฮไลท์
โตโยต้า โชว์ Toyota C-HR Crossover ใหม่ และ Toyota Hilux Revo รุ่นปรับโฉม
Volvo XC60: SUV ดีไซน์สแกนดิเนเวีย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย
วอลโว่ นำเสนอ Volvo XC60 เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
Porsche Panamera: นิยามใหม่ของ Gran Turismo ประสิทธิภาพเหนือชั้น ผสานความหรูหรา
Porsche Panamera รุ่นใหม่ (971) ได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม MSB Modular Standard Drivetrain Platform เน้นการออกแบบที่สวยงามปราดเปรียวยิ่งขึ้น ผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะสปอร์ตอย่างลงตัว การออกแบบภายนอกที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 911 รวมถึงเส้นสายไฟท้ายที่เชื่อมต่อกัน และโป่งล้อหลังที่ยกตัวขึ้น ทำให้ Panamera ดูสปอร์ตและน่าดึงดูดมากขึ้น
ภายในห้องโดยสาร: ล้ำสมัยและใช้งานง่าย
Porsche Advance Cockpit ผสมผสานดีไซน์เรียบง่าย ทันสมัย พร้อมจอแสดงผลกลางขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ผ่านระบบสัมผัส (Touch Sensitive) ระบบเบรกที่แม่นยำ และช่วงล่างที่ปรับได้หลากหลาย ทำให้ Panamera มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า
หลากหลายรุ่นให้เลือกสรร: ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
Panamera 4 E-Hybrid / Executive: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยังคงสมรรถนะที่น่าประทับใจ พร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid
Panamera 4S / Executive: รุ่นที่ผสมผสานสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ความคล่องตัว และความหรูหราได้อย่างลงตัว เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
Panamera Turbo / Executive: สุดยอดยนตรกรรมแห่ง Gran Turismo ด้วยพละกำลังสูงสุด 550 แรงม้า ให้การขับขี่ที่เร้าใจและเหนือชั้น
Porsche Panamera: ไม่ใช่แค่รถยนต์หรู แต่คือ “ลูกครึ่ง” ที่ผสมผสานความเป็นรถสปอร์ต GT และซีดานคันใหญ่ได้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าจดจำและสะท้อนรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของ
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่มอบทั้งสมรรถนะ ความหรูหรา และความสะดวกสบายในหนึ่งเดียว Porsche Panamera คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม เชิญสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ได้ที่โชว์รูม Porsche หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่รุ่นต่างๆ รวมถึงข้อเสนอพิเศษ โปรดติดต่อ AAS Auto Service เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านปอร์เช่โดยตรง
