ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017: นิยามใหม่ของยนตรกรรมสปอร์ตซาลูนสุดหรู
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มาสิบปี ผมได้ประจักษ์ถึงวิวัฒนาการของรถยนต์ระดับพรีเมียมอยู่เสมอ แต่สำหรับ ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 (Porsche Panamera 2017) นั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ย้อนกลับไปในวันที่ 30 กันยายน 2559 เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตแกรนทัวริ่ง 4 ประตู เจเนอเรชั่นที่ 2 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของปอร์เช่ที่ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกแล้วจากการเปิดตัวที่นครเบอร์ลิน และการปรากฏตัวที่มหกรรมยานยนต์ Paris Motor Show ก่อนหน้าเพียงไม่นาน
ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 ไม่ใช่เพียงแค่การปรับโฉม แต่คือการรังสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งหมดภายใต้แนวคิดที่ผสมผสานสิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามให้มาบรรจบกันได้อย่างลงตัว ประสิทธิภาพอันดุดันของรถสปอร์ตสายพันธุ์แท้ ผสานกับความสะดวกสบายเหนือระดับของรถซาลูนหรู คือหัวใจหลักที่ทำให้ ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในพิกัดเดียวกัน
การออกแบบที่สะท้อน DNA ปอร์เช่ 911
สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อเห็น ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 คือกลิ่นอายของตำนานปอร์เช่ 911 ที่ถูกถ่ายทอดมาอย่างชัดเจน เส้นสายของตัวถังที่พลิ้วไหว โค้งมน แต่แฝงด้วยความแข็งแกร่งบริเวณซุ้มล้อ แนวหลังคาที่ลาดต่ำลงกว่าเดิม 20 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มพลวัตและความรู้สึกสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ ยนตรกรรมรุ่นนี้เปรียบเสมือนงานศิลปะที่ไร้ที่ติ ผสมผสานความงามสง่าเข้ากับความดุดันอย่างลงตัว
เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า
ก้าวเข้าสู่ภายใน ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 ผู้ขับขี่จะพบกับโลกแห่งอนาคตด้วยระบบ Porsche Advanced Cockpit นวัตกรรมที่ทำให้การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดายผ่านหน้าจอสัมผัส LED ความละเอียดสูง ที่ทำงานสอดคล้องกับระบบ Porsche Communication Management (PCM 4.1) ล่าสุด ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อและควบคุมรถยนต์ให้ไร้ขีดจำกัด
นอกเหนือจากเทคโนโลยีบนแผงคอนโซล ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 ยังเพียบพร้อมด้วยระบบช่วงล่างแบบถุงลม three-chamber air suspension, ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear axle steering และระบบควบคุมแชสซีส์แบบอิเล็กทรอนิกส์ 4D Chassis Control ซึ่งทั้งหมดนี้ผสานกำลังกันเพื่อมอบการขับขี่ที่แม่นยำ เกาะถนนได้อย่างไร้ที่ติ พร้อมทั้งยังคงความนุ่มนวลสะดวกสบายสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่
ขุมพลังใหม่ที่ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ
ภายใต้เรือนร่างอันสง่างามนั้น ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 และ V8 biturbo ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อตอกย้ำสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ เครื่องยนต์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้พละกำลังที่สูงขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับทิศทางยานยนต์ในปัจจุบัน
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo): ขุมพลัง V8 ขนาด 3,996 ซี.ซี. พละกำลังสูงสุด 550 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 จังหวะ PDK ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่
ปอร์เช่ พานาเมร่า 4เอส (Panamera 4S): เครื่องยนต์ V6 ขนาด 2,894 ซี.ซี. ให้กำลัง 440 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ PDK 8 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เร้าใจยิ่งขึ้น
ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid): รุ่นนี้คือบทพิสูจน์ว่าสมรรถนะและความประหยัดสามารถอยู่ร่วมกันได้ ด้วยกำลังรวมสูงสุด 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) จากการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า สามารถเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึง 50 กิโลเมตร ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าทึ่งถึง 40 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เพียง 56 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 ในรุ่น 4 E-Hybrid ยังสามารถออกสตาร์ทด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ให้ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อผสานกำลังกับเครื่องยนต์ แรงบิดรวมกว่า 700 นิวตันเมตร จะพาคุณทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 278 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.6 วินาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และช่วงล่างถุงลม ทำให้มั่นใจได้ถึงเสถียรภาพการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม ไม่ต่างจากรถสปอร์ต แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลของซาลูนหรู
ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid): ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท (ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว)
ปอร์เช่ พานาเมร่า 4เอส (Panamera 4S): ราคาเริ่มต้น 13.5 ล้านบาท
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo): ราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดรถหรูและเทรนด์ปี 2017
การเปิดตัว ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดรถยนต์พรีเมียมมีการแข่งขันสูง ยานยนต์จากแบรนด์ยุโรปอย่าง BMW, Mercedes-Benz, Volvo, Jaguar, และ Land Rover ต่างก็งัดกลยุทธ์โปรโมชั่นพิเศษและรุ่นใหม่ๆ มาดึงดูดผู้บริโภคในช่วงปลายปี 2016 และเตรียมพร้อมสำหรับปี 2017
BMW นำเสนอโปรแกรมบำรุงรักษาและประกันภัยที่ยาวนาน รวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่จองรุ่น M Performance ส่วน MINI ก็มาพร้อมข้อเสนอ iPhone 7, โปรแกรมบำรุงรักษา, และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ Volvo เสนอมูลค่าเพิ่มรถเก่า, ส่วนลด, และแพ็คเกจบริการหลังการขายที่ครอบคลุม Mercedes-Benz เน้นอัตราดอกเบี้ยพิเศษ, ประกันภัย, และค่าบำรุงรักษา รวมถึงสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิต MercedesCard ในขณะที่ Jaguar-Land Rover นำเสนอแคมเปญ “Worry-free” ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายระยะยาว และส่วนลดพิเศษสำหรับการนำรถเก่ามาเทิร์น
ในส่วนของรถยนต์ที่เข้าชิงรางวัล World Car of the Year 2016 สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของตลาดโลก ซึ่งนอกจาก ปอร์เช่ พานาเมร่า ในกลุ่มสปอร์ตซาลูนแล้ว ยังมีรถในกลุ่ม SUV และครอสโอเวอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น Audi A4, BMW X1, Hyundai Tucson, Jaguar XE, Land Rover Discovery Sport, Mazda CX-3, Mercedes-Benz GLC, Skoda Superb และ Toyota Prius ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และการใช้งานได้หลากหลาย
บทสรุป
ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ปอร์เช่ในฐานะผู้สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ไร้คู่แข่งอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่สง่างาม และสมรรถนะอันเป็นเลิศ ทำให้ ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 เป็นมากกว่ารถยนต์ แต่คือสัญลักษณ์ของความสำเร็จและไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ
หากคุณกำลังมองหาสุดยอดแห่งยนตรกรรมที่สามารถตอบสนองทุกมิติการขับขี่ ทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ ปอร์เช่ พานาเมร่า 2017 คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด อย่าพลาดโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์แห่งยนตรกรรมสปอร์ตซาลูนที่สมบูรณ์แบบที่สุด ณ โชว์รูมปอร์เช่ ทั่วประเทศ
