• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N3112011 เต อนภ อย าต ดม อถ อจนเป นหายนะแก คนอ part2

admin79 by admin79
December 28, 2025
in Uncategorized
0
N3112011 เต อนภ อย าต ดม อถ อจนเป นหายนะแก คนอ part2

MINI John Cooper Works (JCW): พลังแห่งความเร้าใจที่เหนือกว่า กับราคาที่สะท้อนความพิเศษ

ในโลกแห่งยานยนต์สมรรถนะสูงที่ความเร็วและสไตล์คือหัวใจสำคัญ MINI John Cooper Works (JCW) คือชื่อที่บ่งบอกถึงความจัดจ้านและประสบการณ์การขับขี่ที่หาตัวจับยาก การมาถึงของ MINI JCW ในประเทศไทย ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน จากการร่วมงานอันยาวนานระหว่าง MINI และ John Cooper Works ชื่อที่เปรียบเสมือนตำนานแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต จนท้ายที่สุดได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว BMW อย่างสมบูรณ์

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ที่คร่ำหวอดมานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่า MINI JCW ไม่ใช่แค่รถยนต์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วเท่านั้น แต่คือการประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เข้าถึงง่ายแต่ทรงพลังอย่างแท้จริง ด้วยการผสานการออกแบบที่โดดเด่นเข้ากับขุมพลังที่ได้รับการอัพเกรดอย่างเหนือชั้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อมอบความสนุกและความเร้าใจในทุกเส้นทาง

ดีไซน์ที่สะท้อนความดุดัน: เส้นสายที่บ่งบอกถึงสมรรถนะ

เมื่อแรกเห็น MINI John Cooper Works สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์ที่บ่งบอกถึงความพิเศษและความดุดันกว่ารุ่น MINI Hatch 3 Door Cooper S ทั่วไปได้อย่างชัดเจน การเพิ่มช่องดักอากาศขนาดใหญ่บริเวณมุมกันชนด้านหน้า ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่สปอร์ตขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และระบบเบรก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง

การเปลี่ยนไปใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายพิเศษแบบ JCW สีทูโทน ที่มีดีไซน์ราวกับกลีบดอกไม้ที่แฝงความแข็งแกร่งไว้ภายใน ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวรถ ส่วนด้านท้ายรถ การออกแบบกันชนใหม่ที่ผสานช่องดักอากาศคล้ายคลึงกับด้านหน้า พร้อมท่อไอเสียคู่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง คือภาพสะท้อนของการใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ MINI JCW มีบุคลิกที่แตกต่างและน่าเกรงขาม

สิ่งที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับ MINI JCW คือการจับคู่สีที่ลงตัวและตัดกันอย่างมีสไตล์ หลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ตัดกับสีตัวถังเขียว Rebel Green ซึ่งเป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่น JCW นี้ ยิ่งเพิ่มความเร้าใจให้กับรูปลักษณ์ภายนอก ร่วมด้วยแถบตกแต่งสีดำบริเวณกระโปรงรถพร้อมขอบสีแดง ที่ช่วยเสริมความรู้สึกดุดันและพร้อมทะยานไปข้างหน้า นอกจากนี้ ระบบแสดงผล MINI Head-Up Display ที่มาพร้อมคอนเทนต์พิเศษเฉพาะรุ่นนี้ ยิ่งทำให้ประสบการณ์การขับขี่มีความทันสมัยและเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ง่ายขึ้น

ขุมพลังที่บดขยี้ทุกขีดจำกัด: สมรรถนะเหนือชั้นจาก John Cooper Works

หัวใจสำคัญของ MINI JCW คือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ได้รับการปรับแต่งโดย John Cooper Works เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุดออกมา โดยวางในลักษณะ transverse หรือวางขวางในห้องเครื่องยนต์ ให้กำลังสูงสุดถึง 231 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 320 นิวตันเมตร ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ MINI เคยนำเสนอในรุ่น Hatch 3 Door โดยมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ 148 กรัมต่อกิโลเมตร

เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น MINI Hatch 3 Door Cooper S ที่เป็นรุ่นรองลงมา MINI JCW นั้นเหนือกว่าถึง 39 แรงม้า และแรงบิดที่เพิ่มขึ้นอีก 40 นิวตันเมตร นี่คือความแตกต่างที่สัมผัสได้จริงบนท้องถนน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของ MINI JCW ในการมอบอัตราเร่งที่ฉับไวและการตอบสนองที่เหนือชั้น

ช่วงล่างและระบบควบคุม: การผสมผสานอันสมบูรณ์แบบ

เพื่อรองรับขุมพลังอันดุดัน MINI JCW จึงมาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงมาเป็นพิเศษ ทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างลงตัว เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำและมั่นใจในทุกสภาวะการขับขี่ ระบบเบรกสมรรถนะสูงจาก Brembo เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมความมั่นใจในการหยุดรถได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ

ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ Servotronic ที่ผสานการทำงานทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกเข้าด้วยกัน มอบการตอบสนองที่เฉียบคมและแม่นยำ ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างที่ใจต้องการ นอกจากนี้ เทคโนโลยี Dynamic Stability Control (DSC) ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติย่อยอย่าง Dynamic Traction Control (DTC) ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน, Electronic Differential Lock Control (EDLC) ที่ช่วยกระจายแรงบิดไปยังล้อที่ต้องการการยึดเกาะ และ Dynamic Damper Control (DDC) ที่ปรับความหนืดของโช้คอัพตามสภาพถนนและรูปแบบการขับขี่ ล้วนเป็นมาตรฐานที่ติดตั้งมาใน MINI JCW เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ด้วยน้ำหนักตัวถังเพียง 1,205 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่า MINI Hatch 3 Door Cooper S (1,250 กิโลกรัม) MINI JCW จึงมีความคล่องตัวที่สูงขึ้น ตอบสนองต่อการควบคุมได้ดียิ่งขึ้น การนำเข้าเฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติมาจำหน่ายในตลาดประเทศไทย ยิ่งทำให้การขับขี่มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะที่เร้าใจ

ราคาและคุณค่า: การลงทุนในประสบการณ์ที่หาได้ยาก

ราคาจำหน่ายของ MINI John Cooper Works อยู่ที่ 3.45 ล้านบาท ซึ่งอาจดูสูงสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก แต่เมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ MINI Hatch 3 Door Cooper S (ราคา 2.84 ล้านบาท) ส่วนต่าง 610,000 บาท คือราคาที่สะท้อนถึงเทคโนโลยี วิศวกรรม และจิตวิญญาณแห่งความพิเศษที่ John Cooper Works ใส่ลงไปในรถคันนี้ MINI JCW ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ แต่คือการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่หาได้ยาก สำหรับผู้ที่ต้องการความไม่ธรรมดา ความสนุกสนาน และความเร้าใจที่เหนือกว่า

All-New Toyota Innova 2016: การพลิกโฉมสู่ความหรูหราและอเนกประสงค์ที่เหนือกว่า

ในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) ที่มีการแข่งขันสูง Toyota Innova คือชื่อที่คุ้นเคยและเป็นที่ยอมรับในหลายตลาดทั่วโลก และการมาถึงของ All-new Toyota Innova 2016 ถือเป็นการยกระดับครั้งสำคัญ ด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมดที่เน้นความหรูหรา ทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ภายนอก: ความแข็งแกร่งที่ผสานความสง่างาม

Toyota Innova 2016 ใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานความแข็งแกร่งของรถ SUV เข้ากับความสง่างามของรถยนต์นั่งระดับพรีเมียม ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ในทรงสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมไฟหน้า LED Projector (ในรุ่น Q) ที่มีรูปทรงเรียวยาว โฉบเฉี่ยว และดูทันสมัย การออกแบบกันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ พร้อมไฟตัดหมอกและไฟเลี้ยวที่จัดวางอย่างลงตัว ยิ่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดุดันและพร้อมลุย

ในส่วนของโปรไฟล์ด้านข้าง เส้นสายของตัวถังดูเหลี่ยมคมและแข็งแกร่งกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด การออกแบบแนวหลังคาที่ลาดเอียงจรดไปด้านท้าย และกระจกบานหลังที่ยกขอบขึ้นไปด้านบน ทำให้รถดูมีมิติและสง่างามยิ่งขึ้น ส่วนด้านหลัง ใช้ไฟท้ายทรง L คว่ำ ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน ติดตั้งบริเวณขอบตัวถังทั้งสองข้าง และส่วนแนวนอนที่บานประตูท้ายรถ การใช้หลอดไฟแบบธรรมดาไม่ได้ลดทอนความสวยงามลงไป แต่ยังคงความเรียบหรูและใช้งานได้จริง

ห้องโดยสาร: ความหรูหราที่ตอบสนองทุกการใช้งาน

ภายในของ Toyota Innova 2016 ใหม่ คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกประทับใจ ด้วยการออกแบบแผงหน้าปัดที่เน้นเส้นโค้งมน ตัดกับคอนโซลกลางแนวตั้งตรงที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Wi-Fi และรองรับการสั่งงานด้วยเสียง รวมถึง Air Gesture (ในรุ่น Q และ V) ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง

สวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศที่ออกแบบมาอย่างลงตัว โดยในรุ่น Q และ V จะเป็นแบบดิจิตอลพร้อมระบบอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน มาตรวัดที่ติดตั้งจอ TFT แสดงข้อมูลตรงกลาง ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่ครบครันทุกการควบคุม ยิ่งเสริมความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่

การจัดวางเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด เบาะแถวที่สองสามารถปรับเลื่อนและเอนได้อย่างอิสระ และมีฟังก์ชันพับเบาะแบบ One Touch เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าไปยังเบาะแถวที่สามได้อย่างสะดวก แม้เบาะแถวที่สามจะเหมาะสำหรับผู้โดยสาร 2 ที่นั่ง แต่ก็ยังมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะมาให้ถึง 3 ตำแหน่งเพื่อความปลอดภัย

การตกแต่งห้องโดยสารด้วยแถบไฟ Ambient Light บริเวณแผงควบคุมไฟบนเพดานและแนวหลังคา สร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการเดินทางของครอบครัว

ขุมพลังที่หลากหลาย: ตอบสนองทุกความต้องการ

Toyota Innova 2016 ใหม่ สำหรับตลาดอินโดนีเซีย มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซิน เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 149 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Dual VVT-i 16 วาล์ว DOHC ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า และแรงบิด 183 นิวตันเมตร

ทางเลือกของเกียร์มีทั้งแบบธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อมอบทั้งอัตราเร่งที่ทันใจและประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน

ระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม: มั่นใจได้ทุกการเดินทาง

Toyota Innova 2016 ใหม่ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอันดับแรก มาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าผู้ขับขี่, เบาะนั่งที่มีตะขอยึด ISOFIX, ระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ในทุกระดับการตกแต่ง รุ่น Q เกรด จะเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยและถุงลมนิรภัยด้านข้างมาให้ ส่วนระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Assist Control จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Q เกรด เครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น

แม้ว่าราคาจำหน่ายจะยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ All-new Toyota Innova 2016 ถือเป็นการยกระดับตลาดรถ MPV ไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Toyota ที่พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016: ความหรูหราแห่ง SUV ผสานเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

ในยุคที่โลกยานยนต์กำลังก้าวไปสู่ทิศทางของยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Mercedes-Benz ยังคงยืนยันบทบาทผู้นำด้วยการนำเสนอ Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC ปี 2016 รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่ผสานความสง่างาม ความแข็งแกร่ง และสมรรถนะอันทรงพลัง เข้ากับเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ล้ำสมัย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัดของผู้บริโภค

วิสัยทัศน์แห่งอนาคต: DEFINE TOMORROW และ Electric Driving

การเปิดตัว Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC พร้อมกับการประกาศวิสัยทัศน์ “DEFINE TOMORROW” ตอกย้ำเจตนารมณ์ของ Mercedes-Benz ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “Electric Driving” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์ที่ปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ (Zero Emission) ในอนาคต

นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย กล่าวเน้นย้ำว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์จะนำเสนอรถยนต์ในกลุ่ม Mercedes-Benz Electric Driving อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการปูรากฐานสู่การพัฒนารถยนต์ที่ไม่ปล่อยไอเสียในอนาคต” นี่คือการแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์ขนาดเล็กเท่านั้น แต่สามารถผสานเข้ากับรถยนต์ขนาดใหญ่และหรูหราได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ภายนอก: ความสปอร์ตที่ซ่อนความสง่างาม

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยลายเส้นที่สวยคมสะดุดตา กระจังหน้าขนาดใหญ่ เส้นสายหลังคาที่ลาดเอียงไปทางด้านท้าย เน้นดีไซน์ที่เรียบหรูและทันสมัย การตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ตรงกลาง กันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม และปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ล้วนเสริมให้รถดูมีระดับ

ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System, ไฟ Daytime Running Lights, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง, ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สร้างความโดดเด่นและความปลอดภัยในการขับขี่ กระจกมองข้างและกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบาย

ในส่วนของบันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น เพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ สำหรับรุ่น GLE 500 e 4MATIC Exclusive จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สี Himalayas Grey ส่วนรุ่น GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic จะเพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว สี Titanium Grey, ชุดแต่ง AMG bodystyling, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิเปอร์เบรกหน้า และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ห้องโดยสาร: ความหรูหราที่แฝงด้วยกลิ่นอายสปอร์ต

ภายในห้องโดยสารของ GLE 500 e 4MATIC เน้นความหรูหรา สง่างาม แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความสปอร์ต ด้านบนคอนโซลหน้าและแผงหุ้มประตูหุ้มด้วยหนัง Artico พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบผ่อนแรงและปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth

สำหรับรุ่น Exclusive จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง พร้อมระบบมัลติมีเดีย MB Audio 20 ส่วนรุ่น AMG Dynamic จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa พร้อมระบบ COMAND Online, ระบบเสียง Harman Kardon® Logic 7® และฟังก์ชันเชื่อมต่อ Apple CarPlay™

เบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 1:3/2:3 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของ ไฟเรืองแสง Ambient Light ในห้องโดยสารที่ปรับได้ 3 สี ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่

โหมดการขับขี่ Plug-in Hybrid: ประสิทธิภาพที่เลือกได้

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC มีโหมดการทำงานของระบบ Plug-in Hybrid ให้เลือกถึง 4 แบบ เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย:

HYBRID: ระบบจะทำงานผสานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเน้นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าให้มากที่สุด และใช้เครื่องยนต์เท่าที่จำเป็น หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% เครื่องยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่หลัก หากเข้าสู่โหมด Sport เครื่องยนต์จะทำงานเพียงอย่างเดียว
E-MODE: โหมดขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ทำความเร็วได้สูงสุด 130 กม./ชม. ระยะทางสูงสุด 30 กม. (ขึ้นอยู่กับสภาพแบตเตอรี่และความเร็ว) เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง
E-SAVE: ระบบจะรักษาระดับพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไว้เท่ากับตอนเริ่มต้น โดยใช้เครื่องยนต์เป็นหลัก เหมาะสำหรับการวางแผนการเดินทาง เช่น เมื่อต้องเข้าเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
CHARGE: ระบบจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ และจะแปลงพลังงานจลน์จากการชะลอความเร็วหรือการเบรกให้เป็นพลังงานไฟฟ้าสะสม เมื่อชาร์จเต็มระบบจะปรับเป็น E-SAVE อัตโนมัติ

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ ได้แก่ Individual, Comfort, Slippery, Sport และ Sport+ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่

ระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz Intelligent Drive: ป้องกันก่อนเกิดเหตุ

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC มาพร้อมระบบ Mercedes-Benz Intelligent Drive ที่ผสานความสะดวกสบายและความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ประกอบด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อม 4ETS, ระบบ PRE-SAFE®, ESP, AIRMATIC, Crosswind Assist, ADAPTIVE BRAKE พร้อม HOLD และ Hill-start Assist, Adaptive Brake Light, ABS, ASR, ATTENTION ASSIST, Cruise Control และ SPEEDTRONIC, PARKTRONIC, Active Parking Assist

ขุมพลังที่เร้าใจ: ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

GLE 500 e 4MATIC ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ ความจุ 2,996 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า รวมเป็นกำลังที่เหนือชั้น อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ขนาด 8.7 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จเต็มได้ภายในประมาณ 4 ชั่วโมง (ไฟบ้าน) ทำให้สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม.

ราคาจำหน่าย

GLE 500 e 4MATIC Exclusive: 4,490,000 บาท
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic: 4,990,000 บาท

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC คือนิยามใหม่ของ SUV หรูหรา ที่พร้อมมอบสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในคันเดียวกัน

Mercedes-Benz E-Class 2016: นิยามใหม่แห่งซีดานอัจฉริยะ

Mercedes-Benz E-Class 2016 เจเนอเรชั่นที่ 10 คือการประกาศศักดาของแบรนด์ตราดาวในการนำเสนอยนตรกรรมซีดานระดับพรีเมียม ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่สง่างาม และสมรรถนะที่เหนือชั้น เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ การเปิดตัวในงาน Motor Show 2016 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Mercedes-Benz ในการนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้า ภายใต้กลยุทธ์ “THE BEST”

E-Class: หัวใจของ Mercedes-Benz

นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของ E-Class ซึ่งเป็น “หัวใจ” ของ Mercedes-Benz ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มรถยนต์สำหรับนักธุรกิจเสมอมา และในเจเนอเรชั่นที่ 10 นี้ E-Class ได้ยกระดับแนวคิดเหล่านั้นไปอีกขั้น ด้วยการเป็น “ที่สุดแห่งยนตรกรรมซีดานอัจฉริยะ”

ดีไซน์ Sensual Purity: ความงามเหนือกาลเวลา

Mercedes-Benz E-Class 2016 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทรงพลัง ทุกองค์ประกอบสอดรับกันอย่างสมบูรณ์แบบตามหลัก Sensual Purity อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz การออกแบบภายนอกมีความยาวและฐานล้อที่ยาวขึ้น ผสานกับฝากระโปรงหน้าที่ดูยาว เส้นสายของส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ ทอดตัวเป็นเส้นโค้งยาวจรดด้านหลังของตัวรถ ให้ความรู้สึกสง่างามและปราดเปรียว

รูปลักษณ์ด้านหลังได้รับการออกแบบให้ซุ้มล้อหลังดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของสมาชิกใหม่ในกลุ่มรถซาลูน โคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียว โดยด้านในโคมแบ่งออกเป็นสองส่วน สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด

เทคโนโลยีแห่งอนาคต: ระบบขับขี่อัตโนมัติและความสะดวกสบาย

E-Class 2016 ได้นำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกของโลก ยกระดับแนวคิดการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติไปอีกขั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน และยังเป็นรถยนต์ที่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำลง พร้อมได้รับการสรรค์สร้างให้ขับขี่สนุกยิ่งขึ้น เพื่อมอบความสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่

ห้องโดยสาร: ความหรูหราที่เหนือชั้น

การออกแบบภายในของ Mercedes-Benz E-Class 2016 เน้นความหรูหราและทันสมัย เบาะที่นั่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญ โดยเฉพาะในรุ่น Mercedes Benz E 220 d AMG Dynamic ที่มาพร้อมกับชุดหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในเซกเมนต์นี้ ระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี ช่วยสร้างสุนทรียภาพในการโดยสาร

ขุมพลังที่ตอบสนองและประหยัด: ประสิทธิภาพและความยั่งยืน

E-Class 2016 ในประเทศไทย มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Mercedes Benz E 220 d Exclusive และ Mercedes Benz E 220 d AMG Dynamic มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ใหม่ ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง มอบสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ

โครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์และมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 102 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความยั่งยืน

ราคาจำหน่าย

Mercedes Benz E 220 d Exclusive: 3,990,000 บาท
Mercedes Benz E 220 d AMG Dynamic: 4,490,000 บาท

Mercedes-Benz E-Class 2016 คือบทพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำของ Mercedes-Benz ในการผสานยนตรกรรมล้ำสมัย ความหรูหรา และสมรรถนะที่ยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

2016 Mitsubishi Outlander: การเปลี่ยนแปลงสู่ความทันสมัยและ Dynamic Shield

แม้จะไม่ใช่รถที่คุ้นเคยในตลาดไทยมากเท่าที่ควร Mitsubishi Outlander ถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ และการเปิดตัว 2016 Mitsubishi Outlander ที่งาน New York Auto Show 2015 ถือเป็นการเผยโฉมรูปลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยและโดดเด่นยิ่งขึ้น

ดีไซน์ Dynamic Shield: เอกลักษณ์ที่ชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ใน 2016 Mitsubishi Outlander ใหม่ คือการออกแบบตัวรถให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทีมออกแบบ Mitsubishi ได้นำเสนอแนวคิด “Dynamic Shield” ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบใหม่ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความปลอดภัย กระจังหน้าใหม่ขนาดใหญ่ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น พร้อมไฟหน้าที่ออกแบบให้ดูปราดเปรียวและเฉียบคมยิ่งขึ้น

ส่วนด้านท้ายรถ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้วยการปรับกันชนท้ายใหม่ให้ดูลงตัวมากขึ้น และการสวมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความหรูหราและภูมิฐาน

ห้องโดยสารที่ได้รับการปรับปรุง: ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น

ภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น พวงมาลัยแบบใหม่ที่จับถนัดมือมากขึ้น การปรับแนวทางการตกแต่งเล็กน้อย และการใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้นสำหรับเบาะนั่ง เพื่อมอบความสบายสูงสุดในการเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบความบันเทิงใหม่ และการเน้นการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนกระจกบังลมหน้าใหม่และอัพเกรดวัสดุซับเสียง

ขุมพลังที่หลากหลาย: ประสิทธิภาพที่ตอบสนองทุกการใช้งาน

2016 Mitsubishi Outlander มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกสองรุ่น เริ่มจากเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลัง 166 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 219 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ CVT เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีและประหยัดน้ำมัน

สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจมากขึ้น ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 224 แรงม้า และแรงบิด 291 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ระบบช่วยเหลือการขับขี่: เพิ่มความปลอดภัย

2016 Mitsubishi Outlander ยังมาพร้อมกับออปชันช่วยเหลือในการขับขี่มากมาย เช่น Forward Collision Mitigation (FCM) ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรก, Lane Departure Warning (LDW) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และ Adaptive Cruise Control (ACC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ 2016 Mitsubishi Outlander ใหม่ ถือเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจของ Mitsubishi และเราอาจได้เห็นเส้นสายการออกแบบที่คล้ายคลึงกันนี้ในว่าที่ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ ที่จะเปิดตัวในอนาคต

Bentley Bentayga 2016: SUV หรูที่เร็วที่สุดในโลก สู่การครอบครองของราชวงศ์

Bentley Bentayga 2016 คือนิยามใหม่ของรถยนต์ SUV ระดับ Ultra-Luxury ที่มาพร้อมกับนิยาม “เร็วที่สุดในโลก” และยังเป็น SUV คันแรกของ Bentley อีกด้วย หลังจากการเปิดตัวรถต้นแบบ Bentley EXP 9 F ที่ได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลาย Bentley ก็ยังคงเดินหน้าโครงการนี้อย่างไม่ลดละ จนกระทั่งได้เปิดตัว Bentley Bentayga 2016 ในงาน Frankfurt Motor Show 2015 ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามและใกล้เคียงกับ Bentley Flying Spur มากกว่ารถต้นแบบ

การส่งมอบสุดพิเศษ: สู่ราชวงศ์อังกฤษ

สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ Bentley Bentayga คันแรกที่ถูกผลิตขึ้น ถูกส่งมอบให้กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งพระองค์ได้ทรงสั่งซื้อ SUV คันแรกในประวัติศาสตร์ของ Bentley นี้ เป็นการตอกย้ำถึงสถานะและความพิเศษของ Bentayga ในฐานะยนตรกรรมชั้นสูง

ความต้องการที่ล้นหลาม: ยอดจองเต็มโควตาปีแรก

นอกจากนี้ Bentley Bentayga 2016 ยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่มหาศาลของผู้บริโภคทั่วโลก โดยโควตาการผลิตสำหรับปีแรกจำนวน 3,600 คัน ได้ถูกสั่งจองหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนที่รถจะเริ่มส่งมอบ นี่คือข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จของ Bentley ในการสร้างสรรค์รถยนต์ SUV ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูง ที่ต้องการทั้งความหรูหรา สมรรถนะ และความเป็นเอกลักษณ์

Bentley Bentayga 2016 ไม่เพียงแต่เป็นรถยนต์ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ความหรูหรา และการเดินทางที่เหนือระดับ สะท้อนถึงปรัชญาของ Bentley ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ดีที่สุดในโลก

Honda Civic FC มือสอง: ขวัญใจตลอดกาลแห่งรถเก๋ง C-Segment

ในตลาดรถยนต์มือสองของประเทศไทย Honda Civic FC คือชื่อที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและไม่เสื่อมคลาย จนอาจกล่าวได้ว่าแซงหน้า Honda Civic รุ่นอื่นๆ ทั้ง FB, FD, FE และ FK ไปแล้ว ด้วยดีไซน์ที่เท่ โฉบเฉี่ยว สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และความคุ้มค่า ทำให้ Honda Civic FC มือสอง กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้ที่มองหารถเก๋ง C-Segment ที่สมบูรณ์แบบ

ดีไซน์ที่โดดเด่น: สปอร์ต หรูหรา และลงตัว

Honda Civic FC มาพร้อมรูปทรงของรถซีดาน 4 ประตู ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว ผสานความสปอร์ตและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว กระแสตอบรับหลังการเปิดตัวครั้งแรกนั้นแรงเกินคาด ด้วยยอดจองที่ทะลุ 15,000 คัน ภายในเวลาเพียง 4 เดือน ตอกย้ำการเป็นขวัญใจวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ที่มีสไตล์

รุ่นย่อยและข้อดี-ข้อเสีย: เลือกให้ตรงใจ

Honda Civic FC มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย ซึ่งแต่ละรุ่นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การทำความเข้าใจคุณสมบัติของแต่ละรุ่นจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก Honda Civic FC มือสอง ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุด

Honda Civic FC 1.5 Turbo RS มือสอง

เครื่องยนต์: 1.5 ลิตร Turbo (L15B7) 173 แรงม้า, 220 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ CVT
ราคา: มือสองเริ่มต้นที่ 568,000 บาท (รุ่นปี 2016)
ข้อดี:
เป็นเครื่องยนต์เล็กที่สุดแต่ให้กำลังสูงสุดในกลุ่ม C-Segment
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา
อัตราเร่งช่วงต้นดี เหมาะกับการขับในเมือง
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังกว้างขวาง
ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีรมดำ, เสาอากาศครีบฉลาม
ตกแต่งภายในด้วยตะเข็บด้ายสีแดง, สัญลักษณ์ RS
มาพร้อม Honda SENSING ครบครัน (CMBS, Adaptive Cruise Control, LKAS, RDM, Auto High-Beam)
ข้อเสีย:
ค่าบำรุงรักษาบางจุดสูงกว่ารุ่น 1.8 (เนื่องจากเป็นเทอร์โบ)
เครื่องยนต์มีโอกาสสึกหรอเร็วกว่าหากใช้งานหนัก
เกียร์ CVT อาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่า
อัตราเร่งช่วงกลาง-ปลายไม่หวือหวาเท่าช่วงออกตัว
ราคาสูงที่สุดในกลุ่ม FC

Honda Civic FC 1.5 Turbo มือสอง

เครื่องยนต์: 1.5 ลิตร Turbo (L15B7) 173 แรงม้า, 220 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ CVT
ราคา: มือสองเริ่มต้นที่ 528,000 บาท (รุ่นปี 2016)
ข้อดี:
กำลังสูงกว่าคู่แข่งในกลุ่ม C-Segment
ดีไซน์สปอร์ต ทรงคูเป้ ให้ฟีลรถหรู
ห้องโดยสารโปร่งโล่ง นั่งสบาย
ประหยัดน้ำมันกว่าเครื่อง 1.8
อาการ Turbo Lag น้อย อัตราเร่งช่วงต้นดี
มีระบบ Auto Brake Hold, สตาร์ทรถด้วยรีโมต
ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีรมดำ
ข้อเสีย:
ค่าบำรุงรักษาบางจุดสูงกว่ารุ่น 1.8
เครื่องยนต์มีโอกาสสึกหรอเร็วกว่าหากใช้งานหนัก
เกียร์ CVT อาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่า
อัตราเร่งช่วงกลาง-ปลายไม่หวือหวาเท่าช่วงออกตัว
ราคาสูงกว่ารุ่น 1.8

Honda Civic FC 1.8 EL i-VTEC มือสอง

เครื่องยนต์: 1.8 ลิตร (R18A) 141 แรงม้า, 174 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ CVT
ราคา: มือสองเริ่มต้นที่ 490,000 บาท (รุ่นปี 2016)
ข้อดี:
เครื่องยนต์ทนทานกว่าเทอร์โบ ขับขี่สนุกทั้งในและนอกเมือง
ค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
ออปชันมากกว่ารุ่น 1.8 E (Honda LaneWatch, Rain Sensor, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ)
รองรับน้ำมัน E85
ราคาถูกกว่าเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
ข้อเสีย:
ปรับแต่งยากกว่าเครื่องเทอร์โบ
ประหยัดน้ำมันน้อยกว่าเครื่องเทอร์โบ
ล้ออัลลอย 16 นิ้ว เล็กกว่าเครื่อง 1.5
ราคาสูงกว่ารุ่น 1.8 E เล็กน้อย

Honda Civic FC 1.8 E i-VTEC มือสอง

เครื่องยนต์: 1.8 ลิตร (R18A) 141 แรงม้า, 174 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ CVT
ราคา: มือสองเริ่มต้นที่ 497,000 บาท (รุ่นปี 2017)
ข้อดี:
เครื่องยนต์ทนทาน ขับขี่สนุก
ค่าบำรุงรักษาถูก
มี Rain Sensor, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ
รองรับน้ำมัน E85
ราคาถูกที่สุดในกลุ่ม Civic FC
ข้อเสีย:
ปรับแต่งยาก
ประหยัดน้ำมันน้อยกว่าเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
ล้ออัลลอย 16 นิ้ว เล็กกว่าเครื่อง 1.5
ออปชันและความปลอดภัยน้อยกว่ารุ่นอื่น

Honda Civic FC มือสอง ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่ครบเครื่องในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะที่น่าประทับใจ และความทนทานที่เชื่อถือได้ หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ Honda Civic FC มือสอง คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ หรือรถยนต์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัวและไลฟ์สไตล์ของคุณ อย่ารอช้าที่จะค้นหาและทดลองขับรถยนต์ที่คุณสนใจ ตลาดรถยนต์มือสองนั้นเต็มไปด้วยโอกาสที่น่าสนใจ หากคุณกำลังพิจารณา MINI John Cooper Works สำหรับความเร้าใจ, Toyota Innova สำหรับความอเนกประสงค์และความหรูหรา, Mercedes-Benz GLE สำหรับการผสมผสานระหว่าง SUV และเทคโนโลยี Plug-in Hybrid, Mercedes-Benz E-Class สำหรับความสง่างามและเทคโนโลยีแห่งอนาคต, Mitsubishi Outlander สำหรับดีไซน์ที่ทันสมัย หรือ Honda Civic FC มือสอง สำหรับความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ครบเครื่อง วันนี้คือเวลาที่ดีที่สุดในการก้าวไปสู่อีกระดับของการเดินทางของคุณ ให้ผู้เชี่ยวชาญของเราแนะนำและช่วยคุณค้นหารถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณได้แล้ววันนี้

Previous Post

N3112019 ปหน าจอม อถ อล กค าทำไมม หน าพ อก บผ หญ แม กตามไปส บถ งก บช อค #พ คตอนจบอย างฮา part2

Next Post

N3112017 เด กขโมยกระเป าจากผ หญ งคนน ในกระเป าน นม อะไร ทำไมตำรวจก อยากได part2

Next Post
N3112017 เด กขโมยกระเป าจากผ หญ งคนน ในกระเป าน นม อะไร ทำไมตำรวจก อยากได part2

N3112017 เด กขโมยกระเป าจากผ หญ งคนน ในกระเป าน นม อะไร ทำไมตำรวจก อยากได part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N3112017 เด กขโมยกระเป าจากผ หญ งคนน ในกระเป าน นม อะไร ทำไมตำรวจก อยากได part2
  • N3112011 เต อนภ อย าต ดม อถ อจนเป นหายนะแก คนอ part2
  • N3112019 ปหน าจอม อถ อล กค าทำไมม หน าพ อก บผ หญ แม กตามไปส บถ งก บช อค #พ คตอนจบอย างฮา part2
  • N3112008 กล บบ านนอกมาเจอเพ อนสม ยเร ยนท เคยชอบก จะเป นย งไง part2
  • N3112007 เต อนภ เต มน ำม นต องเช คให ไม นจะเจอแบบน part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.