รีวิว Lamborghini Urus มือสอง รถ Super SUV จากค่ายกระทิงดุที่สมรรถนะโหดกว่าราคา มีอะไรดี? น่าซื้อไหม? มาดูไปพร้อมกัน
ทำความรู้จักกับ Lamborghini Urus
ปกติเรามักจะเห็น Lamborghini ทำรถสมรรถนะสูงมาโดยตลอดตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ค่ายกระทิงดุก็เล็งเห็นว่ายุคนี้มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น ก็คือการเอา ความอเนกประสงค์ และ DNA ของ Lamborghini มารวมกัน จึงได้ถือกำเนิด Super SUV คันแรกอย่าง Lamborghini Urus ขึ้นมา บอกเลยว่าว้าวกันทั้งตลาดรถสมรรถนะสูง!
Lamborghini Urus เป็นรถยนต์ที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ของรถ SUV และเป็นรถที่สร้างมาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้คนที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงในระดับเดียวกับรถ Supercar ให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย เพราะปกติไม่มีใครใช้รถ Supercar ทุกวันแน่นอนด้วยอะไรหลายๆ อย่าง แต่ Urus นั้นสามารถเป็นได้ทั้งรถ Supercar และ รถ SUV ที่เดลี่ยูสได้ทุกวันอย่างแท้จริง มีคันเดียวคือจบเลย!
โดยคู่แข่งของ Lamborghini Urus จะเป็นรถ SUV สมรรถนะสูงจากค่ายหรูหลายๆ ค่าย ซึ่งหลักๆ ก็จะมี Bentley Bentayga, Porsche Cayenne, Aston Martin DBX707, Mercedes-AMG GLC63 S E Performance, Range Rover Sport SV และคู่ปรับตัวจี๊ดที่ตามหลังเขามา Ferrari Purosangue หลักๆ จะหวดหน้ากันอยู่ในกลุ่มๆ นี้แหละครับ
มิติตัวถังของ Lamborghini Urus
- ยาว 5,112 มม.
- กว้าง 2,016 มม.
- สูง 1,638 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,003 มม.
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น 158 – 248 มม.
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 616 ล. พับเบาะหลังลงเพิ่มเป็น 1,596 ล.
- น้ำหนักตัวรถราว 2,200 กก.
แม้จากรายละเอียดจะดูคันใหญ่มาก แต่ตัวจริงคือบอดี้ของ Urus มีความกระชับๆ ไม่ได้เทอะทะเลย บางคนอาจจะยังไม่เคยเห็น Lamborghini Urus ตัวเป็นๆ งั้นเรามาลองเทียบมิติตัวถังกับ Porsche Cayenne ที่ทุกคนชินตากันดีกว่า จะได้เห็นภาพเลยว่าเป็นอย่างไร
| เปรียบเทียบมิติตัวถัง (มม.) | Porsche Cayenne | Lamborghini Urus |
| ยาว | 4,930 | 5,112 |
| กว้าง | 1,983 | 2,016 |
| สูง | 1,678 | 1,638 |
| ฐานล้อ | 2,895 | 3,003 |
| ระยะต่ำสุดถึงพื้น | 212 – 238 | 158 – 248 |
จะเห็นได้ว่าไซซ์ของ Lamborghini Urus ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับ Porsche Cayenne ที่เราคุ้นชินตากันอย่างดีบนท้องถนน โดย Urus จะยาวกว่า 182 มม. กว้างกว่า 33 มม. เตี้ยกว่า 40 มม. ฐานล้อระยะเยอะกว่า 108 มม. และ ใต้ท้องรถระยะมีน้อยกว่า Cayenne
ถึงมิติจะใหญ่โตกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อมองดูภาพรวมของตัวรถ ต้องบอกว่า Urus ดูสปอร์ตและเล็กกว่า Cayenne แต่ทว่านั่นมันเป็นแค่ภาพลวงตา
สิ่งที่ทำให้ Cayenne ดูใหญ่โตกว่าเป็นเพราะดีไซน์ภายนอกมีความโค้งมนเน้นความเรียบหรู แต่ Urus จะมีความเป็นกล้ามเนื้อ ความกำยำ และ มี DNA ของ Lamborghini ที่ถ่ายทอดผ่านทุกจุดของ Urus ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายที่มีความเฉียบคม ความเหลี่ยม และ มีกลิ่นอายความสปอร์ตโฉมเฉี่ยวแบบดุดัน ทำให้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง Urus จะหน้าตาดุดันที่สุดเลยก็ว่าได้
เครื่องยนต์ของ Lamborghini Urus
ขึ้นชื่อว่าเป็น Super SUV อย่างแท้จริงเครื่องยนต์จะธรรมดาได้อย่างไร เพราะเมื่อตอนที่เขาเปิดตัวมา Lamborghini Urus ก็กระชากบัลลังก์รถยนต์ SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในโลกจาก Bentley Bentayga ที่เคยครองตำแหน่งนี้มาก่อนมาเป็นของตัวเองได้เลย
เครื่องยนต์ที่ Urus ใช้เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี. Bi-Turbo Twin-scroll กำลังสูงสุด 659 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 4,500 รอบ/นาที (Redline ที่ 6,800 รอบ/นาที)
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (with front differential, center differential แบบ Torsen และ active torque vectoring rear differential) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.6 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ได้ภายใน 12.8 วินาที และ ทำความเร็วสูงสุด Top Speed ที่ 305 กม./ชม. เหยียบทีใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทั้งครอบครัวบอกเลย
อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี
ระบบขับเคลื่อนของ Urus
ระบบขับเคลื่อนของ Lamborghini Urus สามารถกระจายกำลังสู่ล้อหน้าและหลังได้แบบ 40/60 ในการขับขี่ปกติ แต่ถ้าเราต้องการแรงเสียดทานที่เพลา Differential Lock ก็สามารถทำให้มันกระจายกำลังไปยังล้อหน้าได้สูงสุดถึง 70% และล้อหลังได้สูงสุด 87% อีกทั้งยังมีระบบ Active Torque Vectoring ที่ช่วยกระจายแรงบิดสู่ล้อแต่ละล้อเพื่อให้สามารถเข้าโค้งได้แม่นยำขึ้นด้วย
แต่ว่ามันขึ้นอยู่กับโหมดที่เราใช้ด้วยนะ อย่างโหมด STRADA, TERRA และ NERVE ตัวระบบจะกระจายแรงบิดไปยังล้อด้านนอกมากกว่าด้านในเพื่อลดอาการ Understeer ในโหมด SPORT และ CORSA ตัวระบบจะกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ล้อเพื่อให้รถมีอาการ Oversteer คือแล้วแต่ว่าอยากได้ฟิลลิ่งแบบไหน Urus จัดให้ได้!
นอกจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แล้วเขาก็ยังมีระบบขับคับเลี้ยว 4 ล้อ ด้วย ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน Aventador S ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้การเข้าโค้งมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นและได้วงเลี้ยวแคบขึ้น
ระบบจะมีการทำงานที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงความเร็วและขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ ในช่วงความเร็วต่ำองศาการเลี้ยวของล้อคู่หลังจะแปรผกผันกับล้อคู่หน้าสูงสุด 3 องศา เพื่อช่วยให้รัศมีวงเลี้ยงแคบลง และในช่วงความเร็วสูงองศาการเลี้ยวของล้อคู่หลังจะแปรผันตรงกับล้อคู่หน้า สูงสุด 3 องศา
Lamborghini Urus ใช้โครงสร้างแบบไหน?
Lamborghini URUS พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม MLB Evo Platform โดยทีมวิศวกรที่ออกแบบและพัฒนามีการลดน้ำหนักทั่วทั้งโครงสร้างตัวรถเพื่อให้มีสมรรถนะการขับขี่โดยรวมที่ดีขึ้น จึงเลือกใช้วัสดุโลหะผสมและเหล็กกล้า ทำให้มีน้ำหนักตัวรถต่ำกว่า 2,200 กิโลกรัม
หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่า Lamborghini Urus มีแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Audu Q8 แต่จริงๆ แล้วมีรุ่นอื่นที่ใช้แพลตฟอร์มนี้เช่นกัน อย่าง Bentley Bentayga และ Audi Q7 ซึ่งที่ใช้ร่วมกันเพราะทุกรุ่นที่กล่าวมาและ Lamborghini ก็อยู่ในเครือ Volkswagen เหมือนกันนั่นเอง
Lamborghini Urus เป็น SUV ที่ใช้งานได้หลากหลาย
นอกจาก Urus เป็น SUV ที่สเปคการขับขี่ได้เหมือนรถ Super Car แล้ว แต่เขาก็ยังไม่คงทิ้งความเป็นรถ SUV ไปจนกลายเป็นแค่รถสปอร์ตยกสูง เพราะเขาให้โหมดการขับขี่มามากถึง 6 โหมด และครอบคลุมได้ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตตั้งแต่ออนโรดยันออฟโรดเลยทีเดียว
ในแต่ละโหมดก็จะมีการปรับความสูงให้เหมาะสมกับเส้นทางได้ด้วยเพราะช่วงล่างที่ Urus ใช้เป็นแบบ Air Suspension หรือ ถุงลมปรับความหนืดได้ โดยแต่ละโหมดจะประกอบไปด้วย
- STRADA ใช้ขับแบบปกติเทียบเท่า Normal หรือ Comfort ความสูงของรถจะถูกปรับโดยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับความเร็วเพื่อเพิ่มความนุ่มสบาย
- SPORT ความสูงของตัวรถจะถูกปรับลงมาในระดับต่ำสุด เพื่อให้มีเสถียรภาพและความแม่นยำในการบังคับควบคุมตัวรถ
- CORSA โหมดงัดพลังงานทุกอย่างของรถอย่างเต็มพิกัด โคตรวิ่ง โคตรซิ่ง โคตรแซด กระชากหัวติดเบาะ ช่วงล่างแข็ง ท่อดัง ระบบควบคุมการทรงตัวจะยอมให้รถเสียอาการเล็กน้อยเพื่อความเร้าใจ
- TERRA หรือ โหมด Off-Road ลุยตะกุยดิน
- NEVE หรือโหมด Snow ลุยทางเละทางลื่น
- SABBIA หรือ โหมด Sand ลุยทางดิน ทางทราย ทางฝุ่น
ในโหมด Off-Road ทั้ง 3 แบบ TERRA, NEVE และ SABBIA ตัวช่วงล่างถุงลมให้ตัวรถยกสูงขึ้นเพื่อเพิ่มระยะ ground clearance และเพิ่มการทำงานของ Anti-Roll Bar ให้ใช้ลุยได้อย่างมั่นใจและการตอบสนองที่ดีขึ้นบนเส้นทางลุยๆ
Lamborghini Urus ราคาเท่าไหร่?
เมื่อเขาเป็นรถ Super SUV จากค่าย Lamborghini แน่นอนว่าราคาโหดร้ายแน่นอน แต่ที่โหดร้ายมากกว่าก็คือเรื่องสมรรถนะและการขับขี่ของเขานี่แหละ โดยราคา Lamborghini Urus มือหนึ่งจะเริ่มต้นที่ 23,420,000 บาท โคตรแพงเลย แต่มือสองราคาหายไปเยอะอยู่นะ
บอกเลยว่า Lamborghini Urus มือสอง ยังถือว่าเป็นรถปีใหม่ที่ยังไม่ได้ตกยุคอะไรเลย กลับกันแม้จะเปิดตัวมานานมากแล้วแต่ทุกสิ่งที่ได้ใน Super SUV คันนี้ถือว่าล้ำหน้าไปราว 5-10 ปีเลยก็ว่าได้ ใช้ยาวๆ ก็ไม่ตกยุค อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้รถประเภทนี้ส่วนมากใช้รถกันแบบถนอมมากประวัติเช็คระยะเป๊ะแน่นอน ซื้อมือสองอุ่นใจได้!
โดยราคา Lamborghini Urus มือสอง จะเริ่มต้นอยู่ที่ 19,900,000 บาท ไปจนถึง 24,500,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าที่ราคาถูกหรือบางคันแพงมากกว่ามือหนึ่งเป็นเพราะว่าบางคันมีการกดออปชันมาแบบเน้นๆ และ Lamborghini Urus ที่แพงที่สุดใน one2car ก็ไม่ใช่ Urus ธรรมดา แต่เป็น Urus S ตัวแรร์ตัวเทพ นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีตัวไล่เบาฉบับดิบเถื่อนอย่าง Urus Performante ด้วยนะเออ!
โหลดหรือยัง? แอป one2car – NEXT GEN! CAR APP
- Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
- Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
- Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
- Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
- My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
- Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
- Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
- Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
- Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
- Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
- one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์
