Mercedes-Benz S-Class W221: ยักษ์ใหญ่แห่งโลกยนตรกรรมหรู สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เคยลืม
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มาเกือบ 10 ปี ผมได้เห็นและสัมผัสรถยนต์มาแล้วหลากหลายรุ่น หลากประเภท แต่น้อยครั้งนักที่จะมีรถสักคันที่สามารถทิ้งความประทับใจอันลึกซึ้งไว้ได้นานเท่านาน และหนึ่งในนั้นที่ผมกล้ากล่าวว่าอยู่ในใจผมเสมอคือ Mercedes-Benz S-Class โดยเฉพาะรุ่น W221 ที่ผมมีโอกาสได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดในช่วงปลายปี 2013
บทความรีวิวนี้ อาจจะดูเหมือนมา “ช้าไป” สักหน่อยเมื่อเทียบกับการเปิดตัวรุ่นใหม่ W222 ที่กำลังจะมาถึง แต่เชื่อเถอะครับว่า ประสบการณ์ที่ผมได้รับนั้น ยังคงสดใหม่และคุ้มค่าแก่การบอกเล่าสู่กันฟัง เพราะ S-Class W221 ไม่ใช่แค่รถยนต์หรู แต่เป็นนิยามของ “Sonderklasse” หรือ “Special Class” ที่สมบูรณ์แบบ
W221: วิวัฒนาการแห่งความหรูหราและความปลอดภัย
Mercedes-Benz S-Class คือสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความหรูหราที่ไร้ที่ติ ประวัติศาสตร์ของ S-Class นั้นยาวนานกว่า 50 ปี โดยเริ่มจากการแยกตัวออกมาจากตระกูล E-Class ในปี 1972 กับรุ่น W116 จนถึงปัจจุบัน W221 ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด Luxury Full Size Sedan ทั่วโลก
W116 (1972-1979): จุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบ และรุ่น 450 SEL 6.9 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 สุดทรงพลังและระบบกันสะเทือน Hydropneumatic ถือเป็นรุ่นที่บุกเบิกเทคโนโลยี ABS เป็นครั้งแรกของโลก
W126 (1979-1991): การออกแบบที่ลู่ลมมากขึ้นของ Bruno Sacco และการเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย SRS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำให้ W126 กลายเป็น S-Class ที่ประสบความสำเร็จด้านยอดผลิตและยอดขายมากที่สุดในประวัติศาสตร์
W140 (1991-1998): ฉายา “ปลาวาฬ” สะท้อนถึงขนาดตัวถังที่ใหญ่โตและความหรูหราที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้จะมีต้นทุนการพัฒนาที่สูง แต่ W140 ก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับคำว่า “รถยนต์ระดับหรู”
W220 (1998-2005): การออกแบบที่เพรียวบางลง พร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง AIRMATIC, Distronic Cruise Control และ Active Ventilated Seats ทำให้ W220 ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
W221 (2005-2013): เจเนอเรชั่นที่ผมมีโอกาสได้สัมผัส เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก W220 อย่างแท้จริง ด้วยการออกแบบที่สปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น พร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมากมายที่ถูกนำมาใส่ไว้ ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือน AIRMATIC ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ระบบควบคุมความเร็วแบบ Distronic Plus ระบบ Night View Assist และระบบ PRE-SAFE อันเป็นระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด
S350 CDI Exclusive: หัวใจดีเซลที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
สำหรับรุ่นที่ผมได้ทดลองขับคือ S350 CDI Exclusive ซึ่งมาพร้อมขุมพลังดีเซลเทอร์โบ Common-Rail รหัส OM642 บล็อก V6 ความจุ 2.987 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ที่ Mercedes-Benz นำมาปรับจูนให้เหมาะสมกับตลาดไทย โดยลดพละกำลังลงเล็กน้อยเหลือ 211 แรงม้า แต่ยังคงให้แรงบิดสูงสุดถึง 540 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ เพียงพอต่อการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกลได้อย่างสบาย
การจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-TRONIC ทำให้การส่งกำลังทำได้อย่างราบรื่นและประหยัดน้ำมัน แม้ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.85 วินาที อาจไม่หวือหวาเท่ารุ่นเบนซิน แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเมื่อพิจารณาถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ทำได้ถึง 13.41 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบของเรา) ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับนี้
สัมผัสการขับขี่: ความหรูหราที่มาพร้อมความมั่นคง
การก้าวเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ของ S350 CDI Exclusive ให้ความรู้สึกถึงความโอ่อ่าและสะดวกสบาย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Passion Leather ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย วัสดุตกแต่งภายในเน้นลายไม้และโครเมียม เพิ่มความหรูหราแบบคลาสสิก
ระบบช่วงล่าง AIRMATIC พร้อมสวิตช์ปรับความแข็งอ่อน 2 ระดับ Comfort และ Sport ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลในโหมด Comfort และมีความหนึบแน่นมากขึ้นในโหมด Sport แม้จะมีความแตกต่างของความแข็งอ่อนไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการปรับบุคลิกของรถให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย ระบบพวงมาลัยแบบ Rack & Pinion พร้อม Power ผ่อนแรงแบบ Hydraulic ให้ความรู้สึกที่หนักแน่นและมั่นคงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ภายใน: ความใส่ใจในทุกรายละเอียด
ห้องโดยสารของ S-Class W221 เน้นความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานสูงสุด รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไฟส่องสว่างสีแดงที่ประตู หรือการออกแบบช่องเก็บของที่พอดีกับข้าวของต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด
เบาะนั่งด้านหลังออกแบบมาเพื่อมอบความสบายสูงสุด ด้วยการปรับเอนที่มากขึ้น พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง ระบบปรับอากาศแยกส่วนที่สามารถควบคุมได้อย่างอิสระทั้งซ้าย-ขวา และการทำงานของม่านไฟฟ้าที่กระจกหลังและกระจกข้าง ล้วนช่วยเสริมประสบการณ์การเดินทางให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีและความปลอดภัย: มาตรฐานที่ไม่เคยเป็นรองใคร
S-Class W221 มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบ PRE-SAFE® อันเป็นระบบปกป้องผู้โดยสารก่อนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะเริ่มทำงานทันทีที่เซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณอันตราย ไม่ว่าจะเป็นการรั้งเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ การปิดกระจกและ Sunroof รวมถึงการเตรียมพร้อมของพนักพิงศีรษะ
นอกจากนี้ยังมีระบบถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบเบรก ABS, ESP, ASR และระบบ ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill Start Assist ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสถานการณ์
บทสรุป: ยักษ์ใหญ่ที่ไม่เคยล้าสมัย
Mercedes-Benz S-Class W221 S350 CDI Exclusive คือรถยนต์ที่ผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยได้อย่างลงตัว แม้จะเป็นรุ่นที่ใกล้จะสิ้นอายุตลาดแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ผู้บริหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
การเดินทางด้วย S-Class W221 ไม่ใช่แค่การเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่คือการสัมผัสประสบการณ์แห่งความภูมิฐาน ความภาคภูมิใจ และความสบายที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้ หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่สะท้อนถึงรสนิยมและความสำเร็จ S-Class W221 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
สัมผัสประสบการณ์ Mercedes-Benz S-Class W221 ด้วยตัวคุณเองได้ที่ผู้จำหน่าย Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการใกล้บ้านคุณวันนี้ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ Mercedes-Benz ประเทศไทย เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายทดลองขับ

