หัวข้อ: BestDrive 2015: สุดยอดรถแห่งปี กับการตัดสินที่เข้มข้นที่สุดจากทีมงาน Headlightmag
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มาตลอดทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์อย่างใกล้ชิด การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ถูกผลักดัน และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน ในปี 2015 ที่ผ่านมา ทีมงาน Headlightmag ได้ทำการทดสอบรถยนต์หลากหลายรุ่น และครั้งนี้คือบทสรุปครั้งสำคัญ BestDrive 2015 การเฟ้นหาสุดยอดรถยนต์ที่สร้างความประทับใจและความรู้สึกที่ดีที่สุดให้กับพวกเรา คณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายมุมมอง
กระบวนการตัดสินที่เข้มข้นและเป็นระบบ: มากกว่าแค่ความชอบส่วนตัว
หัวใจสำคัญของ BestDrive ไม่ใช่เพียงแค่เสียงของ J!MMY เจ้าของเว็บไซต์ หรือความเห็นส่วนตัวของผม แต่คือผลลัพธ์จากการกลั่นกรองความคิดเห็นของกรรมการทุกคน ซึ่งแต่ละคนมีน้ำหนักคะแนนเท่าเทียมกัน เราเชื่อมั่นในความหลากหลายของคณะกรรมการ ตั้งแต่ผู้ที่หลงใหลในดีไซน์ การออกแบบ ไปจนถึงผู้ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะการขับขี่และความแรง กรรมการบางท่านมองหาความคุ้มค่าและออพชั่นจัดเต็ม ขณะที่บางท่านให้ความสำคัญกับ “ความสนุก” ในการขับขี่เป็นหลัก
ผมเองมีจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่พยายามบีบคั้นให้กรรมการทุกคนคิดเหมือนกัน แต่ต้องการให้แต่ละท่านใช้ความเชี่ยวชาญและมุมมองเฉพาะตัว แปลงออกมาเป็นการให้คะแนนที่เป็นระบบ พร้อมเหตุผลสนับสนุน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สะท้อนความเป็นจริงของรถยนต์แต่ละรุ่นได้อย่างรอบด้าน
ความท้าทายและจุดเปลี่ยน: ก้าวข้ามการประเมินภายในสู่มาตรฐานที่สูงขึ้น
การปรับปรุงกระบวนการ BestDrive ในแต่ละปี คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญเสมอ ในปีนี้ เราได้ตัดสินใจปรับปรุงหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อยกระดับการประเมินให้ดียิ่งขึ้น เราไม่ได้มุ่งหวังที่จะก้าวข้ามขอบเขตจากการจัดอันดับภายในเว็บไซต์ไปสู่ระดับประเทศ หรือเปลี่ยน BestDrive ของ Headlightmag ให้เป็น BestDrive ของประเทศไทย เพราะการประเมินในระดับชาติ จำเป็นต้องอาศัยทรัพยากร ข้อมูล และแนวคิดที่พร้อมสู่ความเป็นสากลอย่างแท้จริง เราพอใจที่จะให้ BestDrive สะท้อนเสียงจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมงาน Headlightmag ต่อไป เพราะสิ่งนี้ทำให้เราสามารถนำ “ความรู้สึกส่วนตัว” มาเป็นหนึ่งในปัจจัยการให้คะแนนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลง: เกณฑ์การคัดเลือกรถยนต์และการให้คะแนนที่ละเอียดขึ้น
การคัดเลือกรถยนต์ที่เข้าร่วมการประเมิน คือจุดที่เราได้ทดลองปรับปรุง ในอดีต เรากำหนดว่าเฉพาะรถที่ผ่านการทดสอบอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองโดย J!MMY เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าสู่การให้คะแนน แต่ในปีนี้ เราได้เปิดกว้างขึ้นสำหรับรถบางรุ่น เช่น Lexus ES300h และ Subaru XV ซึ่งมีเพียงบทความ First Impression แต่หากบริษัทรถยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลไกสำคัญ และเรามีข้อมูลการทดสอบจากรุ่นก่อนหน้ามาอ้างอิงได้ เราก็จะอนุญาตให้เข้าร่วมการประกวดได้
จุดประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ใช่เพื่อรับสินบนหรืออามิสสินจ้างจากบริษัทรถแต่อย่างใด แต่เพื่อเปรียบเทียบว่าเมื่อรถมีการอัปเดตและราคาเปลี่ยนแปลงไป จะยังคงสามารถรักษา “คะแนน” ของตนเองเมื่อเทียบกับคู่แข่งได้หรือไม่
วิธีการให้คะแนน: 14 คุณสมบัติ สู่ 140 คะแนนเต็ม
เราได้เปลี่ยนจากการให้คะแนน 10 คุณสมบัติ บวกคะแนนความชอบส่วนตัว 1 ข้อ เป็นการประเมิน 13 คุณสมบัติหลัก บวกคะแนนความชอบส่วนตัวอีก 1 ข้อ รวมเป็น 14 หัวข้อ แต่ละหัวข้อให้คะแนนตั้งแต่ 1-10 คะแนน
คะแนนต่ำกว่า 5: คุณสมบัติของรถคันนั้นถือว่า “แย่” เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน หรือราคาใกล้เคียงกัน
คะแนน 6-7: คุณสมบัติอยู่ในระดับ “ธรรมดา” ไม่โดดเด่น
คะแนน 8-9: คุณสมบัติ “ดี” แต่ยังไม่ถึงขั้นสุดยอด
คะแนน 10: “ดีที่สุด” ในบรรดารถระดับเดียวกัน ที่นึกไม่ออกว่ามีใครทำได้ดีกว่านี้
คะแนนเฉลี่ยจากกรรมการทุกท่านจะถูกนำมารวมเป็นคะแนน Final ของแต่ละหัวข้อ จากนั้นนำคะแนน Final ทั้งหมดมารวมกัน รถคันที่ได้คะแนนรวมสูงสุดคือผู้ชนะ Best Drive ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยถ่วงดุลเสียงของกรรมการได้อย่างดี
คุณสมบัติ 14 ข้อที่ใช้ในการพิจารณา:
การออกแบบภายนอก: สุนทรียภาพและความน่าดึงดูดใจของรูปทรง
การออกแบบภายใน: การจัดวาง ความลงตัว และความสวยงามของห้องโดยสาร
ความสบายของผู้ขับ/ผู้โดยสารตอนหน้า: สัมผัสและความสบายในการเดินทาง
ความสบายของผู้โดยสารตอนหลัง: พื้นที่ ความสบาย และการปรับเอนเบาะ
การเก็บเสียงรบกวน: ความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร
อุปกรณ์ที่ให้มาและคุณภาพที่สัมผัสได้: วัสดุ การประกอบ และฟังก์ชันการใช้งาน (ไม่รวมอุปกรณ์ความปลอดภัย)
ระบบสนับสนุนความปลอดภัย: ถุงลม, ABS, TCS, VSC และระบบช่วยเหลืออื่นๆ
อัตราเร่งและความคล่องตัว: การตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ และการขับขี่
ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: ประสิทธิภาพในการใช้น้ำมัน
ความนุ่มนวลของช่วงล่าง: การซับแรงกระแทกและความสบายในการขับขี่
ความมั่นใจของช่วงล่างและพวงมาลัย: การตอบสนองและการควบคุมรถ
การทำงานของเบรก: ประสิทธิภาพและความมั่นใจในการหยุดรถ
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบราคา: อัตราส่วนระหว่างราคากับสิ่งที่ได้รับ
คะแนนความชอบของกรรมการ: ความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่มีเหตุผลประกอบ
เรา ไม่ นำปัจจัยเช่น ภาพลักษณ์ทางสังคม, สัญชาติรถ, ศูนย์บริการ, ความทนทานระยะยาว, การตกแต่ง, หรือราคาขายต่อ มาเป็นส่วนหนึ่งของการให้คะแนน เพราะเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงได้และขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนบุคคล
Headlightmag’s Reader’s Choice: เสียงจากผู้ใช้จริง
ธรรมเนียมปฏิบัติของเราคือการเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้ร่วมโหวตใน Reader’s Choice Poll เพื่อเฟ้นหารถที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานจริง เราได้ปิดโพลล์ก่อนประกาศผล Best Drive เพื่อให้การตัดสินมีความโปร่งใสมากที่สุด
ผู้ชนะ Reader’s Choice Poll ประจำปี 2015 คือ Ford Everest 3.2 Titanium Plus!
Best Drive 2015: บทสรุปการตัดสิน
อันดับที่ 32: Ford EcoSport 1.5L Titanium
แม้จะรั้งท้าย แต่ EcoSport ก็ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจ เช่น อัตราสิ้นเปลืองที่ดี ช่วงล่างที่ให้ความมั่นใจในความเร็วสูง และความอเนกประสงค์ของพื้นที่ภายใน อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติอื่นๆ ค่อนข้างธรรมดา หรือด้อยกว่าค่าเฉลี่ย เบาะนั่งยังไม่สบายนัก คุณภาพวัสดุและการประกอบต้องปรับปรุง พวงมาลัยไวเกินไป และเกียร์ยังทำงานไม่ดีเท่าที่ควร เป็นตัวเลือกที่พอใช้งานได้สำหรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการจ่ายในราคาสูงมากนัก
อันดับที่ 31: Toyota Hilux Revo 2.8G 4×4
Revo มีจุดเด่นที่การเก็บเสียงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การปรับปรุงน้ำหนักและความหน่วงของพวงมาลัย และการตกแต่งภายในที่ก้าวหน้าขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วงล่างหลังที่กระด้างเกินไปเมื่อเทียบกับราคา และความรู้สึกไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรุ่น ทำให้คะแนนโดยรวมไม่สูงนัก
อันดับที่ 30: Nissan Navara NP300 Double Cab 2.5 Calibre V 7AT
Navara NP300 Calibre V ให้ความรู้สึกพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ แต่ความสบายของเบาะนั่งและช่วงล่างที่แข็งกระด้างยังเป็นจุดด้อยที่ต้องพิจารณา แม้ว่าเครื่องยนต์จะมีอัตราเร่งที่ดีและอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจ แต่ก็ยังขาดจุดเด่นอื่นๆ ที่จะสร้างความประทับใจเป็นพิเศษ
อันดับที่ 29: Toyota Fortuner 2.4V 2WD
Fortuner ได้คะแนนดีในด้านการออกแบบ การเก็บเสียง และความปลอดภัย (ถุงลม 7 ใบ) รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ประหยัด แต่มีอาการดีดกระเด้งของช่วงล่างหลังที่ชัดเจนเมื่อขับด้วยความเร็วสูง และอัตราเร่งที่ยังไม่น่าพอใจนักเมื่อต้องการกำลังเต็มที่ ประกอบกับราคาที่ใกล้เคียงรุ่นท็อปของคู่แข่ง ทำให้ความน่าดึงดูดลดลง
อันดับที่ 28: BMW 116i M-Sport
จุดที่ทำให้ 116i ตกอันดับคือการออกแบบภายนอกที่ดูไม่น่าประทับใจนัก รวมถึงความสบายของเบาะหลังที่จำกัด และออพชั่นภายในที่ไม่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม ในด้านการขับขี่ มันมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน คมกริบ และมั่นใจได้ เป็นรถที่เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการขับขี่เป็นหลัก
อันดับที่ 27: Suzuki Ciaz GA 5 M/T
Ciaz GA คือรถอีโคคาร์ที่เน้นความประหยัดและความคุ้มค่า แม้จะขาดออพชั่นไปมากเมื่อเทียบกับรุ่นท็อป แต่มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง การทรงตัวที่มั่นใจได้ และการเก็บเสียงลมที่น่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม พวงมาลัยที่ขาดความรู้สึก และการเซ็ตช่วงล่างที่ยังไม่โดดเด่น ทำให้คะแนนโดยรวมไม่สูงนัก
อันดับที่ 26: Isuzu D-Max 1.9 DDi Cab4 6M/T
D-Max 1.9 DDi สร้างความประทับใจด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ยอดเยี่ยม และอัตราเร่งแซงที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ห้องโดยสารมีความสบายมากกว่าคู่แข่งบางรุ่น และช่วงล่างที่ให้ความคล่องตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเก็บเสียงลมยังเป็นรองคู่แข่ง และบุคลิกการขับขี่ไม่ได้เน้นความสนุกสนานเหมือนรถกระบะบางรุ่น
อันดับที่ 25: Subaru WRX 2.0 CVT Sports Lineartronic
WRX CVT มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม อัตราเร่งที่ดี เกียร์ CVT ที่ปรับจูนมาได้ฉลาด พวงมาลัยที่คม และช่วงล่างที่เกาะถนน แต่จุดที่ผิดหวังคือระบบเบรกที่มีน้ำหนักแป้นหนัก ทำให้ควบคุมแรงเบรกได้ยาก และการเก็บเสียงลมกับเสียงยางยังสู้รถยุโรปไม่ได้
อันดับที่ 24: Subaru WRX STi
STi ให้ความมันส์คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา อัตราเร่งและความเร็วอยู่ในระดับต้นๆ ของรถทดสอบ พวงมาลัยไว เหมาะกับการขับแบบคอมเพททีทิฟ แต่กรรมการหลายท่านรู้สึกว่าไวเกินไปบนถนนทั่วไป เบรกดีกว่า WRX ธรรมดา แต่ยังไม่มั่นใจเท่าที่ควร ช่วงล่างแข็งตามสไตล์รถ
อันดับที่ 23: Subaru WRX 6 M/T
WRX Manual ขับสนุก ให้ความมันส์ใกล้เคียง STi แต่มีข้อดีคือพวงมาลัยไม่ไวจัดจนคุมลำบากบนถนนที่ไม่เรียบ และยังประหยัดน้ำมันกว่า STi มาก ด้วยราคาที่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีคะแนนรวมชนะรุ่นพี่ไปอย่างเฉียดฉิว
อันดับที่ 22: Honda CR-V 2.4EL CVT
CR-V 2.4EL CVT มีอัตราเร่งแซงที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนมาใช้เกียร์ CVT และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยครบครัน แต่ยังคงมีจุดอ่อนที่เสถียรภาพของช่วงล่างเมื่อใช้ความเร็วสูง หรือการหักหลบสิ่งกีดขวาง และความนุ่มนวลของช่วงล่างที่ยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
อันดับที่ 21: Subaru Levorg GT-S
Levorg เป็นรถสเตชั่นแวก้อนที่ผสมผสานความเป็น WRX เข้ากับความสะดวกสบายของรถครอบครัวได้อย่างลงตัว ช่วงล่างกระชับ เกาะถนนดี และสามารถบรรทุกสัมภาระได้มาก อย่างไรก็ตาม อัตราเร่งที่ยังไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับเทอร์โบ และราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ความน่าดึงดูดลดลง
อันดับที่ 20: Subaru Outback 2.5i
Outback โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่ดูดีขึ้น ภายในใช้วัสดุคุณภาพดี และมีช่วงล่างที่นั่งสบายอย่างเหลือเชื่อ ขับขี่ได้อย่างมั่นคงทั้งในเมืองและทางไกล อัตราสิ้นเปลืองไม่สูงนักเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ แต่ดีไซน์ภายในยังดูจืดชืด และมีบางออพชั่นที่น่าจะดีกว่านี้ในราคาดังกล่าว
อันดับที่ 19: Subaru XV 2.0i Premium
XV ยังคงโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการเกาะถนนที่เหนือชั้นและช่วงล่างที่นุ่มหนึบ แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดปี 2015 คุณสมบัติอื่นๆ ไม่ได้โดดเด่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะเมื่อมองที่ราคาที่สูงขึ้น ทำให้คะแนนโดยรวมหล่นลงมา
อันดับที่ 18: Suzuki Ciaz GLS LTD (RS)
Ciaz GLS LTD รุ่นท็อป มีการออกแบบที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน ล้อ 16 นิ้วช่วยให้การขับขี่กระชับขึ้น ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และมีออพชั่นที่ครบครัน การเก็บเสียงทำได้ดี แต่พวงมาลัยยังขาดความแม่นยำ และเครื่องยนต์/เกียร์เน้นประหยัด ทำให้ต้องลากรอบหนักๆ เพื่อเรียกกำลัง
อันดับที่ 17: Toyota Alphard 3.5 V6
Alphard 3.5 V6 คือสุดยอดแห่งความสบายและความหรูหราในห้องโดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสองที่มอบประสบการณ์ระดับ First Class การออกแบบภายนอกอาจไม่โดดเด่นนัก แต่ภายในคือที่สุด เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรให้กำลังที่เพียงพอต่อการขับขี่ แต่ราคาที่สูงมากทำให้ความคุ้มค่าลดลง
อันดับที่ 16: Mazda 2 Sedan 1.3 High Plus
Mazda 2 1.3 Sedan สร้างสถิติอัตราสิ้นเปลืองที่น่าทึ่ง ประหยัดน้ำมันที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา การออกแบบและอุปกรณ์ภายในดูทันสมัย ใช้งานง่าย ช่วงล่างและเบรกไว้ใจได้ แต่จุดอ่อนสำคัญคือพื้นที่ภายในที่แคบมาก โดยเฉพาะเบาะหลัง
อันดับที่ 15: Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GLS LTD (ขับหลังตัวถูกสุด)
Pajero Sport รุ่นขับหลังราคาประหยัดมอบความคุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-time รุ่นใหม่ เครื่องยนต์ MIVEC 181 แรงม้า เกียร์ AISIN 8 จังหวะ และออพชั่นความปลอดภัยที่ครบครัน แต่การออกแบบด้านท้ายที่ดูแปลกตา วัสดุและงานประกอบภายในที่ยังด้อยกว่าคู่แข่ง และประสิทธิภาพการทรงตัวที่ความเร็วสูงลดลง ทำให้คะแนนโดยรวมไม่สูงนัก
อันดับที่ 14: Mazda 2 Hatchback 1.5D High Plus
Mazda 2 Hatchback 1.5D สร้างความประทับใจด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ยอดเยี่ยม และอัตราเร่งที่ดีเกินคาด ห้องโดยสารด้านหลังมีพื้นที่เหนือศีรษะมากกว่ารุ่นซีดานเล็กน้อย แต่ยังคงมีข้อจำกัดเรื่องความแคบเช่นเดิม สมรรถนะการขับขี่โดยรวมทำได้ดี แต่การออกตัวยังมีอาการหน่วงอยู่บ้าง
อันดับที่ 13 (เสมอกัน 2 คัน): Nissan X-Trail 2.5V
X-Trail 2.5V มีจุดเด่นที่การเซ็ตช่วงล่างที่เหมาะสมกับการเดินทางไกล เบาะหลังสบายที่สุดในคลาส และการเก็บเสียงลมที่ดีเยี่ยม แต่มีอัตราสิ้นเปลืองที่ค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่ง และมีถุงลมนิรภัยเพียง 4 ใบเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน
อันดับที่ 13 (เสมอกัน 2 คัน): Volvo V40 T-5 Polestar R-Limited
V40 T-5 Polestar R-Limited มอบสมรรถนะที่แรงขึ้นจาก Polestar และระบบเกียร์ 8 จังหวะ ช่วงล่างกระชับมั่นคง เบรกไว้ใจได้ และมีออพชั่นความปลอดภัยมากมาย แต่พื้นที่เบาะหลังยังจำกัด และการตอบสนองของพวงมาลัยและคันเร่งสู้รถขับหลังไม่ได้
อันดับที่ 12: Ford Everest 2.2 Titanium
Everest 2.2 Titanium สร้างความประหลาดใจด้วยความคล่องตัวที่สัมผัสได้ แม้ตัวถังจะหนัก การออกแบบภายนอกและภายในดูดี แต่การตกแต่งภายในถูกลดทอนลงจากรุ่น 3.2 ช่วงล่างค่อนข้างแข็งกระด้างเมื่อเทียบกับรุ่น 3.2 และคู่แข่ง แต่ให้ความหนักแน่นมั่นใจในความเร็วสูง
อันดับที่ 11: Toyota Camry 2.0 Extremo
Camry 2.0 Extremo โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ 6AR-FSE ใหม่ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่ให้ทั้งอัตราเร่งและความประหยัดที่ดี อุปกรณ์ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ช่วงล่างและการขับขี่ในภาพรวมยังไม่หนึบมั่นใจเท่าคู่แข่ง และการออกแบบชุดแต่งภายนอกดูรกเกินไป
Top 10: สุดยอดรถยนต์แห่งปี 2015
อันดับที่ 10: Mercedes-AMG GT-S
ซูเปอร์คาร์ 14.9 ล้านบาท ที่มอบสมรรถนะความเร็วทางตรงที่น่าทึ่ง เป็นรถที่สอนให้เรารู้จักความแตกต่างระหว่างซูเปอร์คาร์ที่แท้จริงกับรถสปอร์ตคอมแพค การตอบสนองของรถสามารถปรับได้หลายโหมด ภายในตกแต่งด้วยวัสดุชั้นดี ให้ความรู้สึกคลาสสิคและทันสมัย แต่พวงมาลัยที่ไวเกินไปอาจเป็นข้อกังวลบนถนนทั่วไป
อันดับที่ 9: Toyota Vellfire 2.5 CVT
Vellfire มีการออกแบบภายนอกที่ทันสมัยกว่า Alphard และมอบความสบายใกล้เคียงกันในเบาะแถวสอง เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เกียร์ CVT เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ไม่แรงเท่า V6 3.5 ด้วยราคาที่ถูกกว่า Alphard อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ Vellfire มอบความคุ้มค่าที่น่าประทับใจ
อันดับที่ 8: Honda HR-V 1.8EL
HR-V คือหนึ่งในรถที่สร้างความประทับใจสูงสุดของปีนี้ มีความไวที่สุด ประหยัดที่สุด เกียร์ CVT ที่ตอบสนองได้ดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยครบครัน มีระบบ Auto Brake Hold ที่ช่วยให้ขับในเมืองได้สบาย การเก็บเสียงทำได้ดี และวัสดุภายในสร้างความรู้สึกพรีเมียม แต่ช่วงล่างหลังแบบคานบิด ยังคงมีอาการตึงตังเล็กน้อยที่ความเร็วต่ำ
อันดับที่ 7: Nissan X-Trail 2.0V
X-Trail 2.0V มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และเกียร์ CVT ที่พัฒนาแล้ว การเก็บเสียงรบกวนจากลมดีเยี่ยม เบาะนั่งสบาย และมีความหนักแน่นมั่นคงปลอดภัยในการเดินทางไกล แต่มีถุงลมนิรภัยเพียง 2 ใบ ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน
อันดับที่ 6: Mitsubishi Pajero Sport 2.4GT 4WD
Pajero Sport 2.4GT 4WD มอบความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ MIVEC 181 แรงม้า เกียร์ 8 จังหวะ และออพชั่นความปลอดภัยที่จัดเต็ม แต่ประสิทธิภาพการทรงตัวที่ความเร็วสูงลดลงจากรุ่นก่อน และการออกแบบ/วัสดุภายในยังไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่ง
อันดับที่ 5: Toyota Camry 2.0G
Camry 2.0G สร้างความประหลาดใจด้วยการเข้ามาติดอันดับ Top 5 แม้จะมีออพชั่นน้อยกว่ารุ่นพี่ แต่มีข้อเสียเพียงเรื่องออพชั่นที่ด้อยกว่า และความมั่นใจในการควบคุมที่น้อยกว่ารุ่น Extremo เล็กน้อย นอกนั้น Camry ทำคะแนนได้ดีเยี่ยมในทุกด้าน ทั้งความสบายห้องโดยสาร การเก็บเสียง และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อันดับที่ 4: Lexus ES300h Premium
ES300h ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับพรีเมียมซีดานที่เงียบ นุ่มสบาย และขับขี่ได้ประหยัด อย่างไรก็ตาม การปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ราคาเพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงภายในไม่มากนัก ทำให้ความน่าประทับใจโดยรวมลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เปิดตัวใหม่
อันดับที่ 3 (เสมอกัน 2 คัน): Mazda 2 Sedan 1.5D High Plus
Mazda 2 Sedan 1.5D โดดเด่นด้วยความประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้น และการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในคลาส แม้จะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ B-Segment ทั่วไป แต่ก็ชดเชยด้วยคุณภาพวัสดุและการประกอบที่ยอดเยี่ยม และดีไซน์ภายในที่ล้ำสมัย
อันดับที่ 3 (เสมอกัน 2 คัน): Nissan Sylphy DIG-Turbo
Sylphy DIG-Turbo คือ “Sleeper” ตัวจริง ให้สมรรถนะที่น่าประทับใจเกินคาด ด้วยเครื่องยนต์ 190 แรงม้า และอัตราเร่งที่รวดเร็ว ออพชั่นเยอะ รวมถึงซันรูฟ ในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ช่วงล่างและการตอบสนองของพวงมาลัยยังคงเป็นรถบ้าน และอัตราสิ้นเปลืองค่อนข้างสูง
อันดับที่ 2: Ford Everest 3.2 Titanium Plus
Everest 3.2 Titanium Plus สร้างความประทับใจในภาพรวมได้ดีกว่าคู่แข่ง ด้วยคุณภาพวัสดุและการประกอบที่ยกระดับไปสู่ SUV ยุโรป การเก็บเสียงที่ดีที่สุดในคลาส พวงมาลัยที่หน่วงมือดีในความเร็วสูง และช่วงล่างที่แข็งหนึบ มั่นคง ปลอดภัย ถึงแม้จะมีอัตราเร่งที่ไม่แรงมากนัก และกินน้ำมันค่อนข้างดุ แต่ก็เป็นรถที่ขับสนุกและให้ความรู้สึกที่ดีเยี่ยม
และผู้ชนะ Best Drive 2015 คือ…
อันดับที่ 1: Mazda 2 Hatchback 1.5D High Plus
Mazda 2 Hatchback 1.5D คือรถที่สามารถคว้าตำแหน่ง Best Drive ไปครองได้อีกครั้ง โดย Mazda ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ารถเล็กไม่จำเป็นต้องป๋องแป๋ง หรือมีราคาถูกจนลดต้นทุนในทุกด้าน การออกแบบภายนอกและภายในทันสมัย สมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม แม้การออกตัวจะมีอาการหน่วงเล็กน้อย แต่ก็ชดเชยด้วยเกียร์ 6 จังหวะที่ควบคุมง่าย ความประหยัดน้ำมันคือจุดเด่นที่ไม่มีใครเทียบได้ ช่วงล่างนุ่มนวลแต่ก็ยังให้ความมั่นใจในการเข้าโค้ง การเบรกทำได้ดี และคุณภาพวัสดุและการเก็บงานภายในทำได้ดีกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องความแคบของพื้นที่ภายใน แต่ Mazda 2 Hatchback 1.5D คือรถที่สะท้อนแนวคิด “บ้า” ที่สร้างสรรค์ ทำให้รถเล็กไม่จำเป็นต้องธรรมดา และยังสามารถโดดเด่นได้ด้วยตัวเอง
บทสรุปและก้าวต่อไป: มองไปสู่อนาคตของวงการยานยนต์
การตัดสิน BestDrive 2015 นี้ เป็นเพียงการสะท้อนภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่เราได้เห็นคือการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยี คุณภาพ และความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้น เราหวังว่าบทสรุปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านที่กำลังมองหารถยนต์ที่ใช่สำหรับตัวเอง หากท่านมีคำถามเพิ่มเติม หรือต้องการแบ่งปันประสบการณ์ สามารถติดต่อเราเข้ามาได้เสมอ ทีมงาน Headlightmag ยินดีรับฟังและพร้อมที่จะก้าวต่อไป เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ดีที่สุดให้กับทุกท่าน
หากท่านกำลังมองหารถยนต์ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของท่าน เราขอเชิญชวนให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความรีวิวของเรา หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อรับคำแนะนำที่ตรงจุดที่สุด.

