Toyota Crown 2016: ตระกูลผู้สูงศักดิ์กับการปรับโฉม สู่ยุคใหม่แห่งความหรูหรา
ในวงการยานยนต์ระดับสูงของญี่ปุ่น ชื่อชั้นของ Toyota Crown เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและศักดิ์ศรีที่สืบทอดมายาวนาน จนอาจกล่าวได้ว่า แม้แต่ Lexus เองก็ยังต้องยอมรับในฐานะ “พี่ใหญ่” ในบางมิติ เพราะประวัติศาสตร์ที่ผูกพันกับ Lexus LS รุ่นแรกและ Toyota Crown Majesta ที่เคยใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน ทำให้ Crown มีจุดยืนที่มั่นคง ยิ่งใหญ่รองจาก Toyota Century เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น
ในปัจจุบัน Toyota Crown กำลังก้าวเข้าสู่เจเนอเรชันที่ 14 ซึ่งหากเทียบกับรถยนต์ยุโรปในระดับเดียวกัน ก็คงจะเปรียบได้กับ Mercedes-Benz E-Class หรือ BMW 5 Series ที่ได้ผ่านการปรับปรุงโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้นในช่วงปลายปี 2012 การปรับโฉมในปี 2016 นี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่คือการยกระดับประสบการณ์ของผู้ครอบครองให้เหนือกว่าที่เคย
“สามทหารเสือ” แห่งตระกูล Crown: Majesta, Royal, และ Athlete
Toyota Crown ในเจเนอเรชันปัจจุบันได้แบ่งสายผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 รุ่นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการและรสนิยมที่แตกต่างกันของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว
Crown Majesta: รุ่นที่สะท้อนความหรูหราและความพิเศษเหนือระดับที่สุด มาพร้อมออปชันและวัสดุตกแต่งที่แสดงถึงสถานะสูงสุด
Crown Royal: เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย และความสง่างามในแบบฉบับดั้งเดิมของ Crown เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและผ่อนคลาย
Crown Athlete: ผสมผสานความหรูหราเข้ากับบุคลิกที่ดูสปอร์ต ปราดเปรียว และทันสมัย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะและการออกแบบที่เร้าใจ
ทั้งสามรุ่นได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในปี 2016 โดยเฉพาะรุ่น Athlete ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
Toyota Crown Athlete 2016: ดุดันและโฉบเฉี่ยว
สำหรับ Toyota Crown Athlete 2016 ใหม่ การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือการปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ทั้งหมด กระจังหน้าดีไซน์ “Striking mesh” ที่มีความเฉียบคมและกว้างขึ้นกว่าเดิม ถูกออกแบบให้ลากยาวลงไปจรดขอบกันชนด้านล่าง เสริมด้วยช่องดักลมด้านข้างที่ดูใหญ่และเฉียงขึ้น ช่วยเสริมให้รถดูเตี้ย กว้าง และดุดันยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ชุดไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Beam LED ที่สามารถทำหน้าที่ทั้งไฟสูงและไฟต่ำจากแหล่งกำเนิดแสงเดียว มาพร้อมไฟ Daytime Running Light (DRL) ในตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเอกลักษณ์ในยามกลางวัน ขณะที่ไฟท้ายแบบวงแหวนดีไซน์ใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้นและเน้นมิติให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของ Crown Athlete 2016 ถูกยกระดับด้วยการใช้สีดำที่ตัดกับลายหินควอตซ์แทนการใช้ลายไม้แบบเดิม ทำให้ห้องโดยสารดูมีความเป็นศิลปะและทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น Turbo ที่จะมาพร้อมการตกแต่งภายในด้วยสี Prussia Blue ที่ให้ความรู้สึกพิเศษยิ่งขึ้น
Toyota Crown Royal 2016: สุขุม สง่างาม
ขณะที่ Crown Royal 2016 ใหม่ ยังคงรักษาภาพลักษณ์ความสุขุมสง่างามตามแบบฉบับดั้งเดิม แต่ก็ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดให้ดูทันสมัยขึ้น กันชนหน้าถูกออกแบบให้ดูหนาและมีมิติมากขึ้น พร้อมช่องดักอากาศแนวนอนใต้กระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกที่สุขุมกว่า Crown Athlete อย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารของ Crown Royal ยังคงเน้นการตกแต่งด้วยลายไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา มีตัวเลือกสีภายในทั้งโทนสีดำและสีน้ำตาล เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ตามความชอบ
ขุมพลังที่หลากหลาย: จากเทอร์โบสู่ไฮบริด
Toyota Crown 2016 มาพร้อมกับทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน:
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ (เฉพาะ Crown Athlete): เครื่องยนต์เบนซินใหม่ล่าสุดพร้อมระบบหัวฉีดตรง (Direct Injection) ให้กำลังสูงสุด 235 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร ในช่วงรอบต่ำตั้งแต่ 1,650-4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มอบอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่นที่ 13.4 กม./ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร: มีให้เลือกทั้งในรุ่น Crown Royal และ Athlete
เครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร: ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า มอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
เครื่องยนต์ไฮบริด 3.5 ลิตร (เฉพาะ Crown Royal และ Athlete): ให้กำลังรวมสูงสุด 338 แรงม้า มอบสมรรถนะที่ทรงพลังและอัตราเร่งที่น่าประทับใจ
เครื่องยนต์ไฮบริด 3.5 ลิตร (เฉพาะ Crown Majesta): รุ่นสูงสุดนี้มาพร้อมขุมพลังไฮบริด 3.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 338 แรงม้า
เทคโนโลยี ITS Connect: ก้าวแรกสู่อนาคตของการขับขี่
ไฮไลท์สำคัญที่สร้างความพิเศษให้กับ Toyota Crown Majesta 2016 คือการเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ได้รับการติดตั้งระบบ ITS Connect (Intelligent Transport Systems Connect) สำหรับการจำหน่ายทั่วไป เทคโนโลยีนี้ช่วยให้รถยนต์ที่ติดตั้งระบบดังกล่าวสามารถสื่อสารระหว่างกันเองได้โดยตรง รวมถึงสื่อสารกับระบบสัญญาณไฟจราจรผ่านคลื่นความถี่ 760 MHz เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
ระบบ ITS Connect สามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเตือนขณะกำลังเลี้ยวขวาบริเวณทางแยกหากมีรถสวนมา การแจ้งเตือนเพื่อป้องกันการฝ่าสัญญาณไฟจราจร และการแสดงเวลาที่เหลือสำหรับการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร
นอกจากนี้ รถที่ติดตั้ง ITS Connect ยังสามารถสื่อสารเพื่อปรับความเร็วอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสมกับรถคันอื่นได้อย่างแม่นยำ และในกรณีฉุกเฉิน ระบบยังสามารถส่งตำแหน่งของรถไปยังหน่วยกู้ชีพที่ใกล้ที่สุดได้อีกด้วย
ราคาและการเข้าถึง:
สำหรับราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น Toyota Crown Majesta รุ่นสูงสุด F Version มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.23 ล้านบาท ส่วนรุ่น Toyota Crown Royal รุ่นสูงสุด G Four ราคาประมาณ 1.89 ล้านบาท และ Toyota Crown Athlete รุ่นสูงสุด G Four ราคาประมาณ 1.92 ล้านบาท สำหรับรุ่น Crown Athlete G-T ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.71 ล้านบาท
สำหรับตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น การเข้าถึง Toyota Crown จะต้องผ่านผู้จำหน่ายรถยนต์อิสระ (Grey Market) เท่านั้น ซึ่งเมื่อรวมภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว ราคาอาจสูงขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้รถยนต์ยุโรปบางรุ่นอาจเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม
สรุป:
Toyota Crown 2016 ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูของญี่ปุ่น ด้วยการปรับโฉมที่ผสมผสานความสง่างามแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และสมรรถนะที่ตอบสนองทุกการขับขี่ โดยเฉพาะการนำเสนอระบบ ITS Connect ที่เป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตของระบบการคมนาคมอัจฉริยะ แม้ว่าการเข้าถึงในตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นอาจมีความท้าทาย แต่ Crown ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่แสวงหารถยนต์ที่สะท้อนถึงสถานะ ความหรูหรา และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง
หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของ Toyota Crown และต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์นำเข้าคือขั้นตอนต่อไปที่จะพาคุณไปสู่การครอบครองยานยนต์สุดพิเศษคันนี้.

