• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0401024 แม สาม โหด ถอดปล กเคร องช วยหายใจล กสะใภ เขาทำแบบน ตอนจบเป นเพราะแบบน เอง part2

admin79 by admin79
December 31, 2025
in Uncategorized
0
N0401024 แม สาม โหด ถอดปล กเคร องช วยหายใจล กสะใภ เขาทำแบบน ตอนจบเป นเพราะแบบน เอง part2

มหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสู่ยุคใหม่: เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุ่มงบ 30 ล้านดอลลาร์ ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ในไทย พร้อมยกระดับสู่อุตสาหกรรม EV ระดับภูมิภาค

ในยุคที่โลกยานยนต์กำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สู่ยุคแห่ง “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือ “EV” ประเทศไทยกำลังถูกจับตามองในฐานะศูนย์กลางการผลิตและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเข้ามาลงทุนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Great Wall Motor (GWM) สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นของประเทศไทยในด้านนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อก่อตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดได้ในปีหน้า

จากข้อมูลที่ได้รับ การลงทุนครั้งสำคัญนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า EV” ที่สำคัญของภูมิภาค การตัดสินใจของ GWM ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก หากพิจารณาจากความสำเร็จอย่างงดงามของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Ora Good Cat ที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2565 ซึ่งสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน “รถยนต์ EV ขายดี” ในตลาดประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงนี้ มีราคาเริ่มต้นที่ 828,500 บาท ก่อนจะได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่แข็งแกร่งจากผู้บริโภคชาวไทยต่อเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า

“ณรงค์ สีตลายน” กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย (GWM) ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการลงทุนนี้ว่า สำนักงานใหญ่ของ GWM ในมณฑลเหอเป่ย กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในประเทศไทย ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับ “รถกระบะไฟฟ้า” โดยเฉพาะ การลงทุนในด้าน R&D นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับขีดความสามารถของ GWM ในการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดท้องถิ่นและภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

ไทย: สนามรบใหม่แห่งวงการ “รถยนต์ไฟฟ้า EV”

รัฐบาลไทยเองก็มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนสัดส่วนการผลิตรถยนต์ 30% จากปริมาณการผลิตรวม 2.5 ล้านคันต่อปี ให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ภายในปี 2573 นโยบายนี้รวมถึงการลดหย่อนภาษีและการให้เงินอุดหนุนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์และกระตุ้นการซื้อ “รถยนต์ EV” ของผู้บริโภค การลงทุนของ GWM นี้ จึงสอดคล้องกับทิศทางนโยบายของภาครัฐอย่างลงตัว และจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

โรงงานประกอบแบตเตอรี่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 500-1,000 ล้านบาท ขนาดที่แน่นอนของโรงงานจะขึ้นอยู่กับแผนงานที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการอัปเกรดโรงงานเพื่อรองรับการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในอนาคต ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและระดับการสนับสนุนจากภาครัฐ

“เราอาจก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายสำคัญที่สามารถทำสัญญากับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตแบตเตอรี่ของเราให้สูงขึ้นไปอีก” ณรงค์ สีตลายน กล่าวเสริม การขยายบทบาทของ GWM จากเพียงผู้ผลิตรถยนต์ ไปสู่ผู้ผลิตส่วนประกอบสำคัญอย่างแบตเตอรี่ จะเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทาน “รถยนต์ไฟฟ้า EV” ในประเทศไทย

แม้ว่า GWM และ BYD จากจีน จะทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในประเทศไทย แต่ตลาดรถยนต์ไทยยังคงมีผู้เล่นรายใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมาอย่างยาวนาน นั่นคือผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Toyota และ Isuzu ซึ่งยังคงเป็นผู้นำในตลาด “รถยนต์กระบะ” ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” จึงน่าจับตามองเป็นพิเศษ ว่ายักษ์ใหญ่จากจีนจะสามารถเข้ามาแบ่งเค้กส่วนนี้ไปได้มากน้อยเพียงใด

Audi: ฉลอง 40 ปี Audi Sport ด้วยยนตรกรรม High Performance ขีดสุดแห่งสมรรถนะ

ในขณะที่โลกยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตลาดรถยนต์สมรรถนะสูง หรือ “High Performance Cars” ก็ยังคงมีความน่าสนใจและมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น Audi ประเทศไทย ได้เปิดตัวโครงการสุดพิเศษ “TT RS Heritage Thailand Limited Edition” ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตเพียง 25 คันทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปี ของ Audi Sport Sub-brand อันทรงเกียรติ

“กฤษณะกร เศวตนันทน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ Audi ประเทศไทย กล่าวถึงกระแสตอบรับอันล้นหลามจาก Audi Fan ชาวไทย ว่าส่งผลให้ยอดขาย Audi TT Family ในปี 2565 ขึ้นเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 2 ในเอเชีย (รองจากญี่ปุ่น) ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ด้วย DNA ของมอเตอร์สปอร์ตที่ถ่ายทอดมาสู่ Audi TT Coupé Final Icon Black และ Audi TT Coupé Final Icon Red ที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายกลุ่ม Audi TT ของ Audi ประเทศไทย ขยับขึ้นไปเป็นอันดับ 5 ของโลก และอันดับ 2 ในเอเชีย ยิ่งเป็นการยืนยันความรักและความผูกพันที่แฟน Audi ชาวไทยมีต่อ Audi TT

เพื่อให้สมกับความนิยมดังกล่าว AUDI AG และ Audi ประเทศไทย ใช้เวลาเกือบ 2 ปี ในการรังสรรค์โปรเจกต์สุดพิเศษสำหรับ Icon Model ระดับตำนานรุ่นนี้ อันเป็นที่มาของ “TT RS Heritage Thailand Exclusive Edition” รถลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มีเพียง 25 คันทั่วโลกเท่านั้น

ปี 2566 เป็นปีที่ AUDI AG ฉลองความสำเร็จครบรอบ 40 ปี ของ Audi Sport ซึ่งเป็น Sub-brand ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนารถยนต์กลุ่ม “High-Performance” ที่ไร้ขีดจำกัดทั้งด้านสมรรถนะและการออกแบบที่สปอร์ต ตั้งแต่ปี 1983 จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลกและโลดแล่นในสนามแข่งมาโดยตลอด TT RS ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่สำคัญภายใต้การพัฒนาของ Audi Sport และปัจจุบัน Audi TT กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 รถสปอร์ตไอคอนรุ่นนี้เป็นที่รักของแฟน Audi ทั่วโลก ด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ (Iconic Sports Car) และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ ได้รับการพัฒนามาจนถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปที่ดีที่สุด

TT RS Heritage Thailand Limited Edition มาพร้อมราคา 5,899,000 บาท Audi ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ได้รับการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษนี้ใกล้เคียงกับ World Premier และนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างทันท่วงที รถยนต์ในตระกูล RS ซึ่งมีรากฐานมาจาก Audi Sport หรือ “รถสปอร์ตสมรรถนะสูง” กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศไทย Audi ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถในตระกูล High Performance ไปแล้วถึง 11 รุ่นย่อย 9 body types ทำให้มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รวมทั้งสิ้น 41 รุ่นย่อย 20 body types

TT RS Heritage Thailand Limited Edition โดดเด่นด้วยสีภายนอกและภายในแบบ Exclusive Colors จับคู่กับดีไซน์แบบ Black Edition ให้ลุคดุดันรอบคัน ชุดแต่ง RS spoiler แบบ Winglets ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิกส์ และลายล้อสุดพิเศษแบบ 5 ก้าน Anthracite Black diamond-turned ขนาด 20 นิ้ว แรงบันดาลใจสีพิเศษ 5 สี ได้แก่ Alpine White, Helios Blue, Stone Grey, Tizian Red และ Malachite Green มาจากสีที่เคยใช้ในรุ่น Ur-Quattro ซึ่งเป็น Iconic model ในช่วงปี 1980s และเคยได้รับรางวัล Rally Champion

ประสบการณ์ขับขี่แบบสปอร์ตได้รับการถ่ายทอด DNA จากรุ่นพี่อย่าง R8 ด้วยเครื่องยนต์ 5 สูบ 20 วาล์ว 400 แรงม้า ที่ได้รับรางวัล International Engine of the Year Awards ถึง 9 สมัยติดต่อกัน มาพร้อมช่วงล่าง Audi Magnetic ride ที่สามารถปรับความแข็งอ่อนของโช้คอัพได้อย่างอิสระ มอบการขับขี่ที่สนุกสนานและควบคุมได้อย่างมั่นใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ก็ช่วยเสริมความมั่นคงในการยึดเกาะถนน

Audi TT Coupé เปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 ที่งาน Frankfurt Motor Show และได้กลายเป็นไอคอนแห่งรถสปอร์ต ด้วยการออกแบบที่ร่วมสมัยเหนือกาลเวลา เส้นสายที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว และแตกต่างจากรถสปอร์ตอื่น ๆ ในยุคนั้น ทำให้ Audi TT ครองใจผู้ที่ชื่นชอบรถทั่วโลก

ในปี 2006 Audi TT Family เปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยการผสมผสานงานประกอบอลูมิเนียมที่ลงตัว และ Dynamic ในการขับขี่ที่ผสานเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จกับเทคโนโลยีช่วงล่าง Audi Magnetic Ride ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ต่อมาในปี 2009 Audi TT RS ได้เปิดตัวพร้อมเครื่องยนต์ 5 สูบแถวเรียง 340 แรงม้า ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะ นวัตกรรม และประสบการณ์การขับขี่

ในปี 2014 เจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Audi TT มาพร้อมรูปลักษณ์ที่สปอร์ต ปราดเปรียว และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ Audi Virtual Cockpit ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน และยังคงรักษาฝาถังน้ำมันทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน

“RC 4 Avant Competition” และ “RS 5 Coupé Competition” คืออีกสองรุ่นพิเศษที่ Audi ประเทศไทย เปิดตัวพร้อมกันเพื่อยกระดับมาตรฐานรถยนต์สาย “Performance” ให้สูงยิ่งขึ้น

RS 4 Avant Competition คือนิยามของความสมบูรณ์แบบในรถยนต์สเตชั่นแวกอนสมรรถนะสูงที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับความประณีตได้อย่างลงตัว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro แบบไดนามิก สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่น่าจดจำเสมือนอยู่ในสนามแข่ง RS 4 Avant Competition ได้กลายเป็นขวัญใจของผู้รักความแรง และสร้างความตื่นเต้นให้กับ Audi Sport GmbH และฐานแฟน Audi ทั่วโลกมานานกว่า 20 ปี

รถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์ Avant มาพร้อมลุคที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม ล้อขนาด 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi Sport สี Phantom black และสีทูโทน Phantom black high-gloss milled พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อันชาญฉลาด สร้างความมั่นใจในการควบคุมทุกเส้นทาง เสริมด้วยระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports plus สี Matt Black ส่งเสียงคำรามจากห้องเครื่องสู่ท้องถนนอย่างเร้าใจ ขุมพลัง V6 biturbo ระเบิดพลัง 450 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม.

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ Honeycomb และด้ายสีแดง เบาะหลังหุ้มหนัง Fine Nappa ห้องโดยสารตกแต่งลาย Matte Carbon Twill พร้อมไฟ Ambient light ปรับได้ 30 เฉดสี ควบคุมขุมพลังผ่านพวงมาลัยสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift แสดงข้อมูลผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง พร้อมระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3 มิติ

RS 5 Coupé Competition มาพร้อมดีไซน์ที่แม่นยำ สะท้อนทั้งประสิทธิภาพและความสวยงามที่โดดเด่น ผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างแนบเนียน DNA ขุมพลังในสนามแข่งคือหัวใจสำคัญของ Audi Sport และ RS 5 Coupé Competition ก็มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เร้าใจยิ่งกว่าเดิม ล้อขนาด 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi Sport สี Phantom black และสีทูโทน Phantom black high-gloss milled พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ดุดันด้วยชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS เครื่องยนต์ V6 biturbo 450 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro สร้างความมั่นคงในทุกสถานการณ์

ห้องโดยสารลุคสปอร์ต เบาะนั่งคู่หน้า RS Sports ตกแต่งแบบ Honeycomb และด้ายสีแดง คอนโซลกลางหุ้ม Alcantara สีดำ เบาะนั่งหุ้มหนัง Fine Nappa พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Competition ที่ประตูหน้า-หลัง ห้องโดยสารตกแต่งลาย Matte Carbon Twill พร้อมไฟ Ambient light 30 เฉดสี ควบคุมผ่านพวงมาลัยสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift แสดงข้อมูลผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3 มิติ

เทคโนโลยีไฟหน้า Matrix LED และ Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัด แม่นยำ ปรับการทำงานอัตโนมัติ และเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยให้มีระยะส่องสว่างถึง 600 เมตร เพิ่มความปลอดภัยอย่างยิ่งยวด

Ora Grand Cat: รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองแห่งปี 2025

ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า Ora Grand Cat เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยสเปคที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 705 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

Ora Grand Cat เปิดสเปคอย่างเป็นทางการและเตรียมเข้าสู่ตลาดประเทศไทย โดยสเปคที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือรุ่นที่วิ่งได้ไกล 705 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน CLTC) Ora Grand Cat มีขนาดตัวถัง ยาว 4871 มม. กว้าง 1862 มม. สูง 1500 มม. ระยะฐานล้อ 2870 มม.

รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ Lithium iron Phosphate สามารถวิ่งได้ 705 กม./ชาร์จ (CLTC) ระบบขับเคลื่อนสองล้อ ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 30 นาที

รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 402 แรงม้า แรงบิด 680 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที แบตเตอรี่ Ternary lithium สามารถวิ่งได้ 600 กม./ชาร์จ (CLTC) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 30 นาที

Ora Grand Cat ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่น่าสนใจ เช่น มือจับประตูแบบซ่อนอัจฉริยะ, ไฟหน้าอัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบทำความร้อนและไล่ฝ้า พับอัตโนมัติหลังล็อครถ, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ประตูแบบไร้กรอบ และค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านลมเพียง 0.22Cd ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและสมรรถนะการขับขี่

ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ORA-PILOT 3.0 พร้อมเซ็นเซอร์ 28 ตัว รวมถึงกล้อง ADAS, เรดาร์คลื่น 5 มม., เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 4 ตัว, กล้องจดจำใบหน้า 3 มิติ, แผนที่ความแม่นยำสูงผ่านดาวเทียม 5G และระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะบนทางหลวง

Ora Grand Cat ยังได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มข้นเกินกว่ามาตรฐานแห่งชาติ ด้วยการทดสอบการตกจากความสูง 6 เมตร หมุนกลางอากาศ และการตกสู่พื้นพร้อมหมุนอีก 5 รอบ หลังจากการทดสอบ แบตเตอรี่ถูกปิดการทำงานอย่างรวดเร็วด้วยไฟฟ้าแรงสูง และไม่มีการรั่วไหลของอิเล็กโทรไลต์ ตัวถังรถไม่บุบสลาย ห้องโดยสารยังคงสภาพดี ถุงลมนิรภัยทำงานตามปกติ ประตูรถเปิดได้ตามปกติ และระบบ E-CALL สำหรับการกู้ภัยฉุกเฉินก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ ผลการทดสอบนี้ยืนยันถึงความปลอดภัยระดับสูงของ Ora Grand Cat

Hyundai i30 N: สปอร์ตแฮตช์แบ็กสายพันธุ์ดุ ส่ง DNA รถแข่งสู่ถนน

ในอีกมุมหนึ่งของวงการรถยนต์สมรรถนะสูง Hyundai i30 N แฮตช์แบ็กสายพันธุ์ดุที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าจับตามอง หากมีการนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

Hyundai Motor บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ของโลก มีธุรกิจที่แข็งแกร่งในยุโรป โดยเฉพาะรถ SUV รุ่นขายดีอย่าง Tucson และ Kona ในกลุ่มแฮตช์แบ็กอย่าง i20 และ i30 ก็ถือว่าทำตลาดได้ดี แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Volkswagen, Peugeot และ Toyota

กิจกรรม Hyundai Driving Experience 2023 ที่สนาม Ricardo Tormo เมือง Valencia ประเทศสเปน เป็นโอกาสให้สื่อมวลชนจากอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ได้สัมผัสสมรรถนะของ Hyundai i30 N แฮตช์แบ็กตัวแรงอย่างใกล้ชิด แม้ Hyundai Mobility ประเทศไทย ยังไม่มีแผนทำตลาดรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ แต่การได้ทดสอบรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล N Brand ในสนามแข่งระดับโลก ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า

Hyundai i30 N เป็นรถ Hot Hatch ที่นำรถบ้านมาปรับแต่งสมรรถนะ เพิ่มความโหดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Direct Injection Turbocharged 280 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ Dual Clutch 8 สปีด พร้อมชุด Aeroparts รอบคัน ช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ และล้ออัลลอยด์ Forged ขนาด 19 นิ้ว

การขับขี่ในกิจกรรมนี้ สื่อมวลชนกลุ่มอาเซียนได้ใช้ Hyundai i30 N เกียร์ Dual Clutch โดยเริ่มจากการทำความคุ้นเคยกับรถผ่านสถานีต่างๆ เช่น เบรกทางตรง, เบรกในโค้ง, Lane Change, Gymkhana และ J-Turn โดยมีครูฝึกผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำและดูแลตลอดการฝึกอบรม

แม้หลายสถานีของการฝึกอบรมจะเป็นสถานการณ์จำลองที่อาจไม่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่เป้าหมายหลักคือการให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสสมรรถนะ เรียนรู้ขีดจำกัดของรถ และฝึกฝนทักษะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น การเข้าใจอาการของรถยนต์เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ และการคาดการณ์อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ย่อมส่งผลให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นอกจากการเข้าร่วมกิจกรรม Driving Experience 2023 แล้ว ยังมีโอกาสได้เยี่ยมชมศักยภาพของแผนก Hyundai Motorsport ในประเทศอิตาลี พร้อมชมการแข่งขัน WRC ที่ Hyundai เคยคว้าแชมป์โลกมาแล้วถึง 2 สมัย การผลักดันแบรนด์ในหลากหลายมิติ ทั้งการจัดกิจกรรม Driving Experience และการเข้าร่วมเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก เป็นการสะท้อนสมรรถนะของรถยนต์ในตระกูล N และการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% EV ซึ่งรถเหล่านี้มีโอกาสทำตลาดในประเทศไทยในอนาคตอย่างแน่นอน

อนาคตที่สดใสของวงการยานยนต์ไทย

การลงทุนของ Great Wall Motor ในการตั้งโรงงานแบตเตอรี่, การเปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษของ Audi ที่สะท้อนถึงความสำเร็จของแบรนด์ในตลาดไทย, การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า Ora Grand Cat ที่มอบทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค, และศักยภาพของรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง Hyundai i30 N ที่อาจมีโอกาสเข้ามาทำตลาดในอนาคต ล้วนเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความคึกคักและความน่าสนใจของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของวงการยานยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า EV” หรือ “รถยนต์สมรรถนะสูง” ผู้บริโภคชาวไทยจะมีทางเลือกที่หลากหลายและดีที่สุดให้เลือกสรร

หากคุณคือผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ในปัจจุบัน หรือรถยนต์สมรรถนะสูงที่พร้อมจะพาคุณโลดแล่นไปบนทุกเส้นทาง อนาคตของยานยนต์ในประเทศไทยกำลังรอคุณอยู่ อย่าพลาดที่จะติดตามข่าวสารและโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 และปีต่อๆ ไป หากคุณพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์แห่งอนาคต ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่คุณสนใจเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมและสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครได้แล้ววันนี้!

Previous Post

N0401004 หญ งคนน ทำไมถ งกล วพ อสาม ของเขา งๆท พวกเขาพ งเจอก นคร งแรก part2

Next Post

N0401006 แม งล กสาวแต งต วเซ กซ เพ อไปย วเจ านาย แม แบบน ณค ดเห นว าย งไง part2

Next Post
N0401006 แม งล กสาวแต งต วเซ กซ เพ อไปย วเจ านาย แม แบบน ณค ดเห นว าย งไง part2

N0401006 แม งล กสาวแต งต วเซ กซ เพ อไปย วเจ านาย แม แบบน ณค ดเห นว าย งไง part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0301044_ กร กของแม ตอน านหร ไม ได ให ความร แค เง นก บคำว ยอม องแลก_part2
  • N0301040 (จบ)เกล ยดล กต วเอง บางชะตาไม ได กสล เพ อทำร ายใคร แต เพ อพาครอบคร วกล บมาหาก part2
  • N0301041 (ตอนจบ) สล บชะตาห วใจ วใจของเด กด ไปเต นในอกคนเคยเลว part2
  • N0301053_วงแค นพ ธนาการ ตอน เขาบ งค บให เธอย มในฐานะเจ าสาว ภายใต ความแค นบนรอยย มของเธอ_part2
  • N0301043_สายเล อดอำพราง ตอน ปวาดใบเด ยว ทำให เขาร าเธอไม เคยหายไปจากใจเขาเลย_part2

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.