อนาคตยานยนต์: ความเคลื่อนไหวและการคาดการณ์แบรนด์ชั้นนำในตลาดประเทศไทย
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มาเป็นระยะเวลากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด จากประสบการณ์ตรงและการวิเคราะห์เชิงลึก ผมขอนำเสนอภาพรวมการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงการคาดการณ์ทิศทางตลาดในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งโมเดลใหม่ที่เปิดตัว เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และกลยุทธ์ทางการตลาดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Kia: การกลับมาทวงบัลลังก์ด้วยภาพลักษณ์ใหม่
หลังจากที่ Yontrakit Kia Motors ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ในเครือ Hyundai-Kia ให้ดูแลตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมานานหลายปี และเมื่อโอกาสอำนวยจากการหมดอายุสิทธิ์การทำตลาดรถยนต์ Audi ของบริษัทในเครือ ทำให้แบรนด์ Kia กลับมาได้รับความสนใจและได้รับการผลักดันอย่างจริงจังอีกครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา Kia สามารถยืนหยัดได้ด้วย New Grand Carnival รถ MPV 11 ที่นั่ง ซึ่งโดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ใกล้เคียงรถยนต์นั่งมากที่สุดในกลุ่มรถตู้
แม้ว่า Kia Soul EV จะถูกนำมาจัดแสดงในงาน BIG Motor Sales 2017 และรอประกาศราคาจนถึง Motor Expo ปลายปีเดียวกัน ด้วยสนนราคาที่สูงถึง 2,279,000 บาท แต่สิ่งที่สร้างความฮือฮาอย่างแท้จริงคือการนำเข้า Kia Stinger รถสปอร์ตซีดาน 5 ประตู ดีไซน์โฉบเฉี่ยว แม้จะมีราคาสูงถึง 2,990,000 บาท อันเป็นผลจากภาษีนำเข้าและสรรพสามิต แต่การมาของ Stinger ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่า Kia พร้อมที่จะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แบรนด์ ไม่ได้มีเพียงรถตู้ในโชว์รูมอีกต่อไป
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองต่อไปคือการที่ผู้บริหารได้ไปเห็น Kia Stonic รถ Sub-Compact Crossover SUV ที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายทั้งเบนซิน 1.0 ลิตร T-GDI 120 แรงม้า, เบนซิน 1.25 ลิตร 84 แรงม้า, เบนซิน 1.4 ลิตร 99 แรงม้า และดีเซล 1.6 ลิตร 110 แรงม้า นอกจากนี้ Kia Sportage ซึ่งเคยห่างหายไปนานจากตลาดไทยเนื่องจากปัญหาด้านราคา อาจกลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันดีเซล 2.0 ลิตร 185 แรงม้า ปัญหาสำคัญที่ทั้งบริษัทแม่ในเกาหลีใต้และ Yontrakit กำลังพิจารณาคือการตั้งราคาขายให้สามารถแข่งขันกับรถยนต์ที่ประกอบในประเทศได้ ซึ่งเป็นความท้าทายเดียวกันกับ Compact SUV อย่าง Sportage และ City Car รุ่น Picanto ในเจนเนอเรชั่นใหม่
Land Rover: ยุคแห่งเทคโนโลยี Plug-in Hybrid และดีไซน์ล้ำสมัย
ภายใต้ร่มเงาของ JLR และเจ้าของร่วม Tata Motors รวมถึงการทำตลาดโดย Inchcape ประเทศไทย แบรนด์ Land Rover ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ Discovery ใหม่ ตามมาด้วย Range Rover Velar ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่รวดเร็วตามหลังตลาดโลกเพียง 6 เดือน
ที่น่าสนใจคือการก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวด้วย Range Rover Sport Plug-in Hybrid และ Range Rover Minorchange ที่มาพร้อมรุ่น Plug-in Hybrid ทั้งคู่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Ingenium เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 404 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที และสามารถชาร์จไฟเต็มใน 2 ชั่วโมง 45 นาที พร้อมปล่อย CO2 เพียง 64 กรัม/กม. รุ่น Plug-in Hybrid นี้มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง Parallel Hybrid (SAVE, PEO) และ EV ซึ่งวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้สูงสุด 51 กิโลเมตร คาดว่า Inchcape Thailand จะนำรุ่น Plug-in Hybrid นี้เข้ามาทำตลาดในปี 2018
สำหรับ Range Rover Evoque รถ Premium Compact SUV ที่ขายดีที่สุด กำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนโฉมเต็มรูปแบบ (Full Model Change) ในปี 2018 โดยคาดว่ายังคงดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ แต่จะปรับปรุงให้เฉียบคมและหรูหรายิ่งขึ้น ตัวรถจะเบาลง นั่งสบายขึ้น และรองรับขุมพลังทางเลือก ทั้ง Hybrid และ Plug-in Hybrid คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Paris Motor Show กันยายน 2018 และน่าจะมาถึงเมืองไทยราวต้นปี 2019
ข่าวใหญ่ของ Land Rover ในปี 2018 คือการพัฒนารถ Land Rover Defender ใหม่ ทั้งคันในรอบ 70 ปี หลังจากยุติการผลิตรุ่นดั้งเดิมไป Defender คือตำนานแห่งรถยนต์ออฟโรดที่ทนทาน สมบุกสมบัน มีอายุการตลาดยาวนานถึง 68 ปี การออกแบบใหม่นี้จะแหวกแนวไปจากตระกูลอื่นๆ ของ Land Rover เน้นความสมบุกสมบันขั้นสุด โดยยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิม พร้อมดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ตัวรถจะสร้างบนพื้นฐานวิศวกรรมเดียวกับ Discovery แต่มีชิ้นส่วนที่แตกต่างมาก คาดว่ารถต้นแบบจะเริ่มวิ่งบนถนนจริงในปี 2018
Lamborghini: การบุกตลาด SUV สุดหรูด้วย URUS
แม้จะเผชิญมรสุมด้านกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อตลาด Supercar ในไทย แต่ Lamborghini ในต่างประเทศยังคงเดินหน้า ล่าสุดได้เปิดตัว URUS รถ SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในโลก สร้างบนแพลตฟอร์ม MLB Evo ร่วมกับ Audi Q7, Bentley Bentayga และ Volkswagen Touareg ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 Bi-Turbo 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 659 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม. คาดว่า URUS จะถูกนำมาเปิดตัวในประเทศไทยช่วง Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018 ด้วยสนนราคาประมาณ 25 ล้านบาท
Mazda: พักเบรกในปี 2018 สู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ในปี 2019
หลังจากการเปิดตัว CX-5 ใหม่ ในปลายปี 2017 Mazda ได้เสร็จสิ้นภารกิจการแนะนำรถรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี SKYACTIV มาตั้งแต่ปี 2013 ทำให้ปี 2018 เป็นปีของการพักผ่อน อาจมีเพียงการปรับอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับรถยนต์รุ่นเดิมๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และการเปลี่ยนสีแดง Soul Red Metallic เป็น Soul Red Crystal ในทุกรุ่น
Mazda ยังคงมุ่งมั่นปรับปรุงคุณภาพบริการหลังการขาย และแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์แบรนด์
เมื่อเข้าสู่ปี 2019 ตลาด SUV 7 ที่นั่ง จะคึกคักขึ้นเมื่อ Mazda Sales (Thailand) เตรียมนำ CX-8 เข้ามาเปิดตลาดอย่างจริงจังในช่วงไตรมาสแรก CX-8 ซึ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อกันยายน 2017 มีพื้นฐานจาก CX-5 ที่เพิ่มความยาวตัวถังเพื่อรองรับเบาะแถวที่ 3 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร 190 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
สำหรับ Mazda 3 / Axela จะเข้าสู่การเปลี่ยนโฉม Full Model Change ในปี 2019 โดยจะใช้ดีไซน์จาก Mazda KAI Concept และนำเทคโนโลยี SKYACTIV Generation 2 มาประยุกต์ใช้ รวมถึงเครื่องยนต์ใหม่ SKYACTIV-X (SPCCI) ซึ่งเป็นการผลิตเครื่องยนต์เบนซินแบบกำลังอัดแปรผันออกจำหน่ายจริง คาดว่า Mazda 3 ใหม่ SKYACTIV-X จะพร้อมเผยโฉมในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม 2019 และจะถึงมือลูกค้าชาวไทยช่วงปลายปี 2019
ความเคลื่อนไหวที่สำคัญอีกประการคือโครงการพัฒนารถกระบะ BT-50 PRO รุ่นต่อไป Mazda ได้ตัดสินใจสิ้นสุดความสัมพันธ์กับ Ford และกลับไปร่วมมือกับ Isuzu อีกครั้ง โดย BT-50 Pro ใหม่ จะใช้โครงสร้างวิศวกรรม เครื่องยนต์ และกลไก Frame Chassis ร่วมกับ D-Max รุ่นต่อไปทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ได้ความประหยัดที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน Mazda จะออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกและช่วงล่างเองทั้งหมด คาดว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้จะเสร็จสิ้นการพัฒนาก่อนปลายปี 2020 หรือต้นปี 2021
Maserati: การกลับมาอย่างสง่างามและการเปิดตัวรุ่นใหม่
หลังการเปลี่ยนผู้จำหน่ายเป็นกลุ่ม Millennium (MGC Asia) แบรนด์ Maserati กลับมามีสีสันอีกครั้ง การ Re-launch แบรนด์อย่างเป็นทางการในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2017 พร้อมการนำเข้า Levante Diesel Turbo เป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ Levante เบนซินก็เข้ามาเสริมทัพในงาน Motor Expo ปลายปีเดียวกัน ถือว่า Levante ทำยอดขายได้ดีพอสมควรเมื่อเทียบกับรถยนต์ Premium Luxury แบรนด์อื่น
ในปี 2018 MGC-Asia เตรียมนำเข้า Maserati Ghibli Grand Lusso รุ่นปรับโฉม Minorchange ที่เพิ่งเผยโฉมในจีนเมื่อสิงหาคม 2017 มีเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ให้เลือกทั้งเบนซิน 350 แรงม้า/410 แรงม้า และดีเซล 250 แรงม้า/275 แรงม้า พร้อมการปรับปรุงไฟหน้า Adaptive Full LED, กระจังหน้า, กันชนหน้า-หลัง และเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เต็มพิกัด คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018
ส่วนรถสปอร์ตขนาดเล็กกว่า Gran Turismo อย่าง Maserati Alfieri ที่เคยเปิดตัวเวอร์ชันต้นแบบเมื่อมีนาคม 2014 ยังคงเดินหน้าโครงการ และมีกำหนดเปิดตัวในปี 2018Alfieri ได้รับแรงบันดาลใจจาก Maserati A6 GCS/53 ปี 1954 มีดีไซน์ Coupe 2+2 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์ V8 4.7 ลิตร 460 แรงม้า แต่เวอร์ชันจำหน่ายจริงจะใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตรก่อน และมีแนวโน้มที่จะมีรุ่นเปิดประทุนด้วย Alfieri คาดว่าจะพร้อมผลิตออกสู่ตลาดในปี 2018 แต่จะมาถึงไทยอาจต้องรอถึงปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่ Gran Turismo รุ่นใหม่จะเปิดตัวเช่นกัน
Mercedes-Benz: กลยุทธ์การปรับทัพและการรุกตลาดด้วยรถยนต์ที่หลากหลาย
ปี 2017 เป็นปีที่ Mercedes-Benz (Thailand) จัดงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่บ่อยครั้งที่สุดถึง 11 รุ่น ซึ่งรวมถึง E220d CKD, C350e, E350e, E300 Coupe, GLA Facelift, AMG GLA 45 Facelift, E300 Cabriolet, S350d Facelift, Maybach S560 Facelift, AMG GT-C เปิดประทุน และ AMG GT-R
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจตัดเครื่องยนต์สันดาปปกติออกจาก C-Class และ E-Class จนหมดสิ้น และการเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน Hybrid เป็นผลให้ Mercedes-Benz Thailand ต้องทบทวนนโยบายและเตรียมเสริมทางเลือกเครื่องยนต์สันดาปกลับเข้าไป
ปี 2018 ประเดิมด้วย The New CLS เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเผยโฉมที่ LA Auto Show ปลายปี 2017 เป็นรถยนต์ Coupe 4 ประตู ที่คั่นกลางระหว่าง E-Class และ S-Class จะเป็น Mercedes-Benz รุ่นแรกที่เปลี่ยนดีไซน์ไฟหน้าเป็นแบบเดียวกับ Vision EQA และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในรุ่นอื่นๆ ต่อไป CLS ใหม่ มีให้เลือก 3 ขุมพลังช่วงแรก ได้แก่ CLS350d 4MATIC (ดีเซล 6 สูบ 286 แรงม้า), CLS400d 4MATIC (ดีเซล 6 สูบ 340 แรงม้า) และ CLS450 4MATIC (EQ Boost Assist Hybrid เบนซิน 6 สูบ 372 แรงม้า) คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายมีนาคม 2018 โดยรุ่น CLS350d น่าจะเพียงพอต่อความต้องการและราคาที่เหมาะสม
ตามมาติดๆ คือการปรับโฉมครั้งใหญ่ของ G-Class ในงาน Detroit Auto Show กลางมกราคม 2018 แม้จะยังคงพื้นฐานโครงสร้างเดิม แต่ภายในห้องโดยสารจะถูกออกแบบใหม่ให้ทันสมัยขึ้น พร้อมหน้าจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว คาดว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยช่วงครึ่งหลังปี 2018
C-Class Facelift จะกลับมาพร้อมขุมพลังดีเซลอีกครั้ง เป็นการแก้ไขปัญหาการขายที่ลดลงจากการที่ลูกค้าหันไปหาคู่แข่งอย่าง BMW 3-Series เนื่องจากปัญหาในระบบ Hybrid ของรุ่นก่อนหน้า กำหนดเปิดตัวคาดว่าจะเป็นช่วง Bangkok International Motor Show ปลายมีนาคม 2018
นอกจากนี้ Mercedes-Benz Thailand ยังเตรียมเปิดตัว S560e Plug-in Hybrid เพื่อเสริมทัพ S350d โดย S560e มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 Twin Turbo 367 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า ให้กำลังรวม 489 แรงม้า
ช่วงปลายปี อาจได้ลุ้นการมาถึงของ A-Class Generation ที่ 4 ซึ่งมีดีไซน์ภายนอกผสมผสานระหว่าง A-Class ปัจจุบัน และ Concept EQA ภายในห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอ 10.3 นิ้วต่อเนื่อง และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ๆ คาดว่าจะนำรุ่นตัวถัง Sedan 4 ประตู เข้ามาทำตลาดในช่วงปลายปี 2018
MG: ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยโรงงานขนาดใหญ่และเทคโนโลยีล้ำสมัย
MG ZS ที่เปิดตัวปลายปี 2017 ด้วยจุดขายระบบ Infotainment และการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย i-Smart แม้จะมีข้อจำกัดด้านอัตราเร่งและความประหยัด แต่ก็มียอดจองกว่า 3,000 คัน
ปี 2018 จะเป็นการท้าทายสำหรับ MG ในการทำยอดขายให้บรรลุเป้า โดยจะมีการปรับโครงสร้างผู้จำหน่าย และเปิดรับดีลเลอร์ใหม่ที่มีประสบการณ์ การประกาศเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่ลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ด้วยพื้นที่ 437.5 ไร่ คือก้าวสำคัญที่จะใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ MG พวงมาลัยขวาสำหรับตลาด ASEAN และส่งออกไปทั่วโลก ด้วยกำลังการผลิต 100,000 คัน/ปี รองรับรถยนต์ Smart Car, รถยนต์ไฟฟ้า EV และรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ Autonomous Drive
MG 3 Minorchange กำลังจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018 จะมีการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกและแผงแดชบอร์ดใหม่ พร้อมเปลี่ยนจากเกียร์ AMT มาใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ Torque Converter แบบเดิม
Maxus G10 รถตู้ Minivan 11 ที่นั่ง จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น MG GV และตั้งใจมาชนกับ Hyundai H-1 / Kia Carnival ปัญหาด้านภาษีนำเข้าและสรรพสามิตเคยทำให้การเปิดตัวล่าช้า แต่หากเคลียร์ปัญหาได้สำเร็จ อาจได้เห็น MG GV ในปี 2018
โครงการรถกระบะ MG ในไทย ถือเป็นครั้งแรกของโลก โดยจะนำ Maxus T60 มาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย โดยโรงงานแห่งใหม่จะเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกทั่วโลก T60 มีเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร 136 แรงม้า/150 แรงม้า และมีแผนพัฒนเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรในอนาคต คาดว่า MG จะพร้อมบุกตลาดรถกระบะอย่างจริงจังในปี 2019
Roewe RX5 รถ Compact SUV ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Internet Car คันแรกของโลก กำลังวิ่งทดสอบในไทย และคาดว่าจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นแบรนด์ MG พร้อมเวอร์ชันไทยที่อาจเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน และมีระบบ Autonomous Drive คาดว่าจะผลิตและจำหน่ายในไทยประมาณปี 2020
Mitsubishi Motors: การปรับโครงสร้างภายในและการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่
ปี 2017 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงภายใน Mitsubishi Motors (Thailand) จากการเตรียมรับมือ Partner รายใหม่หลังกลุ่ม Renault-Nissan Alliance เข้าซื้อหุ้นใหญ่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง
Mitsubishi Eclipse Cross รถ Crossover SUV รุ่นใหม่ ไม่น่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เนื่องจากดีไซน์ที่ดูเชยกว่าคู่แข่งอย่าง Toyota C-HR และ Honda HR-V
อย่างไรก็ตาม Mitsubishi Xpander Sub-Compact Minivan 7 ที่นั่ง สไตล์ Crossover สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เปิดตัวที่อินโดนีเซียแล้ว โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 104 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ จุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์ล้ำสมัย ขนาดตัวถังใหญ่ และพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง คาดว่า Xpander จะมาถึงเมืองไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2018
Triton และ Pajero Sport รุ่นขายดี คาดว่าจะมีการปรับโฉม Minorchange ในปี 2018 โดยเฉพาะ Pajero Sport อาจมีการแก้ปัญหา Defect ประจำรุ่น
ในปี 2019 Mirage และ Attrage สองพี่น้อง ECO-Car จะถึงเวลาเปลี่ยนโฉม Full Model Change โดยอาจมีโอกาสได้ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo ใหม่ ร่วมกับ Nissan Almera หรือปรับปรุงเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรเดิม
Nissan: การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรและการรุกตลาดด้วยรถยนต์รุ่นใหม่
ภายใต้การนำของประธาน Nissan คนใหม่ Mr. Antoine Barthes มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่การจัดการปัญหาคอร์รัปชัน การปรับนโยบายผู้จำหน่าย ไปจนถึงการเปิดโอกาสให้พนักงานได้สื่อสารกับผู้บริหารโดยตรง
Nissan Note ที่เปิดตัวไป ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากการเลือกใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรเดิม และไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก ทำให้ตัวรถอืดอาดกว่า March และ Almera
ปี 2018 ครึ่งปีแรก Nissan จะเน้นการปรับทัพรถกระบะ Navara ด้วยการเพิ่มรุ่น 4×4 ช่วงยาว และอาจมีการปรับอุปกรณ์เล็กน้อย
เซอร์ไพรส์สำคัญคือการนำเข้า Nissan GT-R สุดยอดรถสปอร์ต Hi-Performance Grand Touring เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย หลังจากที่ผ่านมามีแต่รถ Grey Market การปรับโฉมครั้งล่าสุดของ GT-R เน้นที่การเปลี่ยนกันชนหน้า แผงหน้าปัด และอัปเกรดเครื่องยนต์ VR38DETT V6 Twin-Turbo ให้แรงขึ้นอีก 20 แรงม้า และแรงบิดอีก 5 นิวตันเมตร แต่ด้วยภาษีนำเข้าและสรรพสามิตที่สูง ราคาขายอาจพุ่งสูงเกินเอื้อม
X-Trail Minorchange จะมาในช่วงไตรมาส 3 ปี 2018 โดยจะปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ รวมถึงไฟหน้า และเพิ่มอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยให้ทัดเทียมคู่แข่ง อาจมีการตัดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรออก เหลือเพียง 2.0 ลิตร และ Hybrid
Nissan LEAF รถยนต์ไฟฟ้า 100% จะเปิดตัวตามกำหนดการในช่วงครึ่งหลังปี 2018 โดยช่วงแรกจะนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน ทำให้ราคาอาจสูงถึง 2 ล้านบาท หากยอดขายดี อาจมีการนำมาประกอบในไทย ซึ่งจะช่วยลดราคาลงเหลือ 1.1-1.5 ล้านบาท
Nissan จะส่งท้ายปี 2018 ด้วยการเปิดตัว SUV/PPV บนพื้นฐาน Navara ในชื่อ Nissan TERRA ซึ่งมีภาพหลุดจากจีนแล้ว จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร หรืออาจมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร จาก Renault ด้วย กำหนดเปิดตัวทั่วโลกในจีน เมษายน 2018 และจะทยอยเปิดตัวในตลาดอื่น รวมถึงไทยช่วงปลายปี 2018
Navara รุ่นฐานล้อสั้น Short Wheelbase จะออกมาเสริมทัพ เพื่อให้ Terra สามารถใช้สิทธิ์การส่งเสริมการลงทุนในฐานรถกระบะดัดแปลง (PPV) ได้เต็มรูปแบบ
ปี 2019 ตลาดโลกจะได้สัมผัส Nissan Altima และ Teana รุ่นที่ 4 แต่ไทยจะยังคงใช้ Teana Minorchange ที่ปรับโฉมหน้าตาจาก Altima เวอร์ชันอเมริกาเหนือ หรือ Teana จีน โดยยังคงเครื่องยนต์เดิม และมีกำหนดเปิดตัวช่วงต้นปี 2019
Note E-Power จะเข้ามาทำตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย Note โดยใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 109 แรงม้า ทำงานร่วมกันแบบ Hybrid คาดว่าจะประกอบในไทยช่วงปลายปี 2018 ถึงกลางปี 2019
ปี 2019 ยังจะได้พบกับ KICKS Sub-Compact Crossover SUV รุ่นใหม่ และ March กับ Almera Full Model Change ซึ่งอาจได้ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo หรือ E-Power KICKS จะใช้แพลตฟอร์ม V-Platform เดียวกับ March, Note, Almera และมีเทคโนโลยี Around View Monitor, Chassis Dynamic Control คาดว่า KICKS จะมาถึงไทยในปี 2019
Porsche: การเปิดตัวรุ่นสมรรถนะสูงและการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
ปี 2018 จะมีการเปิดตัวเวอร์ชันสูงสุดของฝาแฝด Cayman GT4 และ Boxster Spyder ซึ่งอาจได้ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ Boxer 4.0 ลิตร จาก 911 GT3 ที่ลดทอนพละกำลังลง มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและคลัตช์คู่
Macan จะมีการปรับโฉม Minorchange โดยปรับดีไซน์กันชนหน้าและไฟท้ายใหม่ อาจได้เครื่องยนต์ 2.9 ลิตร Bi-turbo ใหม่จาก Panamera และ Cayenne ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นและลดมลพิษลง รวมถึงมีโอกาสได้ใช้ระบบขับเคลื่อน E-Hybrid 462 แรงม้า
ปี 2018 ปลายถึงต้นปี 2019 จะพบกับ Porsche 911 (992) โฉมใหม่บนแพลตฟอร์ม MSB รุ่นใหม่ มีขนาดตัวรถสั้นลงแต่กว้างขึ้น รุ่นแรกที่จะเปิดตัวคือ Carrera และ Carrera S ส่วนระบบขับเคลื่อน Hybrid ใน 911 อาจต้องรอดูในระยะยาว หรือหลังปี 2023
Porsche จะเปิดตัว Mission E ซาลูนพลังไฟฟ้าเวอร์ชันขายจริงในปี 2019 บนแพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Porsche, Audi และ Lamborghini มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชาร์จไฟ 800V ชาร์จได้ 400 กม. ใน 15 นาที มีหลายรุ่นย่อยตั้งแต่ 402, 536 และ 670 แรงม้า คาดว่าราคาเริ่มต้นจะใกล้เคียง Panamera รุ่นล่างสุด
Rolls Royce: การเปิดตัว Phantom ใหม่และการมาถึงของ Cullinan
ปี 2017 ไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว Rolls Royce Phantom VIII เจเนอเรชั่นที่ 8 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ “Architecture of Luxury” แบบ Aluminium Space Frame ที่แข็งแกร่งขึ้น 30% เครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร Twin-Turbo 563 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Satellite Aided Transmission คาดว่าจะเปิดตัวในไทยช่วง Bangkok International Motor Show มีนาคม 2018 ด้วยราคาเริ่มต้นอาจทะลุ 31 ล้านบาท
Rolls Royce Cullinan SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 110 ปีของแบรนด์ จะใช้ Platform “Architecture of Luxury” ร่วมกับ Phantom ใหม่ เครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร Twin-Turbo 563 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่าง Air Suspension เป็นมาตรฐาน คาดว่าจะมีรุ่น Plug-in Hybrid ตามออกมาภายหลัง Cullinan จะชิงตำแหน่ง “รถยนต์ SUV ที่ดีที่สุดในโลก” จาก Bentley Bentayga โดยคาดว่าจะเปิดตัวในงาน Geneva Motor Show มีนาคม 2018 และจะมาถึงไทยในปี 2019 ด้วยราคาคาดการณ์ 30 ล้านบาทในรุ่นพื้นฐาน
SsangYong: การกลับมาของ Rexton ใหม่
หลังจากเงียบหายไปนานในตลาดไทย Ssangyong ได้เปิดตัว G4 Rexton รถ SUV ขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ Full Model Change ครั้งแรกในรอบ 16 ปี ในงาน Seoul Motorshow โดยพัฒนาบนเฟรมแชสซีส์ Quad Frame มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ คือ เบนซิน 2.0 ลิตร 225 แรงม้า และดีเซล 2.2 ลิตร 181 แรงม้า มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน คาดว่า Ssangyong Thailand จะนำ Rexton ใหม่ มาเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show มีนาคมนี้ หรืออย่างช้าที่สุดภายในปี 2018
Subaru: ก้าวสู่การผลิตในไทยและการเปิดตัวรุ่นใหม่
ปี 2017 เป็นปีที่มีความเคลื่อนไหวมากสำหรับ Subaru ด้วยการประกาศความร่วมมือกับกลุ่ม Tan Chong ตั้งโรงงานผลิตในไทยภายใต้ชื่อ T.C.Manufacturing & Assembly (Thailand) หรือ TCMA TH เพื่อผลิตรถยนต์ Subaru ในประเทศไทย
Forester Generation ที่ 5 จะเป็นรุ่นแรกที่ผลิตในไทย โดยพัฒนาบน Subaru Global Platform (SGP) เช่นเดียวกับ Impreza และ XV ใหม่ คาดว่าจะมีเครื่องยนต์เบนซิน Boxer 2.0 ลิตร เป็นมาตรฐาน และอาจมีเวอร์ชัน Turbocharger 250 แรงม้า ให้เลือก ด้านดีไซน์จะปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้ Honda CR-V และ Volkswagen Tiguan เป็น Benchmark คาดว่า Forester ผลิตในไทยจะเริ่มผลิตช่วงมกราคม 2019 และอาจมีระบบ EyeSight เป็นครั้งแรกในไทย
Legacy และ Outback รุ่นปรับโฉม Minorchange จะเปิดตัวที่สิงคโปร์ มกราคม 2018 และน่าจะเข้ามาทำตลาดในไทยช่วง Bangkok International Motor Show มีนาคม 2018
Suzuki: การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Swift และ Ertiga
ปี 2017 เป็นปีที่ Suzuki ต้องประคับประคองยอดขาย โดยเฉพาะ Ciaz ที่ยังมีจุดเด่นด้านขนาดตัวถังและห้องโดยสารที่กว้างขวาง Swift Hatchback เริ่มมียอดขายแผ่วลงเนื่องจากลูกค้ากำลังรอคอยรุ่นใหม่
ต้นปี 2018 Suzuki Swift รุ่นใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 จะถูกประกอบในไทยอย่างเป็นทางการ จุดเด่นคือเทคโนโลยีที่มากขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร DualJet ที่ปรับจูนให้ผ่านมาตรฐาน ECO Car Phase 2 พัฒนาบน Platform ใหม่ HEARTECH ที่มีน้ำหนักเบาลงและแข็งแกร่งขึ้น พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยถึง 6 ลูก ถุงลมนิรภัย คาดว่าจะเปิดตัวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โดยราคาอาจเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
Suzuki Ertiga B-Segment Minivan 7 ที่นั่ง สำหรับตลาด ASEAN จะเปลี่ยนโฉม Full Model Change หวังมาแข่งขันกับ Mitsubishi Xpander และ Toyota Rush พัฒนาบน Platform HEARTECH เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตรใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวในอินโดนีเซียราวมีนาคม 2018 และมาถึงไทยช่วงปลายปี 2018 ก่อน Motor Expo
Ciaz อาจมีการปรับโฉม Minorchange ในปี 2018 ซึ่งคาดว่าดีไซน์อาจแตกต่างจากเวอร์ชันจีนเล็กน้อย แต่ขุมพลังยังคงเดิม กำหนดเปิดตัวในไทยอาจเป็นช่วง Motor Expo ปลายปี 2018 หรือต้นปี 2019
Tata Motors: การพัฒนาปิกอัพรุ่นใหม่และการมองไปถึง SUV/PPV
Tata Motors ยังคงขาย XENON ในกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ และเตรียมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ Full Model Change ในปี 2019 ซึ่งอาจใช้เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล Varicor บล็อก 4 สูบ 2.2 ลิตร พ่วง Turbocharger ที่ใช้ใน Tata Hexa SUV Crossover-Minivan-SUV รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในอินเดีย
ก่อนหน้านั้น ในปี 2018 คาดว่า Xenon รุ่นปัจจุบัน อาจมีการปรับปรุงครั้งสุดท้าย โดยติดตั้งพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียนแทนพวงมาลัยลูกปืนหมุนวนแบบเดิม
สำหรับ Tata Hexa คาดว่าจะไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายโดยตรง แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนารุ่น SUV / PPV บนพื้นฐานเดียวกับ Hexa ออกมาทำตลาดในไทย ซึ่งน่าจะเห็นในช่วงปี 2020-2021
Toyota / Lexus: การบุกตลาดด้วย C-HR และการปรับทัพในทุกเซกเมนต์
ปี 2017 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ Toyota ด้วยยอดขายภาพรวมที่เพิ่มขึ้น แต่การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทำให้แต่ละรุ่นขายได้ลดลง การเปิดตัว Yaris ATIV และ Yaris Hatchback Minorchange คือจุดสำคัญที่ช่วยยอดขาย
Hilux Revo เผชิญความท้าทายจากคู่แข่ง ทำให้ Toyota ต้องเร่งปรับปรุง การลงทุน 19,016 ล้านบาท ในการขยายกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Hybrid และแบตเตอรี่ สะท้อนถึงทิศทางอนาคต
ปี 2018 Toyota มีการบ้านสำคัญ 3 ข้อ: ปรับยอดขาย Hilux Revo, แก้ปัญหาหลังบ้านด้านบริการ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นยุคใหม่
C-HR รถยนต์รุ่นแรกของ Toyota ที่จะเปิดตัวในปี 2018 และเป็นรุ่นที่ 2 ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA-C จะชนกับ Honda HR-V, Mazda CX-3, Nissan Juke มีเครื่องยนต์ให้เลือก 1.8 ลิตร เบนซิน (141 แรงม้า) และ 1.8 Hybrid (122 แรงม้า) คาดว่าจะเปิดตัว 28 กุมภาพันธ์ 2018 ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 9xx,xxx บาท สำหรับรุ่นเบนซิน และ 1,0xx,xxx บาท สำหรับรุ่น Hybrid
Camry โฉมใหม่ จะมาในช่วงไตรมาส 3 ปี 2018 บนแพลตฟอร์ม TNGA-D เน้นความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัย คาดว่ารุ่น 2.5 Hybrid จะใช้เครื่องยนต์ Dynamic Force Hybrid THS II ใหม่ 211 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium-ion คาดว่าราคาสูงขึ้นกว่าเดิม
Toyota Rush Sub-Compact SUV 7 ที่นั่ง อาจถูกนำเข้ามาทำตลาดแทน Avanza โดยพัฒนาโดย Daihatsu ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 104 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ คาดว่าจะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังปี 2018
Toyota HiACE / Commuter รุ่นใหม่ จะเปลี่ยนรูปแบบไปใช้ด้านหน้าที่ยื่นออกไปด้านหน้า เหมือนรถตู้ยุโรป บนเฟรมแชสซีส์ของ IMV Platform คาดว่าจะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังปี 2018 หรือต้นปี 2019
Corolla Altis โฉมใหม่ จะถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA-C เช่นเดียวกับ C-HR คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และอาจมีรุ่น Hybrid 1.8 ลิตร THS-II ตามมาด้วย กำหนดเปิดตัวในไทยช่วงต้นปี 2019
สำหรับตลาด B-Segment, Toyota อาจนำ Daihatsu DN-F Sedan มาพัฒนาเป็น Toyota Vios รุ่นต่อไป ซึ่งจะเป็น Coupe-Like Sub-Compact Sedan ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร Dual VVT-i 88 แรงม้า คาดว่าจะเปิดตัวใน ASEAN ปี 2019
Lexus UX Premium Sub-Compact Crossover จะมาแทน CT200h พัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-C ร่วมกับ Toyota C-HR มีเครื่องยนต์ให้เลือก UX200 และ UX250 (Hybrid) คาดว่าจะเปิดตัวช่วงกลางปี 2018
Volvo: สู่ยุคแห่ง Hybrid และไฟฟ้า 100%
Volvo ได้ประกาศกลยุทธ์อันท้าทายว่ารถยนต์ทุกรุ่นที่เปิดตัวหลังปี 2019 จะต้องเป็น Hybrid หรือไฟฟ้า 100% โดยเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียว นี่คือการปรับตัวตามมาตรฐานมลพิษ Euro 6 ที่เข้มงวดขึ้น และเทรนด์ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ
Volvo XC40 SUV น้องเล็กสุดของค่าย พัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMA (Compact Modular Architecture) อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยไฮเทค คาดว่าจะเปิดตัวในไทยช่วง Bangkok International Motor Show มีนาคม 2018 ทั้งรุ่น D4 AWD (ดีเซล 190 แรงม้า) และ T5 AWD (เบนซิน 247 แรงม้า)
Volvo S40 / V40 Premium Compact Sedan/Wagon รุ่นใหม่ ที่ถอดแบบดีไซน์มาจาก Volvo 40.2 Concept พัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMA เช่นเดียวกับ XC40 คาดว่าจะมีขุมพลังให้เลือกเหมือนกัน กำหนดเปิดตัวในตลาดโลกมีนาคม 2018 และคาดว่าจะถึงไทยต้นปี 2019
บทสรุป: อนาคตของตลาดรถยนต์ไทยที่น่าตื่นเต้น
จากภาพรวมข้างต้น จะเห็นได้ว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งในด้านเทคโนโลยี สมรรถนะ และทิศทางของแบรนด์ต่างๆ การแข่งขันจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ SUV, Crossover และรถยนต์พลังงานทางเลือก การคาดการณ์เหล่านี้เป็นเพียงแนวโน้มเบื้องต้น แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากนวัตกรรมใหม่ๆ และตัวเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
การติดตามข่าวสารและข้อมูลการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคที่เทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งนี้
หากคุณกำลังมองหารถยนต์รุ่นใหม่ หรือต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรถยนต์ที่คุณสนใจ อย่าลังเลที่จะติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือผู้เชี่ยวชาญในสายงานยานยนต์ เพื่อรับคำปรึกษาที่ดีที่สุด การลงทุนในรถยนต์คู่ใจสักคัน คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ การศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน จะช่วยให้คุณเลือกสรรสิ่งที่ใช่สำหรับคุณอย่างแท้จริง.
