มิตซูบิชิ มิราจ: นิยามใหม่ของรถยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน คุ้มค่า และก้าวล้ำ
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว การค้นหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการด้านการเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลายเป็นเป้าหมายหลักของผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก หรือที่นิยมเรียกว่า “อีโคคาร์” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันสูงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ที่มีประสบการณ์กว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์กลุ่มนี้มาอย่างใกล้ชิด และวันนี้ ผมขอพาทุกท่านไปสำรวจ มิตซูบิชิ มิราจ รถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่คือการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือกว่าคำว่า “เพียงพอ”
มิตซูบิชิ มิราจ: กลยุทธ์ระดับโลก สู่การตอบสนองตลาดไทย
มิตซูบิชิ มิราจ ถือเป็นผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในการตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีความต้องการยานยนต์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่ในประเทศพัฒนาแล้วที่กำลังให้ความสำคัญกับรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นไปตามกระแสการประหยัดพลังงานและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้น มิตซูบิชิ มิราจ ถูกออกแบบมาโดยมีเป้าหมายหลักคือการมอบ “ความประหยัดน้ำมันสูงสุด” ควบคู่ไปกับ “ความง่ายในการขับขี่” สไตล์รถยนต์ขนาดเล็ก ทว่าสิ่งที่ทำให้ มิราจ โดดเด่นและแตกต่าง คือการผสานความกะทัดรัดเข้ากับ “ความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่กว้างขวาง” พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน รองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 ที่นั่งอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น ความปลอดภัยคืออีกหนึ่งเสาหลักสำคัญในการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ มิตซูบิชิได้ทุ่มเทในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการใช้วัสดุ “เหล็กกล้ากำลังสูงพิเศษ (High-tensile steel)” ที่มีค่าความแข็งแรงสูงสุดถึง 980 MPa ผสานกับการนำเทคโนโลยี “การลดน้ำหนักตัวถังลงถึง 7%” ส่งผลให้น้ำหนักรวมของรถอยู่ที่ประมาณ 825-870 กิโลกรัมเท่านั้น การใช้น้ำหนักที่เบาลงนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่ม “ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน” แต่ยังส่งผลดีต่อ “สมรรถนะการขับขี่” อีกด้วย โครงสร้างตัวถังแบบ RISE Body อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ พร้อมคานกันกระแทกด้านข้างที่ประตูทั้ง 4 บาน ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันอันแข็งแกร่ง ลดและซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หัวใจสำคัญของ มิตซูบิชิ มิราจ คือเครื่องยนต์ MIVEC ใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ “การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด” พร้อมๆ กับการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เทรนด์ยานยนต์สีเขียว (Green Automotive) กำลังมาแรง การที่ มิตซูบิชิ มิราจ สอดคล้องกับนโยบาย “Eco Car” ของรัฐบาลไทย ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ควบคู่ไปกับการลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การออกแบบภายนอก: ศิลปะแห่งอากาศพลศาสตร์ สู่รูปลักษณ์ที่เหนือกว่า
ในมุมมองของผมในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการ การออกแบบภายนอกของ มิตซูบิชิ มิราจ ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่คือการผสมผสานระหว่างสุนทรียศาสตร์และวิศวกรรมขั้นสูงเพื่อเป้าหมายสูงสุด นั่นคือ “การประหยัดน้ำมันสูงสุด” ผ่านหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ที่ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน
เส้นสายของตัวรถถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความปราดเปรียวและสง่างาม การลดน้ำหนักตัวถังลงอย่างมีนัยสำคัญ ควบคู่ไปกับการออกแบบที่ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Drag Coefficient) ต่ำเพียง 0.29 ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดในรถระดับเดียวกัน ทำให้ มิราจ พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดแรงต้านของอากาศ ส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมัน
ชุดไฟหน้าได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวและทันสมัย ฝากระโปรงหน้ามีรูปทรงที่สอดรับกับเส้นสายของตัวรถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศรอบตัวรถ กระจังหน้าใต้กันชนมีขนาดใหญ่เพื่อการระบายความร้อนที่ดี ขณะที่ช่องระบายความร้อนด้านบนถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กเพื่อลดแรงต้านอากาศ นี่คือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกอณูของการออกแบบ
เส้นสายด้านข้างที่เฉียบคม ช่วยเสริมมิติและความโดดเด่นให้กับตัวรถ รูปทรงหลังคาได้รับการออกแบบให้ดูปราดเปรียว แต่ยังคงรักษาพื้นที่ภายในสำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกแบบหลังคาแบบ “สองระดับ” (Dual-level Roof) ที่ช่วยลดแรงต้านทานอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับรุ่น GLS และ GLS Limited ยังมีการติดตั้ง “สปอยเลอร์หลัง” ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยเสริมหลักอากาศพลศาสตร์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ห้องโดยสารตอนท้ายได้รับการออกแบบให้มีความปราดเปรียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศรอบตัวรถ ควบคู่ไปกับกันชนหลังขนาดใหญ่ที่เสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคง การใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบภายนอกนี้ ทำให้ มิตซูบิชิ มิราจ ไม่ใช่แค่รถยนต์อีโคคาร์ แต่คือรถยนต์ที่มี “การออกแบบที่เหนือกว่า”
และเพื่อตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ มิตซูบิชิ มิราจ มาพร้อมสีสันที่หลากหลายถึง 8 สี ให้เลือกสรร สะท้อนบุคลิกและความชอบที่แตกต่างของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง Lemonade Yellow Metallic ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สีเขียว Pop Green Metallic ที่เปรียบเหมือนจังหวะเพลงที่ลงตัว สีฟ้า Cerulean Blue Mica ที่สะท้อนสายลมเย็น สีแดง Red Metallic ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณ สีขาวมุก White Pearl ที่เปล่งประกาย สีบรอนซ์เงิน Cool Silver Metallic ที่เสริมสไตล์ให้โดดเด่น สีเทาดำ Eisen Gray Mica ที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก หรือสีดำ Black Mica ที่สะท้อนความหรูหรา การเลือกสีที่ใช่ คือการแสดงความเป็นตัวตนของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ภายในห้องโดยสาร: กว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจทุกรายละเอียด
ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารของ มิตซูบิชิ มิราจ คุณจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของมิตซูบิชิในการมอบ “ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ” แม้จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก การออกแบบภายในเน้นความเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความลงตัวในทุกมุมมอง แผงคอนโซลหน้าแบบเรียบตรง พร้อมการเน้นเส้นสายบริเวณส่วนหน้า ช่วยเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางและโปร่งสบาย คอนโซลหน้าสีดำ Piano Black ช่วยเสริมความโดดเด่นและความหรูหรา สำหรับรุ่น GLS และ GLS Limited การตกแต่งภายในด้วย “ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น” เช่น มือจับประตูด้านใน, ขอบมาตรวัด, ขอบช่องแอร์, และฐานเกียร์แบบโครเมียม ยิ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกพรีเมียม
มาตรวัดแบบ Combination Meter ที่สามารถปรับแสงสว่างได้ถึง 8 ระดับ ทำให้การอ่านค่าง่ายและชัดเจนในทุกสภาพแสง พร้อมหน้าจอ “Multi-information Display” ที่แสดงข้อมูลหลากหลาย เช่น ความเร็วเฉลี่ย, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย, ระยะทางขับขี่ที่เหลือ, และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมถึงการแจ้งเตือนความผิดปกติของระบบต่างๆ สิ่งที่น่าประทับใจคือ “ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Lamp)” ที่จะสว่างขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ใช้รอบเครื่องยนต์และความเร็วในช่วงที่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการขับขี่ที่ประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
เบาะผ้าสีดำลายกราฟิกได้รับการออกแบบใหม่ให้โอบรับกับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพิ่มความสบายตลอดการเดินทาง เบาะนั่งคนขับสามารถปรับสูง-ต่ำได้ และพนักพิงศีรษะสามารถปรับระดับได้ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับปรับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์ นี่คือการออกแบบที่คำนึงถึง “ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด” ในทุกตารางนิ้ว
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาด เช่น ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า, ตะขอสำหรับแขวนของ, ที่วางแก้วน้ำ 3 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลกลาง, ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลาง, ช่องเก็บของข้างประตูคู่หน้าพร้อมช่องใส่ขวดน้ำ, และช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหน้า เหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบายสูงสุด ปิดท้ายด้วยพื้นที่เก็บของหลังรถพร้อมแผ่นบังตาที่ถอดเก็บได้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
มิติและขนาด: ความกะทัดรัดที่มาพร้อมความกว้างขวาง
มิตซูบิชิ มิราจ มาพร้อมมิติที่ลงตัวสำหรับการขับขี่ในเมืองและทุกสภาพถนน ด้วยความยาว 3,710 มม., กว้าง 1,665 มม., และสูง 1,490 มม. นวัตกรรมการออกแบบภายในส่งผลให้มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง รองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย และยังคงเหลือพื้นที่เก็บสัมภาระที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การออกแบบฝากระโปรงหน้าแบบลาดต่ำ ประกอบกับการออกแบบเสา A-pillar และแผงประตูใหม่ ช่วยเพิ่มมุมมองและทัศนวิสัยในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยตัวถังขนาดกะทัดรัด ประกอบกับ “รัศมีวงเลี้ยวที่แคบที่สุดในรถระดับเดียวกันเพียง 4.4 เมตร” ทำให้ มิราจ มีความคล่องตัวสูง ขับขี่ง่าย เลี้ยวกลับรถ หรือถอยจอดในพื้นที่จำกัดได้อย่างไร้กังวล นี่คือรถที่ตอบโจทย์ “ความคล่องตัวในการขับขี่” ได้อย่างแท้จริง
โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง: เกราะป้องกันที่มั่นใจได้
ความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนารถยนต์ทุกรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ มิตซูบิชิ มิราจ โครงสร้างตัวถังแบบ RISE Body อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คือคำตอบของความแข็งแกร่งและมั่นคง พร้อมด้วยคานกันกระแทกด้านข้างที่ประตูทั้ง 4 บาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผู้โดยสารจากแรงกระแทกจากการชน
การเสริมความแข็งแกร่งด้วย “เหล็กกล้ากำลังสูงพิเศษ (High Tensile Steel)” ไม่เพียงแต่เพิ่มความทนทาน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักตัวถังลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (Mitsubishi Colt) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ “ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน” ที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การออกแบบฝากระโปรงหน้าและกันชน ยังคำนึงถึง “ความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ด้วยโครงสร้างที่ช่วยซับแรงกระแทก เพื่อลดการบาดเจ็บบริเวณขาและศีรษะของคนเดินถนน นี่คือความใส่ใจในทุกมิติของความปลอดภัย
สมรรถนะและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน: พลังที่เหนือกว่า สู่ความคุ้มค่าสูงสุด
ภายใต้ฝากระโปรงของ มิตซูบิชิ มิราจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve timing Electronic Control system) ซึ่งเป็นระบบวาล์วแปรผันที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีให้แปรผันตามรอบเครื่องยนต์และสภาพการขับขี่ ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน ควบคู่ไปกับการลดน้ำหนักและการลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ ส่งผลให้ มิราจ สามารถทำอัตราการประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของรถยนต์ Eco Car
เครื่องยนต์รหัส 3A92 ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยน้ำหนักตัวถังที่เบา ทำให้ มิราจ มีความปราดเปรียวและให้อัตราเร่งที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางบนถนนทั่วไป
สำหรับระบบส่งกำลัง มิราจ มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย ได้แก่ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ CVT 6 จังหวะ พร้อมระบบ Sportronic และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนและ “การประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้น”
เทคโนโลยีเสื้อสูบอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบา แข็งแรง และระบายความร้อนได้ดี คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบเครื่องยนต์ เพื่อให้ได้มาซึ่ง “สมรรถนะที่ดีเยี่ยม” และ “การประหยัดน้ำมันสูงสุด”
ระบบช่วงล่างและการขับเคลื่อน: ความนุ่มนวล เกาะถนน และการตอบสนองที่แม่นยำ
ระบบช่วงล่างของ มิตซูบิชิ มิราจ ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบ “ความนุ่มนวลและเกาะถนน” อย่างสมดุล ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท (McPherson strut) ทำงานร่วมกับช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม (Torsion beam) ที่แข็งแรงทนทานและดูแลรักษาง่าย ส่งผลให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นคง
พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ช่วยผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้น ลดภาระของเครื่องยนต์ และเพิ่มการตอบสนองที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้ “ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น”
ในด้านระบบเบรก มิราจ มั่นใจได้ด้วยระบบ ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถอย่างมั่นคง ดิสก์เบรกหน้าขนาด 13 นิ้ว แบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกหลังขนาด 7 นิ้ว ทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด
ยางชนิดพิเศษที่ช่วยลดแรงเสียดทานขนาด 165/65R ที่ใช้ใน มิราจ เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเสริมการประหยัดน้ำมัน ในรุ่น GLX มาพร้อมฝาครอบล้อที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศรอบล้อ ขณะที่รุ่น GLS และ GLS Limited มาพร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้อีกด้วย
ฟังก์ชันการใช้งาน: ความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
มิตซูบิชิ มิราจ มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัยและหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน
ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS (Keyless Operation System) ในรุ่น GLS และ GLS Ltd. ช่วยให้การเข้า-ออกรถ และการสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ทำได้ง่ายดายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ช่วยให้การสตาร์ททำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลง อัตโนมัติพร้อมระบบ Safety (ด้านคนขับ) และกระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบาย
ระบบพับเก็บและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติ เมื่อกดล็อกและปลดล็อกรถ (ยกเว้นรุ่น GL) ช่วยเพิ่มความสะดวกและป้องกันความเสียหาย
ระบบความบันเทิง ที่หลากหลาย รุ่น GLS Ltd. มาพร้อมวิทยุ, ซีดี, MP3, ดีวีดี, จอภาพระบบสัมผัส 7 นิ้ว, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth), ระบบนำทาง (Navigator System) และช่อง USB ในขณะที่รุ่น GLX และ GLS มาพร้อมวิทยุ, ซีดี, MP3 พร้อมช่อง AUX-in และช่อง USB
ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ETACS (Electronic Time and Alarm Control System) ที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น ไฟหน้าปิดเองอัตโนมัติ, ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ, ระบบล็อคประตูซ้ำอัตโนมัติ, สัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน (One Touch Turn Signal), ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร, และระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังดับเครื่องยนต์
ความปลอดภัยที่เหนือชั้น: มั่นใจได้ในทุกการเดินทาง
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มิตซูบิชิให้ความสำคัญสูงสุด มิตซูบิชิ มิราจ ในรุ่น GL และ GLX มาพร้อมถุงลมนิรภัยด้านคนขับ ส่วนรุ่น GLS และ GLS Limited มาพร้อมถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า เพื่อการปกป้องที่ครอบคลุม
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนจากด้านหน้า และลดอาการบาดเจ็บที่หน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณภาพมาตรฐานระดับโลก: ความภาคภูมิใจของมิตซูบิชิ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มุ่งมั่นในการส่งมอบรถยนต์ที่มี “คุณภาพระดับโลก” อย่างสม่ำเสมอ ผ่านระบบการผลิตที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล ระบบ Mitsubishi Motors Development System (MMDS) ถูกนำมาใช้ในการควบคุมคุณภาพในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา ทดสอบ จนถึงการผลิตและการบริการหลังการขาย
“ระบบแนวทางการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ (MMPW)” เน้นย้ำถึง “ความสมบูรณ์ของแต่ละขั้นตอนการผลิต” เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ทุกคันที่ผลิตจะมีคุณภาพเทียบเท่ากันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานแห่งใหม่ ด้วยการตรวจสอบที่เข้มงวดและการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น จึงเป็นการยืนยันถึงคุณภาพระดับโลกอย่างแท้จริง
มิตซูบิชิ มิราจ: เลือกวันนี้ เพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่า
มิตซูบิชิ มิราจ ไม่ใช่แค่รถยนต์อีโคคาร์ แต่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง “นวัตกรรม” “สมรรถนะ” “ความปลอดภัย” “ความสะดวกสบาย” และ “การประหยัดน้ำมัน” ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้เกิด “ความคุ้มค่าสูงสุด” สำหรับผู้บริโภค
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทาง และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิ มิราจ คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม
อย่ารอช้า! สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อันน่าประทับใจของ มิตซูบิชิ มิราจ ด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูมมิตซูบิชิใกล้บ้านคุณวันนี้ เพื่อค้นหา “นิยามใหม่ของการเดินทางที่เหนือกว่า” ในแบบที่คุณคู่ควร.
