ขุมพลังและสมรรถนะ
Fenomeno มาพร้อมกับขุมพลัง V12 ที่ทรงพลังที่สุดของ Lamborghini โดยผสานการทำงานกับระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ทำให้มีกำลังสูงสุดรวมถึง 1,080 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ V12 ให้กำลังสูงสุดที่ 835 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า






ด้วยขุมพลังมหาศาลนี้ ทำให้ Fenomeno มีสมรรถนะที่น่าทึ่ง
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.4 วินาที
- อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด มากกว่า 350 กม./ชม.
- อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้า อยู่ที่ 1.64 กก./แรงม้า ซึ่งถือว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์
ตัวรถสร้างขึ้นจากโครงสร้าง Monofuselage ซึ่งเป็นโครงแชสซีที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ทำให้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังใช้ระบบเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีดที่เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว เพื่อการขับขี่ที่สนุกและเร้าใจ
การออกแบบและเทคโนโลยี
Fenomeno ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Design Manifesto” หรือแถลงการณ์ด้านการออกแบบฉบับใหม่ของ Lamborghini ซึ่งนำเสนอดีไซน์ที่เน้นความบริสุทธิ์ของเส้นสาย แต่ยังคงไว้ซึ่ง DNA การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
- ภายนอก: ด้านหน้าโดดเด่นด้วยช่องอากาศขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง Huracán GT3 และไฟ DRL ทรง Y ที่สะท้อนถึงส่วนเขาของกระทิง ซึ่งเป็นโลโก้ของแบรนด์ ด้านข้างตัวรถใช้ดีไซน์แบบ “Long tail” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Essenza SCV12 ส่วนด้านหลังมีดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยไฟท้ายทรง Y และปลายท่อไอเสียแบบหกเหลี่ยม
- ภายใน: ภายในห้องโดยสารสะท้อนแนวคิด “Feel like a pilot” หรือ “รู้สึกเหมือนนักบิน” ด้วยพวงมาลัยสไตล์รถแข่งและจอแสดงผลดิจิทัล 3 จอ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ห้องโดยสารใช้คาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุหลัก รวมถึงเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่น Fenomeno เท่านั้น
นอกจากนี้ Fenomeno ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่นำมาใช้ใน Lamborghini เป็นครั้งแรก เช่น เซ็นเซอร์ 6D และระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM-R Plus ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยีที่ใช้ในรถแข่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและการเบรกในทุกสถานการณ์







ร่วมมือกับพันธมิตร
Bridgestone เป็นพันธมิตรด้านยางรถยนต์แต่เพียงผู้เดียวของ Fenomeno โดยได้พัฒนายางรุ่น Potenza Sport สมรรถนะสูงพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถรุ่นนี้ ยางนี้ไม่เพียงแต่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในความเร็วสูง แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Run Flat (RFT) ที่ช่วยให้สามารถขับขี่ต่อไปได้แม้ในขณะที่ยางรั่ว
ชื่อรุ่น “Fenomeno” มาจากชื่อวัวกระทิงที่มีชื่อเสียงตัวหนึ่งที่เคยลงสนามต่อสู้ในประเทศเม็กซิโกในปี 2002 ซึ่งคำว่า Fenomeno ในภาษาอิตาลีและสเปนแปลว่า “ปรากฏการณ์” ซึ่งสะท้อนถึงความพิเศษและความโดดเด่นของรถรุ่นนี้

