Capella Bangkok จับมือ BMW ประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์การเข้าพักสู่มาตรฐานระดับโลก
ในโอกาสอันน่ายินดีที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ (Capella Bangkok) ได้รับการประกาศศักดิ์ศรีให้เป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของโลกประจำปี 2024 จากเวที The World’s Best Hotels Awards ณ กรุงลอนดอน บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย (BMW Thailand) ในฐานะพันธมิตรผู้ทรงเกียรติ ขอร่วมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยการประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ที่มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้แก่แขกผู้เข้าพักทุกท่าน ด้วยการนำเสนอยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดระดับโลกอย่าง BMW 750e xDrive M Sport และยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อันล้ำสมัยอย่าง BMW i7 xDrive60 M Sport ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างความสะดวกสบายไร้ขีดจำกัด แต่ยังเป็นการผสานสุดยอดนวัตกรรมการเดินทางเข้ากับเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งกรุงเทพมหานครได้อย่างลงตัว
Capella Bangkok: ประตูสู่ความสง่างามเหนือกาลเวลาบนคุ้งน้ำเจ้าพระยา
โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ สถิตสง่างามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เปรียบเสมือนประตูสู่ความงดงามอันเป็นนิรันดร์ ทัศนียภาพอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจากห้องสวีทหมายเลข 101 และเหล่าวิลล่า คือนิยามของความพิเศษที่มอบให้แก่ผู้มาเยือน การออกแบบของโรงแรมผสมผสานสไตล์โมเดิร์นเข้ากับความสะดวกสบายอย่างลงตัว ทุกพื้นที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบการพักผ่อนอันเงียบสงบ ท่ามกลางสีสันอันมีชีวิตชีวาของมหานครแห่งนี้ โรงแรมยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและบาร์ชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิ ร้าน Côte โดยเชฟ Maurizio Colagreco ที่ได้รับดาวมิชลิน และ Auriga Spa โอเอซิสแห่งการปรนนิบัติที่พร้อมคืนความสดชื่นให้แก่ทุกท่าน ที่พักหรูแห่งนี้ไม่เพียงยกระดับประสบการณ์การเข้าพัก แต่ยังเชื่อมโยงผู้มาเยือนเข้ากับจิตวิญญาณอันเข้มข้นของกรุงเทพฯ ได้อย่างลึกซึ้ง การที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ได้รับการจัดอันดับให้เป็น โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก จาก The World’s 50 Best Hotels 2024 ถือเป็นการก้าวกระโดดอย่างน่าภาคภูมิใจ สะท้อนถึงการเป็นผู้นำในยุคใหม่ของวงการโรงแรมหรูในเอเชีย
BMW ประเทศไทย: ขับเคลื่อนอนาคตแห่งประสบการณ์ลักชัวรี
มร. เรเน่ เกอร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า “พันธกิจหลักของบีเอ็มดับเบิลยูคือการมุ่งมั่นขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านนวัตกรรมแห่งการขับขี่และการเดินทางที่ดีที่สุด เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอยนตรกรรมอันล้ำสมัยของเรา ทั้ง BMW 750e xDrive M Sport และ BMW i7 xDrive60 M Sport ให้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมแก่แขกผู้เข้าพัก ณ โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกอย่าง “คาเพลลา กรุงเทพ” บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ขอร่วมแสดงความยินดีอย่างสุดใจต่อความสำเร็จของทางโรงแรม โดยยานยนต์ระดับพรีเมียมของเรานั้นคู่ควรอย่างยิ่งกับสถานะระดับโลกนี้ ความร่วมมือนี้ยังสอดคล้องกับความพยายามอันไม่หยุดยั้งของบีเอ็มดับเบิลยูในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าทุกท่าน เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่มอบให้ และผลักดันแบรนด์ของเราไปสู่ความสำเร็จใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง”
มร. จอห์น แบลนโก ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนให้กับแขกผู้เข้าพักของเรา การผสานนวัตกรรมอันล้ำสมัยของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากับการบริการอันอบอุ่นและได้มาตรฐานระดับสูงของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ทำให้เราสามารถมอบความสะดวกสบายสูงสุดในการเดินทางแก่แขก ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ไปจนถึงการสัญจรภายในกรุงเทพมหานครอันคึกคักแห่งนี้”
BMW 750e xDrive M Sport และ BMW i7 xDrive60 M Sport: นิยามใหม่แห่งการเดินทางหรูหราและยั่งยืน
ประสบการณ์สุดพิเศษ ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ได้รับการยกระดับอย่างสมบูรณ์แบบด้วยยนตรกรรม BMW 750e xDrive M Sport และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% BMW i7 xDrive60 M Sport ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นสะท้อนถึงความหรูหรา การออกแบบที่ล้ำสมัย และสอดคล้องกับนิยามของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
BMW 750e xDrive M Sport มาพร้อมขุมพลังที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ประสิทธิภาพรวมสูงสุดถึง 360 กิโลวัตต์ (489 แรงม้า) และแรงบิดรวมสูงสุด 700 นิวตันเมตร การออกแบบภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่ดีไซน์ใหม่ และชุดไฟหน้า Crystalheadlights with Swarovski® Optics ที่เพิ่มมิติด้วยฟังก์ชัน Iconic Glow สะท้อนความหรูหราเหนือระดับ ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยเบาะนั่งตอนหลังแบบ Executive Lounge พร้อมฟังก์ชันการนวดผ่อนคลายสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง ระบบความบันเทิงล้ำสมัยจัดเต็มด้วย BMW Theatre Screen ขนาด 31.3 นิ้ว ความละเอียด 8K อันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ทำให้ทุกการเดินทางเปี่ยมไปด้วยความสุขและความบันเทิง
ในขณะเดียวกัน BMW i7 xDrive60 M Sport คือภาพสะท้อนของอนาคตแห่งการขับขี่ที่ยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ภายในห้องโดยสารอันโอ่อ่า อลังการด้วย BMW Theatre Screen ขนาด 31.3 นิ้ว ที่มอบภาพความละเอียดระดับ 8K พร้อมฟังก์ชันด้านความปลอดภัยอัจฉริยะแบบครบวงจร ทำให้ทุกการเดินทางกลายเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ สะดวกสบาย และปลอดภัยอย่างแท้จริง
ยานยนต์ระดับพรีเมียมทั้งสองรุ่นนี้ คือส่วนสำคัญที่สะท้อนถึงประสบการณ์อันได้รับการออกแบบมาเพื่อแขกผู้เข้าพักโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ สร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา ความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์อันเหนือระดับใจกลางมหานคร
ยกระดับประสบการณ์การเดินทางและต้อนรับสู่กรุงเทพฯ
ความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสบการณ์สำหรับแขกผู้เข้าพัก ด้วยบริการลิมูซีนสุดหรูที่ผสานนวัตกรรมชั้นนำและบริการระดับโลกเข้าไว้ด้วยกัน seamlessly ผสานการเดินทางอันน่าประทับใจเข้ากับการพักผ่อนอันเหนือระดับ
การวิเคราะห์ตลาดรถยนต์และแนวโน้มปี 2024-2025: ภาพรวมจาก Motor Expo 2024
ใกล้สิ้นสุดมหกรรมยานยนต์ Thailand International Motor Expo 2024 ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ผมได้สังเกตการณ์แนวโน้มของตลาดรถยนต์ไทยอย่างใกล้ชิดตลอด 9 วันแรกของงาน และได้เปรียบเทียบกับผลงานในช่วง 9 วันแรกของงาน Motor Show เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดในปี 2024 นี้ ยังคงมีความท้าทาย แต่ก็มีสัญญาณบวกที่น่าสนใจจากหลายค่าย
ภาพรวมตลาด: ยอดจองรวมในช่วง 9 วันแรกของ Motor Expo 2024 แม้จะยังไม่สูงเท่าบางช่วงเวลาในอดีต แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์ใหม่ที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น:
Toyota: ยังคงครองความเป็นผู้นำด้วยยอดจองที่แข็งแกร่ง แม้ว่ารถรุ่นใหม่อย่าง Yaris Cross จะออกสู่ตลาดไปตั้งแต่ต้นปี และ Camry ที่เปิดตัวช่วงปลายปีก็เน้นสร้าง Volume ในกลุ่ม D-Segment แต่ภาพรวมยอดจองยังคงทรงตัวได้ดี สะท้อนถึงฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
Honda: แสดงผลงานที่น่าประทับใจในงานนี้ โดยเฉพาะรุ่น HR-V Minorchange ที่ปรับราคาลงมาให้เข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมโปรโมชันที่น่าสนใจ ส่งผลให้ยอดจองดีกว่าช่วงต้นปี
Mitsubishi: สร้างความประหลาดใจด้วยยอดจองที่ดีเกินคาด แม้ว่าจะมีรุ่นหลักอย่าง Xpander HEV และ Triton ที่ได้รับความนิยม แต่รุ่น Pajero Sport ที่ปรับลดสเปกเกียร์ลงมา ก็ยังคงมีฐานลูกค้า
Nissan: ยังคงทรงตัวได้ดีกับรุ่น C27 Serena ที่ประกอบจากมาเลเซีย แม้จะไม่ใช่รถที่สร้าง Volume สูง แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าที่มองหา MPV แบบ 7 ที่นั่ง พร้อมประตูสไลด์
Mazda: มียอดจองที่ลดลงจากช่วงต้นปี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวยังไม่สามารถสร้างกระแสได้มากนัก
Isuzu: เผชิญความท้าทายจากสถานการณ์ทางการเงินของกลุ่มลูกค้าหลัก แต่ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร MAXFORCE และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ยังคงมีความน่าสนใจ
ค่ายรถยนต์จีน:
BYD: ยังคงเป็นดาวเด่นในตลาด EV ด้วยโปรโมชันที่น่าดึงดูด และรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวได้ราคาดี ทำให้ยอดจองพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
AION: เป็นม้ามืดที่น่าจับตามอง ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากการปรับกลยุทธ์ด้านราคาและความลงตัวของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ AION Y Plus และ Hyptec HT
MG: เผชิญศึกหนักจากรถรุ่นเดิมที่ขายมานาน และรุ่นใหม่ที่ยังไม่สามารถสร้างกระแสได้มากนัก แต่ก็ยังคงมีข้อเสนอที่น่าสนใจ
NETA: ยังคงรักษาตำแหน่งในตลาดได้ แม้จะมีรุ่นใหม่ที่ราคาดี แต่กระแสข่าวลือเกี่ยวกับสถานะทางการเงินอาจส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภค
Deepal: มียอดจองที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อาจได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจาก BYD
GWM: แม้จะมียอดขายที่ลดลง แต่การปรับราคา ORA ลงมา ทำให้ยังคงมีกลุ่มลูกค้าที่สนใจ
ค่ายรถยนต์ยุโรป:
BMW: แสดงผลงานที่แข็งแกร่งและยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มรถยุโรป ด้วยยอดจองที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถหรูได้
Mercedes-Benz: มียอดจองที่ลดลงจากช่วงต้นปี อาจเป็นเพราะขาดรถรุ่นใหม่ในกลุ่มราคาเข้าถึงง่าย
Audi & Porsche: ยังคงรักษาสถานะในตลาดได้ แม้จะไม่มีรุ่นใหม่ที่โดดเด่นมากนัก แต่ก็มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น
Volvo: มีผลงานที่คงเส้นคงวา ไม่หวือหวา แต่ก็มีลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ
แนวโน้มปี 2025: ตลาดรถยนต์ไทยคาดว่าจะยังคงเผชิญความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจ แต่ปัจจัยบวกจากนโยบายภาครัฐ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย และการแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า จะยังคงขับเคลื่อนตลาดต่อไป ค่ายรถที่สามารถปรับตัว นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า จะเป็นผู้ที่สามารถคว้าโอกาสในตลาดนี้ไปได้
BMW ประเทศไทย และ Four Seasons Bangkok: ยกระดับประสบการณ์การเดินทาง สู่การต้อนรับที่ไร้รอยต่อ
BMW ประเทศไทย ร่วมกับ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River) ประกาศยกระดับการบริการเหนือระดับแก่แขกผู้เข้าพัก ด้วยการนำเสนอ BMW 740d M Sport และยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% BMW i7 xDrive60 M Sport สู่การเป็น “Silent Arrival Experience” ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ไม่เพียงผสานความล้ำสมัยของการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ากับความสะดวกสบายระดับพรีเมียม แต่ยังเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ของประสบการณ์การบริการสำหรับโรงแรมหรู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอบริการเช็คอินภายในยานพาหนะ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ทำให้แขกรู้สึกถึงความพิเศษตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง
มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “การผนึกกำลังกับโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของบีเอ็มดับเบิลยู ในฐานะผู้นำด้านการเดินทางหรูหราที่ยั่งยืน การนำเสนอทางเลือกระหว่างยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง BMW i7 xDrive60 M Sport และยนตรกรรมอันทรงเกียรติอย่าง BMW 740d M Sport แก่แขกผู้เข้าพักของโรงแรม ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย แต่ยังเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ของประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมอีกด้วย โฟร์ซีซั่นส์เป็นหนึ่งในโรงแรมหรูชั้นนำของประเทศไทยที่เลือกใช้ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นนี้ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งมอบบริการและนวัตกรรมที่เหนือระดับ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ยังส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของบีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มลูกค้าโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 61% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการต่อผลิตภัณฑ์ บริการ และคุณค่าที่เรามอบให้”
โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ในย่านเจริญกรุง อันเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ของกรุงเทพฯ ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีท 299 ห้อง ที่มาพร้อมวิวแม่น้ำอันงดงาม สถาปัตยกรรมที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันโดย Jean-Michel Gathy สร้างสรรค์ให้เป็นโอเอซิสใจกลางเมืองที่ผสานเข้ากับบริการรถยนต์หรูของบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างลงตัว
ประสบการณ์การเดินทางที่ไร้รอยต่อและความหรูหราอย่างยั่งยืน
แขกผู้เข้าพักโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ สามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินทางสู่ความหรูหราและความยั่งยืนผ่านยนตรกรรมที่มาพร้อมนวัตกรรมอย่าง BMW i7 xDrive60 M Sport หรือยนตรกรรมอันทรงเกียรติอย่าง BMW 740d M Sport โดยมีพนักงานขับรถมืออาชีพจาก Bell Transport ที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี พร้อมผสานการบริการแบบไทยเข้ากับความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันเหนือระดับที่จะสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ
มร. ลูบอช บาร์ทา รองประธานประจำภูมิภาค และผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ความร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ในการส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ การผสานความเชี่ยวชาญระหว่างสองแบรนด์ระดับโลก ทำให้เราสามารถมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นและหรูหราให้แก่แขกผู้เข้าพัก ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงกรุงเทพฯ ยนตรกรรมหรูทั้งสองรุ่นนี้ ควบคู่ไปกับประสบการณ์การเช็คอินแบบไร้รอยต่อ ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของแขกที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความยั่งยืน แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสรรค์การเดินทางที่จะตราตรึงใจ”
บริการลิมูซีนด้วย BMW i7 xDrive60 M Sport และ BMW 740d M Sport พร้อมให้บริการสำหรับการเดินทางระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาที ซึ่งจะเปลี่ยนการเดินทางธรรมดาให้กลายเป็นประสบการณ์พิเศษที่น่าจดจำ
“Silent Arrival Experience”: ปฏิวัติการเช็คอินสู่ยุคใหม่
บริการรับ-ส่งสนามบินอันล้ำสมัยนี้ นำเสนอกระบวนการเช็คอินแบบใหม่ที่พลิกโฉมประสบการณ์ เมื่อแขกพบกับพนักงานขับรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะสามารถทำการเช็คอินเข้าพักได้โดยตรงภายใน BMW i7 xDrive60 M Sport หรือ BMW 740d M Sport ระหว่างการเดินทางไปยังโรงแรม การผสานการทำงานอย่างราบรื่นนี้ ทำให้แขกสามารถเดินทางไปยังห้องพักได้ทันทีเมื่อถึงโรงแรม โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ บริการนี้ยังเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะของยานยนต์ ช่วยให้การสื่อสารระหว่างรถรับ-ส่งกับทีมบริการของโรงแรมเป็นไปอย่างทันท่วงที เพื่อให้มั่นใจว่าห้องพักได้รับการจัดเตรียมอย่างสมบูรณ์แบบก่อนการมาถึง จึงตอบโจทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักธุรกิจและผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราที่ให้ความสำคัญกับเวลาและความสะดวกสบาย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโฟร์ซีซั่นส์ในการส่งมอบบริการที่เหนือความคาดหมาย
การนำเสนอยนตรกรรมทั้งสองรุ่นสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ในด้านความยั่งยืนและความเป็นเลิศด้านความหรูหรา โดย BMW i7 xDrive60 M Sport ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% สอดคล้องกับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมของโรงแรมอย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ BMW 740d M Sport ส่งมอบความเป็นเลิศด้านยานยนต์แบบคลาสสิกสำหรับแขกที่ชื่นชอบความหรูหราแบบดั้งเดิม ยนตรกรรมทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบความบันเทิงล้ำสมัย รวมถึง BMW Theatre Screen แบบพาโนรามา ซึ่งเสริมให้ประสบการณ์ความบันเทิงของโรงแรมสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เคียงคู่ไปกับห้องอาหารและบาร์ทั้ง 6 แห่ง รวมถึง BKK Social Club ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย
ประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษนี้ ได้รับการออกแบบให้สอดรับกับปรัชญา Urban Wellness Centre ของโรงแรม ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลทั้งกาย จิตใจ และการทำงาน ยกระดับการเดินทางให้เป็นมากกว่าแค่การรับ-ส่ง นักธุรกิจสามารถบริหารจัดการงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยระบบเชื่อมต่อความเร็วสูงที่พร้อมให้บริการตลอดการเดินทาง ในขณะที่แขกที่เดินทางเพื่อการพักผ่อน สามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายระดับพรีเมียมและระบบแสงแวดล้อมที่สะท้อนการออกแบบอันประณีต ระบบควบคุมอุณหภูมิและระบบป้องกันเสียงรบกวนของยนตรกรรมบีเอ็มดับเบิลยู สร้างบรรยากาศแห่งความสงบที่เตรียมพร้อมให้แขกสัมผัสกับการพักผ่อนที่รอคอยอยู่ ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
เชิญสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือระดับ
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การพักผ่อนและการเดินทางที่ผสมผสานความหรูหรา นวัตกรรม และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ และโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจแก่คุณ ด้วยการร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เชิญสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบ และก้าวเข้าสู่โลกแห่งความพิเศษที่รอคุณอยู่
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้แล้ววันนี้ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำของคุณ.

