Alpine A290: นิยามใหม่ของ Hot Hatch ไฟฟ้า สู่สายตาตลาดโลก
ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลายค่ายต่างแข่งขันกันนำเสนอเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ล้ำสมัยเพื่อดึงดูดใจผู้บริโภค ท่ามกลางสมรภูมินี้ Alpine แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงในเครือ Renault Group ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Alpine A290 รถยนต์ไฟฟ้าที่ผสานแนวคิด Hot Hatch อันเป็นเอกลักษณ์ เข้ากับนวัตกรรมแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่สะดุดตา แต่หัวใจสำคัญของ A290 อยู่ที่การวางตำแหน่งและรายละเอียดภายในที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มเปี่ยม
DNA แห่งสายพันธุ์นักแข่ง: การออกแบบที่เหนือกว่าความคาดหมาย
Alpine A290 ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่คือการถอดแบบ DNA แห่งนักแข่งมาสู่ท้องถนน แม้จะมีขนาดกะทัดรัด ด้วยความยาวเพียง 4.05 เมตร แต่การออกแบบล้อขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว กลับสร้างความรู้สึกทรงพลังและปราดเปรียวให้กับตัวรถอย่างไม่น่าเชื่อ การออกแบบภายนอกเน้นเส้นสายที่เฉียบคม โฉบเฉี่ยว สะท้อนถึงสมรรถนะที่พร้อมจะปลดปล่อยออกมาทุกเมื่อ
ภายในห้องโดยสาร คือจุดที่ Alpine A290 แสดงตัวตนความเป็น “รถแข่ง” ได้อย่างชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะการวางตำแหน่งผู้ขับขี่ให้อยู่กึ่งกลางรถ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากรถแข่งระดับตำนานอย่าง McLaren F1 การจัดวางเช่นนี้ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดื่มด่ำและเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ แต่ยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม เบาะนั่งแบบ Bucket Seat ที่โอบกระชับ สวมใส่สบาย ราวกับหลุดออกมาจากรถ Formula 1 ยิ่งตอกย้ำถึงความตั้งใจของ Alpine ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่แบบรถแข่งให้กับผู้ใช้งานทั่วไป
ไม่เพียงเท่านั้น พวงมาลัยของ Alpine A290 ยังสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยการออกแบบรูปทรงแปดเหลี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้ในรถแข่ง LMP2 รุ่น A470 และ Formula 1 รุ่น A523 โดยมีปุ่ม “แซง” (Overtake button) ที่ให้กำลังเพิ่มขึ้นชั่วขณะ 10 วินาที ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่แสดงถึงความพร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าในทุกจังหวะ นอกจากนี้ ยังมีปุ่มควบคุมที่หลากหลายบนพวงมาลัย ทั้งสำหรับระบบวิทยุ, ระบบจำกัดความเร็วในพิทเลน (Pit Lane Limiter) และการปรับระดับระบบ ABS ถึง 11 ระดับ
เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ: ประสิทธิภาพที่สัมผัสได้
Alpine A290 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่วางอยู่ด้านหน้า ให้กำลังที่เหนือความคาดหมายสำหรับรถยนต์ขนาดนี้ และเพื่อรองรับประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย Alpine ได้ติดตั้งโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ Wet (สำหรับสภาพถนนเปียก), Dry (สำหรับสภาพถนนแห้ง) และ Full (ปลดล็อกกำลังทั้งหมด) ซึ่งโหมด Full นี้ จะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัวออกมาอย่างเต็มที่ Alpine ยังยืนยันว่าปุ่ม “แซง” ที่อยู่บนพวงมาลัย จะถูกส่งต่อไปยังเวอร์ชันที่จะผลิตจริง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับประสบการณ์การเร่งแซงที่เร้าใจ
แพลตฟอร์ม CMF-B EV ซึ่งพัฒนาโดย Renault Group เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ Alpine A290 สามารถผสานเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบแบตเตอรี่ได้อย่างลงตัว เพื่อมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ควบคู่ไปกับสมรรถนะที่เชื่อถือได้ในระยะยาว
เทศกาล Goodwood Festival of Speed: เวทีแห่งนวัตกรรมและประวัติศาสตร์
การเปิดตัวและการนำเสนอ Alpine A290 นี้ ยิ่งทวีความน่าสนใจเมื่อพิจารณาถึงบริบทของงานแสดงรถยนต์ระดับโลกอย่าง Goodwood Festival of Speed ที่จัดขึ้น ณ สหราชอาณาจักร งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสำหรับรถยนต์คลาสสิก รถซูเปอร์คาร์ และรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับแสดงนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี
Goodwood Festival of Speed ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 โดย Charles Gordon-Lennox, Duke of Richmond เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงสนามแข่งเก่าแก่ในที่ดินของ Goodwood Estate ที่เคยรุ่งเรืองหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 งานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนกรกฎาคม โดยมีการแข่งขันประเภท Hill Climbing บนเส้นทางความยาว 1.16 ไมล์ หน้าคฤหาสน์ Goodwood House ซึ่งเปิดโอกาสให้ยานยนต์หลากหลายประเภทได้มาประชันความเร็วกันอย่างใกล้ชิด ทำให้เป็นหนึ่งในงานมอเตอร์สปอร์ตกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ละปี มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คนต่อวัน รวมถึงนักแข่งระดับตำนาน และผู้ที่ชื่นชอบในความเร็วจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากกิจกรรมการแข่งขัน ยังมีงานแสดงรถยนต์คลาสสิก การแสดงรถแรลลี่บนทางฝุ่น การจัดแสดงนวัตกรรมใหม่ ๆ ของรถยนต์ และที่สำคัญคือการนำรถยนต์ต้นแบบมาวิ่งทดสอบก่อนเปิดตัวสู่สาธารณชน
MG ขนทัพ EV โชว์ศักยภาพที่ Goodwood
ในงาน Goodwood Festival of Speed ปีล่าสุด MG แบรนด์ที่มีต้นกำเนิดบนเกาะอังกฤษ ก็ได้นำทัพยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาร่วมสร้างสีสันอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง MG IM5 ควบคู่ไปกับรุ่นพี่ MG IM6 นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอโมเดลเรือธงอย่าง CYBERSTER Black Edition, MG CYBER X ที่ออกแบบโดย Jozef Kabaň รองประธานฝ่ายออกแบบ SAIC DESIGN และรถ SUV อย่าง MG S5 EV ซึ่งต่อยอดความนิยมจาก MG ZS EV
ไฮไลท์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจคือ MG EX4 รถแนวคิดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแรลลี่ระดับตำนานอย่าง Metro 6R4 ในยุค 80s MG EX4 นี้ ถือเป็นการนำตำนานกลับมาสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า โดยได้รับการออกแบบจากทีมดีไซเนอร์ของ MG ในกรุงลอนดอน พร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก MG4 ELECTRIC XPOWER เสริมด้วยกราฟิกดีไซน์พิเศษสำหรับการจัดแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ
MG IM6 และ MG IM5 ได้รับโอกาสในการวิ่งทดสอบบนเส้นทางขึ้นเขาอันคดเคี้ยวของ Goodwood ซึ่งเป็นการพิสูจน์สมรรถนะที่แท้จริงของรถยนต์เหล่านี้
ทิศทางตลาดรถยนต์หรูและ EV: บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
ในแวดวงยานยนต์ระดับลักชัวรีและซูเปอร์คาร์ ผู้บริหารจาก Maserati ประเทศไทย ได้คาดการณ์ถึงแนวโน้มตลาดในปี 2568-2569 โดยชี้ให้เห็นว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตรขึ้นไป โดยเฉพาะเครื่องยนต์ V8 อาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ลักชัวรีคาร์และซูเปอร์คาร์ในปี 2569 อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 นี้ คาดว่าตลาดจะมีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปี
“ผู้ประกอบการที่ไม่มีรถยนต์กลุ่มพลังงานไฟฟ้าน่าจะได้รับผลจากการปรับโครงสร้างภาษีครั้งนี้ เพราะจะทำให้ค่ายรถหันมาปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 25% หากมองในมุมของผู้บริโภค การมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าอายุ 35-45 ปี ที่ให้ความสนใจรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง Maserati MC20, Gran Turismo และ Grecale ในเวอร์ชันไฟฟ้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก” นายปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ Maserati ประเทศไทย กล่าว
อย่างไรก็ตาม สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ ซึ่งอาจทำให้ตลาดกลุ่มนี้ขยายตัวได้ช้าลง อีกทั้งการนำรถคันเดิมมาขายต่อก็ค่อนข้างยาก เนื่องจากลูกค้ายังต้องการเก็บเงินไว้ ทำให้ตลาดรถมือสองหดตัวลง
Great Wall Motor (GWM): ก้าวสู่สังเวียน Supercar
Great Wall Motor (GWM) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากจีน ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดเผยภาพทีเซอร์ของรถซูเปอร์คาร์คันแรกของบริษัท ซึ่งมีเป้าหมายที่จะท้าชนกับ Ferrari โดยคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2569
นาย Wei Jianjun ประธานบริษัท GWM ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เป็น “รถสปอร์ตคันแรกของจีนอย่างแท้จริง” ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนามาแล้ว 4-5 ปี โครงการนี้ได้รับการพัฒนาภายใต้ Ultra Luxury Vehicle Business Group ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างรถยนต์ที่มอบความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ขับขี่
แม้รายละเอียดเบื้องต้นยังไม่ชัดเจนนัก แต่มีการคาดการณ์ว่ารถรุ่นนี้อาจใช้เครื่องยนต์ V8 Twin-Turbo 4.0 ลิตร พัฒนาขึ้นเอง ควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบ PHEV โดยมีกำลังรวมของระบบประมาณ 1,000 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ต่ำกว่า 3 วินาที และมีความเร็วสูงสุดเกิน 350 กม./ชม. หากสมรรถนะเป็นไปตามคาด รถรุ่นนี้จะสามารถแข่งขันโดยตรงกับ Supercar ยุโรปได้อย่างสูสี แต่มาพร้อมต้นทุนที่ต่ำกว่าอย่างมาก คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านหยวน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของราคา Ferrari SF90 ในประเทศจีน
Mercedes-Benz: รุกตลาด Ultra-Luxury และ EV อย่างต่อเนื่อง
Mercedes-Benz ประเทศไทย ได้ประกาศแต่งตั้ง เบนซ์ไพรม์มัส เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ “Mercedes-Maybach” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยตั้งเป้าเป็น Top of Mind ของลูกค้า Mercedes-Benz ในประเทศไทย
“การได้รับแต่งตั้งเป็นดีลเลอร์ Mercedes-Maybach ในครั้งนี้ จะทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ครบทุกเซกเมนต์ในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า” ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด กล่าว
โชว์รูม Mercedes-Maybach ที่ เบนซ์ไพรม์มัส ตั้งอยู่บนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อจัดพื้นที่จัดแสดงรถยนต์ โดยเน้นเอกลักษณ์เฉพาะแบบ Sophisticated Luxury พร้อมบุคลากรและอุปกรณ์พิเศษเพื่อรองรับลูกค้าคนสำคัญ คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนกันยายน 2564
“การได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach ทำให้ ‘เบนซ์ไพรม์มัส’ เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz แห่งแรกของเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ครบทุกเซกเมนต์” จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด กล่าว
นอกจากนี้ Mercedes-Benz ยังเดินหน้าขยายตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะประกอบ Mercedes-Maybach และ Mercedes-EQ รุ่น Plug-in Hybrid ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสองประเทศแรกของโลก (ร่วมกับจีน) ที่จะเริ่มทำตลาด Maybach รุ่น Plug-in Hybrid เพื่อลดภาระภาษีนำเข้าและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาด
Aston Martin: เปิดตัว DBX707 ซูเปอร์เอสยูวีสุดหรู
Aston Martin Bangkok ผู้นำเข้ารถยนต์ Aston Martin จากอังกฤษ ได้เปิดตัว “Aston Martin DBX707” ซูเปอร์เอสยูวีหรูระดับอัลตราลักชัวรี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 24.9 ล้านบาท
DBX707 คือรถเอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ Aston Martin มาพร้อมขุมพลังระดับ 707 แรงม้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ฉีกแนวกล่อง SUV ทั่วไป ด้วยเส้นสายที่พลิ้วไหว เซ็กซี่ และหรูหรา พร้อมโลโก้รูปปีกที่เป็นเอกลักษณ์
ด้านสมรรถนะ DBX707 ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น แผ่นรีดอากาศด้านใต้และข้างกันชนหน้า ช่องดักอากาศพร้อมไฟ DRL เส้นตรง รวมถึงชุดอุปกรณ์รีดอากาศ Side Strake บริเวณแก้มข้าง และสเกิร์ตข้างที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนด้านหลังเพิ่มชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์บนสปอยเลอร์หลังคา ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดเขื่อง และปลายท่อไอเสียแบบ Quad Exhaust Tailpipes 4 ปลาย
ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว เป็นมาตรฐาน สามารถอัปเกรดเป็น 23 นิ้วได้ ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกเป็นมาตรฐาน พร้อมลิมิเต็ดสลิปไฟฟ้า ดิสก์เบรกขนาด 420 มม. คู่หน้า และ 360 มม. คู่หลัง จับคู่กับคาลิเปอร์เบรก 6 พอต
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง Alcantara พร้อมเบาะหน้าแบบสปอร์ต คอนโซลกลางออกแบบคล้ายสะพาน จออเนกประสงค์ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay กล้องมองภาพ 360 องศา และ Ambient Lighting 64 เฉดสี หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และประตูไร้กรอบกระจก
ขุมพลังของ DBX707 คือเครื่องยนต์เบนซิน V8 Twin-Turbo 4.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยเทอร์โบบอลแบริ่งขนาดใหญ่ และปรับแต่ง ECU เพื่อรีดกำลังแรงม้า 707 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 900 นิวตันเมตร ที่ 2,750-4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ wet clutch 9 จังหวะ
AVATR 11: SUV Coupe ไฟฟ้าสุดลักชัวรี
CHANGAN Automobile จับมือ CATL และ Huawei เปิดตัว AVATR 11 SUV Coupe ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย สุดยอดความหรูหรา และแบตเตอรี่สุดอึด ในราคาเริ่มต้น 2.099 ล้านบาท
AVATR 11 มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำสมัยขนาด 116 kWh จาก CATL ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 680 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว พร้อมแพลตฟอร์ม 800 โวลต์ รองรับการชาร์จเร็วจาก 30% เป็น 80% ของแบตเตอรี่ 90 kWh ใน 15 นาที และ 116 kWh ใน 25 นาที
รถยนต์ AVATR 11 ทุกคันทั่วโลกวิ่งมาแล้วกว่า 600 ล้านกิโลเมตร โดยไม่พบอุบัติเหตุจากเพลิงไหม้ ด้วยมาตรฐานสากลของแบตเตอรี่ระดับสูงสุด IP68
เทคโนโลยีที่น่าสนใจใน AVATR 11 ได้แก่ ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง L2+ (ADAS) พร้อม LiDAR 12 ตัว เรดาร์ 5 ตัว และกล้อง HD 5 ตัว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC) ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (APA) รวมถึงอัปเดต OTA ต่อเนื่อง
จุดเด่นคือประตูไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบ Ambient Lighting 256 สี ดีไซน์ Vortex สร้างบรรยากาศอบอุ่น หลังคาพาโนรามาป้องกันรังสียูวีและกันความร้อน กระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่ง
Denza N8L: SUV 6 ที่นั่ง ปลั๊กอินไฮบริด จาก BYD
Denza แบรนด์ในเครือ BYD เตรียมเปิดตัวรถยนต์ SUV ไฮบริดรุ่นใหม่ 6 ที่นั่ง ชื่อ Denza N8L ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า N8L เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มิติตัวถังยาว 5,200 มม. กว้าง 1,999 มม. สูง 1,820/1,990 มม. ระยะฐานล้อ 3,075 มม.
N8L มาพร้อมเทคโนโลยี e3 ของ BYD ซึ่งพัฒนามาจาก e4 ที่ใช้ในรถยนต์ซูเปอร์ลักชัวรี สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 3 ตัว และมีระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เครื่องยนต์ขนาด 1,995 ซีซี ให้กำลัง 152 kW
MG IM6: เรือธง EV พรีเมียม เตรียมบุกตลาดไทย
MG ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว NEW MG IM6 ซึ่งเป็นหนึ่งในโมเดลเรือธงจาก SAIC MOTOR CORPORATION ในเดือนมีนาคม 2568 นี้ หลังจากที่เวอร์ชันพวงมาลัยขวาได้จัดแสดงครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยในงาน Motor Expo 2024
“IM6 เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยการผสานนวัตกรรมขั้นสูงเข้ากับงานออกแบบที่เหนือระดับ” บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
IM6 เป็นผลผลิตจากการร่วมมือของ SAIC MOTOR CORPORATION, Zhangjiang Hi-Tech และ Alibaba Group โดยมีแนวคิด “Intelligence in Motion” ซึ่งวางรากฐานการพัฒนาบน 3 เสาหลัก คือ Intelligent Driving Experience, Futuristic Safety Technology และ Advanced Electrification
Denza Z: ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าสุดแรงจาก BYD
Denza แบรนด์หรูในเครือ BYD กำลังเตรียมเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าระดับพรีเมียม Denza Z ที่เคยเผยโฉมในงาน Shanghai Auto Show ล่าสุดมีภาพหลุดขณะวิ่งทดสอบในสนาม Nurburgring ประเทศเยอรมนี
Denza Z คาดว่าจะแรงกว่า Denza Z9 GT ที่ใช้มอเตอร์ 3 ตัว ให้กำลังสูงสุด 961 แรงม้า โดยคาดว่าจะนำเทคโนโลยีบางส่วนจากซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า Yangwang U9 มาประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีที่น่าสนใจ ได้แก่ ระบบ Steer-by-Wire และระบบช่วงล่าง DiSus-M ควบคุมด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจาก Lamborghini และ McLaren คาดว่าจะเข้าสู่สายการผลิตจริงในปี 2569
Avatr 11 รุ่นปรับโฉมใหม่: SUV อัจฉริยะระดับหรู
Avatr ได้เปิดตัว Avatr 11 รุ่นปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศจีน ซึ่งเป็นรถ SUV อัจฉริยะระดับหรูรุ่นเรือธง โดยมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ทั้งแบบ BEV และ REEV ราคาเริ่มต้นที่ 289,900 หยวน (ประมาณ 1.3 ล้านบาท)
ทุกรุ่นมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะจาก Huawei รวมถึง LiDAR 3 จุด และระบบขับขี่อัตโนมัติ Qiankun ADS รุ่น Max มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมียม เช่น ระบบเสียง Bowers & Wilkins, สปอยเลอร์หลังแอคทีฟ, ประตูดูดไฟฟ้า
รุ่นพิเศษ Dark Knight เน้นสมรรถนะ มาพร้อมช่วงล่าง KONI ที่ปรับได้ถึง 20 ระดับ
Volvo S90: ไมเนอร์เชนจ์ เสริมความหรูหราและสมรรถนะ
Volvo S90 ได้รับการไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่ 2 โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกด้วยกระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยมใหม่ ไฟหน้า Matrix LED ระบบไฟ DRL รูปตัว T กันชนหน้าทรงใหม่ ช่องระบายอากาศแนวตั้ง คิ้วโครเมียมเพิ่มความหรูหรา
ด้านท้ายมีการย้ายตำแหน่งป้ายทะเบียนมาที่ฝาท้าย ไฟท้าย LED ทรง Thor’s Hammer รมดำใหม่ คิ้วโครเมียมชายล่างกันชนรับกับดีไซน์โดยรวม
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 11.2 นิ้ว with Google Built-in ระบบ Sensus Connect เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดกราฟิก 12.3 นิ้ว ระบบฟอกอากาศอัจฉริยะ Clean Zone และเครื่องเสียง “Premium Sound by Bowers & Wilkins” 19 ลำโพง
ขุมพลัง T8 Plug-in Hybrid AWD ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Engine 2.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 462 แรงม้า แรงบิด 709 นิวตันเมตร วิ่งโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 98.2 กม. (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.6 วินาที
Lamborghini Urus SE: ซูเปอร์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรก
Lamborghini Urus SE คือซูเปอร์เอสยูวีระบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ ด้วยกำลังเครื่องยนต์รวม 800 CV วิ่งไกลถึง 60 กม. ในโหมดไฟฟ้า
Urus SE นำเสนอดีไซน์ใหม่ ประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น เทคโนโลยีช่วยขับขี่เหนือชั้น และระบบส่งกำลัง 800 CV ที่ไร้คู่แข่ง ชูเวอร์ชัน PHEV เป็นรุ่นท็อปในตระกูล
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 4.0 พัฒนาใหม่ให้กำลัง 620 CV ผสานกับระบบส่งกำลังไฟฟ้า 192 CV ให้กำลังรวมสูงสุด 800 CV แรงบิดรวม 950 Nm เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 312 กม./ชม.
ZEEKR: ยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชัวรี เปิดตัวที่ Bangkok International Motor Show 2025
ZEEKR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชัวรี นำทัพยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ อวดโฉมในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ด้วยไฮไลต์ ZEEKR X SUV EV, ZEEKR 009 MPV EV ที่สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ครบครัน
ZEEKR เปิดรับจองสิทธิ์รถยนต์รุ่นใหม่ ZEEKR 7X SUV และ ZEEKR 009 รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 7 ที่นั่ง พร้อมเผยโฉม ZEEKR 001 FR และ Concept Car ภายใต้ชื่อ ZEEKR Group
“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เรามีความมั่นใจว่าเทคโนโลยีและการออกแบบของเราจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค” นาย แฟรงค์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ZEEKR Group International กล่าว
สรุป
ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและกลุ่มลักชัวรีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด Alpine A290, MG IM6, Lamborghini Urus SE, Mercedes-Maybach, Aston Martin DBX707, Avatr 11, Denza Z, ZEEKR และ Volvo S90 ล้วนเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางของอนาคตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี สมรรถนะ และความหรูหรา
การที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น ทั้งในด้านประเภทของรถยนต์ แหล่งพลังงาน และระดับราคา ทำให้การตัดสินใจเลือกยานยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเองกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคย
หากคุณกำลังมองหายานยนต์ที่ผสมผสานสมรรถนะอันเร้าใจ เทคโนโลยีล้ำสมัย และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ การสำรวจรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวในปีนี้ คือก้าวแรกที่สำคัญสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร.

