• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0301078 ณจะทำอย างไร เม อแอบตามไปเจอคนท กอย part2

admin79 by admin79
December 30, 2025
in Uncategorized
0
N0301078 ณจะทำอย างไร เม อแอบตามไปเจอคนท กอย part2

Mini John Cooper Works: สุดยอดแห่งสมรรถนะและสไตล์ที่เหนือกว่า

ในโลกของยานยนต์สมรรถนะสูง ไม่กี่แบรนด์ที่สามารถสะกดใจผู้หลงใหลในความเร็วและความสนุกในการขับขี่ได้เทียบเท่า Mini Mini John Cooper Works (JCW) คือนิยามของรถยนต์ที่ผสมผสานจิตวิญญาณของ Mini เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์สปอร์ตจากสำนัก John Cooper Works ได้อย่างลงตัว ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ที่มีประสบการณ์กว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของ Mini JCW มาอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจได้ว่า Mini John Cooper Works คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ารถยนต์ขนาดเล็กก็สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมที่น่าตื่นเต้นได้

การออกแบบที่สะท้อน DNA แห่งสมรรถนะ

เมื่อแรกเห็น Mini John Cooper Works คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจาก Mini Hatch 3 Door Cooper S รุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน การออกแบบภายนอกไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่ง แต่คือการปรับปรุงเชิงวิศวกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์และประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่มุมกันชนหน้า ไม่เพียงแต่เพิ่มความดุดันให้กับตัวรถ แต่ยังทำหน้าที่เป็นช่องรับลมเพื่อหล่อเย็นเครื่องยนต์และระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล้ออัลลอยลายดอกไม้ขนาด 18 นิ้ว เฉพาะรุ่น JCW ยังสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด และเสริมภาพลักษณ์สปอร์ตได้อย่างลงตัว

ส่วนท้ายของรถก็ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน กันชนหลังที่ดูคล้ายช่องระบายอากาศ 4 ช่อง พร้อมท่อไอเสียคู่กลาง ยิ่งเสริมบุคลิกที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างดุดัน หลังคาและกระจกมองข้างสี Chili Red ที่ตัดกับสีตัวถัง ซึ่งอาจเป็นสีเขียว Rebel Green อันเป็นเอกลักษณ์ของ JCW นั้น สร้างคอนทราสต์ที่สะดุดตา สติกเกอร์สีดำพร้อมขอบสีแดงตามแนวตัวถัง (Side Skirts) ไม่ใช่แค่การตกแต่งเพื่อความสวยงาม แต่ช่วยเสริมสมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์และลดแรงยกตัวที่ความเร็วสูง

นวัตกรรมที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือ MINI Head-Up Display ที่มาพร้อมคอนเทนต์พิเศษเฉพาะรุ่น JCW ซึ่งแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ให้ผู้ขับขี่ทราบโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างมาก

ขุมพลังที่เหนือกว่า: หัวใจของ Mini John Cooper Works

แก่นแท้ของ Mini John Cooper Works อยู่ที่ขุมพลังอันดุดัน เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำงานอย่างลงตัวในรูปแบบ transverse ให้กำลังสูงสุดถึง 231 แรงม้า และแรงบิด 320 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้อาจดูธรรมดาสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ แต่สำหรับ Mini ที่มีน้ำหนักตัวถังเพียง 1,205 กิโลกรัม (เบากว่า MINI Hatch 3 Door Cooper S ถึง 45 กิโลกรัม) นี่คือพละกำลังมหาศาลที่มอบอัตราเร่งที่น่าประทับใจ

เมื่อเทียบกับ MINI Hatch 3 Door Cooper S รุ่นปกติ Mini John Cooper Works มีพละกำลังเพิ่มขึ้นถึง 39 แรงม้า และแรงบิดอีก 40 นิวตันเมตร ความแตกต่างนี้ส่งผลโดยตรงต่ออัตราเร่งและความรู้สึกในการขับขี่ ทำให้ Mini JCW กลายเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสุดเท่าที่ Mini เคยผลิตมาสำหรับการจำหน่ายทั่วไป

ช่วงล่างและระบบควบคุม: ปรัชญาแห่งการขับขี่ที่แม่นยำ

ความแรงของเครื่องยนต์จะต้องมาพร้อมกับการควบคุมที่ยอดเยี่ยม Mini John Cooper Works ได้รับการติดตั้งระบบช่วงล่างที่ทำงานสอดประสานกับขุมพลังอย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับระบบเบรกสปอร์ตจาก Brembo ที่ให้ความมั่นใจในทุกการชะลอความเร็ว ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ Servotronic ซึ่งผสมผสานระบบไฟฟ้าและกลไกเข้าด้วยกัน มอบการตอบสนองที่แม่นยำและน้ำหนักที่เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่

เทคโนโลยี Dynamic Stability Control (DSC) ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ประกอบด้วยคุณสมบัติที่สำคัญต่างๆ เช่น Dynamic Traction Control (DTC) เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน, Electronic Differential Lock Control (EDLC) เพื่อช่วยการเข้าโค้ง และ Dynamic Damper Control (DDC) ที่สามารถปรับความหนืดของโช้คอัพได้ตามสภาพถนนและโหมดการขับขี่ ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งสนุก เร้าใจ และปลอดภัยสูงสุด

ความคุ้มค่าในแบบฉบับ Mini John Cooper Works

แม้ว่าราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 3.45 ล้านบาท สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ นำเข้าทั้งคัน อาจดูสูงเมื่อเทียบกับ Mini Hatch 3 Door Cooper S ที่ราคา 2.84 ล้านบาท ส่วนต่าง 610,000 บาท นั้น สะท้อนถึงการลงทุนในวิศวกรรม สมรรถนะ และออปชั่นที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน สำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษ ความเร้าใจ และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร Mini John Cooper Works คือคำตอบที่คุ้มค่า

Toyota Innova 2016: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่ง MPV ที่หรูหราและทันสมัย

การเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ครอบครัว การเดินทาง และยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายและสไตล์ Toyota Innova 2016 คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการยกระดับรถยนต์ MPV สู่มาตรฐานใหม่

ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่

Toyota Innova 2016 ใหม่ ที่เปิดตัวในอินโดนีเซียได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านดีไซน์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากรถยนต์รุ่นพี่อย่าง Toyota Highlander กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่รับกับไฟหน้า LED Projector (ในรุ่น Q Grade) ทรงเรียวยาวที่ดูโฉบเฉี่ยว ไฟตัดหมอกที่มุมกันชนยังช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับส่วนหน้า

เส้นสายด้านข้างของ Toyota Innova 2016 ดูแข็งแกร่งและเหลี่ยมคมกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด การออกแบบหลังคาที่ลาดเอียงจรดด้านท้าย และแนวขอบหน้าต่างที่ยกตัวขึ้นเล็กน้อย สร้างมิติที่น่าสนใจให้กับตัวรถ ส่วนท้ายได้รับการออกแบบใหม่ด้วยไฟท้ายรูปตัว L คว่ำ ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน สร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากรถ MPV ทั่วไป

ภายใน: ความหรูหราและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในของ Toyota Innova 2016 คุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง แผงคอนโซลที่เน้นเส้นโค้งและตกแต่งด้วยลายไม้ (ในรุ่น Q Grade) ผสานกับคอนโซลกลางแนวตั้งที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Wi-Fi และการสั่งงานด้วยเสียง รวมถึง Air Gesture (ในรุ่น Q และ V Grade)

ระบบปรับอากาศที่ทันสมัย พร้อมระบบดิจิตอลอัตโนมัติในรุ่น Q และ V Grade ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย มาตรวัด TFT แสดงข้อมูลที่ทันสมัย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่ครบครันทุกรุ่น ช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างง่ายดาย

การจัดวางเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ยังคงเป็นจุดเด่นของ Innova โดยเบาะแถวสองแยกอิสระ สามารถปรับเลื่อนและเอนได้อย่างอิสระ ฟังก์ชันพับเบาะแบบ One Touch ช่วยให้การเข้าถึงเบาะแถวสามสะดวกสบายยิ่งขึ้น แม้เบาะแถวสามจะเหมาะสำหรับ 2 ที่นั่ง แต่การติดตั้งพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง ก็แสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียด

Ambient light ที่ประดับประดาภายในห้องโดยสาร ช่วยสร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการเดินทางไกล

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง: ตัวเลือกที่ตอบสนองทุกความต้องการ

Toyota Innova 2016 มีเครื่องยนต์ให้เลือกสองแบบ สำหรับตลาดอินโดนีเซีย:

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (16 วาล์ว DOHC): มาพร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 149 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิด 360 นิวตันเมตร ที่ 1,200-2,600 รอบ/นาที
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (Dual VVT-i, 16 วาล์ว DOHC): ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิด 183 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ทั้งสองเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ให้สมรรถนะที่ประหยัดน้ำมันและตอบสนองการขับขี่ในสภาวะต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ความปลอดภัย: มาตรฐานที่ยกระดับ

Toyota Innova 2016 มาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าผู้ขับขี่, ISOFIX, ABS และ EBD ในทุกรุ่นย่อย รุ่น Q Grade ยังเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยและถุงลมนิรภัยด้านข้าง สำหรับรุ่น Q Grade เครื่องยนต์ดีเซล ยังมาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Assist Control

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016: สู่ยุคใหม่แห่ง SUV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด

ในยุคที่ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ Mercedes-Benz ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอรถยนต์ที่ผสมผสานสมรรถนะระดับสูงเข้ากับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 คือหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์ “DEFINE TOMORROW” ของแบรนด์

ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่มาพร้อมความแข็งแกร่ง

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 ยังคงไว้ซึ่งเส้นสายที่สวยงามและสง่างาม อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz กระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉกตรงกลาง กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ เสริมด้วยโครเมียม สร้างความโดดเด่นและความหรูหรา

ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมไฟ Daytime Running Lights ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัย ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง และไฟท้าย LED ช่วยเสริมความทันสมัย ลายเส้นหลังคาที่ลาดเอียงไปทางด้านท้ายสะท้อนถึงความปราดเปรียว

รุ่น GLE 500 e 4MATIC Exclusive มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สี Himalayas Grey ส่วนรุ่น GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic ยกระดับความสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น ด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ AMG ขนาด 20 นิ้ว สี Titanium Grey ชุดแต่ง AMG Bodystyling รอบคัน ดิสก์เบรกหน้าพร้อมคาลิเปอร์เบรกหน้าที่มีสัญลักษณ์ Mercedes-Benz และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ภายใน: ความหรูหรา ผสานความสปอร์ตและเทคโนโลยี

ห้องโดยสารของ Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 เน้นความหรูหรา สง่างาม และสปอร์ตในเวลาเดียวกัน การตกแต่งด้วยหนัง Artico และลายไม้ (ในรุ่น Exclusive) หรือหนัง Nappa (ในรุ่น AMG Dynamic) สร้างบรรยากาศที่พรีเมียม

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบผ่อนแรงและปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

รุ่น Exclusive มาพร้อมระบบมัลติมีเดีย MB Audio 20 ส่วนรุ่น AMG Dynamic ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบ COMAND Online, ระบบเสียง Harman Kardon® Logic 7® และ Apple CarPlay™

เบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ เบาะหลังพับได้แบบ 1:3/2:3 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ และไฟ Ambient Light 3 สี สร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจ

โหมดการขับขี่ Plug-In HYBRID: อนาคตแห่งการขับเคลื่อน

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 มีโหมดการขับขี่ Plug-In HYBRID ให้เลือกถึง 4 แบบ:

HYBRID: ผสมผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเน้นการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าให้มากที่สุด หากแบตเตอรี่มีพลังงานต่ำกว่า 20% เครื่องยนต์จะทำงานเป็นหลัก หากเลือกโหมด Sport เครื่องยนต์จะทำงานเพียงอย่างเดียว
E-MODE: ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้สูงสุด 130 กม./ชม. เป็นระยะทาง 30 กม. (ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่และความเร็ว) เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง
E-SAVE: รักษาประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ให้คงเดิม โดยเน้นการใช้เครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อให้มีพลังงานไฟฟ้าเพียงพอสำหรับการขับขี่ในเมืองในภายหลัง
CHARGE: ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เป็นหลัก โดยใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ในการชาร์จแบตเตอรี่ และแปลงพลังงานจลน์จากการชะลอความเร็วหรือการเบรกเป็นพลังงานไฟฟ้า

ระบบ Dynamic Select และ Mercedes-Benz Intelligent Drive: ความมั่นใจในทุกการเดินทาง

ระบบ Dynamic Select มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ: Individual, Comfort, Slippery, Sport และ Sport+ เพื่อตอบสนองทุกสภาวะการขับขี่

ระบบ Mercedes-Benz Intelligent Drive คือหัวใจสำคัญด้านความปลอดภัย ผสานเทคโนโลยีช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารสูงสุด ประกอบด้วย:

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Electronic Traction System 4ETS
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
ระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC
ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist)
ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-start Assist
ไฟเบรกกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST)
ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist)

สมรรถนะ: พลังที่มาพร้อมความประหยัด

Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 2,996 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า รวมเป็นพละกำลังที่น่าประทับใจ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม.

ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 8.7 กิโลวัตต์ ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นและประหยัดพลังงาน แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟให้เต็มได้ภายใน 4 ชั่วโมง (ไฟบ้าน) ทำให้สามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร

ราคาจำหน่าย:

GLE 500 e 4MATIC Exclusive: 4,490,000 บาท
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic: 4,990,000 บาท

Mercedes-Benz E-Class 2016: นิยามใหม่ของ “The Best” แห่งยนตรกรรมซีดาน

Mercedes-Benz E-Class เจเนอเรชั่นที่ 10 ที่เปิดตัวในปี 2016 ถือเป็นก้าวสำคัญของตระกูล E-Class ที่ยาวนานกว่าศตวรรษ การเปิดตัวในงาน Motor Show 2016 แสดงถึงความมุ่งมั่นของ Mercedes-Benz ประเทศไทย ในการนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้า

ดีไซน์ภายนอก: Sensual Purity ที่สมบูรณ์แบบ

Mercedes-Benz E-Class 2016 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้หลักการ Sensual Purity ของ Mercedes-Benz ผสมผสานความทรงพลังและความสง่างามอย่างลงตัว ขนาดตัวถังและฐานล้อที่ยาวและกว้างขึ้น ฝากระโปรงหน้าที่ยาว เส้นสายหลังคาที่ออกแบบในสไตล์คูเป้ และซุ้มล้อหลังที่ดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า ล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของรถซีดานระดับพรีเมียม

ไฟหน้า MULTIBEAM LED ความละเอียดสูง พร้อมระบบ Active Light เป็นครั้งแรกของโลก ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัย โคมไฟท้ายแบบชิ้นเดียว แบ่งออกเป็นสองส่วน สะท้อนถึงความประณีตในการออกแบบ

ภายใน: ความหรูหราและความอัจฉริยะที่เหนือกว่า

ห้องโดยสารของ Mercedes-Benz E-Class 2016 คือนิยามของความหรูหราและเทคโนโลยีที่ผสานกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะในรุ่น E 220 d AMG Dynamic ที่มาพร้อมจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ เป็นครั้งแรกในเซกเมนต์นี้ ระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทาง

เครื่องยนต์และสมรรถนะ: ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

E-Class 2016 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่นและแม่นยำ โครงสร้างรถที่เบาลงและอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 102 กรัม/กิโลเมตร

รุ่นย่อยที่นำเสนอในประเทศไทย:

Mercedes-Benz E 220 d Exclusive
Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic

Mitsubishi Outlander 2016: รูปลักษณ์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dynamic Shield

Mitsubishi Outlander 2016 ที่เปิดตัวในงาน New York Auto Show 2015 แสดงถึงความตั้งใจของ Mitsubishi ในการปรับปรุงรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยม ให้มีความทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้น

ดีไซน์ภายนอก: Dynamic Shield คือกุญแจสำคัญ

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือการออกแบบภายนอกภายใต้แนวคิด “Dynamic Shield” ซึ่งสะท้อนถึงการปกป้องและความแข็งแกร่ง กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ดูสปอร์ตขึ้น และไฟหน้าที่เพรียวบาง ทำให้ Outlander 2016 ดูปราดเปรียวกว่าเดิม

ส่วนท้ายมีการปรับปรุงกันชนเล็กน้อย และการสวมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ช่วยเสริมความลงตัวและความหรูหรา

ภายใน: การปรับปรุงเพื่อความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดีขึ้น

ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงบางส่วน พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น ระบบความบันเทิงที่ทันสมัย และการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ดียิ่งขึ้น จากการเปลี่ยนกระจกบังลมหน้าใหม่และวัสดุซับเสียง

เครื่องยนต์: ตัวเลือกที่หลากหลาย

Mitsubishi Outlander 2016 มีเครื่องยนต์ให้เลือกสองแบบ:

เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 4 สูบ: ให้กำลัง 166 แรงม้า แรงบิด 219 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ CVT
เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร: ให้กำลัง 224 แรงม้า แรงบิด 291 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ระบบความปลอดภัย: เทคโนโลยีที่ครบครัน

Outlander 2016 มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่มากมาย เช่น Forward Collision Mitigation (FCM), Lane Departure Warning (LDW) และ Adaptive Cruise Control (ACC)

Bentley Bentayga 2016: จุดสูงสุดของ SUV สุดหรู

Bentley Bentayga 2016 คือนิยามของความหรูหราขั้นสูงสุดในตลาดรถยนต์ SUV Bentayga คือรถ SUV คันแรกของ Bentley และได้สร้างความฮือฮาตั้งแต่เปิดตัว

ดีไซน์: ความหรูหราสไตล์ Bentley

Bentley Bentayga 2016 มีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Bentley Flying Spur ผสมผสานความแข็งแกร่งของ SUV เข้ากับความสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bentley ไฟหน้าแบบ LED สี่ดวง กระจังหน้าขนาดใหญ่ และเส้นสายที่บ่งบอกถึงพละกำลัง

การส่งมอบพิเศษ: สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

Bentley Bentayga คันแรกถูกส่งมอบให้กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแบรนด์

ยอดขายที่ถล่มทลาย:

โควตาการผลิต 3,600 คันสำหรับปีแรก ถูกสั่งจองหมดเป็นที่เรียบร้อย แสดงให้เห็นถึงความต้องการอันมหาศาลสำหรับ SUV สุดหรูคันนี้

Honda Civic FC มือสอง: ตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับรถยนต์ซีดานยอดนิยม

Honda Civic FC มือสอง ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ซีดานที่ผสมผสานสไตล์ สมรรถนะ และความคุ้มค่าได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ภายในที่กว้างขวาง และเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ Civic FC ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ข้อดี-ข้อเสีย Honda Civic FC มือสอง:

1.5 Turbo RS: สมรรถนะสูงสุด ออปชั่นครบครัน แต่ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า
1.5 Turbo: สมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน แต่ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า
1.8 EL i-VTEC: สมดุลระหว่างสมรรถนะ ออปชั่น และราคา รองรับ E85
1.8 E i-VTEC: ราคาเข้าถึงง่ายที่สุด ออปชั่นน้อยกว่ารุ่นอื่น

หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น Mini John Cooper Works สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจขั้นสุด, Toyota Innova 2016 สำหรับครอบครัวที่มองหาความสบายและความหรูหรา, Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC 2016 หรือ E-Class 2016 สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและความยั่งยืน, Mitsubishi Outlander 2016 ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่, Bentley Bentayga 2016 สำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษเหนือใคร หรือ Honda Civic FC มือสอง ที่เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในตลาดรถยนต์ซีดาน เรามีรถยนต์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของคุณ

หากคุณพร้อมแล้วที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่ง อย่ารอช้า! ติดต่อตัวแทนจำหน่ายของเราเพื่อทดลองขับ และค้นหารถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณได้แล้ววันนี้

Previous Post

N0301073 เช อเม ยแล วช ตร part2

Next Post

N0301058 ทำด เท าไหร ไม เคยถ กใจพ อก บแม part2

Next Post
N0301058 ทำด เท าไหร ไม เคยถ กใจพ อก บแม part2

N0301058 ทำด เท าไหร ไม เคยถ กใจพ อก บแม part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0401061 บนเส นทางร ไม ได แต ดอกไม part2
  • N0401063 อลหม านล กหลาน GenZ part2
  • N0401059 เม อต องพาแฟนไปบ าน แต อายเพราะบ านจน part2
  • N0401057 งครอบคร วไว างหล หว งแต ความส ขต วเอง part2
  • N0401060 ปสรรคความร กบางท มาในร ปแบบของงานบ าน! part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.