• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0201080 เข าใจว าม เพ อนด แท เพ อนเหล ยม part2

admin79 by admin79
December 29, 2025
in Uncategorized
0
N0201080 เข าใจว าม เพ อนด แท เพ อนเหล ยม part2

Mini John Cooper Works: สมรรถนะระดับตำนาน ที่มาพร้อมดีไซน์อันดุดัน

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์หลายต่อหลายรุ่น แต่มีบางแบรนด์ที่ยังคงเอกลักษณ์และความเป็น “ตัวจริง” ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และ MINI John Cooper Works (JCW) คือหนึ่งในนั้น การปรากฏตัวของ MINI JCW F56 ในงาน Motor Expo 2015 ถือเป็นการตอกย้ำสถานะของมันในฐานะรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล MINI ซึ่งได้รับการรังสรรค์โดย John Cooper Works สำนักแต่งคู่บุญที่เติบโตเคียงข้าง MINI มาอย่างยาวนาน จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ BMW อย่างสมบูรณ์

ดีไซน์ที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความแรง

สิ่งที่ทำให้ MINI JCW แตกต่างอย่างชัดเจนจาก MINI Hatch 3 Door Cooper S คือการปรับแต่งภายนอกที่เน้นความดุดันและสปอร์ตยิ่งขึ้น ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่มุมกันชนด้านข้าง เสริมด้วยล้ออัลลอย JCW ขนาด 18 นิ้ว ลายดอกไม้สองสี เป็นการบ่งบอกถึงสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ภายในได้อย่างลงตัว ขณะที่ด้านท้ายมีการออกแบบกันชนใหม่ให้มีช่องระบายอากาศคล้ายด้านหน้า พร้อมท่อไอเสียคู่ที่ดูเข้มขรึม

สีตัวถังพิเศษอย่าง Rebel Green ตัดกับสีหลังคาและกระจกมองข้าง Chili Red คือเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน นอกจากนี้ การเสริมแถบสีแต่งที่กระโปรงรถด้วยสีดำตัดขอบแดง ยิ่งเสริมบุคลิกที่น่าเกรงขามให้กับ JCW ให้โดดเด่นเหนือใคร แม้แต่ MINI Head-Up Display ที่มาพร้อมคอนเทนต์พิเศษเฉพาะรุ่นนี้ ก็ยิ่งเพิ่มความล้ำสมัยและความพิเศษให้กับประสบการณ์การขับขี่

ขุมพลังอันเหนือชั้น: หัวใจสำคัญที่ปลุกเร้าทุกสัมผัส

ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดุดันนี้ ซ่อนหัวใจที่แข็งแกร่งไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ MINI JCW ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ติดตั้งในแนวขวาง (transverse) รีดกำลังสูงสุดได้ถึง 231 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 320 นิวตันเมตร อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 148 กรัมต่อกิโลกรัม ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะที่ได้

นี่คือเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ MINI เคยนำเสนอสู่ตลาด ทิ้งห่าง MINI Hatch 3 Door Cooper S ไปถึง 39 แรงม้า และแรงบิดอีก 40 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่ฉับไวและการตอบสนองที่เฉียบคมยิ่งกว่าเดิม

ระบบช่วงล่างและเบรก: ประสานงานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ความแรงของเครื่องยนต์จะไร้ความหมายหากขาดระบบช่วงล่างและเบรกที่รองรับได้อย่างเหมาะสม MINI JCW ได้รับการติดตั้งระบบช่วงล่างที่ทำงานสอดคล้องกับขุมพลังได้อย่างลงตัว ควบคู่ไปกับระบบเบรกสมรรถนะสูงจาก Brembo ที่มอบความมั่นใจในการหยุดรถได้อย่างแม่นยำ

ระบบพวงมาลัย Servotronic ที่ผสานการทำงานระหว่างระบบไฟฟ้าและกลไก มอบการควบคุมที่แม่นยำและตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม เสริมด้วยเทคโนโลยี Dynamic Stability Control (DSC) ที่รวมเอาคุณสมบัติของ Dynamic Traction Control (DTC), Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control (DDC) ไว้เป็นมาตรฐาน ทำให้ JCW เป็นรถที่ควบคุมได้ง่ายและสนุกสนานอย่างแท้จริง

ด้วยน้ำหนักตัวถังที่ 1,205 กิโลกรัม เบากว่า MINI Hatch 3 Door Cooper S ถึง 45 กิโลกรัม ยิ่งส่งผลให้การขับขี่มีความคล่องแคล่วและปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น สำหรับตลาดประเทศไทยในเวลานั้น MINI JCW มีเพียงรุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ซึ่งเปิดตัวด้วยราคา 3.45 ล้านบาท อาจดูเป็นตัวเลขที่สูงสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก แต่สำหรับผู้ที่แสวงหาความแตกต่างและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ส่วนต่าง 610,000 บาท เมื่อเทียบกับ MINI Hatch 3 Door Cooper S นั้น ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสาวก MINI ตัวจริง

Toyota Innova 2016: การพลิกโฉมสู่ความหรูหราและทันสมัย

ในปี 2016 Toyota ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดตัว Toyota Innova รุ่นใหม่ ที่พลิกโฉมจากรถ MPV ที่เน้นความคุ้มค่า ไปสู่รถยนต์ที่หรูหรา ทันสมัย และเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักสำหรับรถประเภท MPV สะท้อนถึงความตั้งใจของ Toyota ที่จะเจาะตลาดกลุ่มนี้อย่างจริงจัง

ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่

Toyota Innova 2016 มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง ได้รับแรงบันดาลใจจาก Toyota Highlander กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED Projector (ในรุ่น Q Grade) ที่เรียวยาวและลาดต่ำลง เสริมด้วยไฟตัดหมอกและไฟเลี้ยวบริเวณมุมกันชน สร้างรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและดุดัน

เส้นสายด้านข้างดูแข็งแกร่งและเหลี่ยมคมกว่ารุ่นเดิม กระจกบานหลังสุดที่ยกขอบเฉียงขึ้นไปจรดขอบหลังคา สร้างมิติที่น่าสนใจ ขณะที่ด้านหลังใช้ไฟท้ายทรง L คว่ำ แบ่งเป็นสองส่วน ไฟแนวตั้งติดกับขอบตัวถัง และไฟแนวนอนติดกับประตูท้าย แม้จะเป็นหลอดธรรมดา แต่ก็ยังคงความสวยงามและลงตัว

ภายในห้องโดยสาร: ความสะดวกสบายที่เหนือกว่าระดับเดิม

สิ่งที่ทำให้ Toyota Innova 2016 โดดเด่นอย่างแท้จริง คือการปรับปรุงภายในห้องโดยสารให้หรูหราและแตกต่างจากรถรุ่นอื่น ๆ ในแพลตฟอร์ม IMV อย่างสิ้นเชิง แผงหน้าปัดที่เน้นเส้นโค้ง คาดด้วยลายไม้ (ในรุ่น Q Grade) ตัดกับคอนโซลกลางแนวตั้งตรง ติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Wi-Fi และคำสั่งเสียง รวมถึง Air Gesture (ในรุ่น Q และ V Grade)

ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลพร้อมระบบอัตโนมัติ (ในรุ่น Q และ V Grade) และจอ TFT แสดงข้อมูลตรงกลางมาตรวัด เพิ่มความสะดวกสบายและทันสมัยยิ่งขึ้น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่ให้มาครบครันทุกรุ่น

การจัดวางเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมเบาะแถว 2 ที่สามารถปรับเลื่อน/เอนได้อย่างอิสระ และฟังก์ชันพับเบาะแบบ One Touch เพื่อความสะดวกในการเข้า-ออกแถว 3 เสริมด้วยพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่งในแถว 3 รองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่

การตกแต่งด้วยแถบไฟ Ambient Light บริเวณแผงควบคุมเหนือศีรษะและแนวหลังคา สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้มีความหรูหราประดุจรถยนต์ระดับพรีเมียม

ขุมพลังที่หลากหลาย: ตอบสนองทุกการใช้งาน

Toyota Innova 2016 สำหรับตลาดอินโดนีเซีย มีทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ทั้งดีเซลและเบนซิน

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร: DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 149 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิด 360 นิวตันเมตร ที่ 1,200-2,600 รอบ/นาที
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร: Dual VVT-i DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิด 183 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ทั้งสองเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน: มั่นใจในทุกการเดินทาง

Toyota Innova 2016 มาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าผู้ขับขี่ ระบบ ISOFIX สำหรับเบาะเด็ก ระบบเบรก ABS และ EBD ในทุกรุ่นย่อย รุ่น Q Grade ยังเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยและถุงลมนิรภัยด้านข้าง ส่วนระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Assist Control (HAC) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Q Grade เครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น

แม้ว่าในขณะนั้น Toyota อินโดนีเซีย จะยังไม่เปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่การเปิดตัว Toyota Innova 2016 ใหม่ ถือเป็นการยกระดับตลาดรถ MPV ไปอีกขั้น ด้วยการผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างลงตัว

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016: ยุคใหม่ของ SUV ปลั๊กอินไฮบริด

การเปิดตัว Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC ในปี 2016 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของ Mercedes-Benz ในการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม การผสานสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ V6 เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ GLE 500 e 4MATIC เป็น SUV ที่มอบทั้งความประหยัดและความแรงเทียบชั้นรถสปอร์ตคาร์

วิสัยทัศน์ “DEFINE TOMORROW”: สู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคต

นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร Mercedes-Benz ประเทศไทย เน้นย้ำวิสัยทัศน์ “DEFINE TOMORROW” ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า การพัฒนายานยนต์กลุ่ม electric driving เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สู่การขับขี่ที่ไร้การปล่อยมลพิษ (Zero Emission) ในอนาคต และพิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ก็สามารถเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยเทคโนโลยีระบบส่งกำลังที่ก้าวล้ำ

ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างาม ผสมผสานความสปอร์ต

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 โดดเด่นด้วยเส้นสายที่สวยคม กระจังหน้าขนาดใหญ่ เสริมด้วยเส้นสายหลังคาที่ลาดเอียง ดีไซน์โดยรวมเน้นความเรียบหรู ทันสมัย

GLE 500 e 4MATIC Exclusive: มาพร้อมกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม 2 แถบ, กันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม, ขอบหน้าต่างโครเมียม, ปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อ, ไฟหน้า LED Intelligent Light System, ไฟ Daytime Running Light, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง, ไฟท้าย LED, กระจกมองข้างและกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต และล้ออัลลอย 20 นิ้ว สี Himalayas grey
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic: เพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอย AMG ดีไซน์สปอร์ต 20 นิ้ว สี Titanium grey, ชุดแต่ง AMG Bodystyling, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิเปอร์เบรกหน้า และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสาร: หรูหรา สปอร์ต และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี

การตกแต่งภายในเน้นความหรูหรา สง่างาม แฝงกลิ่นอายความสปอร์ต

ทั้งสองรุ่น: คอนโซลหน้าและแผงหุ้มประตูหุ้มด้วยหนัง Artico, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่ม Push Start, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
GLE 500 e 4MATIC Exclusive: เบาะนั่งหุ้มหนัง, ระบบมัลติมีเดีย MB Audio 20
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic: เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa, ระบบ COMAND Online, ระบบเสียง Harman Kardon® Logic 7®, Apple CarPlay™

ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ เบาะหลังพับได้ 1:3/2:3 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของ และเพิ่มสุนทรียภาพด้วยไฟเรืองแสง Ambient Light 3 สี

ระบบ Plug-In HYBRID: 4 โหมดการขับขี่ที่ยืดหยุ่น

GLE 500 e 4MATIC 2016 สามารถเลือกโหมดการทำงานของระบบ Plug-In HYBRID ได้ถึง 4 แบบ:

HYBRID: ผสมผสานการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เน้นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าให้มากที่สุด หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% จะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเป็นหลัก หากเลือกโหมด Sport (S) จะใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว
E-MODE: ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. ระยะทางสูงสุด 30 กม. (ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่และความเร็ว) เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง
E-SAVE: รักษาระดับประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ High-Volt ที่มีอยู่ขณะนั้นไว้ โดยใช้เครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อรักษาระดับประจุให้เท่าเดิม เหมาะสำหรับการเดินทางที่วางแผนไว้ เช่น ก่อนเข้าเมืองที่รถติด
CHARGE: ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว พร้อมรักษาระดับประจุแบตเตอรี่ในระดับปานกลาง เพื่อชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ High-Volt และแปลงพลังงานจลน์จากการเบรกเป็นพลังงานไฟฟ้า เมื่อชาร์จเต็ม ระบบจะปรับไปที่ E-SAVE อัตโนมัติ

Dynamic Select และ Mercedes-Benz Intelligent Drive: ความมั่นใจในทุกการเดินทาง

ระบบ Dynamic Select พร้อม 5 โหมดการขับขี่ (Individual, Comfort, Slippery, Sport, Sport+) และระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz Intelligent Drive ผสานความสะดวกสบายและความปลอดภัยอย่างลงตัว ประกอบด้วย:

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4ETS
ระบบ PRE-SAFE® system
ESP®
ระบบกันสะเทือน AIRMATIC
Crosswind Assist
ADAPTIVE BRAKE พร้อม HOLD และ Hill-start Assist
Adaptive Brake Light
ABS, ASR
ATTENTION ASSIST
Cruise Control, SPEEDTRONIC
PARKTRONIC
Active Parking Assist

ขุมพลังและราคา

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 Bi-Turbo 3.0 ลิตร 333 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 8.7 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมง (ไฟบ้าน) สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 30 กม. ด้วยความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม.

GLE 500 e 4MATIC Exclusive: ราคา 4,490,000 บาท
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic: ราคา 4,990,000 บาท

Mercedes-Benz E-Class 2016: นิยามใหม่ของซีดานอัจฉริยะ

การเปิดตัว Mercedes-Benz E-Class เจเนอเรชั่นที่ 10 ในปี 2016 ณ งาน Motor Show 2016 เป็นการตอกย้ำตำแหน่งของ Mercedes-Benz ในฐานะผู้นำด้านยนตรกรรมหรูหราและนวัตกรรม การนำเสนอภายใต้กลยุทธ์ “THE BEST” สะท้อนความมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

E-Class: หัวใจสำคัญของ Mercedes-Benz

E-Class ไม่เพียงเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญของ Mercedes-Benz แต่ยังเป็นมาตรฐานใหม่ของกลุ่มรถยนต์สำหรับนักธุรกิจ ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เหนือกว่า เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และดีไซน์ที่สง่างาม

ดีไซน์ภายนอก: Sensual Purity ที่ไร้ที่ติ

Mercedes-Benz E-Class 2016 มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่นตามหลัก Sensual Purity ของ Mercedes-Benz ตัวถังและฐานล้อที่ยาวขึ้น ผสานกับฝากระโปรงหน้าที่ดูยาว เส้นสายหลังคาดีไซน์สไตล์คูเป้ ทอดตัวยาวจรดด้านท้าย สร้างความสง่างามและทรงพลัง

ซุ้มล้อหลังที่ดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า เน้นเอกลักษณ์ของรถซีดานหรู ขณะที่โคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียว แบ่งออกเป็นสองส่วนภายใน สร้างความเรียบหรูแต่แฝงไว้ด้วยลูกเล่น

เทคโนโลยีล้ำสมัย: ก้าวสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติ

E-Class เจเนอเรชั่นที่ 10 ได้ยกระดับแนวคิดการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติไปอีกขั้น เป็นครั้งแรกของโลกที่นำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสาร: ความหรูหราและสุนทรียภาพ

จุดเด่นสำคัญของ E-Class คือการออกแบบภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะรุ่น Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic ที่มาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ เป็นครั้งแรกในเซกเมนต์นี้ เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี

ขุมพลังและประสิทธิภาพ: ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว ลดแรงเหวี่ยง และมอบสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ

โครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์และมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 เพียง 102 กรัม/กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EU)

รุ่นย่อยในประเทศไทย

Mercedes-Benz E 220 d Exclusive
Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic

Mercedes-Benz E-Class 2016 ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท เป็นการเปิดศักราชใหม่ของซีดานอัจฉริยะ ที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ

Mitsubishi Outlander 2016: การปรับโฉมสู่ความทันสมัยด้วย Dynamic Shield

แม้จะไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยโดยตรง แต่ Mitsubishi Outlander 2016 ที่เปิดตัวในงาน New York Auto Show 2015 ถือเป็นการนำเสนอทิศทางการออกแบบใหม่ที่น่าสนใจสำหรับ Mitsubishi โดยเฉพาะการนำเสนอดีไซน์ “Dynamic Shield” ที่จะปรากฏบนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ต่อไป

ดีไซน์ภายนอก: Dynamic Shield ที่สะดุดตา

การเปลี่ยนแปลงหลักของ Outlander 2016 คือการปรับโฉมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยแนวคิด Dynamic Shield ที่มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ ดีไซน์สปอร์ต และไฟหน้าที่ดูปราดเปรียว ส่วนด้านท้ายมีการปรับกันชนใหม่ และล้ออัลลอย 18 นิ้ว ที่ให้ความรู้สึกภูมิฐาน

ภายในห้องโดยสาร: การปรับปรุงเพื่อความสบาย

ภายในมีการปรับปรุงรายละเอียดบางส่วนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น ระบบความบันเทิงใหม่ และการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ดีขึ้น ด้วยกระจกบังลมหน้าใหม่ และวัสดุซับเสียงที่อัพเกรด

ขุมพลังที่หลากหลาย

Outlander 2016 มาพร้อมเครื่องยนต์สองรุ่น:

เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร: 4 สูบ ให้กำลัง 166 แรงม้า แรงบิด 219 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ CVT
เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร: ให้กำลัง 224 แรงม้า แรงบิด 291 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ระบบช่วยเหลือการขับขี่

มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมาย เช่น Forward Collision Mitigation (FCM), Lane Departure Warning (LDW), และ Adaptive Cruise Control (ACC)

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายที่ชัดเจน แต่ Mitsubishi Outlander 2016 แสดงให้เห็นถึงทิศทางของแบรนด์ Mitsubishi ที่มุ่งสู่ความทันสมัยและปลอดภัย ซึ่งอาจจะส่งผลต่อดีไซน์ของ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ที่จะตามมา

Bentley Bentayga 2016: SUV หรูหราที่เร็วที่สุดในโลก

Bentley Bentayga 2016 คือรถ SUV คันแรกของ Bentley ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราขั้นสูงสุดและสมรรถนะที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากเปิดตัวรถต้นแบบ EXP 9 F ที่ได้รับกระแสตอบรับที่หลากหลาย Bentley ก็ยังคงเดินหน้าโครงการนี้จนได้เปิดตัว Bentayga ในงาน Frankfurt Motor Show 2015

ดีไซน์ที่ได้รับการยอมรับ

Bentayga 2016 มีดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับ Bentley Flying Spur มากกว่ารถต้นแบบ EXP 9 F ซึ่งได้รับคำชื่นชมมากกว่า การออกแบบเน้นความสง่างาม แข็งแกร่ง และบ่งบอกถึงสถานะอันสูงส่ง

ความพิเศษสำหรับราชวงศ์และตลาดทั่วโลก

Bentley Bentayga คันแรกถูกส่งมอบให้กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดสำหรับแบรนด์ ขณะที่โควตาการผลิต 3,600 คันสำหรับปีแรก ได้ถูกสั่งจองหมดเป็นที่เรียบร้อย แสดงให้เห็นถึงความต้องการอันมหาศาลสำหรับ SUV ระดับ Ultra Luxury นี้

Bentley Bentayga 2016 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ และการแสวงหาประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับอย่างแท้จริง

Honda Civic FC มือสอง: ตัวเลือกยอดนิยมที่คุ้มค่าสำหรับปี 2025

Honda Civic FC ในฐานะรถยนต์ซีดาน 4 ประตูที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดรถมือสองสำหรับปี 2025 ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ และความคุ้มค่าที่มาพร้อมกับการเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกและใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน

Honda Civic FC: ขวัญใจวัยรุ่นและผู้ที่มองหาสมรรถนะ

ตั้งแต่เปิดตัว Honda Civic FC ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ด้วยยอดจองที่ทะลุเป้าไปอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์ซีดานที่มีทั้งความเท่ หรูหรา และเปี่ยมด้วยสมรรถนะอันแข็งแกร่ง

เจาะลึกแต่ละรุ่นย่อย: ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้

เพื่อให้การตัดสินใจเลือก Honda Civic FC มือสองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผมได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแต่ละรุ่นย่อย เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด:

Honda Civic FC 1.5 Turbo RS มือสอง

หัวใจสำคัญ: เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo (L15B7) 173 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT
จุดเด่น:
สมรรถนะที่เหนือกว่า: เป็นเครื่องยนต์ที่เล็กที่สุด แต่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในกลุ่ม C-Segment เหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน
ดีไซน์ดุดัน: ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีรมดำ, เสาอากาศครีบฉลาม (Shark Fin), สัญลักษณ์ RS ที่กระจังหน้า, ตะเข็บด้ายสีแดงภายในห้องโดยสาร
เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง: มาพร้อม Honda SENSING ครบครันที่สุด (CMBS, Adaptive Cruise Control, LKAS, RDM with LDM, Auto High-Beam)
ห้องโดยสารกว้างขวาง: ออกแบบใหม่ กว้างขวาง และหรูหรากว่าเดิม
อัตราเร่งช่วงต้นดีเยี่ยม: ตอบสนองฉับไว เหมาะกับการขับในเมือง
พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง: จุสัมภาระได้เยอะ
ข้อควรพิจารณา:
ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า: โดยเฉพาะจุดที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์เทอร์โบ
ความทนทานของเครื่องยนต์: มีโอกาสพังสูงกว่าเครื่อง 1.8 หากใช้งานหนักและขาดการบำรุงรักษาที่เหมาะสม
อายุการใช้งานเกียร์ CVT: ค่อนข้างสั้นหากใช้งานหนัก
อัตราเร่งช่วงกลาง-ปลาย: อาจไม่เร้าใจเท่าช่วงออกตัว
ราคาสูงที่สุด: ในบรรดา Civic FC มือสอง

Honda Civic FC 1.5 Turbo มือสอง

หัวใจสำคัญ: เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo (L15B7) 173 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT
จุดเด่น:
สมรรถนะใกล้เคียง RS: ให้กำลังและแรงบิดที่น่าประทับใจ
ดีไซน์สปอร์ต: ทรงคูเป้ให้ฟีลรถหรู
ห้องโดยสารโปร่งโล่ง: นั่งสบาย
ประหยัดน้ำมัน: ดีกว่าเครื่อง 1.8 เนื่องจากเทอร์โบเผาไหม้สมบูรณ์กว่า
อัตราเร่งช่วงต้นดี: ลดอาการเทอร์โบ-แล็ก
ระบบอำนวยความสะดวก: Auto Brake Hold, ระบบสั่งสตาร์ตรถด้วยรีโมต
ล้ออัลลอย 17 นิ้ว: สีรมดำ
ข้อควรพิจารณา:
ค่าบำรุงรักษา (บางจุด) สูงกว่า: เมื่อเทียบกับเครื่อง 1.8
ความทนทานของเครื่องยนต์: เช่นเดียวกับรุ่น RS มีโอกาสพังสูงกว่าเครื่อง 1.8
อายุการใช้งานเกียร์ CVT: ค่อนข้างสั้น
อัตราเร่งช่วงกลาง-ปลาย: อาจไม่เร้าใจเท่าตอนออกตัว
ราคาสูงกว่ารุ่น 1.8:

Honda Civic FC 1.8 EL i-VTEC มือสอง

หัวใจสำคัญ: เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร (R18A) 141 แรงม้า แรงบิด 174 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT
จุดเด่น:
สมรรถนะทนทาน: กวาดรอบสนุก ขับได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า: เทียบกับเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
ออปชันที่มากกว่ารุ่น 1.8 E: Honda LaneWatch, Rain Sensor, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ
รองรับ E85: เพิ่มทางเลือกการใช้น้ำมัน
ราคาเข้าถึงง่าย: ถูกกว่ารุ่น 1.5 เทอร์โบ
ข้อควรพิจารณา:
ปรับแต่งยากกว่า: หากต้องการแต่งเพิ่ม อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเครื่องเทอร์โบ
ประหยัดน้ำมันน้อยกว่า: เทียบกับเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
ล้ออัลลอย 16 นิ้ว: เล็กกว่ารุ่น 1.5 เทอร์โบ
ราคาสูงกว่ารุ่น 1.8 E เล็กน้อย:

Honda Civic FC 1.8 E i-VTEC มือสอง

หัวใจสำคัญ: เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร (R18A) 141 แรงม้า แรงบิด 174 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT
จุดเด่น:
สมรรถนะทนทาน: เครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้ ขับขี่สบาย
ค่าบำรุงรักษาต่ำ: ซ่อมง่าย
ระบบอำนวยความสะดวก: Rain Sensor, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ
รองรับ E85:
ราคาเข้าถึงง่ายที่สุด: ในบรรดา Civic FC มือสอง
ข้อควรพิจารณา:
ปรับแต่งยาก: คล้ายกับรุ่น 1.8 EL
ประหยัดน้ำมันน้อยกว่า: เทียบกับเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
ล้ออัลลอย 16 นิ้ว:
ออปชันและระบบความปลอดภัยน้อยกว่า: รุ่นอื่น ๆ

สรุปสำหรับผู้ซื้อรถมือสอง:

Honda Civic FC มือสอง ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในปี 2025 หากคุณกำลังมองหารถยนต์ซีดานที่มีดีไซน์โดดเด่น สมรรถนะที่น่าประทับใจ และความคุ้มค่าในระยะยาว การพิจารณาจากรุ่นย่อย ข้อดี-ข้อเสีย และสภาพของรถแต่ละคัน จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

หากคุณกำลังมองหา Honda Civic FC 1.5 Turbo RS มือสอง หรือ Honda Civic FC 1.5 Turbo มือสอง พร้อมตัวเลือก ฟรีดาวน์ หรือต้องการเปรียบเทียบราคาและดูรถจริง สามารถตรวจสอบได้ที่แพลตฟอร์มรถยนต์มือสองชั้นนำ เพื่อค้นหารถที่ตรงใจคุณมากที่สุด.

Previous Post

N0201057 อย าล มกล บบ านก อนท เวลาของพ อแม จะหมดลง part2

Next Post

N0201071 ณพ อแห งชาต สอนล กด วยความเข าใจ part2

Next Post
N0201071 ณพ อแห งชาต สอนล กด วยความเข าใจ part2

N0201071 ณพ อแห งชาต สอนล กด วยความเข าใจ part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0101001 ณหมอแอบแซบก บพยาบาล งๆท เขาก แฟนเป นพยาบาลเหม อนก part2
  • N0101017 แม านก บค ณนายม แฟนเป นคนเด ยวก แบบน จะทำไงต part2
  • N0101007 ให พน กงานใส แพมเพ สทำงาน และห ามใครไปเข าห องน part2
  • N0101015 กโทษหญ งหน ดวงซวยด นไปฉ หล งรถตำรวจ แต เธอขอไปเจอคนๆน part2
  • N0101006 ชายคนน เส ยความทรงจำ จนเขาไม าสองคนน ใครค อแฟนของเขา part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.