มหกรรมยานยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2561: ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ยกระดับประสบการณ์ สู่ยุคแห่งนวัตกรรมยานยนต์
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง เทศกาลยานยนต์ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี โดยเฉพาะงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” คือหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนทิศทาง เทรนด์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ของโลกยานยนต์ได้อย่างชัดเจน ในปี 2561 นี้ งานมหกรรมยานยนต์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2561 ภายใต้แนวคิด “Enjoyment of Automobiles – สุนทรียภาพทางอารมณ์” ได้นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจยิ่งกว่าเคย
ก้าวข้ามกระแส: เน้นคุณค่าแห่งการเป็นเจ้าของรถยนต์
ในยุคที่พลังงานทางเลือก มลภาวะ และเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติกำลังเป็นที่กล่าวขาน งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ได้เลือกที่จะเดินในเส้นทางที่แตกต่างออกไป โดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างมนุษย์กับยานพาหนะที่เราคุ้นเคย นั่นคือการได้เลือกรถที่ใช่ ซื้อรถที่ชอบ และขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายด้วยความสุขและความเพลิดเพลิน นี่คือการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่า แม้โลกจะหมุนไปข้างหน้า แต่คุณค่าของการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่แบรนด์ต่างๆ ให้ความสำคัญ
ภาพรวมของงาน: มหกรรมแห่งยนตรกรรมระดับโลก
ด้วยพื้นที่จัดแสดงกว่า 60,000 ตารางเมตร และการเข้าร่วมของค่ายรถยนต์กว่า 30 แบรนด์ งานนี้จึงเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี สำหรับการอวดโฉมยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงรถที่ได้รับการเผยโฉมต่อสาธารณชนชาวไทยเป็นครั้งแรก ผมในฐานะผู้ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดรถยนต์มาอย่างใกล้ชิด รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้เห็นความหลากหลายและนวัตกรรมที่แต่ละค่ายขนมาจัดแสดง
ไฮไลท์เด่น: ยนตรกรรมที่น่าจับตามอง
ตลอดการเดินชมงาน ผมได้รวบรวมข้อมูลและคัดสรรรถยนต์รุ่นเด่นที่น่าสนใจมานำเสนอ เพื่อให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นการมาเป็นคู่ เป็นกลุ่ม หรือมาแบบลุยเดี่ยว ได้เห็นภาพรวมของเทรนด์ยานยนต์ในปีนี้ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถในอนาคตอันใกล้นี้
Aston Martin: สมรรถนะสูงสุดแห่งสปอร์ตคลาสสิก
Aston Martin Bangkok ภายใต้การบริหารของ MGC-Asia ได้นำทัพยนตรกรรมสุดหรูมาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ Rapide ซาลูนทรงสปอร์ตที่ให้ความรู้สึกราวกับซูเปอร์คาร์, Vanquish V12 รุ่นสุดท้ายแห่งยุคเครื่องยนต์ไร้เทอร์โบ, V8 Vantage สปอร์ตคาร์ขนาดกะทัดรัดแต่ดุดันด้วยขุมพลัง 510 แรงม้า และ DB11 สปอร์ตหรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 608 แรงม้า หรือทางเลือก V8 4.0 ลิตร
ไฮไลท์เด่นคือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ DBS Superleggera ชื่อรุ่นนี้มาจากบริษัทผู้สร้างตัวถังรถยนต์ชาวอิตาเลียนในอดีต ที่มีบทบาทในการช่วย Aston Martin ลดน้ำหนักตัวถังรถให้เบาลง ยนตรกรรมคันนี้มีพื้นฐานมาจาก DB11 แต่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการใช้วัสดุที่เบาขึ้น โดยเฉพาะชุดหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งสามารถลดน้ำหนักรวมลงได้ถึง 70 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ DB11
หัวใจของ DBS Superleggera คือเครื่องยนต์ AE31 V12 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.2 ลิตร ที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มกำลังสูงสุดถึง 715 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 900 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นแรงบิดสูงสุดเท่าที่ Aston Martin เคยผลิตมา ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 จังหวะ ที่ติดตั้งไว้ด้านท้ายตัวรถ ให้สมรรถนะอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ที่เหนือกว่านั้น คือ Valkyrie AMR Pro ยนตรกรรมที่เปรียบเสมือน “ผู้นำแห่งความแพงระยับ” ด้วยราคาประเมินสูงถึง 300 ล้านบาทไทย ไม่เพียงแต่ความมั่งคั่งเท่านั้น แต่ยังต้องการวาสนาและคอนเน็คชั่นที่ดีเยี่ยมเพื่อจะได้ครอบครองรถคันนี้เพียง 25 คันทั่วโลก Valkyrie AMR Pro ไม่ใช่รถสำหรับวิ่งบนถนนหลวง แต่เป็นรถแข่งในสนามเท่านั้น พัฒนาขึ้นด้วยสมองของสุดยอดทีมวิศวกรจาก Aston Martin, Redbull Racing, Cosworth, Rimac และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย
การออกแบบตัวถังโดย Marek Reichman ร่วมกับ Adrian Newey วิศวกร F1 ชั้นนำ ทำให้ Valkyrie มีรูปทรงที่ดูล้ำสมัยราวกับหลุดมาจากโลกอนาคต เครื่องยนต์ V12 สูบ ขนาด 6.5 ลิตร ผสานกับระบบ KERS แบบ F1 จาก Rimac ให้กำลังสูงสุดเกินกว่า 1,100 แรงม้า และมีเรดไลน์สูงถึง 11,000 รอบต่อนาที สมรรถนะนี้เทียบเท่ารถแข่ง F1 ในยุคก่อนๆ
สำหรับรุ่น AMR Pro ที่ใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะ ได้รับการปรับแต่งให้มีความดุดันยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎระเบียบด้านเสียงและมลพิษ ตัดระบบ Infotainment ออก ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับรถแข่งโดยเฉพาะ ช่วงล่างถูกปรับแต่งใหม่ ระบบเบรกคาร์บอน ล้อขนาด 18 นิ้ว เพื่อรองรับยางแข่ง Michelin แบบเดียวกับรถคลาส LMP1 สามารถรับแรง G ขณะเข้าโค้งได้มากถึง 3.3G และ 3.5G ขณะเบรกเต็มแรง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 360 กม./ชม. Aston Martin ได้ประกาศชัดเจนว่า Valkyrie และ Valkyrie AMR Pro นั้นขายหมดไปนานแล้ว และมีนโยบายเข้มงวดต่อผู้ซื้อที่ต้องการทำกำไรจากการขายต่อ นับเป็นโลกของยนตรกรรมระดับร้อยล้านอย่างแท้จริง
Audi: ความสง่างามจากเยอรมนี
Audi Meister Technik นำทัพยนตรกรรมหลากหลายมาจัดแสดง หลังประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไฮไลท์คือซูเปอร์คาร์ R8, ตระกูล Avant ที่ทำให้รถสเตชั่นแวก้อนดูน่าสนใจขึ้น, SUV ตระกูล Q อาทิ Q7 และ Q8 ที่มาพร้อมดีไซน์หรูหราและขุมพลัง Mild Hybrid
Audi A7 Sportback 45TFSI quattro คือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 245 แรงม้า เป็นการตอบสนองการแข่งขันในตลาดรถพรีเมียมคูเป้ 4 ประตู โดยชูจุดเด่นเครื่องยนต์เบนซิน เทียบกับคู่แข่งที่เน้นดีเซล Audi A7 Sportback 45TFSI quattro มาพร้อมออปชั่นที่ลดลงจากรุ่น 55TFSI เพื่อให้สามารถตั้งราคาได้แข่งขันได้มากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งหน้าปัด Virtual Cockpit และดีไซน์ที่ล้ำสมัย
Audi TT ไมเนอร์เชนจ์ ยังคงเป็นรถขายดีที่สุดของค่ายในไทย ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และการตั้งราคาที่เอื้อให้ลูกค้ามีงบเหลือไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้ รถรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงดีไซน์กระจังหน้า กันชนหน้า-หลัง และชุดแต่ง S-Line ใหม่ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 230 แรงม้า เกียร์ S-tronic 6 จังหวะ ยังคงให้สมรรถนะที่น่าพอใจ
Audi e-tron คือรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการจำหน่ายจริงรุ่นแรกของ Audi ที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด จากที่เคยสงวนท่าทีเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ตอนนี้ Audi ได้ประกาศราคา 5,099,000 บาท ชนิดที่ Mercedes-Benz EQC ยังไม่มีโอกาสได้ออกตัวในไทย e-tron ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 360 แรงม้า หรือ 408 แรงม้า ในโหมดเค้นสมรรถนะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ขนาดตัวรถใหญ่เทียบเท่า Q5 และ Q7 แบตเตอรี่ความจุ 95 หน่วย วิ่งได้ไกล 417 กิโลเมตร (WLTP) จุดเด่นคือแบตเตอรี่แบบ 36 Modules ที่สามารถเปลี่ยนหรือซ่อมแซมแบบแยกโมดูลได้ ภายในมาพร้อมจอ Virtual Cockpit และจอสัมผัสที่ให้ความรู้สึกเหมือนปุ่มกดจริง
Bentley: ฉลอง 100 ปีแห่งตำนานความหรูหรา
Bentley ใช้เวทีนี้ในการเปิดตัว New Continental GT Convertible W12 พร้อมฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ ยนตรกรรมเปิดประทุนระดับหรูคันนี้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W12 6.0 ลิตร ให้กำลัง 635 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที หลังคาผ้าใบได้รับการปรับปรุง เปิด-ปิด ภายใน 19 วินาที สามารถทำได้ขณะรถวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ภายในห้องโดยสารออกแบบอย่างหรูหรา พร้อมฟังก์ชันทำความร้อนบริเวณคอและเบาะนั่ง เพื่อความสบายสูงสุดในทุกสภาพอากาศ
ราคา Bentley Continental GT Convertible W12 อยู่ที่ 23,800,000 บาท นอกจากนี้ ยังมี Continental GT W12 ราคา 22,100,000 บาท และ Bentayga Petrol V8 SUV ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตรทวินเทอร์โบ 550 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 21,500,000 บาท
BMW/MINI: ยนตรกรรมขับสนุก สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
BMW จัดแสดงรถยนต์ครบทุกรุ่นในไลน์อัพปกติ รวมถึงรถตระกูล M ที่ทรงพลัง ไฮไลท์สำคัญคือ X7 M50d รถ SUV ขนาดใหญ่ที่สุดของ BMW โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้า BMW Laserlight และล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ภายในรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง พร้อมเบาะปรับไฟฟ้าหุ้มหนัง Merino ห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ M Performance TwinPower Turbo 400 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ปรับความแข็งได้ ราคา 8,999,000 บาท
BMW Z4 (G29) สปอร์ตโรดสเตอร์ 2 ที่นั่ง กลับมาพร้อมหลังคาผ้าใบที่เบาและประหยัดพื้นที่จัดเก็บ ช่วยเพิ่มพื้นที่ท้ายรถเป็น 281 ลิตร เปิด-ปิดได้ภายใน 10 วินาที มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย: sDrive30i เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 258 แรงม้า ราคา 3,999,000 บาท และ M40i เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ 340 แรงม้า ราคา 4,999,000 บาท พร้อมช่วงล่าง Adaptive M Suspension และชุดแต่ง M Sport
BMW 330i (G20) ซีรีส์ 3 ใหม่ มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย ขนาดตัวใหญ่ขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง ด้วยการใช้วัสดุผสมและอลูมิเนียม ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นนำเข้าล็อตแรกคือ 320d Sport ราคา 2,959,000 บาท และ 330i M Sport ราคา 3,359,000 บาท ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 258 แรงม้า
MINI Cooper S 60 Years Edition ฉลองครบรอบ 60 ปี ด้วยดีไซน์ Retro ที่ผสานความน่ารักเข้ากับความสปอร์ต โทนสี British Racing Green ตัดกับหลังคาและกระจกมองข้างสีขาว Pepper White พร้อมสัญลักษณ์ 60 ปีทั่วคัน ภายในตกแต่งด้วยโลโก้ 60 ปี บนพวงมาลัยและเบาะ MINI Yours Leather Lounge สี Dark Maroon ราคา 2,900,000 บาท (3 ประตู) และ 2,940,000 บาท (5 ประตู) ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 17 คันสำหรับตลาดไทย
Chevrolet: กลยุทธ์ใหม่ มุ่งสู่ผู้นำตลาด
Chevrolet ประกาศกลยุทธ์ “Find New Road” โดยมุ่งเน้นตลาดรถกระบะ SUV/PPV และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Chevrolet Captiva โฉมใหม่ ได้รับการปรับตำแหน่งทางการตลาด เป็น B/C-SUV ที่สอดแทรกระหว่าง Honda CR-V และ HR-V คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากความสำเร็จของ Trailblazer ที่ทำราคา 999,000 บาท ได้รับการตอบรับที่ดี Captiva ใหม่จะมีให้เลือกทั้งแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง
Ford: ขีดสุดแห่งสมรรถนะออฟโรด
Ford ยังคงชูจุดเด่นด้วย Ford Ranger Raptor กระบะพันธุ์โหด ขุมพลัง 2.0 ลิตร ดีเซล Compound Turbo 213 แรงม้า เกียร์ 10 สปีด พร้อมโช้คอัพ Fox Racing Shox และระบบ Terrain Management System พร้อมโหมด Baja แม้จะใช้วัสดุภายในที่เน้นความทนทานมากกว่าความหรูหรา แต่สมรรถนะการขับขี่คือหัวใจสำคัญ
นอกจากนี้ ยังมี Everest ที่ตกแต่งในสไตล์ดุดัน และ Mustang พี่ม้าแรงแห่งตำนาน ในรุ่น 2.3 EcoBoost และ 5.0 GT ที่มีการอัปเดตสำหรับปี 2019 ด้วยสปอยเลอร์หลังในรุ่น 2.3 ลิตร
Honda: ความหรูหราที่เข้าถึงง่าย
All-new Honda Accord Gen.10 เปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในงานนี้ ด้วยดีไซน์ที่ล้ำยุคกว่า Civic มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า 1 รุ่น และขุมพลัง Hybrid 2.0 ลิตร Atkinson Cycle + Motor รวม 215 แรงม้า 2 รุ่น ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นไม่เกิน 1.5 ล้านบาทในรุ่นเทอร์โบ และจบที่ 1.8 ล้านบาทในรุ่น Hybrid TECH
Hyundai: ยกระดับสู่ความเป็นผู้นำ EV
Hyundai ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มราคาที่เข้าถึงได้ KONA electric มาพร้อม 2 รุ่นย่อย: SE ราคา 1,849,000 บาท (มอเตอร์ 136 แรงม้า, แบตเตอรี่ 39.2 kWh, วิ่งได้ 312 กม. WLTP) และ SEL ราคา 2,259,000 บาท (มอเตอร์ 204 แรงม้า, แบตเตอรี่ 64 kWh, วิ่งได้ 482 กม. WLTP) KONA electric โดดเด่นด้วยดีไซน์ครอสโอเวอร์และออปชั่นที่ครบครัน
H-1 Limited III รถตู้ MPV ยอดนิยม มาพร้อมรุ่นพิเศษ Limited III สีขาว จำนวนจำกัด 300 คัน ราคา 1,679,000 บาท มาพร้อมหลังคามูนรูฟคู่ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ภายในหรูหราด้วยหนังและลายไม้ ระบบ Cruise Control ไฟ Ambient Light จอ 7 นิ้ว และจอหลังเบาะ 10.1 นิ้ว
Isuzu: ขับขี่สไตล์ออฟโรด
Isuzu นำเสนอ MU-X The Onyx รุ่นพิเศษที่เพิ่มความหรูหราด้วยสีแดง Etna Red ดีไซน์กระจังหน้าและกันชนใหม่ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว Flash Black Design ภายในมี Ambient Light สีแดง และถุงลมนิรภัย 6 ใบ ราคา 1,364,000 บาท (1.9 ลิตร) และ 1,409,000 บาท (3.0 ลิตร) นอกจากนี้ ยังโชว์ D-Max V-Cross Max 4×4 แต่งสไตล์สปอร์ตออฟโรด พร้อมอุปกรณ์ ARB รอบคัน
Jaguar/Land Rover: การมาถึงของยานยนต์ไฟฟ้า
Jaguar เปิดตัว I-PACE รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของค่าย ขุมพลัง 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที วิ่งได้ไกล 470 กิโลเมตร มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย: S (5,499,000 บาท), SE (6,299,000 บาท) และ HSE (6,999,000 บาท) โควต้าสำหรับปี 2019 มีเพียง 12 คัน
Kia: MPV หรูหรา ฟังก์ชันครบครัน
Kia Grand Carnival มาพร้อม 3 รุ่นย่อย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร 197 แรงม้า เกียร์ 8 จังหวะ รุ่น SXL เพิ่มความหรูหราด้วยซันรูฟคู่ หน้าปัด TFT ระบบ Blind Spot Detection เบาะไฟฟ้า พร้อมระบบความจำ และอื่นๆ อีกมากมาย
Lamborghini: พลังดุจกระทิงดุ
ดาวเด่นของงานคือ Huracan EVO รถสปอร์ตที่มาแทนที่ LP610-4 Coupe เครื่องยนต์ V10 640 แรงม้า น้ำหนักเพียง 1,422 กก. พร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อน LDVI ที่ประมวลผลและสั่งการระบบต่างๆ เพื่อการตอบสนองสูงสุด ราคาเริ่มต้น 24.59 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี Aventador SVJ ซูเปอร์คาร์ที่ทำลายสถิติต่อรอบสนาม Nurburgring (6:44.97) ด้วยเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร 770 แรงม้า ราคา 44.5 ล้านบาท และ Urus SUV คันแรกของแบรนด์ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร 650 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที ราคาเริ่มต้น 23.42 ล้านบาท
Maserati: ประสบการณ์ขับขี่สไตล์อิตาเลียน
Maserati นำเสนอ GranTurismo MY2019 ยนตรกรรมสุดงามจาก Pininfarina เครื่องยนต์ V8 4.7 ลิตร 460 แรงม้า พร้อมการปรับปรุงดีไซน์ภายในและระบบ Infotainment ราคา 14.99 ล้านบาท (รวม Premium Maintenance Program)
Quattroporte MY2019 รถลีมูซีนหรูหรา สไตล์อิตาเลียน ไฟหน้า Adaptive Matrix LED เครื่องยนต์ V8 3.8 ลิตร Twin Turbo 530 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม.
Levante Vulcano Limited Edition SUV รุ่นพิเศษ ผลิตจำกัด 150 คันทั่วโลก โควต้าไทย 10 คัน ตัวถังสีเทาด้าน Grigio Lava ชุดแต่ง Nerrissimo Pack ภายในหรูหราด้วยเบาะ Pieno Fiore พวงมาลัยคาร์บอนไฟเบอร์ เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin Turbo 350 แรงม้า
Mazda: วิสัยทัศน์แห่งการออกแบบ
Mazda นำเสนอ KAI Concept ต้นแบบที่แสดงถึงวิสัยทัศน์การออกแบบ KODO Ver 2.0 อันเฉียบคม พร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV-X เทคโนโลยี Spark Controlled Compression Ignition (SPCCI) ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล
CX-3 Exclusive MODS รุ่นพิเศษ ตกแต่งด้วยเบาะหนัง Nappa สีแดง เบาะไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบความจำ รองรับ Apple CarPlay/Android Auto ราคา 1,110,000 บาท
McLaren: สปอร์ตคาร์เปิดประทุนแห่งความเร็ว
McLaren 720S Spider เปิดตัวในประเทศไทย ราคา 29.5 ล้านบาท เวอร์ชั่นเปิดหลังคาของ Super Series 720S ใช้เครื่องยนต์ M840T V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 720 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 341 กม./ชม. กลไกหลังคาเปิด-ปิดภายใน 11 วินาที
Mercedes-Benz: พรีเมียมไฮบริดและ AMG ประสิทธิภาพสูง
Mercedes-Benz นำรถ 29 คันมาจัดแสดง แบ่งโซน Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG ไฮไลท์คือ S 560 e AMG Premium รถปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin Turbo 367 แรงม้า ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า รวม 476 แรงม้า ราคา 6,999,000 บาท
ฝั่ง AMG โดดเด่นด้วย E 53 4MATIC+ Coupe และ CLS 53 4MATIC+ ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง M256 พร้อมระบบไฟฟ้า 48V และ EQ Boost ให้กำลังสูงสุด 435 แรงม้า CLS 53 ประกอบในประเทศ ราคา 5,350,000 บาท ส่วน E 53 Coupe นำเข้า ราคา 6,990,000 บาท
MG: ก้าวสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า
MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าต้นแบบ ที่ MG แถลงว่าจะนำเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวามาขายในไทยในปีนี้ ใช้มอเตอร์ 150 แรงม้า วิ่งได้ไกล 335 กิโลเมตร (NEDC)
MG V80 รถตู้ 11 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร 136 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ราคา 988,000 บาท และเกียร์ SELEMATIC 1,038,000 บาท
Mitsubishi: นวัตกรรมแห่งอนาคตและขุมพลังออฟโรด
Mitsubishi นำเสนอรถต้นแบบ e-Evolution ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า ดีไซน์ล้ำสมัย ขุมพลังมอเตอร์ 3 ตัว ระบบ AYC (Active Yaw Control) และ AI สุดล้ำ
Triton Absolute รถกระบะแต่งสไตล์ออฟโรด โชว์แนวคิด “Build-up Robustness” ยาง Falken Wildpeak ล้ออัลลอยสีดำ กันชนหน้าและโป่งล้อลายคาร์บอน ช่วงล่างยกสูง 50 มม. เป็นรถต้นแบบที่รอการตอบรับจากลูกค้า
Nissan: เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่
Nissan X-Trail Minorchange มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เบนซิน และรุ่น Hybrid 2.0 ลิตร ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัยอัจฉริยะ เช่น Intelligent Cruise Control, Intelligent Around View Monitor
Navara Black Edition II กระบะดีไซน์ดุดัน ชุดแต่งเฉพาะรุ่น กราฟิกสีส้ม ล้อ 18 นิ้ว ภายในมี Cruise Control และ Around View Monitor
Almera Sportech SV รุ่นพิเศษของ Almera โฉมสุดท้าย ได้รับการปรับแต่งสเกิร์ตและสปอยเลอร์หลัง
Porsche: ขีดสุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ต
AAS Auto Service นำ Porsche 911 เจเนอเรชั่นใหม่ (992) มาเผยโฉมครั้งแรกในเอเชีย มีรุ่น Carrera S และ Carrera 4S เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร Twin Turbo Boxer-6 8 จังหวะ PDK ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Wet mode ราคาเริ่มต้น 12,150,000 บาท (Carrera S) และ 12,850,000 บาท (Carrera 4S)
911 GT3RS รถเวอร์ชั่นไร้เทอร์โบที่ร้ายกาจที่สุด เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร 6 สูบนอน Boxer 520 แรงม้า สามารถวิ่งรอบ Nurburgring ได้ใน 6:56.4 นาที
Rolls-Royce: ความหรูหราเหนือระดับ
Rolls-Royce Phantom รุ่นที่ 8 เครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า ราคาเริ่มต้น 53.5 ล้านบาท
Subaru: สไตล์ที่แตกต่าง
Subaru XV GT Edition ตกแต่งพิเศษด้วยชุด Aerodynamic Kit ล้ออัลลอย 17 และ 18 นิ้ว เบาะหนังสีดำสลับขาว ราคา 1,338,000 บาท (17 นิ้ว) และ 1,358,000 บาท (18 นิ้ว)
Suzuki: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว และ MPV ประหยัด
All-new Suzuki Jimny รถจี๊ปขนาดเล็กจากญี่ปุ่น นำเข้าทั้งคัน เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 102 แรงม้า ราคา 1,550,000 บาท (เกียร์ธรรมดา) และ 1,650,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ) แม้ราคาสูง แต่ล็อตแรก 30 คันหมดภายใน 6 ชั่วโมง
Suzuki Ertiga 2019 MPV ใหม่ ใช้โครงสร้าง HEARTECT เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ราคาตัวท็อป 695,000 บาท
Toyota/Lexus: ตำนานสปอร์ตและยนตรกรรมอเนกประสงค์
All-new Toyota Supra (A90) รถสปอร์ตที่สานต่อตำนาน ใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างร่วมกับ BMW Z4 มีให้เลือก 3 แบบเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ (184 แรงม้า, 258 แรงม้า) และ 3.0 ลิตร เทอร์โบ (340 แรงม้า) คาดว่าจะเปิดตัวปลายปีนี้
All-new Toyota Commuter รถตู้ขนาดใหญ่ ตัวถังยาว 5,915 มิลลิเมตร เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร VN-Turbo 177 แรงม้า คาดว่าจะเปิดตัวกลางปีนี้
Lexus UX250h Hybrid ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ดีไซน์เรียบหรู เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atkinson Cycle Hybrid 184 แรงม้า มี 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
Volvo: ความปลอดภัยและสไตล์พรีเมียม
Volvo นำเสนอแคมเปญ “Drive Your Desire” ที่ให้ลูกค้าสามารถอัปเกรดรุ่นย่อยของรถที่สนใจได้ฟรี พร้อมบริการซ่อมบำรุงนาน 10 ปี สำหรับรุ่น XC40, XC60, XC90 และ S90
บทสรุป: การเดินทางสู่อนาคตยานยนต์
มหกรรมยานยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2561 ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ล่าสุด แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงและทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต การให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ประสบการณ์การขับขี่ คุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก และความปลอดภัย กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนวงการยานยนต์ไทยต่อไป
หากท่านกำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หวังว่าข้อมูลจากงานนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของท่าน หากต้องการข้อมูลเชิงลึก หรือคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใดเป็นพิเศษ อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญ หรือเยี่ยมชมบูธของผู้จำหน่ายโดยตรง เพื่อให้ท่านได้พบกับยานยนต์ที่ใช่ สำหรับไลฟ์สไตล์ของท่านอย่างแท้จริง.
