เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่: ยกระดับประสบการณ์การเดินทางหรูหราเหนือระดับ
ในโลกแห่งยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการแสวงหาความสมบูรณ์แบบ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านยนตรกรรมหรูหราเหนือกาลเวลา ล่าสุด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัว เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการปรับปรุงครั้งสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความสะดวกสบาย ความหรูหรา และสมรรถนะที่เหนือชั้น นี่คือการเดินทางสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้ขีดจำกัด
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีประสบการณ์กว่าทศวรรษ ผมได้สังเกตเห็นถึงพัฒนาการของตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม ซึ่งมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าไม่ได้มองหารถที่ตอบโจทย์เพียงแค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B เท่านั้น แต่ยังต้องการพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ฟังก์ชันที่ทันสมัย ระบบความปลอดภัยที่วางใจได้ และดีไซน์ที่สะท้อนถึงรสนิยมอันมีระดับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ นี้ คือการตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
The V-Class: ความหรูหราที่มาพร้อมพื้นที่อันกว้างขวาง
หัวใจสำคัญของการเปิดตัว เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ คือการนำเสนอตัวถังแบบ Extra Long ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ความยาวที่เพิ่มขึ้นนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขบนสเปกชีท แต่คือการตีความใหม่ของคำว่า “พื้นที่” ห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น หมายถึงอิสระในการเคลื่อนไหว การจัดสรรพื้นที่สำหรับผู้โดยสารทุกท่านอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางพักผ่อนกับครอบครัว การเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือการเดินทางในโอกาสพิเศษ ความรู้สึกโปร่งสบายและสะดวกสบายจะเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารทุกคนสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในห้องโดยสาร
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น” มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าว “ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ส่วนดีไซน์ภายในเน้นการตกแต่งที่หรูหรามีระดับ ประณีตในทุกรายละเอียด อีกทั้งยังมอบความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยตัวถังแบบใหม่ Extra Long ช่วยเพิ่มขนาดในห้องโดยสารให้มีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น ทำให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น”
การออกแบบที่เหนือระดับ: สะท้อนความสง่างามทุกอณู
เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ มาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ดาวสามแฉกอย่างชัดเจน กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ให้ภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งและมั่นคง พร้อมช่องระบายความร้อนที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต เส้นสายของตัวรถที่ดูยาวและสง่างาม สะท้อนถึงความกว้างขวางภายใน
สำหรับรุ่น V 220 d Avantgarde Premium มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่สามารถปรับลำแสงได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยในทุกสภาวะการขับขี่ กระจกมองหลังและมองข้างฝั่งคนขับที่สามารถปรับลดแสงสะท้อนแบบอัตโนมัติ และระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL ที่มอบความนุ่มนวลและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
ในขณะที่รุ่น V 220 d Business มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ไฟหน้าแบบฮาโลเจนที่ทำงานโดยอัตโนมัติ และระบบกันสะเทือนแบบ Comfort เพื่อมอบความนุ่มนวลสูงสุดในการเดินทาง และทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับประตูเลื่อนอัตโนมัติระบบไฟฟ้าทั้งซ้าย-ขวา เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถเพียงสัมผัสเดียว
ห้องโดยสาร: นิยามใหม่ของความหรูหราและความสบาย
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งความหรูหราและประณีตในทุกรายละเอียด การออกแบบที่เน้นความกว้างขวางและการใช้วัสดุคุณภาพสูง ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสุข
สำหรับรุ่น V 220 d Avantgarde Premium ยกระดับประสบการณ์การโดยสารด้วยห้องโดยสารสีเบจ เบาะหุ้มหนัง Lugano สีเบจ และการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2-2-3 ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 3 ตำแหน่ง พิเศษยิ่งกว่าด้วยเบาะนั่งแบบ Luxury Captain Chair จำนวน 1 คู่ สำหรับผู้โดยสารแถวแรกตอนหลัง ที่สามารถปรับหัวหมอน พนักพิง และที่รองน่องด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง ระบบระบายอากาศและอุ่นเบาะ 3 ระดับ พร้อมฟังก์ชันนวดหลัง 3 โปรแกรม วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ pinstripe effect เพดานสี porcelain ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC ในห้องคนขับ และ TEMPMATIC ในห้องโดยสารตอนหลัง พร้อมระบบเครื่องเสียง Audio 20 CD ที่มาพร้อมแป้นควบคุมแบบสัมผัส ยกระดับสุนทรียภาพในการเดินทางให้เหนือกว่า
สำหรับรุ่น V 220 d Business มาพร้อมห้องโดยสารสีเทา เบาะผ้า Santiago สีดำ และการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2-2-2 วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ black piano-lacquer ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ TEMPMATIC ทั้งในห้องคนขับและห้องโดยสารตอนหลัง พร้อมระบบเครื่องเสียง Audio 20 USB
เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด: มั่นใจทุกการเดินทาง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่เคยประนีประนอมในเรื่องความปลอดภัย เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยภายใต้มาตรฐานสูงสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อให้ทุกการเดินทางของทุกคนในครอบครัวเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัย
ระบบพื้นฐานที่มาพร้อมกับทุกรุ่น ได้แก่ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ADAPTIVE ESP®, ระบบป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR, ระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะตัวรถด้านข้าง Crosswind Assist, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist, ระบบรักษาระดับความเร็ว Cruise Control, ไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน Adaptive Brake Light, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST
สำหรับรุ่น V 220 d Avantgarde Premium ได้รับการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่ก้าวล้ำยิ่งขึ้น อาทิ ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist, ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system, ระบบช่วยเตือนจุดบอดสายตา Blind Spot Assist, ระบบช่วยเตือนให้ขับรถในช่องทาง Lane Keeping Assist, และระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา Active Parking Assist with 360˚camera
สมรรถนะที่เหนือชั้น: ประสิทธิภาพที่วางใจได้
ภายใต้รูปลักษณ์อันสง่างาม เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ ความจุ 2,143 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-TRONIC PLUS ที่ส่งกำลังอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ มอบอัตราเร่งที่ทรงพลังพร้อมการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
ราคาและการเสนอขาย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอ The New V-Class ใน 2 รุ่นย่อยหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน:
V 220 d Avantgarde Premium: ราคา 5,790,000 บาท
V 220 d Business: ราคา 3,990,000 บาท
อนาคตของยนตรกรรมที่ยั่งยืน: ภาพรวมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากการเปิดตัว V-Class แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน การเปิดตัว Mercedes-Benz C 300 e ซึ่งเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (EQ Power) เจเนอเรชั่นที่ 3 รุ่นประกอบในประเทศ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอเทคโนโลยีภายใต้แบรนด์ EQ ทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) EQ สำหรับรถยนต์ Battery Electric Vehicles (BEV), 2) EQ Power สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และ 3) EQ Boost สำหรับเทคโนโลยี 48 โวลต์” มร. โรลันด์ กล่าว “เราได้เปิดตัว Mercedes-Benz S 560 e ซึ่งเป็นเรือธงของกลุ่มปลั๊กอินไฮบริดไปแล้ว และล่าสุด เราได้ขยายพอร์ตโฟลิโอ EQ ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ ยนตรกรรมซาลูนหรูอัจฉริยะที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของ C-Class เข้ากับเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดได้อย่างลงตัว”
Mercedes-Benz C 300 e มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 320 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร พร้อมอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำกว่า 45 กรัม ต่อกิโลเมตร การออกแบบภายนอกที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling ในรุ่น AMG Dynamic และกระจังหน้า Diamond Grille พร้อมระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่สามารถปรับการส่องสว่างได้อย่างแม่นยำ
ภายในห้องโดยสาร เน้นความหรูหราสไตล์สปอร์ต พร้อมระบบ All-Digital Instrument Display หน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอกลาง MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว ระบบเสียง Burmester® surround sound system และระบบ Ambient Light ที่ปรับได้ถึง 64 สี มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ
เทคโนโลยีแบตเตอรี่และการชาร์จ
Mercedes-Benz C 300 e มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนรุ่นใหม่ ขนาดความจุ 13.5 kWh ซึ่งสามารถชาร์จจาก 10% ถึง 100% ได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที ด้วยเครื่องชาร์จ Wallbox ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงและความนุ่มนวลในการขับขี่
ราคาของ Mercedes-Benz C 300 e:
C 300 e Avantgarde: ราคา 2,699,000 บาท
C 300 e AMG Dynamic: ราคา 3,215,000 บาท
Bentley: มรดกแห่งความหรูหราและสมรรถนะ
การเดินทางสู่โลกแห่งยนตรกรรมระดับสูงสุดจะไม่สมบูรณ์หากปราศจาก Bentley ซึ่งเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ได้นำเสนอ All New Continental GT Convertible เจเนอเรชั่นที่ 3 สัญลักษณ์แห่งแกรนด์ทัวริ่งที่หรูหราและสง่างามที่สุดในโลก
“ปีนี้เป็นปีที่สำคัญยิ่งของ Bentley เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี” เดวิด เลนน์, Sales Operations Director, APAC Bentley Motors กล่าว “Continental GT Convertible เป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจนี้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวรถยนต์คันนี้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
Bentley ยังได้จัดแสดงยนตรกรรมชั้นนำอื่นๆ อาทิ Bentayga V8 Petrol SUV ที่ทรงพลังและได้รับรางวัล, The New Bentley Continental GT W12 ที่เปี่ยมด้วยความหรูหราและกำลังสูง, ชุดแต่ง Mulliner ที่รังสรรค์ตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย, และ Centenary Collection สินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นเพื่อฉลอง 100 ปีของแบรนด์
Koenigsegg Regera: สัมผัสแห่งความหายากและสมรรถนะสุดขีด
สำหรับผู้ที่มองหาสุดยอดแห่งซูเปอร์คาร์ Koenigsegg Regera คือนิยามของความพิเศษ ด้วยการผลิตเพียง 80 คันทั่วโลก รังสรรค์ด้วยคาร์บอนไฟเบอร์สีม่วงตัดกับเส้นสีทอง พร้อมล้อคาร์บอนไฟเบอร์ และคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ขุมพลัง V8 เทอร์โบชาร์จ 5.0 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวม 1,500 แรงม้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 410 กม./ชม.
Lexus LC-F: ซูเปอร์คาร์จากแดนปลาดิบที่พร้อมท้าชน
ในตลาดซูเปอร์คาร์ที่ร้อนระอุ Lexus LC-F กำลังเตรียมเข้ามาเขย่าวงการ ด้วยสมรรถนะที่คาดว่าจะท้าชนกับ Nissan GT-R Nismo และ Mercedes-AMG GT โดยพัฒนาขึ้นจากพื้นฐาน Lexus LC500h พร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและหรูหรา คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลังเกิน 600 แรงม้า
การปรับตัวของเมอร์เซเดส-เบนซ์ สู่ยุคใหม่
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์หรูสำหรับผู้สูงอายุอีกต่อไป” ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าว “เราได้ปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงคนรุ่นใหม่ โดยเน้นการส่งมอบประสบการณ์ที่มากกว่าการขายรถยนต์ตรงๆ และให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น”
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย การตลาดที่เข้าถึงง่าย และการนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูของประเทศไทยมายาวนานกว่า 17 ปี และพร้อมที่จะก้าวไปสู่ยุคแห่งยานยนต์แห่งอนาคต
อนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมไฟฟ้า ด้วยการจัดงาน “เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิว เทค เดย์ 2018” พร้อมเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และประกาศแผนการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย รวมถึงการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“เรามุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนแห่งอนาคต” โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าว “เราได้พัฒนารถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 50 รุ่นย่อยภายในปี 2565”
การเดินทางสู่ประสบการณ์ใหม่
เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะ แต่คือการยกระดับประสบการณ์การเดินทางในทุกมิติ หากคุณกำลังมองหายยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ผสมผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย สมรรถนะที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด ให้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ เป็นคำตอบสำหรับทุกความต้องการของคุณ
สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ V-Class โฉมใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ที่น่าประทับใจของคุณ

