ในที่สุด ภายหลังจากรอกันมายาวนาน ผู้ผลิตรถสปอร์ต ระดับ Luxury คู่ฟัดกับ Maserati
ก็มีผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย อย่างเป็นทางการเสียที
ผู้ที่คว้าสิทธิ์นี้มาครอง นั่นคือ กลุ่ม Millennium Auto ดีลเลอร์ของ BMW และ Rolls-Royce
ในเมืองไทย ในนามของ Master Group Corporation (Asia) or MGC นั่นเอง โดยได้มีการ
ก่อตั้งบริษัท Heritage Motor Sales and Services (Thailand) จำกัด หรือ Aston Martin
Bangkok มาดูแลการทำตลาด และบริการหลังการขาย ของ รถสปอร์คระดับไฮโซ แบรนด์นี้
ในบ้านเรา
พวกเขาเพิ่งจัดงานแถลงข่าว เปิดตัว บริษัทอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2013
และ จัดงานฉลองครบรอบ 100 ปีของ Aston Martin ทั่วโลก ในเมืองไทย ไปพร้อมกัน ที่
Siam Paragon โดยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทีเดียวรวม 4 รุ่นใหญ่ 6 รุ่นย่อยรวด
มีทั้งรุ่น Vanquish ขุมพลัง AM111 Gen 4 บล็อก V12 สูบ 5,935 ซีซี 573 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ราคา 24,900,000 บาท ตามมาด้วย Rapide S รถสปอร์ต
4 ประตู วางเครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน 558 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด เท่ากัน กระจาย
น้ำหนักหน้า-หลัง ในอัตราส่วน 48:52 ราคา 19,500,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรุ่น DB9 วางเครื่องยนต์ เดียวกัน กำลังสูงสุด 517 แรงม้า (PS) แรงบิด
สูงสุด 620 นิวตันเมตร เท่ากัน ราคา 18,500,000 บาท
และ น้องเล็กรุ่น Vantage ที่มาพร้อมขุมพลัง V8 DOHC 4,735 ซีซี กับ V12 สูบ 5,935
ซีซี มีให้เลือกถึง 3 รุ่น เริ่มจาก V8 Vantage 426 แรงม้า (PS) ราคา 13,500,000 บาท รุ่น
V8 Vantage S 436 แรงม้า (PS) ราคา 14,500,000 บาทและ V12 Vantage S 573
แรงม้า (PS) ที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ราคา 18,900,000 บาท
แต่ในปี 2014 นั้น คาดว่า จะมีการนำเข้า Aston Martin Vanquish Volante เวอร์ชัน
เปิดประทุนของตระกูล Vanquish ขุมพลัง AM111 Gen 4 บล็อก V12 สูบ 5,935 ซีซี
573 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร (คันสีขาวในภาพข้างบน) มาเสริมทัพ
——————————————–

Audi
A8 Hybrid / Q3 / Q5 / A6 Hybrid
แทบจะไม่ต้องเขียนต้นฉบับ ในประเด็นของ Audi กันใหม่เลย เพราะสถานการณ์
ช่วงปี 2013 มันก็ไม่ต่างอะไรกับปี 2012 นั่นแหละ! ทุกอย่างยังคงเงียบเชียบ
แต่ยังมีลูกค้าอุดหนุนกันอยู่บ้าง แม้จะไม่มากนัก ที่แน่ๆ กลุ่ม DAD Yontrakit
ยังคงมีสิทธิ์ในการทำตลาด Audi กันไปอีกอย่างน้อยๆ 1 ปี
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นว่า Audi เยอรมัน เริ่มรับสมัครผู้ร่วมงานใน
เมืองไทยกันแล้ว แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการใดๆทั้งสิ้น
กระนั้น ผู้จำหน่ายในบ้านเรา ก็ยังคงมองหารถยนต์รุ่นใหม่ สั่งเข้ามาขายแบบ
สำเร็จรูปทั้งคันเหมือนเดิมต่อไป โดย พวกเขาวางแผนจะนำเข้า A8 Hybrid
มาขาย หลังจากที่เปิดตัวรุ่น A8 ไปแล้ว ก่อนหน้านี้ ที่เหลือ ก็คงจะเน้นการ
นำเข้า Q3 และ Q5 ล็อตใหม่ เข้ามาขายในปริมาณไม่มากนัก เพื่อเอาใจกลุ่ม
ลูกค้าที่นิยม รถยนต์ในสไตล์ “ห่วงเยอะๆ”
เอ๋า! ก็โลโก้ Audi เขามีตั้ง 4 ห่วงไง! จริงไหมละ!?
ทางฝั่ง MTM Thailand ก็รับสั่ง Audi สเป็กตกแต่งให้แรงเป็นพิเศษ ตามลูกค้า
ต้องการเช่นเคย หลังจากปีที่แล้ว สั่ง A8 Hybrid เข้ามา และมีลูกค้าอุดหนุน
ไปแล้วจนหมด (เพราะสั่งเข้ามาไม่กี่คัน) ปีนี้คาดว่าจะมี A6 Hybrid เข้ามา
ให้จับจองเป็นเจ้าของกัน แต่ยังต้องรอดูสเป็กที่แน่นอนกว่านี้อีกนิด
——————————————

BENTLEY
2014 : Flying Spur V8 Twin Turbo
2015 : Re-design SUV based on EXP 9F
ปีที่แล้ว AAS Auto Service สั่งนำเข้า Bentley Continental GT ตัวถัง Sedan 4 ประตู
ในชื่อ Flying Spur ซึ่งเป็นชื่อที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว มาเปิดตัวในงาน Motor Expo
ทันช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พอดี รายละเอียดงานวิศวกรรม ก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก
รุ่น Continental GT กับ GTC มากนัก วางขุมพลัง W12 สูบ 6.0 ลิตร Turbocharger
แรงสะใจถึง 616 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด มหากาฬ 800 นิวตันเมตร ทำให้ยักษ์
คันใหญ่ ที่ยาว 5.2 เมตร และหนักถึง 2.47 ตัน ทำอัตราเร่ง 0 – 100 ไมล์/ชั่วโมง
ได้เพียง 9.5 วินาที พร้อมความหรูหราสมชื่อชั้น ด้วยหนังแท้ชั้นเยี่ยมและไม้จริงที่
ประดับตกแต่งภายในรถ ราคาไม่แพงเท่าไหร่ แค่ 20,900,000 บาท เท่านั้นเอง!
อย่างไรก็ตาม ขุมพลัง V8 4.0 ลิตร Twin Turbo บล็อกเดียวกันกับ Continental GTC
จะถูกนำมาติดตั้งลงใน Flying Spur ด้วย คาดว่า AAS อาจจะนำเข้ามาขายในปี 2014
แต่เหนือสิ่งอื่นใด โครงการที่สำคัญกว่า และคาดว่าจะเป็นรุ่นสร้างยอดขายให้กับ Bentley
ในอนาคต คือ Crossover SUV รุ่นใหม่ นั่นเอง ขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการส่งกลับเข้า
โรงงาน Crewe ในอังกฤษ ไปออกแบบมาใหม่ ให้ถูกใจลูกค้ามากขึ้น หลังจากอวดโฉม
ในงาน Geneva Motor Show เดือนมีนาคม 2012 แล้วเจอเสียงด่ามากมาย พวกเขา
ถึงขั้น เลื่อนทุกโครงการที่ทำกันอยู่ออกไปเกือบทั้งหมด ดึงแรงงานกับมันสมอง มาทุ่มเท
เปลี่ยนแปลงรูปโฉม SUV คันนี้ขึ้นมาใหม่ ในปี 2015 เราจะได้เห็นเวอร์ชันพร้อมขายจริง
ที่ดูดีกว่าเวอร์ชันต้นแบบกันแน่ๆ แต่กว่าจะเริ่มขายจริง คงต้องมี 2016
และเมื่อถึงตอนนั้น AAS น่าจะนำเข้ามาให้มหาเศรษฐีชาวไทย เป็นเจ้าของกันได้
อย่างช้าที่สุดคือปี 2016 – 2017 หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้
Bentley วางเป้าหมายให้ SUV คันนี้ ทำทุกสิ่งที่ Range Rover สามารถทำได้ มันจะ
มีสมรรถนะที่สามารถไต่ทางลาดชันต่างๆ ได้ และ เป็นไปได้สูงว่า นี่อาจเป็น Bentley
รุ่นแรก ที่ติดตั้งขุมพลัง Hybrid
——————————————

BMW / MINI
2014 : BMW 5-Series LCI Minorchange / i8
2-Series / 4-Series Cabriolet / X5 25d KD / X4 CBU /
All New MINI Next Generation
2015 : 7-Series Full Model Change / X6 Full Model Change /
All New MINI Clubman
2016 : 1-Series Saloon / All New MINI Saloon 4 Door
ปีที่แล้ว BMW Thailand ยังคงบุกตลาดเก็บกวาดยอดขายจากตระกูล 3-Series
กันอย่างต่อเนื่อง ทั้ง การเปิดตัว 3-Series GT ตัวถัง Fastback 5 ประตู พร้อม
ประตูแบบไร้เสากรอบ Frameless Door ในงาน BMW Xpo เมื่อ 5 กันยายน
2013 จากนั้น ช่วงเดือนพฤศจิกายน รุ่นประหยัด 316i ก็ออกสู่ตลาดตามมา
ตอนแรก เน้นขายลูกค้า Fleet แต่ไปๆมาๆ ก็ปล่อยให้ลูกค้าทั่วไป อุดหนุน
ได้ด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี 6-Series Gran Coupe ตามมาขายกัน
เกาะติดตลาดโลก และในช่วง Motor Expo ยังมีการเปิดตัว 4-Series ตัวถัง
Coupe 2 ประตู ของ 3-Series โดยเป็นรุ่น 420d ราคาประมาณ 3.7 ล้านบาท
พร้อมกับ X5 รุ่นใหม่ ล่าสุด ที่ยังไม่เปิดเผยราคาขายแน่ชัด
เข้าสู่ปี 2014 BMW เตรียมส่ง 5-Series LCI หรือรุ่นปรับโฉม Minorchange
มาเปิดตัวในเมืองไทยกันเสียที หลังจากปล่อยให้รออยู่พักใหญ่ นอกนั้น ก็จะเน้น
ไปที่การสั่งรถยนต์รุ่นแปลกๆ เข้ามาขายในจำนวนไม่มากนัก
มีทั้ง 2-Series (1- Series ตัวถัง Coupe 2 ประตู) , 4-Series เปิดประทุน
ที่เพิ่งเผยโฉมใน Tokyo Motor Show เดือนพฤศจิกายน 2013
ตามด้วย Crossover Coupe พันทางน้องสาวของ X6 อย่าง X4 ใหม่ ที่มี
กำหนดเปิดตัวเวอร์ชันจำหน่ายจริง ช่วงต้นปีนี้ ในตลาดโลก และจะตาม
เข้ามาเปิดตัวในบ้านเรา อย่างฉับไว ภายในปี 2014 นี้เช่นกัน ไม่เพียง
เท่านั้น X5 รุ่นประกอบในประเทศ จะมาพร้อมขุมพลัง Diesel Turbo
Common-Rail ให้เลือกเพียงรุ่นเดียวในช่วงแรก
แต่รถุ่นที่คาว่าจะสร้างความฮือฮามากที่สุดให้แก่ชาว Bimmer ในไทย
ทั้งหลาย นั่นคือ การมาถึง ของ BMW i8 เวอร์ชันจำหน่ายจริง ในฐานะ
รถสปอร์ต 2 ประตู ขุมพลัง Hybrid ที่อัดแน่นด้วยสารพัดเทคโนโลยี
และมีค่าตัวแพงระยับดับกิเลสกันเลยทีเดียว
พอข้ามไปยังปี 2015 จะถึงเวลาาที่ 7-Series ต้องเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน
แบบ Full Model Chnage เช่นเดียวกันกับ X6 ซึ่งกำลังอยุ่ในช่วงปลาย
อายุตลาดเหมือนกัน
และเมื่อมองเลยไปยังปี 2016 เราอาจจะได้เห็น 1-Series ตัวถัง Sedan
4 ประตู เป็นครั้งแรก เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าชาวจีน และเอเซีย ที่อยากเอื้อม
อุดหนุน BMW คันแรกในชีวิต

ข้ามมาดูแบรนด์ในเครือ เชื้อชาติอังกฤษ อย่าง MINI ในปี 2013 ที่ผ่านมา การเปิดตัว
Paceman หรือเวอร์ชัน Coupe ของ Countryman คือรุ่นสุดท้ายในตระกูล MINI
ยุคใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ที่เปิดตัวในเมืองไทย
แต่ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ไป MINI จะมีการเปลี่ยนแปลงตามมาเป็นระลอกๆ เริ่มจาก
ในปี 2013 MINI Generation 3 เปิดตัวครั้งแรกในโลก เรียบร้อยแล้วใน งาน Tokyo
Motor Show เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมกับ L.A Auto Show
ช่วงแรกที่เปิดตัวจะมี 2 รุ่นให้เลือก คือรุ่น Cooper มาตรฐาน ขุมพลังใหม่ล่าสุด
เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วง Turbocharger 136 แรงม้า (HP) ที่ 4,500-6,000
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,250 รอบ/นาที ส่วนรุ่น Cooper S
เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร
พ่วงเทอร์โบ 192 แรงม้า (HP) ที่ 4,700 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280
นิวตันเมตร ที่ 1,250 รอบ/นาที ทั้ง 2 ขุมพลัง จะจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
เวอร์ชันไทย รอเจอกันได้ในช่วงต้นปี 2014 ที่จะถึงนี้ ผ่านการนำเข้าอย่าง
รวดเร็วฉับไวราวกับกลัวตกรถไฟ ของ BMW Thailand
ในช่วงปี 2014 – 2015 ตัวถัง Clubman จะตามมาเป็นลำดับที่ 2 คราวนี้ BMW
ตัดสินใจ ใส่ประตูคู่หลัง มาให้แบบรถยนต์ปกติทั่วไปกับเขาเสียที ตัวถัง
ที่ยาวขึ้นอีกเล้กน้อย จะช่วยให้นั่งโดยสารบนเบาะหลังสบายขึ้นอีกนิด
แต่ สิ่งที่ต้องจับตามองคือ ในปี 2016 เราอาจได้เห็น MINI Saloon เวอร์ชัน
Sedan 4 ประตู ที่ทำออกมาเพื่อเอาใจตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ มาลุ้น
กันดีกว่า ว่ามีสิทธิ์จะเข้ามาขายในบ้านเรากันหรือไม่ อาจต้องรอจนถึงปี
2017 หรือไม่ ยังยากจะคาดเดา
—————————————————-

CHEVROLET
2014 : No Brand New Model in Thailand!
2015 : No More Chevy in Europe , Chevrolet SS From Australia,
3 Core Models Minorchange , All New Cruze Global Launch
2016 : All New Cruze CKD in Thailand
2017 : No More Holden Commodors in Australia
ปี 2013 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ GM / Chevrolet ประสบกับมรสุมลูกใหญ่ในเมืองไทย เพราะ
นอกจากจะเจอผลกระทบจากโครงการรถคันแรกไปแล้ว ยังเจอปัญหาจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้
Chevrolet Cruze แล้วพบอาการเกียร์มีปัญหา เข้าไปร้องเรียน กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี
ช่อง 3 และตามสื่อใน Internet มากมาย ทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้าใหม่ ที่กำลังตัดสินใจ
จะซื้อ Chevrolet ถึงขั้นชะงัก และถอยกรูด เล่นเอายอดขายของ Chevrolet ทุกรุ่น ลดลง
อย่างน่าใจหาย
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะปัญหานี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องบริการหลังการขาย ที่สั่งสม
กันมาหลายปี เป็นฝีก้อนใหญ่ บังเอิญว่าจังหวะเวลาที่ฝีก้อนนี้ปะทุขึ้นมา ดันเป็นช่วงปี
2013 พอดี ถึงแม้ว่า ผู้เกี่ยวข้องในองค์กรจะพยายามหาทางแก้ปัญหาอย่างไร แต่ถ้า ฝั่ง
ดีลเลอร์ ยังไม่ยอมร่วมใจ เอาแต่โทษบริษัทแม่โดยไม่ยอมปรับปรุงตัวเอง และคนใน
สำนักงานใหญ่ บางคนที่ไม่ใส่ใจปัญหานี้เท่าที่ควร ลูกค้าก็จะทนไม่ไหว และจะเริ่ม
เอาแต่ใจ จนตอนนี้ ยากเกินกว่าจะเจรจากันไหวแล้ว
ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ของ GM/Chevrolet ในบ้านเราช่วงปีที่ผ่านมา บางตาลงไปเยอะ
เพราะนอกเหนือจาก การนำเข้า Chevrolet Spin Compact Minivan 7 ที่นั่ง จาก
อินโดนีเซีย วางเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เข้ามาขาย รวมทั้ง
การอัพเกรดเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี ให้กับ Sonic และเปลี่ยนเครืองยนต์ Duramax
Diesel Turbo 2,800 ซีซี 200 แรงม้า (PS) มาให้ กับ ทั้ง Trailblazer และ Colorado
ช่วงงาน Motor Expo ที่ผ่านพ้นไป ก็แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นใดที่สำคัญ
อีกเลย
ปี 2014 นี้ จะเป็นปีที่ GM ไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่ ถอดด้าม มาเปิดตัวในบ้านเรา
กันเลย เว้นเสียแต่ว่า อาจจะต้องรอดู ความเป็นไปได้ว่า หลังจากที่ GM นำ
รถยนต์จาก Australia อย่าง Holden Commodors รุ่นล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วง
เดือนสิงหาคม 2013 มาแปะตรา เป็น Chevrolet SS เพื่อส่งออกสู่ตลาดต่างๆ มา
อวดโฉมในเมืองไทย ณ งาน Motor Expo เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น เสียง
ของลูกค้าให้การตอบรับดีเพียงพอที่ GM จะยอมสั่งนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้ มาขาย
หรือไม่ เรื่องราคา ไม่ใช่อุปสรรค เพราะไทยเรา ทำข้อตกลงการค้า FTA (Free
Trade Area) กับ Australia อยู่แล้ว แต่ปัญหามันอยู่ที่ ทางเลือกขุมพลัง เพราะ
เท่าที่นั่งกางแค็ตตาล็อกของ Commodors ใน Australia และ New Zealand ดู
พบว่ามีขุมพลัง 4 ขนาด และเล็กสุดที่พอจะยอมรับได้ในบ้านเรา คือแบบ
V6 DOHC 24 วาล์ว 2,997 ซีซี SIDI (Spark Ignition Direct Injection)
185 กิโลวัตต์ หรือ 251 แรงม้า (PS) เติมน้ำมันเบนซินแก็สโซฮอลล์ได้ถึง
ระดับ E85 ส่วนที่เหลือนั้น เป็นขุมพลัง 3,564 ซีซี (3.6 ลิตร) ทั้ง เบนซิน
กับ LPG และ 5,967 ซีซี (6.0 ลิตร) เบนซิน ที่ดูน่าหวาดผวาตอนเติมน้ำมัน
แต่ไม่เป็นไร กว่าที่ SS จะเข้ามาขายในบ้านเรา อาจต้องรอข้ามปีกันไปจนถึง
ปี 2015 ซึ่งน่าจะยังเหลือเวลาอีกราวๆ 2 ปี ก่อนที่ Holden จะยุติการผลิตรถยนต์
ใน Australia ถาวร ช่วงปี 2017 หลังจากนั้น อนาคตของ SS และ Commodors
ยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ ว่าจะประกอบที่สหรัฐอเมริกา หรือว่าย้ายมาประกอบ
จากเมืองไทย แล้วส่งกลับไปขายที่นั่นหรือไม่? เพราะตอนนี้ แม้แต่ SS ทุกคัน
ที่ขายใน สหรัฐอเมริกา ล้วนถูกส่งออกจาก Australia ลงเรือไปแดนลุงแซม
ด้วยกันทั้งสิ้น และตลาดรถยนต์ High-Performance Sedan ที่นั่น ก็ถือว่า
ขายได้เรื่อยๆ เพื่อเอาใจลูกค้าที่อยากได้ รถยนต์แรงระดับ Chevy Camaro
แต่เพิ่งแต่งงาน และถ้าซื้อ Camaro อาจโดนภรรยาบิดหูข้างขวาก็เป็นได้
ส่วนรุ่นปรับโฉม Minorchange ของรถกระบะ Chevrolet Colorado และ SUV
ร่วมตระกูล Chevrolet Trailblazer นั้น อาจเจอกันอีกครั้งในปี 2015 ไปเลย
เพราะเพิ่งเปลี่ยนขุมพลังใหม่ เป็น 2,800 ซีซี Duramax 200 แรงม้า (PS) ไป
หมาดๆ จึงยังเร็วไปที่จะมีการปรับปรุงอื่นใดเพิ่มเติมจากนี้ ในปี 2014
เช่นเดียวกันกับ Chevrolet Sonic ที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอื่นใด จนกว่าจะ
เข้าสู่ปี 2015 ซึ่งจะถึงเวลาปรับโฉม Minorchange ตามตลาดโลกกันสักครั้ง
แต่อย่าคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงด้านขุมพลังมากนัก

นอกจากนี้ ปี 2015 รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่หมดทั้งคัน Full Model Change
ของรถยนต์ Sedan ที่ขายดีทั่วโลกของ GM อย่าง Chevrolt Cruze ใหม่
จะคลอดออกสู่ตลาดโลก ขณะนี้ งานออกแบบภายนอก เสร็จสิ้นไปหมดแล้ว
และความคืบหน้าในการพัฒนา ก็เดินหน้ามาจนถึงขั้นที่ GM เริ่มส่งรถยนต์
ต้นแบบ ไปทดสอบตามสภาพถนนต่างๆทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่สนามแข่งรถ
ระดับตำนานอย่าง Nurburgring ในเยอรมันี เพื่อปรับแต่งระบบกันสะเทือน
รวมทั้งเซ็ตทุกการทำงานออกมาให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
กำหนดเปิดตัว ในตลาดโลก จะมีขึ้นในปี 2015 และจะถูกสั่งเข้ามาผลิตใน
โรงงาน GM ที่ระยอง ช่วงปี 2016
ขณะเดียวกัน ใครที่สงสัยว่า Chevrolet Captiva จะเปลี่ยนโฉมใหม่เมื่อใด
คำตอบก็คือ ตอนนี้ GM เพิ่งจะนำรถยนต์ต้นแบบ ในขั้นเริ่มต้น ที่เรียกกันว่า
Test Mule Prototype (รถยนต์ต้นแบบ ที่สร้างขึ้นจากการนำชิ้นส่วนที่มี
อยู่แล้ว มาแปะๆประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้วิศวกร เห็นแนวทางชัดเจนมากขึ้น
ว่า รถยนต์ที่จะออกมา ควรมี Packaging คร่าวๆ อย่างไร จัดวางอุปกรณ์
ต่างๆไว้ ประมาณไหน) เริ่มออกทดสอบใน Sweden แล้ว คาดว่าน่าจะ
ออกสู่ตลาดได้ ภายในปี 2015 แต่จะถูกนำมาประกอบขายในไทย หรือไม่
“คำตอบยังไม่แน่ชัดในตอนนี้” แต่ถ้าจะมาจริงๆ คงต้องรอไปจนถึงปี 2016
ทั้ง Cruze และ Captiva รุ่นต่อไป จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง D2XX ซึ่ง
เป็น Platform ใหม่ สำหรับรถยนต์นั่งขับเคลื่อนล้อหน้ากลุ่ม Compact
ยุคถัดจากนี้ไป ร่วมกับ Opel Astra , Opel Antara / Chevrolet
Equinox และ Buick Crossover SUV รุ่นใหม่ ที่จะมาแทรกตรงกลาง
ระหว่างรุ่น Encore กับ Enclave
อย่างไรก็ตาม ปี 2015 นั้น จะเป็นปีที่ GM ตัดสินใจ ถอนการทำตลาดแบรนด์
Chevrolet ออกจากยุโรป ทั้งหมด เนื่องจากที่นั่น GM มีแบรนด์ Opel อยู่
ซึ่งต้องการความช่วยเหลือในการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งอย่างมาก และการส่ง
แบรนด์ Chevrolet เข้าไปบุกตลาดที่นั่น รุ่นรถยนต์ที่คาบเกี่ยวกัน ก่อให้เกิด
การแย่งชิงลูกค้ากันเอง จนทำให้ Opel ไม่อาจฟื้นตัวจากปี 2008 ได้สักที
และในปี 2017 GM ก็จะยุคิการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ ตระกูล Commodors
ใน Australia อีกเช่นกัน เพื่อหนีปัญหาค่าแรง และความไม่คุ้มค่าต่อการผลิต
และพัฒนารถยนต์ เพื่อตลาดกลุ่ม Oceania (Australia / New Zealand) อีก
ต่อไป เนื่องจากยอดขายรถยนต์กลุ่ม Sedan/Wagon ขนาดใหญ่ ขับเคลื่อน
ล้อหลัง นับวันมีแต่จะหดตัวลงเรื่อยๆ แถมตลาดรถยนต์มือสอง นำเข้าจาก
ญี่ปุ่น รวมทั้งรถยนต์เกาหลีใต้ ก็เข้ามาตีตลาด กินส่วนแบ่งไปกว่าครึ่งหนึ่ง
จนยอดขายหดหายไปเยอะ
ส่วน Chevrolet Voltz รถยนต์พลังไฟฟ้า ที่ใช้เครื่องยนต์ช่วยปั่นไฟอย่างเดียว
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับล้อคู่หน้า ถึงจะถูกสั่งนำเข้ามาอวดโฉมในเมืองไทย และเริ่มถูก
นำไปใช้ในการศึกษาเรื่องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่ก็ยังไม่พร้อมขาย
กันเสียที เพราะมี 2 อุปสรรคสำคัญ นั่นคือ ปริมาณสถานีชาร์จไฟฟ้าให้กับ
รถยนต์ EV ในบ้านเรา ที่ยังมีน้อยไป และ ราคาขายปลีกรวมภาษีนำเข้า และ
ภาษีอื่นๆ ที่ยังแพงเกินกว่าผู้บริโภคจะยอมรับได้…
——————————————

CITROEN
2014 : C4 Aircross SUV
ปีที่ผ่านมา Citroen ภายใต้การดูแลของ DAD Yontrakit กลุ่มธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก กลุ่ม
ยนตรกิจ เดิม ยังคงใช้ความพยายามในการสรรหารถยนต์รุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวเอาใจลูกค้า
แฟนประจำกันอยู่ตลอด แต่ในปี 2013 นั้น กว่าจะนำ Citroen DS5 Premium Minivan รุ่น
ล้ำอนาคต และ Citroen C5 ใหม่ มาเปิดตัวได้ ก็ต้องล่วงเลยกันมาจนถึงปลายปี ในงาน
Motor Expo ส่วนแผนเดิมที่เคยขอ DS3 Cabrio เปิดประทุนมาขาย อาจต้องรอกันไป
อีกพักใหญ่ๆก่อน
ส่วนแผนในปีนี้ พวกเขาคิดจะสั่งนำเข้า Citroen C4 Aircross ซึ่งเป็นฝาแฝดร่วมโครงสร้าง
กับทั้ง Peugeot 4008 ซึ่งทั้งคู่ ก็เป็น สำเนา จาก ต้นฉบับ Mitsubishi RVR / ASX
และเผยโฉมมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2011 และเริ่มขายจริงในยุโรป เมื่อ 22 พฤษภาคม 2012
มาเปิดตลาดบ้านเรากันเสียที
แต่รุ่นที่จะสั่งมาขายในเมืองไทยนั้น อาจวางเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ
ราคาประมาณ 1,790,000 บาท ซึ่งนั่นก็จะทำให้ ราคา ชนกับ Skoda Octavia Combi
ที่บริษัทเดียวกัน สั่งเข้ามาขาย ชนิดชนกันเอง อย่างเต็มเปาพอดีๆ
กำหนดการเปิดตัว คาดว่าจะมาทัน Bangkok Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2014 นี้
——————————————

FORD
2014 : No Brand new Model in Thaland!
2015 : EVEREST Full Model Change !! / Ranger Minorchange / Focus Minorchange
2016 : ECO Car Phase 2 (KA)
ปี 2013 ที่ผ่านมา Ford เป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุจากยอดขายชะลอตัว อันเป็นผล
สืบเนื่องจากโครงการรถคันแรก จนต้องออกสารพัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายไม่ให้
ลดลงมากไปกว่าเดิมนัก อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องบริการหลังการขาย ก็ยังคงเป็น
ประเด็นเดิมๆ ที่ยังฉุดรั้งไม่ให้ Ford เติบโตไปได้มากกว่านี้กันเสียที
จนถึงช่วงปลายปี Ford เริ่มสร้างกระแสปูพรม การมาถึงเมืองไทยของขุมพลังใหม่
EcoBoost 3 สูบ 1.0 ลิตร Turbo ที่หลายคนเฝ้ารอ เพื่อวางใน Ford Fiesta
Minorchange ในรูปแบบตามที่เราคาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว นั่นคือ ด้วยเหตุที่
ขุมพลังใหม่ แพงมาก และฝรั่งมังค่า มองว่า มันเป็นเครื่องยนต์ชั้นเทพ ทั้งความ
ประหยัดน้ำมัน และความแรง เทียบเท่า ขุมพลัง 1,600 ซีซี ทำให้ต้องวางมันลง
ใน Fiesta รุ่น Top Model แล้วอัด Option เข้าไป เพื่อขายแทนรุ่น 1,600 ซีซี
เดิม ทั้งหมด
นอกจากนั้น Ford EcoSport B-Segment Crossover SUV ยังถูกส่งเข้ามา
ประกอบขายในเมืองไทย เริ่มจากการนำตัวรถคันจริง มาจัดแสดงในงาน Bangkok
Motor Show เดือนมีนาคม จากนั้น ก็เริ่มปล่อยรถยนต์ทดสอบ วิ่งเล่น อ่อยลูกค้า
ให้เห็นกันจนเบื่อไปตามๆกัน พร้อมกับ Fiesta 1.0 EcoBoost ต้องรอให้ทั้งคู่
พร้อมเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทย อย่างเป็นทางการ ในงาน Motor Expo ปลายเดือน
พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวถูกกว่า Nissan Juke คู่แข่งที่ชิงเปิดตัวตัดหน้าก่อน
เพียง 2 วัน
ทว่า ยอดสั่งจองของทั้งคู่ กลับไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่หลายฝ่ายคาดไว้
สาเหตุก็เพราะ ความไม่พร้อมของฝ่ายผลิตในเมืองไทย และในยุโรป ที่ส่งขุมพลัง
EcoBoost 1.0 ลิตร มาเปิดตัวในบ้านเรา ไม่ทันช่วง ไตรมาส 3 ทำให้แผนการ
ตลาดเพื่อเปิดตัว Fiesta Minorchange EcoBoost ถูกเลื่อนจากช่วงกลางปี
จนต้องมา จ๊ะเอ๋ กับแผนเตรียมเปิดตัว Ford EcoSport ช่วงปลายปี กันอย่างจัง
จนลูกค้าสับสนมาก กลายเป็นว่า อยากได้เครื่องยนต์ EcoBoost ลงในตัวถังของ
EcoSport แต่พอเปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วเจอขุมพลัง เบนซิน 1,500 ซีซี
จาก Fiesta รุ่นก่อนปรับโฉม ไม่เจอเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ใหม่ ใน EcoSport
ลูกค้าเลยขอรอจนกว่า Ford จะยกเครื่องยนต์ EcoBoost 1.0 ลิตร ใหม่ ลงใน
EcoSport กันก่อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่
(โอ้ย!! ย่อหน้าข้างบนนี้ เขียนเอง งงเองวุ้ยยย ทำไมต้องใช้ชื่อรถกับชื่อขุมพลัง
ให้มันเหมือนๆกันแบบนี้ด้วยฟะ!? ฝรั่งเอ้ยยยย!)
ในเมื่อ ปี 2013 Ford เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ไปจนหมดก๊อกกันแล้ว ปี 2014
จะเป็นปีแรก ในรอบ 3-4 ปี ที่ Ford จะไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่อื่นใด เปิดตัวในบ้านเรา
กันอีก ตั้งแต่ต้นปี จนถึงสิ้นปี 2014 กันเลยทีเดียว!! อาจมีเพียงแค่การปรับปรุง
รายละเอียดทางเทคนิก และปรับอุปกรณ์ Option เล็กน้อย ให้กับทั้ง Fiesta
Focus และ Ranger แต่ไม่ถือว่าเป็นการปรับโฉม Minorchange
อย่างไรก็ตาม ใครที่ยังรอ Everest SUV บนพื้นฐานรถกระบะ Ranger ใหม่
ความเคลื่อนไหวล่าสุดก็คือ เวอร์ชันต้นแบบ เปิดผ้าคลุมครั้งแรกในโลกไปแล้ว
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2013 ที่ออสเตรเลีย ระหว่าง งานแถลงข่าว ของ Ford
เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา ในดินแดน Down Under หลังจาก ประกาศยุติ
การประกอบรถยนต์นั่งขับล้อหลังรุ่นใหญ่ อย่างตระกูล Falcon กันภายในปี
2016-2017 นี้
Ford Everest ใหม่จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังและ Chassis T6 ใหม่ ร่วมกับ
Ford Ranger รุ่นปัจจุบัน งานนี้ Ford Australia ยังเป็นแม่งานในการพัฒนา
SUV รุ่นนี้ เกือบทั้งหมด งานออกแบบในภาพรวม พยายามออกแบบให้ตัวรถดู
แตกต่างจาก รถกระบะ แนวทางเดียวกับ Toyota Fortuner รุ่นปัจจุบัน ซึ่ง
นั่นทำให้ช้นส่วนตัวถังที่ใช้ร่วมกับ Ranger ใหม่ ได้นั้น มีเพียงแค่ เสาหลังคา
คู่หน้า A-Pillar คานกรอบห้องเครื่องยนต์ แก้มหน้าและบานประตูคู่หน้าเท่านั้น
ส่วนขุมพลัง ระบบส่งกำลัง ยกชุดจาก Ranger ใหม่ มาใส่ได้เลย แต่ยังไม่
แน่ชัดในเรื่องทางเลือกขุมพลัง ของเวอร์ชันไทยว่า จะมีเครื่องยนต์ Diesel
Common-Rail Turbo ทั้ง 2,200 ซีซี และ 3,200 ซีซี กับ เบนซิน
2,500 ซีซี ให้เลือก ครบถ้วนหรือเปล่า?
Everest จะพร้อมเริ่มต้นประกอบขายในเมืองไทยได้ ช่วงปี 2015 อย่างแน่นอน
ก่อนจะเริ่มต้นส่งออกสู่ตลาดออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเตะวันออกกลาง ซึ่งยังมี
ความต้องการ อุดหนุน SUV ที่สร้างขึ้นบนเฟรม Chassis รถกระบะแบบนี้อยู่มาก
ส่วนใครที่ยังคงตั้งคำถาม ว่า Escape / Kuga ใหม่ จะมาประกอบเมืองไทย
หรือไม่ Focus TDCi จะเปลี่ยนใจปรับไลน์ประกอบส่งออก มาแบ่งขายใน
บ้านเราบ้างหรือเปล่า แล้ว Sedan รุ่นใหญ่ อย่าง Mondeo หรือแม้แต่ Falcon
รุ่นใหม่ จะมีมาขายบ้านเราบ้างหรือไม่
คำตอบ ณ วันนี้ ก็คือ “ไม่มี” เพราะสิ่งที่น่าจับตามองมากกว่านั้น กำลังมาถึง

Ford แสดงความสนใจว่าจะขอเข้าร่วมเป็นผู้ผลิตในโครงการ ECO Car Phase 2
ของรัฐบาลไทย เพื่อให้ด้รับสิทธิพิเศษ ลดหย่อนด้านภาษีต่างๆมากมาย และจะได้มี
มีรถยนต์ขนาดเล็ก กว่า Fiesta วาง เครื่องยนต์ 1,000 – 1,200 ซีซี มาขายใน
ไทย กันเสียที และพวกเขาเพิ่งเผยโฉมเวอร์ชันต้นแบบ ในชื่อ Ford KA Concept
ณ งานแถลงข่าว ในกรุง Bacelona ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2013
ซึ่งแม้ว่าจะเป็น KA รุ่นที่ 3 แต่ถือว่า มีการเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบจาก KA
รุ่นแรกและรุ่นที่ 2 โดยสิ้นเชิง เพื่อมาเน้นเอาใจตลาดกลุ่มกำลังพัฒนา ที่ต้องการ
รถยนต์ราคาประหยัด แต่ได้สมรรถนะสมตัว Option ครบๆ ในราคาสบายกระเป๋า
รายละเอียดของตัวรถ คาดว่า จะวางเครืองยนต์ 3 สูบ 1,000 ซีซี EcoBoost
แต่เป็น เวอร์ชันที่ลดความแรงลงมา เน้นการลดมลพิษ ยิ่งกว่าเดิม แต่ต้องประหยัด
น้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม โดยต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาแบบครบครัน เช่น
ระบบ SYNC ราคาขาย ตอนนี้ยังไม่ต้องไปพูดถึง เพราะกว่าจะเปิดตัวได้ในบ้านเรา
ก็ต้องรอกันไปถึงปี 2016 แม้ว่า ตลาดอื่นๆ จะเริ่มผลิตออกขายในปี 2015 ก็ตาม
——————————————

HONDA
2014 : CITY Full Model Change 2CT / JAZZ Full Model Change /
Civic & Civic Hybrid Minorchange / Accord HYBRID /
Brio Minorchange / MOBILIO / VEZEL
2015 : CR-V Minorchange / NSX
2016 : Accord Minor change / Brio SUV ?
2017 : Civic (Project code : 2SV) with Coupe !? / CR-V Full Model Change
ปี 2013 ที่ผ่านมา Honda ยังคงจะบุกหนัก และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อคาดหวังยอดขายรถยนต์นั่ง อันดับ 1 ในตลาดเมืองไทย แซงหน้า Toyota
ให้ได้เสียที เพียงแต่ ปริมาณ น่าจะลดลงจากปี 2012 กันบ้าง แต่ก็ไม่ได้น้อยหน้า
ไปกว่ากันนัก เพราะอุดมไปด้วย รุ่นสำคัญๆ สำหรับตลาดเมืองไทยทั้งสิ้น เริ่มจาก
Civic Hybrid ในเดือนกุมภาพันธ์ ตามด้วย All New Accord G9 ในเดือนมีนาคม
แม้แต่ Brio ก็ยังมี รุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ ใส่ใบปัดน้ำฝนหลังมาให้ซะที (ไชโย!)
รวมทั้ง Brio Amaze ที่เพิ่มภายในสีดำให้เลือกด้วย จากเดิมที่มีสีเบจอย่างเดียว
แถมยังแอบเพิ่มถุงลมนิรภัย 6 ใบ ให้กับ CR-V 2.4 ลิตร ช่วง Motor Expo
ส่วนรถตู้นำเข้า มีทั้ง Freed Minorchange ช่วงสิงหาคม ตามด้วย StepWGN
Spada Minorchange จากญี่ปุ่น เดือนกันยายน และที่เกินความคาดหมายไป
นั่นคือ Honda Odyssey ใหม่ Minivan รุ่นใหญ่ เปิดตัวส่งท้ายปลายปี ในงาน
Motor Expo 28 พฤศจิกายน 2013 ที่ผ่านมา ถือว่าเปิดตัวตามหลังญี่ปุ่นฉับไว
ทันใจไม่ถึง 3 สัปดาห์ เท่านั้นเลย!
แต่สำหรับปี 2014 นี้ Honda จะกลับมา อัดกระหน่ำเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่
อย่างบ้าระห่ำ กันเหมือนปี 2012 อีกครั้ง ชนิดที่ เราอาจได้เห็นรถยนต์รุ่น
ใหม่ๆ จาก Honda กัน เกือบจะเดือนละ 1 รุ่น ด้วยซ้ำ!
เริ่มกันที่ City Full Model Change (Project Code : 2CT) ซึ่งเลื่อนการเปิดตัว
มาจากช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน และปล่อยให้ตลาดอินเดีย เปิดผ้าคลุมกัน
ไปก่อนหน้าเมืองไทย ช่วงเดียวกันไปก่อน
เวอร์ชันไทย จะยังเป็นเครื่องยนต์ L15 บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,500 ซีซี
เหมือนเดิม แต่ปรับปรุงตามแนวทาง Earth Dream Technoology ให้เติมน้ำมัน
เบนซินและแก็สโซฮอลล์ ได้ถึงระดับ E85 ระบบส่งกำลังจะเปลี่ยนกลับมาเป็น
เกียร์อัตโนมัติท อัตราทดแปรผัน CVT พร้อม แป้น Paddle Shift ลูกเดียวกันกับ
Fit / Jazz ใหม่ ในญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะให้อัตราเร่งดีกว่ารุ่นปัจจุบันซึ่งใช้เกียร์
อัตโนมัติ 5 จังหวะ แถมยังประหยัดน้ำมันมากขึ้น อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ เราอาจได้เห็นหน้าจอเครื่องปรับอากาศ Touch Pad ล้ออัลลอยลาย
แปลกใหม่ สวยงามกว่าเวอร์ชันอินเดีย และชุดเครื่องเสียง ที่สวยงาม ล้ำอนาคต
ยิ่งกว่ารุ่นปัจจุบัน รวมทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA แป้นเปลี่ยนเกียร์ แบบ
Paddle Shift และเบาะหลังพับได้ กำหนดการเปิดตัว คือสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน
มกราคม 2014
ส่วนรุ่นพลังงานทางเลือกนั้น หากเป็นรุ่น CNG จะตามออกมาภายใน 3-4 เดือน
แต่ถ้าเป็น City HYBRID นั้น ในเมื่อ ตลาดญี่ปุ่นเอง ต้องเปิดตัว City HYBRID
ในเดือน กุมภาพันธ์ 2014 เท่ากับว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ที่เราจะได้
เห็น City HYBRID บนถนนเมืองไทย

คิวถัดมา จะเป็น Honda Jazz รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน Full Model Change
หน้าตาเหมือนเวอร์ชันญี่ปุ่น ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2013 ไม่มีผิดเพี้ยน
ขุมพลังเวอร์ชันไทย ในรุ่นเบนซิน 1.5 ลิตร ยกชุดมาจาก City ทุกประการ
รวมทั้งเกียร์ CVT ลูกใหม่ด้วย โดยภายในยังคงเน้นความอเนกประสงค์
ในแบบเดิม แต่มีขนาดห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม นิดนึง
เท่าที่ผู้เขียนได้สัมผัสคันจริงในญี่ปุ่นมาบอกได้เลยว่า มีการแก้ไขปัญหา
ต่างๆจากรถรุ่นเดิมให้ดีขึ้น แต่เสน่ห์และความน่ารักของ Jazz ทั้ง 2 รุ่นเดิม
ถูกลดทอนลงไปอย่างช่วยไม่ได้
กำหนดเปิดตัวรุ่นเบนซิน ปกติ น่าจะมีขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2014
ส่วน Jazz Hybrid เดาได้เลยครับว่า ในเมื่อญี่ปุ่นมี คิดหรือว่าเมืองไทยจะไม่มี?
มีความเป็นไปได้สูงว่า จะตามมาหลังจากนั้น คาดว่าอาจเป็นช่วงครึ่งหลังของ
ปี 2014

ขณะเดียวกัน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ Honda ต้องปรับโฉม Minorchange ให้กับ Civic
ตามตลาด อเมริกาเหนือกันเสียที หน้าตา ก็จะไม่แตกต่างจากเวอร์ชันส่งออก ที่
เห็นอยู่ข้างบนนี้ แน่นอนว่า เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง ยังคงเหมือนเดิม
ทั้งรุ่น เบนซิน 1.8 ลิตร 2.0 ลิตร และ Civic HYBRID กำหนดเปิดตัว จะเป็น
ช่วง ต้นปี 2014

รายการถัดมา ก็คือ Honda Accord HYBRID ที่หลายคนเคยถามไถ่กันไว้
งานนี้ Honda ตั้งใจจะประกบกับ Toyota Camry HYBRID ด้วยขุมพลัง
เบนซิน 2.0 ลิตร EarthDreams i-VTEC 143 แรงม้า (PS) เชื่อมเข้ากับ
มอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อทำงานร่วมกันจะได้กำลังสูงสุด 196 แรงม้า (PS)
Accord HYBRID เวอร์ชันไทย จะเป็นรุ่นมาตรฐาน ที่ยังไม่มีระบบเสียบ
ปลั๊กชาร์จกับไฟบ้าน แบบ PHV Plug-in Hybrod Vehicle) แต่อย่างใด
กำหนดเปิดตัว จะอยู่ในช่วง ก่อนงาน Bangkok Motor Show
หลังจากนี้ Honda Automobile (Thailand) มีแผนจะต้องส่งออก Accord
HYBRID จากเมืองไทย ไปขายใน Australia ช่วงปี 2014 นี่ละ

หลังจากนั้นจะถึงคิวของ การปรับโฉม Minorchange ครั้งใหญ่ให้กับ
เจ้าหนู Brio ECO Car คันจิ๋ว ให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น และ
ปรับปรุงวัสดุต่างๆ ให้มีคุณภาพดีขึ้น กันเสียที โดยยังคงใช้ขุมพลัง
และเกียร์ลูกเดิม รวมทั้งอาจมีการปรับปรุงอุปกรณ์ให้กับ Brio Amaze
อีกเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่า การเพิ่มห้องโดยสารสีดำ ให้รุ่น Amaze
และการเพิ่มใบปัดน้ำฝนหลังมาให้ ยังช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น
มากกว่านี้ไม่ได้มากนัก กำหนดการเปิดตัว ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่น่าจะเ
เป็นช่วงหลังกลางปี 2014 ไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่แปลกประหลาดโผล่มาให้ได้เห็นกันอีก
นั่นคือ BRIO MPV ซึ่งจะพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Brio และ Brio
Amaze แต่จะวางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่วางอยู่ใน City และ Jazz รุ่น
ปัจจุบัน วางตำแหน่งการตลาด ในฐานะ Low-Cost Sub-Compact
MPV เพื่อเน้นให้ผลิตและทำตลาดในอินโดนีเซียเป็นหลัก
เวอร์ชันต้นแบบ เผยโฉมแล้วที่ Indonesia ในชื่อ Honda MOBILIO
และจะเริ่มออกจำหน่าย ในเดือนมกราคมนี้ ส่วนประเทศไทยเรา อาจต้อง
รอการนำเข้า กันจนถึง ไตรมาส 3 ของปี 2014 เพราะอย่างที่อ่านมา
ข้างต้น จะเห็นว่าช่วงต้นปี ชาว Honda คงทำงานกันจนตาเหลือก
แทบไม่เหลือเวลาว่างพอให้เปิดตัว Mobilio เพิ่มเข้าไปอีกรุ่นในช่วง
เวลาเดียวกันได้แน่ๆ จึงต้องข้ามมาเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 กันอย่างนี้

และอีกรุ่นหนึ่งที่จะเปิดตัวอย่างแน่นอนในเมืองไทยนั่นคือ Honda Urban SUV ที่ถูก
พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Jazz และ City รถยนต์ Crossover B+C Segment รุ่นนี้ เพิ่ง
เปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show ไปหมาดๆ ในชื่อ Honda VEZEL จะเข้ามาทำตลาด
“ทั่วโลก” อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดญี่ปุ่นจะได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี ทั้งแบบ
มาตรบาน และ HYBRID แต่ สำหรับตลาดเมืองไทยนั้น ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้
ในการวางขุมพลัง R18A 1,800 ซีซี จาก Civic มาให้มากกว่า กำหนดเปิดตัวในบ้านเรา
เร็วที่สุด คือ งาน Motor Expo เดือนพฤศจิกายน 2014 ช้าสุดคือช่วง ไตรมาสแรก ของ
ปี 2015
อย่างไรกตาม ด้วยขนาดตัวถังของ Vezel ที่ใหญ่กว่าความคาดหมาย นั่นทำให้ CR-V
รุ่นปรับโฉม Minorchange ที่มีกำหนดเปิดตัวในตลาดโลก ปลายปี 2014 และเปิดตัว
ในเมืองไทย ต้นปี 2015 อาจทำให้ลูกค้าสับสนได้ว่าจะเลือก CR-V หรือ Vezel ดี
งานนี้ Honda ต้องทำการบ้านให้ดีๆ มิเช่นนั้น Vezel อาจแย่งตลาดกับ CR-V เอง
เว้นเสียแต่ว่า Honda เตรียมแผนพัฒนา CR-V รุ่นต่อไป (เจเนอเรชันที่ 5 ) ซึ่งจะ
เปิดตัวในปี 2017 เอาไว้ให้เป็นรถยนต์ 5 หรือ 7 ที่นั่ง เต็มตัวมากขึ้นกว่านี้?
ส่วนปี 2015 นอกจาก CR-V Minorchange แล้ว อาจมีความเป็นไปได้ว่า Honda
น่าจะสั่งนำเข้า รถสปอร์ตรุ่นใหญ่ NSX ใหม่ พร้อมระบบขับเคลื่อน SH-AWD
เชื่อมกับขุมพลัง HYBRID มาเอาใจเศรษฐีผู้รักความแรงและแปลกอย่างแตกต่าง
แต่จะมาจริงหรือไม่ มาเมื่อไหร่ สเป็กเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังเกินคาดเดา ต้องรอ
ให้รุ่นจำหน่ายจริง เปิดตัวในงาน Detroit Auto Show เดือนมกราคม 2015 ก่อน
ข้ามไปยังปี 2016 จะถึงเวลาในการจับ Accord มาปรับโฉม Minor change แถม
ยังจะต้องมี B-Segment SUV ที่สร้างขึ้นบนโครงสร้างวิศวกรรมร่วมกับ Brio
ตามออกมา อุดช่องว่างในตลาดบางประเทศ รวมทั้งจะต้องมีการปรับโฉมใหม่
Minorchange ให้กับทั้ง City และ Jazz นอกจากนี้ ในปี 2016 เราอาจจะได้
เห็นรูปโฉมคันจริง ของ Civic ใหม่ รหัสโครงการ 2SV ซึ่งแว่วมาว่า คราวนี้
เมืองไทยเรา อาจได้ใช้ตัวถัง Coupe 2 ประตู กันอีกครั้งหนึ่งด้วย!! อีกทั้งยังมี
รุ่นเปลี่ยนโฉม ใหม่ทั้งคัน Full Model Change ของ CR-V ตามมาในระยะ
เวลา ที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งนั่นอาจทำให้ Honda ต้องเตรียมการ นำทั้ง 2 รุ่นใหม่
เข้ามาผลิตขายในบ้านเรา ช่วงปี 2017

