เปิดมุมมองยานยนต์ 2018: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต้องจับตา
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ แต่ปี 2018 นี้ ถือเป็นอีกปีที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ การปรับตัวของผู้ผลิต และการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาดรถยนต์ไทย บทความนี้ จะพาคุณไปเจาะลึกภาพรวมการเคลื่อนไหวของผู้ผลิตรถยนต์รายสำคัญ พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางที่น่าสนใจ โดยเน้นที่ “รถยนต์ใหม่ 2018” และ “เปิดตัวรถยนต์ใหม่” เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกการเปลี่ยนแปลงสำคัญ
Kia: การกลับมาอย่างแข็งแกร่งของแบรนด์แดนกิมจิ
หลังจากการปรับโครงสร้างและการบริหารจัดการในเครือ Hyundai-Kia ที่ทำให้บริษัทแม่ในเกาหลีใต้มีเวลาให้กับแบรนด์ Kia มากขึ้น ประกอบกับการหมดอายุสิทธิ์ในการทำตลาดรถยนต์ Audi ของ Yontrakit Kia Motors ทำให้ปี 2018 นี้ เป็นปีที่ Kia ในประเทศไทยจะกลับมาทวงความสนใจอย่างจริงจัง
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา Kia ยังคงยืนหยัดด้วย “New Grand Carnival” MPV 11 ที่นั่ง ที่ได้รับการยอมรับในด้านสมรรถนะการขับขี่ที่ใกล้เคียงรถเก๋งมากที่สุดในกลุ่มรถตู้ แม้ว่ายอดขายอาจไม่หวือหวา แต่ก็เป็นที่ต้องการในกลุ่มลูกค้าเฉพาะ การเปิดตัว “Kia Soul EV” ในงาน BIG Motor Sales 2017 เป็นการส่งสัญญาณถึงการก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยราคาเปิดตัวที่ 2,279,000 บาท อาจยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงของผู้บริโภคในวงกว้าง
แต่สิ่งที่สร้างเสียงฮือฮาอย่างแท้จริงคือการนำเข้า “Kia Stinger” สปอร์ตซีดาน 5 ประตู ที่มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวและสมรรถนะที่น่าจับตา แม้จะมีราคา 2,990,000 บาท ซึ่งสูงกว่าที่ควรจะเป็นเนื่องจากภาษีนำเข้าและสรรพสามิต แต่ก็เป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ Kia ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่าแค่รถตู้
อีกสองรุ่นที่น่าจับตามองคือ “Kia Stonic” ซับคอมแพ็กต์ครอสโอเวอร์ SUV ที่เปิดตัวในต่างประเทศเมื่อกลางปี 2017 ด้วยเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งเบนซิน 1.0 ลิตร เทอร์โบ 120 แรงม้า, เบนซิน 1.25 ลิตร 84 แรงม้า, เบนซิน 1.4 ลิตร 99 แรงม้า และดีเซล 1.6 ลิตร 110 แรงม้า ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด SUV ขนาดเล็กที่กำลังเติบโต
นอกจากนี้ “Kia Sportage” คอมแพ็กต์ SUV ที่หายหน้าหายตาไปนานจากตลาดไทย เพราะปัญหาด้านราคาที่สูงเกินไปจากภาษีนำเข้า ก็มีแววจะกลับมาอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 185 แรงม้า ปัญหาหลักที่ยังคงต้องเผชิญคือ การหาจุดที่ลงตัวด้านราคา โดยเฉพาะเมื่อต้องแข่งขันกับรถที่ผลิตในประเทศ
Land Rover: เทคโนโลยี Plug-in Hybrid และการกลับมาของ Defender
ภายใต้การบริหารของ Tata Motors และการทำตลาดโดย Inchcape ประเทศไทย Land Rover ยังคงเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2017 ที่ผ่านมา ได้เห็นการเปิดตัว Discovery ใหม่ และ Range Rover Velar ที่ตามหลังตลาดโลกเพียง 6 เดือน สะท้อนถึงความรวดเร็วในการนำผลิตภัณฑ์ใหม่มาสู่ตลาดไทย
ไฮไลท์สำคัญในปี 2018 คือการมาถึงของ “Range Rover & Range Rover Sport Plug-in Hybrid” ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ด้วยขุมพลัง Ingenium เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 404 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที และสามารถเดินทางด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 51 กิโลเมตร โดยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม หรือช่วงครึ่งหลังของปี 2018
ส่วน “New Evoque” ที่จะเปิดตัวเต็มรูปแบบในปี 2019 นั้น จะยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ที่โดดเด่น แต่จะได้รับการปรับปรุงให้เฉียบคมและหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมรองรับขุมพลังทางเลือกทั้ง Hybrid และ Plug-in Hybrid ในอนาคต
และที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการพัฒนา “All New Defender” รถ Off-Road ในตำนานที่จะกลับมาในรอบ 70 ปี แม้รายละเอียดจะยังเป็นความลับ แต่คาดว่าจะคงไว้ซึ่งความทนทานและสมรรถนะการลุยในระดับสูงสุด พร้อมการออกแบบที่ทันสมัยขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยจะปรากฏสู่สายตาสาธารณชนในปี 2018
Lamborghini: การมาถึงของ SUV สมรรถนะสูง “Urus”
แม้จะเผชิญมรสุมจากคดีความที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภครายใหญ่ แต่ Lamborghini ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ล่าสุด “URUS” SUV สมรรถนะสูงที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน MLB Evo Platform ร่วมกับ Audi Q7, Bentley Bentayga และ Volkswagen Touareg ได้เปิดตัวไปทั่วโลกเมื่อปลายปี 2017
URUS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 Bi-Turbo 4.0 ลิตร 659 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม. ทำให้กลายเป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในโลก แทนที่ Bentley Bentayga โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายในไทยราว 25 ล้านบาท และพร้อมเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018
Mazda: การปรับปรุงและเตรียมพร้อมสำหรับรุ่นใหม่
หลังจากเปิดตัว “CX-5” ใหม่ ไปเมื่อปลายปี 2017 Mazda จะเน้นการปรับปรุงยอดขายของรถยนต์รุ่นปัจจุบันในปี 2018 ด้วยการปรับอุปกรณ์ใน “Mazda 2”, “Mazda 3”, “CX-3” และ “BT-50 PRO” โดยเฉพาะสีแดง Soul Red Metallic จะเปลี่ยนเป็น Soul Red Crystal เช่นเดียวกับ CX-5
นอกจากนี้ Mazda ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพบริการหลังการขาย และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ Diesel Skyactiv-D ใน Mazda 2
ปี 2019 จะเป็นปีที่น่าจับตาของ Mazda ด้วยการนำ “CX-8” SUV 7 ที่นั่ง เข้ามาทำตลาดในไทย โดยเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก CX-5 ด้วยการเพิ่มความยาวของตัวถัง พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร 190 แรงม้า
และไฮไลท์สำคัญอีกรุ่นคือ “Mazda 3 / Axela” รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ ที่จะมาพร้อมเทคโนโลยี SKYACTIV Generation 2 และเครื่องยนต์ใหม่ “SKYACTIV-X” (SPCCI) เบนซิน 2.0 ลิตร ที่มีเทคโนโลยีการจุดระเบิดแบบอัดอากาศแปรผันครั้งแรกของโลก โดยคาดว่าจะเผยโฉมในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม 2019 ก่อนจะมาถึงไทยปลายปีเดียวกัน
สำหรับ “BT-50 PRO” รุ่นต่อไป จะเป็นการจับมือกับ Isuzu แทน Ford โดยจะใช้แพลตฟอร์มและเครื่องยนต์ร่วมกับ D-Max รุ่นต่อไป แต่ Mazda จะออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกเองทั้งหมด โดยคาดว่าจะพร้อมจำหน่ายช่วงปลายปี 2020 ถึง 2021
Maserati: การกลับมาของแบรนด์ตราตรีศูล
ภายใต้การบริหารของกลุ่ม Millennium (MGC Asia) Maserati ได้กลับมามีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกครั้ง การ Re-Launch แบรนด์ในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2017 พร้อมกับการนำเข้า Levante Diesel Turbo และการเสริมทัพด้วย Levante เครื่องยนต์เบนซิน ก็เป็นการส่งสัญญาณที่ดี
ในปี 2018 MGC-Asia เตรียมนำเข้า “Ghibli Grand Lusso” รุ่นปรับโฉม Minorchange ซึ่งเป็นรุ่นซีดานเล็กสุด แต่มีเอกลักษณ์และขนาดตัวถังที่พร้อมแข่งขันกับ Mercedes-Benz E-Class, BMW 5-Series และ Audi A6 โดยจะมาพร้อมเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ทั้งเบนซิน (350 แรงม้า และ 410 แรงม้า) และดีเซล (250 แรงม้า และ 275 แรงม้า) พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เต็มพิกัด คาดว่าจะได้เห็นในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018
ส่วน “Maserati Alfieri” สปอร์ตคูเป้ที่เคยเปิดตัวในรูปแบบรถต้นแบบเมื่อปี 2014 ยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อไป และคาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในปี 2018 โดยจะมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.7 ลิตร 460 แรงม้า หรือ V6 3.0 ลิตร และอาจมีรุ่นเปิดประทุนตามมาด้วย โดยคาดว่าจะมาถึงไทยในปี 2019
Mercedes-Benz: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์
ปี 2017 ถือเป็นปีที่ Mercedes-Benz (Thailand) มีการจัดงานเปิดตัวรถยนต์มากที่สุด โดยเฉพาะการตัดรุ่นเครื่องยนต์สันดาปปกติ ออกจาก C-Class และ E-Class ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย จนต้องทบทวนนโยบาย
ในปี 2018 ประเดิมด้วย “The New CLS” เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเป็นรถยนต์คูเป้ 4 ประตูรุ่นแรกที่ใช้ดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่ของ Vision EQA จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ CLS350d 4MATIC (286 แรงม้า) และ CLS400d 4MATIC (340 แรงม้า) รวมถึงรุ่น CLS450 4MATIC (EQ Boost Assist Hybrid) 372 แรงม้า คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018
“G-Class” พี่เบิ้มจอมลุย จะได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบหลายปี โดยยังคงรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ แต่จะปรับปรุงห้องโดยสารให้ทันสมัยขึ้น พร้อมหน้าจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว และระบบ COMAND เวอร์ชันล่าสุด คาดว่าจะเปิดตัวในไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2018
“C-Class Facelift” จะกลับมาพร้อมขุมพลังดีเซลอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาการขายที่ลดลงหลังจากการตัดรุ่นเบนซินออกไป และเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ที่ยังคงให้ความสำคัญกับแบรนด์ คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับการปรับโฉมในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม 2018
“S560e Plug-in Hybrid” รุ่นย่อยใหม่ของ S-Class จะเข้ามาเสริมทัพ โดยมาแทนที่ S500e เดิม ด้วยเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin Turbo 367 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า ให้กำลังรวม 489 แรงม้า คาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับ S500e เดิม
และที่น่าจับตาคือ “A-Class Generation ที่ 4” ที่จะมาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ผสมผสานระหว่าง A-Class รุ่นปัจจุบันและ Concept EQA พร้อมภายในห้องโดยสารที่ใช้หน้าจอสัมผัสขนาด 10.3 นิ้ว ต่อเนื่องเหมือนรุ่นใหญ่ คาดว่าจะมาในรูปแบบตัวถัง Sedan 4 ประตูในช่วงปลายปี 2018
MG: การลงทุนเพื่ออนาคตและการขยายไลน์อัพ
MG ยังคงเดินหน้าปรับปรุงและขยายไลน์อัพอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2017 เปิดตัว “MG ZS” พร้อมระบบ i-Smart ที่เป็นจุดขายสำคัญ แม้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร อาจไม่ตอบโจทย์ด้านสมรรถนะเท่าที่ควร แต่ยอดจองกว่า 3,000 คัน ก็แสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดี
การลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ในโรงงานแห่งใหม่ จะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ MG พวงมาลัยขวา สำหรับตลาด ASEAN และทั่วโลก รวมถึงรถยนต์ Smart Car, รถยนต์ไฟฟ้า EV และรถยนต์ Autonomous Drive
ปี 2018 จะเห็นการเปิดตัว “MG 3 Minorchange” ที่ปรับปรุงดีไซน์ภายนอกและแผงคอนโซลใหม่ พร้อมเปลี่ยนมาใช้เกียร์อัตโนมัติ Torque Converter แทน AMT คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม
“MG GV” (Maxus G10) รถตู้ 11 ที่นั่ง จะถูกนำเข้ามาทำตลาดเพื่อแข่งขันกับ Hyundai H-1 และ Kia Carnival แม้จะมีปัญหาด้านภาษีนำเข้าในตอนแรก แต่หากเคลียร์ปัญหาได้ ก็พร้อมลงสนามในปี 2018
และที่น่าสนใจคือการเตรียมเปิดตลาด “รถกระบะ Maxus T60” ในไทยเป็นครั้งแรก โดยจะผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ พร้อมระบบ i-Smart ขุมพลังดีเซล 2.8 ลิตร แต่การเปิดตัวอาจต้องรอจนถึงปี 2019 เพื่อพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร และเตรียมเครือข่ายผู้จำหน่ายให้พร้อม
“Roewe RX5” Compact SUV ที่เป็น Internet Car คันแรกของโลก อาจถูกนำมาพัฒนาเป็น MG ในไทย พร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและ Autonomous Drive โดยคาดว่าจะผลิตจำหน่ายประมาณปี 2020
Mitsubishi: การปรับตัวตามพันธมิตรใหม่และการเปิดตัวรุ่นสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงภายใน Mitsubishi Motors (Thailand) เกิดขึ้นอย่างมาก เพื่อรองรับการเข้ามาของ Renault-Nissan Alliance การปลดผู้บริหารและการปรับเปลี่ยนทีมงาน สะท้อนถึงการเดินหน้าสู่ทิศทางใหม่
“Mitsubishi Eclipse Cross” Crossover SUV ที่เปิดตัวในต่างประเทศ คาดว่าจะไม่เข้ามาทำตลาดในไทย เนื่องจากดีไซน์ที่อาจไม่เข้าตาตลาดไทยเท่าที่ควร
ไฮไลท์สำคัญคือ “Mitsubishi Xpander” Sub-Compact Minivan 7 ที่นั่ง สไตล์ Crossover ที่เปิดตัวในอินโดนีเซียเมื่อกลางปี 2017 แม้จะเผชิญปัญหาโรคเลื่อนในการเปิดตัวในไทย แต่คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 เพื่อแข่งขันกับ Toyota Rush และ Honda BR-V
“Triton” และ “Pajero Sport” จะมีการปรับโฉม Minorchange ในปี 2018 โดยคาดว่า Triton จะมีการปรับดีไซน์กระจังหน้า และ Pajero Sport จะเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหา Defect ต่างๆ
ปี 2019 จะเป็นคิวของ “Mirage” และ “Attrage” รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Model Change โดยอาจได้ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo ใหม่ ร่วมกับ Nissan Almera หรือปรับปรุงเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร บล็อกเดิม
Nissan: การบริหารจัดการใหม่และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ภายใต้การนำของประธานคนใหม่ Antoine Barthes Nissan ได้เริ่มปรับปรุงการบริหารจัดการภายในองค์กร และขจัดปัญหาต่างๆ อย่างจริงจัง
ปี 2017 การเปิดตัว “Note” ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร บล็อกเดิม และไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก
ปี 2018 จะเน้นการปรับปรุง “Navara” ด้วยการเพิ่มรุ่น 4×4 Short Wheelbase และอาจมีการปรับอุปกรณ์เล็กน้อย
เซอร์ไพรส์สำคัญคือการนำเข้า “Nissan GT-R” ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับตำนานมาทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทย แม้ราคาจะสูงลิ่วจากภาษีนำเข้าและสรรพสามิต แต่ก็เป็นการเติมเต็มความฝันของแฟนๆ
“X-Trail Minorchange” จะได้รับการปรับปรุงดีไซน์ด้านหน้า และเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย คาดว่าจะเปิดตัวช่วงไตรมาส 3 ของปี 2018 โดยอาจตัดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ออก เหลือเพียง 2.0 ลิตร และรุ่น Hybrid
“Nissan LEAF” รถยนต์ไฟฟ้า 100% จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 โดยในช่วงแรกจะเป็นการนำเข้าทั้งคัน ทำให้ราคายังคงสูง แต่หากมีการผลิตในไทย ราคาจะลดลงเหลือ 1.1-1.5 ล้านบาท
“Nissan TERRA” PPV ที่พัฒนาบนพื้นฐาน Navara จะเปิดตัวช่วงปลายปี 2018 โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร และอาจมีเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร จาก Renault มาให้เลือก
ปี 2019 จะได้พบกับ “Altima” และ “Teana” รุ่นใหม่ (แต่ Teana ไทยจะ Minorchange) พร้อมกับ “Note E-Power” ที่กำลังรอการพิจารณาด้านภาษี และ “KICKS” Crossover SUV ที่อาจมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo หรือ Hybrid e-POWER
“March” และ “ALMERA” รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Model Change จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo เพื่อเข้าร่วมโครงการ ECO Car Phase 2
Porsche: การเปิดตัวรุ่นพิเศษและเทคโนโลยีแห่งอนาคต
ปี 2018 Porsche จะเปิดตัวรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง “Cayman GT4” และ “Boxster Spyder” โดยคาดว่าจะมีเครื่องยนต์ 6 สูบ Boxer 4.0 ลิตร ที่ดัดแปลงจาก 911 GT3
“Macan Minorchange” จะได้รับการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกและอาจได้เครื่องยนต์ 2.9 ลิตร Bi-turbo ใหม่ ที่ประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“Porsche 911 (992)” รุ่นใหม่จะเปิดตัวช่วงปลายปี 2018 ถึงต้นปี 2019 โดยใช้แพลตฟอร์ม MSB ใหม่ ที่มีขนาดตัวถังใกล้เคียงเดิม แต่กว้างขึ้น
และที่น่าจับตาคือ “Mission E” ซาลูนพลังไฟฟ้าเวอร์ชันจำหน่ายจริง ที่จะเปิดตัวในปี 2019 พร้อมแพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ และระบบชาร์จไฟ 800V ที่ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ 400 กม. ใน 15 นาที
Rolls Royce: ความหรูหราขั้นสุดกับการบุกตลาด SUV
ปี 2017 Rolls Royce เปิดตัว “Phantom VIII” เจเนอเรชั่นที่ 8 ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ “Architecture of Luxury” ด้วยเครื่องยนต์ V12 Twin-Turbo 6.75 ลิตร 563 แรงม้า คาดว่าจะเปิดตัวในไทยเร็วสุดในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018 ด้วยราคาเริ่มต้นกว่า 31 ล้านบาท
และที่สำคัญคือการมาถึงของ “Rolls Royce Cullinan” SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 110 ปี ของแบรนด์ ที่จะใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Phantom VIII คาดว่าจะมีเครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร และอาจมีรุ่น Plug-in Hybrid ตามมาในอนาคต โดยมีเป้าหมายท้าชน Bentley Bentayga และคาดว่าจะมาถึงไทยในปี 2019 ด้วยราคาประมาณ 30 ล้านบาท
Ssangyong: การกลับมาของ Rexton SUV ที่แข็งแกร่ง
หลังจากการทดลองตลาด Tivoli ที่ไม่ประสบความสำเร็จ Ssangyong จะกลับมาด้วย “New Rexton” SUV ขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ ที่พัฒนาบนเฟรมแชสซีส์ Quad Frame พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 225 แรงม้า และดีเซล 2.2 ลิตร 181 แรงม้า พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัยมากมาย คาดว่าจะเปิดตัวในไทยเร็วสุดในงาน Bangkok International Motor Show หรือภายในปี 2018
Subaru: การผลิตในประเทศและการเปิดตัวรุ่นใหม่
Subaru จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการร่วมมือกับ Tan Chong จัดตั้งโรงงานผลิตในไทย โดยรถยนต์รุ่นแรกที่จะผลิตคือ “Forester Generation ที่ 5” ที่พัฒนาบน Subaru Global Platform (SGP) คาดว่าจะได้เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 2.0 ลิตร และอาจมีรุ่น Turbo ให้เลือก พร้อมระบบ EyeSight เป็นครั้งแรกในไทย โดยจะเริ่มผลิตช่วงต้นปี 2019
“Outback Minorchange” จะนำเข้ามาจำหน่ายในจำนวนจำกัด เพื่อเอาใจลูกค้าที่ต้องการ Station Wagon ยกสูง โดยคาดว่าจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show เดือนมีนาคม 2018
“XV” รุ่นใหม่ ได้เปิดตัวไปแล้วในงาน Motor Expo แต่จะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังในปี 2018
Suzuki: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Swift และ Ertiga
Suzuki เตรียมเปิดตัว “Swift” รุ่นใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 ในประเทศไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โดยจะผลิตในประเทศด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร DualJet และพัฒนาโครงสร้าง Platform ใหม่ “HEARTECH” ที่มีน้ำหนักเบาลงและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครัน คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
“Ertiga” Minivan 7 ที่นั่ง สำหรับตลาด ASEAN รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Model Change จะมาพร้อม Platform ใหม่ HEARTECH และเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร หรือดีเซล 1.5 ลิตรใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวในอินโดนีเซียช่วงเดือนมีนาคม 2018 และมาถึงไทยในช่วงปลายปี 2018
“Ciaz Minorchange” อาจได้รับการปรับปรุงดีไซน์ภายนอก และอาจมีเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร DualJet จาก Swift ใหม่ มาให้เลือก แต่โอกาสน้อย คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2018 ถึงต้นปี 2019
TATA: การพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่และ SUV/PPV
TATA ยังคงทำตลาด “XENON” ในกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ และมีแผนจะพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่ Full Model Change ที่จะใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ SUV Crossover-Minivan รุ่นใหม่ “HEXA” โดยคาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Varicor 4 สูบ 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 150-156 แรงม้า โดยรถกระบะรุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2019
ส่วน “HEXA” อาจไม่มีการนำมาจำหน่าย แต่จะพัฒนาเวอร์ชัน SUV/PPV บนพื้นฐานเดียวกันออกมาทำตลาดแทนในช่วงปี 2020-2021
Toyota/Lexus: การรุกตลาดอย่างหนักด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่
Toyota ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาด แต่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น การเปิดตัว “Yaris ATIV” และ “Yaris Hatchback Minorchange” ช่วยสร้างยอดขายในปี 2017
ปี 2018 ประเดิมด้วย “C-HR” Crossover SUV ที่สร้างบนพื้นฐาน TNGA-C พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และ 1.8 Hybrid โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 9xx,xxx บาท สำหรับรุ่นเบนซิน และ 1,0xx,xxx บาท สำหรับรุ่น Hybrid คาดว่าจะเปิดตัว 28 กุมภาพันธ์ 2018
“Camry” รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ จะมาพร้อมแพลตฟอร์ม TNGA-D และระบบ Toyota Safety Sense P คาดว่ารุ่น 2.5 Hybrid จะใช้เครื่องยนต์ Dynamic Force Hybrid THS II ใหม่ กำลังรวม 211 แรงม้า โดยจะเปิดตัวช่วงไตรมาส 3 ของปี 2018
“Toyota Rush” Sub-Compact SUV 7 ที่นั่ง ที่พัฒนาโดย Daihatsu อาจเข้ามาทำตลาดแทน Avanza โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 104 แรงม้า คาดว่าจะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปี 2018
“HiACE / Commuter” รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Model Change จะย้ายตำแหน่งเครื่องยนต์มาไว้ด้านหน้า เพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยจะใช้เฟรมแชสซีส์ร่วมกับ IMV Platform คาดว่าจะเปิดตัวช่วงครึ่งหลังของปี 2018 ถึงต้นปี 2019
“Corolla ALTIS” รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Model Change จะอยู่บนพื้นฐาน TNGA-C เช่นเดียวกับ C-HR คาดว่าจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และ 1.8 Hybrid โดยจะเปิดตัวในตลาดโลกปี 2018 และมาถึงไทยต้นปี 2019
“Vios” รุ่นต่อไป อาจพัฒนาต่อยอดจาก Daihatsu DN-F Sedan ที่มีดีไซน์ Coupe-Like Sub-Compact Sedan โดยใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร Dual VVT-i 88 แรงม้า คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2019
“Lexus UX” Premium Sub-Compact Crossover จะเข้ามาทำตลาดแทน CT200h โดยใช้แพลตฟอร์ม TNGA-C ร่วมกับ Toyota C-HR คาดว่าจะมีเครื่องยนต์ UX200 และ UX250 โดยจะเปิดตัวช่วงกลางปี 2018
Volvo: การก้าวสู่ยุค Hybrid และ EV อย่างเต็มตัว
Volvo ประกาศชัดเจนว่า รถยนต์ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวหลังปี 2019 จะเป็น Hybrid หรือไฟฟ้าล้วน เพื่อรับมือกับมาตรฐานมลพิษ Euro 6 ที่เข้มงวดขึ้น
“XC40” SUV น้องเล็กสุดของค่าย จะถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMA ใหม่ พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มพิกัด มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซล D4 AWD (190 แรงม้า) และเบนซิน T5 AWD (247 แรงม้า) คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2018
“S40 / V40” Premium Compact Sedan/Wagon รุ่นใหม่ จะถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMA เช่นเดียวกับ XC40 และคาดว่าจะมาพร้อมขุมพลังที่หลากหลาย คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม 2018 และมาถึงไทยต้นปี 2019
Volkswagen: การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
แม้จะไม่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่น่าตื่นเต้นในปี 2018 แต่ Volkswagen กำลังทุ่มเทกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และการปรับปรุงรุ่นที่มีอยู่ในตลาดให้ทันสมัยอยู่เสมอ
บทสรุปสำหรับผู้บริโภค
ปี 2018 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในวงการยานยนต์อย่างแท้จริง เทคโนโลยี Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายและคุ้มค่ากว่าเดิม การตัดสินใจซื้อรถยนต์ในปีนี้ จึงควรพิจารณาถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อการใช้งานในระยะยาว และอย่าลืมติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รถยนต์ที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่าที่สุด
หากคุณกำลังมองหารถยนต์รุ่นใหม่ในปี 2018 นี้ การศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “รถยนต์ใหม่ 2018” และ “เปิดตัวรถยนต์ใหม่” เหล่านี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น อย่าพลาดโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับเทคโนโลยีล่าสุดในตลาดรถยนต์ไทย!

